สมเด็จองค์ปฐมวัดโขงขาว ข้าวตอกพระร่วง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อธิษฐานจิต

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย kyetip, 29 มกราคม 2013.

  1. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=trRpCQdnDVU]ภาพถ่ายออร่า ศูนย์พัฒนาพลังชัวิต - YouTube[/ame]

    บูชา 900 บาท พร้อมส่ง ครับ

     
  2. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    [ame=http://m.youtube.com/watch?v=90DoAxYyljs]วัวธนู วัดโขงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ[/ame]
    วัวธนูวัดโขงขาว ปี 2518 หลวงปู่คำแสน (วัดป่าดอนมูล) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่ชุ่ม หลวงปู่วงศ์ หลวงปู่ธรรมชัย หลวงปู่พรหมจักร หลวงปู่อินทรจักร หลวงปู่บุญทึม หลวงปู่เส่ง อธิษฐานจิต

    เนื้อวัวธนู เป็นทองแดงกว่า 80 % ส่วนที่เหลือ คือ ปรอท เจ้าน้ำเงิน และโลหะธาตุ ต่างๆ อีกหลายอย่าง
    แต่มวลสารหลักคือทองแดงครับ

    [​IMG]

    วัวธนูวัดโขงขาว ปี 2518 เป็นวัวธนูรุ่นเดียวที่ทันหลวงพ่อฤาษีอธิษฐาน และท่านอธิษฐานให้หลายครั้งมาก

    ประวัติครับ

    หลวงปู่คำแสน และหลวงพ่อบุญรัตน์ ท่านคุ้นเคยกันมานานแล้ว
    ประมาณปี 2518 ที่วัดป่าดอนมูล หลวงปู่คำแสน ท่านได้มอบตำราสร้างวัวธนู ให้กับหลวงพ่อบุญรัตน์ พร้อมกับสอนวิธีการสร้าง ท่านกล่าวว่า ท่านอายุมากแล้ว เกรงว่าต่อไปวิชานี้จะสูญหาย ในการนี้ ท่านได้มอบวัวธนูที่สร้างจากไม้หวายผ่าซีก และแกะคอดให้กับหลวงพ่อบุญรัตน์ด้วย
    (แทรก ต่อมาหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้รับตำราสร้างวัวธนูจาก ครูบาชุ่ม วัดวังมุ่ย ด้วย ซึ่งท่านกล่าวว่า เหมือนกับตำราของหลวงปู่คำแสนเลย ไม่มีผิดเพี้ยนกัน)
    หลังจากนั้นหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้จัดสร้าง วัวธนูขึ้นตามตำราของหลวงปู่ทั้งสองรูป
    โดยหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้นำไปให้หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล อธิษฐานจิตเดี่ยว
    เมื่อเสร็จพิธี หลวงปู่คำแสน ท่านได้กล่าวกับหลวงพ่อบุญรัตน์ว่า
    "วัวธนูชุดนี้ให้เก็บไว้ก่อน อย่าเพิ่งนำออกมา ในภายภาคหน้าคนจะถามหากันเยอะ จะเป็นที่ต้องการกันมาก"
    ตรงนี้จึงเป็นมูลเหตุให้หลวงพ่อบุญรัตน์ท่านเก็บวัวธนูชุดนี้ไว้นับแต่บัดนั้น


    นอกจากหลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูลแล้ว หลวงพ่อบุญรัตน์ยังได้นำวัวธนูชุดนี้ ไปขอความเมตตาให้ครูบาอาจารย์เสกเดี่ยว


    [​IMG]



    [​IMG]


    หลวงปู่ครูบาชุ่มโพธิโก วัดวังมุ่ย
    หลวงปู่คำแสน วัดสวนดอก
    หลวงปู่ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง
    หลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    นอกจากนี้ท่านยังนำมาที่กรุงเทพฯ เพื่อขอความเมตตาให้
    หลวงปู่เส่ง วัดกัลยา (ปรมาจารย์ ตำนาน น้ำมนต์ดอกบัวบาน) เสกให้ด้วย
    ครูบาอินทจักร วัดบ่อน้ำหลวง (พี่ชายแท้ๆ ของครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า)
    ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า
    ครูบาบุญทึม วัดจามเทวี (ลูกศิษย์ครูบาศรีวิชัย ที่ ลพ.ฤาษี ท่านเคยเล่าว่า สมเด็จองค์ปัจจุบัน ท่านกำชับหลวงพ่อฤาษีว่า ให้ไปตามหาพระที่ชื่อทึมให้เจอ)


    สำหรับหลวงพ่อฤาษีนั้น ท่านได้พุทธาภิเษกวัวธนูชุดนี้หลายครั้งหลายคราวมาก
    เพราะท่านเดินทางไปทอดกฐินที่วัดโขงขาวทุกปี (จากความสัมพันธ์ ในอดีตที่ท่านเคยเล่าว่า สมัยเสวยพระชาติเป็นพระเจ้าพรหมมหาราช อัฐธาตุของท่านเก็บไว้ที่วัดโขงขาวแห่งนี้ และในอดีตนั้นหลวงพ่อบุญรัตน์คือราชโอรสฝาแฝดของท่าน)

    หลวงพ่อบุญรัตน์เพิ่งตัดสินใจ นำวัวธนูชุดนี้ออกมาให้ทำบุญกัน โดยในส่วนของกล่องนั้นเพิ่งได้สั่งทำขึ้นไม่นานนี้

    สรุปวัวธนูชุดนี้ ได้รับการอธิษฐานจากพระเถระดังต่อไปนี้

    1. หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล (ลพ.ฤาษี เคยกล่าวว่า วัวธนู ต้องหลวงปู่คำแสน)
    2. หลวงปู่ชุ่ม วัดวังมุ่ย (ท่านสามารถเข้านิโรธได้ทั้ง 4 อิริยาบถ)
    3. หลวงปู่คำแสน วัดสวนดอก (รูปนี้ก็เย็นแล้ว จบกิจ)
    4. หลวงปู่ชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม (พระมหาโพธิสัตว์ อดีตฤาษีวาสุเทพ ผู้สร้างพระรอดในตำนาน)
    5. หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระผู้มากบารมี อยู่ในใจหลายๆ คน)
    6. หลวงปู่ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง (พระผู้ทรงอภิญญาแก่กล้า)
    7. หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาฯ (ปรมาจารย์น้ำมนต์ดอกบัวบาน)
    8. หลวงปู่ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า (มหาเถระแดนล้านนา)
    9. หลวงปู่ครูบาอินทจักร วัดบ่อน้ำหลวง (รูปนี้บารมีมาก เก่งมาก แต่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้)
    10. หลวงปู่บุญทึม วัดจามเทวี (ลูกศิษย์ครูบาศรีวิชัย และเป็นพระที่สมเด็จองค์ปัจจุบันท่านกำชับ ลพ.ฤาษี ลิงดำ ให้ตามหา)

    เพิ่มเติมอีกนิด
    คุณเกรียงไกร (ลูกศิษย์รุ่นเก่าของ หลวงปู่คำแสน ท่านได้รับไม้เท้าของหลวงปู่หลังจากหลวงปู่มรณภาพ) ท่านก็ได้ถามหาวัวธนูรุ่นนี้กับหลวงพ่อบุญรัตน์ เพราะท่านทราบว่า วัวธนูรุ่นนี้ หลวงปู่คำแสน ได้เสกเดี่ยวให้ที่วัดป่าดอนมูล


    การบูชาวัวธนู (ตามใบฝอยจากวัดป่าดอนมูล)
    ให้หาหญ้าและน้ำใส่ภาชนะ เป็นอาหาร 7 วันให้เปลี่ยนเสียหนึ่งครั้ง
    วัวธนูมีไว้สำหรับป้องกันภูตผีปีศาจ และป้องกันจากเหล่าโจรต่างๆ
    ทางเมตตาโชคลาภก็ได้เหมือนกัน เช่น เวลากลางวันให้หันหน้าวัวเข้าบ้านให้อธิษฐานเอาในทางโชคลาภ ในเวลากลางคืนหันหน้าวัวธนูออกนอกบ้านเพื่อป้องกันภัยต่างๆ
    อนึ่ง จุดธูป 3 ดอก ทุกค่ำเช้า (ตั้งนะโม 3 จบ) แล้วบูชาด้วยพระคาถา

    “โอม โกโน มหาโกโน โอมโกโส มหาโกโส โอมกูจักมนต์งัวธนู กูสูงได้เก้าปันศอก ปลายหนอกได้เก้าปันวา กูโอ้ดังก้องฟ้า อ้าปากร้องผีกลัว เห็นเสือด่าหนี เห็นผีด่าจม โอมสวาหะ ขะจัดเถ็กฯ
    โอมโกโน มหาโกโน โอมกูจักมนต์งัวธนู กูบินฆะฆะ ตั่วมีราคะ มัวมืดเศร้า ปะริเทหะ ชนไล่ดอกชน สัพพะศัตรู วินาสันตุฯ


    การบูชาดูเหมือนจะยาก แต่จริงๆ แล้ว ไม่ยากเลย

    ประสบการณ์วัวธนู วัดโขงขาว

    1. อนาคตวัวธนูรุ่นนี้ ไปได้อีกไกลมากครับ (ลป.คำแสน ท่านคงรู้ ว่าต่อไปจะมีภัยต่างๆมาก ท่านจึงบอกให้หลวงพ่อบุญรัตน์เก็บไว้ก่อน ต่อไปคนจะต้องการกันมาก)
    วัวธนูรุ่น 1 ของหลวงปู่คำแสนเสกเดี่ยว บูชากันที่หลายหมื่นบาท
    วัวธนู รุ่นสุดท้ายของท่าน สวยๆ ก็ทะลุ 2 หมื่น
    วัวธนูรุ่นนี้ นอกจากหลวงปู่คำแสนท่านเสกเดี่ยว แล้ว ยังได้รับความเมตตาจากครูบาอาจารย์ระดับปรมาจารย์อีกหลายรูป ต่อไปในอนาคต คงต้องพลิกแผ่นดินหากันเป็นแน่


    เพราะครูบาอาจารย์หลายรูปสัมผัสแล้ว รับรองความสุดยอด
    เช่น ลต.ชลอ วัดศาลฯ สัมผัสแล้ว กล่าวว่า "สุดยอดทางป้องกันเลยนะนี่"

    พระเถราจารย์รูปหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ท่านกล่าวว่า "วัวธนูนี้เป็นกายสิทธิ์ มีฤทธิ์มาก บูชาที่บ้าน 1 องค์ คุ้มกันได้ทั้งบ้าน การบูชาให้หาพานดินมารองรับ (ควรเป็นดินบริสุทธิ์ เพราะวัวนี้สร้างจากปรอทธรรมชาติ) เพราะวัวต้องอยู่กับดิน"

    2. วัวธนูชุดนี้ เมื่อหลายปีก่อน หลวงพ่อบุญรัตน์เคยมอบให้ พระสงบ วัดนาคปรก ไปบูชา 1 องค์

    เกิดเรื่องราวคือ มีผู้คนเห็นวัวเดินไปมาตรงกุฏิพระสงบอยู่บ่อยๆ พระสงบท่านจึงนำมาเล่าให้หลวงพ่อบุญรัตน์ฟัง ปัจจุบัน พระสงบได้ละสังขารไปหลายปีแล้ว

    อีกท่านหนึ่งที่เคยได้รัยวัวธนูรุ่นนี้ไปบูชา คือ พ.ต. อำนวย (ยศ สมัยนั้น) อยู่ กรุงเทพ หลังจากได้วัวไป มีเพื่อนบ้านเห็นมีวัวเดินอยู่ในสนามหญ้าหน้าบ้าน


    3. ขอสอบถามเพิ่มนะครับ 1.ถ้าใส่กรอบไม่ต้องใส่ดินใช่ไหมครับ 2.ถ้าเลี่ยมกรอบเหน็บกระเป่าเสื้อหรือคอเสื้อ...(พระห้อยคออยู่ด้านล่างกระเป๋าเสื้อ)จะเป็นไรไหม..อยู่คนละเส้นกัน 3.ส่วนที่ตั้งหิ้ง(แยกต่างหากจากหิ้งพระ)ผมทำตามที่คุณได้บอกไว้เเล้ว แต่เวลาไหว้ไม่ใช้ธูปได้หรือไม่(ผมแพ้ควันธูปและฝุ่นจากขี้ธูป)ใช้มือ10นิ้วพนมมือระลึกถึงคุณ ครูอาจารย์ และค่อยนึกถึงวัวธนูได้หรือไม่ 4.ต้องตั้งชื่อให้วัวด้วยหรือไม่ ถ้าไม่ได้ไหว้เช้าเย็น(เป็นประจำ)จะยังคุ้มครองไหม
    1. เลี่ยมธรรมดาครับ ไม่ต้องใส่ดิน
    2. ไม่เป็นไรครับ แต่เวลาวางบูชา พระต้องอยู่สูงกว่า
    3. ผมก็ไหว้แบบยกมือพนมต่างธูปเทียนครับ (ไม่มีปัญหาเรื่องไฟด้วย ปลอดภัยดี)
    4. ไม่ต้องตั้งครับ (ถ้าเป็นกุมารทองต้องตั้ง)


    4. เพิ่มเติมข้อมูลให้นะครับ

    ปกติแล้ว ไม่ว่า วัวธนู กุมารทอง หรือผงพราย ล้วนแล้วแต่มีพื้นฐานมาจากไสยเวทย์ (ไสยศาสตร์) ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายดำ หรือ ขาว (สัมมา หรือ มิจฉา) ต่างก็สร้างได้

    แต่ ความแตกต่างมีอยู่ ยกตัวอย่าง เช่น

    อาจารย์ฆราวาส หลายๆ ท่าน ในปัจจุบัน สร้าง ผงพราย โดยใช้ซากทารก และวัสดุอาถรรพ์ หรือแม้แต่สร้างพระโดยการใช่น้ำมันพราย(ของจริง) ที่ได้จากการปลุกซากศพให้ลุกนั่งแล้วรนเอาน้ำมัน ก็ตาม ส่วนใหญ่แล้ว ใช้อำนานแห่งไสยเวทย์นั้น บังคับ กักขัง วิญญาณ (ทำให้วิญญาณนั้นได้รับทุกขเวทนา) เพื่อใช้ทำเรื่องต่างๆ สร้างบาปกรรม เวรกรรม ให้กับ ทั้งตัวผู้เสก ผู้ใช้ และวิญญาณ นั้น เป็นเดรัจฉานวิชา มีแต่โทษ

    แต่สำหรับฝ่ายขาว แม้วิชาจัก มีพื้นฐานมาจากไสย แต่ท่านได้ทำให้เกิดธรรม ที่บริสุทธิ์ เช่น สร้างพระผสมน้ำมันพราย แต่หาได้กักขังวิญญาณนั้นไม่ ท่านกลับเทศนาสั่งสอน และแผ่เมตตา จากดวงวิญญาณบาปกลายเป็นดวงวิญญาณบุญ (จากอาทิสมานยกายที่ราศรีหม่นหมอง กลายเป็นสว่างด้วยบุญ) คือ กลายเป็นเทวดา นางฟ้า และบำเพ็ญบารมีต่อโดยการเกื้อกูลผู้ใช้วัตถุมงคลนั้น มีแต่คุณไม่มีโทษ

    พระเถระรูปหนึ่ง ท่านกล่าวว่า
    "วัวธนูรุ่นนี้ ไม่ธรรมดา นอกจากกันภูติผีปีศาจ โจรขโมย ยังสามารถป้องกันภัยพิบัติต่างๆ ได้ด้วย
    การบูชาให้วางบนพานดิน (ดินบริสุทธิ์) บูชาด้วยน้ำสัก 1 แก้ว (เปลี่ยนทุก 7 วันก็ได้) วัว 1 องค์ สามารถคุ้มได้ทั้งบ้า
    วัวธนูรุ่นนี้ มีแต่คุณ ไม่มีโทษ"
    ที่สำคัญอีกประการ คือ วัวธนูรุ่นนี้ แม้จักลืมอาราธนา ท่านก็ปกป้องคุ้มครองโดยอัตโนมัติเองอยู่

    แล้ว




    บูชา 1500 บาท พร้อมส่ง ems
    [ame=http://m.youtube.com/watch?v=90DoAxYyljs]วัวธนู วัดโขงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ[/ame]
     
  3. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    5 ตค 58

    พระสุทัศน์ EN 2593 5488 2 TH

    ขอบคุณครับ
     
  4. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855




    เหรียญหลังยันต์เกราะเพชร หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อธิษฐานจิต ปี 2526


    เหรียญหลังยันต์เกราะเพชร(หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค.) เนื้อกะไหล่ทอง. "ลพ.ฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี" พ.ศ.๒๕๒๖ ขนาดพิมพ์ใหญ่/ออกแบบสวยงาม สภาพสวย เก็บเก่าเดิมๆ ของดี/น่าใช้ พุทธคุณเต็มเปี่ยม



    บูชา 450 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2015
  5. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855


    เหรียญสามัคคีมีสุข หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลังกูผู้ชนะ พระเจ้าตากสินมหาราช วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
    วัตถุมงคล หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (ฤาษีลิงดำ ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
    เหรียญสามัคคีมีสุข หลัง "กูผู้ชนะ" หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ด้านหลังเป็นพระบรมรูปพระเจ้าตากสินมหาราช เหมาะกับผู้ที่ชอบการต่อสู้ , แข่งขัน เช่น บุคคลอาชีพ นักกีฬา, นักการเมือง, ตำรวจ และทหาร อธิฐานให้หลวงพ่อช่วยเหลือ มีโอกาสประสบผลมากกว่า คนที่ไม่มีบูชา
    คาถาไพรีพินาศ สำหรับ เหรียญกูผู้ชนะ (เป็นคาถาอาราธนาของพระร่วง)
    "อิทธิฤทธิ์ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะอะอุ นี้ด้วยเถิด"พระเครื่องของหลวงพ่อท่าน มีอานุภาพป้องกันสรรพอันตรายทั้งปวง ให้ผลทางลาภ เมตตามหานิยม สมใจปรารถนา.. ดังสโลแกน ที่กรรมการวัดท่าซุง การันตีไว้ว่า
    "ห้อยพระหลวงพ่อฤาษีลิงดำ กระดูกจะไม่หัก! จะไม่ตายก่อนอายุไข!"
    ประวัติการสร้างเหรียญ "กูผู้ชนะ" ของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำหลวงพ่อท่านเล่าดังนี้..อย่าง พระเจ้าตากสิน นั่นต้องเรียกว่า น้ำใจเข้มแข็ง ขนาดข้าศึกล้อมอยู่แบบนั้น ท่านกับกำลังพล 500 ตีฝ่าข้าศึก ไม่ใช่ของง่ายเลยนะ ใช่ไหม ? คือไม่ใช่ของง่ายเลย ก็ยังมีลูกหาบอีก ไอ้ลูกหาบนี่ ดีไม่ดี ลูกหาบตาย นี่ไอ้รุ่นหน้าตีไป รุ่นหลังต้องประคองลูกหาบอีก สามารถเอาลูกหาบเสบียง เอาไปบ้างตามควรนิดหน่อย นี่เป็นนักรบที่มีฝีมือดี ถ้าใจไม่เข้มแข็งจริงๆ จะกล้าตีข้าศึกไปได้อย่างไร กำลังนิดเดียวใช่ไหม แล้วไอ้ภายในประเทศก็ไม่ดี เสียครั้งแรก ตั้งกรุงศรีอยุธยามา 190 ปีเศษ แล้วมาครั้งที่ 2 นี่ 190 ปีเศษ กรุงเทพฯ เวลานี้ยุ่งๆ นะ 190 ปีเศษเหมือนกัน ชะตาประเทศไทย ถ้าถึง พ.ศ. 2525 นะ ครบ 200 ปี พ้นเขต นี่เวลานี้มันเข้าเขตแล้วนะแต่ว่าช่วงจังหวะนี้มันเข้าจังหวะเกณฑ์ เขาเรียกว่า เข้าเกณฑ์ดี จังหวะนี้ ตั้งแต่นี้ต่อไป เข้าเกณฑ์ดี ท่านถึงบอกให้ทำ "เหรียญกูผู้ชนะ" พระเจ้าตากสินให้ทำ ทีแรกจะทำก็ล้อเล่นๆ หลวงปู่แหวนท่านทำ เหรียญเราสู้ ปีที่แล้วไปกองบัญชาการทหารสูงสุด บอก เฮ้ย! ไอ้แค่ เราสู้ ยังแค่กัน กูสู้ว่ะ! ไอ้พวกนั้น ฮาตึง! บอก ดีครับๆ เราก็คิด พูดส่งไปตั้งปีที่แล้ว ไม่ได้คิดจะทำ มาปีนี้ท่านสั่งทำ บอก"เราสู้—ก็แค่นั้นแหละ กูสู้--ก็แค่นั้น ยังสู้ ต้อง "กูผู้ชนะ" ถามท่านว่าทำไม ท่านบอก เวลานี้มันถึงเกณฑ์ชนะแล้ว ถาม เอารูปใคร บอก เอารูปผม บอก เอ้า ไม่ยกย่องตนเองเกินไปหรือ รัชกาลที่ 1 ก็เก่งใช่ไหม กรมพระราชวังบวร ท่านก็เก่ง ท่านบอกว่า ในฐานะที่ผมเป็นผู้นำ ก็ตามไปดูประวัติสิ ประวัติที่ ตากสินกู้ชาติ เคยแพ้จุดไหนบ้าง แน่ะ! เอาถึงอย่างนั้นเสียด้วย เลยต้องเอาตามท่าน เอา "กูผู้ชนะ" ก็เลยทำขึ้น ท่านสั่งทำ เวลาทำ ท่านก็มาทำด้วย ท่านทำด้วยเสร็จ
    (คัดจาก หนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เล่ม 14 หน้า 336เรื่อง สนทนาหลังกรรมฐาน 25 วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2521) เหรียญนี้ เด่นด้านคงกระพันชาตรี คืออยู่ยงคงกระพันมาก เสริมพลังฤทธิ์ มหาอุตม์ มหาอุตม์ปืนแตก คุ้มกันคุณไสย จิตแจ่มใส ใจเบิกบาน จิตสงบ เสริมปัญญา เสริมบารมี เสริมดวง มหาบุญฤทธิ์ มหาบารมี มหาเศรษฐี หลวงพ่อฤาษีหลังพระเจ้าตาก



    เสียงหลวงพ่อเล่าเรื่อง เหรียญกูผู้ชนะและผ้ายันต์พิชัยสงคราม ที่
    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=526
    (ม้วนที่ 1 ตอนที่ 1)
    (ท่านเล่าว่า ทำทุกด้าน แต่เด่นทางด้านแคล้วคลาด)



    บูชา 550 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2015
  6. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    9 ตค 58

    EN 2593 5563 6TH คุณ นิรันดร์

    ขอบคุณครับ
     
  7. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    [ame=http://m.youtube.com/watch?v=90DoAxYyljs]วัวธนู วัดโขงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ[/ame]
    วัวธนูวัดโขงขาว ปี 2518 หลวงปู่คำแสน (วัดป่าดอนมูล) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่ชุ่ม หลวงปู่วงศ์ หลวงปู่ธรรมชัย หลวงปู่พรหมจักร หลวงปู่อินทรจักร หลวงปู่บุญทึม หลวงปู่เส่ง อธิษฐานจิต

    เนื้อวัวธนู เป็นทองแดงกว่า 80 % ส่วนที่เหลือ คือ ปรอท เจ้าน้ำเงิน และโลหะธาตุ ต่างๆ อีกหลายอย่าง
    แต่มวลสารหลักคือทองแดงครับ

    [​IMG]

    วัวธนูวัดโขงขาว ปี 2518 เป็นวัวธนูรุ่นเดียวที่ทันหลวงพ่อฤาษีอธิษฐาน และท่านอธิษฐานให้หลายครั้งมาก

    ประวัติครับ

    หลวงปู่คำแสน และหลวงพ่อบุญรัตน์ ท่านคุ้นเคยกันมานานแล้ว
    ประมาณปี 2518 ที่วัดป่าดอนมูล หลวงปู่คำแสน ท่านได้มอบตำราสร้างวัวธนู ให้กับหลวงพ่อบุญรัตน์ พร้อมกับสอนวิธีการสร้าง ท่านกล่าวว่า ท่านอายุมากแล้ว เกรงว่าต่อไปวิชานี้จะสูญหาย ในการนี้ ท่านได้มอบวัวธนูที่สร้างจากไม้หวายผ่าซีก และแกะคอดให้กับหลวงพ่อบุญรัตน์ด้วย
    (แทรก ต่อมาหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้รับตำราสร้างวัวธนูจาก ครูบาชุ่ม วัดวังมุ่ย ด้วย ซึ่งท่านกล่าวว่า เหมือนกับตำราของหลวงปู่คำแสนเลย ไม่มีผิดเพี้ยนกัน)
    หลังจากนั้นหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้จัดสร้าง วัวธนูขึ้นตามตำราของหลวงปู่ทั้งสองรูป
    โดยหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้นำไปให้หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล อธิษฐานจิตเดี่ยว
    เมื่อเสร็จพิธี หลวงปู่คำแสน ท่านได้กล่าวกับหลวงพ่อบุญรัตน์ว่า
    "วัวธนูชุดนี้ให้เก็บไว้ก่อน อย่าเพิ่งนำออกมา ในภายภาคหน้าคนจะถามหากันเยอะ จะเป็นที่ต้องการกันมาก"
    ตรงนี้จึงเป็นมูลเหตุให้หลวงพ่อบุญรัตน์ท่านเก็บวัวธนูชุดนี้ไว้นับแต่บัดนั้น


    นอกจากหลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูลแล้ว หลวงพ่อบุญรัตน์ยังได้นำวัวธนูชุดนี้ ไปขอความเมตตาให้ครูบาอาจารย์เสกเดี่ยว


    [​IMG]



    [​IMG]


    หลวงปู่ครูบาชุ่มโพธิโก วัดวังมุ่ย
    หลวงปู่คำแสน วัดสวนดอก
    หลวงปู่ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง
    หลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    นอกจากนี้ท่านยังนำมาที่กรุงเทพฯ เพื่อขอความเมตตาให้
    หลวงปู่เส่ง วัดกัลยา (ปรมาจารย์ ตำนาน น้ำมนต์ดอกบัวบาน) เสกให้ด้วย
    ครูบาอินทจักร วัดบ่อน้ำหลวง (พี่ชายแท้ๆ ของครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า)
    ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า
    ครูบาบุญทึม วัดจามเทวี (ลูกศิษย์ครูบาศรีวิชัย ที่ ลพ.ฤาษี ท่านเคยเล่าว่า สมเด็จองค์ปัจจุบัน ท่านกำชับหลวงพ่อฤาษีว่า ให้ไปตามหาพระที่ชื่อทึมให้เจอ)


    สำหรับหลวงพ่อฤาษีนั้น ท่านได้พุทธาภิเษกวัวธนูชุดนี้หลายครั้งหลายคราวมาก
    เพราะท่านเดินทางไปทอดกฐินที่วัดโขงขาวทุกปี (จากความสัมพันธ์ ในอดีตที่ท่านเคยเล่าว่า สมัยเสวยพระชาติเป็นพระเจ้าพรหมมหาราช อัฐธาตุของท่านเก็บไว้ที่วัดโขงขาวแห่งนี้ และในอดีตนั้นหลวงพ่อบุญรัตน์คือราชโอรสฝาแฝดของท่าน)

    หลวงพ่อบุญรัตน์เพิ่งตัดสินใจ นำวัวธนูชุดนี้ออกมาให้ทำบุญกัน โดยในส่วนของกล่องนั้นเพิ่งได้สั่งทำขึ้นไม่นานนี้

    สรุปวัวธนูชุดนี้ ได้รับการอธิษฐานจากพระเถระดังต่อไปนี้

    1. หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล (ลพ.ฤาษี เคยกล่าวว่า วัวธนู ต้องหลวงปู่คำแสน)
    2. หลวงปู่ชุ่ม วัดวังมุ่ย (ท่านสามารถเข้านิโรธได้ทั้ง 4 อิริยาบถ)
    3. หลวงปู่คำแสน วัดสวนดอก (รูปนี้ก็เย็นแล้ว จบกิจ)
    4. หลวงปู่ชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม (พระมหาโพธิสัตว์ อดีตฤาษีวาสุเทพ ผู้สร้างพระรอดในตำนาน)
    5. หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระผู้มากบารมี อยู่ในใจหลายๆ คน)
    6. หลวงปู่ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง (พระผู้ทรงอภิญญาแก่กล้า)
    7. หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาฯ (ปรมาจารย์น้ำมนต์ดอกบัวบาน)
    8. หลวงปู่ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า (มหาเถระแดนล้านนา)
    9. หลวงปู่ครูบาอินทจักร วัดบ่อน้ำหลวง (รูปนี้บารมีมาก เก่งมาก แต่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้)
    10. หลวงปู่บุญทึม วัดจามเทวี (ลูกศิษย์ครูบาศรีวิชัย และเป็นพระที่สมเด็จองค์ปัจจุบันท่านกำชับ ลพ.ฤาษี ลิงดำ ให้ตามหา)

    เพิ่มเติมอีกนิด
    คุณเกรียงไกร (ลูกศิษย์รุ่นเก่าของ หลวงปู่คำแสน ท่านได้รับไม้เท้าของหลวงปู่หลังจากหลวงปู่มรณภาพ) ท่านก็ได้ถามหาวัวธนูรุ่นนี้กับหลวงพ่อบุญรัตน์ เพราะท่านทราบว่า วัวธนูรุ่นนี้ หลวงปู่คำแสน ได้เสกเดี่ยวให้ที่วัดป่าดอนมูล


    การบูชาวัวธนู (ตามใบฝอยจากวัดป่าดอนมูล)
    ให้หาหญ้าและน้ำใส่ภาชนะ เป็นอาหาร 7 วันให้เปลี่ยนเสียหนึ่งครั้ง
    วัวธนูมีไว้สำหรับป้องกันภูตผีปีศาจ และป้องกันจากเหล่าโจรต่างๆ
    ทางเมตตาโชคลาภก็ได้เหมือนกัน เช่น เวลากลางวันให้หันหน้าวัวเข้าบ้านให้อธิษฐานเอาในทางโชคลาภ ในเวลากลางคืนหันหน้าวัวธนูออกนอกบ้านเพื่อป้องกันภัยต่างๆ
    อนึ่ง จุดธูป 3 ดอก ทุกค่ำเช้า (ตั้งนะโม 3 จบ) แล้วบูชาด้วยพระคาถา

    “โอม โกโน มหาโกโน โอมโกโส มหาโกโส โอมกูจักมนต์งัวธนู กูสูงได้เก้าปันศอก ปลายหนอกได้เก้าปันวา กูโอ้ดังก้องฟ้า อ้าปากร้องผีกลัว เห็นเสือด่าหนี เห็นผีด่าจม โอมสวาหะ ขะจัดเถ็กฯ
    โอมโกโน มหาโกโน โอมกูจักมนต์งัวธนู กูบินฆะฆะ ตั่วมีราคะ มัวมืดเศร้า ปะริเทหะ ชนไล่ดอกชน สัพพะศัตรู วินาสันตุฯ


    การบูชาดูเหมือนจะยาก แต่จริงๆ แล้ว ไม่ยากเลย

    ประสบการณ์วัวธนู วัดโขงขาว

    1. อนาคตวัวธนูรุ่นนี้ ไปได้อีกไกลมากครับ (ลป.คำแสน ท่านคงรู้ ว่าต่อไปจะมีภัยต่างๆมาก ท่านจึงบอกให้หลวงพ่อบุญรัตน์เก็บไว้ก่อน ต่อไปคนจะต้องการกันมาก)
    วัวธนูรุ่น 1 ของหลวงปู่คำแสนเสกเดี่ยว บูชากันที่หลายหมื่นบาท
    วัวธนู รุ่นสุดท้ายของท่าน สวยๆ ก็ทะลุ 2 หมื่น
    วัวธนูรุ่นนี้ นอกจากหลวงปู่คำแสนท่านเสกเดี่ยว แล้ว ยังได้รับความเมตตาจากครูบาอาจารย์ระดับปรมาจารย์อีกหลายรูป ต่อไปในอนาคต คงต้องพลิกแผ่นดินหากันเป็นแน่


    เพราะครูบาอาจารย์หลายรูปสัมผัสแล้ว รับรองความสุดยอด
    เช่น ลต.ชลอ วัดศาลฯ สัมผัสแล้ว กล่าวว่า "สุดยอดทางป้องกันเลยนะนี่"

    พระเถราจารย์รูปหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ท่านกล่าวว่า "วัวธนูนี้เป็นกายสิทธิ์ มีฤทธิ์มาก บูชาที่บ้าน 1 องค์ คุ้มกันได้ทั้งบ้าน การบูชาให้หาพานดินมารองรับ (ควรเป็นดินบริสุทธิ์ เพราะวัวนี้สร้างจากปรอทธรรมชาติ) เพราะวัวต้องอยู่กับดิน"

    2. วัวธนูชุดนี้ เมื่อหลายปีก่อน หลวงพ่อบุญรัตน์เคยมอบให้ พระสงบ วัดนาคปรก ไปบูชา 1 องค์

    เกิดเรื่องราวคือ มีผู้คนเห็นวัวเดินไปมาตรงกุฏิพระสงบอยู่บ่อยๆ พระสงบท่านจึงนำมาเล่าให้หลวงพ่อบุญรัตน์ฟัง ปัจจุบัน พระสงบได้ละสังขารไปหลายปีแล้ว

    อีกท่านหนึ่งที่เคยได้รัยวัวธนูรุ่นนี้ไปบูชา คือ พ.ต. อำนวย (ยศ สมัยนั้น) อยู่ กรุงเทพ หลังจากได้วัวไป มีเพื่อนบ้านเห็นมีวัวเดินอยู่ในสนามหญ้าหน้าบ้าน


    3. ขอสอบถามเพิ่มนะครับ 1.ถ้าใส่กรอบไม่ต้องใส่ดินใช่ไหมครับ 2.ถ้าเลี่ยมกรอบเหน็บกระเป่าเสื้อหรือคอเสื้อ...(พระห้อยคออยู่ด้านล่างกระเป๋าเสื้อ)จะเป็นไรไหม..อยู่คนละเส้นกัน 3.ส่วนที่ตั้งหิ้ง(แยกต่างหากจากหิ้งพระ)ผมทำตามที่คุณได้บอกไว้เเล้ว แต่เวลาไหว้ไม่ใช้ธูปได้หรือไม่(ผมแพ้ควันธูปและฝุ่นจากขี้ธูป)ใช้มือ10นิ้วพนมมือระลึกถึงคุณ ครูอาจารย์ และค่อยนึกถึงวัวธนูได้หรือไม่ 4.ต้องตั้งชื่อให้วัวด้วยหรือไม่ ถ้าไม่ได้ไหว้เช้าเย็น(เป็นประจำ)จะยังคุ้มครองไหม
    1. เลี่ยมธรรมดาครับ ไม่ต้องใส่ดิน
    2. ไม่เป็นไรครับ แต่เวลาวางบูชา พระต้องอยู่สูงกว่า
    3. ผมก็ไหว้แบบยกมือพนมต่างธูปเทียนครับ (ไม่มีปัญหาเรื่องไฟด้วย ปลอดภัยดี)
    4. ไม่ต้องตั้งครับ (ถ้าเป็นกุมารทองต้องตั้ง)


    4. เพิ่มเติมข้อมูลให้นะครับ

    ปกติแล้ว ไม่ว่า วัวธนู กุมารทอง หรือผงพราย ล้วนแล้วแต่มีพื้นฐานมาจากไสยเวทย์ (ไสยศาสตร์) ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายดำ หรือ ขาว (สัมมา หรือ มิจฉา) ต่างก็สร้างได้

    แต่ ความแตกต่างมีอยู่ ยกตัวอย่าง เช่น

    อาจารย์ฆราวาส หลายๆ ท่าน ในปัจจุบัน สร้าง ผงพราย โดยใช้ซากทารก และวัสดุอาถรรพ์ หรือแม้แต่สร้างพระโดยการใช่น้ำมันพราย(ของจริง) ที่ได้จากการปลุกซากศพให้ลุกนั่งแล้วรนเอาน้ำมัน ก็ตาม ส่วนใหญ่แล้ว ใช้อำนานแห่งไสยเวทย์นั้น บังคับ กักขัง วิญญาณ (ทำให้วิญญาณนั้นได้รับทุกขเวทนา) เพื่อใช้ทำเรื่องต่างๆ สร้างบาปกรรม เวรกรรม ให้กับ ทั้งตัวผู้เสก ผู้ใช้ และวิญญาณ นั้น เป็นเดรัจฉานวิชา มีแต่โทษ

    แต่สำหรับฝ่ายขาว แม้วิชาจัก มีพื้นฐานมาจากไสย แต่ท่านได้ทำให้เกิดธรรม ที่บริสุทธิ์ เช่น สร้างพระผสมน้ำมันพราย แต่หาได้กักขังวิญญาณนั้นไม่ ท่านกลับเทศนาสั่งสอน และแผ่เมตตา จากดวงวิญญาณบาปกลายเป็นดวงวิญญาณบุญ (จากอาทิสมานยกายที่ราศรีหม่นหมอง กลายเป็นสว่างด้วยบุญ) คือ กลายเป็นเทวดา นางฟ้า และบำเพ็ญบารมีต่อโดยการเกื้อกูลผู้ใช้วัตถุมงคลนั้น มีแต่คุณไม่มีโทษ

    พระเถระรูปหนึ่ง ท่านกล่าวว่า
    "วัวธนูรุ่นนี้ ไม่ธรรมดา นอกจากกันภูติผีปีศาจ โจรขโมย ยังสามารถป้องกันภัยพิบัติต่างๆ ได้ด้วย
    การบูชาให้วางบนพานดิน (ดินบริสุทธิ์) บูชาด้วยน้ำสัก 1 แก้ว (เปลี่ยนทุก 7 วันก็ได้) วัว 1 องค์ สามารถคุ้มได้ทั้งบ้า
    วัวธนูรุ่นนี้ มีแต่คุณ ไม่มีโทษ"
    ที่สำคัญอีกประการ คือ วัวธนูรุ่นนี้ แม้จักลืมอาราธนา ท่านก็ปกป้องคุ้มครองโดยอัตโนมัติเองอยู่

    แล้ว




    บูชา 1500 บาท พร้อมส่ง ems
    [ame=http://m.youtube.com/watch?v=90DoAxYyljs]วัวธนู วัดโขงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ[/ame]
     
  8. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    13 ตค 58
    คุณ สายใจ EN517180923TH
    คุณ พรไพฑูรย์ EN517180968TH

    ขอบคุณครับ
     
  9. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=trRpCQdnDVU]ภาพถ่ายออร่า ศูนย์พัฒนาพลังชัวิต - YouTube[/ame]

    บูชา 900 บาท พร้อมส่ง ครับ

     
  10. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    [ame=http://m.youtube.com/watch?v=90DoAxYyljs]วัวธนู วัดโขงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ[/ame]
    วัวธนูวัดโขงขาว ปี 2518 หลวงปู่คำแสน (วัดป่าดอนมูล) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่ชุ่ม หลวงปู่วงศ์ หลวงปู่ธรรมชัย หลวงปู่พรหมจักร หลวงปู่อินทรจักร หลวงปู่บุญทึม หลวงปู่เส่ง อธิษฐานจิต

    เนื้อวัวธนู เป็นทองแดงกว่า 80 % ส่วนที่เหลือ คือ ปรอท เจ้าน้ำเงิน และโลหะธาตุ ต่างๆ อีกหลายอย่าง
    แต่มวลสารหลักคือทองแดงครับ

    [​IMG]

    วัวธนูวัดโขงขาว ปี 2518 เป็นวัวธนูรุ่นเดียวที่ทันหลวงพ่อฤาษีอธิษฐาน และท่านอธิษฐานให้หลายครั้งมาก

    ประวัติครับ

    หลวงปู่คำแสน และหลวงพ่อบุญรัตน์ ท่านคุ้นเคยกันมานานแล้ว
    ประมาณปี 2518 ที่วัดป่าดอนมูล หลวงปู่คำแสน ท่านได้มอบตำราสร้างวัวธนู ให้กับหลวงพ่อบุญรัตน์ พร้อมกับสอนวิธีการสร้าง ท่านกล่าวว่า ท่านอายุมากแล้ว เกรงว่าต่อไปวิชานี้จะสูญหาย ในการนี้ ท่านได้มอบวัวธนูที่สร้างจากไม้หวายผ่าซีก และแกะคอดให้กับหลวงพ่อบุญรัตน์ด้วย
    (แทรก ต่อมาหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้รับตำราสร้างวัวธนูจาก ครูบาชุ่ม วัดวังมุ่ย ด้วย ซึ่งท่านกล่าวว่า เหมือนกับตำราของหลวงปู่คำแสนเลย ไม่มีผิดเพี้ยนกัน)
    หลังจากนั้นหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้จัดสร้าง วัวธนูขึ้นตามตำราของหลวงปู่ทั้งสองรูป
    โดยหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้นำไปให้หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล อธิษฐานจิตเดี่ยว
    เมื่อเสร็จพิธี หลวงปู่คำแสน ท่านได้กล่าวกับหลวงพ่อบุญรัตน์ว่า
    "วัวธนูชุดนี้ให้เก็บไว้ก่อน อย่าเพิ่งนำออกมา ในภายภาคหน้าคนจะถามหากันเยอะ จะเป็นที่ต้องการกันมาก"
    ตรงนี้จึงเป็นมูลเหตุให้หลวงพ่อบุญรัตน์ท่านเก็บวัวธนูชุดนี้ไว้นับแต่บัดนั้น


    นอกจากหลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูลแล้ว หลวงพ่อบุญรัตน์ยังได้นำวัวธนูชุดนี้ ไปขอความเมตตาให้ครูบาอาจารย์เสกเดี่ยว


    [​IMG]



    [​IMG]


    หลวงปู่ครูบาชุ่มโพธิโก วัดวังมุ่ย
    หลวงปู่คำแสน วัดสวนดอก
    หลวงปู่ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง
    หลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    นอกจากนี้ท่านยังนำมาที่กรุงเทพฯ เพื่อขอความเมตตาให้
    หลวงปู่เส่ง วัดกัลยา (ปรมาจารย์ ตำนาน น้ำมนต์ดอกบัวบาน) เสกให้ด้วย
    ครูบาอินทจักร วัดบ่อน้ำหลวง (พี่ชายแท้ๆ ของครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า)
    ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า
    ครูบาบุญทึม วัดจามเทวี (ลูกศิษย์ครูบาศรีวิชัย ที่ ลพ.ฤาษี ท่านเคยเล่าว่า สมเด็จองค์ปัจจุบัน ท่านกำชับหลวงพ่อฤาษีว่า ให้ไปตามหาพระที่ชื่อทึมให้เจอ)


    สำหรับหลวงพ่อฤาษีนั้น ท่านได้พุทธาภิเษกวัวธนูชุดนี้หลายครั้งหลายคราวมาก
    เพราะท่านเดินทางไปทอดกฐินที่วัดโขงขาวทุกปี (จากความสัมพันธ์ ในอดีตที่ท่านเคยเล่าว่า สมัยเสวยพระชาติเป็นพระเจ้าพรหมมหาราช อัฐธาตุของท่านเก็บไว้ที่วัดโขงขาวแห่งนี้ และในอดีตนั้นหลวงพ่อบุญรัตน์คือราชโอรสฝาแฝดของท่าน)

    หลวงพ่อบุญรัตน์เพิ่งตัดสินใจ นำวัวธนูชุดนี้ออกมาให้ทำบุญกัน โดยในส่วนของกล่องนั้นเพิ่งได้สั่งทำขึ้นไม่นานนี้

    สรุปวัวธนูชุดนี้ ได้รับการอธิษฐานจากพระเถระดังต่อไปนี้

    1. หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล (ลพ.ฤาษี เคยกล่าวว่า วัวธนู ต้องหลวงปู่คำแสน)
    2. หลวงปู่ชุ่ม วัดวังมุ่ย (ท่านสามารถเข้านิโรธได้ทั้ง 4 อิริยาบถ)
    3. หลวงปู่คำแสน วัดสวนดอก (รูปนี้ก็เย็นแล้ว จบกิจ)
    4. หลวงปู่ชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม (พระมหาโพธิสัตว์ อดีตฤาษีวาสุเทพ ผู้สร้างพระรอดในตำนาน)
    5. หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระผู้มากบารมี อยู่ในใจหลายๆ คน)
    6. หลวงปู่ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง (พระผู้ทรงอภิญญาแก่กล้า)
    7. หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาฯ (ปรมาจารย์น้ำมนต์ดอกบัวบาน)
    8. หลวงปู่ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า (มหาเถระแดนล้านนา)
    9. หลวงปู่ครูบาอินทจักร วัดบ่อน้ำหลวง (รูปนี้บารมีมาก เก่งมาก แต่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้)
    10. หลวงปู่บุญทึม วัดจามเทวี (ลูกศิษย์ครูบาศรีวิชัย และเป็นพระที่สมเด็จองค์ปัจจุบันท่านกำชับ ลพ.ฤาษี ลิงดำ ให้ตามหา)

    เพิ่มเติมอีกนิด
    คุณเกรียงไกร (ลูกศิษย์รุ่นเก่าของ หลวงปู่คำแสน ท่านได้รับไม้เท้าของหลวงปู่หลังจากหลวงปู่มรณภาพ) ท่านก็ได้ถามหาวัวธนูรุ่นนี้กับหลวงพ่อบุญรัตน์ เพราะท่านทราบว่า วัวธนูรุ่นนี้ หลวงปู่คำแสน ได้เสกเดี่ยวให้ที่วัดป่าดอนมูล


    การบูชาวัวธนู (ตามใบฝอยจากวัดป่าดอนมูล)
    ให้หาหญ้าและน้ำใส่ภาชนะ เป็นอาหาร 7 วันให้เปลี่ยนเสียหนึ่งครั้ง
    วัวธนูมีไว้สำหรับป้องกันภูตผีปีศาจ และป้องกันจากเหล่าโจรต่างๆ
    ทางเมตตาโชคลาภก็ได้เหมือนกัน เช่น เวลากลางวันให้หันหน้าวัวเข้าบ้านให้อธิษฐานเอาในทางโชคลาภ ในเวลากลางคืนหันหน้าวัวธนูออกนอกบ้านเพื่อป้องกันภัยต่างๆ
    อนึ่ง จุดธูป 3 ดอก ทุกค่ำเช้า (ตั้งนะโม 3 จบ) แล้วบูชาด้วยพระคาถา

    “โอม โกโน มหาโกโน โอมโกโส มหาโกโส โอมกูจักมนต์งัวธนู กูสูงได้เก้าปันศอก ปลายหนอกได้เก้าปันวา กูโอ้ดังก้องฟ้า อ้าปากร้องผีกลัว เห็นเสือด่าหนี เห็นผีด่าจม โอมสวาหะ ขะจัดเถ็กฯ
    โอมโกโน มหาโกโน โอมกูจักมนต์งัวธนู กูบินฆะฆะ ตั่วมีราคะ มัวมืดเศร้า ปะริเทหะ ชนไล่ดอกชน สัพพะศัตรู วินาสันตุฯ


    การบูชาดูเหมือนจะยาก แต่จริงๆ แล้ว ไม่ยากเลย

    ประสบการณ์วัวธนู วัดโขงขาว

    1. อนาคตวัวธนูรุ่นนี้ ไปได้อีกไกลมากครับ (ลป.คำแสน ท่านคงรู้ ว่าต่อไปจะมีภัยต่างๆมาก ท่านจึงบอกให้หลวงพ่อบุญรัตน์เก็บไว้ก่อน ต่อไปคนจะต้องการกันมาก)
    วัวธนูรุ่น 1 ของหลวงปู่คำแสนเสกเดี่ยว บูชากันที่หลายหมื่นบาท
    วัวธนู รุ่นสุดท้ายของท่าน สวยๆ ก็ทะลุ 2 หมื่น
    วัวธนูรุ่นนี้ นอกจากหลวงปู่คำแสนท่านเสกเดี่ยว แล้ว ยังได้รับความเมตตาจากครูบาอาจารย์ระดับปรมาจารย์อีกหลายรูป ต่อไปในอนาคต คงต้องพลิกแผ่นดินหากันเป็นแน่


    เพราะครูบาอาจารย์หลายรูปสัมผัสแล้ว รับรองความสุดยอด
    เช่น ลต.ชลอ วัดศาลฯ สัมผัสแล้ว กล่าวว่า "สุดยอดทางป้องกันเลยนะนี่"

    พระเถราจารย์รูปหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ท่านกล่าวว่า "วัวธนูนี้เป็นกายสิทธิ์ มีฤทธิ์มาก บูชาที่บ้าน 1 องค์ คุ้มกันได้ทั้งบ้าน การบูชาให้หาพานดินมารองรับ (ควรเป็นดินบริสุทธิ์ เพราะวัวนี้สร้างจากปรอทธรรมชาติ) เพราะวัวต้องอยู่กับดิน"

    2. วัวธนูชุดนี้ เมื่อหลายปีก่อน หลวงพ่อบุญรัตน์เคยมอบให้ พระสงบ วัดนาคปรก ไปบูชา 1 องค์

    เกิดเรื่องราวคือ มีผู้คนเห็นวัวเดินไปมาตรงกุฏิพระสงบอยู่บ่อยๆ พระสงบท่านจึงนำมาเล่าให้หลวงพ่อบุญรัตน์ฟัง ปัจจุบัน พระสงบได้ละสังขารไปหลายปีแล้ว

    อีกท่านหนึ่งที่เคยได้รัยวัวธนูรุ่นนี้ไปบูชา คือ พ.ต. อำนวย (ยศ สมัยนั้น) อยู่ กรุงเทพ หลังจากได้วัวไป มีเพื่อนบ้านเห็นมีวัวเดินอยู่ในสนามหญ้าหน้าบ้าน


    3. ขอสอบถามเพิ่มนะครับ 1.ถ้าใส่กรอบไม่ต้องใส่ดินใช่ไหมครับ 2.ถ้าเลี่ยมกรอบเหน็บกระเป่าเสื้อหรือคอเสื้อ...(พระห้อยคออยู่ด้านล่างกระเป๋าเสื้อ)จะเป็นไรไหม..อยู่คนละเส้นกัน 3.ส่วนที่ตั้งหิ้ง(แยกต่างหากจากหิ้งพระ)ผมทำตามที่คุณได้บอกไว้เเล้ว แต่เวลาไหว้ไม่ใช้ธูปได้หรือไม่(ผมแพ้ควันธูปและฝุ่นจากขี้ธูป)ใช้มือ10นิ้วพนมมือระลึกถึงคุณ ครูอาจารย์ และค่อยนึกถึงวัวธนูได้หรือไม่ 4.ต้องตั้งชื่อให้วัวด้วยหรือไม่ ถ้าไม่ได้ไหว้เช้าเย็น(เป็นประจำ)จะยังคุ้มครองไหม
    1. เลี่ยมธรรมดาครับ ไม่ต้องใส่ดิน
    2. ไม่เป็นไรครับ แต่เวลาวางบูชา พระต้องอยู่สูงกว่า
    3. ผมก็ไหว้แบบยกมือพนมต่างธูปเทียนครับ (ไม่มีปัญหาเรื่องไฟด้วย ปลอดภัยดี)
    4. ไม่ต้องตั้งครับ (ถ้าเป็นกุมารทองต้องตั้ง)


    4. เพิ่มเติมข้อมูลให้นะครับ

    ปกติแล้ว ไม่ว่า วัวธนู กุมารทอง หรือผงพราย ล้วนแล้วแต่มีพื้นฐานมาจากไสยเวทย์ (ไสยศาสตร์) ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายดำ หรือ ขาว (สัมมา หรือ มิจฉา) ต่างก็สร้างได้

    แต่ ความแตกต่างมีอยู่ ยกตัวอย่าง เช่น

    อาจารย์ฆราวาส หลายๆ ท่าน ในปัจจุบัน สร้าง ผงพราย โดยใช้ซากทารก และวัสดุอาถรรพ์ หรือแม้แต่สร้างพระโดยการใช่น้ำมันพราย(ของจริง) ที่ได้จากการปลุกซากศพให้ลุกนั่งแล้วรนเอาน้ำมัน ก็ตาม ส่วนใหญ่แล้ว ใช้อำนานแห่งไสยเวทย์นั้น บังคับ กักขัง วิญญาณ (ทำให้วิญญาณนั้นได้รับทุกขเวทนา) เพื่อใช้ทำเรื่องต่างๆ สร้างบาปกรรม เวรกรรม ให้กับ ทั้งตัวผู้เสก ผู้ใช้ และวิญญาณ นั้น เป็นเดรัจฉานวิชา มีแต่โทษ

    แต่สำหรับฝ่ายขาว แม้วิชาจัก มีพื้นฐานมาจากไสย แต่ท่านได้ทำให้เกิดธรรม ที่บริสุทธิ์ เช่น สร้างพระผสมน้ำมันพราย แต่หาได้กักขังวิญญาณนั้นไม่ ท่านกลับเทศนาสั่งสอน และแผ่เมตตา จากดวงวิญญาณบาปกลายเป็นดวงวิญญาณบุญ (จากอาทิสมานยกายที่ราศรีหม่นหมอง กลายเป็นสว่างด้วยบุญ) คือ กลายเป็นเทวดา นางฟ้า และบำเพ็ญบารมีต่อโดยการเกื้อกูลผู้ใช้วัตถุมงคลนั้น มีแต่คุณไม่มีโทษ

    พระเถระรูปหนึ่ง ท่านกล่าวว่า
    "วัวธนูรุ่นนี้ ไม่ธรรมดา นอกจากกันภูติผีปีศาจ โจรขโมย ยังสามารถป้องกันภัยพิบัติต่างๆ ได้ด้วย
    การบูชาให้วางบนพานดิน (ดินบริสุทธิ์) บูชาด้วยน้ำสัก 1 แก้ว (เปลี่ยนทุก 7 วันก็ได้) วัว 1 องค์ สามารถคุ้มได้ทั้งบ้า
    วัวธนูรุ่นนี้ มีแต่คุณ ไม่มีโทษ"
    ที่สำคัญอีกประการ คือ วัวธนูรุ่นนี้ แม้จักลืมอาราธนา ท่านก็ปกป้องคุ้มครองโดยอัตโนมัติเองอยู่

    แล้ว




    บูชา 1500 บาท พร้อมส่ง ems

    [ame]http://m.youtube.com/watch?v=90DoAxYyljs[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2015
  11. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    21 ตค 58
    คุณ มาโนช Ep042664916th

    ขอบคุณครับ
     
  12. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=trRpCQdnDVU]ภาพถ่ายออร่า ศูนย์พัฒนาพลังชัวิต - YouTube[/ame]

    บูชา 900 บาท พร้อมส่ง ครับ

     
  13. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    26 ตค 58
    Ep042665134th คุณ จุมพล

    ขอบคุณครับ
     
  14. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=trRpCQdnDVU]ภาพถ่ายออร่า ศูนย์พัฒนาพลังชัวิต - YouTube[/ame]

    บูชา 900 บาท พร้อมส่ง ครับ

     
  15. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855


    ===== ชุดที่ 1
    ชุด ภาพ ปี 2528 ข้าวตอกพระร่วง และ ผ้ายันต์พิชัยสงคราม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อธิษฐานจิต

    ประกอบด้วย ภาพ ปี 2528 1 ภาพ ข้าวตอกพระร่วง 1 องค์ ผ้ายันต์ 1 ผืน

    ภาพ 7.5 x 10 นิ้ว เนื้อกระดาษ ออกสีขาว อมเหลือง เก่า ผ่านเวลา 30 ปี ผ้ายันต์ 4.5 x 11 นิ้ว ประวัติผ้ายันต์มหาพิชัยสงครามผ้ามงคลที่นำมาแจกนี้ได้จากตำราหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามตำราท่านให้ชื่อว่า ธงมหาพิชัยสงคราม เป็นตำรา ที่หลวงพ่อปานท่านเรียนและได้รับตำรานี้จากท่านอาจารย์แจง เมืองสวรรคโลก (อำเภอสวรรคโลก ปัจจุบัน) ตามตำราแจ้งว่าเป็นตำราที่พระร่วงใช้ในสมัยกู้ชาติ ท่านอธิบายผลไว้มากมาย ขอแจ้งแต่เพียงสรรพคุณโดยย่อว่า ท่านใช้เป็นธงนำทัพวิธีใช้ผ้ายันต์ฯ ก่อนใช้ให้อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์อื่นๆ สืบๆกันมา มีหลวงพ่อปานเป็นที่สุด แล้วปลุกด้วยคาถา " พุท ธะ สัง มิ. "ผ้ามงคล(ธงมหาพิชัยสงครามนี้) จะมีผลประการใดบ้าง ก็ขอให้ท่านผู้ใช้ได้ทราบเอง เมื่อถึงวาระที่จำเป็น ทุกวันท่านให้อาราธนาเป็นปรกติ ตอนเช้าเมื่อตื่นนอนใหม่ๆ และเวลาเย็นก่อนอาราธนาขอให้ระลึกถึงบารมีพระ พุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคเป็นที่สุด แล้วอาราธนาว่าดังนี้" อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึงแก่มะอะอุนี้เถิด."คาถาอาราธนานี้ หลวงพ่อปานบอกว่าเป็นคาถาอาราธนาของพระร่วง...( ข้อมูล : จากหนังสือสมบัติพ่อให้. )ความรู้เรื่องธงมหาพิชัยสงคราม เเละความหมายของยันต์บนผืนธงพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ท่านกรุณาเล่าให้ฟังว่า เป็น ธงออกศึกของพระร่วง ในสมัยก่อนพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ได้ตำราการทำยันต์ธงมหาพิชัยสงครามนี้ มาจาก อ.แจง ชาวสวรรคโลกซึ่ง อ.แจงนี้ เป็น ฆราวาส แต่ ทรงสมาบัติ 8ธงมหาพิชัยสงครามนี้ หากนำทัพเข้าสู่สงครามจะไม่ประสบกับความพ่ายแพ้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเคยกรุณาบอกไว้ว่าผืนเดียวคลุมทั้งฐาน หมายถึง ถ้ามีผ้ายันต์นี้ ผืนเดียวสามารถคุ้มครองได้ทั้งฐานทัพครับ ไม่ว่าจะสร้างเป็นค่าย หรือแค่ บังเกอร์?ตัวอย่างมีเยอะครับพี่ๆ ทหารที่เคยไปรบด้านตาพระยา น่าจะรู้ซึ้งถึง พระพุทธคุณของธงมหาพิชัยสงครามนี้ดีมี เกร็ดอยู่อีกหน่อยว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ท่านสั่งห้ามว่า ถ้าได้ธงผืนนี้ไปแล้ว ห้ามปลุกโดยเด็ดขาด เพราะ อานุภาพสูงมาก ถ้าไปปลุกธงมหาพิชัยสงครามนี้? อาจถึงตายได้ครับ ในตำราสมุดพระร่วงได้จารึกตำราสร้างธงมหาพิชัยสงครามนี้เเละยังรวมไปถึงวิธี การเป่ายันต์เกราะเพชรของสายพระเดชพระคุณหลวงปู่ปาน และ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีปัจจุบัน ตำรานี้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษี ท่านได้ถวายในหลวงไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2520 แล้ว เพราะหลวงพ่อฯ ท่านเป็นลูกหลานคนสุดท้ายของตระกูลพระร่วงที่สืบเขื้อสายมา ในส่วนของตำราพระร่วงนี้ ถ้าบุคคลอื่นได้ตำรานี้ไปก็ไม่สามารถทำวัตถุมงคลต่างๆ ได้ถึงอานุภาพสูงสุด อย่างเก่งก็ไม่เกิน 10 %เพราะท่านเจ้าของตำราคือ ท่านผกาพรหม ท่านไม่อนุญาติดังนั้น ตามคติคนเรียนวิชาแต่โบราณ ถ้าสิ้นสุดสายการสืบทอดวิชาถ้าจะเริ่มวิชาใหม่ ต้องไปขอต่อพระเจ้าแผ่นดินให้พระเจ้าเเผ่นดินครอบครูให้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีท่านทราบข้อบังคับนี้ท่านจึงถวายตำรานี้แด่ ในหลวงครับลักษณะ เป็นผ้ายันต์สี่เหลี่ยมผืนผ้าสีแดง




    ปิดครับ ======
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2015
  16. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855


    ===== ชุดที่ 2
    ชุด ภาพ ปี 2528 ข้าวตอกพระร่วง และ ผ้ายันต์พิชัยสงคราม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อธิษฐานจิต

    ประกอบด้วย ภาพ ปี 2528 1 ภาพ ข้าวตอกพระร่วง 1 องค์ ผ้ายันต์ 1 ผืน

    ภาพ 7.5 x 10 นิ้ว เนื้อกระดาษ ออกสีขาว อมเหลือง เก่า ผ่านเวลา 30 ปี ผ้ายันต์ 4.5 x 11 นิ้ว ประวัติผ้ายันต์มหาพิชัยสงครามผ้ามงคลที่นำมาแจกนี้ได้จากตำราหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามตำราท่านให้ชื่อว่า ธงมหาพิชัยสงคราม เป็นตำรา ที่หลวงพ่อปานท่านเรียนและได้รับตำรานี้จากท่านอาจารย์แจง เมืองสวรรคโลก (อำเภอสวรรคโลก ปัจจุบัน) ตามตำราแจ้งว่าเป็นตำราที่พระร่วงใช้ในสมัยกู้ชาติ ท่านอธิบายผลไว้มากมาย ขอแจ้งแต่เพียงสรรพคุณโดยย่อว่า ท่านใช้เป็นธงนำทัพวิธีใช้ผ้ายันต์ฯ ก่อนใช้ให้อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์อื่นๆ สืบๆกันมา มีหลวงพ่อปานเป็นที่สุด แล้วปลุกด้วยคาถา " พุท ธะ สัง มิ. "ผ้ามงคล(ธงมหาพิชัยสงครามนี้) จะมีผลประการใดบ้าง ก็ขอให้ท่านผู้ใช้ได้ทราบเอง เมื่อถึงวาระที่จำเป็น ทุกวันท่านให้อาราธนาเป็นปรกติ ตอนเช้าเมื่อตื่นนอนใหม่ๆ และเวลาเย็นก่อนอาราธนาขอให้ระลึกถึงบารมีพระ พุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคเป็นที่สุด แล้วอาราธนาว่าดังนี้" อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึงแก่มะอะอุนี้เถิด."คาถาอาราธนานี้ หลวงพ่อปานบอกว่าเป็นคาถาอาราธนาของพระร่วง...( ข้อมูล : จากหนังสือสมบัติพ่อให้. )ความรู้เรื่องธงมหาพิชัยสงคราม เเละความหมายของยันต์บนผืนธงพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ท่านกรุณาเล่าให้ฟังว่า เป็น ธงออกศึกของพระร่วง ในสมัยก่อนพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ได้ตำราการทำยันต์ธงมหาพิชัยสงครามนี้ มาจาก อ.แจง ชาวสวรรคโลกซึ่ง อ.แจงนี้ เป็น ฆราวาส แต่ ทรงสมาบัติ 8ธงมหาพิชัยสงครามนี้ หากนำทัพเข้าสู่สงครามจะไม่ประสบกับความพ่ายแพ้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเคยกรุณาบอกไว้ว่าผืนเดียวคลุมทั้งฐาน หมายถึง ถ้ามีผ้ายันต์นี้ ผืนเดียวสามารถคุ้มครองได้ทั้งฐานทัพครับ ไม่ว่าจะสร้างเป็นค่าย หรือแค่ บังเกอร์?ตัวอย่างมีเยอะครับพี่ๆ ทหารที่เคยไปรบด้านตาพระยา น่าจะรู้ซึ้งถึง พระพุทธคุณของธงมหาพิชัยสงครามนี้ดีมี เกร็ดอยู่อีกหน่อยว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ท่านสั่งห้ามว่า ถ้าได้ธงผืนนี้ไปแล้ว ห้ามปลุกโดยเด็ดขาด เพราะ อานุภาพสูงมาก ถ้าไปปลุกธงมหาพิชัยสงครามนี้? อาจถึงตายได้ครับ ในตำราสมุดพระร่วงได้จารึกตำราสร้างธงมหาพิชัยสงครามนี้เเละยังรวมไปถึงวิธี การเป่ายันต์เกราะเพชรของสายพระเดชพระคุณหลวงปู่ปาน และ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีปัจจุบัน ตำรานี้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษี ท่านได้ถวายในหลวงไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2520 แล้ว เพราะหลวงพ่อฯ ท่านเป็นลูกหลานคนสุดท้ายของตระกูลพระร่วงที่สืบเขื้อสายมา ในส่วนของตำราพระร่วงนี้ ถ้าบุคคลอื่นได้ตำรานี้ไปก็ไม่สามารถทำวัตถุมงคลต่างๆ ได้ถึงอานุภาพสูงสุด อย่างเก่งก็ไม่เกิน 10 %เพราะท่านเจ้าของตำราคือ ท่านผกาพรหม ท่านไม่อนุญาติดังนั้น ตามคติคนเรียนวิชาแต่โบราณ ถ้าสิ้นสุดสายการสืบทอดวิชาถ้าจะเริ่มวิชาใหม่ ต้องไปขอต่อพระเจ้าแผ่นดินให้พระเจ้าเเผ่นดินครอบครูให้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีท่านทราบข้อบังคับนี้ท่านจึงถวายตำรานี้แด่ ในหลวงครับลักษณะ เป็นผ้ายันต์สี่เหลี่ยมผืนผ้าสีแดง




    บูชา 900 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2015
  17. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855



    ข้าวตอกพระร่วง

    ผู้ใดมีไว้ถือว่าเป็นสิริมงคล มีความสุขความเจริญด้วย โภคทรัพย์ต่าง ๆ

    นอกจากนั้นยังนิยม นำมาฝนกับ แผ่นกระเบื้องบดยาหยดน้ำลงไปด้วย

    ขณะที่ฝนแล้วนำน้ำนั้นมาทาบริเวณที่ถูกพิษแมลงสัตว์กัดต่อย เป็นต้นว่า

    ตะขาบ มด แมลงป่อง ก็จะหายจากอาการเจ็บปวดอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง

    ชาวบ้านนิยมนำมาดับพิษแมลงเวลาถูกต่อย จะใช้กันอย่าง แพร่หลาย

    ด้วยความศรัทราส่วนคนเฒ่าคนแก่ที่กินหมากนั้น จะนิยมนำข้าวตอก

    พระร่วงมาใส่ปนกับสีผึ้งทาปากตลับละหนึ่งถึงสองเม็ด เหตุที่ทำเช่นนี้

    เพราะเชื่อว่ามีเมตตา มหานิยมดี โดยเฉพาะเม็ดที่ติดกันชาวบ้านเรียกว่า

    "อมกัน" นิยมกันมากว่ามีเมตตามหานิยมมากยิ่งขึ้น

    แร่พระร่วง ข้าวตอกพระร่วงหรือข้าวพระร่วง ตามตำนานของคน

    โบราณเล่ากันว่าข้าวตอกพระร่วงเป็นแร่ศักดิ์สิทธิ์ ที่เกิดขึ้นในสมัย พระ

    ร่วงแห่งกรุงสุโขทัย พระร่วงท่านเป็นกษัตริย์ที่มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ กล่าวคือ

    เปล่งวาจาอะไรออกไปก็จะเป็นไปตามนั้น ในขณะที่ท่านได้ออกผนวช

    เป็นพระภิกษุสงฆ์ และได้ออกบิณฑบาตรในวันออกพรรษาตักบาตรเท

    โว เมื่อท่านฉันอาหารเสร็จแล้วข้าวที่เหลือก้นบาตรพร้อมข้าว

    ตอกดอกไม้ท่านได้นำไปโปรยลงบนลานวัดเขาพระบาทใหญ่ แล้วทรง

    อธิษฐานว่า ขอให้ข้าวตอกดอกไม้นี้กลายเป็นหินชนิดหนึ่งและมีอายุ

    ยั่งยืนนานชั่วลูกชั่วหลาน เมื่อใครที่ได้นำไปบูชา ขอให้เจริญด้วยโภค

    ทรัพย์นานาประการ เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และแคล้วคลาดจากภัย

    อันตรายทั้งปวง...
    แหล่งกำเนิด : บริเวณเขาพระบาทใหญ่ จังหวัดสุโขทัย
    ลักษณะของแร่ข้าวตอกพระร่วง : มีลักษณะความแข็งคล้ายหิน มีรูป

    ทรงตามธรรมชาติเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีสีดำ สีดำ

    ปนน้ำตาล สีดำปนลายเงินลายทอง(เชื่อถือกันว่าเป็นสื่อนำโชคลาภ

    และเงินทอง) เมื่อนำไปเจียรนัยจะมีลักษณะเป็นเงามันสวยงามมาก
    ความเชื่อ :


    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านได้แจกแร่พระร่วงนี้เมื่อปี ๒๕๑๘ และได้มี

    ประกาศไว้ดังนี้ แร่นี้มีคุณสมบัติเท่าที่ทราบจากพระธุดงค์ที่เคยประสบ

    มาคือ
    1.เมื่อจะใช้ท่านให้อาราธณาพระร่วงแล้วอมไว้ เดินทางตลอดวันไม่

    กระหายน้ำ
    2.พระธุดงค์อีกคณะหนึ่งแจ้งว่า เมื่อเดินธุดงค์เพื่อนเกิดท้องร่วง ไม่มี

    ยาจึงเสี่ยงเอาแร่พระร่วงใส่กาต้มน้ำแล้วเอาน้ำให้ฉัน พระองค์ที่ป่วย

    หายจากอาการท้องร่วงทันที
    3.เมื่อปี 2516 พระปลัดฉ่อง แห่งอำเภอสรรค์บุรี จังหวัดชัยนาท ได้ทำ

    เป็นแหวนแจก ผู้รับไปจำชื่อไม่ได้ มีโจรเข้าปล้นควายโจรมีปืน เจ้า

    ของคนเดียวมีมีดด้วยความเสียดายควายแม้จะเป็นคนเดียวและอาวุธไม่

    ดีก็ยอมเสี่ยงเข้าไล่โจร โจรยิงด้วยปืนพกและลูกซอง ปรากฏว่าไม่มีแผล

    เจ้าตัวยืนยันว่าไม่มีอะไรอื่นเลยมีเพียงแร่พระร่วงเท่านั้น...
    และจากประสบการณ์ของผู้ที่ได้นำแร่นี้ไปบูชา บนหิ้งหรือพกติดตัวจะ

    อยู่ดีกินดีมีความสุขความเจริญรุ่งเรือง ด้วยเงินทองและโชคดี มีโชค

    ลาภ เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัยและยังสามารถนำไปฝนกับ

    น้ำมะนาวใช้แก้พิษสัตว์กัดต่อยได้อย่างดีอีกด้วย








    *** ขอ อนุญาติ คัดสวย ข้าวตอกพระร่วงเม็ดใหญ่ ราว 2 cm ให้ 1 องค์ ครับ

    บูชา องค์ละ 350 บาท พร้อมส่ง ems

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. น้ำตะวันภู

    น้ำตะวันภู มานั่งสมาธิกันนะครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +262
    โอนเงินให้แล้วครับ ค่าวัวธนูวัดโขงขาว

    วันนี้โอนเงินให้แล้วครับ ค่าวัวธนูวัดโขงขาว จำนวน 1500 บาท
    ที่อยู่ส่งให้ใน pm แล้วครับ

    เอกสารสลิบการโอนดังแนบครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    ขอบคุณครับ พรุ่งนี้จัดส่งให้นะครับ:cool:
     
  20. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    วัวธนูวัดโขงขาว ปี 2518 หลวงปู่คำแสน (วัดป่าดอนมูล) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่ชุ่ม หลวงปู่วงศ์ หลวงปู่ธรรมชัย หลวงปู่พรหมจักร หลวงปู่อินทรจักร หลวงปู่บุญทึม หลวงปู่เส่ง อธิษฐานจิต

    เนื้อวัวธนู เป็นทองแดงกว่า 80 % ส่วนที่เหลือ คือ ปรอท เจ้าน้ำเงิน และโลหะธาตุ ต่างๆ อีกหลายอย่าง
    แต่มวลสารหลักคือทองแดงครับ

    [​IMG]

    วัวธนูวัดโขงขาว ปี 2518 เป็นวัวธนูรุ่นเดียวที่ทันหลวงพ่อฤาษีอธิษฐาน และท่านอธิษฐานให้หลายครั้งมาก

    ประวัติครับ

    หลวงปู่คำแสน และหลวงพ่อบุญรัตน์ ท่านคุ้นเคยกันมานานแล้ว
    ประมาณปี 2518 ที่วัดป่าดอนมูล หลวงปู่คำแสน ท่านได้มอบตำราสร้างวัวธนู ให้กับหลวงพ่อบุญรัตน์ พร้อมกับสอนวิธีการสร้าง ท่านกล่าวว่า ท่านอายุมากแล้ว เกรงว่าต่อไปวิชานี้จะสูญหาย ในการนี้ ท่านได้มอบวัวธนูที่สร้างจากไม้หวายผ่าซีก และแกะคอดให้กับหลวงพ่อบุญรัตน์ด้วย
    (แทรก ต่อมาหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้รับตำราสร้างวัวธนูจาก ครูบาชุ่ม วัดวังมุ่ย ด้วย ซึ่งท่านกล่าวว่า เหมือนกับตำราของหลวงปู่คำแสนเลย ไม่มีผิดเพี้ยนกัน)
    หลังจากนั้นหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้จัดสร้าง วัวธนูขึ้นตามตำราของหลวงปู่ทั้งสองรูป
    โดยหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้นำไปให้หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล อธิษฐานจิตเดี่ยว
    เมื่อเสร็จพิธี หลวงปู่คำแสน ท่านได้กล่าวกับหลวงพ่อบุญรัตน์ว่า
    "วัวธนูชุดนี้ให้เก็บไว้ก่อน อย่าเพิ่งนำออกมา ในภายภาคหน้าคนจะถามหากันเยอะ จะเป็นที่ต้องการกันมาก"
    ตรงนี้จึงเป็นมูลเหตุให้หลวงพ่อบุญรัตน์ท่านเก็บวัวธนูชุดนี้ไว้นับแต่บัดนั้น


    นอกจากหลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูลแล้ว หลวงพ่อบุญรัตน์ยังได้นำวัวธนูชุดนี้ ไปขอความเมตตาให้ครูบาอาจารย์เสกเดี่ยว


    [​IMG]



    [​IMG]


    หลวงปู่ครูบาชุ่มโพธิโก วัดวังมุ่ย
    หลวงปู่คำแสน วัดสวนดอก
    หลวงปู่ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง
    หลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    นอกจากนี้ท่านยังนำมาที่กรุงเทพฯ เพื่อขอความเมตตาให้
    หลวงปู่เส่ง วัดกัลยา (ปรมาจารย์ ตำนาน น้ำมนต์ดอกบัวบาน) เสกให้ด้วย
    ครูบาอินทจักร วัดบ่อน้ำหลวง (พี่ชายแท้ๆ ของครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า)
    ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า
    ครูบาบุญทึม วัดจามเทวี (ลูกศิษย์ครูบาศรีวิชัย ที่ ลพ.ฤาษี ท่านเคยเล่าว่า สมเด็จองค์ปัจจุบัน ท่านกำชับหลวงพ่อฤาษีว่า ให้ไปตามหาพระที่ชื่อทึมให้เจอ)


    สำหรับหลวงพ่อฤาษีนั้น ท่านได้พุทธาภิเษกวัวธนูชุดนี้หลายครั้งหลายคราวมาก
    เพราะท่านเดินทางไปทอดกฐินที่วัดโขงขาวทุกปี (จากความสัมพันธ์ ในอดีตที่ท่านเคยเล่าว่า สมัยเสวยพระชาติเป็นพระเจ้าพรหมมหาราช อัฐธาตุของท่านเก็บไว้ที่วัดโขงขาวแห่งนี้ และในอดีตนั้นหลวงพ่อบุญรัตน์คือราชโอรสฝาแฝดของท่าน)

    หลวงพ่อบุญรัตน์เพิ่งตัดสินใจ นำวัวธนูชุดนี้ออกมาให้ทำบุญกัน โดยในส่วนของกล่องนั้นเพิ่งได้สั่งทำขึ้นไม่นานนี้

    สรุปวัวธนูชุดนี้ ได้รับการอธิษฐานจากพระเถระดังต่อไปนี้

    1. หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล (ลพ.ฤาษี เคยกล่าวว่า วัวธนู ต้องหลวงปู่คำแสน)
    2. หลวงปู่ชุ่ม วัดวังมุ่ย (ท่านสามารถเข้านิโรธได้ทั้ง 4 อิริยาบถ)
    3. หลวงปู่คำแสน วัดสวนดอก (รูปนี้ก็เย็นแล้ว จบกิจ)
    4. หลวงปู่ชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม (พระมหาโพธิสัตว์ อดีตฤาษีวาสุเทพ ผู้สร้างพระรอดในตำนาน)
    5. หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระผู้มากบารมี อยู่ในใจหลายๆ คน)
    6. หลวงปู่ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง (พระผู้ทรงอภิญญาแก่กล้า)
    7. หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาฯ (ปรมาจารย์น้ำมนต์ดอกบัวบาน)
    8. หลวงปู่ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า (มหาเถระแดนล้านนา)
    9. หลวงปู่ครูบาอินทจักร วัดบ่อน้ำหลวง (รูปนี้บารมีมาก เก่งมาก แต่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้)
    10. หลวงปู่บุญทึม วัดจามเทวี (ลูกศิษย์ครูบาศรีวิชัย และเป็นพระที่สมเด็จองค์ปัจจุบันท่านกำชับ ลพ.ฤาษี ลิงดำ ให้ตามหา)

    เพิ่มเติมอีกนิด
    คุณเกรียงไกร (ลูกศิษย์รุ่นเก่าของ หลวงปู่คำแสน ท่านได้รับไม้เท้าของหลวงปู่หลังจากหลวงปู่มรณภาพ) ท่านก็ได้ถามหาวัวธนูรุ่นนี้กับหลวงพ่อบุญรัตน์ เพราะท่านทราบว่า วัวธนูรุ่นนี้ หลวงปู่คำแสน ได้เสกเดี่ยวให้ที่วัดป่าดอนมูล


    การบูชาวัวธนู (ตามใบฝอยจากวัดป่าดอนมูล)
    ให้หาหญ้าและน้ำใส่ภาชนะ เป็นอาหาร 7 วันให้เปลี่ยนเสียหนึ่งครั้ง
    วัวธนูมีไว้สำหรับป้องกันภูตผีปีศาจ และป้องกันจากเหล่าโจรต่างๆ
    ทางเมตตาโชคลาภก็ได้เหมือนกัน เช่น เวลากลางวันให้หันหน้าวัวเข้าบ้านให้อธิษฐานเอาในทางโชคลาภ ในเวลากลางคืนหันหน้าวัวธนูออกนอกบ้านเพื่อป้องกันภัยต่างๆ
    อนึ่ง จุดธูป 3 ดอก ทุกค่ำเช้า (ตั้งนะโม 3 จบ) แล้วบูชาด้วยพระคาถา

    “โอม โกโน มหาโกโน โอมโกโส มหาโกโส โอมกูจักมนต์งัวธนู กูสูงได้เก้าปันศอก ปลายหนอกได้เก้าปันวา กูโอ้ดังก้องฟ้า อ้าปากร้องผีกลัว เห็นเสือด่าหนี เห็นผีด่าจม โอมสวาหะ ขะจัดเถ็กฯ
    โอมโกโน มหาโกโน โอมกูจักมนต์งัวธนู กูบินฆะฆะ ตั่วมีราคะ มัวมืดเศร้า ปะริเทหะ ชนไล่ดอกชน สัพพะศัตรู วินาสันตุฯ


    การบูชาดูเหมือนจะยาก แต่จริงๆ แล้ว ไม่ยากเลย

    ประสบการณ์วัวธนู วัดโขงขาว

    1. อนาคตวัวธนูรุ่นนี้ ไปได้อีกไกลมากครับ (ลป.คำแสน ท่านคงรู้ ว่าต่อไปจะมีภัยต่างๆมาก ท่านจึงบอกให้หลวงพ่อบุญรัตน์เก็บไว้ก่อน ต่อไปคนจะต้องการกันมาก)
    วัวธนูรุ่น 1 ของหลวงปู่คำแสนเสกเดี่ยว บูชากันที่หลายหมื่นบาท
    วัวธนู รุ่นสุดท้ายของท่าน สวยๆ ก็ทะลุ 2 หมื่น
    วัวธนูรุ่นนี้ นอกจากหลวงปู่คำแสนท่านเสกเดี่ยว แล้ว ยังได้รับความเมตตาจากครูบาอาจารย์ระดับปรมาจารย์อีกหลายรูป ต่อไปในอนาคต คงต้องพลิกแผ่นดินหากันเป็นแน่


    เพราะครูบาอาจารย์หลายรูปสัมผัสแล้ว รับรองความสุดยอด
    เช่น ลต.ชลอ วัดศาลฯ สัมผัสแล้ว กล่าวว่า "สุดยอดทางป้องกันเลยนะนี่"

    พระเถราจารย์รูปหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ท่านกล่าวว่า "วัวธนูนี้เป็นกายสิทธิ์ มีฤทธิ์มาก บูชาที่บ้าน 1 องค์ คุ้มกันได้ทั้งบ้าน การบูชาให้หาพานดินมารองรับ (ควรเป็นดินบริสุทธิ์ เพราะวัวนี้สร้างจากปรอทธรรมชาติ) เพราะวัวต้องอยู่กับดิน"

    2. วัวธนูชุดนี้ เมื่อหลายปีก่อน หลวงพ่อบุญรัตน์เคยมอบให้ พระสงบ วัดนาคปรก ไปบูชา 1 องค์

    เกิดเรื่องราวคือ มีผู้คนเห็นวัวเดินไปมาตรงกุฏิพระสงบอยู่บ่อยๆ พระสงบท่านจึงนำมาเล่าให้หลวงพ่อบุญรัตน์ฟัง ปัจจุบัน พระสงบได้ละสังขารไปหลายปีแล้ว

    อีกท่านหนึ่งที่เคยได้รัยวัวธนูรุ่นนี้ไปบูชา คือ พ.ต. อำนวย (ยศ สมัยนั้น) อยู่ กรุงเทพ หลังจากได้วัวไป มีเพื่อนบ้านเห็นมีวัวเดินอยู่ในสนามหญ้าหน้าบ้าน


    3. ขอสอบถามเพิ่มนะครับ 1.ถ้าใส่กรอบไม่ต้องใส่ดินใช่ไหมครับ 2.ถ้าเลี่ยมกรอบเหน็บกระเป่าเสื้อหรือคอเสื้อ...(พระห้อยคออยู่ด้านล่างกระเป๋าเสื้อ)จะเป็นไรไหม..อยู่คนละเส้นกัน 3.ส่วนที่ตั้งหิ้ง(แยกต่างหากจากหิ้งพระ)ผมทำตามที่คุณได้บอกไว้เเล้ว แต่เวลาไหว้ไม่ใช้ธูปได้หรือไม่(ผมแพ้ควันธูปและฝุ่นจากขี้ธูป)ใช้มือ10นิ้วพนมมือระลึกถึงคุณ ครูอาจารย์ และค่อยนึกถึงวัวธนูได้หรือไม่ 4.ต้องตั้งชื่อให้วัวด้วยหรือไม่ ถ้าไม่ได้ไหว้เช้าเย็น(เป็นประจำ)จะยังคุ้มครองไหม
    1. เลี่ยมธรรมดาครับ ไม่ต้องใส่ดิน
    2. ไม่เป็นไรครับ แต่เวลาวางบูชา พระต้องอยู่สูงกว่า
    3. ผมก็ไหว้แบบยกมือพนมต่างธูปเทียนครับ (ไม่มีปัญหาเรื่องไฟด้วย ปลอดภัยดี)
    4. ไม่ต้องตั้งครับ (ถ้าเป็นกุมารทองต้องตั้ง)


    4. เพิ่มเติมข้อมูลให้นะครับ

    ปกติแล้ว ไม่ว่า วัวธนู กุมารทอง หรือผงพราย ล้วนแล้วแต่มีพื้นฐานมาจากไสยเวทย์ (ไสยศาสตร์) ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายดำ หรือ ขาว (สัมมา หรือ มิจฉา) ต่างก็สร้างได้

    แต่ ความแตกต่างมีอยู่ ยกตัวอย่าง เช่น

    อาจารย์ฆราวาส หลายๆ ท่าน ในปัจจุบัน สร้าง ผงพราย โดยใช้ซากทารก และวัสดุอาถรรพ์ หรือแม้แต่สร้างพระโดยการใช่น้ำมันพราย(ของจริง) ที่ได้จากการปลุกซากศพให้ลุกนั่งแล้วรนเอาน้ำมัน ก็ตาม ส่วนใหญ่แล้ว ใช้อำนานแห่งไสยเวทย์นั้น บังคับ กักขัง วิญญาณ (ทำให้วิญญาณนั้นได้รับทุกขเวทนา) เพื่อใช้ทำเรื่องต่างๆ สร้างบาปกรรม เวรกรรม ให้กับ ทั้งตัวผู้เสก ผู้ใช้ และวิญญาณ นั้น เป็นเดรัจฉานวิชา มีแต่โทษ

    แต่สำหรับฝ่ายขาว แม้วิชาจัก มีพื้นฐานมาจากไสย แต่ท่านได้ทำให้เกิดธรรม ที่บริสุทธิ์ เช่น สร้างพระผสมน้ำมันพราย แต่หาได้กักขังวิญญาณนั้นไม่ ท่านกลับเทศนาสั่งสอน และแผ่เมตตา จากดวงวิญญาณบาปกลายเป็นดวงวิญญาณบุญ (จากอาทิสมานยกายที่ราศรีหม่นหมอง กลายเป็นสว่างด้วยบุญ) คือ กลายเป็นเทวดา นางฟ้า และบำเพ็ญบารมีต่อโดยการเกื้อกูลผู้ใช้วัตถุมงคลนั้น มีแต่คุณไม่มีโทษ

    พระเถระรูปหนึ่ง ท่านกล่าวว่า
    "วัวธนูรุ่นนี้ ไม่ธรรมดา นอกจากกันภูติผีปีศาจ โจรขโมย ยังสามารถป้องกันภัยพิบัติต่างๆ ได้ด้วย
    การบูชาให้วางบนพานดิน (ดินบริสุทธิ์) บูชาด้วยน้ำสัก 1 แก้ว (เปลี่ยนทุก 7 วันก็ได้) วัว 1 องค์ สามารถคุ้มได้ทั้งบ้า
    วัวธนูรุ่นนี้ มีแต่คุณ ไม่มีโทษ"
    ที่สำคัญอีกประการ คือ วัวธนูรุ่นนี้ แม้จักลืมอาราธนา ท่านก็ปกป้องคุ้มครองโดยอัตโนมัติเองอยู่

    แล้ว




    บูชา 1500 บาท พร้อมส่ง ems
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2015

แชร์หน้านี้

Loading...