อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    ตะกรุดพญานาคราช หลวงพ่อบุญอุ้ม อาภสฺสโร



    [​IMG]

    ขอขอบคุณบทความจากคุณ Phitsanu

    www.luangporboonaum.com

    ที่มาของตะกรุดพญานาคราช
    ( ตะกรุดหนังงูเหลือม )

    เป็นตะกรุดที่เกิดขึ้นจากความเมตตา สงสารงูเหลือมตัวหนึ่งที่โยมนำไปปล่อยบนภู ในถ้ำที่ข้าพเจ้าจำพรรษา
    ในปี พ.ศ. ๒๕๓๓ และงูตัวนั้นต้องมาตายในไม่กี่วันต่อมา เพราะพิษกระสุนปืนที่ถูกยิงก่อนที่โยมจะซื้อนำไปปล่อย
    ด้วยความคิดสงสารและคิดจะทำอย่างไรให้งูตัวนี้ได้กุศลทั้งทางตรงและทางอ้อม จะนำมาปรุงเป็นอาหารถวายพระเณรก็ผิดวินัย
    จึงบอก พระ เณร ถลกหนังออกตากแดดไว้ส่วนนอกนั้นก็นำไปทิ้งไว้ให้เป็นอาหารของสัตว์ต่างๆ ที่กินได้

    วันหนึ่งนั่งภาวนาสมาธิตามปกติ และได้นิมิตมีพระอายุประมาณ ๗๐ กว่าปี มาบอกวิธีทำตะกรุดหนังงูเหลือม
    จะได้นำไปไว้แจกลูกหลาน ศิษย์ยานุศิษย์ จะมีประโยชน์ต่อผู้นำไปพกพาติดตัว ในด้านปกป้องคุ้มครองรักษาตัวชีวิตและทรัพย์สิน
    จะทำมาค้าขายก็เจริญรุ่งเรือง พออยู่พอกิน ไม่ขัดสน ดังนั้นข้าพเจ้าก็นำไปแจกให้ผู้สมควรจะได้รับ ต่อมามีผู้ประสพเหตุการณ์
    ในด้านปกป้องคุ้มครองและ โชคลาภ และสิ่งที่น่าทึ่งแปลกคือตะกรุดจะสั่นได้เหมือนโทรศัพท์ตั้งเสียงสั่น
    ก็ไม่ใช่แต่ตะกรุดพญานาคราชเท่านั้นที่สั่นเองได้ตะกรุดทุกรุ่นทุกชุดก็สั่นได้เช่นกัน
    ฉะนั้นตะกรุดของข้าพเจ้าจะมีผู้ได้รับการเชื่อถือในทางปกป้องคุ้มครองคนดีได้พกพาจะยิ่งเพิ่มอานุภาพมากขึ้น
    เป็นคนรู้จักบุญคุณคน รู้จักกตัญญูผู้มีพระคุณกับเราไม่เป็นคนเนรคุณ ไม่ด่าพ่อล้อแม่คนอื่น หรือบุคคลอื่น
    พ่อ แม่ใครก็มีพระคุณต่อบุตร ธิดา ตะกรุดหนังงูหรือตะกรุดพญานาคราช
    ข้าพเจ้าจะไม่รับทำที่เขาฆ่ามาเพื่อทำตะกรุด ถ้าถามว่าจะรู้ได้อย่างไร ก็ขอตอบว่าเป็น ปัจจัตตัง รู้เฉพาะผู้ปฏิบัติ


    ข้าพเจ้าทำตะกรุดทุกอย่างขึ้นมาเพื่อแจกไม่ทำขึ้นมาเพื่อให้ เช่า หรือ บูชา ดอกละเท่านั้นเท่านี้
    แต่ออกจากข้าพเจ้าแล้วก็แล้วแต่จะเช่าบูชากันข้าพเจ้าไม่ตำหนิติเตียน
    ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงเป็น รูปแรก องค์แรกของโลก
    ที่ทำตะกรุดหนังงูหรือตะกรุดพญานาคราชและเป็นเจ้าตำหรับ
    เป็นเจ้าของวิชานี้ วิธีปลุกเสกอธิษฐานจิตเคล็ดวิชาก็ยังไม่เคยถ่ายทอดให้ใคร
    ถ้าหากอายุยังไม่ครบหกสิบปี วิชาดีมีคุณพลังเราจะไปถ่ายทอดหรือสอนคนง่ายๆ ไม่ได้หรอก
    เดี๋ยวก็นำเป็นเป็นการค้าขายมุ่งผลประโยชน์ต่อตนจะหยั่งใจคนนั้นหยั่งรู้ได้ยาก วันนี้ดีพรุ่งนี้อาจไม่ดีก็ได้
    เงินทองเป็นของล่อใจคนทำผิดทำชั่งเพราะเงินมากมาย ไม่เช่นนั้นก็จะไม่มี ศิษย์เนรคุณ ลูกเนรคุณ
    และ คนเนรคุณ ให้พวกเราได้พบได้เห็นในปัจจุบัน

    ฉะนั้นคนใดได้รับตะกรุดพญานาคราชหรือตะกรุดอะไรก็แล้วแต่ที่ข้าพเจ้าสร้างขึ้นมา
    ให้ตั้งตัวตั้งใจประพฤติแต่สิ่งดี ๆ และคุณพระก็จะรักษา ให้รู้จักบุญคุณต่อเรา ตอบแทนด้วยความดี


    นี่คือปณิธานของหลวงพ่อบุญอุ้ม

    [​IMG]


    รายละเอียดเพิ่มเติม

    รุ่นที่ 1...

    1.ใช้หนังงูเหลือมที่เสียชีวิตจากชาวบ้านยิงที่ภูลังกา เมื่อปี2533

    2.มีจำนวน 49 ดอก โดยมีดอกครู1ดอก...รวมทั้งสิ้น50 ดอก

    3.ปี2534 เป็นปีที่พระอาจารย์ทำการปลุกเสก...โดยสถานที่ปลุกเสก...กุฏิพระอาจารย์ที่ภูลังกา

    4.มีทั้งสีทองเเละลงลักปิดทอง...เเต่ละเเบบไม่ทราบจำนวนที่เเน่ชัดครับ

    จะเห็นว่าพระอาจารย์จะเขียนตัวยันต์ที่หนังงูเเล้วถักเลยครับ...ซึ่งต่างกับตะกรุดรุ่นที่2เเละรุ่นต่อๆมา

    รุ่นที่ 2...

    1.ใช้หนังงูเหลือมจากลูกศิษย์ทางภาคใต้มาถวาย...เมื่อปี 2549

    2.ปี 2549-50 เป็นที่พระอาจารย์ทำเเละปลุกเสก...ณ.วัดป่าโนนเเพงครับ

    3.ใช้หนังงูที่ลงตัวยันต์+เเผ่นทองเเดงลงยันต์ พันหุ้มไว้...ซึ่งจะเป็นจุดต่างจากรุ่นที่ 1

    4.มีจำนวน200กว่าโดยประมาณครับ

    5.มีทั้งสีทองเเละลงลักปิดทอง...เเต่ละเเบบไม่ทราบจำนวนที่เเน่ชัด
    (ข้อมูลเพิ่มเติมจากพระอาจารย์ชัย ครับ)


    [​IMG]
     
  2. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    เวบ อืดมากๆ ครับ คุณโญ
     
  3. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    เร็วปืด เร็วปืด นับหนึ่งไม่ถึงสิบ ก็เรียบร้อยครับพี่ตี๋
    ...[​IMG]
     
  4. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    ตะกรุดปราบไตรภพ หลวงพ่อบุญอุ้ม อาภสฺสโร

    "แผ่นทองเหลืองถักเชือกพอกผงมงคลสีเขียว"

    [​IMG]

    ขอบพระคุณท่าน kampol
    ตะกรุดปราบไตรภพ
    เอาเนื้อๆเท่าที่พอรู้ครับ
    ในช่วงปี ๒๕๕๒ หลวงพ่อบุญอุ้มได้มีการว่าจ้าง ให้โรงงานปั๊มแผ่นยันต์มาให้ท่าน
    โดยท่านกำหนดให้เป็นรูปนาคคู่เป็นโครงยันต์ ตามตำราของท่านที่ศึกษามา
    ปั๊มมาตอนแรก ท่านพิจารณาดูแล้ว ท่านบอกว่าผิดเพี้ยนบางส่วน
    จึงมีการแก้ไขใหม่จากโรงงาน จนถูกต้อง
    เมื่อถูกต้องแล้ว โรงงานจึงปั๊มเป็นแผ่นยันต์หลายหมื่นแผ่นมาถวายท่าน
    แผ่นยันต์นี้ หากผมจำไม่ผิด ท่านเคยอธิษฐานให้เป็นตะกรุดกาลนาคนอนกิน
    เอาแผ่นยันต์นี้มาม้วน ถักเชือก แล้วทาสีเงินบรอนซ์ ทำไว้หลายร้อยดอก
    แล้วเอามาแจกในวันสุริยุปราคาเต็มดวงของวันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๒
    ผู้ที่มาวัดป่าโนนแพงในวันนั้นได้รับแจกจากมือหลวงพ่อบุญอุ้ม ทุกคน
    ..................................................

    [​IMG]

    ในระยะเวลาต่อมา
    แผ่นยันต์จำนวนมากมายนี้หลวงพ่อได้อธิษฐานจิตในกุฏิของท่าน ผ่านระยะเวลาที่ยาวนาน
    แผ่นยันต์ รูปพญานาคราชคู่นี้ หลวงพ่อบุญอุ้มท่านเสกสามปี ถึงเอาให้ลูกศิษย์ใช้
    บางช่วง บางคนท่านก็แจกให้เป็นแผ่นไม่ได้ม้วน ไว้พกติดตัว ติดรถ ติดบ้าน
    บางช่วง ท่านกำหนดให้นำแผ่นยันต์ม้วน ถักเชือก แล้วพอกผงมวลสารมงคลสีเขียว
    จำนวนการทำ โดยประมาณไม่น่าจะถึงหนึ่งพันดอก
    บางช่วง ท่านกำหนดให้เอาท่อสายยางขนาดเล็ก ม้วนแผ่นยันต์ตะกรุดแล้วสอดเข้าด้านในท่อ
    บางช่วง ทำแจกไม่ทัน ก็ม้วนแผ่นยันต์ให้เป็นตะกรุด ใส่ถุงซิบล็อค แจกเลย
    ตอนแรกชื่อของตะกรุด ยังไม่ทราบ ว่าให้เรียกตะกรุดชุดนี้ว่าตะกรุดอะไร?
    จนกระทั่งพระอาจารย์โอ พระภิกษุลูกศิษย์หลวงปู่อ่อนศรี เป็นพระศิษย์ผู้น้องของหลวงพ่อบุญอุ้ม
    ได้สนทนาธรรมกับหลวงพ่อ.....ถามความเห็นหลวงพ่อ ...ว่า....
    ตะกรุดชุดนี้ ขอให้เรียกว่าตะกรุดปราบไตรภพ .....ซึ่งท่านก็ไม่ขัดข้องแต่อย่างใด
    หลังจากนั้น ก็เรียกตะกรุดชุดนี้ว่า เป็นตะกรุดปราบไตรภพ เรื่อยมา เป็นอันเข้าใจกัน
    ท่านก็เคยเปรยๆว่า อาวุธประเภทพวกปืน พวกระเบิด อานุภาพสูง รบกันก็เข้าข่ายอาวุธวิเศษรบกัน
    ให้เรียกตะกรุดปราบไตรภพ....... ปราบสามโลก........ก็สามารถเรียกได้ ไม่ผิดอะไรหรอก
    .........................................................

    [​IMG]

    แผ่นยันต์ เท่าที่ได้เห็น ชนิดโลหะ แยกแล้วมี
    แผ่นทองแดง
    แผ่นทองเหลือง
    แผ่นอลูมิเนียมบาง
    แผ่นอลูมิเนียมหนา
    แผ่นทองเหลืองหนาชุบทอง
    โลหะนอกเหนือจากนี้ไม่ขอระบุครับ ด้วยว่าอาจจะมีแต่ยังไม่ได้เห็น เลยไม่รู้
    .......................................................

    [​IMG]

    ท่านเมตตาเล่าว่า ตะกรุดปราบไตรภพ พุทธคุณความโดดเด่น....เด่นทางแคล้วคลาด นำหน้า
    เคยมีประสบการณ์ ลูกศิษย์ของท่านที่ปฏิบัติงานสามชายแดนใต้ สองท่าน
    พกพาวัตถุมงคลตะกรุดปราบไตรภพของหลวงพ่อบุญอุ้ม คนละดอก
    ขับรถกระบะวีโก้ ปฏิบัติภาระกิจ แล้วไปประสบเหตุ...ถูกลอบถล่มด้วยอาวุธสงคราม
    ลูกศิษย์คนที่หนึ่ง กระสุนหนึ่งนัดถูกที่หน้าอก ไม่เข้า
    ลูกศิษย์อีกคน กระสุนหนึ่งนัดถูกท้องแขน คนนี้เข้าท้องแขน กระสุนเข้าเป็นแผลฉีก
    ตั้งสติตั้งหลัก ทั้งสองจึงต่อสู้โต้ตอบ จนผู้ไม่หวังดีเห็นท่าไม่ดีจึงล่าถอยกลับไป
    ภายหลังเกิดเหตุ ได้มาสำรวจดูรถวีโก้ พบว่า ตัวรถกระบะมีรอยเจาะเข้าของรูกะสุนมากกว่า...สี่สิบ...รู
    รอดตาย รอดปลอดภัยทั้งสองคน
    ในต่อมาลูกศิษย์ทั้งสองท่านนี้มากราบหลวงพ่อบุญอุ้มที่วัดป่าโนนแพง
    ต่างก็แย่งกันพูดรายงานหลวงพ่อ จนท่านต้องปรามๆให้เล่าทีละคน ด้วยฟังไม่รู้เรื่องกัน
    ....จนท่านเข้าใจ รับรู้ในเหตุการณ์ที่เล่า......
    บารมีหลวงพ่อบุญอุ้มคุ้มครองครับ
     
  5. ryan boy

    ryan boy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +22,021
    สวัสดีครับคุณปู พี่โญ พี่ตี๋ คุณนอร์ คุณเอ็ม ^__^

    hello5hello5hello5
     
  6. ryan boy

    ryan boy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +22,021
    [​IMG]

    [​IMG]

    เหรียญเสมาปฏิบัติธรรม หลวงปู่ดู่ วัดสระแก ปี2524
    ประวัติการสร้างน.อ.สำเภา ได้ขออนุญาตหลวงปู่สร้างเหรียญรูปเหมือนขึ้นเป็นครั้งแรก
    หลวงปู่ไม่ขัดข้อง ได้อนุญาตให้สร้างตามความประสงค์
    หลวงพ่อสวย เป็นพระบูชาขนาด 5 นิ้ว
    ที่บรรดาลูกศิษย์สร้างให้หลวงปู่ปลุกเสก จำนวนไม่มากนัก
    หลวงปู่ดู่เคยพูดอยู่เสมอว่า พระบูชา "หลวงพ่อสวย" นี้
    มีความศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะเกิดมาจากความตั้งใจเป็นพิเศษของหลวงปู่มาก่อน
    และท่านได้ปลุกเสกให้เป็นพิเศษจริงๆ
    น.อ.สำเภา ได้นำชนวนของพระบูชา "หลวงพ่อสวย" มาจำนวนหนึ่ง
    ผสมกับทองแดงบริสุทธิ์ แล้วรีดเป็นแผ่นบางๆ
    ลงอักขระเลขยันต์เฉพาะตัวท่านทั้งหมด 84,000 พระยันต์ เท่ากับพระธรรมขันธ์
    หลังจากนั้นหลวงปู่ดู่ได้ปลุกเสกแผ่นยันต์ทั้งหมดนี้เป็นเวลา 7 ปี น.อ.สำเภา ได้นำแผ่นยันต์ทั้งหมดไปหลอมอีกครั้ง แล้วรีดเป็นแผ่น
    สำหรับปั๊มเป็น เหรียญรูปเหมือนหลวงปู่ดู่ ได้จำนวน 18,000 เหรียญ เท่าที่จำนวนเนื้อโลหะชนวนที่มีอยู่ จากนั้น นำเหรียญทั้งหมด
    ไปถวายหลวงปู่ดู่ปลุกเสก พอครบ 1 ไตรมาศ ช่วงออกพรรษาปี 2524 หลวงปู่ดู่ได้นำเหรียญนี้ออกแจกแก่ผู้ที่ร่วมบริจาคทุนสร้าง
    เหรียญจำนวนหนึ่งไม่มากนัก ที่เหลือนอกนั้น ได้เอาไว้ในกุฏิหลวงปู่ตลอดมา ตั้งแต่ปี 2524 จนถึงปี 2533 เป็นเวลานานถึง 9 ปี
    นับเป็นเหรียญที่หลวงปู่ดู่เสกให้นานที่สุด ถ้าหากนับรวมตอนปลุกเสกโลหะชนวนอีก 7 ปี จะเท่ากับปลุกเสกนานถึง 16 ปี
    พอหลวงปู่มรณภาพลง คณะกรรมการวัดได้เอาเหรียญรุ่นปฏิบัติธรรม 2524 ออกมาจำหน่าย

    ด้านหน้าเหรียญ
    เป็นรูปเหมือนหลวงปู่นั่งสมาธิ มีอักขระยันต์โดยรอบ อ่านว่า "นะโมพุทธายะ" หมายถึง พระพุทธเจ้า5พระองค์ 1.นะ หมายถึง พระกุกกุสันโธ ,2.โม หมายถึง พระโกนาคมน์ ,3.พุท หมายถึง พระกัสสป ,4.ธา หมายถึง พระสมณโคดม ,และ5.ยะ หมายถึง พระศรีอาริยเมตไตย พระคาถานี้จะบันดาลให้เกิดอิทธิปาฏิหารย์

    ด้านหลังเหรียญ
    ยันต์ตรงกลางเหรียญเป็นยันต์หัวใจปลายศีล หรือ เรียกว่ายันต์เฑาะเพราะไส้กลางมีลักษณะคล้าย ตัว ฑ. ที่ว่าปลายศีลเพราะท่านจะเสก อิสะปะมิ ซึ่งถอดมาจาก อิมินา ทะสะสิก สัมปะทามิ สะมาธิยามิ. มีอานุภาพทางเมตตา คงกระพันมาก

    อักขะยันต์ที่อยู่ระหว่างยันต์เฑาะ อ่านว่า "พุทธะสังมิ" เป็นหัวใจพระไตรสรณะคมน์ ลป.ดู่ท่านย่อมาจาก พุทธัง ธัมมัง สังฆังและคำท้ายของสะระนังคัจฉามิ พระคาถานี้ใช้ได้ทุกประการ เช่น คงกระพัน เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ค้าขาย แคล้วคลาด

    ส่วนตัวนะที่อยู่ล่างสุด เป็นหัวใจนะล้อม ท่านจะเรียกสูตรขณะเขียนทั้งตัวว่า ปัญจะมังสิระสังชาตัง นะล้อม นะกาโรโหติ สัมภะโว. และเวลาเขียนเส้นล้อม ท่านจะว่า นะปิด นะป้อง นะล้อม นะกัน นะปิดให้มั่น นะกันอาวุธ แล้วเสกคาถากำกับรวดเดียวเหมือนสูตรปถมัง คือ ปะถะมังพินธุกังชาตัง ทุติยังทัณฑะเมวะจะ ตะติยังเภทะ กัญเจวะ จะตุตถังอังกุสัมภะวัง ลป.ดู่ท่านจะเขียนยันต์"นะล้อม" ว่าพระคาถาตามสูตรพร้อมกลั้นหายใจเขียนจนครบองค์แล้วจึงเสก เสกแล้วหยิบเอายันต์ที่เขียนเสร็จขึ้นพนมมือเป็นการนมัสการโดยกล่าวว่า "ตรีนิกัตตะวานะ นะการัง ปัญจะสัมภะวัง" และต้องเรียกชื่ออีก กล่าวว่า "นามะนังสะมาโส ยุตตัตโถยุตตัตถะ แห่งนามะทั้งหลาย อาจริยะพึงหมายให้ชื่อนะล้อม นะกาโรโหติสัมภะโว..." แล้วจึงใช้สูตรสำเร็จว่าดังนี้ "อะนุปะทิฏฐานัง วุตตะโยคะโต อุทาหรณ์อันใด เป็นไปบ่มิได้สำเร็จ อาจาริยะพึงสำเร็จให้แล้วด้วยสูตรนี้.." แล้วท่านให้ปลุกเสกตัวนะอีกว่า "นะนะเท เวหิปูชิตัง นะรานังกามะยังเกหิ นะมามิสุคะตังชินัง..." และสุดท้ายต้องเสกเส้นที่วงล้อมรอบยันต์นะอีก คือ นะปิด นะป้อง นะล้อม นะกัน นะปิดให้มั่นนะกันอาวุธ.. เฉพาะยันต์นะล้อมนี้คงจะเห็นว่าการเขียนสร้างเป็นยันต์นะล้อม มิใช่ของง่ายๆเลย
     
  7. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437
    สวัสดีครับพี่บอยยยยยยย

    เวปอืดโคตรรรรรรรรรรรรรรรร
     
  8. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    [​IMG] สวัสดีครับคุณบอย
     
  9. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    เร็วปืด เร็วปืด แต่ไม่ค่อยว่าง คริ คริ
    ...[​IMG]
     
  10. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    [​IMG]

    สวัสดียามบ่ายคร๊าบบ พี่ๆน้องทุกท่าน

    ช่วงนี้โดนแย่งคอมตลอด T T
     
  11. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437

    เหรียญหล่อสวยมากกกกกกกพี่ปู ^_^
     
  12. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    สวัสดียามเย็นคุณปู คุณโญ คุณนอร์ คุณเอ๊ะ คุณเอ็มและทุกๆท่าน
    คงต้องขอพักสักนิดหนึ่ง หายดีแล้วค่อยมาพบกันนะครับ

    หลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย พิจิตร


    [​IMG]

    [​IMG]
     
  13. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    ยอดขุนพลผู้พิทักษ์เจดีย์
    พระครูปุริมานุรักษ์ (พูล อัตตรักโข)
    วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม


    โดย รณธรรม ธาราพันธุ์

    [​IMG]

    อันพระปฐมเจดีย์ที่เป็นพุทธสถานซึ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านเมืองมาอย่างยาวนานนั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้ทรงพระราชทานสมณศักดิ์ถวายแก่พระมหาเถระที่ทรงวิทยาคุณและมีคุณูปการแก่พระศาสนาแลชาวบ้านตาดำ ๆ ไว้ 4 ตำแหน่งด้วยกัน คือ

    พระครูปุริมานุรักษ์ - ผู้ดูแลด้านทิศตะวันออก
    พระครูทักษิณานุกิจ - ผู้ประกอบกิจด้านทิศใต้
    พระครูปัจฉิมทิศบริหาร - ผู้ดำเนินงานด้านทิศตะวันตก
    พระครูอุตรการบดี - ผู้เป็นใหญ่ในการงานด้านทิศเหนือ


    ในอดีตพระสงฆ์ที่จะทรงสมณศักดิ์นี้ล้วนแต่เก่งกล้าในอาคมและมีความสามารถในงานนวกรรมการก่อสร้างและการปกครองคนได้ฉมัง ไม่แน่จริงแล้วไซร้ย่อมไม่ได้รับสมณศักดิ์ที่สำคัญยิ่งยวดถึงขนาดเป็นยอดขุนพลธรรมผู้พิทักษ์องค์พระปฐมเจดีย์ทั้ง 4 ทิศได้หรอก


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เช่น หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก ก็ได้เป็น พระครูอุตรการบดี และต่อมาตำแหน่งนี้ก็มาตกยัง หลวงปู่บุญ ขันธโชติ วัดกลางบางแก้ว ก่อนที่ท่านได้เป็นเจ้าคุณชั้นสามัญที่ พระพุทธวิถีนายก ส่วน หลวงปู่นาค วัดห้วย จระเข้ ได้เป็น พระครูปัจฉิมทิศบริหาร ในยุคเดียวกับที่หลวงปู่บุญเป็นพระครูอุตรการบดี และต่อมาตำแหน่งพระครูปัจฉิมทิศบริหารก็เป็นของหลวงพ่อศุข วัดห้วยจระเข้ ผู้เป็นองค์พระอาจารย์อีกรูปหนึ่งของหลวงพ่อพูล

    [​IMG]

    พระครูทักษิณานุกิจ เมื่อแรกเป็นของ หลวงพ่อแจ้ง วัดธรรมศาลา ภายหลังตกแก่หลวงพ่อเงิน จันทสุวัณโณ วัดดอนยายหอม ส่วนตำแหน่งพระครูปุริมานุรักษ์นั้นแต่ก่อนเป็น หลวงพ่อเกิด วัดงิ้วราย ดำรงอยู่ ภายหลัง หลวงพ่อคล้าย วัดศิลามูล ก็รับมารักษา กระทั่งตกมาถึง หลวงพ่อพูล อัตตรักโข แห่ง วัดไผ่ล้อม จนท่านมาได้เป็นเจ้าคุณชั้นสามัญที่ พระมงคลสิทธิการ ในที่สุด

    [​IMG]

    เห็นชัดว่าพระเถระที่ดำรงตำแหน่งสำคัญเยี่ยงนี้ล้วนแล้วแต่พระดีที่ผู้คนยอมรับโดยแท้ ท่านเก่งกันทั้งฝ่ายปกครองและทางวิทยาคมอันจะสงเคราะห์ประชาชนได้อย่างหายห่วง

    หลวงพ่อพูล อัตตรักโข เป็นพระที่ดีแท้ดีจริง ไม่สามารถยันว่าท่านเป็นพระอริยบุคคลหรือไม่เพราะมันเกร่อเกิน แต่ที่เคยไปกราบและพูดคุยบ่อยครั้งยันได้ว่าท่านเป็นพระดีที่นึกถึงทุกข์ของคนอื่นมากกว่าจะคิดถึงทุกข์แห่งตน

    ผมรู้จักหลวงพ่อพูลมานานเนแต่ไม่ใคร่ได้ไปหา ด้วยสมัยนั้นหลวงพ่อแช่ม ฐานุสสโก แห่ง วัดดอนยายหอม ยังดำรงขันธ์อยู่ ใคร ๆ ชอบเรียกท่านว่า เทพเจ้าแห่งความเมตตา ผมก็ไม่เห็นท่านจะเป็นเทพตรงไหน ที่เห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันตอนไปกราบท่านก็พระแท้ ๆ ดี ๆ นี่เอง แต่เรื่องมหาเมตตานี่ผมไม่เถียงและไม่เกี่ยงงอนเลย

    ครั้งหนึ่งผมมัวแต่ถ่ายรูปหลวงพ่อแช่มเพลินไปขณะท่านเดินเจิมรถให้บรรดาศิษย์ ปรากฏว่าแมวเจ้ากรรมจากไหนไม่รู้ดันเดินเข้าไปที่ใต้ท้องรถด้านหน้า หลวงพ่อท่านสั่งให้ผมอุ้มแมวออกมาก่อนที่รถจะเคลื่อน ไอ้ผมก็เห็นท่านเป็นอิริยาบถธรรมชาติแท้ก็มัวแต่ถ่ายอยู่นั่นด้วยเสียดาย โอกาสงาม



    [​IMG]

    ผมจึงโชคดีที่ได้เห็น ‘กบแก่ที่ร่าเริง’ กลายเป็น ‘เสือกินคนที่น่ากลัว’ ในพริบตา ท่านดุผมด้วยเสียงที่ดังมิใช่น้อย ขนาดประดาศิษย์หันมามองกันทั่วหน้าก็แล้วกัน แต่ท่านจะเอ็ดว่ากระไรนั้นผมก็ลืมเสีย รู้แต่ว่าดุดังและนานเหลือใจประมาณว่าไม่มีเมตตาที่จะสนใจสัตว์เล็กสัตว์น้อยมัวแต่ทำเรื่องที่ไม่เข้าเรื่อง

    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

    ผมยังมีรูปตอนท่านทำหน้า ‘มหาอำนาจ’ เก็บไว้อยู่เลย ถ่ายทันพอดีครับ หยิบมาดูทีไรก็อดยิ้มให้กับความโง่ของตัวเองไม่ได้ คิดถึงท่านทันทีว่าถึงคราวดุท่านก็ดุ ถึงคราวดีท่านก็ดี ครูบาอาจารย์เห็นควรอย่างไรในการอบรมศิษย์ท่านก็ว่ากันไปตามเหตุ มิใช่เอาใจตะพึด หรือด่าตะพึด

    หลวงพ่อแช่มมีแปลกไม่เหมือนใครคือชอบเอาแป้งเจิมหน้าทุก ๆ คนที่ไปกราบ และเจิมวัตถุมงคลทุกอย่างที่เราเอาเข้าไปขอให้ท่านประสิทธิเมให้ ใครเคยไปกราบจะรู้ดี หน้าผากไม่ขาวออกมาเรียกว่ายังไม่ถึงวัดดอนยายหอม

    ครั้นสิ้นหลวงพ่อแช่ม ผมก็ด้อมไปมองหลวงพ่อพูลอย่างเต็มตา ไม่อยากเทียบว่าใครคิดถึงหลวงพ่อแช่มจงไปหาหลวงพ่อพูล เมตตาที่หลวงพ่อพูลมีให้ใคร ๆ นั้นไม่ต่างจากหลวงพ่อแช่มเลย การต้อนรับปฏิสันถารและการใช้ไม้จุ่มแป้งเจิมหน้าเจิมวัตถุมงคลนี้เหมือนกันราวกับแกะ



    [​IMG]

    ต่างแต่หลวงพ่อพูลอาจไม่ค่อยพูดเท่าหลวงพ่อแช่ม ท่านดูขรึม ๆ แต่ก็น่ารักใจดี ที่สำคัญท่านเป็นศิษย์ในหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ด้วยกันทั้งคู่ เจิมแป้งเหมือนกันทั้งคู่ และ...

    ขลังเหมือนกันทั้งคู่

    เมื่อแรกที่ผมเช่าพระหลวงพ่อพูลก็ไม่นึกจะแขวนอะไร เพราะพระเครื่องท่านก็ธรรมดา ๆ เป็นเหรียญ เป็นล็อคเกตว่ากันไป แต่ผมชอบที่รูปแบบแต่ละรุ่นมักสวยงามละเอียดประณีต ที่สำคัญคือวัดสร้างเองไม่ได้ให้เอกชนภายนอกมาสร้าง และหลวงพ่อก็นำปัจจัยทั้งหมดไปทำเสนาสนะในวัดไผ่ล้อม และบริจาคเป็นสาธารณะประโยชน์

    มีวัดที่สร้างพระเอง ออกแบบเอง เสกเองในปัจจุบันที่ผมทราบและเห็น ๆ อยู่มีด้วยกัน 4 วัดคือ หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม หลวงปู่ทิม วัดพระขาว หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง และ หลวงพ่อสาลีโข พุทธอุทยานธรรมโกศล

    เป็นอันว่าบริสุทธิ์จริง

    ต่อมาหลวงพ่อพูลได้ออกวัตถุมงคลที่สร้างความฮือฮาไปทั่วเพราะมีประสบการณ์น่าอัศจรรย์คือ หนุมานครองเมือง ที่มีลักษณะเป็นเหมือนลูกอม ออกแบบได้สวยงามและขลังดีจริง ๆ เมื่อผมไปบูชาและรับจากท่าน ท่านเจิมแป้งให้ทีลูกอย่างใจเย็นเสร็จแล้วส่งให้พร้อมบอกว่า “นี่หนุมานครองเมือง เขาดีนะ เก่งนะ ลองแขวนดู”


    [​IMG]

    ผมก็นำออกมาสวมคอและอธิษฐานทันทีเช่นกันว่าขอให้มีโชคมีลาภถ้าศักดิ์สิทธิ์จริงอย่างหลวงพ่อว่า เชื่อท่านเถิดครับ เพราะผมได้เงินจากโชคลาภหลายอัฐอย่างประหลาดจริง ๆ

    สมคำท่านว่า “เขาเก่งนะ”

    เลยต้องกลับไปบูชาอีกหลายลูกทีเดียว และหนุมานครองเมืองนี้ก็เป็นข่าวเกรียวกราวทางหน้าหนังสือพิมพ์ว่าคนใส่ไปงานรื่นเริงอย่างงานวัดที่ใกล้ทางด่วนแล้วถูกอันธพาลเอาอีดาบฟันเสียหลายปึ้ก แต่ไม่เข้าเลยเชียวทั้งที่เสื้อแสงขาดหมด เป็นหนุ่มธนาคารเสียด้วย เลยโด่งดังเข้าไปอีกทีนี้ไม่กี่วันก็หมดจากวัด

    ดูเหมือนหนุมานทั้งแขวนคอและบูชาจะทำให้หลวงพ่อพูลมีชื่อเสียงก้องฟ้า ถึงตรงนี้ทำให้ผมนึกถึงพระมหาเถระที่ทรงอภิญญารูปหนึ่งคือท่านพระครูสุนทรวชิรเวท หรือ หลวงพ่อจ่าง อเชยโย วัดเขื่อนเพชร อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ท่านบอกว่า มีพระที่เชี่ยวชาญและเป็นเลิศเรื่องการตั้งธาตุทั้ง 4 ในปัจจุบันอยู่ 4 องค์ แต่ละองค์จะชำนาญในธาตุต่าง ๆ กัน คือ

    ธาตุดิน - หลวงปู่สุภา กันตสีโล สำนักสงฆ์เทพขจรจิต (เขารัง) อ.เมือง จ.ภูเก็ต
    ธาตุน้ำ - หลวงปู่คร่ำ ยโสธโร วัดวังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง
    ธาตุลม - หลวงปู่ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่
    ธาตุไฟ - หลวงพ่อพูล อัตตรักโข วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม


    ซึ่งหลวงพ่อพูลเมื่อเก่งธาตุไฟหรือเตโชกสิณท่านจะปลุกเสกหนุมานก็ควรแล้ว เพราะ หนุมานเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้ที่ไม่รู้จักคำว่าแพ้ และเตโชกสิณก็จะทำให้หนุมานนั้น ๆ เป็นวัตถุมงคลแนว ‘บู๊’ ได้อย่างเต็มตัว ทั้งมหาอำนาจ คงกระพันชาตรี และมหาอุด ผู้จะทำยันต์หนุมานให้ขลังได้ย่อมต้องสำเร็จการตั้งธาตุทั้ง 4 จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมหลวงพ่อพูลทำหนุมานแล้วประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทุกรุ่นทุกพิมพ์

    เพราะท่านเข้าถึงข้อบังคับตามตำรา

    ส่วนวัตถุมงคลอื่น ๆ ก็ใช่จะไม่ขลังนะ เป็นเหรียญเป็นอะไรก็ตาม ถ้าหลวงพ่อตั้งใจเสกให้แล้วล่ะก็เป็นขลังทั้งนั้น อธิษฐานขอบารมีท่านได้เลย


    [​IMG]

    ตอนหลวงพ่อออกกุมารทองชื่อ ‘สมบัติ’ เป็นแบบบูชาหน้าตัก 5 นิ้วเนื้อดิน 7 ท่า 7 โป่ง 7 ป่าช้า ตามตำราของหลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม ผมก็ได้บูชามาโดยเคารพองค์หนึ่ง เมื่อนำไปถวายท่านประสิทธิประสาทให้ ท่านเอานิ้วจุ่มแป้งเจิมแล้วทารอบมวยผมอยู่นาน จากนั้นก็เจิมหน้าผากกุมารพึมพำอะไรก็ฟังไม่ถนัด แล้วก็เจิมอีกที่หน้าอกทั้งทางซ้ายและขวาด้านละจุดด้วยนิ้วชี้ท่านทั้งหมด

    [​IMG]

    ท่านอุ้มกุมารภาวนาอีกพักใหญ่ก็ส่งให้ผมพลางว่า “ไปอยู่กับเขานะ ไปช่วยเหลือคุ้มครองเขา เอาโชคเอาลาภมาให้เขา”

    โห ผมงี้ดีใจสุดแสน ไม่นึกว่าท่านจะเมตตาทำให้ปานนี้ ครั้นนำมาบูชาที่บ้าน ผมก็ทำไปตามปกติธรรมดาไม่ได้มีพิเศษอะไร กระทั่งวันหนึ่งที่เงินตึงมือ ด้วยความอยากทดสอบก็ยกมือไหว้บอกว่า...

    “น้องกุมารสมบัติเอ๋ย ตอนนี้พี่จนเหลือใจจะหวังล็อตเตอรี่ก็นานเกิน น้องสมบัติมีหนทางไหนจะช่วยพี่ไหมหนอ ถ้าได้จนเห็นว่าเป็นอัศจรรย์พี่จะถวายน้ำแดงหนึ่งขวดนะ”

    พูดแล้วก็แล้วกัน ครั้นเดินออกมาบ้านคุณแม่นั่งคุยกันสักพัก จู่ ๆ คุณป้าก็เรียกผมเข้าไปพบแล้วส่งเงินให้หนึ่งพันบาท ผมก็งง ท่านมองหน้าแล้วบอกว่าเอาไปท่านอยากให้เก็บเอาไว้ใช้

    โห...ศักดิ์สิทธิ์ไหมล่ะคุณ

    หนึ่งพันแตกมาซื้อแฟนต้าน้ำแดงยังเหลืออีกตั้ง 992 บาท คุ้มจะตาย
    ตอนที่ผมบูชากุมารทองสมบัติมานั้นผมไปกับเพื่อนรักสองคนคือ คุณนิวัฒน์ ภูริภาคย์วงศ์ และคุณบุญถนอม การุณยวนิช เมื่อเห็นผมเช่าพระพร้อมยืนยันว่าดีจริงเขาก็พากันเช่าตาม และได้บูชาพญาเต่าเรือนเนื้อเดียวกับกุมารทองสมบัติมาหนึ่งองค์

    วันหนึ่ง คุณนิวัฒน์เกิดทำกุญแจบ้านหายหาเท่าไรก็ไม่พบ หาจนอ่อนใจกระทั่งคิดว่าไม่มีทางจะได้คืนแล้ว ตอนนั้นนึกอย่างไรก็ไม่ทราบเหลือบไปเห็นพญาเต่าเรือนที่บูชามาแล้วทำเกาะให้ประทับในภาชนะกลมเทน้ำล้อมรอบอย่างดี จึงยกมือไหว้อธิษฐานว่าถ้าพญาเต่าเรือนนี้มีอานุภาพจริงขอให้พบกุญแจบ้านด้วยเถิด

    อธิษฐานแล้วก็เกิดกำลังใจอย่างประหลาด ค้นหาต่ออีกสักพักก็ไปพบกุญแจนั้นอยู่ข้างหลังพญาเต่าเรือนองค์ขนาดฝ่ามือนั่นเอง !!

    เขาเล่าให้ผมฟังอย่างตื่นเต้นและเปี่ยมศรัทธา แต่ผมศรัทธามาก่อนแกเล่าแล้วครับ !

    หลวงพ่อพูลเป็นพระที่ทรงเมตตาธิคุณมาก ท่านสงเคราะห์ชาวบ้านโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนมาตลอดอายุขัย แม้เมื่อได้ทราบว่าเด็กสมัยนี้ติดยาเสพติดกันมากท่านก็กรุณามอบปัจจัยให้ไปดำเนินการต่อสู้กับยาเสพติดและนำเยาวชนออกจากความมืด


    เมื่อโลกต้องสูญเสียพระสุปฏิบัติเช่นหลวงพ่อพูล อัตตรักโข ไปก็นับว่าเป็นที่น่าเสียดายนัก ด้วยพระเถระที่ถึงพร้อมด้วยปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ เช่นนี้เห็นว่ามีน้อย ครั้งยังอยู่ท่านก็เป็นที่พึ่งทั้งทางกายทางใจให้แก่ศิษยานุศิษย์และผู้เคารพนับถือเป็นอันมาก เปรียบดังต้นไม้ใหญ่ที่ให้ประโยชน์คือร่มเงาอันเกิดจากกิ่งก้านใบบัง ทั้งให้ความอุดมสมบูรณ์อิ่มท้องด้วยดอกและผล

    ครั้นต้นไม้มงคลโค่นลงเหล่านกก็แตกรังไร้ที่พึ่งพิง จึงกล่าวว่าเป็นที่น่าเสียดายกับการจากไปของท่านแม้จะแน่ใจว่าท่านไปดี


    ที่มา: บทความ-เรื่องราวน่ารู้ เว็ปนวรัตน์
     
  14. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    ขอให้พี่ตี๋ หายไวไว พักผ่อนเยอะๆนะคร๊าบบ

    เว็ปอืดด..ด อีกแล้ว
     
  15. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    บันทึกไว้ในอัลบั้ม


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
  16. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,492
    ค่าพลัง:
    +53,107
    พระกรุหลวงพ่อโต หลวงปู่ชู วัดนาคปรก ภาษีเจริญ กรุงเทพ

    พระกรุหลวงพ่อโต วัดนาคปรกนั้น พระอธิการชู คงชูนาม (หลวงปู่ชู) อดีตเจ้าอาวาสวัดนาคปรก ท่านได้สร้างเมื่อคราวทำพิธีหล่อองค์พระหลวงพ่อโตทั้งสององค์สองครั้ง โดยสร้างหลวงพ่อโตองค์เล็กครั้งแรกในปี พ.ศ.๒๔๖๕ และสร้างหลวงพ่อโตองค์ใหญ่เป็นครั้งที่สองในปี พ.ศ.๒๔๗๒ เพื่อประดิษฐาน ณ วิหารหลวงพ่อโต วัดนาคปรก เพื่อให้ประชนผู้เลื่อมใสศรัทธาได้กราบไหว้ในองค์หลวงพ่อโต พระหลวงพ่อโต วัดนาคปรก เนื้อทองเหลืองแตกกรุสองครั้งคือ ครั้งแรกแตกเมื่อมีโขมยใจบาปมาแอบตัดเศียรองค์หลวงพ่อโต แต่ก็เกิดสิ่งอัศจรรย์ในคราวนั้นเมื่อขโมยไม่สามารถนำเศียรองค์ของหลวงพ่อโตไปได้ เดินหลงทางหาทางออกจากวัดไม่ได้จนเกือบใกล้รุ่ง หัวโขมยใจบาปจึงได้นำเศียรขององค์หลวงพ่อโตไปแอบซุกไว้ที่พงหญ้าริมกำแพงโบสถ์
    ซึ่งในครั้งนั้นทางวัดโดย ท่านพระครูศรีพัฒนคุณ (พิศิษฐ สิมมามี) ท่านเจ้าอาวาสวัดนาคปรกในสมัยนั้นและกรรมการวัดได้ทำการสำรวจที่องค์หลวงพ่อโต จึงได้พบพระพิมพ์หลวงพ่อโต เป็นพระแผงเนื้อทองเหลืองจำนวนหนึ่ง ทางวัดจึงได้เก็บรักษาไว้ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2516 ทางวัดต้องการบูรณะปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุภายในวัดและขยายถนนที่เล็กคับแคบให้กว้างขึ้น เพื่อสดวกแก่ญาติโยมที่ต้องอาศัยทางของวัดเพื่อสัญจรเดินทาง จึงจำเป็นต้องทำการรื้อถอนเรือสำเภอปูนโบราณ ซึ่งได้สร้างขึ้นในสมัยของท่านหลวงปูชู คงชูนาม อดีตเจ้าอาวาสวัดนาคปรก และยังได้รื้อถอนสถูปเจดีย์เก่าที่อยู่ข้างเรือสำเภอปูนออกด้วย ในการรื้อถอนครั้งนั้นทางวัดได้พบ
    1.พระพิมพ์หลวงพ่อโตเนื้อทองเหลืองอีกจำนวนหนึ่ง 2.พระพิมพ์หลวงพ่อโตเนื้อดินเผาหลายสิบไห 3.พระพิมพ์กลีบบัวมีทั้งเนื้อดินเผา-เนื้อว่าน-เนื้อชานหมาก-เนื้อชินตะกั่ว จำนวนไม่มากนัก 4.พระพิมพ์แหวกม่านเนื้อดินเผาและเนื้อดินดิบผสมว่านจำนวนไม่มาก 5.พระพิมพระสังกัลจายเนื้อดินเผาจำนวนไม่มาก 6.พระหลวงพ่อโตเนื้อชินตะกั่วพิมพ์สามเหลี่ยม(นางพญา) จำนวนไม่ถึงยี่สิบองค์ อีกทั้งยังพบพระฝากกรุไว้ในสถูปเจดีย์เก่าที่อยู่ข้างเรือสำเภอปูนอีกจำนวนหนึ่ง พระที่ทางวัดพบในเรือสำเภาปูนโบราณนั้น พระทั้งหมดถูกบรรจุไว้ในไหโบราณ จึงทำให้พระกรุหลวงพ่อโต วัดนาคปรกที่พบในครั้งนั้นอยู่ในสภาพค่อนข้างดี ทางวัดนาคปรกซึ่งกำลังบูรณะปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุภายในวัดอยู่ในขณะนั้น

    จึงได้เปิดให้ประชาชนผู้มีจิตศัทราในองค์หลวงพ่อโตและท่านหลวงปู่ชู วัดนาคปรก ได้เช่าบูชาโดยกำหนดราคาให้เช่าบูชาที่ 1.พระหลวงพ่อโตเนื้อทองเหลืองทั้งที่พบในเรือสำเภาปูนโบราณและพระแผงที่พบในท้ององค์หลวงพ่อโตเอามาเลื่อยออกเป็นองค์พระในราคาองค์ละ 1000 บาท 2.พระหลวงพ่อโตเนื้อชินตะกั่วพิมพ์สามเหลี่ยม(นางพญา)องค์ละ 1000 บาท 3.พระพิมพ์กลับบัวเนื้อดินเผาราคาองค์ละ 200 บาท เนื้อว่าน-เนื้อชานหมาก-เนื้อชินตะกั่วราคาองค์ละ 500 บาท 4.พระพิมพ์แหวกม่านเนื้อดินเผาองค์ละ 200 บาท เนื้อดินดิบผสมว่าน 500 บาท 5.พระหลวงพ่อโตเนื้อดินเผาราคาองค์ละ 50 บาท ส่วนพระพิมพ์พระสังกัลจายเนื้อดินเผาผู้เขียนจำราคาไม่ได้ หลังจากทางวัดนาคปรกเปิดให้เช่าบูชา พระทุกพิมพ์ได้หมดจากวัดนาคปรกไปในเวลาอันรวดเร็วเหลือแต่พระหลวงพ่อโตเนื้อดินเผาซึ่งมีจำนวนการพบเป็นจำนวนมาก แต่ก็หมดไปจากวัดนาคปรกในอีกไม่กี่ปีต่อมา
    ป.ล.พระหลวงพ่อโตเนื้อดินเผาและพระพิมพ์ทั้งหมดที่พบในเรือสำเภาโบราณ ที่ท่านหลวงปู่ชูได้สร้างขึ้นไว้นี้ เป็นพระที่ปราศจากคราบกรุ เพราะมีการบรรจุไว้ภายในไหโบราณมีฝาปิด อีกทั้งกรุก็มั่นคงแข็งแรงกันน้ำกันฝนได้เป็นอย่างดี ผิวพรรณจะออกเป็นสีหม้อใหม่เกือบทั้งหมด จะมีสีออกน้ำตาลเข้ม สีขาวนวลและสีดำบ้างเล็กน้อย ดูเผินๆจะเป็นเหมือนพระใหม่ แต่ถ้าหากใช้แว่นขยายส่องดูจะปรากฏว่ามีความเก่าและมีความแห้งถึงอายุ


    [​IMG] [​IMG]
     
  17. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437
    [​IMG]




    [​IMG]


    [​IMG]




    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มกราคม 2014
  18. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    หญิงชราชาวลาวโซ่งคนหนึ่ง ได้มาหาหลวงพ่อเล่าว่า นางเคยเป็นชาวจังหวัดนครปฐม ได้อพยพไปทำมาหากินอยู่ที่จังหวัดพิจิตร เมื่อนางจะเดินทางไปอยู่จังหวัดพิจิตรนั้น ได้เคยมาหาหลวงพ่อขอพระเครื่องไปคุ้มครององค์หนึ่ง นางก็เก็บติดตัวเสมอ ก่อนนอนก็สวดมนต์ระลึกถึงหลวงพ่ออยู่เสมอไม่ขาด คราวหนึ่งถูกโจรปล้นบ้าน นางหนีไม่พ้น แต่มีสติดีระลึกถึงหลวงพ่อ แล้วก้มหน้าลงกราบหลวงพ่อมือกำพระเครื่องหลวงพ่อไว้แน่น ฟุบหน้าลงกับพื้น นึกเหมือนว่านั่งหมอบกราบหลวงพ่ออยู่ตรงหน้ากุฏิหลวงพ่อ หลับตามองเห็นหลวงพ่อนั่งเคี้ยวหมากอยู่ตรงหน้า ฝ่ายพวกโจรก็ค้นบ้านโครมครามอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อไม่ได้ของมีค่าอะไรก็เตรียมกลับไป ได้ยินเสียงมันบ่นว่า

    "นี่เจ้าของบ้านมันไปไหนหมด ?"

    แล้วมันก็ลงเรือนเงียบหายไป

    น่าประหลาดก็คือ วันรุ่งขึ้น มันกลับมาเอาเชี่ยนหมากที่มันถือติดมือไป เอามาโยนทิ้งคืนไว้ที่หน้าบ้านด้วย

    หลวงพ่อฟังหญิงชราคนนั้นเล่าจบแล้ว ก็ตอบว่า

    "ศรัทธา ความยึดมั่นถือมั่น โดยระลึกถึงคุณพระด้วยความเชื่อมั่น คุณพระจึงบันดาลให้โจรมองไม่เห็นโยม เมื่อมันกลับไปเห็นว่าในเชี่ยนหมากไม่มีเงินทอง มันก็เลยเอามาคืนให้..."
    หลวงพ่อเงินเล่า

    เรื่องทั้งหมดที่เล่าประกอบเรื่องพระเครื่องของหลวงพ่อเงินนั้น เป็นเรื่องของคนอื่น ซึ่งมีตัวตนอยู่จริง จึงขออนุญาตออกชื่อไว้ให้ปรากฏเป็นหลักฐานสำหรับผู้สนใจจะได้ทราบข้อเท็จจริงต่อไป ไม่ใช่เรื่องโฆษณาขายพระเครื่องหรือโฆษณาชวนเชื่อชื่อเสียงของหลวงพ่อเงิน เพราะบัดนี้หลวงพ่อเงินก็ล่วงลับดับขันธ์ไปแล้ว ตั้งแต่ พ.ศ.2519 นับจนถึงปีที่เขียนเรื่องนี้ พ.ศ.2529 ก็ 10 ปีเต็มแล้ว จึงไม่ได้เขียนเพื่อประโยชน์อย่างอื่นตามที่บางท่านอาจจะสงสัย

    แต่ผู้เขียนขอเล่าเรื่องที่หลวงพ่อเล่าให้ฟังสักเรื่องหนึ่ง คือเมื่อประมาณ ปีพ.ศ.2516 หลวงพ่อเงินได้รับกิจนิมนต์ไปนั่งเป็นประธานในงานผูกพัทธสีมาวัดลาดเป้ง ผู้เขียนเรื่องนี้ได้นั่งรถยนต์กลับจากจังหวัดนครปฐมกับหลวงพ่อในระหว่างนั่งอยู่ในรถยนต์ด้วยกันตอนเบาะท้ายรถ หลวงพ่อก็เล่าให้ฟังในฐานะครูอาจารย์กับลูกศิษย์

    หลวงพ่อเล่าว่า คราวหนึ่งได้นั่งแท็กซี่ไปจังหวัดลพบุรี ไปด้วยกัน 2 คัน หลวงพ่อนั่งคันหลัง คนที่ไปด้วยนั่งคันหน้า แล่นไปในระหว่างทางเวลากลางคืน ก็ถูกคนร้ายดักปล้นจี้แท็กซี่ เมื่อไม่ยอมให้เงินมัน มันก็ยิงเอา 2-3 นัด คนที่ถูกยิงก็สลบไป คือตกใจจนสลบไม่ได้สติ หลวงพ่อนั่งไปคันหลังจึงส่งกระแสจิตไปช่วยคุ้มครอง รถคันหน้าแล่นหนีไป มาถึงรถหลวงพ่อ มันไม่ยิง เพราะมันเห็นเป็นพระภิกษุนั่งอยู่ มันก็ไม่ยิง เมื่อพ้นอันตรายแล้ว คนขับก็หยุดดูอาการของคนที่ถูกปล้นแล้วถูกโจรยิง เขาฟื้นสติขึ้นมา ลุกขึ้นลูกปืนก็หลุดออกมาจากรักแร้ ในเสื้อผ้า 3 ลูก แต่ไม่เข้า ไม่มีบาดแผลที่ไหนเลยมีแต่ลูกปืน 3 ลูก

    หลวงพ่อเล่าแล้วก็หัวร่อ ผู้เขียนก็ได้แต่นั่งฟัง ผู้เขียนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เพราะผู้เขียนเชื่อศีลธรรม คุณธรรมของหลวงพ่อ หลวงพ่อทรงศีลทรงคุณธรรม อยู่เต็มตัว จะคุยเรื่องโกหกหลอกลวงให้ฟังทำไม เพื่อประโยชน์อะไรเล่า ?

    แต่เสียดายที่ไม่ได้ถามชื่อผู้ถูกปล้นผู้ถูกยิงว่าชื่ออะไร อยู่ที่ไหน ดูเหมือนจะบอกชื่อให้ฟังด้วย แต่ผู้เขียนมัวฉงนเสีย ไม่ได้จดจำไว้ คือเชื่อสนิทใจจนไม่สงสัยถึงแก่จะต้องจดชื่อไว้สอบถามเขาภายหลัง นึกได้ว่าคือ คุณอรุณี สุจริตจิตต์ ภรรยาของคุณวัฒนา สุจริตจิตต์ อดีตนายอำเภอซึ่งเคยเป็นครูของข้าพเจ้า


    ที่มา: ตั้มศรีวิชัย
     
  19. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    สวัสดียามเช้าครับพี่วรรณ พี่เอ๊ะ พี่กูน พี่ตี๋ พี่โญ พี่รุ่ง คุณบอย นอร์ น้องโอ๊ต น้องเอ็ม น้องเขี้ยว น้องนิก คุณตั้น คุณหมอ คุณhmoomoo คุณsellcat คุณEYEOFVENUS และพี่ๆน้องทุกท่าน ขอบคุณทุกภาพสวยๆและเรื่องราวดีๆจากทุกท่านครับ
     
  20. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    ครั้งหนึ่งโยม ซิ้ม โบ๊เบ๊มาขอพึ่ง บ่นว่าขโมยขึ้นบ้านเยอะ
    ให้ท่านช่วยหน่อย หลวงพ่อบอกเอากาเสือไป
    ยายซิ้มดีใจว่าผ้ายันต์หรือเจ้าคะ
    ท่านว่าไม่ใช่ เป็นปูน เอาไปก่อกำแพงซะ
    ท่านจึงสอนว่า

    "คนเราถ้าไม่ช่วยตัวเอง คิดแต่พึ่งคนอื่น ชีวิตคิดแต่ขอเขาอย่างเดียว ก็ไร้ปัญญาใว้แก้ปัญหา"


    ที่มา: อมตธรรมหลวงพ่อวัดดอนยายหอม
     

แชร์หน้านี้

Loading...