วัตถุมงคลหลากหลายเพื่องานบุญสร้างแหวนถวายหลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม

จอง 1 เม็ดครับ

 

ขอจองค่ะ

ขอจอง
รายการที่ 115 นางพิมเนื้อผงผสมดิน 7 โป่ง
รายการที่ 116 ตะกรุดนางพิม-ดำเซ็น เนื้อตะกั่ว 3.5 นิ้ว
รายการที่ 120 เข็มกลัดแมงมุมดักทรัพย์ รุ่น 2 ปี 2547

ด้วยค่ะ

 

วันนี้โอนค่าบูชาทั้งหมด 2 รายการเป็นเงินทั้งหมด 1,250 บาทครับผม
-พิธีจตุรพิธพรชัย องค์มีคราบปลวก
-ผ้าขอดหลวงพ่อแป๋ว
ที่อยู่ทาง P.M. ครับผม ขอบคุณครับ

 

ได้รับครบทั้ง 3 รายการแล้วครับ ขอบคุณมากครับ

 

โอนเงินค่า
รายการที่ 89 พระสมเด็จเนื้อปรอท หลังจาร ปี 2538 หลวงปู่อวน
รายการที่ 93 แหวนพิรอดกระสาษสาถักลงรัก ปี 2555 ลพ.อาด 2 วง
รายการที่ 98 ผ้ายันต์เสริมดวง (ผ้าจีวร) จารมือ ลป.ปรง
รายการที่ 115 นางพิมเนื้อผงผสมดิน 7 โป่ง
รายการที่ 116 ตะกรุดนางพิม-ดำเซ็น เนื้อตะกั่ว 3.5 นิ้ว
รายการที่ 119 รายการที่ 98 เหรียญครุฑ เนื้อทองแดง ลป.โทน
รายการที่ 120 เข็มกลัดแมงมุมดักทรัพย์ รุ่น 2 ปี 2547

แล้วนะคะตามใบโอนนี้ ที่อยู่ตามPMค่ะ

อ้อ ที่ส่งมาครั้งก่อนได้รับแล้วนะคะ พระพนัสบดีศักดิ์สิทธิ์มาก ขอบพระคุณค่ะ

 

โอนแล้วครับ 1,600.01 บาท เวลาประมาณ 14.00 น.

 

โอนเงิน 2,000 บาทวันที่ 1 ก.ค.เวลา 17.51 น.ที่อยู่ตามpmครับ

 

รายการที่ 126 พระเกศธาตุ รุ่น 2 เนื้อชินอุดผง-เกศา ปี 2535 (หายากมากๆ)
ลป.ชื้น พุทธสโร วัดญาณเสน อยุธยา

บูชา 5,000-



พระเกศธาตุ ในอดีตก็มีครูบาอาจารย์หลายรูปที่สร้างกัน เช่น ลพ.โหน่ง วัดคลองมะดัน ลป.อินทร์ วัดใหม่เพชรรัตน์ สุพรรณบุรี
แต่ของทั้ง 2 ท่านจะทำด้วยเนื้อดิน เป็นก้นหอยคล้ายๆ เม็ดพระศกของพระพุทธรูปหรือมุ่นเมาลีของพระพุทธเจ้า
แต่ที่โด่งดังและเสาะหากันมากก็คือ พระเกศของ ลพ.ชา วัดหนองป่าพง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับของลป.ชื้นมาก ภายในบรรจุเกศาของท่านไว้

พระเกศธาตุนี้ สร้างขึ้นเป็นสื่อถึง พระบรมธาตุเกศแก้วจุฬามณี บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ที่บรรจุพระเมาฬีของพระพุทธเจ้าตอนปลงผมออกผนวช
ครูบาอาจารย์ท่านจึงได้จัดสร้างขึ้นแล้วบรรจุเกศาของท่านเข้าไปแทน

พระเกศธาตุ ลป.ชื้น วัดญาณเสน สร้างขึ้นโดยวัดจัดทำกันเอง
โดยนำชินตะกั่วเก่าที่ขุดค้นพบในกรุท่ากระดานแถว อ.ศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี
(ชินตะกั่วที่ใช้สร้างพระกรุท่ากระดานอันลือชื่อ โดยเชื่อกันว่าชินตะกั่วนี้เกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุของฤาษีในสมัยนั้น)
ที่กลุ่ม ต.ช.ด. เป็นผู้นำมาถวายให้วัดกับคณะศิษย์ของหลวงปู่ชื้นอีกกลุ่มหนึ่ง
มาแผ่เป็นแผ่นแล้วตีโป่งประกบ 2 ด้าน แล้วเชื่อมประกบจึงทำให้มีตะเข็บโดยรอบ
ภายในได้บรรจุเกศาของลป.ชื้น ผงวิเศษ และผงที่ใช้สร้างพระรัตนจักรเนื้อดิน

พระเกศธาตุนี้จัดสร้าง ๒ วาระด้วยกัน คือ

๑. รุ่นแรก สร้างปี พ.ศ. ๒๕๓๑ ภายในบรรจุเกศาของลป.ชื้น ผงวิเศษ และผงพระรัตนจักรเนื้อดิน
ปิดก้นทึบทั้งหมดด้วยแผ่นชินตะกั่วและจารกำกับ

๒. รุ่นสอง สร้างปี พ.ศ.๒๕๓๕ ทำเหมือนกับรุ่นแรก คือ นำเอาเกศาลป.ชื้น ผงวิเศษ และผงพระรัตนจักรเนื้อดินใส่เข้าไป
แต่ใช้เทียนอุดแทน ตอกโค้ดตัว “ ชะ ” รุ่นนี้จะไม่มีจาร

จำนวนสร้าง ทั้ง ๒ รุ่น สร้างไม่มากนัก รุ่นละ ๓๐๐ องค์ ดีทางด้านเมตตา ค้าขาย กันภัยดีนัก
อันนี้เป็นรุ่น ๒ ก้นอุดผง-เกศา ตอกโค๊ตตัว ช

พระเกศธาตุ จัดเป็นวัตถุมงคลชั้นสูง ของลป.ชื้น ที่หาได้ยากยิ่ง
ยิ่งบรรจุด้วยเกศาของพระอริยเจ้าเช่นลป.ชื้นด้วยแล้ว นับได้ว่าเป็นสิริมงคลสูงสุดโดยแท้
ผู้ใดได้บูชาเปรียบประดุจได้บูชาพระเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ด้วยเช่นกัน

 

จองรายการที่ 127 เหรียญโป๊ยเซียน โพวเทียนตังเข่ง ฉลองครองราชย์ 50 ปี นวโลหะ ปี 2538 ครับ

 

รายการที่ 129 เหรียญโสฬสมหาพรหม เนื้ออัลปาก้า หลังเรียบ มีจาร ปี 2555 (กรรมการ สร้างน้อย หายาก)
พระครูอุทัยบวรกิจ (ตี๋ ปวโร) วัดดอนขวาง หมู่ที่ 5 ต.ดอนขวาง อ.เมือง จ.อุทัยธานี

บูชา 2,000-



มูลเหตุการณ์สร้าง สืบเนื่องจากมีคหบดีท่านหนึ่งในสายวิชาพรหมศาสตร์ที่มีความศรัทธาในตัวหลวงพ่อ
ได้นำเหรียญพระพรหมที่ตั้งใจทำไว้แจกแก่ญาติพี่น้องและมิตรสหายมาให้ท่านปลุกเสกเป็นเวลา 7 วัน
ในขณะที่ท่านปลุกเสกอยู่นั้นได้เกิดศุภนิมิตถึงปรมาจารย์ของยันต์ตะกรุดโสฬสฯ วัดสะพานสูง
อันมี ลป.เอี่ยม ลป.จันทร์ (ปะขาวจันทร์) ลป.กลิ่น ลพ.ทองสุข วัดสะพานสูง ได้มาบอกว่า
“ เทพผู้ยิ่งใหญ่ผู้เป็นเจ้าของสรรพวิทยาอาคมและยันต์ทั้งปวงในโลกคือเทพองค์ใด ”
ก็มีคำตอบผุดขึ้นมาในจิตของท่านว่า “ ท้าวมหาพรหม ผู้สถิตอยู่พรหมโลกชั้นโสฬสมหาพรหมนั่นไง ”
แล้วก็ปรากฏภาพพระพรหมกายสีขาวขึ้นมาในชั่วพริบตา ไม่นานนักนิมิตต่างๆ ก็ดับวูบลง

เมื่อออกจากสมาธิ ลพ.ตี๋ จึงได้มาพิจารณาถึงนิมิตดังกล่าว แล้วจึงได้มานั่งดูเหรียญพระพรหมที่นั่งเสกอยู่ ก็พบว่าแกะบล็อกได้สวยมาก
เมื่อเจ้าของเขามารับเหรียญกลับคืนท่านจึงได้ถามเขาว่าไปให้ช่างที่ไหนแกะบล็อกมา แกะพระพรหมได้สวยมาก
คหบดีท่านนั้นจึงได้ถวายบล็อกด้านหน้าให้กับท่าน ท่านจึงได้นำเอายันต์โสฬสมงคลมาประทับไว้ด้านหลังเหรียญ
เพราะท่านเห็นว่า “ พระพรหม คือ ครูสูงสุดของยันต์โสฬสมหามงคลและพระเวทย์วิทยาคมทั้งปวง ”
ประกอบกับท่านมีวิชา “ พระพรหมจตุรพักตร์ ” ซึ่งเป็นสายพุทธาคมของ ลพ.พูน วัดหนองตางู สืบต่อมายัง ลป.ตี๋ วัดหลวงราชาวาส จนถึงตัวท่าน
ท่านจึงได้นำเอาวิชาของทั้งสองสายมาบรรจุในเหรียญนี้

การปลุกเสก ลพ.ตี๋ ได้นิมนต์พระมาปลุกเสกเดี่ยวที่วัดดอนขวาง 3 วาระ ด้วยกัน คือ
วาระที่ 1 ลพ.เสน่ห์ วัดพันสี อุทัยธานี
วาระที่ 2 ลพ.โฉม วัดเขาปฐวี อุทัยธานี
วาระที่ 3 ลพ.ตี๋ วัดดอนขวาง อุทัยธานี
หลังจากนั้นท่านได้จัดพิธีพุทธาภิเษก ที่วัดดอนขวาง อีกครั้งหนึ่ง โดยได้นิมนต์พระเกจิในจังหวัดอุทัยธานี มาร่วมอธิษฐานจิต

พุทธคุณ ท่านว่าเหรียญนี้ดีเพราะครูแรงดี มีทั้งเมตตาและแคล้วคลาด เหมาะกับคนทุกอาชีพโดยเฉพาะ ดารา นักร้อง นักแสดง ศิลปิน จะยิ่งเสริมราศีให้เห็นได้อย่างเด่นชัด

วิธีใช้เหรียญพรหม ตามคำบอกของ ลพ.ตี๋ วัดดอนขวาง ท่านว่า
ให้ระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระอริยสงฆ์ คุณพระพรหม คุณบิดา-มารดา
คุณครูบาอาจารย์อันมี ลป.เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง ลป.จันทร์ วัดสะพานสูง ลป.กลิ่น วัดสะพานสูง ลพ.ทองสุข วัดสะพานสูง
ลพ.พูน วัดหนองตางู ลพ.แป้น วัดหลวงราชาวาส ลป.ตี๋ วัดหลวงราชาวาส และฉัน
ตั้งนะโม 3 จบและว่าคาถา 3 จบ ดังนี้

• โองการพินธุนาถัง อุปปันนัง พรหมมาสะหะปะติ นามะ อาทิกัปเป
สุอาคะโต ปัญจะปะทุมมังทิสวา นะโมพุทธายะ วันทะนังฯ
(คาถานี้อัญเชิญพระพรหม)
• โสฬะสะมังคะลัญเจวะ นะวะโลกุตตะระธัมมะตา จัตตาโรจะมหาทีปา ปัญจะพุทธามหามุนี
ตรีปิฏะกะธัมมักขันธา ฉะกามาวะจะราตะถา ปัญจะทัสสะภาเวสัจจัง ทะสะมังสีละเมวะจะ เตรัสสะมังธุตังคาจะ
ปาฏิหารัญจะทะวาทะสะ เอกะเมรุจะ สุราอัฏฐะ ทะเวจันทัง สุริยังสัคคา สัตตะโพชฌังคาเจวะ จุททะสะจักกะวัตติจะ
เอกาทะสะวิษะณุราชา สัพเพเทวา สะมาคะตา มังรักขันตุ ปะลายันตุ สัพพะทา เอเตนะ มังคะละเตเชนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุเม ฯ
(คาถาโสฬสมงคล วัดสะพานสูง)

หากต้องการเสริมมงคล ให้วางพระพรหมไว้เหนือหัวนอนสวดพระคาถานี้ 3 จบ 7 จบ ก็จะเป็นมงคลเสริมราศีได้อย่างดี หากเป็นคดีความแล้วไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้สวดก่อนออกจากบ้าน 16 จบ ครบ 7 วัน หากไม่พ้นวิสัยของกรรมก็จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
• อิสวาสุ ทาอิมา อัง อะ จตุรพัตรา จะมหาพรหม สัพพะสิเสน่หาจะปูชิตา สวาสุอิ
สัพสุขัง จะมหาลาภัง เสนาโกรธัง ราชาโกรธัง สัพพะโกรธัง วินาสสันติ สัพพะศัตรูวินาสสันติ ยะธาพุทโมนะ ฯ
(พระคาถานี้เป็นของ ลป.ตี๋ วัดหลวงราชาวาส คือ คาถาพรหมจตุรพักตร์ สาย ลพ.พูน วัดหนองตางู
ใช้ในด้านเมตตาแคล้วคลาด ศัตรูจะจำเรามิได้ หรือถ้าใครพลังจิตดีๆ ศัตรูจะให้อภัยและกลายเป็นมิตร)

เหรียญนี้เป็นเนื้ออัลปาก้า หลังเรียบ ที่สร้างไว้น้อยมาก ท่านจะแจกให้กับคนใกล้ชิดเท่านั้น
หลวงพ่อตี๋ วัดดอนขวาง ท่านเมตตาจารและปลุกเสกให้อีกครั้งเมื่อวันเสาร์ที่ 8 กันยายน 2555

 

รายการที่ 130 เหรียญพรหมสิริสมบัติ พิมพ์รูปไข่ เนื้อตะกั่วหลังเรียบมีจาร วัดบวรนิเวศน์ กทม. ปี 2552 (แจกกรรมการ)
(พระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขัณฑ์ ร่วมเสก)

บูชา 3,000-



เหรียญพระพรหม รุ่นสิริสมบัติ ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2552 โรงเรียนวัดบวรนิเวศ กทม. ได้จัดพิธีไหว้ครูดนตรี
โดยมี ครูสง่า ทวนทอง เป็นครูอ่านโองการพิธีไหว้ครู ณ ห้องประชุมอาคารวชิรญาณวงค์

ในวาระอันเป็นมงคลนี้ โรงเรียนวัดบวรนิเวศได้จัดสร้างเหรียญพระพรหม รุ่นสิริสมบัติ เพื่อเป็นที่ระลึกในพิธีไหว้ครูดนตรี
โดยมอบให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมพิธีและผู้ที่ร่วมบริจาคทรัพย์เพื่อปรับปรุงห้องดนตรี และจัดซื้อเครื่องดนตรีไทย-ดนตรีสากล

เหรียญพระพรหม รุ่นสิริสมบัติ ได้จำลองมาจากองค์พระพรหมที่ประดิษฐาน ณ บริเวณฐานด้านทิศเหนือขององค์พระเจดีย์วัดบวรนิเวศ

พิธีพุทธาภิเษก 5 วาระ คือ
วาระที่ 1 พิธีมังคลาภิเษก พระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2552
โดย พระครูปทุมวรกิจ (หลวงพ่อชำนาญ) วัดบางกุฎีทอง จังหวัดปทุมธานี ปลุกเสกเดี่ยว
วาระที่ 2 พิธีพุทธาภิเษกพระกริ่ง 8 รอบ ญสส. (ร่วมพิธี) วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร กทม.
โดยมี สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม เป็นผู้แทนพระองค์สมเด็จพระ สังฆราช
พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา 10 รูป ประกอบด้วย
1. สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
2. พระพรหมเมธี วัดเทพศิรินทราวาส
3. พระพรหมเวที วัดไตรมิตรวิทยาราม
4. พระพรหมเมธาจารย์ วัดบุรณศิริมาตยาราม
5. พระพรหมโมลี วัดพิชยญาติการาม
6. พระวิสุทธิวงศาจารย์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
7. พระธรรมกิตติมุนี วัดเฉลิมพระเกียรติ จ.นนทบุรี
8. พระธรรมกิตติเมธี วัดสัมพันธวงศาราม
9. พระธรรมวรเมธี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
10. พระจันทนิภากร (ถวิล จันทสโร) วัดถ้ำพระบำเพ็ญบุญ จ.เชียงราย
วาระที่ 3 พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลโครงการเล่าเรื่อง วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2552
โดย พระครูปลัดมานิตย์ วัดรัษฎาธิษฐาน (วัดเงิน) คลิ่งชัน กทม. ปลุกเสกเดี่ยว
วาระที่ 4 พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลพิธีไหว้ครูดนตรีไทย ดนตรีสากล ณ ห้องสิริสมบัติ โรงเรียนวัดบวรนิเวศน์ กทม. วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2552
ตามกำหนดการต่อไปนี้
15.30 น. พิธีเทวาภิเษกบวงสรวงท้าวมหาพรหม ณ ลานพิธีหน้าห้องสิริสมบัติ
(พิพิธภัณฑ์ส่วนพระองค์สมเด็จพระสังฆราช โรงเรียนวัดบวรนิเวศ)
16.00 น.พิธีพุทธาภิเษก ณ ห้องสิริสมบัติ โรงเรียนวัดบวรนิเวศ
โดยมีคณาจารย์นั่งปรก คือ
1. พระครูวิมลญาณอุดม (อ.ติ๋ว) วัดมณีชลขันธ์ จ.ลพบุรี
2. พระครูมนูญศีลสังวร (แถม) วัดช้างแทงกระจาด เพชรบุรี
3. พระครูปลัดมานิตย์ สุทธิญาโน วัดรัษฎาธิษฐาน (วัดเงิน) คลิ่งชัน กทม.
4. ลป.เจือ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม พอดีท่านเพิ่งออกจากรพ.เลยมาไม่ได้
วาระที่ 5 พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลที่ระลึก พิธีบรรพชาสามเณรถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จพระญาณสังวรฯ
วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ณ ห้องสิริสมบัติ อาคารสมเด็จพระญาณสังวร โรงเรียนวัดบวรนิเวศ
โดย พระมหาสุรศักดิ์ อติสักโข วัดประดู่ จ. สมุทรสงคราม ปลุกเสกเดี่ยว

นับได้ว่าเหรียญนี้เป็นเหรียญพรหมที่มีพิธีกรรมดีเยี่ยมพิธีหนึ่ง
อีกทั้งครูบาอาจารย์ที่ได้นิมนต์มาปลุกเสก ก็ล้วนแล้วแต่เข้าถึงพรหมแล้วทั้งสิ้น
โดยเฉพาะพระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขัณฑ์ ลพบุรี ตอนท่านมาเสกพอดีพระอาจารย์มานิตย์นั่งอยู่ตรงข้ามท่านพอดี
พอพระอาจารย์ติ๋วเข้าที่ปุ๊บ พระอาจารย์มานิตย์บอกว่าท่านเห็นพรหมองค์ใหญ่ลงมาครอบร่างพระอาจารย์ติ๋วทันที
และพอเสกไปได้สักพักหนึ่งพระอาจารย์ติ๋วท่านก็เป่าอัดพลังมาเต็มที่จนตัวทานเองเกือบทนไม่ได้
ต้องว่าคาถาที่ลพ.ทรงมาบอกให้เป่ากลับไปบ้าง
หลังเสร็จพิธีพระอาจารย์ติ๋วท่านก็มองมาที่พระอาจารย์มานิตย์บ่อยมากจนลูกศิษย์ผิดสังเกต
ท่านก็เลยเล่าให้ฟัง และก็บอกว่าพระอาจารย์ติ๋วท่านเห็นลป.ดู่กับลพ.ทรงมายืนคุมท่านตอนเสก เพราะตอนเสกท่านอัญเชิญท่านมาด้วย

 

รายการที่ 131 เหรียญนารายณ์ 10 กรมหาปราบ หลังเทพอาวุธทั้ง 5 พิมพ์เล็ก เนื้อทองแดง ปี 2552(มีจาร)
วัดยานนาวา กทม. จัดสร้าง

บูชา 1,500-



ด้านหน้า เป็นรูปพระนารายณ์ในท่วงท่า “ มหาอำนาจ ”
กรหนึ่งยกขึ้นประทานพรให้แก่ผู้เลื่อมใส กรหนึ่งเหยียดยื่นลงต้อนรับผู้ที่มาบูชา
พระกรทั้งหกถือเทพศัสตรามหาอาวุธตามเทวลักษณะครบถ้วน ประกอบด้วย
ตรี คทา จักร สังข์ บัณเฑาะว์ และ คันศร
สองกรที่เหลือชี้ขึ้นข้างบนบ่งบอกนัยยะถึงการสอนให้ทำแต่ความดีทั้งกายและใจเพื่อก้าวไปสู่สุคติโลกสวรรค์เมื่อสิ้นภพมนุษย์

พระคาถารอบองค์นารายณ์นับแต่คันศรคือ
“ สัตถาธนุง อากัฑฒิตุง ทัตวา วิสัชเชตุง นาทาสิ ”
นี้เป็นพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ชื่อว่า พระเจ้าห้ามอาวุธ กล่าวคือ
เมื่อครั้งพระเจ้าอชาตศัตรูใช้นายขมังธนูไปลอบสังหารพระพุทธเจ้า
พระองค์ทรงกล่าวพระคาถานี้ขึ้น นายขมังธนูก็เงื้อง่าค้างอยู่เช่นนั้นไม่อาจแผลงศรออกไปได้
โบราณาจารย์จึงนิยมนำมาปลุกเสกวัตถุมงคลจนมีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ห้ามเสียซึ่งศัสตราวุธทั้งปวง

ที่พระหัตถ์ซ้ายซึ่งยื่นลงมานั้นมีคาถาว่า “ ชยมังคลัง ” คือ
อำนวยพรให้ผู้บูชามีแต่ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ชัยชนะอันเป็นมหามงคล
กล่าวโดยธรรมคือ ชนะเสียซึ่งความชั่วและกิเลสทั้งปวง

ขวามือขององค์นารายณ์เป็นยันต์ตรีกำกับด้วยอักขระที่ให้คุณทางแคล้วคลาด กันภัยเป็นเลิศ คือ
“ มะอะอุ ผุดผัดผิด ” และ เฑาะว์มหาพรหม
ซ้ายมือเป็นยันต์ตรีกำกับด้วยอักขระที่ให้คุณทางคงกระพันชาตรี ป้องกันเขี้ยวงา และสัตว์มีพิษทั้งปวง คือ
“ มะอะอุ อิสวาสุ ” และ อุณาโลมห้าชั้น

ข้างพระบาทขวาประทับด้วย “ นะปัดตลอด ” ส่งผลทางแคล้วคลาด ปัดตลอดรอดจากภัยอันตรายทั้งหลาย
ทำการใดก็สำเร็จลุล่วงตลอด เดินทางไปที่ใดก็ถึงที่หมายปลอดภัยตลอดรอดฝั่ง

ข้างพระบาทซ้ายประทับด้วย “ นะสมิงคำราม ” ให้ผลทางแคล้วคลาด และมหาอุด หยุดศัสตราวุธ
ชิดกับขอบเหรียญเป็นยันต์ “ พระอรหันต์อุดปืน ” ของหลวงพ่อหน่าย อินทสีโล วัดบ้านแจ้ง ทรงอิทธิคุณใน ทางมหาอุดยิงมิออก

เหนือเศียรพระนารายณ์เป็นยันต์ “ เฑาะว์มหาอุด ” ของหลวงปู่เพิ่ม ปุญญวสโน วัดกลางบางแก้ว
เดินอักขระตามขอบเหรียญว่า
“ พุทธังอุทธัง ธัมมังอุทธัง สังฆังอุทธัง นะมะพะทะ ”
“ อะสิสัตติ ธนูเจวะ สัพเพ เต อาวุธานิจะ ภัคคะภัคคาวิจุณณานิ โลมังมาเมนะผุสสันติ ”
“ อะนิทัสสะนะอัปปะฎิฆา ”
บทแรก เป็นคาถาห้ามธาตุของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
บทที่สอง เป็นคาถาห้ามอาวุธที่หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน และหลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง ใช้ลง “ ตะกรุดคู่ชีวิต ” ที่โด่งดังเป็นเอกลักษณ์
พระคาถาและยันต์บทนี้มีอานุภาพมากมายนัก ขนาดที่ว่าเมื่อจารลงตะกรุดแล้วตำราระบุไม่ต้องเสก ให้ทดลองยิงได้เลย
บทสุดท้าย เป็นคาถาห้ามปืน หากฝืนยิงลูกปืนก็ขัดกระบอก “ คา ” ลำกล้องอยู่นั่นเอง

ด้านหลัง เป็นรูปอาวุธ ๕ ประการ คือ ...
๑. สายฟ้าของพระอินทร์ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเมื่อฟาดลงที่ใดที่นั่นก็แหลกยับไม่มีใดต้านทานได้
๒. คฑาของท้าวเวสสุวัณ เป็นกระบองที่มีฤทธิ์มาก แม้ตีลงที่ยอดเขาพระสุเมรุเพียงครั้งเดียวก็ทำให้ภูเขาทั้งลูกจมลงมิดแผ่นดิน
๓. นัยน์ตาของพญายม เมื่อมองไปที่ใดก็แลเห็นความตายที่นั้น เห็นดี เห็นชั่วทุกอย่างด้วยตา
ภูตผีปีศาจหวาดระย่อนัยน์ตาพระยมเทพยิ่งนัก
๔. ผ้าแดงของอาฬวกยักษ์ ผ้าแดงที่แรงฤทธิ์นี้โบกเพียงครั้งเดียวก็พัดภูเขาทั้งลูกหายไปยังขอบจักรวาล
หากตกลงสู่แผ่นดิน มหาสมุทรแลแม่น้ำทั้งพันสายก็เหือดแห้งในพริบตา ดินจะลุกเป็นเพลิงกาฬไปถึงสวรรค์ชั้นต้นทีเดียว
๕. จักรเพชรพระนารายณ์ มีนามว่า “ สุทรรศน์ ” หากขว้างออกแล้วก็สามารถตัดทุกสิ่งให้ขาดได้ในครั้งเดียว แม้แต่เขาไกรลาสที่ประทับของพระอิศวร

เทพศัสตราทั้ง ๕ ประการนี้ทรงฤทธานุภาพเป็นอย่างยิ่ง
ต่อกรได้ทั้งภูตผีปีศาจและคุณไสยมนต์ดำ คุณผีคุณคน ลมเพลมพัด เคราะห์เข็ญเวรภัยทั้งหลายทั้งปวง
ท่านพระครูนิวาสธรรมขันธ์ หรือ หลวงพ่อเดิม พุทธสโร แห่ง วัดหนองโพธิ์ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์
จึงนำมาปลุกเสกบรรจุลงในมีดหมอของท่านจนศักดิ์สิทธิ์ลือลั่นไปทั่วแผ่นดิน
ท่านเคยบอกว่าคุณไสยเป็นของแหลมคมที่ถูกส่งมาเพื่อทำลายชีวิตของผู้มีเคราะห์
เมื่อจะตัดมันก็ต้องใช้ของที่มีคมเช่นกันจึงจะตัดขาด
ดังนั้น อาวุธทั้ง ๕ อย่างดังกล่าวมาจึงมีอานุภาพพอที่จะต่อต้านได้

และคาถาที่ล้อมรูปอาวุธก็คือ “ คาถาอาวุธ ๕ ประการ ” ฉบับเต็มสูตรของหลวงพ่อเดิม พุทธสโร
ซึ่งได้คัดลอกจากสมุดข่อยที่หลวงพ่อเดิมท่านจดไว้ด้วยลายมือของท่านเอง

พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดยานนาวา กทม. เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2552

รายนามพระคณาจารย์ที่มานั่งปรกในพิธีมังคลาภิเษก
1. หลวงปู่เกลี้ยง มนุญโญ วัดเนินสุทธาวาส ชลบุรี
2. หลวงพ่อจ้อย พุทธสโร วัดหนองน้ำเขียว ชลบุรี
3. หลวงพ่อหล่ำ สิริธัมโม วัดสามัคคีธรรม กรุงเทพ
4. หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก วัดตะโก พระนครศรีอยุธยา
5. หลวงพ่อเพิ่ม อัตตทีโป วัดป้อมแก้ว พระนครศรีอยุธยา
6. หลวงพ่อพูน ฐิตสีโล วัดบ้านแพน พระนครศรีอยุธยา
7. หลวงปู่ดี ธัมมธีโร วัดเทพากร กรุงเทพ
8. พระอาจารย์ติ๋ว ฐิตวัฑฒโน วัดมณีชลขัณฑ์ ลพบุรี
9. พระอาจารย์มหาสุรศักดิ์ อติสักโข วัดประดู่ สมุทรสงคราม
10. หลวงพ่อชำนาญ อุตตมปัญโญ วัดบางกุฎีทอง ปทุมธานี

นับได้ว่าเหรียญนี้ออกแบบได้อย่างวิจิตรอลังการ
อีกทั้งผู้สร้างก็ยังฉลาดในการนำเอาอักขระคาถาสำคัญๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับรูปลักษณ์ของเหรียญมาใช้ได้อย่างลงตัว
เหรียญนี้บางคนเล่นเป็นเหรียญของ ท่านพระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขัณฑ์ ไปแล้ว เพราะได้ราคาดีกว่า

 

รายการที่ 133 เหรียญอรุณเทพบุตร รุ่นแรก เนื้อชุบทองซาติน หมายเลข 14 ปี 2552
ลพ.ใจ ฐิตาจาโร วัดพระยาญาติ (ปากง่าม) สมุทรสงคราม

บูชา 1,200-


เนื้อชุบทองซาติน สร้างแค่ 564 เหรียญ ยิงโค๊ตและรันหมายเลขด้วยเลเซอร์กำกับทุกเหรียญ

เหรียญอรุณเทพบุตร เป็นเหรียญพระพุทธที่มีเทวดายืนขนาบอยู่ทั้งข้างซ้ายและข้างขวา
ตามตำราว่ากันว่า การจัดสร้างเหรียญอรุณเทพบุตรนั้นต้องดูฤกษ์ยามและวันเวลาให้ดีเสียก่อน มิเช่นนั้นผู้ที่นำไปใช้จะไม่ได้ผล
ที่สำคัญกว่านั้นชนวนมวลสารที่ทำอรุณเทพบุตร จะต้องลงยันต์ให้ครบตามตำรา
โดยส่วนใหญ่จะเป็นบทสวดสรรเสริญองค์พระพุทธเจ้า

เกจิในอดีตที่เคยสร้างเหรียญอรุณเทพบุตรก็มี พ่อบ่าย วัดช่องลม สมุทรสงคราม ถ่ายทอดมายัง หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม
ซึ่งเหรียญที่ท่านทั้ง 2 ทำไว้นั้นหายากมากและราคาสูง

มาถึงยุคหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี ท่านมิได้ทำอรุณเทพบุตรไว้ เพราะท่านบอกกับหลวงพ่อใจว่า
" ยุคของเราลูกศิษย์ทุกคน สาธุชนทั้งหลายไม่มีใครเดือดร้อน
แต่ยุคใจสิ ข้าวจะยากหมากจะแพง ฉะนั้นต้องเรียนการทำอรุณเทพบุตรไว้
จะได้ช่วยสาธุชนทั้งหลายให้รอดพ้นจากวิกฤตต่างๆ "
หลวงพ่อใจท่านจึงได้ร่ำเรียนไว้

จนปลายปี 2552 หลวงพ่อใจท่านจึงได้ทำเหรียญอรุณเทพบุตร ตามตำรับของ ลพ.คง วัดบางกะพ้อม
ซึ่งเป็นอาจารย์ของ ลพ.เนื่อง วัดจุฬามณี ที่ถ่ายทอดมายังท่าน
จึงถือได้ว่าท่านเป็นผู้หนึ่งที่ " รู้จริงทำได้จริง " ในวิชาการจัดสร้างอรุณเทพบุตร

กรรมวิธีการสร้าง ท่านได้นำแผ่นชนวนมาลงยันต์อิติปิโส ๑๐๘ ยันต์ธรรมจักร ยันต์กิญจิ ยันต์พาหุง ยันต์อเสวนา ฯลฯ
มารวมกับชนวนมวลสารที่ครูบาอาจารย์ท่านทำให้ไว้ (ของหลวงพ่อเนื่อง, หลวงพ่อหยอด, หลวงพ่อเก๋)
จากนั้นหลวงพ่อก็นำเอาระฆังเก่า บาตรเก่า สายล่อฟ้าเทวดาจับ (สายล่อฟ้าหลังคาโบสถ์เก่า) มาหลอมรวมอีกที
หลังจากนั้นท่านก็ได้ทำการปลุกเสกอัญเชิญองค์อรุณเทพบุตรมารับรู้

พุทธาภิเษก อธิษฐานจิตปลุกเสกประจุพุทธาคม 9 ทิวา 9 ราตรี
ครั้งสุดท้ายในวันที่ 31 ธันวาคม 2552 ณ อุโบสถ วัดพระยาญาติ ต.บางช้าง อ.อัมพวา จ.สมุทรสาคร
โดยหลวงพ่อใจท่านปลุกเสกเดี่ยวตั้งแต่ทุ่มกว่าจนเกือบถึงเที่ยงคืน
โดยในเวลาที่ท่านปลุกเสกอยู่นั้นพระจันทร์ก็เกิดทรงกลด

พอหลวงพ่อท่านเสกเสร็จท่านก็พูดว่า
" เราทำให้เต็มที่เลยนะ อะไรที่เราเรียนมาเราใส่ลงไปหมด และองค์อรุณเทพบุตรมารับรู้ด้วย
พุทธคุณของเหรียญรุ่นนี้ดีมากๆ ครูบาอาจารย์เคยทำไว้อย่างไร เหรียญรุ่นนี้ก็อย่างนั้น "
พุทธคุณ เด่นทางด้านหนุนดวง ไม่ว่าจะทำมาหากินอะไร ค้าขายอะไร รับราชการที่ไหนก็จะประสบความสำเร็จ
ได้เลื่อนยศ บางรายถึงกับได้เป็นเศรษฐีก็มี แต่ต้องหากินสุจริตไม่ทำให้ใครเดือดร้อน

หมายเหตุ ที่ด้านหลังมีรูปกลองอยู่ ก็เพราะว่ากลองตะโพนใหญ่เป็นสัญลักษณ์แห่งลุ่มน้ำแม่กลอง
นอกจากนี้กลองตะโพนยังหมายถึง การมีอำนาจวาสนาเกียรติยศชื่อเสียงอีกด้วย

ประวัติพระอรุณเทพบุตร

ท่านเป็นพระโอรสของพระกัศยปเทพบิดร (ซึ่งเป็นโอรสของพระพรหมอีกทีหนึ่ง) กับ นางวินตา และเป็นพี่ชายของพญาครุฑ
โดยเมื่อแรกเริ่มนางวินตาคลอดโอรสออกมาเป็นไข่ ๒ ฟอง เวลาผ่านไป ๕๐๐ ปี ไข่ก็ยังไม่แตกออกมา นางร้อนใจจึงรีบทุบไข่ฟองหนึ่งออกมา
ผลปรากฏว่าไข่ ฟองแรก ของนางเกิดเป็นพระอรุณเทพบุตร มีรูปร่างใหญ่โต lแต่มีร่างเพียงครึ่งเดียวเพราะเกิดก่อนกำหนด
พระอรุณโกรธแม่มากเลยสาปให้นางวินตาต้องเป็นทาสนางกัทรุ ๕๐๐ ปี จนกว่าโอรสองค์ที่สอง คือ ครุฑ จะถือกำเนิดแล้วจะมาปลดปล่อยให้เป็นไท
ส่วนตนเองก็เหาะขึ้นฟ้า ไปเป็นสารถีให้พระอาทิตย์

การสร้างรูปของพระอรุณเทพบุตร มักจะทำเป็นรูปเทวดาครึ่งองค์ พระกรทั้ง 2 ข้างถือหางนกยูง

 

ได้รับพระแล้วครับ ขอบคุณครับ

 

จองรายการที่ 132 กับ 135 ครับ

 

วันนี้ได้รับวัตถุมงคลทั้ง 2 รายการเรียบร้อยแล้วครับผม ชอบทั้ง 2 รายการมากๆครับผม และขอบพระคุณสำหรับรูปถ่ายของหลวงปู่ที่แนบมาให้ด้วยนะครับผม ขอบคุณครับ

 

ได้รับพระที่ส่งมาแล้ว ขอบคุณค่ะ

 

จองครับ
รายการที่ 140 สีผึ้ง ปี 2548 มีจาร

 

จอง
รายการที่ 139 พระสมเด็จองค์ปฐมขุนแผนโพธิสัตว์ เนื้อพิเศษ (ขึ้นไขว่าน)
พระครูสุภัทรธรรมโสภณ (ทรง ฉันทโสภี) วัดศาลาดิน อ่างทอง
รายการที่ 141 แผ่นยันต์ทำน้ำมนต์ (ยันต์จินดามณี) เนื้อกระเบื้องโมเสส ค่ะ