หลวงปู่พิบูลย์ถูกถ่วงน้ำไม่ตาย

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย มากับพระครับ, 26 ตุลาคม 2009.

  1. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    ปิ๊กมาถึงกทม.แล้ว
     
  2. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    ยังเหนื่อยอยู่เลย เรื่องยาวๆไว้ว่ากันพรุ่งนี้เนอะ
     
  3. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    บรมครูปู่ฤๅษีพัดโบก ท่านลงมาจากยอดอยลางแล้วครับ หลวงปู่ครูบาสิทธิ ท่านอัญเชิญปู่พัดโบกลงสิทธิเรียบร้อยแล้ว เหลือรอกล่องอย่างเดียว หลวงปู่ครูบาอาจารย์ที่อัญเชิญปู่พัดโบกลงเสกมีทั้งหมด ๙ รูป อัญเชิญปู่เสกทั้งหมด ๑๐ ครั้ง โดยหลวงปู่ครูบาสิทธิเริ่มและปิดท้าย เกิดความอัศจรรย์ลมหอบจนเณรตกใจวิ่งขึ้นศาลา เด๋วจะค่อยๆลงรูปให้ดูนะครับ ว่า ๙ รูปมีใครบ้าง
     
  4. ratsung

    ratsung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2007
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,355
    พักผ่อนเถอะพี่เอก
     
  5. K_P

    K_P เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,151
    ค่าพลัง:
    +3,536
    สวัสดีครับพี่เอก

    ติดตามอ่านด้วยความเคารพครับ
     
  6. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    ก่อนไปถึงบรมครูปู่ฤๅษีพัดโบกขอขั้นด้วยประวัติหลวงปู่ครูบาบุญทา วัดเจดีย์สามยอดก่อนครับ


    ประวัติหลวงปู่ครูบาบุญทา วัดเจดีย์สามยอด
    [​IMG]



    <O:p</O:p
    ปัจจุบันอายุ๗๗ปี เกิด ๒๒ มิย. ๒๔๗๕ ที่ บ้านหนองเกิ๊ด อ.ป่าซาง จ.ลำพูน พออายุ ๑๑ ปี หลวงปู่ครูบาส้อ เกจิชื่อดังองค์หนึ่งของอ.ป่าซางซึ่งขณะนั้นเป็นเจ้าอาวาสอยู่วัดหนองเกิ๊ด ขอท่านมาเป็นขโยมวัด แล้วสอนให้อ่านเขียนตัวเมืองล้านนา หัดสวดมนต์ หัดเทศน์ธรรม จนได้คล่องแคล่วแล้วจึงให้บวชเป็นสามเณร เมื่ออายุ ๑๕ ปี หลังจากเป็นสามเณรแล้วก็ยังได้อยู่อุปฐากรับใช้ ศึกษาวิทยาคมรวมถึงกรรมฐานกับหลวงปู่ครูบาส้อจนเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็ว กระทั่งอายุ ๒๒ ปีได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้วย้ายตามหลวงปู่ครูบาส้อไปปกครองวัดท่าตุ้ม จากนั้นอีก ๔ ปีต่อมาหลวงปู่ครูบาบุญทาถูกส่งไปเป็นเจ้าอาวาสวัดหัวข่วงอยู่เกือบสิบพรรษาจนเกิดความเบื่อหน่ายจึงลาออกแล้วเดินทางไปอยู่อ.เชียงดาว ศึกษาพระเวทย์วิทยาคมแปลกๆในสายพระฤๅษี กระทั่งหลวงปู่ ครูบาส้อ วัดท่าตุ้ม เกิดมรณภาพ จึงรีบกลับมา เมื๋อเสร็จจากงานศพแล้วหลวงปู่ครูบาสม เจ้าอาวาสวัดเจดีย์สามยอดศิษย์ผู้พี่ได้นิมนต์ให้อยู่กับท่านเพื่อช่วยงานพัฒนาวัดฯ ต่อมาหลวงปู่ครูบาสมมรณภาพ หลวงปู่ครูบาบุญทาจึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสสืบมากระทั่งปัจจุบัน หลวงปู่ครูบาบุญทาเมื่อเป็นเจ้าอาวาสแล้วก็ได้เป็นที่พึ่งของชาวบ้านย่านนั้นมาตลอด ใครๆก็มาให้ท่านสงเคราะห์จนมีสานุศิษย์นับถือมากมาย กระทั่งเรื่องอำนาจจิตและเวทย์วิทยาคมของท่านเริ่มเป็นที่รู้จักขจรขจายไปทั่ว งานพุทธาภิเษกของวัดต่างๆในพื้นที่ต้องมาอาราธนาขอให้ท่านไปนั่งปลุกเสกทุกครั้ง แต่ท่านเองกลับไม่เคยจัดสร้างวัตถุมงคลของท่านเองสักครั้ง จนกระทั่งปัจจุบันคณะศิษย์ได้ดำเนินการขออนุญาติท่านสำเร็จ หลวงปู่จึงปรารภให้สร้างลูกสุนทรีตามวิชาของหลวงปู่ครูบาส้อผู้เป็นพระอาจารย์ (เหมือนที่ภาคกลางเรียกว่า ปรอทกรอ) ตะกุรดดอกคำ(ตะกรุดดอกทอง) และ สายคาดเอวตะกรุด ๑๐๘ ดอก ขึ้นเป็นวัตถุมงคลรุ่นแรกอย่างเป็นทางการ โดยปลุกเสกเดี่ยวจนเกิดปาฏิหารย์เสียงลูกสุนทรี(ปรอทกรอ)ดังเกรียวกราว

    สำหรับหลวงปู่ครูบาส้อพระอาจารย์ของหลวงปู่นั้นท่านเก่งในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเมตตามหาเสน่ห์หรือด้านข่ามคง แต่ถึงแม้ท่านจะเก่งขนาดไหน?ท่านก็ยังพกลูกสุนทรี(ปรอทกรอ)ตลอดเวลา และในการปลุกเสกทุกครั้งต้องอัญเชิญกระแสพลังจากลูกสุนทรีนี้ลงประจุในวัตถุมงคลด้วยตลอด โดยใส่ไว้ในบาตรน้ำมนต์ พอปลุกเสกจนได้ที่น้ำมนต์จะสั่นมีเสียงร้องวิ๊งๆจากปรอทเสร็จแล้วจึงใช้น้ำพระพุทธมนต์นี้ประพรหม ต่อมาเมื่อหลวงปู่ครูบาส้อมรณภาพลูกสุนทรี(ปรอทกรอ)นี้ได้ตกทอดสู่หลวงปู่ครูบาบุญทาและหลวงปู่ครูบาบุญทาก็ได้นำมาใช้ในพิธีกรรมปลุกเสกตามแบบของหลวงปู่ครูบาส้อผู้เป็นพระอาจารย์กระทั่งปัจจุบัน


    <O:p</O:p
    ลูกสุนทรี(ปรอทกรอ)หลวงปู่ครูบาบุญทา วัดเจดีย์สามยอด
    [​IMG]


    พระสุนทรีวาณี

    [​IMG]

    ภาพพระสุนทรีวาณี ถือดวงแก้ววิเชียร <O:p
    ที่สมเด็จพระวันรัตแดงเกิดนิมิตร
    แล้วให้จิตกรหลวงเขียนไว้
    <O:p

    ประวัติ..พระสุนทรีวาณี

    <O:pเป็นพระปางพิเศษ เป็นรูปเทพธิดาทรงอาภรณ์อันงดงามวิจิตร หัตถ์ขวาแสดงอาการกวัก คือ การเรียกเข้ามาหา หัตถ์ซ้ายหงายอยู่บนพระเพลา (หน้าตัก) มีดวงแก้ววิเชียร อยู่ในพระหัตถ์ <O:pพระสุนทรีวาณี เป็นพระซึ่งเกิดจากการนิมิต แห่งพระคาถาสุนทรีวาณี ซึ่งเป็นคาถาที่ปรากฎ ในคัมภีร์สัททาวิเสส มี ๓๒ คำ<O:pพระคาถานี้เป็นพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดเมื่อเรียนพระไตรปิฎก เรียนพระธรรม เรียนวิชา ภาวนาแล้ว ดับอวิชชา บังเกิดปัญญางาม ปัญญากลายเป็นสัญญา คือ ความทรงจำอันเลิศล้ำ โบราณาจารย์ได้สั่งสอนศิษยานุศิษย์ให้ท่องทุกครั้ง ที่เรียนพระไตรปิฎกตลอดมา สืบได้ความว่า ผู้ที่ท่องคาถานี้เฉพาะในยุครัตนโกสินทร์ ดำรงสมณศักดิ์ เป็นสมเด็จพระสังฆราช ๓ พระองค์ เป็นพระสมเด็จ พระราชาคณะ เป็นพระคณาจารย์ผู้มากด้วยเมตตา <O:pสมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวัฑฒโน) อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ ๓ ของวัดสุทัศนเทพวราราม ภาวนาแล้วเกิดเป็นนิมิต จึงให้จิตรกรหลวงเขียนภาพนิมิตนั้น แล้วตั้งบูชาที่หัวนอน ครั้นต่อมารัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสยุโรป สมเด็จพระวันรัต (แดง) ได้ถวายคาถานี้ให้จำเริญ ครั้นเสด็จกลับจึงได้ตรัสว่าคาถานี้ศักดิ์สิทธิ์ และทรงยืมรูปพระสุนทรีวาณีไปบูชา เป็นเวลา ๕ ปี จนเมื่อสมเด็จพระวันรัต (แดง) อาพาธ ก่อนมรณภาพ จึงขอพระราชทานคืนวัด ปัจจุบันประดิษฐานที่ พระตำหนัก (คณะ ๖)

    คาถาพระสุนทรีวาณี
    ตั้ง นะโม (๓ จบ)
    มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทะรี
    ปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะยะตังมะนัง
    คำแปล
    <O:pนางฟ้า คือพระไตรปิฎกอันเกิดจากดอกอุบล คือพระโอษฐ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้พึ่งพำนักของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอจงยังใจของข้าพเจ้าให้เอิบอิ่มปรีดาปราโมทย์ รู้แจ่มแจ้งแทงตลอดจำได้ ปฏิบัติตามได้ ในพระไตรปิฏกทั้งโลกียะและโลกุตตระนั้นเทอญ

    หมายเหตุ<O:p
    พระสุนทรีวาณี เป็นพระที่ทรงไว้ด้วยความเมตตาอย่างสูง เป็นพระที่เป็นสิริมงคล มหาลาภต่าง ๆ จึงเหมาะแก่ห้างร้าน บริษัท และร้านค้าทั่วไปจะมีไว้บูชาเพื่อเจริญด้วยลาภ ยศ ความสุข สรรเสริญ ตลอดจนการเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงานของตน ผู้บูชาเกิดความผ่องใส เกิดโชคลาภ และความสำเร็จสมหวัง

    <O:pที่มา: เปิดกรุวัดสุทัศน์ ,วัดสุทัศนเทพวราราม

    ............................................................................................................................................................................

    เมื่อแรกผู้เขียนเองก็สงสัยว่าลูกสุนทรีที่หลวงปู่ครูบาบุญทานำมาแช่น้ำพระพุทธมนต์เวลาปลุกเสกและนำมาจัดสร้างเป็นวัตถุมงคลรุ่นแรกคืออะไร? จึงได้เริ่มต้นทำการสืบค้นจากสำนักวัดสุทัศน์ฯซึ่งเคยบวชเรียน โดยได้ภาพพระสุนทรีวาณีมาพิจารณา ปรากฎว่าในภาพท่านถือดวงแก้ววิเชียร(วิเชียรแปลว่าเพชร) แต่ทำไมสีไม่เหมือนเพชร กลับเหมือนสีของลูกสุนทรี(ปรอทกรอ)ของหลวงปู่ครูบาบุญทา แสดงว่าดวงแก้ววิเชียรที่สมเด็จพระวันรัตแดงเห็นในนิมิตรนั้นเป็นไปได้ว่าคือลูกสุนทรีนี้นั่นเองซึ่งแปลกมากที่ตรงกับการเรียกของครูบาส้อพระอาจารย์ของหลวงปู่ครูบาบุญทา แปลว่าถ้าสืบค้นขึ้นไปทางล้านนาในยุคโบราณแล้ว อาจจะเป็นไปได้ว่ามีการสืบทอดความเชื่ออย่างนี้เช่นกัน เพราะลูกสุนทรีที่ว่านี้มีมาตั้งแต่ยุคสมัยเชียงแสนแล้ว แต่เพิ่งสูญไปในระยะหลังนี่เอง พอผู้เขียนหันกลับมาสืบค้นข้อมูลในภาคกลางปัจจุบันกลับเรียกลูกสุนทรีว่าปรอทกรอซึ่งก็สัมพันธ์กลับดวงแก้ววิเชียรที่แปลว่าเพชรอีก เพราะปรอทมีสีเงินวาวสว่างคล้ายเพขรและมีที่ไปที่มาตามนี้......
    ปรอทกรอ จริงๆแล้วเป็นของดีที่หายาก มีมาตั้งแต่ยุคเชียงแสนจนถึงลพบุรี และอยุธยา วัดหนึ่งวัดจะมีฝังไว้ที่ใต้อุโบสถอยู่เพียงลูกเดียว ปรอทกรอมีหลายขนาดหลายเนื้อแต่ที่นิยมกันที่สุดก็คือเนื้อสำริด วัตถุประสงค์ก็เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้ายและสิ่งอัปมงคลทั้งปวงรวมทั้งโจรผู้ร้ายที่เข้ามา เมื่อเข้ามาปรอทก็จะส่งเสียงดัง

    <O:pปรอทกรอเป็นยุทโธปกรณ์ใช้ในการทำสงครามสมัยโบราณ สร้างไว้ให้สำหรับผู้นำทับระดับนายกอง หรือหัวหมู่ เวลานอนจะเอาปรอทกรอวางไว้บนดินแล้วนอนเอาหูแนบปรอทกรอไว้ ข้าศึกขี่ม้าหรือช้างเข้ามาใกล้ ปรอทกรอจะสั่นได้ยินเสียง จะได้รู้ตัวก่อน ปรอทกรอสำหรับแม่ทัพจะทำด้วยโลหะมีค่าหรือหุ้มด้วยทองคำ ภายในลูกปรอทกรอนั้นว่ากันว่าเป็นของวิเศษกายสิทธิ์จำพวกเหล็ก เหล็กไหล ปรอทแข็งหรือ โลหะใดๆที่ปลุกเสกดีแล้วที่พระอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมได้เอามาใส่ไว้ ฉะนั้นเวลาเขย่าจะคล้ายมีกริ่งอยู่ข้างใน ปรอทกรอเดิมเท่าที่พบก็จะฝังอยู่ตามวัดเก่าหรือเป็นของตกทอดมาจากปู่ย่า บรรพบุรุษที่เป็นนักรบ
    <O:p
    ต่อมาพระเกจิอาจารย์จึงได้นำมาสร้างเป็นเครื่องรางเรียกว่า ปรอทกรอ โดยเชื่อว่าเมื่อมีภัยมาถึงปรอทกรอจะส่งเสียงเตือนให้รู้ล่วงหน้า จึงบันทึกเพื่อสืบสานประวัติเครื่องรางบางอย่าง ก่อนที่อนาคตจะเหลือแค่เรื่องเล่าที่ขาดการประติดประต่อ

    <O:p
    คาถาปลุกลูกสุนทรี(ปรอทกรอ)ของหลวงปู่ครูบาบุญทา วัดเจดีย์สามยอด<O:p
    (ตั้งนะโม ๓ จบ)
    สุนักขัตตั๋ง สุมังคะลัง สุปะภาตั๋ง สุหุฏฐิตั๋ง สุขะโณ สุมุหุตโต สุยิฏฐัง พรัหมะ จารีสุ <O:p
    อธิษฐานใช้ด้านป้องกันสิ่งอัปมงคลทั้งปวง เตือนภัยกันศัตรูนำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้<O:p

    .................................................


    (ตั้งนะโม ๓ จบ)
    โอม จะเร จั๋นเต๋วะรัง พันทะนัง สวาหุมติ๊ด
    อธิษฐานใช้ด้านเมตตามหาเสน่ห์

    ตะกรุดดอกคำ(ดอกทอง) หลวงปู่ครูบาบุญทา
    วัดเจดีย์สามยอด [​IMG]
    <O:p
    [​IMG]<O:p
    ว่านดอกทองหรือรากราคะ<O:p

    "รากราคะ" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ว่านดอกทอง"ซึ่งเป็นว่านโบราณที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์ว่านนี้เป็นพืชตระกูลเดียวกับขิงลักษณะลำต้นใต้ดินเป็นเหง้ากลม แตกแง่งเป็นไหลเล็กยาว๕-๑๐นิ้วเนื้อในหัวถ้าเป็นตัวผู้จะมีสีเหลือง ส่วนตัวเมียเนื้อสีขาวมีกลิ่นคาวจัดคล้ายกับอสุจิของคนพบมากทางภาคตะวันตกและภาคเหนือแถบจังหวัดกาญจนบุรี ตาก ลำปาง ใบเป็นรูปหอกสีเขียวมีขนาดเล็กเส้นกลางใบสีแดงทั้งต้นสูงประมาณ ๑ฟุต ออกดอกในหน้าฝน คล้ายดอกกระเจียวแต่ไม่มีก้านดอกจะอยู่ติดกับพื้นดิน มีสีขาวอมเหลืองกลิ่นหอมเย็น ดอกจะแทงขึ้นจากเหง้าหลักที่อยู่ใต้ดินก่อนการงอกของใบ<O:p
    ว่านดังกล่าวปัจจุบันใกล้จะสูญพันธุ์แล้วตามตำราโบราณระบุว่ามีอำนาจทางเพศรุนแรงมากโดยเฉพาะกับผู้หญิง ถ้าเอาหัว ใบหรือต้นใส่โอ่งน้ำหรือบ่อน้ำให้กินหากใครกินเข้าไปจะมีความรู้สึกทางเพศรุนแรงและโดยเฉพาะดอก ผู้ที่ได้กลิ่นทั้งหญิงและชายจะพากันมัวเมาในกามโลกีย์ ฉะนั้นจึงต้องเด็ดดอกออกเสียก่อนที่ดอกจะบานหากปลูกในบ้าน

    นอกจากนี้ตามความเชื่อโบราณปลูกไว้ที่บ้าน ร้านค้ามีสรรพคุณทางเมตตามหานิยม ทำให้มีลูกค้าอุดหนุนอย่างไม่ขาดสายและพกติดตัวด้วยมีความเชื่อว่าหากสตรีใดต่อคารมด้วยมักใจอ่อนคล้อยตามได้ง่าย

    <O:pหลวงพ่ออั๊บ วัดท้องไทร เคยเล่าให้ฟังว่า อาจารย์ฆราวาสชาวเขมรที่สอนวิชานางพิมดำเซนให้ก็พกว่านดอกทองตลอดเวลา อาจารย์ชาวเขมรผู้นี้มาปักหลักอยู่ไม่ไกลจากวัดนัก ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ได้เมียคนไทย 3-4 คน อยู่บ้านเดียวกันช่วยทำสวนทำไร่จนร่ำรวย


    ที่เขาหมอน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีว่านดอกทองจริง ๆ และมีมากพอสมควรจะออกดอกในหน้าหนาว สังเกตุได้จาก มีหมู่บ้านหนึ่งช่วงหน้าหนาวนี้จะมีการเล่นชู้กันมากเนื่องจากลมหนาวพัดเอาเกสรของว่านดอกทองผ่านหมู่บ้านพอดี ผมเคยขึ้นไปบนเขาแลเห็นว่ามีว่านชนิดนี้อยู่มากมาย ออกดอกเต็มไปหมด แถวอ.สัตหีบจะรังเกียจว่านชนิดนี้มาก เพราะจะทำให้คนเล่นชู้กัน


    <O:pที่ภาคเหนือ คนพื้นเมืองถือเป็นเรื่องปกติครับแต่ว่าคนแถวนั้นเขาจะเรียกว่า ว่านมหาเสน่ห์มากกว่าจะให้คุณเฉพาะผู้ที่บูชาเท่านั้น แต่มีปัญหาว่า ดูอย่างไรว่าเป็นว่านแท้เพราะว่าลำต้น ใบ เหมือนต้นไม้หลายชนิดมาก ต้องดูกันละเอียดครับ


    <O:p</O:p
    หลวงปู่ครูบาบุญทา ได้นำมาปลุกเสกบรรจุลงในหลอดตะกรุด ตามตำราที่ท่านได้ร่ำเรียนมา

    <O:pคาถาตะกรุดดอกคำ(ดอกทอง)หลวงปู่ครูบาบุญทา วัดเจดีย์สามยอด<O:p
    วิวะ อะวะ สุสะตะ วิวะ สวาหุม<O:p
    ....................................................................


    <O:pสายคาดเอวตะกรุด ๑๐๘ ดอก หลวงปู่ครูบาบุญทา วัดเจดีย์สามยอด
    <O:p
    เป็นสายคาดเอวลงอิติปิโส ๑๐๘ หลวงปู่ครูบาบุญทาท่านสร้างเก็บไว้สำหรับแจกเจ้าภาพร่วมกันจัดสร้างเหรียญรุ่นแรกเท่านั้น
    <O:p
    คาถาเสกสายคาดเอวตะกรุด ๑๐๘ ดอก หลวงปู่ครูบาบุญทา วัดเจดีย์สามยอด
    นะโม ๓ จบ<O:p
    อิ สวา สุ นะอุด โมอัด พุทธยัด ธาปิด ยะบ่ออก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2009
  7. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    ลุงเอก คำนี้ออกเสียงยังไง ถามเผื่อคนอื่นด้วย อืมข้อมูลแน่นจริงๆ สมกับที่เป็นคนแก่ อิ อิ
    พรัหมะ
     
  8. teera-chang

    teera-chang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +1,529
    พี่เอก ไม่ต้องไปสัตหีบหรอกพี่ แค่เขาวัดเขาบางทรายนั้นละ อยากจะเรียกเขาสรรพยาของเมืองชลจริงๆ ว่านเยอะและไม่เคยเห็นก็มี
    รากราคะที่พี่ว่านี้นะ คนแถวนี้เขาเอามาจิ้มน้ำพริกกิน อร่อยดีหวานๆ เขากินกันมาตั้งนานแระ
    เห็นเขาว่าพวกหน้าวัดก็โดนละอองของพวกนี้เวลาลมลงเหมือนกันและก็มีประสพการณ์เช่นเดียวกันครับ
    ชาวบ้านเรียกดอกดินครับ
     
  9. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    แหม!ดีใจจริงๆท่านธีระจ้าวแห่งว่านมาช่วยให้ข้อมูล เด๋วเขาตรงวัดเขาบางทรายก็เหี้ยนเตียนแน่ เพราะหลายๆคนจะไปเอาดอกทองนี่หล่ะ 555.....
     
  10. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    ว่าแต่ว่าอย่าเอารากไปกินนะครับ เพราะกลิ่นเหมือนน้ำอสุจิเปรี๊ยบเลย เว้นแต่ชอบ อิ..อิ.
     
  11. teera-chang

    teera-chang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +1,529
    ดอกอย่างเดียวครับผม ^ ^ '
    รากเคยดมแล้ว แทบจะอาเจียน
    นี้คงใช้อย่างเดียว
    ตระกูลนี้ที่รู้ก็ ดอกตัวผู้ 1 ดอกตัวเมีย 1 มหาอุดม 1 ดินสอฤาษี 1

    ยังมีได้ใช้ร่วมกันอีก ก็ จูงนางเข้าห้อง 1 กล่อมนางนอน 1 ช้างผสมโขลง 1(นี้ก็น่าจะมีตัวผู้ตัวเมีย) เปราะหอม 1 กระแจะจันทร์ 1 เสน่ห์จันทร์ทั้งหมด ( ขาว แดง มหาโพธิ์ โพธิ์ศรี ทอง ) ขมิ้นขาวเสน่ห์ 1 ฯลฯ

    + อย่างอื่นนอกตระกูลว่าน
    ก็ ยอดสวาด 1 ซ่อนชู้ 1 รักซ้อน 1 เถาวัลย์หลงตัวผู้ 1 ตัวเมีย 1 เคลือสาวหลง 1

    ขาดอะไรอีกไหมพี่ แนะนำด้วย
     
  12. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    รอคำตอบอยู่นะลุง พรัหมะ ออกเสียงยังไง
     
  13. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    แค่นี้ก็หลงจะแย่แล้ว พี่ช้าง
     
  14. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836

    พรัม-มะ ไงหลาน
     
  15. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    ขุนแผน ไก่แดง
     
  16. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    วันนี้ได้ลองตะกรุดดอกทองหลวงปู่ครูบาบุญทาแล้ว..เอ๊ะ..เข้าท่า.
     
  17. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    งับลุง ว่าแต่วันนี้ มาช้านิ แอบไปไหนมา อิ อิ
     
  18. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    ลองตะกรุดดอกทอง..
     
  19. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    0.0 เป็งไงม่าง
     
  20. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    เมื่อ๑๑.๐๐น.ก่าๆ น้องส่ง sms มาชวนกินข้าวกลางวัน มาเห็นเอา ๑๒.๒๐ น.โทรไป น้องบอกไม่เป็นไร ให้ตอนเย็นไปรับก็ได้ น้องจะไปเปลี่ยนชุดที่ซื้อไม่พอดี พรุ่งนี้มีงานเลี้ยงปีใหม่ของออฟิศเค้าที่ร้านอาหาร น้องบอกยืมพี่เอกไปควงหน่อย..เข้าทางจริ๊งๆ พอส่งน้องกับเพื่อนเดินช็อปปิ้ง ว่าจะตามลงไปซะหน่อย ก็พอดีน้องอีกคนที่งอนกันไปเกือบเดือนแล้วโทรมาง้อ ก็เลยชิ่งน้องคนแรกแล้วแวะไปเคลียร์หน่อย..เพิ่งกลับมาเนี่ย....
     

แชร์หน้านี้

Loading...