วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 17 กรกฎาคม 2006.

  1. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ทั้งหมดนี้ควรเริ่ม จากขั้นแรกก่อน ทำจนคล่องตัว ในทุกอารมณ์ ทุกรูปแบบ

    ไม่ช้าพละอินทรีย์จะแก่กล้า ตบะเดชะแห่งกำลังฌานก็จะทรงตัว มั่นคง

    ที่ต้องมาเน้นมาเคี่ยวกรำมากขึ้นก็เพื่อความดีของทุึกๆท่าน อันปรารถนาในพระนิพพานเป็นที่สุด

    "ขอความเพียรอันชอบ ในสัมมาทิฐิ สัมมาสมาธิ สัมมาปัญญา จงนำไปสู่ มรรคผลพระนิพพาน อันเป็นแดนอันเกษมด้วยวิมุติธรรมอันพิสุทธิ์ รุ่งโรจน์ด้วยรัศมีสว่างแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขจัดความมืดมิดแห่งอวิชชาออกไปจากดวงจิตของข้าพเจ้าทั้งหลายด้วยเทอญ"
     
  2. อารมณ์สุนทรีย์

    อารมณ์สุนทรีย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +1,740
    แม้อภิญญายังไม่ได้ แต่เราสามารถใช้เมื่อใดก็ได้ ด้วยความเป็นทิพย์
     
  3. deep listening

    deep listening เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +536
    เข้ามาอ่านเมื่อตอนเย็น เห็นคำแนะนำจากคุณ Kananun แล้วน่าสนใจ
    เมื่อกลางดึกได้ปฏิบัติ หายใจพุทโธ1 โดยนับไปถึง 108
    เกิดความรู้สึกหนักแน่นมั่นคง ขณะที่ลมไปทั่วตัวโดยธรรมชาติด้วยความรู้สึกเบาสบาย
    ขอขอบคุณและอนุโมทนาสาธุ ครับ
     
  4. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ขอโมทนาบุญกับผลแห่งการปฏิบัติ ที่ทำให้จิตสงบ จิตสบายด้วยครับ

    เมื่อตั้งใจจริงก็เกิดผลแห่งการปฏิบัติจริงครับ

    ขอให้ลงมือปฏิบัติกันทุกๆท่านครับ
     
  5. huten

    huten เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,808
    ค่าพลัง:
    +15,229
    คืนนี้จะลองทำตาม คุณคณานันท์แนะนำ ค่ะ
     
  6. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    พอเริ่มเป็นอภิญญานี่ เริ่มสนใจกันหลายคนเลย

    แต่อภิญญา ชั้นสูงสุดในพระพุทธศาสนา คือ อนุสาสนีย์ปาฏิหาริย์

    ปาฏิหาริย์ เปลี่ยนจิต พลิกชีวิต คน

    จากมืดมาสว่าง

    จากมิจฉาทิฐิ เป็นสัมมาทิฐิ

    จากสิ้นหวัง สู่ พลังใจ

    จากปุถุชน สู่ อริยะบุุคคล

    นี้คือสิ่งที่พระพุทธองค์ท่านทรงสรรเสริญ

    มนุษย์ เทวดา พรหม ท่านเคารพ พระพุทธเจ้า ที่ท่านแสดงฤทธิ์ เก่งที่สุดหรือ ก็เปล่า

    เราเคารพในธรรม ในพุทธเมตตา ที่พระองค์ท่าน โปรดต่อมวลเวไนยสัตว์ ต่างหากมิใช่หรือ

    จากเร่าร้อนในเพลิงแห่ง โลภะ โทสะ โมหะ สู่ ความสงบเย็นในธรรม จนถึงซึ่งพระนิพพาน

    ธรรมที่ปฏิบัติได้ จนเกิดผลแห่งการปฏิบัติอันอัศจรรย์ ดับทุกข์ จากใจ

    ธรรมที่ สลาย พันธะ แรงดึงดูดทั้งปวงที่เหนี่ยวยั้งจิตเราเอาไว้ในสังสารวัฏฏ์ จนหลุดพ้น ถึงซึ่งพระนิพพาน ไม่ใช่หรือ ที่เป็น ความอัศจรรย์

    เหาะได้ ด้วยโลกียะอภิญญา พ้นดึงดูดของโลกได้ แต่ยังไม่พ้นกระแสโลก
     
  7. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ธรรมมะอันพิสุทธิ์ ที่พระพุทธองค์ท่านทรงตรัสสั่งสอนเวไนยสัตว์ทั้งปวงนั้น ก็เพื่อรื้อขนมวลสรรพสัตว์ทั้งหลายให้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในที่สุด

    การพิจารณาธรรมนั้น เราจำเป็นที่จะต้อง สร้างความสงบของจิตใจ ในระดับฌานให้ได้ก่อน ก็เพื่อให้จิตสงบ สงัด จาก นิวรณ์ ห้าประการ อันเป็นเครื่องขัดขวางความดี ความสะอาด ความบริสุทธ์ของจิตใจ

    เพราะหากเราไม่มีฌาน มาคุมจิตให้สงบแล้ว อคติทั้งปวง ความโลภ ความโกรธ ความหลง ก็จะ เข้ามาควบคุม ใจ ควบคุมจิต ของเราจน การพิจารณาธรรมของเราผิดเพี้ยนผิดพลาดบิดเบือนไปได้

    เหตุนี้ ในการบรรลุเป็นพระอริยะเจ้าในทุกๆวิสัยไม่ว่า จะสุขขะวิปัสโก ไปจนถึงปฏิสัมภิทัปปัตโต จึงต้องได้ฌานสี่ก่อน

    เราเข้าใจแล้วจะทำให้การปฏิบัติธรรมก้าวหน้าขึ้น

    ว่า ความบริสุทธิ์ของจิตและกำลังสมาธิ กำลังฌาน มีความสำคัญอย่างไร

    บางครั้ง การปฏิบัติธรรมนั้น ก็มีเส้นแบ่งที่บางเบา จนทำให้เราเกิดการเข้าใจผิดกันไปได้มากมาย

    อย่างบางท่านเข้าใจว่า ต้องเอากิเลสมาฆ่ากิเลส เลี้ยงกิเลสเอาไว้ ต้องมีเมตตาต่อกิเลส

    ซึ่งความเข้าใจผิดนั้น ท่านเข้าใจไปว่า ต้องเอาตัวอยากดี อยากก้าวหน้า อยากเก่ง มาพัฒนาตัวเองให้เก่งในการปฏิบัติ

    ความรู้สึกว่า แหมเราช่างเก่ง ช่างแยบยล

    แต่กระนั้นแล้ว เราไม่อาจเอา น้ำสกปรก น้ำเน่าเหม็น มาชำระล้างร่างกายให้หายจากความสกปรกได้ฉันใด

    เราก็ไม่อาจ เอากิเลสมาล้างใจเราให้สิ้นจากกิเลสไปได้ มีเพียง กิเลสตัวนี้หุบหลบไปแต่กิเลสอันยิ่งพวกใจ พอกจิตจนเลอะเทอะเปรอะเปื้อน เกรอะกรังหนาแน่นยิ่งขึ้นไปอีก

    มานะทิฐิบ้าง ความโกรธ ความพยาบาทบ้างมันสิงใจแผงจิต ซ่อนรอประทุตัวอยู่

    หากเราพิจารณา เห็นด้วยจิตอันอุเบกขาแล้ว

    เราจะเข้าใจในการปฏิบัติธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ หากเราไม่ใช้กิเลส เราใช้"ธรรม" ล้างกิเลส

    ใช้น้ำสะอาดบริสุทธิ์มีประกายแก้วประกายพรึกล้างจิต

    ใจเราจะสะอาดใสเย็น สว่างงดงามกว่าไหม

    ธรรมแห่งความสำเร็จทั้งปวงนั้น ได้แก่ "อิทธิบาทสี่ "

    เมื่อเราน้อมนำมาสู่ ธรรม สู่การปฏิบัติเพื่อจิตหลุดพ้น เราก้น้อมมาพิจารณาในข้อแรก

    ฉันทะ ความพึงใจ เราก็น้อมมาสู่ ธรรมฉันทะ ความพึงใจ ในธรรม ความใฝ่ดี รักในพระพุทธเจ้า รักในพระนิพพาน จิตแนบแน่นในพระนิพพานไม่คลาดเคลื่อน

    เมื่ออาศัยธรรมข้อนี้ ก็จะมีจิตสะอาดใฝ่ดี โดยไม่มีตัวอยาก ตัวกิเลส หรือตัว มานะทิฐิ มีแต่จิตที่น้อมนอบชอบในธรรม ในกุศลเป็นสำคัญ
     
  8. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    วิริยะ ความเพียร ความพยายาม ความอดทน ก็น้อมนำเอา ธรรมมะวิริยะ ความเพียรชอบในธรรม ในการทำความดีไม่ลดละ สิ่งใดที่เรา ทำใจเราให้สะอาดจากกิเลสได้เราทำ
    สิ่งใดเกิดกุศลเกิดบุญได้้เราทำ
    อารมณ์ใจเราขึ้นบ้างลงบ้าง นึกรำลึกได้เรามารักษาใจเราให้ผ่องแผ้วเบิกบานไม่ท้อถอย ให้จิตประภัสสรเอาไว้

    ชนะบ้าง แพ้บ้างก็จริง แต่ใจเราไม่ท้อ ไม่ถอย เดินหน้าสู่ทางธรรมไม่ลดละ ยิ้มสู้ ใจใสไปเรื่อย จนที่เหนื่อยกลับหาย ที่หนักกลับเบา ที่ยากกลับง่าย การทำความดีเป็นเรื่องปกติ สร้างกุศลอันเป็นอาจิณกุศลกรรม

    ความก้าวหน้าในธรรมก็เริ่มให้ผลปรากฏ มีความเจริญในธรรมยิ่งขึ้นไป
     
  9. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    จิตตะ ใจจดจ่อ มุ่งมั่น มั่นคง ก็น้อมนำ ให้จิตเรามั่นคงใน ไตรสรณะคมม์ อย่างมั่นคง มีสมาธิจิต มีฌาน มีนิมิตรตั้งมั่นในพระพุทธเจ้า เป็นหลักชัยเหนือเศียรเกล้า ปรกเกศ เราทุกเวลาทุกลมหายใจ ทำดีก็นึกถึงท่าน จะเผลอทำชั่วก็เกรงท่าน ยับยั้งใจได้ และนึกถึงในทุกครั้งไป ก็เห็นภาพพระพุทธเจ้าท่านยิ้ม ใจเราก็ผ่องแผ้วเอิบอิ่มเบิกบาน ใจใสเสมอ

    เมื่อปฏิบัติได้น้อมนำมาสู่จิตสู่ใจของเรา เราก็เกิดญาณ เกิดฌาน เกิดสมาธิ เกิดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริงตามแก่นพระพุทธศาสนา

    ง่ายต่อการรักษาจิตให้

    ละความชั่ว ละอกุศล
    ทำความดี สร้างกุศล มหากุศล ให้มาก ให้ยิ่งขึ้นไป
    รักษาจิตให้ผ่องแผ้วเบิกบาน เป็นแก้วประกายพรึกอันบริสุทธิ์ปราศจากกิเลสได้เป็นปกติ

    เมื่อนั้น ความก้าวหน้าในธรรมยิ่งปรากฏยิ่งขึ้นไป ความยินดีในธรรมยิ่งขึ้นไป และยังความเพียรวิริยะในธรรมให้ยิ่งขึ้นไปอีก

    ธรรมสนับสนุนต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด
     
  10. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    วิมังสา ความพิจารณา การไตร่ตรอง ใคร่ครวญ จำแนกแตกความ

    โดยการน้อมนำเอา ธรรมมะวิจัยยะ มาจำแนก แยกแยะด้วยปัญญา โดยอาศัยหลักว่า

    ธรรมใดยังไม่เกิด ปรากฏในใจ ทำอย่างใดจึงจะปรากฏเกิดในใจของเรา

    ธรรมใดที่งอกงามในใจแล้ว ทำอย่างใดจึงจะ เติบใหญ่งดงามให้ยิ่งขึ้นไป

    ธรรมใดเป็นโทษ เป็นเหตุแห่งความเสื่อม ในความดี ควรงดเว้นและระดับดับได้อย่างไร

    ธรรมใดเป็นคุณ เป็นผล ส่งเสริม สนับสนุนให้ธรรมข้ออื่นก้าวหน้า รุ่งเรืองในกระแสธรรม ทำให้ยิ่งปฏิบัติให้ยิ่งขึ้นได้อย่างใด

    ธรรมใดเป็น เหตุ ธรรมใดเป็นผล

    ธรรมอันพิจารณา ต่อเนื่องตามลำดับ จนจบครบ ตลอดสายแห่งธรรม แห่งวัฏฏ์ โดยอนุโลม

    ธรรมอันพิจารณา ถอยย้อนกลับไปหาเหตุ จนจบครบ ตลอดสายแห่งธรรม แห่งวัฏฏ์ โดยปฏิโลม

    พอถึงระดับนี้ ธรรมยิ่งแตกฉานลึกซึ้ง พิศดาร และยิ่งซาบซึ้งในความละเอียดปราณีตในธรรมยิ่งขึ้น จนจิตยิ่งมีความรักในธรรม เกิดธรรมฉันทะทวีกำลังความเพียรขึ้นไปอีก

    "ขอท่านทั้งหลาย จงน้อมนำธรรมทั้งปวงอันเป็นเครื่องยังความสำเร็จ คือ อิทธิบาทสี่แห่งธรรมให้ปรากฏแก่ใจ เป็นธรรมอันอัศจรรย์แห่งผลแห่งธรรมมะปฏิบัติ อันได้แก่ มรรคสี่ ผลสี่ พระนิพพานหนึ่งด้วยเทอญ"
     
  11. Attila 333

    Attila 333 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +716
    สวัสดีครับพี่คณานันท์ครับผมเป็นผู้มาไหม่ แล้วก็ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาเลย ผมเพิ่งได้อ่านบทความของพี่ทั้งๆที่มีมาตั้งหลายปีแล้ว อ่านแล้วก็สนิทใจเลย ทำให้รู้ว่าผมนี่เป็นคนที่โง่มากๆ " พี่ที่เคารพความดีงามใดที่พี่ปรารถนา ผมขอปรารถนาในความดีนั้นด้วย ธรรมใดที่พี่สำเร็จ ขอให้ผมได้สำเร็จในธรรมนั้นด้วย ผมขออนุโมทนาในปณิธานอันยิ่งใหญ่ของพี่ " ผมขอให้พี่ และทุกๆคนมีความสุข เป็นที่พึ่งพิงของสรรพสัตว์ตราบถึงซึ่งพระนิพพาน ด้วยความเคารพพี่เป็นอย่างสูงครับ.
     
  12. อารมณ์สุนทรีย์

    อารมณ์สุนทรีย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +1,740
    กิจกรรมรดน้ำดำหัว ที่เมตตาภิรมณ์สถาน

    อาจารย์คณาัันันท์ ทวีโภค (พี่เล็ก) และคุณแม่

    เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ของชาวเราสยามเมืองยิ้ม

    วัน อาทิตย์ ที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๓
    เวลา ๑๐.๓๐น.
    สถานที่ เมตตาภิรมณ์ สถาน ลาดหญ้า ซ.๑๗ กรุงเทพฯ

    ____________________________________________

    *สรุปกิจกรรม ในวันนี้

    นัดหมายรวม ณ
    เมตตาภิรมณ์สถาน ลาดหญ้า ซ.๑๗ กรุงเทพฯ

    เมื่อ ได้เวลาสมควร ก็ได้ร่วมกันดำหัวคุณแม่ อ.
    คณาัันันท์ นำโดยคุณพี่ลี
    [​IMG]


    หลังจากนั้น จึงได้มารวมกันเพื่อดำหัว อ.คณาัันันท์



    [​IMG]


    พอครบกันแล้ว อ.คณาัันันท์ ก็ ได้เมตตาแจกของชำร่วย ซึ่งข้างในเป็นพระ ก็อธิฐานให้ได้เหมาะสมถูกต้องตามจริต ตามบุณบารมีของทุกๆท่าน

    แล้วก็ร่วมรับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน

    ส่วนภาคบ่ายเป็นการทบทวนวิชชาเก่าๆ ใครที่ยังไม่ได้เรียน

    ประกอบไปด้วย

    ๑.วิชชา แต่งกองทัพ
    ๒.
    วิชชา เสกทอง
    ๓.
    วิชชา สูนปรอท
    ๔.โมเมนตัม
    ๕ ฯลฯ

    อาจจะได้ชมรูปภาพและวิดีโอ ตามความเหมาะสม นะครับ

    ท่านใดจะเสริม ยินดีครับ

    จากกระทู้งานกลุ่ม680<<<<<<<<<<<<<<
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 เมษายน 2010
  13. ขม

    ขม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    370
    ค่าพลัง:
    +1,521
    สนใจข้อมูลมากครับหากรวมเล่มแล้วกรุณาส่งเมล์ให้ด้วยได้ใหมครับ หากได้กรุณาส่ง
    wiboonkul_khom@hotmail.com
    ขอบพระคุณมากครับ
     
  14. TiDa's Little BUDDHA

    TiDa's Little BUDDHA สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2010
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +8
    ไขรหัส ศาสตร์รหัส ตัวเลข

    ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ด้วยศาสตร์ความหมายตัวเลขของคนจีน

    ท่านอาจจะสามารถนำไปถอดรหัสทางพระพุทธศาสนาได้ดังนี้

    1 คือ เป็นที่หนึ่ง และ ถ้ามี1เพิ่มมาอีกความหมาย คือ วันนี้
    2 คือ ง่าย
    3 คือ เกิด
    4 คือ ตาย
    5 คือ ฉัน
    6 คือ ทาง
    7 คือ แน่
    8 คือ รวย
    9 คือ นาน
    0 คือ แล้ว

    และความหมายจะถูกเชื่อมโยงด้วย เป็น อยู่ คือ
    และข้าพเจ้าได้นำความหมายที่เหมือนกันของคำต่างมาเพิ่ม
    เช่น
    2 คือ ง่าย เป็นรอง ประมาท ลุ่มหลงผิด
    7 คือ แน่ ตั้งมั่น กล้าหาญ แน่วแน่ แน่นอน ที่ตั้ง เสี่ยงสูงสุดต่ำสุด
    5 คือ ฉัน ตัวเราของเรา ตัวเอง เวลาที่พระฉันเพลก่อนที่พระอาทิตย์จะอยู่เหนือศรีษะ หรือเวลาห้าโมงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกดิน
    6 คือ ทาง ทางเลือก ตัวเลือก ชี้แนะ แนวทาง
    8 คือ รวย มี มั่งคั่ง เศรษฐี
    9 คือ นาน ใช้เวลานาน ความอดทน
    0 คือ แล้ว อตีต ผ่านไปแล้ว สำเร็จ ลุล่วง ผ่าน ดับ นิพพาน

    ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าจะช่วยไขหรือถอดรหัสได้หรือไม่ อย่างไร
    แต่ที่ต้องเลือกใช้เลขฐานอารบิก แล้วแปลความหมายตามความเชื่อคนจีน

    เพราะ ข้าพเจ้าคิดว่าพระพุทธองค์
    ทรงพระกรุณาเมตตาต่อมนุษย์ทั้งโลก ไม่มีความเอนเอียง มีแต่ความยุติธรรม และมีความเป็นไปได้ที่พระองค์จะทรงใช้หลักการของมวลมนุษย์หมู่มาก ซึ่งคนจีนก็คือคนเอเชียแผ่นดินใหญ่ไม่ไกลจากดินแดนพระพุทธศาสนา ความหมายของตัวเลขตามความเชื่อแบบคนจีนอาจจะสามารถไขรหัสเพื่อบอกความนัยได้เช่นกัน

    ถ้าความหมายเลขจีนที่ข้าพเจ้าได้ให้ท่านไปแล้วไม่สามารถช่วยให้ท่านไขหรือถอดรหัสได้ อาจเกิดจากความเขลาของข้าพเจ้าเองที่มีความรู้น้อยยังไม่เพียงพอ
    ข้าพเจ้าจึงขออภัยท่านมา ณ โอกาสนี้ด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2010
  15. TiDa's Little BUDDHA

    TiDa's Little BUDDHA สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2010
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +8
    ไขรหัส ศาสตร์รหัส ตัวเลข


    ข้าพเจ้าได้เข้ามาเป็นสมาชิกของเวปไซน์นี้เพียงไม่กี่วัน
    แต่ข้าพเจ้านั้น...ได้รับองค์ความรู้จากเพื่อนมนุษย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตั้งมั่นอยู่ในหลักพระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าศาสดาพระพุทธศาสนา ความรู้มากมายเหลือเกิน...ข้าพเจ้าก็อยากจะแบ่งปันในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้กรั่นกรองมาบ้างแล้ว แต่ไม่ทราบว่าจะถูกหรือไม่ จะเชื่อหรือไม่ ก็สุดแท้แต่ใจของทุกท่าน ข้าพเจ้าก็สามารถบอกท่านให้ได้ทราบเพียงเท่านี้ เท่าที่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ด้วยตนเองจากแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2010
  16. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    โหลดซอลฟ์ไฟล์ ได้ที่กระทู้นี้ครับ

    ส่งต่อ หรือนำไปพิมพ์แจกเป็นธรรมทานได้ครับ

    อนุญาต เพื่อความเจริญในธรรมของทุกจิตใจ

    http://palungjit.org/threads/%E0%...9A.165661/
     
  17. ขม

    ขม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    370
    ค่าพลัง:
    +1,521
    โหลดไม่ได้ครับผม มีอีกลิ้งใหมครับ ขอบคุณครับ
     
  18. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <table id="post3026113" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175">numnim<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_3026113", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Oct 2005
    สถานที่: หริภุญชัยบุรี เมืองเจ้าแม่จามเทวี
    ข้อความ: 518
    Groans: 3
    Groaned at 1 Time in 1 Post
    ได้ให้อนุโมทนา: 5,397
    ได้รับอนุโมทนา 4,648 ครั้ง ใน 502 โพส
    พลังการให้คะแนน: 260 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_3026113" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start --> อ้างอิง:
    <table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ kananun [​IMG]
    .......

    หากมีโอกาสที่ผมขึ้นเหนือมาร่วมทำสมาธิกันครับ
    </td> </tr> </tbody></table>
    รออยู่ค่า รอมาน๊าน..นานแล้วด้วย

    วันศุกร์ที่ผ่านมา นิ่มได้จัดนิทรรศการพระบรมสารีริกธาตุที่โรงเรียนเนื่องในวันมาฆบูชา ได้นำเอาบทแผ่เมตตาอัปมานาฌานจากหนังสือวิชชาไปใช้ด้วยค่ะ

    มีคุณครูมาบอกว่า ขนลุกซู่เลยตอนที่ให้แผ่แสงสีทองไปทั่วโรงเรียน

    ทั้งนักเรียนทั้งครูนิ่งเงียบกันหมดเลยค่ะ (ปกติเวลาทำสมาธิยังคุยกันอยู่เลยค่ะ)

    นักเรียนบางคนมาเล่าให้ฟังว่ามีน้ำตาไหล บางคนก็ตัวเอนไปมา


    ขอบพระคุณพระท่านและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ ที่เมตตา พี่คณานันท์และทีมงาน รวมถึงเจ้าภาพใหญ่คนที่เราก็รู้ว่าใครที่ช่วยจุดประกายความคิดให้ค่ะ
    </td></tr></tbody></table>
     
  19. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    จะบอกน้องให้ทำลิงค์ให้ใหม่ครับ
     
  20. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ธรรมมะ จากห้องสนนทนาครับ

    -----------------------------------------------------

    ทำสมาธิกันแบบง่ายๆ
    [19:57:20] KANANUN: เน้นจิตสบาย
    [19:57:46] KANANUN: ให้ใจเราอยู่ อารมณ์ที่สัปปายะก่อน
    [19:58:16] KANANUN: นึกภาพ พระพุทธรูปที่ท่านยิ้ม ให้ใจเราสบาย
    [19:58:33] KANANUN: ให้จิตเราเกาะพระพุทธเจ้า เป็นพุทธานุสติเอาไว้
    [19:58:49] KANANUN: โบราณที่เวลา อุทานตกใจ ท่านอุทานว่า
    [19:59:03] KANANUN: "พุทโธ"
    [19:59:15] KANANUN: เพราะท่านภาวนา เอาไว้เป็นปกติ
    [19:59:35] KANANUN: เรากำหนดภาพพระพุทธรูปด้วยให้เห็นชัดเจน
    [19:59:55] KANANUN: ไหว้พระก็ไหว้พระที่ท่านปรากฏ ในจิตในใจเราตลอดเวลา
    [20:00:24] KANANUN: เเรกๆ อาจมีหลุด มีพลั้ง มีเผลอ มีเพลินไปในอารฒณ์อื่น
    [20:00:52] KANANUN: ครั้นจิตเราสบาย มีธรรมฉันทะ ในอารมณ์จิตที่สบายแล้ว
    [20:01:10] KANANUN: จิตก็จะเริ่มเกาะพระท่าน แนบขึ้น
    [20:01:26] KANANUN: จนกระทั่งจิตเราแทบไม่คลาดจากพระรัตนไตรเลย
    [20:01:58] KANANUN: พอก้าวหน้าขึ้นก็กำหนด ปัญญาในวิปัสนาญาณ
    [20:02:45] KANANUN: โดยการ ทำสมาธิ ในจิต ต่อหน้า พระพุทธองค์ ค่อยๆพิจารณา ใน วิปัสนาญาณไปทีละน้อย
    [20:02:59] KANANUN: ในข้อกฏไตรลักษณ์
    [20:03:07] KANANUN: ทุกสิ่งเกิดขึ้น
    [20:03:15] KANANUN: ตั้งอยู่ ดำเนินอยู่
    [20:03:57] KANANUN: มีการเสื่อม การแก่ การเจ็บ การป่วยไข้ไม่สบาย
    [20:04:18] KANANUN: มีการแตก การดับ การสลายตัว มีความตายในที่สุด
    [20:05:30] sirikan: _/|\_ สาธุ
    [20:05:36] KANANUN: จะเร็วจะช้าก็ตาม แต่ไม่มีสิ่งใด วัตถุใด บุคคลใด สัตว์ใด ที่ไม่ล่วงไปจากกฏนี้ไปได้
    [20:05:46] KANANUN: และเมื่อมันเป็นธรรมดา
    [20:05:52] KANANUN: เป็นธรรมชาติ
    [20:05:58] KANANUN: เป้นปกติวิสัย
    [20:06:55] KANANUN: เราไป "หลง" เข้าใจว่า มันเที่ยง มันเป็นอมตะ มันจะคงอยู่ชั่วนิจนิรันดร์ ชั่วฟ้าดินสลาย
    [20:07:40] KANANUN: ก็ในเมื่อฟ้าดินยังสลาย จะมานับประสาอะไรกับ ร่างกายเรา หรืออารมณ์จิตของเราเล่า
    [20:07:53] KANANUN: มันเป็นธรรมดา
    [20:08:09] KANANUN: เป็นของมันเช่นนี้เอง
    [20:08:25] KANANUN: ดังนั้นหากเรา ไปยึด ก็ทุกข์
    [20:08:48] KANANUN: หากรู้เท่าทัน มัน ก็ทำให้ปล่อยวางได้
    [20:09:01] KANANUN: เมื่อปล่อยวางได้ มันก็ทุกข์น้อยลง
    [20:09:26] KANANUN: ยิ่งทุกข์น้อยลง สุขมันก็มากขึ้น
    [20:09:33] KANANUN: สุขอยู่ที่ไหน
    [20:09:46] KANANUN: สุขอยู่ที่ใจ เกิดขึ้นในจิตเรา
    [20:10:04] KANANUN: เราปฏิบัติธรรมเพื่อจิตเป็น "สุข"
    [20:10:32] KANANUN: เมื่อปล่อยวางมากขึ้นจนจิตเป็นสุขมากขึ้น
    [20:10:42] KANANUN: จิตเราก็ไม่หวั่นไหว ไปตาม
    [20:10:49] KANANUN: "โลกธรรมแปด"
    [20:10:54] KANANUN: "อคติ"
    [20:10:59] KANANUN: แรงกิเลส"
    [20:11:25] KANANUN: มันเบาลง รู้เท่าทัน จิต รู้เท่าทันอารมณ์ของเรามากขึ้นเพิ่มขึ้น
    [20:11:34] KANANUN: จนเห็น
    [20:11:41] KANANUN: อริยสัจสี่
    [20:11:44] KANANUN: คือ
    [20:12:33] KANANUN: ทุกข์ เห็นว่า ทุกสรรพสิ่งไม่เที่ยงเป็นทุกข์หากเราไปยึดมั่นกับมัน ว่าเที่ยงไม่แปรเลี่ยน ไม่แก่ไม่เจ็บ ไม่ตาย
    [20:13:25] KANANUN: สมุทัย เหตุแห่งทุกข์ เพราะเราไปหลงอยากให้มันได้ดังใจ เมื่อไม่ได้ ไม่มี ไม่เป็น ก็ทุกข์
    [20:14:21] KANANUN: นิโรธ ความหลุดพ้น อันแต่แก่การพ้นจากวัฏฏ์แห่งการเวียนว่ายตายเกิดทั้งปวง การเข้าถึงพระนิพพาน
    [20:14:48] KANANUN: มรรค หนทางแห่งการปฏิบัติเพื่อหลุดพ้นคือ การปฏิบัติเพื่อพระนิพพาน
    [20:15:29 | Edited 20:16:00] KANANUN: โดย ประกอบไปด้วย มรรคมีองค์แปด อันมีสัมมาทิฐิเป็นปฐม
    [20:28:21] KANANUN: จนเกิด"ปัญญา " เห็นในธรรม ในความเป็นธรรมดา ในความแปรปรวน ไม่เที่ยง
    [20:28:52] KANANUN: จนจิตวิมุติหลุดพ้น จากการยึดติด จากภพภูมิทั้งปวง
    [20:29:18] KANANUN: พ้นจากแรงดึงดูด จากกฏของกรรม
    [20:29:38] KANANUN: พ้นจากสังสารวัฏฏ์
    [20:30:25] KANANUN: มีพระนิพพานเป็น วิมุติสุขเพียงจุดเดียว
    [20:31:17] KANANUN: เมื่อจิตสัมผัสในพระนิพพานแล้ว ความโลภ โกรธ หลง ก็คลายไปทีละน้อย
    [20:31:53] KANANUN: ความศรัทธาในพระพุทธเจ้า ในพระธรรม ในพระอริยะสงฆ์ ก็ยิ่งขึ้นไป ตามลำดับ
    [20:32:31] KANANUN: เห็นผล เห็นทาง เห็นมรรค เห็นธรรมชัดเจนแก่ใจเป็นปัจจัตตังอันรู้ได้ด้วยตนเอง
    [20:33:07] kesa: สาธุ
    [20:33:46] KANANUN: เป็นความรู้เฉพาะตน เป็นธรรมอันสัมผัสใจเราได้ จากการปฏิบัติ การพิจารณาการเจริญปัญญาของเรา ผู้ปฏิบัติ
     

แชร์หน้านี้

Loading...