สิ่งที่เป็นของโลก

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย oatthidet, 11 สิงหาคม 2012.

  1. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ที่ว่า วางบุญ วางบาปนั้น จากที่พออ่านจะเข้าใจได้ว่า เมื่อละอุปทานได้แล้ว สิ้นอวิชชาแล้ว หลวงพ่อท่านว่าเหนือเหตุ เหนือผล
    หากยังเพียรอยู่ แม้ บุญ บาป ก็ต้องถือไว้ กุศล อกุศล ก็ต้องรับ รู้ไว้
    จับไว้ หากแต่ อยู่ใน การสำรวม สังวร ระวัง
    ไม่ควรประมาทนะครับ
     
  2. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ก็แล้วแต่ครับ ใครจะนึกคิดอย่างไร ไม่มีใครสามารถไปบังคับได้

    ผมก็ทำตามที่ผมได้บอกกล่าวไว้ครับ ทำโดยไม่หวังผลประโยชน์

    ในชีวิตประจำวันของผมก็เช่นกัน ผมก็ไม่ได้หวังผลประโยชน์

    ในชีวิตประจำวันผมได้ทำมากกว่าที่พูดคุยในที่แห่งนี้มากนัก

    สาธุครับ
     
  3. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    ก็สอนคุณน่ะแหละถ้าอยากบรรลุธรรมก็ต้องหยุด เมื่อคุณหยุดคุณจะสำเร็จ มรรคผลนิพพานอยู่ที่กายแต่ละคน หาจิตให้เจอแล้วเอามลทินออกจากจิต ที่คุณบอกว่าพระพุทธเจ้าท่านไม่ได้สอนอะไรมากนั้นก็ผิด คือไม่ถูก คุณรู้หรือเปล่าพระไตรปิฎกมีมากมายหลายเล่ม คุณไม่เคยอ่านคุณบอกอย่างนั้น แล้วปัญญามันจะกว้างขวางได้อย่างไร สมมติว่าคุณประกาศตัวเป็นพระอริยะ แล้วเขาถามคุณว่ามีฤทธิ์หรือเปล่าคุณจะป้องกันตัวอย่างไร ธรรมะมีหลายแง่ที่จะให้ศึกษาและภาวนา เป็นทั้งเรื่องของจิตใจและปัญญา ที่สำคัญอย่าอมทุกข์ และต้องเคารพพระพุทธเจ้า ไม่เคารพไม่ศรัทธาพระพุทธเจ้าก็นิพพานไม่ได้..........จากสาวกของพระพุทธเจ้าสมณะโคดม...
     
  4. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    เห็นด้วยครับ ที่คุณกล่าวมาผมชอบใจครับ พอใจ...
     
  5. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ไม่ต้องมาสอนผมหลอกครับ สอนตัวคุณเองให้ดีก่อนครับ และ ที่ผมบอก

    ว่าพระพุทธองค์ไม่ได้สั่งสอนมากมายนั้นเป็นความจริง เพราะพระองค์ไม่ได้บัญญัติ

    พระไตรปิฎกด้วยตัวท่านเอง พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนด้วยวาจาในขณะนั้น

    สาวกได้บัญญัติขึ้นหลังจาก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงปรินิพพานแล้ว

    หลังจากนั้น ก็ได้สั่งสอนกันมาจนกระทั้งเกิดการสังคยาณาใหม่ในพระธรรม

    ซึ่งได้มีผู้แอบแฝงเข้ามาเพิ่มเติมให้เปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งเป็นระยะเวลาสองพันกว่าปีมาแล้ว

    และ ผมก็ศัทธาในพระธรรมของสัมมาสัมพุทธเจ้าเสมอ ความเป็นทุกข์นั้นขณะนี้

    หาได้มีกับผมไม่ ผมไม่ได้เป็นทุกข์อย่างที่คุณกล่าวอ้าง ผมเคยบอกกล่าวในเรื่องจิตไว้แล้ว

    ผู้ที่เห็นจิต ในขณะเห็นจิตจะไม่มีการปรุงแต่ง ซึ่งไม่ได้เป็นอย่างที่คุณยกตัวอย่างมา

    ว่าต้องหมกหมุ่นในกาม คุณลองกลับไปทบทวนในคำกล่าวของตัวคุณเองดู

    ว่าคุณกล่าวถึงข้อธรรมในแต่ละวัน มีบ้างไหมที่คงที่ หรือ วันนี้กล่าวอย่างหนึ่ง พรุ่งนี้กล่าวอีกอย่างหนึ่ง

    สาธุครับ
     
  6. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    การยินดี ยินร้าย ได้เกิดขึ้นแล้วอย่างชัดเจน

    สาธุครับ
     
  7. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    ไม่นึกว่าคนที่ปรารถนาพุทธภูมิอย่างโอ๊ทธิเดชจะโง่ขนาดนี้ รู้จักภวะตัณหากับเขาบ้างไหม และอย่ามากล่าวตู่พุทธวิสัย แค่เทวดาองค์เล็กสุดคุณเอาตัวให้รอดเสียก่อนเถิด โลกมันกว้าง ความคิดคับแคบไม่ยอมฟังใคร ปฏิบัติไปก็ไม่ใช่แก่นธรรมในพระพุทธศาสนา จิตวิญญาณคุณเขาเรียกว่า หงัด!
     
  8. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ในช่วงชีวิตนี้ ฟางว่าน/คีย์บอร์ด ปรามาสพระอริยะเจ้า(ในเพศฆราวาส) ไปกี่คนแล้วหนอ.......
     
  9. Workgroup

    Workgroup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +1,947
    ผมไม่ได้เล่าเรียนตำราครับ ผมกล่าวจากสิ่งที่ผมได้เห็นครับ ความเป็นปกตินี้เอง ที่เป็นหนทางครับ

    นำพาให้มนุษย์เข้าใจในกระบวนการ การทำงานของสภาพชีวิต ส่วน " ปรมัตถ์ " นั้น

    ผมไม่ทราบว่าจะบอกกล่าวอย่างไร ผมรู้แค่ว่าเมื่อยอมรับความเป็นไปของโลกแล้ว

    จะเกิดการละวางในการยึดมั่น ถือมั่น ลดละความอยากได้นั้นลงครับ ไม่สนใจในการกระทำทุกชนิด

    ทำไปตามสิ่งที่ควรกระทำ โดยไม่มุ่งหวัง หรือ มุ่งเน้น ในสิ่งนั้นๆ อย่างที่มนุษย์ทั่วไปเขาทำกันครับ

    สิ่งที่มุ่งมั่นมีเพียงอย่างเดียวครับ คือ แยก กาย ใจ จิต ออกจากกัน เมื่อแยกกายออกจากจิตได้

    การยึดติดด้วยตัวตนจะหายไปครับ แต่ยังหลงเหลือทิฎฐิด้วยการยึดมั่นอยู่ครับ เป็นเหตุให้ต้อง

    แยกใจออกจากจิตครับ เมื่อไม่รับรู้ความรู้สึกที่มีเกิดขึ้นมานั้น การยึดด้วยทิฎฐิจะหายไปครับ

    สิ่งที่เป็นของโลกก็จะไม่มีอะไรให้อาลัยอาวรณ์ครับ เมื่อนั้นความเข้าใจในการเกิดจะมีให้เห็นครับ

    สาธุครับ
    __________________
    ขอให้เจริญในธรรมครับ
    ------------------------------------------


    พ่อ แม่ คุณ ก็ คือ ตำรา ที่ดี เล่ม 1 เลยนะครับ พ่อ แม่ เป็น ครู เป็นได้ทุกอย่างครับ

    ปล ผมว่า พี่ เพ้อเจ้อครับ ตามนั้นครับ


    ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา

    คำว่า ทาน นั้น ละเอียจ เหมือนเม็ดทราย ให้ความหมายได้หลายๆๆ แบบ

    ศีล 5 อย่าให้ขาดอย่าให้คาดจากหัวใจ

    สมาธิ ทำให้มีสติ รู้ ว่าอะไรควรมิควร จะทำให้เกิด ปัญญา

    เมื่อมี ปัญญา แล้ว มรรคผล ก็จะตามมาให้เห็น

    ถ้า ทำสมาธิ ไม่ได้ ก็ ลดลง มา ให้ถือ ศีล ถ้าถือ ศีล ไม่ได้ ก็ ให้ทาน

    แต่การ ให้ ทาน จะได้บุญ น้อย กว่า ถือ ศีล การถือ ศีล จะได้บุญ นอยกว่าการทำ สมาธิ

    ผมได้คำแนะนำ จาก หลวงพี่ น้อย ครับ

    หมายเหตุ หลวงพี่น้อย เอามาจากคำสั่งสอน ของ พระพุทธเจ้า ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2012
  10. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    คุณได้อ่านทุกกระทู้ไหมครับ ผมได้อธิบายคำว่า " ตำรา " ไปแล้ว

    ว่าหมายถึง " พระไตรปิฎก " และ ผมไม่เห็นประโยชน์ในการโต้แย้งของคุณครับ

    สาธุครับ
     
  11. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    จิตกับใจขณะเป็นมรรคก็เป็นอนัตตา เมื่อวิมุตติ(ผมพระอนาคามี) จึงจะเห็นว่าจิตกับใจต้องรวมเป็นหนึ่งเดียว ไม่ใช่ไปแยกอย่างคุณโอ๊ทธิ คุณจะแยกไปทำไม มันต้องอยู่ร่วมกัน และไอ้ความคิดแยกกายแยกใจน่ะมันเป็นอวิชชาในพระพุทธศาสนา ทำอย่างนั้นเป็นทุกข์ ความหมายเรื่องนี้พระพุทธเจ้าท่านก็สอน อยู่ที่สมาธิชอบ...
     
  12. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    จิตใจเมื่อรวมกัน จึงเป็นเหตุให้เกิดครับ ไว้คุณเห็นด้วยตัวคุณเองจะเข้าใจ

    ถึงผมจะบอกคุณยังไง คุณก็ไม่เข้าใจอยู่ดีนั่นแหละครับ หน้าที่ของแต่ละอย่าง

    การทำงานของจิต ก็ทำหน้าตามหน้าที่เท่านั้น กายก็ทำตามหน้าที่ ใจก็ทำตามหน้าที่

    สาธุครับ
     
  13. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320

    ไม่เพ้อเจ้อหรอก ผู้เห็นปรมัตถ์ธรรมแล้ว และเห็นไตรลักษณ์ของปรมัตถ์ธรรมแล้ว เป็นแบบนี้ทุกคน
     
  14. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ไม่มีใครเปลี่ยนแปลง " กระแสแห่งกาลเวลา " ได้ แม้แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

    แต่มนุย์ในยุคนี้กลับนึกคิดว่าตนนั้นจะเปลี่ยนแปลง เวลาแห่งศาสนาในสมัยของพระพุทธโคดม

    ได้ก้าวมาถึงครึ่งแล้ว และ กำลังจะไปเจริญทางฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่า

    ความเสื่อมได้เกิดขึ้นมาอย่างชัดเจน ต่อไปนี้ " ผู้หญิง " จะมาเป็นผู้ที่บำรุงรักษาศาสนาพุทธ

    ทุกสิ่งกำลังก้าวเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของพระศาสนา และ จะดำเนินต่อไป ซึ่งกว่าจะเข้าสู่ปีสามพัน

    ความวุ่นวาย และ แปรเปลี่ยนจะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงกับประเทศไทย ก่อนที่จะย้ายความเจริญของศาสนา

    ไปทางฝั่งตะวันตก ซึ่งในขณะนี้แม้แต่ผู้ปฎิบัติธรรมยังถกเถียงเอาชนะกันเอง ด้วยยึดถือตนเองเป็นหลัก

    " อัตตา " ที่ได้เกิดขึ้นนี้นำไปสู่ความเสื่อมอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ คงได้แต่ทำใจยอมรับเท่านั้น

    " กระแสแห่งกาลเวลา " ได้หมุนไปอย่างไม่มีหยุด ผมต้องการฝากเอาไว้ให้พิจารณากัน ว่า

    สิ่งที่กระทำอยู่นี้ " ถูก " แล้วหรือครับ ใครรู้มากกว่ากันแล้วได้อะไรครับ ใครที่รู้น้อยกว่าจะเป็นอย่างไรครับ

    ต้องการที่จะเป็นหนึ่งในหลายร้อย หลายพันคน ที่ทำให้ศาสนาเสื่อมอย่างนั้นหรือครับ

    ช่วยกันจรรโลงพระศาสนาให้คงอยู่ในประเทศไทยนานอีกนิดไม่ได้หรือครับ

    สาธุครับ
     
  15. vichayut

    vichayut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +661
    โลกนี้มันพิลึกครับ โลกมันหมุนไปทางหนึ่ง คนก็หมุนไปอีกทางหนึ่ง
    มันเดินสวนทางกัน อะไรที่เป็นความจริงแท้ของโลก เป็นธรรมชาติที่
    มันควรจะเป็น มันธรรมดาเกินไปที่จะมองเห็น แต่สิ่งสมมติอีกมาก
    ที่มันเกินธรรมดา หลายคนเดินกับสวนทางกับโลกตามหามัน

    เป็นบางครั้งในอารมณ์ของผมเองที่เฝ้ามองตัวเองอยู่ บางครั้งก็หยุด
    บางครั้งก็มีหลงไป ยังต้องฝึกให้มากอยู่ เห็นด้วยกับกระทู้ครับ
    __________________
    ดูจิต.........ด้วยสติ
     
  16. JitJailove

    JitJailove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +741
    ปฐมสัทธัมมสัมโมสสูตร
    ว่าด้วยเหตุเสื่อมและเหตุเจริญแห่งศาสนา
    [๑๕๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๕ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อ

    ความลบเลือนเสื่อมสูญแห่งสัทธรรม ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุ

    ในธรรมวินัยนี้ ไม่ฟังธรรมโดยเคารพ ๑ ไม่เล่าเรียนธรรมโดยเคารพ ๑

    ไม่ทรงจำธรรมโดยเคารพ ๑ ไม่ใคร่ครวญอรรถแห่งธรรมที่ทรงจำไว้

    โดยเคารพ ๑ รู้อรรถรู้ธรรมแล้วไม่ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมโดย

    เคารพ ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๕ ประการนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อ

    ความลบเลือนเสื่อมสูญแห่งสัทธรรม.

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๕ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความตั้งมั่น

    ไม่ลบเลือนเสื่อมสูญแห่งสัทธรรม ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุใน

    ธรรมวินัยนี้ ย่อมฟังธรรมโดยเคารพ ๑ เล่าเรียนธรรมโดยเคารพ ๑

    ทรงจำธรรมโดยเคารพ ๑ ใคร่ครวญอรรถแห่งธรรมที่ทรงจำไว้โดย

    เคารพ ๑ รู้อรรถรู้ธรรมแล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมโดยเคารพ ๑

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๕ ประการนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความตั้งมั่น

    ไม่ลบเลือนเสื่อมสูญแห่งสัทธรรม.

    จบปฐมสัทธัมมสัมโมสสูตรที่ ๔
     
  17. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    สิ่งที่คุณยกมาคงเป็นคำจากพระไตรปิฎกกระมังครับ แต่ที่ผมบอกกล่าวนั้น

    ผมเห็นเช่นนั้นครับ ผมบอกกล่าวไปตามที่เห็นครับ ส่วนจะเชื่อหรือไม่

    คงต้องแล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคนครับ

    สาธุครับ
     
  18. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    หากคุณ JitJailove จะคิดเช่นไรนั้น เป็นสิทธิ์ของคุณครับ ผมไม่ได้ต่อว่าผู้หญิง

    แต่สิ่งที่เห็นนั้นเป็นอย่างที่ผมกล่าวครับ สิทธิเรื่องผู้หญิงเกิดขึ้นเมื่อยึดติด

    หากไม่มีเรื่องเพศเข้ามายุ่งเกี่ยว จะมองว่าเป้นเรื่องธรรมดาของโลก

    สาธุครับ
     
  19. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ธรรมมะที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศ ทนต่อการพิสูจน์
    ดั่งคำว่า ท่านจงมาดูเถิด
     
  20. JitJailove

    JitJailove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +741

    เอาเป็นว่า เอามาให้อ่านประกอบกับความเห็นส่วนตัวของคุณoatthidetล่ะกัน

    คุยมาก เด๋วเป็นการรบกวนคุณoatthidet ต้องเสียเวลามาตอบกลับทุกโพสท์
     

แชร์หน้านี้

Loading...