อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/%205%20%205.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/%205%20%205.jpg" border="0" alt=" photo 5 5.jpg"/></a>

 

น้อมกราบครูบาอาจารย์
อรุณสวัสดิ์พี่ปูและทุกๆท่าน​

 

ลงจากพรพุทธบาทสี่รอยก็มุ่งหน้าสู่ดอยเชียงดาว เพื่อกราบหลวงปู่สิม ยังสำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง โดยขับรถมุ่งไปยังอ.เชียงดาวแต่เมื่อใกล้ๆถึงไม่ต้องเลี้ยวขวาเข้าตัวอำเภอ ให้ตรงไปยังถ้ำเชียงดาวตามป้ายบอก ถ้ำผาปล่องจะเลยไปอีกเพียง 2โลเท่านั้นเองครับ

เมื่อมาถึงก็สัมผัสได้ถึงความสงบร่มเย็นของสถานที่และบรรยากาศที่แสนจะงดงาม ค่อยๆเดินขึ้นบันไดไป พร้อมดื่มด่ำกับธรรมชาติและธรรมะที่ทางสำนักได้ติดไว้ให้พิจารณาเป็นการพักผ่อนขาและพักผ่อนความคิดฟุ้งซ่านทั้งปวง​

 

ด้วยทางเดินประกอบด้วยบันไดประมาณ 500ขั้น ขึ้นๆลงๆไปตามแนวเขา ความกังวลใจในตอนแรกว่าชาวคณะกว่าจะเดินขึ้นไปถึงถ้ำคงใช้เวลาโขอยู่ คงจะเดินไปหยุดพักไป แต่พอเอาเข้าจริงแต่ละท่านเดินกันตัวปลิวจนผมที่เดินไปถ่ายภาพไปตามไม่ทันเลยทีเดียว

นั่นยังไม่เท่าไหร่ครับเมื่อขึ้นไปถึงถ้ำพบคุณยายท่านนึงอายุราวแปดสิบกว่าๆนั่งกราบรูปหล่อหลวงปู่สิมอยู่ ตอนเรากลับลงมาก็พบคณะของคุณยายกำลังสนทนาอยู่กับท่านอาจารย์สมศักดิ์ คณะเราก็เข้าไปกราบท่านอาจารย์ จึงได้คุยกับคุณยายได้ความว่าเป็นศิษย์หลวงปู่สิมมาตั้งแต่สมัยท่านยังอยู่ได้แต่ดีใจกับท่าน ที่แปลกใจคือคุณยายแข็งแรงจริงๆขึ้นเขาลงเขาแบบสบายๆเลยครับ​

 

เมตตา






















เมื่อเดินมาถึงช่วงสุดท้าย จะมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นองค์พระเจดีย์สีเหลืองอร่ามตัดกับป่าไม้ที่เขียวขจี เป็นภาพที่งดงามจริงๆ จุดนี้แทบทุกคนก็จะต้องยกกล้องเก็บภาพความงดงามนี้เอาไว้ชม


ภาพชุดนี้ไม่ว่าจะด้วยพุทธานุภาพหรือมุมกล้อง(ซึ่งจะต้องถูกมุม ถูกองศา ถูกเวลาพอดี) ผมก็ถือว่าเป็นเมตตาของครูบาอาจารย์อย่างไม่มีสิ่งใดให้ต้องสงสัย เหมือนท่านแสดงสิ่งรับรู้ถึงการมากราบไหว้ของลูกหลานผู้ศรัทธา ย่อมเป็นแรงเป็นกำลังใจเพิ่มศรัทธาปสาทะที่จะประพฤติปฏิบัติตามคำสอนหลวงปู่ให้ยิ่งๆขึ้นไป​

 

เดินมาอีกหน่อยก็ถึงแล้วครับ​

 

ภายในถ้ำมีพระประธาน รูปหล่อหลวงปู่และอัฐิธาตุ และธรรมาสน์หลวงปู่ ​

 

มากราบหลวงปู่กันครับ​

 

ด้านข้างพระประธานจะมีช่องเดินไปด้านหลัง ซึ่งจะเป็นที่ตั้งของกุฏิหลวงปู่จะมีหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่มั่น และหลวงปู่สิม ประดิษฐานอยู่​

 

พระธาตุเจดีย์พุทธจารานุสรณ์ ภายในนอกจากจะประดิษฐานพระประธานที่งดงาม และรูปหล่อหลวงปู่แล้ว ยังเป็นที่แสดงอัฐบริขารที่หลวงปู่เคยใช้ด้วย​

 

เมื่อได้เวลาก็เดินลงมา หันไปเก็บภาพพระเจดีย์ไว้อีกครั้ง หากมีโอกาสก็จะกลับมากราบหลวงปู่อีก ลงมาถึงด้านล่างเข้าไปกราบท่านอาจารย์สมศักดิ์ สนธนาปราศัยกับท่านพอสมควรแก่เวลาแล้วกราบลาท่านออกเดินทางต่อไป​

 

มาเจอกับนักมวยตัวนี้ของพี่ดูก่อน ถ้าชนะได้ก็เอาไปเลยcatt3
​

 

.....เป็นที่เชื่อแน่ได้ว่า พระอริยเจ้าองค์สำคัญ ซึ่งทรงไว้ด้วยคุณาธิคุณ และคุณาธิบารมีอันใหญ่หลวงและลึกซึ้งอย่างยิ่ง ที่ได้เคยอุบัติ และสถิตเสถียรสถาพรบนผืนแผ่นดินแห่งสยามประเทศมาเนิ่นนานปี ที่จักตราตรึงอยู่ในความรู้สึกนึกคิดและจิตใจแก่บรรดาผู้ใฝ่หาพระบริสุทธิสงฆ์ ผู้ทรงศีล สมาธิ ปัญญา ตามแนวทางแห่งอริยปฏิปทาที่องค์สมเด็จพระบรมศาสดา อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงวางหลักเกณฑ์ไว้ได้อย่างสนิทใจและมั่นใจที่สุดองค์หนึ่งตลอดไปตราบชั่วกาลนั้น จักต้องมีรูปและนามแห่งพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระญาณสิทธาจารย์ หรือหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร แห่งสำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ประดิษฐานอยู่ในแถวหน้าสุดแห่งทำเนียบ”พระสงฆ์ดี”องค์หนึ่งอย่างไม่มีใดต้องสงสัยเลย....

อันความเป็นพระอัจฉริยาริยเจ้า ผู้เปี่ยมล้นด้วยคุณธรรมอย่างยิ่งแห่งหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโรนั้น ย่อมเป็นที่แจ้งประจักษ์ชัดแก่ตาแก่ใจแห่งบรรดาท่านผู้รู้แจ้งทั้งหลายมาแต่บูรพกาลแล้ว ดังสามารถจะพึงพิจารณาจากคำรับรอง และอนุโมทนาสาธุการต่างๆดังต่อไปนี้


“เณรสิมนี้ ยังเป็นดอกบัวที่ยังตูมอยู่ ถ้าเบ่งบานเมื่อใดจะหอมกว่าหมู่....”

(พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระ พระบุพพาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสนากรรมฐาน)


“ถ้าจะถวายกุศลถึงเราแล้ว ก็ขอให้นำไทยทานนั้นไปถวายท่านอาจารย์สิม ที่วัดโรงธรรมเถิด แล้วของสิ่งนั้นจะถึงเรา..”

(ครูบาเจ้าศรีวิไชย นักบุญแห่งล้านนาไทย ได้มานิมิตแก่แม่อุ๊ยชรา ซึ่งเป็นศรัทธาวัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ผู้ปรารถนาจะถวายทานไปหายังท่าน”ต๋นบุญ”แห่งล้านนา เมื่อพ.ศ. 2482 ซึ่งเวลานั้น หลวงปู่สิมได้บังเอิญจาริกธุดงค์มาจำพรรษาอยู่ที่วัดโรงธรรมสามัคคี พอดี นับเป็นเหตุการณ์ประจวบเหมาะที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง)


“ภิกษุนวกะผู้นี้ มีจริยาวัตรตามแบบอย่างพระพุทธเจ้า จำเราจักให้ฉายา”พุทฺธาจาโร” จึงจะควร....”

“ท่านสิมนี้ เขามีบุญบารมีที่ได้เคยสร้างสมมาแต่ชาติก่อนๆมากเหลือเกิน จะเป็นแรงกุศลให้เขาสำเร็จไว้กว่าคนอื่นๆ....”

“ในบรรดาศิษย์รุ่นน้องเราทั้งหมด ท่านฝั้นและท่านสิมนี้ นับว่าเป็นยอด.....”

(พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา)


“ท่านสิมนี้ เปิ้น(ท่าน)บรรลุแล้ว มีคุณธรรมสูงมากแท้ๆ...”

“ให้คอยตามหลวงปู่สิม ให้ดีๆนะ...”

(หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่)


“อาจารย์สิม ท่านเป็นพระเจ้า(พระพุทธรูป)ทองนะ.....”

“อาจารย์สิม ท่านเก่งมากเรื่องการธุดงค์และการปฏิบัติ..”

(หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข สิงห์บุรี)


“ท่านสิม เป็นพระธรรมยุติ อยู่ทางเชียงดาวโน่น ท่านเก่งมากนะ...”

(ครูบาพรหมา พรหมจักโก วัดพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน)


“หลวงปู่สิมนี้ เป็นผู้มีคุณธรรมสูงและมีพลังจิตแก่กล้ามาก.....”

(หลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง)


“อดีตภาคของหลวงปู่สิมนั้น ท่านเป็นพระฤาษีเจ้าผาปล่องมาก่อน ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าพระมหาฤาษีที่มีฤทธิ์มากที่สุด ซึ่งมีหน้าที่คอยพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนาตราบจนสิ้นภัทรกัปโน่นเลยนั่นแหละ....”

(หลวงปู่ครูบาเจ้าชัยวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ลำพูน)


“หลวงปู่สิมนั้น เปิ้นสำเร็จพระอรหัตแล้ว ไปนิพพานแล้ว....”

(หลวงปู่หลวง กตปุญโญ วัดป่าสำราญนิวาส ลำปาง)


“พระสงฆ์องค์นี้ ท่านเป็นพระนักปฏิบัติ มีคุณธรรมสูงมาก เอาเหรียญของท่านมาให้นี่เสก ให้กลับไปบอกกล่าวท่านเสียก่อนนะ...!!!!???!!!!”

(หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่)


"ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องเสกซ้ำอะไรอีกแล้ว.!?!?"

(หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ปฏิเสธที่จะเสก"พระกริ่งเชียงดาว"ของหลวงปู่สิมในโอกาสครั้งหนึ่ง)


"พลังจิตของหลวงปู่สิมนั้น แรงกล้าเทียบเท่ากับหลวงปู่ฝั้น ไม่มีความแตกต่างกันเลย..!!!!"

(หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย นครพนม)


เมื่อคณะศิษย์หลวงปู่สิมนำทองคำพร้อมรูปถ่ายหลวงปู่สิม ไปถวายผ้าป่าช่วยชาติ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการบำเพ็ญกุศล ถวายแด่หลวงปู่สิม เนื่องในวันคล้ายวันมรณภาพของหลวงปู่สิม ซึ่งหลวงตามหาบัวได้พูดขึ้นว่า

"เออ... เอาเฉพาะทองคำ รูปเอาคืนไปกราบ... ได้แล้วทองคำวันนี้ รูปไม่เอาละ กราบท่านอยู่ทุกวัน... หลวงปู่สิม โอ๊ย ท่านกล้าหาญสมเป็นพระกรรมฐานไปไหนไม่มีกลัวเลย ไปไหนท่านไม่กลัว ไม่ว่าป่าเสือป่าช้างท่านบุกเข้าหมดเลย เทศน์ก็เก่ง ท่านเทศน์เก่งมาตั้งแต่พรรษาอ่อนๆ"



ที่มา: พุทธวงศ์​

 

น้อมกราบครูบาอาจารย์
สวัสดีวันพุธพี่ปู และทุกๆท่าน​

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/CLP/01-12.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/CLP/01-12.jpg" border="0" alt=" photo 01-12.jpg"/></a>

 

​

คืนวันอาทิตย์มีถนนคนเดิน ซึ่งลากยาวตั้งแต่ประตูท่าแพไปจรดวัดพระสิงห์ เป็นตลาดที่ใหญ่มากจริงๆ ทุกถนนที่ตัดผ่าน ทุกตรอกซอกซอย หรือแม้แต่ในวัด มีร้านค้าเต็มทุกตารางนิ้วเลย เดินกันไม่ทั่วเลย มีทั้งอาหาร เครื่องประดับ ของแต่งบ้าน เสื้อผ้า งานศิลปะ งานฝีมือ ของใช้ต่างๆสารพัดเลย​

 

มาเยี่ยมชมถนนคนเดินกลับไปก็พอคุยกับเขาได้ล่ะว่าเคยมาแล้ว จริงๆตลาดแบบนี้ก็มีแทบจะทุกทีแล้วเล็กใหญ่ต่างกันไป เดินมาเรื่อยๆผ่านอีกหนึ่งสี่แยกเห็นคนมุ่งอยู่เข้าไปดูจึงพบศิลปินล้านนาชื่อดัง"ไม้เมือง" จึงหยุดฟังเพลงเพราะๆ เดินไปจนสุดตลาดได้มาชมสมใจแล้วก็กลับที่พัก​