วัตถุมงคลหลากหลายเพื่องานบุญสร้างแหวนถวายหลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม

ของจองรายการ 144 เบี๊ยแก้ยุคแรก มีจาร (ไม่มีโค๊ต) ลพ.ทรง ฉันทโสภี วัดศาลาดิน อ่างทอง ครับ

 

รายการที่ 140 สีผึ้ง ปี 2548 มีจาร
พระครูสุภัทรธรรมโสภณ (ทรง ฉันทโสภี) วัดศาลาดิน อ่างทอง

พอมีอีกไหมค่ะ

 

วันนี้โอนเงินค่าพระรายการที่ 132 กับ 135 จำนวน 2500 บาทให้แล้วครับ
เวลา 8.37 น. ส่งที่อยู่เดิมครับ ขอบคุณ

 

รายการที่ 45 พระพุทธข้าวสารหินแกะ ขนาดสูงประมาณ 1 นิ้ว มีจารหมึกใต้ฐาน
ลพ.เชย อมโร อาศรมวิเวกไพรสณ (เขาเจ้าหลาว) จันทบุรี
บูชา 2,000- ก้านมะยม จองแล้ว
โอนแล้วครับ 04/07/13
เวลา 13.21

 

รายการที่ 145 เบี้ยแก้บรรจุทรายใจกลางโบสถ์เก่าวัดคู ปี 2553
พระครูพิศิษฎ์รัตโนภาส (เสียน ปภากโร) วัดมะนาวหวาน อ่างทอง

บูชา 1,000-



เบี้ยแก้บรรจุทรายนี้ จัดเป็นเบี้ยรุ่น 3 ของท่าน เป็นเบี้ยแก้ที่ด้านในบรรจุทราย ปิดปากเบี้ยด้วยชันโรง แล้วปิดทับด้วยแผ่นทองแดงจารอักขระ
หลวงพ่อท่านให้พระลูกวัดช่วยจารแผ่นทองแดง แต่หลวงพ่อท่านเป็นผู้ปลุกเสกและปิดปากเบี้ยเอง
ซึ่งหลวงพ่อท่านได้ใช้ทรายที่รองก้นหลุมลูกนิมิตเก่ากลางโบสถ์วัดคูมาบรรจุไว้ในเบี้ยแก้ชุดนี้
พร้อมทั้งได้เปิดให้บูชาเพื่อนำเงินที่ได้มาบูรณะโบสถ์วัดคู
เบี้ยรุ่นนี้จำนวนการสร้างจำกัดเพราะทรายที่ได้มามีจำนวนไม่มาก

เบี้ยรุ่นนี้ได้เข้าพิธีปลุกเสกใหญ่โดยมี หลวงปู่ทิม วัดพระขาว หลวงปู่เสาร์ วัดดอนหญ้านาง และอีกหลายท่าน

 

รายการที่ 147 เบี้ยแก้สารพัดกัน รุ่นแรก เสาร์ 5 ปี 2553
หลวงพ่อสาคร มนุญโญ วัดหนองกรับ จ.ระยอง

บูชา 1,200-



เบี้ยนี้คณะศิษย์ลพ.ทรง จ.ระยอง เป็นผู้สร้างถวาย โดยกระทำกันเองทุกขั้นตอน
ภายในบรรจุปรอทนน. 1 บาทพอดี โดยปรอทที่บรรจุได้ผสมปรอทหัวเชื้อของ

1. ลพ.ทรง วัดศาลาดิน อ่างทอง
2. ลพ.เสียน วัดมะนาวหวาน อ่างทอง
3. ลพ.สาคร วัดหนองกรับ ระยอง
4. ปรอทอาพัด พ.อ.ชม สุคนธรัตน์

และผงว่านต่างๆ คลุกกับผงของลพ.ทรง ลพ.เสียน แล้วปิดด้วยชันโรง ปิดทับปากเบี้ยอีกทีด้วยแผ่นตะกั่วลงยันต์

การปลุกเสก ลพ.สาคร ปลุกเสกเดี่ยวในวันเสาร์ 5 ปี 2553

คาถาบูชา

ตั้งนะโม 3จบ " อะสิสะติ ธนูเจวะ สัพเพเต อาวุธานิจะ ภัคคะ ภัคคาวิจุนนามิ โลมังมาเม นะผุสสันติ "(3จบ)

ตัวนี้เป็นของที่ทำกันไว้ใช้เองสำหรับแจกในหมู่ผู้ที่มีส่วนร่วมในการจัดสร้างครับ

 

04/07/13 เวลา 13.03 น. โอนเงินให้เรียบร้อยแล้ว
รายละเอียดแจ้งทาง PM ครับ

 

โอนแล้วครับ

 

รายการที่ 150 เบี้ยแก้ รุ่นแรก ปี 2556
พระราชญาณวิสุทธิโสภณ (ท่อน ญาณธโร) วัดศรีอภัยวัน เลย

บูชา 2,600-



วัตถุประสงค์ เพื่อหาทุนสร้างผอบทองคำสำหรับบรรจุพระบรมสารีริกธาตุถวาย ลป.ท่อน ญาณธโร
เพื่อบรรจุในพระมหาธาตุเจดีย์ ณ วัดป่าศรีอภัยวัน เลย

จำนวนสร้าง ทั้งหมด 220 ตัว แบ่งเป็น
1. เบี้ยครู (แจกกรรมการ) ด้านหลังบรรจุเหรียญเม็ดแตงรุ่นแรกของ ลป.ท่อน 19 ตัว
2. เบี้ยธรรมดา 201 ตัว

เบี้ยชุดนี้ทำได้สมบูรณ์แบบที่สุดตามตำรับของ ลป.รอด วัดนายโรง แล้วประยุกต์สิ่งที่เป็นมวลสารมหามงคลเข้าด้วยกัน
โดย ตัวเบี้ย ปรอท และมวลสาร ที่นำมาทำเบี้ยแก้ชุดนี้ หลวงปู่พิศดู วัดเทพะารทอง ท่านอธิษฐานจิตไว้ตั้งแต่ยังดำรงขันธ์อยู่
เดิมเป็นเบี้ยชุดที่ตั้งใจจะสร้างถวายให้หลวงปู่พิศดูเป็นรุ่น 3 แต่ยังไม่ได้สร้าง
ตัวเบี้ยมีอยู่ประมาณ 200 ตัวเศษ จึงนำมาสร้างถวายเป็นเบี้ยแก้รุ่นแรกของ ลป.ท่อน

หลวงปู่ท่อนท่านบอกว่า เบี้ยแก้ เขาใช้แก้ และป้องกันสิ่งไม่ดีต่างๆ ป้องกันไข้ป่า และใช้ดูดพิษ รักษาอาการบาดเจ็บจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้
โดยเอาเบี้ยแก้ตรงที่เป็นตะกั่วนี้มาถูๆ รอบๆ ตรงที่เป็นนั่น ไอปรอทที่อยู่ข้างในจะช่วยรักษาได้
แต่เบี้ยชุดนี้นอกจากจะดีอย่างที่หลวงปู่ท่านบอกแล้ว หลวงปู่ท่านตั้งใจลงพุทธคุณให้ดีทาง เมตตา แก้จน แก้ฝืดเคืองอีกด้วย

การอธิษฐานจิต หลังจากหลวงปู่ท่อนได้อธิษฐานจิตพร้อมกับเหรียญรุ่นเศรษฐีแล้ว
ก็ได้นำเข้าพิธีสวดเจริญพระพุทธมงคลคาถาโดยพระเถระเมืองเลย
จากนั้นวันต่อมาได้มีพ่อแม่ครูอาจารย์จากวัดต่างๆ ทั่วทั้งภาคอีสานมาร่วมสวดเจริญพุทธมงคลคาถาและพุทธาภิเษกวัตถุมงคลต่างๆ อีก 2 วัน



จากนั้นอีกวัน หลวงปู่ท่านก็ได้อธิษฐานจิตเข้าเบี้ยแก้ชุดนี้ในขันทองใบใหญ่อีกครั้งหนึ่งในห้องนอนของท่าน
โดยสวดคาถาที่ขึ้นต้นว่า " เบี้ยเอ๋ย เบี้ยแก้ เบี้ยแท้..." ซ้ำๆ กันหลายรอบ
เสร็จแล้วหลวงปู่ท่านก็หยิบเบี้ยแก้ขึ้นมาตัวหนึ่ง แล้วเอาใส่ปากอมไว้สักพักหนึ่งก่อนที่จะคายออกมา
แล้วเอาเบี้ยตัวนั้นปล่อยลงไปในขันทองที่ใส่เบี้ยทั้งหมดอยู่ เข้าใจว่าคงเป็นเคล็ดอะไรสักอย่าง

 

รูปไหนหรอครับที่เป็นตัวที่จะห้บูชาอะครับ...พอดีไม่เห็นรูปที่โชว์อะครับ

 

รายการที่ 151 แหวนหน้าเสือ เนื้อทองแดง ขนาดวงกว้าง 2.2 มม. (น่าจะประมาณเบอร์ 62)
พระครูสุภัทรธรรมโสภณ (หลวงพ่อทรง ฉันทโสภี) วัดศาลาดิน (วัดมอญ) อ่างทอง

คุณ อนันตภพ บูชาแล้ว EK 136834494 TH



ลพ.ทรง วัดศาลาดิน อ่างทอง ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มากด้วยความเมตตาเป็นยิ่งนัก
น้อยคนที่จะรู้ว่าท่านเสกเสือและหนุมานได้ขลังนัก
มีรุ่นน้องคนหนึ่งเป้นคนมีวาสนาติดมาแต่อดีตชาติ จึงทำให้มีครูบาอาจารย์มาสอนวิชาให้ทางสมาธิ ชื่อ ขรัวตาจัน
ท่านเป็นพระเกจิยุคเก่าในสมัยอยุธยา รุ่นๆ เดียวกับ ลป.เผือก วัดสาลีโข
ขรัวตาจัได้มาสอนวิชาต่างๆ ทั้งอักขระขอม และยันต์ต่างๆ ตั้งแต่เด็ก
จนสามารถอ่าน ออก เขียนขอม และอักขระยันตืได้อย่างสวยงาม โดยที่ไม่เคยเรียนมาก่อน
พออายุได้ 16-17 ก็สามารถเป่าทองทะลุกระดาษได้ครั้งละ 3 แผ่น
ขรัวตาจัน ท่านจะคอยแนะนำว่าครูบาอาจารย์องค์ไหนเก่งวิชาอะไร และก็จะบอกให้น้องคนนี้ไปขอเรียนวิชานั้น
หนึ่งนั้นก็คือ ลพ.ทรง วัดศาลาดิน โดยท่านระบุว่าให้น้องคนนี้ไปขอเรียนวิชาเสกเสือกับหนุมาน
เสียดายที่น้องคนนี้ไม่ได้ติดต่อกันแล้วเลยไม่รู้ว่าได้วิชาไปมากน้อยเท่าใด

เครื่องรางที่เกี่ยวกับเสือของลพ.ทรง มีไม่มากนัก ก็มีแค่ เสือหล่อโลหะ กับ แหวนหัวเสือ นี่เท่านั้น
แหวนหัวเสือ ลพ.ทรง นอกจากจะเป็นเครื่องรางมหาอำนาจ มหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี แล้ว
ท่านยังเสกให้เป็นเสือหิว เพื่อที่คนนำไปใช้จะได้ทำมาหากินคล่องแคล่ว อุดมสมบูรณ์
วงนี้สภาพสวยมาก ขนาดกว้างประมาณ 2.2 มม. น่าจะประมาณเบอร์ 62
ส่วนรอยจารท่าน อ.ธรรมนูญ บุญธรรม สำนักสักยันต์บัวแปดกลีบ ท่านจารให้
ท่านถามว่าจะเอาเป็นเสืออะไร ก็เลยถามท่านว่ามีเสืออะไรบ้าง ท่านก็ว่าหัวใจเสือมีหลายแบบ
หัวใจเสือโคร่ง หัวใจเสือไฟ หัวใจเสือสมิง แต่ที่ ลพ.ปาน วัดคลองด่าน ท่านใช้เสกเสือท่านๆ เสกให้เป็นเสือโคร่ง
แต่แล้วก็ขอให้ท่านลงเป็นเสือสมิงให้

ครั้งหนึ่งมีเพื่อนใส่ แหวนเสือ ลพ.ทรง ไปกราบพระอาจารย์ท่านหนึ่งแถวตลิ่งชัน
ส่วนเพื่อนอีกคนใส่หนุมาน ลพ.ป้อง วัดเขาโบสถ์ ระยอง ไป
ท่านก็ทักว่า...แหมวันนี้มีทั้งเสือทั้งลิงมาเยี่ยมเลยนะ
แล้วท่านก็บอกว่า เสือนี่มานั่งอยู่ข้างๆ ตัวใหญ่มาก แถมดุมากด้วย สามารถสิงคนได้
ส่วนหนุมานนี่มายืนตัวใหญ่ยังกะตึก มองไปเห็นแต่ขาเท่าเสา

 

รายการที่ 153 แหวนปลอกมีด เนื้อเงิน รุ่นพิเศษ ร.55 ปี 2556 (เบอร์ 60)
ลป.เร่ง ฐานธัมโม วัดดงแขวน จ.อุทัยธานี

บูชา 3,000-



เป็นแหวนปลอกมีดเนื้อเงิน น้ำหนักประมาณ 1 บาท ด้านในแหวนมีอักขระ “ มะอะอุ ” และตอกโค๊ต
ที่ท้องวงอาจารย์โชติได้จารนะเมตตามหาเสน่ห์ให้ ส่วนด้านนอก อ.ธรรมนูญ บุญธรรม จารนะจังงังและหัวใจพ่อ-ลูก (หนุมาน-มัจฉานุ) ให้

ชนวนโลหะแผ่นเงิน
- แผ่นยันต์มหาสะท้อน ลพ.ทุเรียน วัดท่าดินแดง จ.สุโขทัย
- แผ่นยันต์โภคทรัพย์ ลพ.เร่ง วัดดงแขวน อุทัยธานี
- แผ่นยันต์มงกุฎพระเจ้า ลพ.สมคิด วัดเนินสาธารณ์ อุทัยธานี
- แผ่นยันต์มหากระดอน ลพ.สายทอง วัดโบสถ์ อยุธยา
- แผ่นยันต์นะพระจันทร์รูปงาม ลป.เชิญ เทพนภา สิงห์บุรี
- แผ่นยันต์อาจารย์สมชาย วัดหลักเมืองพัฒนาราม เพชรบูรณ์ ผู้สร้างพระผงคู่ชีวิต-ล้างอาถรรพ์

พิธีพุทธาภิเษก
1. พิธีพุทธาภิเษก พระกริ่งพุทโธ วันที่ 19 ธันวาคม 2555 ที่ จ.สุโขทัย
2. พิธีพุทธาภิเษกพระพุทธชินราช รุ่น " เจริญพร " ณ วิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2555 โดย

คณาจารย์นั่งปรก ชุดที่ 1
1) พระราชประสิทธิวิมล (ประจวบ) วัดระฆังโฆสิตาราม กทม.
2) พระมงคลสุธี (แขก) วัดสุนทรประดิษฐ์ พิษณุโลก
3) พระมงคลสิทธิคุณ (ฟู) วัดบางสมัคร ฉะเชิงเทรา
4) พระสุนทรธรรมานุวัตร (เอียด) วัดไผ่ล้อม อยุธยา
5) พระวรญาณมุนี (หลวงตาละมัย) วัดอรัญญิก พิษณุโลก
6) พระครูสุวรรณศาสนคุณ (นาม) วัดน้อยชมพู่ สุพรรณบุรี
7) พระอาจารย์พยนต์ ฐิตสาโร วัดหล่ายน้องหมี พิจิตร
8) ลพ.สิริ สิริวัฒโน วัดตาล นนทบุรี
9) พระครูอดุลย์วิริยกิจ (เอื้อน) วัดวังแดงใต้ อยุธยา
10) พระครูประโชติธรรมวิจิตร (เพิ่ม) วัดป้อมแก้ว อยุธยา
11) พระครูพิทักษ์วีรธรรม (สืบ ปินแตก) วัดสิงห์ นครปฐม
12) พระครูปทุมวรกิจ (ชำนาญ) วัดบางกุฎีทอง ปทุมธานี
พระพิธีธรรมวัดนครสวรรค์ สวดพุทธาภิเษก

คณาจารย์นั่งปรก ชุดที่ 2
1) พระราชวิทยาคม (ครูบาสายทอง) วัดท่าไม้แดง ตาก
2) พระครูสุวรรณศีลาธิคุณ (พูน) วัดบ้านแพน อยุธยา
3) พระครูสมบูรณ์จริยธรรม (แม้น) วัดหน้าต่างนอก อยุธยา
4) พระครูวิมลสมณวัตร (เพี้ยน) วัดเกริ่นกฐิน ลพบุรี
5) พระครูนิวิฐมณีวงศ์ (สะอาด) วัดเขาแก้ว นครสวรรค์
6) พระครูพิพิธธรรมาธร (หวั่น) วัดคลองคูณ พิจิตร
7) พระครูวรธรรมประยุติ (ทุเรียน) วัดท่าดินแดง สุโขทัย
8) พระครูวิมลปุญญาภรณ์ (พิมพ์) วัดพฤกษะวัน พิจิตร
9) พระอาจารย์บุญเดช ชุตินธโร วัดบ้านป่า พิษณุโลก
10) พระอาจารย์ฉลวย มนาโป วัดคองเมมใต้ พิษณุโลก
11) พระครูสุวิธานศาสนกิจ (ไพรินทร์) วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก
พระพิธีธรรม วัดนครสวรรค์ สวดรัตนมาลา สวดผูก เบิกเนตร ดับเทียนชัย

3. พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดอรัญญิก จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2556 โดย
1) หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก
2) หลวงตาละมัย วัดอรัญญิก จ.พิษณุโลก
3) หลวงพ่อทุเรียน วัดท่าดินแดง อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย
4) หลวงพ่อจง วัดด่านลานหอย จ.สุโขทัย

ปลุกเสกเดี่ยวโดย
1. ลป.เร่ง วัดดงแขวน อุทัยธานี ปลุกเสกเดี่ยว 2 วาระ คือ
ครั้งที่ 1 นาน 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 4-12 ธันวาคม 2555
ครั้งที่ 2 นาน 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-9 มกราคม 2556
2. หลวงตาแจ๋ว วัดบ้านนา อ.สามง่าม จ.พิจิตร ท่านเป็นศิษย์ที่ได้รับการครอบครูจาก ลป.ขวัญ วัดบ้านไร่ เจ้าของแหวนพิรอดและตะกรุดเพชรหลีกที่โด่งดัง
ท่านปลุกเสกให้ 3 วันเต็มด้วยวิชาเพชรหลีก
3. หลวงปู่เจือ วัดหนองแผ่นดิน จ.กำแพงเพชร อายุ 99 ปี วัตถุมงคลของท่านมีคนเอาไปลองยิงปืนแตกคามือ ท่านปลุกเสกให้เกือบ 1 เดือนเต็ม
4. ลพ.ทุเรียน วัดท่าดินแดง จ.สุโขทัย ท่านปลุกเสกให้ให้ 2 ครั้งในงานพิธีพุทธาภิเษก โดยได้ขอให้ท่านลงมหาสะท้อนให้ด้วย ท่านปลุกเสกให้นาน 2 ชม.
5. หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ พิษณุโลก ท่านปลุกเสกให้ให้ 2 ครั้งในงานพิธีพุทธาภิเษก นาน 2 ชม.
6. ลพ.จง วัดสังฆาราม (บ้านด่าน) สุโขทัย ท่านปลุกเสกให้ในงานพุทธาภิเษกนาน 2 ชม.
7. หลวงตาละมัย วัดอรัญญิก จ.พิษณุโลก ท่านปลุกเสกให้ในงานพุทธาภิเษกนาน 2 ชม.
8. ลพ.สายทอง วัดโบสถ์ อยุธยา ท่านเสกให้ด้วยวิชามหาสะท้อน เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2556
9. ลป.เชิญ เกตุธัมโม (เทพนภา) สิงห์บุรี ปลุกเสกด้วยวิชาเมตตามหาเสน่ห์สาลิกา เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2556
10. อาจารย์โชติ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ พิจิตร อดีตพระครูเจ้าอาวาสวัดหัวเขา อ.เนินมะปรางค์ พิษณุโลก
ท่านบวชเป็นพระมากกว่า 20 ปี ร่ำเรียนวิชาวิทยาคมมาทางสายครูบากฤษณะ หลวงพ่อเขียว วัดระเว จ.นครราชสีมา หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม
ศึกษาวิชามหาเสน่ห์จากสมุดข่อยโบราณวัดท่าฬ่อ จ.พิจิตร
ปลุกเสกให้ก่อนนานหลายวันก่อนนำไปให้ครุบาอาจารย์อื่นๆ เสกต่อ และเสกปิดท้ายให้อีกทีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2556
11. อ.ธรรมนูญ บุญธรรม สำนักบัวแปดกลับ ชลบุรี เมื่อวันที่ 25-26 เมษายน 2556

 

พี่เขาให้จองรายการที่ 151 และ152 ค่ะ เพิ่งเข้าเวปได้ พรุ่งนี้จะโอนพร้อมกับที่จองไว้เดิมนะคะ

 

รายการที่ 154 แหวนพิรอดกระสาษสาถักลงรัก ปี 2555
พระครูสุทธาสมาธิวัตร (อาด พุทธญาโณ) วัดตะพุนทอง ระยอง

บูชาวงละ 350- (มี 6 วง)



หลวงพ่ออาด วัดตะพุนทอง ท่านเป็นผู้สืบทอดวิชาสาย หลวงพ่อโต วัดชากกระโดน
(ต่อมาหลวงพ่อโตท่านได้ย้ายไปสร้างวัดเขาบ่อทองอีกแห่งหนึ่ง)
จากหลวงพ่อเขียน อดีตเจ้าอาวาสวัดตะพุนทอง ซึ่งเป็นบิดาของท่าน
หลวงพ่อโตท่านมีวิชาแก่กล้ามากๆ ท่านมรณภาพเมื่อปี 2508

หลวงพ่ออาด ท่านพระที่มีเมตตามาก สมถะ ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นที่นับถือของคนในท้องถิ่นมาก
ในย่านนั้นจะเป็นสวนยาง ชาวสวนยางแถวนั้นจะพก " แหวนพิรอด " ของท่านกัน เพราะป้องกันงูได้อย่างชะงัด
ถึงขนาดเคยมีคนลองเอาแหวนพิรอดของท่านผูกเชือกไปคล้องคองู งูถึงกับตายเลยทีเดียว
ลุงที่อยู่ข้างวัดคนหนึ่งเล่าว่า...เขาเองก็เอาไปลอง ตีงูเห่าที่บ้านหลังหักยังไม่ตาย เอาไม้แหย่ฉกไม้
พอเอาแหวนพิรอดไว้ปลายไม้ คราวนี้ไม่ฉกแถมหัวตกเลย พอเอาแหวนออกคราวนี้ฉกอีก
เรียกได้ว่าแหวนพิรอดท่านมีประสบการณ์เยอะมาก

แหวนพิรอด ท่านจะทำเองทุกขั้นตอน ใช้กระดาษสาทำ ถักเอง แล้วลงรัก
แหวนท่านไม่ได้ทำให้ใส่นิ้ว ให้เลี่ยมแขวน แต่มีข้อแม้ว่าเวลาเลี่ยมต้องเจาะรูด้วย
ไม่ต้องใช้คาถาปลุก เป็นทั้งแคล้วคลาด กันสัตว์มีพิษ

สมัยนี้จะหาครูบาอาจารย์ที่ทำแหวนพิรอดถักแบบโบราณได้ยากเย็นเต็มที
นับวันมีแต่วิชาเหล่านี้จะสูญหายไปตามกาลเวลา ไร้คนสืบทอด ต่อไปก็คงเหลือแต่ตำนาน

 

ขอจองค่ะ.....................

 

รายการที่ 157 ผ้ายันต์พระคุณพ่อ พระคุณแม่ ปี 2553 (หายากมาก)
พระครูวิมลญาณอุดม (ธรรมนูญ ฐิตวฑฺฒโน/ติ๋ว) วัดมณีชลขัณฑ์ ลพบุรี

บูชา 2,000-




ผ้ายันต์พระคุณพ่อ พระคุณแม่ ขนาดเท่าผ้าเช็ดหน้า แจกงานศพโยมมารดาของท่านอาจารย์ เมื่อ 28 พ.ย. 2553
ข้างล่างมียันต์พรหมสี่หน้า (รัศมีพรหม) ตำรับ อ.เฮง ไพรวัลย์ สุดยอดความหายาก

ท่านพระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขัณฑ์ เป็นผู้หนึ่งที่สืบทอดวิชาการสร้างพรหมสายวัดสะแก
ซึ่งผู้ที่จะสำเร็จวิชาพรหมสายนี้จะต้องเสกจนองค์พระพรหมที่ท่านกำลังทรงญาณอยู่เบิกพระเนตรขึ้น จึงจะถือว่าสำเร็จ
ซึ่งในปัจจุบันเท่าที่ทราบมีอยู่ 3 ท่านที่ทำได้ขลังตามสายวิชาอย่างแท้จริง (เป็นพระภิกษุ 2 รูป และฆราวาสอีก 1 ท่าน)
และพระอาจารย์ติ๋วก็เป็นท่านหนึ่งในจำนวนนั้น นี่จึงเป็นเหตุให้วัตถุมงคลที่เกี่ยวกับพรหมของท่านได้รับความนิยมอย่างสูง
และเป็นที่หวงแหนอย่างมากในหมู่ลูกศิษย์ เพราะเหรียญพรหมของลป.สี และอ.เฮง ราคาไปไกลจนเกินเอื้อมไปแล้ว

ครั้งหนึ่งท่านได้รับนิมนต์ไปเสกเหรียญพรหม รุ่น สิริสมบัติ ของวัดบวรฯ ร่วมกับพระเกจิอีกหลายๆ ท่าน
ให้บังเอิญที่พระอาจารย์มานิตย์ วัดเงิน ตลิ่งชัน ได้นั่งปรกอบู่อีกฝั่งหนึ่งตรงข้ามท่านพอดี
ท่านพระอาจารย์มานิตย์ได้เล่าให้ฟังว่า...พอพระอาจารย์ติ๋วท่านกำหนดจิตอัญเชิญพระพรหมเท่านั้นแหละ
ก็มีพรหมองค์ใหญ่ลงมาครอบร่างท่านทันทีเลย

วิชาพรหมของท่านพระอาจารย์ธรรมนูญ (ติ๋ว) วัดมณีชลขัณฑ์ ได้สืบสายการสร้างพระพรหมมาจากสำนักวัดสะแก
ผ่านทางครูก้าน บำรุงกิจ ซึ่งท่านเป็นน้องชายของ ลป.สี พินทสุวัณโณ
แต่วิชาพรหมนี้ครูก้านกลับได้รับถ่ายทอดมาจาก ท่านอาจารย์เฮง ไพรวัลย์ โดยตรง
ท่านอาจารย์เฮงได้รับตำราวิชาการสร้างพรหมนี้มาจากสมุดข่อยโบราณในวัดประดู่ทรงธรรม
ซึ่งพระพรหมในสายนี้เป็นพระพรหมที่อยู่ที่ชั้นสูงที่สุด มีนามว่า " สหัสบดีพรหม ”

 

จองด้วยนะครับและขอแจ้งว่าได้รับพระเรียบร้อยเเล้วนะครับขอบคุณครับ

 

รายการที่ 158 ปรอทกรอล้านนา (ตัวผู้) เครื่องรางโบราณในตำนานที่สาบสูญการถ่ายทอด ขนาด 3 ซม.

บูชา 8,500-




ปรอทกรอ เป็นเครื่องรางเก่าโบราณในตำนานที่ครูบาอาจารย์สมัยก่อนสร้างขึ้น (เพราะในยุคปัจจุบันไม่มีผู้ใดสร้างได้อีกแล้ว)
โดยมักจะพบอยู่ตามวัดร้างสมัยเก่า ผนังโบสถ์หรือเจดีย์ ใต้ฐานโบสถ์ ใต้ฐานชุกชีพระประธาน หรือในองค์พระเจดีย์
และก็อาจจะมีพบบ้างแถวกำแพงเมืองโบราณ ซึ่งบางแห่งบอกว่าพบเพียงที่ละ 1 ลูกเท่านั้น
แต่ในความเป็นจริง บางที่อาจจะพบปรอทกรอบรรจุอยู่มากกว่า 1 ลูกก็ได้
เช่น วิหารกรอ ลพบุรี ซึ่งพบปรอทกรอฝังเรียงรายอยู่ในผนังโบสถ์เก่า
สันนิษฐานว่า เพื่อช่วยให้เวลาที่พระสวดมนต์แล้วเกิดเสียงดังกังวานกระหึ่มไปทั้งโบสถ์

ปรอทกรอ เท่าที่พบแบ่งได้เป็นสามยุค คือ
1. ยุคลพบุรี
2. ยุคเชียงแสน (มักจะเป็นทองสัมฤทธิ์แล้วเปียกทอง)
3. ยุคอยุธยา (เนื้อหาจะเป็นทองสัมฤทธิ์คล้ายทางเหนือแต่ดูอายุเนื้อโลหะน้อยกว่า แต่ตะเข็บจะทำไม่ค่อยเนียนเท่ายุคเชียงแสน)

สำหรับการสร้างปรอทกรอขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์อะไรนั้น ก็ได้แต่สันนิษฐานกันไป
บ้างก็ว่าใช้สำหรับเตือนภัยเวลามีข้าศึกสงครามมา ม้าวิ่ง หรือมีเสียงสะเทือน ปรอทนี้ก็จะดังตามเสียงสะเทือน เป็นสัญญาณเตือนภัยให้รู้
บ้างก็ว่าเพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้ายและสิ่งอัปมงคลทั้งปวงที่เข้ามา รวมทั้งโจรผู้ร้าย เมื่อมีเหตุปรอทก็จะส่งเสียงดังเตือนให้รู้

ปรอทกรอ มีลักษณะเป็นโลหะทรงกลมกลวง มีหลายขนาดทั้งลูกใหญ่และเล็ก
ส่วนใหญ่จะมีขนาด 1-2 นิ้ว และมักจะไม่ค่อยพบเห็นรอยเชื่อม(ตะเข็บ) หรือถ้าเห็นก็จะเป็นเส้นขีดเล็กๆ
ซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์ในการสร้างมากๆ ที่สมัยโบราณสามารถประกบโลหะได้สนิทถึงเพียงนี้
และที่สำคัญ คือ น้ำหนัก และการไหลของโลหะภายในปรอทกรอที่ทำให้เกิดเสียง
เชื่อกันว่า สามารถบอกเหตุร้าย และ ป้องกันเสนียดจัญไร ให้แก่เจ้าของได้

ภายในลูกปรอทกรอนั้นว่ากันว่าเป็นของวิเศษกายสิทธิ์จำพวกเหล็กไหล หรือ ปรอทกายสิทธิ์
ที่เกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุของพระอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมได้เอามาใส่ไว้ โดยนำเอามาหุงและหลอมเป็นปรอทกายสิทธิ์
ฉะนั้นเวลาเขย่าจะคล้ายมีกริ่งอยู่ข้างใน
เคยมีคนผ่าดูข้างในปรากฏว่ามีความซับซ้อนมาก
ภายในจะเป็นกลไกทรงกลมซ้อนกันหลายๆ ชั้นและมีซี่ๆ คล้ายสายยูของนาฬิกาหรือหวีที่ใช้หวีผมสับเข้าหากันเวลาเขย่า
และมีลูกกลมๆ ที่มีสามสิบแปดเหลี่ยมเป็นของวิเศษอยู่ภายใน
เมื่อเวลาเขย่าลูกกลมๆที่มีเหลี่ยมนี้ก็จะไปทำให้ทรงกลมแต่ละชั้นหมุนตามลำดับ
จึงมีเสียงดังอึงอล บางลูกแม้เพียงจับปรอทภายในก็วิ่งเองได้
นับได้ว่าเป็นภูมิปัญญาโบราณที่สาบสูญการถ่ายทอดไปแล้ว

ปรอทกรอจะมี 2 ชนิดคือ ตัวเมียและตัวผู้ แยกกันโดยเสียง
- ตัวเมีย เสียงจะดังใสกังวานเหมือนกระดิ่ง หายากมากเพราะจะมีแค่อันเดียวคล้ายๆ เป็นตัวศูนย์กลาง
- ตัวผู้ เสียงดังคล้ายจักจั่น จับดูจะรู้สึกถึงการไหลภายใน และมีเสียงดังคล้ายจักจั่นร้องพบได้ง่ายกว่า เป็นตัวบริวาร

ลูกนี้เป็นปรอทกรอตัวผู้ เนื้อสำริด จากกรุทางเหนือ
ลูกใหญ่ขนาดประมาณ 3 ซม. เสียงไพเราะ แค่แตะนิดเดียวก็เกิดเสียงแล้ว
ความเก่าชัดเจน ผิวเกิดสนิมขุมเป็นรูพรุนแบบตามดและสนิมแดง ไม่เห็นรอยประกบ
หายากมากๆ ส่วนใหญ่เจอแต่ของปลอมที่ทำให้ดูเก่าแบบสนิมเขียว แถมทำเป็นมีคราบดินกรุติดอยู่เสียด้วย
แต่สิ่งหนึ่งที่ของปลอมทำไม่ได้ก็คือ เสียง ต่อให้ปลอมฝีมือดีแค่ไหน แต่เวลาเขย่าเสียงของๆ ปลอมจะดังแค่กุกกักคล้ายเราเขย่าพระกริ่งอย่างไรอย่างนั้น
แม้แต่ปรอทกรอของลป.ละมัย ที่ราคาแพงแสนแพงก็ยังไม่สามารถทำให้เสียงเหมือนกับของโบราณได้

ปรอทกรอนี้ ลพ.วิชัย วัดถ้ำผาจม ท่านก็มีติดย่ามท่านอยู่ลูกหนึ่ง เป็นของดีที่ ลพ.จรัญ วัดอัมพวัน ได้มอบให้กับท่านเอาไว้
แถมยังสำทับด้วยว่า...ของดี ให้เอาไว้ติดตัว...

 

โอน
รายการที่ 139 พระสมเด็จองค์ปฐมขุนแผนโพธิสัตว์ เนื้อพิเศษ
รายการที่ 141 แผ่นยันต์ทำน้ำมนต์ (ยันต์จินดามณี) เนื้อกระเบื้องโมเสส
รายการที่ 151 แหวนหน้าเสือ เนื้อทองแดง
รายการที่ 152 แหวนนารายณ์ทรงครุฑ เนื้อนวโลหะ ปี 2549
รายการที่ 156 ผ้าขอดผ้าขาวบังสุกุลถัก แบบ 10 ปม 3 ชุด

แล้วนะคะตามใบโอนนี้ ที่อยู่ตามPMค่ะ