สมาธิกับการรักษาโรค...เค้าทำอย่างไรกันคะ???

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Broccocat, 4 ธันวาคม 2013.

  1. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ลองไปสหจโยคะของ พระแม่ศรีมาตาจี นิรมาลาเทวี ดูไหมคะ สามารถใช้รักษาโรคได้ แต่ดิฉันไม่เคยลองหรอกนะคะ เพราะเคยอ่านๆดูแล้วรู้สึกว่าจะเป็นการเอาเรื่องขันธ์ห้า เช่นเรื่อง กามกิเลส มาใช้ในการเข้าถึงญาณ ในการใช้รักษาโรค (ขอบายคะ แบบนี้) ....... พอดีคุณแม่ดิฉันท่านปวดขามาก เพราะเข่าเสื่อม มาเล่าเรื่อง ที่ค้างไว้ต่อ ถือว่าเล่าสู่กันฟังสำหรับคนที่อยากใช้สมาธิมาในทางบำบัดขันธ์ ห้า ก็คงต้องไป สายสหจโคะ ของ พระแม่ศรีมาตากี เทวี ผู้เป็นชาวอินเดียที่คิดค้นเรื่องนี้ มารดาของดิฉันท่านมีโรคปวดเข่าอยางที่ว่าจึงมีคนเขาชวนให้ไปลองทำสมาธิ ของทางสายพรามณ์ที่ว่านั้นเอง คุณแม่ทีหลังท่านก็ไม่เอาเหมือนกัน เพราะเห็นว่ามีวิธีแปลกๆในการเข้าถึงญาณ ไปไปมาๆ แต่มีคนที่เขาฝึกยืนยันว่าหายป่วยจากโรคกันจริงๆแม้แต่มะเร็ง

    ใครชอบก็ลองดู แต่สำหรับดิฉันขอนั่งสมาธิธรรมดาๆสายพระพุทธเจ้าดีกว่าคะ เพราะไม่รู้จะไปห่วงบำรุงขันธ์อยู่ทำไม


    Sahaja Yoga Thailand
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2013
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ๕๕๕๕ เรื่องภาวนาผสมคำเรื่องปกตินะ..ถ้าไม่เป็นนะแปลก ๕๕
    เพราะภาวนาขณะฝึกกับภาวนาที่ชอบเพื่อสร้างกำลังสติ
    ระหว่างวันถ้าใช้คนละคำถือว่าปกติและไม่แปลกช่วงนี้ถ้าอ่าน
    ดูแล้วฝึกอะไรอยู่.ก็ให้โน้มคำภาวนาไปก่อนเพื่อเป็นทางเดินให้จิตสร้างแนว
    ทางปฏิบัติให้ตนเองก่อน..ยกเว้นต่อไปภาวนาอะไรก็ตามแค่คิดว่าจะฝึกกสิณ
    ภาวนาคำอะไรพอถึงโหมดที่จิตเป็นทิพย์..จิตจะไปยังกสิณกองแรกที่เราฝึก
    ได้เองเป็นเรื่องปกติ..ส่วนขอบารมีไม่มีปัญหาสำหรับกรณีนี้แต่จะได้ไม่ได้ผล
    อีกเรื่องไม่เป็นไร..แต่จะฝึกกสิณอะไรก็ตามเอาแค่กองใดกองหนี่งก็พอ..
    แต่ถ้าเป็น กสิณพระจะดีอย่างคือ.จะทำให้ใจเราระลึกถึงพระอยู่ตลอดเวลา

    ซึ่งเป็นเครื่องป้องกันการคิดอกุศลทั้งปวงได้ดี.แต่สุดท้ายจริงๆก็ต้องให้ได้
    ทั้ง ๒ สองอย่างนั้นหละในอนาคต.แม้ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะใช้ทำอะไรก็ตาม.
    .เด่วทำได้จะรู้เอง..แต่ตอนนี้เลือกฝึกอย่างใดอย่างหนึ่งให้ได้ก่อนให้ตรง
    จุดนี้โดยไม่ต้องสนใจนิมิตรแทรกต่างๆหรือการรับรู้พิเศษต่างๆทุกกรณี.
    แล้วค่อยมาว่ากันต่อและต่อไปกลับมาอ่านที่เคยๆเขียนไว้ก่อนหน้าหรือ
    ที่เคยบอกๆไว้ก่อนหน้าจะไม่งง ๕๕๕ และจะเข้าใจอะไรๆได้จริงๆภายหลัง

    ปล.ส่วนอาการเจ็บด้านบนที่มันยังรู้สึกตึงๆหลังนั้น
    ต้องประมาณ ๔ ถึง ๕ หลังจากนอนราบ
    กับพื้นเรียบแบบนอนหงายหน้านะไม่ใช่คว่ำหน้า ๕๕๕
    อาการจะดีขึ้นเองไม่มีไรหรอก..​
     
  3. M_Y

    M_Y เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +220
    เอาจิตไปรู้ในที่ๆเราปวด ให้สมาธิ อย่างน้อยก็ขณิกสมาธิเกิดพอรู้ไปเรื่อยๆ จะเกิดความสุขนิดๆเกิดขึ้น อาการเจ็บปวดก็จะหายไป เช่น ปวดหัว เป็นต้น จากประสบการณ์ตรงนะคะ แต่ถ้ารักษาอาการบาดเจ็บจากบาดแผล ระงับเวทนาความเจ็บปวดอันนี้ไม่ทราบค่ะ

    เคยปวดท้องอย่างรุนแรงมากมาก่อน พยายามกำหนดรู้ให้เวทนาดับ แต่ยากมาก ได้แต่ภาวนาขอให้รอดๆ บางครั้งปวดแรงมากจนวูบไปเลยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 ธันวาคม 2013
  4. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    การเข้าฌานระงับความเจ็บปวดได้ดีนะครับ แต่ปวดใจ..เข้าฌานยังไงก็ไม่หาย
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ถ้าแบบเจ็บปวดร่างกายไม่มากใช้การกำหนดรู้มันจะพอทุเลาลงได้แต่อาจจะกลับ
    มาได้อีกในเวลาอันสั้นหากจิตย้อนกลับมาคิดเรื่องที่เคยเจ็บปวดได้
    ยกเว้นว่าจะพักผ่อนหรือมีช่วงที่ร่างกายไม่ได้กลับไม่คิดถึงอาการอีกก็จะหาย
    และต้องอาศัยระยะเวลาที่เพียงพอในการกำหนดรู้ร่วมด้วยจนกว่าอาการที่ปวดๆจะทุเลา
    และเป็นวิธีการที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายทำได้ง่าย..
    ส่วนถ้ามีอาการหนักๆ.นอกจากการกำหนดรู้แล้วต้องพัฒนากำลังสมาธิขึ้นมาให้สูงกว่านั้น
    ด้วยความพยายามพอสมควรถึงจะระงับได้เลยในขณะนั้นและต้องตั้งใจพอสมควรครับ
    เพราะความเจ็บปวดของร่างกายมันแปรผันโดยตรงกับเรื่องความสงบของจิตด้วย.แต่จะหาย
    ขาดดีเลยหรือไม่นั่นยังนอกจากต้องยอมรับตามความเป็นจริง..
    .ยังต้องปล่อยไปเป็นตามกลไกลทางธรรมชาติ อาจใช้การรักษาด้วยการทานยาไม่ว่าแผนเก่าแผนปัจจุบัน
    การดูแลเรื่องสุขภาพ สภาพความสะอาดของสิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัย
    การรักษาอารมย์ให้สงบระหว่างวัน. รูปแบบการรับประทานอาหารการกิน และใช้ระยะเวลาอีกซักพักหนึ่งร่วมด้วย.
    ส่วนใครที่ปวดใจก็ตัวใครตัวมันนะครับ ๕๕๕
     
  6. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817

    ข้าพเจ้าเมื่อเลิกภาวนา ยุบหนอ พองหนอ อาจารย์ ก็สอนให้ภาวนา พุทโธ นั่นแหละ แต่การใช้ภาวนา พุทโธ ทำให้ข้าพเจ้ามีอาการ นอนไม่หลับ ข้าพเจ้าก็เลยหันไป ฝึกกสิณไฟ เพราะเคยอ่านพบในหนังสือ ในสมัยนั้นอายุประมาณ 14-17 ปี ฝึกมาตลอด จึงพอนอนหลับได้บ้าง แต่อาการนอนไม่หลับก็ไม่หาย ต้องหันไปทำอะไรเพลินๆกลางวันไม่หลับ กลางคืนจึงหลับสบาย
    ความจริงแล้ว เกี่ยวกับการรักษาโรคด้วยสมาธิ ข้าพเจ้าได้ชี้แนะ หรือแนะนำอย่างชัดแจ้งแล้วว่า ใช้สมาธิรักษาโรคส่วนใหญ่ไม่ได้ขอรับ จะใช้จิตสั่งให้หยุดคัน หยุดปวดอย่างที่คุณเข้าใจไม่ได้ดอกขอรับ
    การไปโรงพยาบาลไม่ใช่เรื่องที่จะต้องคิดมากว่าป่วยมากป่วยน้อย ข้าพเจ้าเมื่อปีก่อน ก็ป่วยเป็นหวัด ปีนี้ก็ป่วยปวดเอว ชนิดที่เรียกว่า เดินเร็วไม่ได้ต้องเดินช้าๆ ไม่อย่างนั้น ถูกแรงดึงดูดของโลก ดึงดูดให้กระดูกเคลื่อนที่ ปวดชนิดที่เรียกว่า เดินไม่ได้ ต้องหยุด ก็เลยต้องไปโรงพยาบาล กินยา ๑ วัน(วันเดียว) ก็หาย กินยาต่ออีกหนึ่งอาทิตย์ ก็หายเป็นปกติ เกือบทุกส่วนที่เคยเจ็บปวดก็หายตามไปด้วย
    การกินยา หรือกินสมุนไพรอย่างที่คุณเล่ามา อย่าอวดรู้รับประทานโดยที่แพทย์ไม่ได้สั่ง คือหากินเอง ไม่ได้นะขอรับ เพราะขืนกินหลายๆอย่างเข้าไป แทนที่จะหายหรือป้องกันรักษาโรค อาจจะกลับกลายเป็นอันตรายต่อร่างกายก็เป็นได้ขอรับ
     
  7. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094
    - วิธีภาวนาของแต่ละคนไม่เหมือนกันหรอกค่ะ สำหรับเราก็เวิร์คอยู่นะ
    - การใช้จิตสั่งกาย...เราทำได้อ่ะค่ะ แต่คุณทำไม่ได้...อันนี้ก็นะ คุณอาจจะต้องไปพัฒนาหรืออะแดปวิธีตามแต่สะดวกค่ะ
    - นอนไม่หลับ ขอแนะนำ...ถ้าตอนเย็นๆ ไปออกกำลังกายซักชั่วโมงนึง พอประมาณซักสี่ห้าทุ่มก็ง่วงอัตโนมัติละค่ะ หรือไม่ก็หาคลิปในยูทู๊ปที่เป็นเสียงคนพูดแบบกระซิบๆ เราฟังและดูคลิปนั้นนะ ดูไปได้ซัก 2 นาทีก็หลับไปเฉยเลย
    - เรื่องยาสมุนไพร นี่ไม่ได้อวดรู้นะคะ หนังสือก็มี ไปหาอ่านเถอะค่ะ เป็นอะไรที่เบสิคๆ ใครๆ ก็รู้ บางทีของแบบนี้ก็เป็นภูมิปัญญาเน๊าะ...แล้วแต่ด้วยว่าใครมีหรือไม่มี
     
  8. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094
    - มีกสิณพระด้วยหรอคะ ละคำภาวนาของกสิณพระคือคำว่าอะไรคะ

    - ตรงประโยค ปล. ส่วนอาการเจ็บด้านบน ต้องประมาณ 4 ถึง 5<<<นี่คืออะไรคะ

    - เค้านอนบนเตียงอ่ะค่ะ ไม่ได้นอนบนพื้นนะ // นอนหงายสิ...ปวดหลังอยู่

    - ตอนทำสมาธิภาพพระส่วนมากจะหลับตาค่ะ แต่แสงสีทองอ่อนผสมสีรุ้งนั่น ถ้าจำไม่ผิดนะ ส่องลงมาจากมุมบนซ้าย ทะแยงลงไปที่มุมล่างขวา อ่ะค่ะ มีหลายเส้น...เส้นแสงนี่ก็มีผลหรอคะเนี่ย โอ้ววว อะเม๊ซิ่ง

    - หลังจากนี้ก็ตัวใครตัวมัน...อ่าววววว ได้ไงๆ อย่าทิ้งเค้าจิ ไรเนี่ย งง เบย น่าาาา นะนะ ใบ้ให้หน่อยสิคะว่า หลังจากนี้ต้องทำยังไงต่อ

    - ภาพพระอาทิตย์ของนาซ่า ถ้าเป็นภาพนิ่งก็ภาพถ่ายไงคะ ถ้าจะให้ไฟลุกก็เป็นภาพวีดีโอค่ะ
     
  9. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094
    เคยดูวีดีโอสัมภาษณ์นี้แล้วค่ะ เซิร์ชไปเซิร์ชมา ก็เกี่ยวกับเรื่องจักระ นั่นล่ะค่ะ
     
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ปล. หวังว่าจะพอเข้าใจ..
     
  11. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094
    ปล. จะพยายามทำความเข้าใจ และสงสัยให้น้อยลงค่ะ

    แต่ๆๆ ขอสงสัยอีกซักนิ๊ดดดดดดด...อิอิ

    - ภาพกสิณทุกกองที่เราจะเพ่ง ต้องเป็นภาพนิ่งๆ ใช่ไหมคะ แล้วถ้าเป็นกสิณลมล่ะคะ ปกติลมต้องพัดพริ้วหวิวไหว(ยังไม่เคยทำกสิณลมหรอกค่ะ แต่ก็อยากรู้เผื่อไว้หน่อยน่ะค่ะ)

    - เตียงที่นอนนุ่มนิ่มดีอ่ะค่ะ แต่ถ้าให้ไปนอนพื้นไม่เอาอ่ะ...เดี๋ยวหลังจะตรงเป็นไม้บรรทัด

    - ถ้าที่แปลว่าอันดับแรก เราเข้าใจว่าเป็น... งั้นก็เคยเห็นในสมาธิแล้วล่ะค่ะ(ดีใจๆ)
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ตอบ กรณีทั่วๆไปแบบหลับตาในระดับเริ่มต้น
    .ถ้าใช้ภาพอย่างในกลุ่มกสิณสี
    ภาพที่ใช้ควรจะเป็นภาพนิ่ง..
    ถ้าเป็นของจริงอย่างในกลุ่มกสิณกลางบางกอง
    เช่น ดิน น้ำ ไฟ ก็ควรเพ่งในตำแหน่งที่นิ่ง.แต่บางกองใช้ความ
    รู้สึกที่สัมผัสกายแล้วจับเอามาเป็นอารมย์ เช่น ลม และ อากาศ
    ในระดับต่อมาก็พัฒนาระลึกกสิณกองที่ฝึกให้ติดใจไว้และติดตาให้ได้
    .แต่ว่ามันจะติดตาได้ไม่ทุกกอง.เพราะลักษณะทางกายภาพที่ใสของ
    กสิณกองนั้นเช่น น้ำ อากาศ และลม..เพราะฉนั้นกสิณทั้ง ๓ กองนี้ถ้า
    เรามาฝึกแบบเพ่งแล้วหลับตาเพื่อให้จำและตั้งเป้าไปติดตาติดใจจะทำ
    ได้ยากมากๆ..จึงจำเป็นถ้าจะฝึก ๓ กองนี้ต้องเริ่มต้นด้วยการ
    สร้างทิพยจักขุให้ได้ก่อนเป็นอันแรก
    คืองี้ กสิณกองอื่นๆถ้าสังเกตุนะ
    การเริ่มต้นจะฝึกเพื่อให้ติดตาติดใจก่อนแล้วจะพัฒนามาเป็นการสร้างทิพย์จักขุ..
    ประเด็นนี้พอเข้าใจนะ
    .

    ส่วนใครจะฝึกเพื่อนำกำลังไปขึ้นวิปัสสนา หรือใช้ป้องกันอารมย์กระทบ
    จากภายนอกระหว่างวัน.จะพัฒนาไปถึงขั้นใช้งานแบบอฐิษฐานจิต หรือ
    พัฒนาต่อยอดเพื่อนำกำลังกสิณมาใช้งาน.หรือใช้เป็นพื้นฐานสมาบัต
    เพื่อต่อยอดปฏิสัมภิทาญาน(ส่วนมากพระเกจิหรือพระอริยะ)
    หรือใช้สร้างกำลังจิตให้ตัวเอง.หรือต่อยอดไปทางสายเดินธาตุเพื่อไป
    ต่อในส่วนวิญญานธาตุ.
    หรือเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเข้าสู่ความไม่มีกิเลส
    อะไรก็แล้วแต่ตามจริตตามเหตุและปัจจัยที่จะสัมผัสได้ของบุคคลนั้นๆ.

    ส่วนการทิพย์จักขุในที่นี้เป็นการสร้างผ่านการมองในตำแหน่งระหว่างคิ้ว
    บางคนเรียกตาที่ ๓ บางก็เรียก อุนาโลม หรืออะไรก็แล้วแต่จะเรียกนั้นหละ
    การฝึกเราจะตัดการมองผ่านลูกนัยต์ตาทั้ง ๒ ข้างเราออกไป.จะมโนหรือสมมุติไปว่าเรามีแค่เพียงตาเดียว
    คล้ายๆ Avatarนั่นหละแล้วมองผ่านตาเดียวสมมุติไปเรื่อยๆ.ไม่ว่าจะฝึกแบบ
    หลับตาหรือลืมตา สำหรับ กสิณที่ลักษณะทางกายภาพใสๆนั่นเอง
    .เพียงแต่การฝึก ณ ตำแหน่งนี้ถ้ากำลังสมาธิน้อยไปจะทำให้ปวดศรีษะได้
    แต่แก้ได้จากการไปเปิดจักระจุดแรกกลางกระหม่อมให้ได้ก่อน

    หรือฝึกสมาธิเพิ่มเติมไปเรื่อยๆและฝึกเจริญสติระหว่างวันให้ต่อเนื่อง
    เพื่อสะสมกำลังสมาธิมาเสริมตรงนี้ก็จะไปเป็นไร.
    ทำไมต้องสร้างตรงนี้.สังเกตุไหมเวลาจิตมันออกไปนอกกายไม่ว่า
    ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ.เราลองๆนึกๆซิว่าเรามองเห็นจากสองตาหรือว่าแบบ
    ตาเดียว นึกๆๆเอาเองนะ..และถ้าไม่ฝึกอย่างนี้เอาไว้ก่อนในอนาคต
    ข้างหน้าถ้ามีเหตุให้เราต้องต่อยอดเพื่อดึงพลังงานกสิณขี้นมาใช้งานได้
    บางช่วงที่จะโดนทดสอบการใช้ฤิทธิ์ถ้าเราให้กสิณออกจากหน้าฝากไม่ได้
    ปกติถ้าไม่ฝึกแบบนี้มันจะออกจากมือ.เราจะสู้พวกภูตหรืออสูรกายไม่ได้
    ยิ่งอสูรกายเค้าจะเก่งกว่าเราและชอบมาแบบสนัขหมู่.
    ถ้าเค้าจับตัวเราได้เราจะสู้เค้าไม่ได้
    บางคนเค้าอาจจะปรามาสว่าเราปรุงแต่งช่างเค้า. นั้นมันในนิมิตร
    แบบที่เค้าเข้าถึง..แต่ที่พูดรับรองว่ามาหาถึง
    ที่พักสภาพแวดล้อมเดิมๆเรานั้นหละ
    ไม่ต้องห่วงโดยเฉพาะพวกภูต..

    และเราจะจับพลังงานจากภพภูมิที่มีฤิทธิ์หรือกรณีอื่นๆที่ส่งมาทดสอบเราไม่ได้
    เพราะตำแหน่งนี้จะช่วยต้านช่วยส่งและจะเป็นเครื่องป้องกันเราได้ในอนาคต
    .และถ้าผ่านตรงนี้ได้และผ่านเรื่อง
    เมตตาและเรื่องการกลัวตายโดยที่ไม่ใช้ฤิทธิ์สำหรับทุกกรณี
    (ต้องใช้ได้ก่อนนะ)
    .เราจะผ่านเกณฑ์พื้นฐานเบื้องต้นสำหรับพระอาจารย์
    สายในดงได้ไปทางวิทยาศาสตร์ทางจิตควบคู่กับระดับสูงๆมากนั้น
    ท่านจะเน้นด้านปัญญาเพื่อลด ละ กิเลส และสามารถต่อยอดไปสู่การฝึกวิญญานธาตุได้
    ซึ่งต้องใช้เวลาและองค์ประกอบต่างๆโดยเฉพาะเรื่องระดับกิเลส
    ที่มีอยู่ในใจเป็นตัวแปรหลักๆ.และถ้ามาถึงจะกลับมาอ่านที่เคยเขียน
    ไว้แล้วจะเข้าใจได้เองทุ๊กกอย่างโดยไม่สงสัยแม้แต่นิ๊ดดดดดดดดเดียว

    ปล.ประมาณนี้นะ เป็นไงกลัวหรือรู้สึกยากไปไหม ๕๕๕.​
     
  13. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094

    รู้สึกยาก...ตรงที่จะนำกำลังของกสิณมาผสมกัน เพราะทุกวันนี้ยังไม่ได้ซักกสิณเลยค่ะ งื่อออ!!!

    รู้สึกกลัว...ตรงที่จะโดนพวกปี๋หลอกอ๊ะ คราวนู้นนน...นะคะ ตอนระหว่างนั่งสมาธิพุทธโธ ธรรมดา เนี่ย ก็จะมีช่วงนึงที่จะต้องเจอปี๋หลอก เราก็แผ่เมตตาให้บางตัวก็หายไป แต่บางตัวดื้อด้านมากแผ่ก็ไม่ไป ท่องนะโมตัสสะ 3 จบก็ไม่ไป ท่องอิติปิโส 3 จบก็ยังไม่ไปอีก ครั้นจะท่องชินบัญชรก็จำได้ไม่หมด...ทีนี้ก็สงสัยละ เป็นผีจริงป่าวเนี่ย ที่ท่องๆ ไปนี่เป็นชื่อพระพุทธเจ้าเลยนะ เป็นผีต้องกลัวพระสิ...นึกไปนึกมา เป็นอุปทานแน่เลย จิตปรุงแต่งไปเองรึป่าว เคยอ่านมาเค้าว่า เห็นก็คือเห็น ดูก็ดูไป แต่ไม่ต้องไปสนใจ...เราก็ลองดูหน้ามันไป แบบ มันจ้องมาแบบโคลสอัพเข้ามาเรื่อยๆ เราก็จ้องกลับ เราจ้องจนมันค่อยๆ เฟดหน้ามันหายไปทางด้านซ้าย(เปรียบเหมือนจากมองเต็มหน้าไปจนถึงมองแค่หางตาอ่ะค่ะ) ช่วงก่อนหน้านี้ไม่นาน ก็เห็นยักษ์ด้วย...แต่เราไม่กลัวหรอก เราชอบนะ รู้สึกเป็นอะไรที่ศิลปะวัฒนธรรมงดงามอ่ะ พอเห็นก็ อุ๊ย!!! นี่ยักษ์วัดแจ้งกับยักษ์วัดโพธิ์นี่นา 555 ใช่รึป่าวก็ไม่รู้ อาจจะเป็นยักษ์ที่อื่นก็ได้ ตนนึงสีเขียว อีกตนนึงสีแดง...น่ารักดีพี่ยักษ์ อิอิ
     
  14. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    กสิณง่ายกว่าสมาธิ คะ ลองไปซื้อชุดกสิณวัดยานนาวามา (แต่ตอนนี้ ย้านนั้น ฝั่งธน เกาะรัตนโกสินธ์ ท่าพระจันทร์ เพลินจิต สุขุมวิท ฯ ในเมืองถ้าได้ไปเมืองไทยอีกดิฉันคงไม่ย่ากรายไปที่เหล่านั้นอีกแน่ เหอะ เหยียบไปอีกไปทีไร จิตตกแทบบ้า ) ดิฉันลองแค่สามวันเต็ม สีมันก็ยังคะมุกคะมัว แต่ดวงกสิณนะเห็นชัดแล้ว เสร็จแล้วช่วงหลังก็ไม่เคยฝึกอีกเลย แต่นานจนค่อนปี มานั่งกรรมฐาน ดวงกสิณมันก็ขึ้นมาให้เห็นตอนนั่งสมาธิ


    ป.ล คุณ cat มีโรคอะไรหรือเปล่าคะเห็นสนใจเรื่อง การเอาสมาธิไปรักษาโรค ดิฉันเองก็ไม่ได้ป่วยอะไรแต่ทีแรกที่มาสนใจเรื่องพวกนี้ก็เพราะ จะเอาไว้ไปรักษา คนรู้จักที่ เป็นมะเร็ง
     
  15. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950

    แนะนำ น้ำระกำ..ก่อนเข้าก่อน
    ถ้าน้ำใบบัวบกก่อนเข้าฌาน ช่วยไม่ได้

    ถ้าไม่หายอีก น้ำตา พอบรรเทาไปได้ ใช้่ได้เพียงแค่ช่วงเวลานึงเท่านั้นเอง

    และถ้ายังไม่หายอีก แนะนำ น้ำใต้ศอกไปเลย ง่ายๆ แต่ ตรงๆ
     
  16. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094

    คุณ GhostHead...
    คุณ Thanks-Epi...

    ใครทำอะไรให้ปวดใจหรอคะ โอ๋ๆๆๆๆ...ไม่รู้จะปลอบใจยังไงดี เรามีแต่น้ำใจให้นะ อิอิ หรือๆ จะทานผลไม้พวกตระกูลเบอรี่ไม๊คะ จะได้สดชื่นๆ ลืมความทุกข์ ความเจ็บปวด หรือเป็นแบบขวดสำเร็จก็ได้ ไม่จำเป็นต้องดื่มละไปนอน ดื่มได้ตลอดเวลา
     
  17. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094

    แต่เราว่าทำสมาธิง่ายกว่านะคะ ไม่รู้นะ แล้วแต่ความถนัดของใครของมันมั้ง อิอิ

    เราชอบนะ บริเวณแถวๆ วัดพระแก้ว วัง ศิลปากร ธรรมศาสตร์ นั่งเรือข้ามฟากสนุกสนาน ขึ้นท่าน้ำตรงนั้นตรงนี้ ไปเดินชมของสวยๆ งามๆ ดูวัดตามริมแม่น้ำเจ้าพระยา ชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ...มีความสุขดีออก อยากไปอีกแต่ไม่ได้ไปซักที เราเคยไปตรงท่าน้ำ จำไม่ได้เค้าเรียกชื่อท่าอะไร ที่ขึ้นมาจะเจอศิริราชอ่ะ ละมีร้านขนมโบราณแปลกๆ เยอะแยะเต็มไปหมด ละไปอีกท่านึงมีร้านหมอดูดวงยาวสุดตา ตอนนั้นไปกับเพื่อน เลยแบบ ป่ะ...ไหนๆ ก็มาละ ลองดูซักเจ้านึงเซ๊ะ...ดูเสร็จก็ อ่าาา...จ่ายไป 200 ไม่เห็นจะแม่นเลย 555

    ไม่ได้เป็นโรคอะไรค่ะ เพียงแต่วันนั้นซุ่มซ่ามนิดหน่อย เลยทำให้เจ็บหลังอ่ะค่ะ
     
  18. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    ว้าว...ต้องบอกคุณ คุณ GhostHead...แล้วว่ามมีคุณ Broccocat แนะนำ น้ำใจ เพิ่มอีกหนึ่งอย่าง

    แต่สงสัยคุณ GhostHead....จะรับหรือเปล่าเนี่ย

    ไม่มาตอบต่อ มี 2 กรณี สัญนิษฐานได้ดังนี้
    -งอน
    -ดิฉันเล่นมากไปหน่อย (ขอโทษนะคะ)
    -....น้ำตาเช็ดหัวเข่า....
     
  19. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    ลองดูนะค่ะ ไม่แน่ใจว่า อาการสำหรับเหตุปัจจุบันจะใช้ได้หรือเปล่า
    ถ้าในส่วนของโรคกรรม ต้องไม่เกินกรรมที่ทำไว้ (หรือใกล้ๆ จะหมดกรรมแล้ว) แต่ไม่ได้หมายความว่า หายปิ๊ง แต่พอบรรเทาไปได้บ้าง
    (เพราะส่วนตัวดิฉันยังใช้ไม่ได้ทุกอาการค่ะ)

    เวลาเข้าสมาธิ พอนิ่งแล้ว (คือตัวเรานิ่งได้สุดๆ แค่ไหนนะค่ะ) แล้วนึกเหมือนจินตนาการเพ่งไปจุดที่ มีปัญหา
    ถ้านิ่งได้แค่ไหนจะยิ่งดี อย่าลุ้นจนเกินทำให้ฟุ้งซ่านจนไม่นิ่ง


    ถ้ากำลังไม่ดี แรกๆ พอออกจากสมาธิอาจจะถึงกับหกล้ม-เวียนๆ-เหนื่อยๆ-ขาอ่อนเพราะรูัสึกเหนื่อยมากก็ได้นะค่ะ ไม่เป็นไรนั่งสม่ำเสมอสะสมกำลังไว้นะค่ะ หรือการเจริญสติระหว่างวันก็สะสมได้เหมือนกันค่ะ
     
  20. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094
    เรา งง มากกกกกกก...ตอนนี้เข้าใจได้เป็น 2 กรณี

    1. เราไปทำอะไรให้คุณ GhostHead หรือคุณ Thanks-Epi โกรธเหรอคะ ตอนไหน เรื่องอะไร กรุณาอธิบายด้วย อย่างไรก็ตาม ถ้าเราเคย(แต่เราไม่ได้ตั้งใจนะเพราะไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย) เราผิดตรงไหนอันนี้ไม่รู้จริงๆ แต่เราขอโทษนะคะ อโหสิกรรมให้เราด้วยนะ

    2. คุณ Thanks-Epi กับ คุณ GhostHead ทะเลาะกันเอง แล้วไม่รู้จะไปบอกใคร เลยมาลงที่กระทู้เรา ขอแนะนำ ส่ง pm ทะเลาะกันเองก็ได้นิคะ แต่ว่าอย่าทะเลาะกันเลยค่ะ อายเค้านะ คุยกันดีๆ ดีกว่านุ๊
     

แชร์หน้านี้

Loading...