วิธีการพิสูจน์ เขื่อเรื่องสิ่งที่มองไม่เห็น???

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย na_krub, 21 ตุลาคม 2012.

  1. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916
    ขออนุญาตพวกท่านทั้งหลายได้เผยแผ่ เพื่อให้ผู้ที่สงสัยได้คลายความสงสัยในตัวพวกท่านด้วยเทอญ และอโหสิกรรมให้ข้าพเจ้าด้วย ถ้าหากข้าพเจ้าได้ล่วงเกินท่านโดยที่ไม่ได้มีเจตนา


    ผมก็ไม่รู้จะตั้งกระทู้ที่ห้องไหนดี ขออนุญาตในห้องนี้ก็แล้วกันนะครับ น่าจะเหมาะกับผู้ที่ศึกษาเรื่องธรรมมะใหม่ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็น สิ่งที่เรามองไม่เห็น บางคนอาจจะเรียกวิญญาณ ผี หรืออะไรก็แล้วแต่ ส่วนผมขอเรียกพวกเค้าเหล่านั้นว่า "เพื่อน" นะครับ

    หลายคนที่ไม่เชื่อเกี่ยวกับเรื่องทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ก็เนื่องจากว่าไม่มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ได้ละกายหยาบหรือรูปขันธ์ มาปรากฎให้เราเห็นกันแบบจะๆ เพื่อที่ผู้คนจะได้ไม่กล้าทำความชั่ว ได้ขยันหมั่นทำแต่ความดี สำหรับตัวผมแล้วเชื่อในเรื่องของเวรกรรมมาตั้งแต่เด็ก โดยไม่ต้องมาพิสูจน์อะไรให้เห็นก็ได้ เชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วแน่นอน ถึงแม้จะมีข้อสงสัยในตัวเองบ้างก็ตามว่า ทำไมผมไม่สามารถเห็นพวกเค้าเหล่านั้นได้เลย แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ผมมีวิธีการพิสูจน์ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาตั้งแต่เข้าศึกษาธรรมมะใหม่ๆ จนปลื้มในรสพระธรรม กระทั่งจนถึงปัจจุบัน

    ในเรื่องของการทำความดีเราคงไม่ต้องพูดถึงกันมาก เอาแบบผู้ที่เป็น "เพื่อน" เลยดีกว่า สำหรับเพื่อนของเรานี้ ที่ไม่สามารถสร้างบุญ สร้างกุศล ให้อยู่บนสวรรค์ชั้นต่างๆได้แล้ว พวก"เพื่อน"ของเราก็จะอยู่ตามสถานที่ต่างๆ เช่น แยกต่างๆ วัด สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆที่คนไปกราบไหว้บูชา แม้กระทั่งหนอง คลอง ริมทางรถไฟ ผู้ที่ชอบไปกราบพระ ไหว้พระ ตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เราก็จะได้พบกับ"เพื่อน"ของเราโดยตลอด แต่คนเราส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจ"เพื่อน"เราเลย "เพื่อน"ของเรานี้ก็จะรวมกันเป็นกลุ่ม บริเวณรอบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาทิ ป่าช้า ต้นโพธิ์ ต้นไทร เพื่อให้พวกเราได้เห็นเป็นจุดสังเกตุง่ายขึ้น เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว เรามาเริ่มกันเลยเนาะ
    ตั้งจิตให้นิ่งๆ มีสมาธิ ใครฝึกมาแบบไหนก็ปฏิบัติตามครู อาจารย์ที่ท่านสอนมาแบบนั้น "ถ้าเพื่อนทั้งหลาย อยู่ในสถานที่แห่งนี้จริง โปรดแสดงให้ข้าพเจ้าได้เห็นที่เป็นรูปธรรม เช่น ลมพัดเย็นๆ กิ่งไม้ไหว ต้นไม้สั่น ด้วยเทอญ เดี๋ยวข้าพเจ้าจะทำบุญ อุทิศไปให้เพื่อนทั้งหลายและขอให้เพื่อนทั้งหลายรอรับบุญที่ข้าพเจ้ากำลังจะทำในครั้งนี้ด้วยเทอญ" ต่อจากนั้นให้ท่านสังเกตุดีๆกับลมที่ไม่ใช่ธรรมชาติ จริงๆดูเหมือนจะเป็นลมพัด แต่แท้จริงแล้วคือพวกเค้าเหล่านั้นได้ขย่มหรือว่าช่วยกันโยก เพื่อให้เราสังเกตุเห็นได้ง่ายๆ จากนั้นเราไปกราบพระ หย่อนเงินเพื่อถวายดอกไม้ธูปเทียน ค่าน้ำค่าไฟ ชำระหนี้สงฆ์ ค่าบำรุงต่างๆในวัด ก็อย่าลืมเอ่ยถึงพวกเค้าเหล่านั้นด้วย หย่อนปุ๊บเอ่ยปั๊บ บุญที่เป็นแสงก็พุ่งไปหาเลย ก่อนกลับก็ให้อีกครั้ง คราวนี้เบิกบุญของเราที่เคยทำมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันให้กับ"เพื่อน"เราอีกที ตามที่แต่ละคนถนัด หรือใครจะทำแบบผมก็ได้นะครับ
    การอุทิศควรอุทิศ ๒ ครั้ง
    ๑)ให้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลสถานที่แห่งนั้น
    เอาจิตไว้ที่กลางหน้าผาก หายใจเข้าพุท โธ ลึกๆ ๓ ครั้ง [ด้วยอำนาจบุญบารมี แห่งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมามอบให้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่อยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ ขอให้ท่านทั้งหลายได้รับผลบุญของข้าพเจ้า เพื่อที่ท่านทั้งหลายเหล่านี้จะได้มีอำนาจอิทธิฤทธิ์ที่สูงส่งยิ่งๆขึ้นไป ได้พ้นจากวิบากกรรมต่างๆ ได้ไปสู่ยังภพภูมิที่ดียิ่งๆขึ้นไป และได้พบหนทางแห่งการปรินิพพานด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ]
    ๒)ให้กับ"เพื่อน"ผู้ที่ตกอยู่ในวิบากกรรมในสถานที่แห่งนั้น
    [ด้วยอำนาจบุญบารมี แห่งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมามอบให้กับผู้ที่ตกอยู่ในวิบากกรรมทั้งหลายที่อยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ ขอให้ท่านทั้งหลายได้รับผลบุญของข้าพเจ้า เพื่อที่ท่านทั้งหลายเหล่านี้จะได้พ้นจากวิบากกรรมต่างๆ ได้ไปสู่ยังภพภูมิที่ดียิ่งๆขึ้นไป และได้พบหนทางแห่งการปรินิพพานด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ]
     
  2. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916
    ยาวไปหน่อย แต่อย่าพึ่งเบื่อนะครับ

    ถ้าจะถามผมว่า ผมรู้ได้อย่างไร ก็ต้องอาศัยกับผู้ที่ได้ของวิเศษติดตัวมานั่นแหละครับ ช่วยอธิบายให้เห็น ผมปกติก็ชอบมอง"เพื่อน"บ่อยๆนะครับ แต่ก็นะมองทีไรเป็นท้อ ขนาดอยากมาให้เห็นจะๆยังไม่เคยได้เจอเลย ก็ได้ผู้ที่ได้ของดีติดตัวมาบอกว่าอยู่ตรงไหนๆ ครั้งแรกๆคิดว่าเป็นแค่ลมธรรมดา แต่เมื่อมองรอบๆทำไมลมมันพัดแต่ตรงนี้ ตรงนั้น เฉพาะจุด เลือกเวลาพัดด้วย ถ้าเรามองไปถึงจะพัด ถ้าเราไม่มองก็หยุด ถ้าสถานที่ไหนมี"เพื่อน"เยอะ ลมเย็นสบายเลยล่ะครับ แต่เย็นเฉพาะที่เราที่เดียวนะ

    เมื่อเราอุทิศบุญให้เสร็จพวก"เพื่อน"เราก็จะหายไป ลมหรือต้นไม้ที่พัดนั้นก็จะหยุดสนิท แต่มีบางที่ก็ยังพัดอยู่บ้างแต่เบาๆ ความหมายก็คือ"เพื่อน"รอส่งเรา ยิ้มด้วยใบหน้าที่สดใส ถ้ามีต้นหญ้าไกล้ๆให้สังเกตุดูได้ ลมไม่มีซะหน่อย แต่ต้นหญ้าพัดไหวไปมา นั่นล่ะครับ พวกเค้าเหล่านั้นก็อยู่แถวๆนั้นแหละ ผมไปที่ไหนก็แล้วแต่ เมื่อกลับมาถึงบ้านเวลาทำการสวดมนต์จะนึกถึง"เพื่อน"สถานที่นั้นๆเสมอ เวลาสวดมนต์จิตมันก็จะพาไปที่นั่น สวดไปขนลุกไป ทำให้การสวดมนต์มีความสุขมากและไม่เบื่อที่จะทำการสวดทุกวัน ถ้าเราไม่สวดเมื่อไหร่"เพื่อน"ของเราก็จะลำบาก เมื่อตั้งใจสวดมนต์แล้ว แผ่เมตตาให้"เพื่อน"แล้ว อย่าลืมตั้งจิตให้"เพื่อน"ของเราสวดมนต์เองได้นะ "เพื่อน"จะได้พ้นจากวิบากกรรมไวๆ

    ล่าสุดวันพระสารทที่ผ่านมา รู้สึกใจหายนิดๆที่ความรู้สึกบอกว่า"เพื่อน"ของเราได้กลับไปกันหมดแล้ว ถ้าใครทราบว่าในช่วงที่ผ่านตั้งแต่แรม 1 ค่ำ จนถึงแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ที่ผ่านไป เป็นวันที่"เพื่อน"นั้น ขึ้นมาจากนรกภูมิ เพื่อมารอรับบุญจากญาติพี่น้องของตนเอง ในช่วงนั้นผมมีความสุขมาก รู้สึกว่า"เพื่อน"มาสวดมนต์ด้วยทุกคืน จิตนิ่งมากๆ พอหลังจากวันที่"เพื่อน"กลับไป การสวดมนต์มันไม่เหมือนเก่า รู้สึกว่าไม่มีกำลังใจจะสวด แต่ก็ต้องฝืนสวดมนต์ เพราะว่า"เพื่อน"ใหม่ในแต่ละวันก็จะทยอยมากันเรื่อยๆ จนต้องหากำลังใจมาเสริม โดยการไปกราบไหว้ครู อาจารย์ตามสถานที่ใหม่ๆ ล่าสุดก็ได้ไปวัดน้อย หลวงปู่เนียม สุพรรณบุรี เพื่อให้มีกำลังใจกลับมาสู่สภาวะปกติ ซึ่งมันก็ได้ผลเหมือนเช่นเคย


    เอาของดีวัดน้อย หลวงปู่เนียม มาฝากนะครับ
    "อิติ อะระหัง สุคะโต หลวงพ่อเนียม
    นามะเต อาจาริโยเม ภันเต
    อายัสมา อาจาริโยเม ภันเต โหหิ"



    อย่าได้เชื่อผมจนกว่าจะพิสูจน์และรู้ได้ด้วยตนเอง


    ผู้ที่มีความสงสัยในเรื่องการอุทิศบุญ ฝากข้อความในกระทู้หรือส่วนตัวได้นะครับ ยินดีต้อนรับ เพื่อนพุทธศาสนิกชนทุกๆท่าน

    อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2012
  3. สุดขอบฟ้า

    สุดขอบฟ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +127
    โมทนาสาธุค่ะ
    ขอบคุณสำหรับสาระดี ๆๆ มีคุณค่าแบบนี้
    บุญรักษานะคะ
     
  4. jiranuchauth

    jiranuchauth Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +97
    สาธุ
    หนูก็เชื่อต้องแต่จำความได้แล้ว เลยกลัวผีเข้าไส้ฮ่าๆๆ
     
  5. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ผมชอบคำว่า เพื่อน ครับ
     
  6. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    แฮ่ๆๆ คุณ na_krub ดิฉันอ่านไปขนลุกไป แต่ดีใจและอนุโมทนากับจิตเมตตาของคุณนะคะ
    ความจริงพวก "เพื่อน" เขาน่าสงสารค่ะ แต่"เพื่อน"บางพวกก็เกเรและใช้วิธีการเข้าหาไม่ค่อยเป็น มันทำให้ดิฉันรู้สึกแย่ตั้งแต่เด็กมาจนถึงเดี๋ยวนี้ ... แต่ดิฉันไม่ขี้เหนียวเลยนะ ผลบุญทั้งหลายดิฉันแผ่ให้ตลอดทั้งใกล้-ไกล ทั้งที่เกี่ยวข้อง-ไม่เกี่ยวข้อง ทั้งนึกถึง-นึกไม่ถึง ไม่มีประมาณค่ะก็ตามส่วนบุญส่วนกุศลที่พวกเขาจะรับได้ ... สามแยกนี่ไม่ไหวค่ะ รวมถึงบางสถานที่ด้วย ... จิตดิฉันยังไม่แข็งพอค่ะ สาธุ
     
  7. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916
    อนุโมทนาสาธุกับคุณ rungdao ด้วยครับ

    "เพื่อน"ที่เกเร อืม เข้าใจครับ แต่คุณrungdaoก็ทำถูกแล้วนี่ครับ แผ่เมตตาแบบไม่มีประมาณ อย่าไปคิดว่าเขาเกเรเลยครับ "เพื่อน"จำพวกนั้น ยังยากที่จะเข้าใจในเรื่องของบาปบุญ เราต้องแผ่ออกไปบ่อยๆ เค้าเหล่านั้นจะได้รู้รสของบุญเอง ส่วนตามแยกหรือโค้งที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ "เพื่อน"พวกนี้แรงครับ ต้องอาศัยกลับมาบ้าน สวดมนต์ให้แล้วแผ่เมตตาไปให้อีกที "เพื่อน"ที่ประสบอุบัติเหตุรวมกันมากๆ ชอบทักทายแบบรุนแรง ถ้าผู้ใดไม่มีครู อาจารย์ที่ดีหรือพรรคพวกเยอะๆงานก็เข้าเหมือนกัน

    อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...