หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ บรรลุธรรมด้วยอิริยาบทเดิน

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย aprin, 13 กรกฎาคม 2012.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    [​IMG]
    หลุดพ้นด้วยอิริยาบถเดิน

    เพราะมันเป็นเรื่องของธรรมกับจิตที่มันจะตัดสินชี้บอก แต่สุดท้ายมันเสร็จกิจหมดแล้ว มันไม่ต้องทำ ไม่ต้องใช้เครื่องมือแล้วมันประหารเลยทีนี้ แม้แต่จิตมันก็ประหาร เพราะจิตมันใช้สำหรับคิดนึก มันไม่ต้องใช้อะไรแล้ว มันก็ไม่จำเป็นต้องมี ผมเองสังเกตดูแล้วคล้ายว่า “เอาให้พ้นทุกข์อย่างเดียว ไม่มีอะไรมากที่เราทำมา” เพราะฉะนั้นสามัญผลพิเศษพลังอย่างนั้นคงไม่มีอะไร อิทธิฤทธิ์อะไร มีฤทธิ์เดชอะไร มีอานุภาพอะไร อยู่เงียบๆ ไป แล้วแต่มันจะเกิด เหมือนกับครูบาอาจารย์บางองค์ ท่านไม่พูด ไม่สอน อยู่อย่างไรก็ได้ แล้วท่านก็มรณภาพไป มีหลายองค์ส่วนมากเป็นอย่างนี้

    เพราะฉะนั้นพวกเราทั้งหลาย ถ้าหากว่าพอจะมีบุญวาสนามีศรัทธาอยู่กับจิตเป็นกองทุนแล้ว ก็พยายามสร้างศรัทธาพร้อมกับวิริยะ ความพากเพียร สติปัญญาขึ้นมา คู่นี้แหละที่ปฏิบัติ เราจะอยู่ที่ไหนก็ตาม สติปัญญาขึ้นมา ธรรมะเท่านี้แหละ พลังนี้แหละเป็นตัวสำคัญ มันรวมในมรรค มันอยู่ด้วยกัน จะว่ามรรคก็ได้ จะว่าพลังก็ได้ ธรรมะที่เด่นๆ ที่จะเอาชนะกิเลสได้นี่ ศรัทธา วิริยะ ตลอดทั้งสติ สมาธิ ปัญญานี่ มันตัวธรรมที่สำคัญมาก ไม่ต้องเอาอันอื่น เวลาสงบก็สงบ ถ้าต้องการสบายก็พิจารณา ทั้งกลางวันกลางคืน ยืน เดิน นั่ง นอน บางครั้งกำลังฉันนี่ มันไม่ได้อยู่ในฉันแล้ว มันไปอยู่ในธรรมะส่วนใหญ่ ทำข้อวัตรปฏิบัติต่างๆ ยิ่งปัดกวาดนี้ มันก็เกิดธรรมะสลดสังเวช หรือข้อวัตรต่างๆ นี้ มันเกิดขึ้นประจำ ถ้าเราชอบทำแล้ว จิตมันตั้งชอบแล้ว มันก็น้อมไปทางเรื่องที่ชอบไปทั้งนั้น เพราะฉะนั้นคราวนี้ที่มันไปรู้ ไปรู้อยู่โน้น จึงได้เป็นพยานยืนยัน อยู่ที่ไหนก็ทำได้ ไม่สงสัย ขอให้จิตเราอย่างเดียวเท่านั้นทีนี้พอตอนที่จิตมันจถอน ก็ไม่ใช่นอน ไม่ใช่นั่ง กำลังเดินจะถึงกุฏิ คือจุดปัญญามันจะพอของมัน พอมันปรากฏของมัน

    มันอยู่ตรงไหนก็ได้ กลางวันก็ได้ กลางคืนก็ได้ แต่พลังในส่วนนั้นที่มัน
    ปรากฏเรื่อยๆ มา มันก็มีอยู่เหมือนกัน แต่เราก็ไม่ได้จดจำไว้ ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติก็มีอยู่เหมือนกันทีนี้กิเลสที่มันต่อสู้มันก็มีไม่ย่อยเหมือนกัน เหมือนคู่แข่งกันธาตุธรรม เพราะฉะนั้นคราวนี้จึงได้เห็นว่า เมื่อกิเลสดับแล้ว ธรรมะก็ดับไปด้วยกัน เครื่องมือก็ดับ มันดับคู่กัน มรรคก็ทำลายด้วยกัน สมุทัย ทุกข์ นิโรธ มันดับไปด้วยกัน เพราะมันหมดกิจแล้วนี่ ไม่ต้องใช้แล้วนี่ มันปรากฏไปอย่างนั้นแหละ จึงว่าแม้แต่มรรคแม้แต่จิต มันก็ไม่ได้ใช้แล้วนี่ มันไม่เคยปรากฏอย่างนี้มาก่อน

    แต่มันปรากฏออกมาอย่างนี้ก็ไม่ทราบว่าจะว่ายังไง เหมือนกับไม่ใช่เถียงครูบาอาจารย์ แต่พูดตามที่มันปรากฏมาว่านี้แหละ เราก็เชื่อว่า “มันเป็นด้วยที่สร้างบารมีมา แต่ก่อน ก่อนมันจะขาด” ตอนนี้ไม่ว่าพระพุทธเจ้า พระอริยเจ้า ก่อนจะตรัสรู้ ที่เต็มเปี่ยมบริบูรณ์มากน้อยเท่าไหร่ก็ตรงนี้แหละ แต่ถึงเวลาประหารไปแล้วมันไม่มีสีแสง ไม่มีอะไรกว่านั้น เป็นพระพุทธเจ้านั้น เป็นสาวกนั้นเป็นอะไร ไม่มีแล้ว มันเป็นธาตุธรรม ธรรมฐิติ เพราะมันไม่มีแสงสีที่กำหนดที่อะไร แต่มันมีอยู่ มันไม่ปฏิเสธ มันมีอันเดียว ไม่ทราบว่าจะเอาอันอื่นมาเทียบไม่ได้ ไม่มีอะไรที่จะเปรียบ ไม่มีอะไรจะเทียบ ก็ไม่มีอะไรที่จะบัญญัติด้วย ไม่ใช่ว่าบัญญัติ…..

    ครูบาอาจารย์ที่หลุดพ้นแล้ว ที่ครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดี ท่านได้ฉันดี นอนดี อยู่ดี อันนี้มันเป็นเรื่องเปลือก ไม่ใช่เรื่องแก่น ไม่ใช่สิ่งที่เราจะต้องสนใจ สนใจแต่ทำความเพียรทั้งกลางวันกลางคืนเฉพาะในจิตในใจโดยเฉพาะมันไม่ช่มากนะอันเรื่องที่จะพ้นทุกข์นี่ ดูเหมือนมันเฉพาะๆ พอเรารู้ตามพระองค์แล้ว ไม่ใช่ว่าเราจะต้องไปเห็นตาม รู้ตาม กำหนดตาม แล้วก็ดับไปตาม ปรากฏในจิตในใจที่มันมีธรรมะอยู่ในตัวของมันเอง มันชัดอยู่ในตัวของมันเอง เพราะฉะนั้นบางองค์ที่ท่านรู้ ท่านรู้จริง แต่บางองค์ที่ท่านไม่บัญญัติมาพูด ไม่ได้ตั้งใจมาพูด มันรู้เลย อย่างหลวงปู่ขาว หลวงปู่แหวน ครูบาอาจารย์ที่ท่านไม่พูด นึกว่าท่าน “ไม่พ้นไม่ใช่นะ” ไม่ใช่ว่าท่านไม่ได้อะไร บางคนไปเห็นนึกว่าท่านไม่ได้เทศน์ไม่สอน นึกว่าท่านไม่เก่งเหมือนตัวเอง บาปกินไม่รู้ตัว

    ไม่มีอะไรจะพูดแล้วเวลานี้ เพราะมันไม่ได้อะไรเลย เพราะมันปรากฏแต่เท่านั้นเพราะมันทำลาย ไม่ใช่เรื่องได้นี่นะที่ปรากฏ นี่มันเรื่องทำลายหมด ไม่มีอะไรที่จะเหลือเลย จะเอาอะไรมาพูด ถ้าพูด ก็พูดแต่ของเก่าที่เคยจำมาแล้วเท่านั้นแหละถ้าพูดขึ้นมาก็ของเก่า

    ที่นี้ถ้าหมดขันธ์อันนี้แล้ว ก็ไม่มีของเก่าที่เหลืออยู่ ไม่มีอะไรอีก อายตนะที่เกี่ยวเนื่องด้วยธาตุนี่มันก็มีอยู่ ก็อาจจะไม่ได้ทำความเพียรต่อเนื่องกันถึงตอนนี้หรอก

    ทางจงกรมกับกุฏิก็อยู่ใกล้กันทำได้ตลอด อากาศก็ดี มันก็สัปปายะอันหนึ่ง แต่สำคัญว่าจิตของเราอย่าไปหลงความเจริญของบ้านเมือง ถ้าเราไปเอานั้นมานี้แล้วเสร็จ ธรรมะหายไปหมดเลย แต่จิตใจของคนมันไม่อัศจรรย์เลย แม้แต่เขาจะวิเศษยังไงมันก็ไม่

    อัศจรรย์เลย อัศจรรย์แต่พระพุทธเจ้า ธรรมคือพระองค์สามารถที่จะพ้นทุกข์ความสุข จนขนาดเทวดานี่ พระองค์ยังเห็นโทษ ขนาดที่นั่งฌานสงบ ที่เรานั่งสงบมีความสุขพอใจในความสุขอันนั้น แต่พระองค์ก็ยังเห็นโทษไม่ติด ขนาดทำลายรูป มีแต่อากาศ มีแต่วิญญาณ แต่พระองค์ก็ยังเห็นทุกข์เห็นโทษจนพ้นได้ อันนี้มันอัศจรรย์ ปัญญาเราน่ะมันไปไม่ได้นะ เราต้องอาศัยพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นการปฏิบัติมันต้องยึดหลักพระองค์แล้วก็เร่งทำความเพียร เพราะทำแล้ว จะต้องรู้ นอกจากพระพุทธเจ้าและครูบาอาจารย์ที่เราใกล้ชิดที่เห็นปฏิบัติ….

    [​IMG]
    (องค์ยืน) หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ ณ วัดภูริทัตตวนาราม ประเทศสหรัฐอเมริกา
    ทำลายหมดไม่เหลือเศษ

    แต่คราวนั้นทำลายแต่เพียงเวทนากับสัญญาขันธ์สองอย่างเท่านั้นเอง สามอย่างมันยังไม่ปรากฏมันไม่ได้บอก พอคราวนี้มันไม่เหลืออะไรเลย มันบอกถึงความบริสุทธิ์แล้วก็หมดกิจตลอดถึงโลกทั้งสามเลย มันทำลายหมดแล้วนี้ มันบอกหมด ไม่มีอะไรเหลือเศษแม้คำว่าเศษเหลือนิดเดียวก็ไม่มีอะไรเลย แม้แต่จิตกับมรรค อรหัตตมรรคผู้ทำลายนี่มันลายไปด้วยกัน เพราะไม่มีกิจจำเป็นจะต้องมีไว้แล้วหลังจากนั้นเราก็เดินทางไปเมืองนอก ไปจำพรรษาเมืองนอก

    เรื่องเล่าครูบาอาจารย์ : หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ บรรลุธรรมด้วยอิริยาบทเดิน | Dhammada.net หลวงพ่อปราโมทย์ : ธรรมะ คือ ธรรมดา
     
  2. อริยะ ชน

    อริยะ ชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,042
    น้อมนมัสการองค์หลวงปู่ อนุโมทนายิ่งครับ
     
  3. baimaingam

    baimaingam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    634
    ค่าพลัง:
    +880
    นมัสการหลวงปู่ครับ...ขออนุโมทนาสาธุครับ...
    หันหลังคืนฝั่ง..พ้นจากทะเลทุกข์
     
  4. ละโลก

    ละโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +654
    กราบหลวงปู่ อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ กับเจ้าของกระทู้ ครับ
     
  5. phak

    phak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    473
    ค่าพลัง:
    +458
    :cool: Anumo,,tana..satu...jao..ka.
     
  6. amarpinky

    amarpinky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    423
    ค่าพลัง:
    +522
    anumothana sathu kha
     
  7. i_kc1975

    i_kc1975 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2006
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +31
    กราบพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยความเคารพสุดใจครับ
     
  8. chuchart_11

    chuchart_11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +2,932
    ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ
     
  9. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,849
    โมทนาสาธุเป็นอย่างสูงครับหลวงปู่ ธรรมใดที่หลวงปู่รู้แล้ว ขอผมรู้ธรรมนั้ันด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  10. สมพิศเปรม

    สมพิศเปรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +361
    บุญแล้วหนอที่เราได้เกิดมาใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา
     
  11. Fluffy (New)

    Fluffy (New) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    287
    ค่าพลัง:
    +1,228
    ขอนอบน้อมกราบนมัสการพ่อแม่ครูบาอาจารย์ หลวงปู่ชอบ และหลวงปู่สุวัจจ์เจ้าค่ะ สาธู
     
  12. พลอย พิน

    พลอย พิน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +23
    ท่านใดมีโอกาสเดินทางมาบุรีรัมย์ อย่าลืมมากราบอัฐิธาตุและรูปเหมือน ณ เจดีย์ ของท่าน อนุโมทนาด้วยคะ สาธุๆๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...