เข้าฌาน แล้วระลึกชาติ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย Tamjugg, 9 ตุลาคม 2012.

  1. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    สงกรานต์นี้ขอให้เพื่อนพุทธศาสนิกชนพบแต่ความสุขความเจริญ เข้าวัดฟังธรรมทำบุญ ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ธรรมใดที่ยังไม่มีไม่บังเกิดขอเพื่อนพุทธศาสนิกผู้ปฏิบัติชอบทั้งหลายจงเจริญในธรรมนั้นยิ่งๆขึ้นไปจนกว่าจะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้...เดินตามทางมรรค์มีองค์8อันมารไม่สามารถตามได้
     
  2. ธมมสุนทโร

    ธมมสุนทโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +107
    นิ่งไว้
     
  3. ธมมสุนทโร

    ธมมสุนทโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +107
    ท่านใดวางอุเบกขาได้ก่อน เราย่อมชมผู้นั้นว่าอินทรีแก่กล้ากว่า
     
  4. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    บุคคลบางพวกในโลกนั้นโปรดไม่ขึ้นโดยแท้ รั้งแต่จะเป็นอาหารให้เต่าปลาใต้น้ำ...

    เปลือกของพรหมจรรย์ ใบพรหมจรรย์ กิ่งพรหมจรรย์ แก่นพรหมจรรย์ พึงพิจารณาเนืองๆว่าเป็นชนิดไหน.....




    พระพุทธเจ้าทรงเปรียบเทียบการออกบวชเพื่อการเข้าถึงแก่นของศาสนาว่า เหมือนผู้มีความต้องการแก่นไม้ แสวงหาแก่นไม้ เที่ยวเสาะหาแก่นไม้ โดยทรงแบ่งไว้ 5 จำพวกคือ

    1.) บางคนเมื่อออกบวชแล้ว ได้รับลาภสักการะ และความสรรเสริญ เขามีความยินดี พอใจในสิ่งเหล่านั้น ลุ่มหลงมัวเมาในสิ่งเหล่านั้น ยกตนข่มผู้อื่นว่า ตนมีลาภสักการะ และได้รับคำสรรเสริญมากกว่าผู้อื่น
    เปรียบเสมือนผู้แสวงหาแก่นไม้ ไปพบต้นไม้ใหญ่ แล้วตัดเอากิ่งและใบถือไป โดยเข้าใจผิด คิดว่านั่นคือแก่นไม้ เขาย่อมไม่ได้แก่นไม้ ฉันใด ผู้ที่ออกบวชแล้วติดอยู่ที่ลาภสักการะ และความสรรเสริญ ย่อมเข้าไม่ถึงแก่นของศาสนา ฉันนั้น เพราะเขาได้ถือเอากิ่งและใบของพรหมจรรย์ และถึงที่สุดแค่กิ่งและใบนั้น

    2.) บางคนเมื่อออกบวชแล้ว ได้รับลาภสักการะ และความสรรเสริญ แต่เขาไม่มีความยินดีในสิ่งเหล่านั้น ไม่ลุ่มหลงมัวเมาในสิ่งเหล่านั้น ไม่ประมาท ไม่ยกตนข่มผู้อื่น เพราะลาภสักการะ และความสรรเสริญนั้น
    เมื่อไม่ประมาท เขาจึงมีความเพียรในการถือศีลให้บริสุทธิ์ เขามีความยินดี พอใจในความบริสุทธิ์ของศีลนั้น เขาจึงยกตนข่มผู้อื่นว่า เรามีศีล มีกัลยาณธรรม ผู้อื่นเป็นผู้ทุศีล มีบาปธรรม เขาย่อมมัวเมา มีความประมาทเพราะความบริสุทธิ์ของศีลนั้น
    เปรียบเสมือนผู้แสวงหาแก่นไม้ ไปพบต้นไม้ใหญ่ แล้วถากเอาสะเก็ดถือไป คิดว่านั่นคือแก่นไม้ เขาย่อมไม่ได้แก่นไม้ ฉันใด ผู้ที่ออกบวชแล้วติดอยู่ที่ศีล ย่อมเข้าไม่ถึงแก่นของศาสนา ฉันนั้น เพราะเขาได้ถือเอาสะเก็ดของพรหมจรรย์ และถึงที่สุดแค่สะเก็ดนั้น

    3.) บางคนเมื่อออกบวชแล้ว ได้รับลาภสักการะ และความสรรเสริญ แต่เขาไม่มีความยินดีในสิ่งเหล่านั้น ไม่ลุ่มหลงมัวเมาในสิ่งเหล่านั้น ไม่ประมาท ไม่ยกตนข่มผู้อื่น เพราะลาภสักการะ และความสรรเสริญนั้น
    เมื่อไม่ประมาท เขาจึงมีความเพียรในการถือศีลให้บริสุทธิ์ เขามีความยินดี พอใจในความบริสุทธิ์ของศีลนั้น แต่ความดำริยังไม่เต็มเปี่ยม ไม่ลุ่มหลงมัวเมาในศีลนั้น ไม่ประมาท ไม่ยกตนข่มผู้อื่น เพราะความบริสุทธิ์ของศีลนั้น
    เมื่อไม่ประมาท เขาจึงมีความเพียรในการทำสมาธิให้เกิดขึ้น เขามีความยินดี พอใจในสมาธินั้น เขาจึงยกตนข่มผู้อื่นว่า เรามีจิตตั้งมั่น ผู้อื่นเป็นผู้มีจิตไม่ตั้งมั่น เขาย่อมมัวเมา มีความประมาทเพราะสมาธินั้น
    เปรียบเสมือนผู้แสวงหาแก่นไม้ ไปพบต้นไม้ใหญ่ แล้วถากเอาเปลือกถือไป คิดว่านั่นคือแก่นไม้ เขาย่อมไม่ได้แก่นไม้ ฉันใด ผู้ที่ออกบวชแล้วติดอยู่ที่สมาธิ ย่อมเข้าไม่ถึงแก่นของศาสนา ฉันนั้น เพราะเขาได้ถือเอาเปลือกของพรหมจรรย์ และถึงที่สุดแค่เปลือกนั้น



    4.) บางคนเมื่อออกบวชแล้ว ได้รับลาภสักการะ และความสรรเสริญ แต่เขาไม่มีความยินดีในสิ่งเหล่านั้น ไม่ลุ่มหลงมัวเมาในสิ่งเหล่านั้น ไม่ประมาท ไม่ยกตนข่มผู้อื่น เพราะลาภสักการะ และความสรรเสริญนั้น
    เมื่อไม่ประมาท เขาจึงมีความเพียรในการถือศีลให้บริสุทธิ์ เขามีความยินดี พอใจในความบริสุทธิ์ของศีลนั้น แต่ความดำริยังไม่เต็มเปี่ยม ไม่ลุ่มหลงมัวเมาในศีลนั้น ไม่ประมาท ไม่ยกตนข่มผู้อื่น เพราะความบริสุทธิ์ของศีลนั้น
    เมื่อไม่ประมาท เขาจึงมีความเพียรในการทำสมาธิให้เกิดขึ้น เขามีความยินดี พอใจในสมาธินั้น แต่ความดำริยังไม่เต็มเปี่ยม ไม่ลุ่มหลงมัวเมาในสมาธินั้น ไม่ประมาท ไม่ยกตนข่มผู้อื่น เพราะสมาธินั้น
    เมื่อไม่ประมาท เขาจึงมีความเพียรในการเจริญวิปัสสนา จนทำญาณทัสสนะให้เกิดขึ้น (การเห็นแจ้งในปัญญาจากการเจริญวิปัสสนาขั้นต้น แต่ยังไม่ถึงขั้นมรรค/ผล หรือบรรลุมรรค/ผลขั้นต้นแล้ว (เช่น เป็นโสดาบัน) แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นพระอรหันต์) เขามีความยินดี พอใจในญาณทัสสนะนั้น เขาจึงยกตนข่มผู้อื่นว่า เรารู้เราเห็นอยู่ ผู้อื่นไม่รู้ไม่เห็น เขาย่อมมัวเมา มีความประมาทเพราะญาณทัสสนะนั้น
    เปรียบเสมือนผู้แสวงหาแก่นไม้ ไปพบต้นไม้ใหญ่ แล้วถากเอากระพี้ถือไป คิดว่านั่นคือแก่นไม้ เขาย่อมไม่ได้แก่นไม้ ฉันใด ผู้ที่ออกบวชแล้วติดอยู่ที่ญาณทัสสนะ ย่อมเข้าไม่ถึงแก่นของศาสนา ฉันนั้น เพราะเขาได้ถือเอากระพี้ของพรหมจรรย์ และถึงที่สุดแค่กระพี้นั้น


    5.) บางคนเมื่อออกบวชแล้ว ได้รับลาภสักการะ และความสรรเสริญ แต่เขาไม่มีความยินดีในสิ่งเหล่านั้น ไม่ลุ่มหลงมัวเมาในสิ่งเหล่านั้น ไม่ประมาท ไม่ยกตนข่มผู้อื่น เพราะลาภสักการะ และความสรรเสริญนั้น
    เมื่อไม่ประมาท เขาจึงมีความเพียรในการถือศีลให้บริสุทธิ์ เขามีความยินดี พอใจในความบริสุทธิ์ของศีลนั้น แต่ความดำริยังไม่เต็มเปี่ยม ไม่ลุ่มหลงมัวเมาในศีลนั้น ไม่ประมาท ไม่ยกตนข่มผู้อื่น เพราะความบริสุทธิ์ของศีลนั้น
    เมื่อไม่ประมาท เขาจึงมีความเพียรในการทำสมาธิให้เกิดขึ้น เขามีความยินดี พอใจในสมาธินั้น แต่ความดำริยังไม่เต็มเปี่ยม ไม่ลุ่มหลงมัวเมาในสมาธินั้น ไม่ประมาท ไม่ยกตนข่มผู้อื่น เพราะสมาธินั้น
    เมื่อไม่ประมาท เขาจึงมีความเพียรในการเจริญวิปัสสนา จนทำญาณทัสสนะให้เกิดขึ้น เขามีความยินดี พอใจในญาณทัสสนะนั้น แต่ความดำริยังไม่เต็มเปี่ยม ไม่ลุ่มหลงมัวเมาในญาณทัสสนะนั้น ไม่ประมาท ไม่ยกตนข่มผู้อื่น เพราะญาณทัสสนะนั้น
    เมื่อไม่ประมาท เขาจึงมีความเพียรในการเจริญวิปัสสนาต่อไป จนทำอรหัตตมรรค อรหัตตผล ให้เกิดขึ้น (บรรลุเป็นพระอรหันต์)
    เปรียบเสมือนผู้แสวงหาแก่นไม้ ไปพบต้นไม้ใหญ่ แล้วถากเอาแก่นถือไป เขาย่อมได้ประโยชน์ จากแก่นไม้นั้น ฉันใด ผู้ที่ออกบวชแล้วไม่ประมาท มีความเพียรในการเจริญวิปัสสนา จนทำอรหัตตมรรค อรหัตตผลให้เกิดขึ้น เขาย่อมเข้าถึงแก่นของศาสนา ฉันนั้น
    เพราะพรหมจรรย์นี้ มีอรหัตตมรรค อรหัตตผลเป็นประโยชน์ เป็นแก่น เป็นที่สุด.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2013
  5. 777777777

    777777777 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +5
    สาธุๆ ผมอยากฝึกให้ได้แบบนี้บ้างจัง ติดที่ไม่มีเวลา T^T
     
  6. 777777777

    777777777 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +5

    มันน่าสนใจดี ผมแทบไม่เคยฝึกสมาธิเลย ผมอยากทราบว่าจะเริ่มฝึกต้องทำยังไงบ้างครับ? และใช้เวลานานไหมกว่าจะได้ถึงระดับนี้? เวลาว่างที่จะใช้ฝึกของผมน้อยจะนานมากมั้ยครับ
     
  7. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    รักษาศีลทำกายและใจให้สะอาด ทำวิปัสนากรรมฐานนี้สักอาทิตย์ก็ได้ฌานแล้วคับ ไม่เกิน2ทิตย์ก็เนวสัญญายตนฌาน... แต่ถ้าจะเอาอภิญญาก็ทำเรื่อยๆคับเดี๋ยวเกิดเอง มีคนได้เป็นพันท่านแล้วผมว่าท่าน77777ก็น่าทำได้เช่นกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2013
  8. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ช้าหรือเร็วอยู่ที่จิต ภาวนามานานไม่ปลงไม่เห็นไตรลักษณ์ก็ยากจะเห็นธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2013
  9. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    "พึงพิจารณาเนืองๆ ว่า เราย่อมติเตียนตนเองได้โดยศีลหรือไม่"

    (๒๔/๔๘) #ธรรมะ
     
  10. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    "ดูกรอานนท์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้อยู่ในป่าก็ดี อยู่ที่โคนไม้ก็ดี อยู่ในเรือนว่างเปล่าก็ดี ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า รูปไม่เที่ยง เวทนาไม่เที่ยง สัญญาไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง วิญญาณไม่เที่ยง ย่อมพิจารณาเห็นโดยความเป็นของไม่เที่ยงในอุปาทานขันธ์ ๕ เหล่านี้ด้วยประการอย่างนี้ ดูกรอานนท์ นี้เรียกว่าอนิจจสัญญา ฯ"



    (๒๔/๖๐) #ธรรมะ
     
  11. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว เธอชักนำจิตไปเพื่อ ญาณทัศนะ....
     
  12. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    "โมคคัลลานะ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเป็นผู้ปรารภความเพียร ด้วยตั้งสัตยาธิษฐานว่า จะเหลืออยู่แต่หนัง เอ็นและกระดูกก็ตามที เลือดและเนื้อในร่างกายจงเหือดแห้งไปเถิด ผลอันใดที่จะพึงบรรลุได้ด้วยเรี่ยวแรงของบุรุษ ด้วยความเพียรของบุรุษ ด้วยความบากบั่นของบุรุษ ยังไม่บรรลุผลนั้นแล้ว จะหยุดความเพียรเสียเป็นอันไม่มี"

    "โมคคัลลานะ ภิกษุย่อมเป็นผู้ปรารภความเพียรอย่างนี้แล"

    (๑๖/๖๙๓) #ธรรมะ
     
  13. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ประสบการณ์ พระศิษย์พี่ทรงอภิญญาไปเข้าพรรษาที่อินเดีย

    พระเถระท่านไปถึงสถานที่วัดเชตวันเห็นเรื่องราวในอดีตมีพระอรหันต์มากมาย รวมถึงเทวดาทั้งหลายมากราบไหว้บริเวณ4สังเวชณียสถาน และไปเห็นหลุมตรงพระเทวทัศโดนธรณีสูบนั่งแคล้แล้วไปตกลงบริเวณที่เป็นหลุม ณ ปัจจุบัน และเห็นนิมิตพระบรมศาสดามีอยู่จริงบริเวณ4สังเวชสถาน และสถานที่ใดที่พระพุทธองค์เคยผ่านแสดงธรรมจะมีพระธาตุอยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2013
  14. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    พระกรรมฐาน

    ครั้นมีโยมท่านนึงโดนคุนไส เจ็บป่วยกระทันหันจนลุกไม่ขึ้นตัวบวมได้โทรมาถามพระกรรมฐาน ให้ช่วยดูอาการเจ็บป่วย พระท่านก็นั่งสมาธิดูจากที่วัดและทำการถอนอวิชชาคุนไสออกให้ จนแกลุกขึ้นเดินได้เองในไม่กี่นาที และโยมท่านนั้นได้บอกว่าแกไปช่วยผู้มีพระคุณท่านนึงที่เคยช่วยแกไว้ อดีตแกเคยติดหนี้ผู้มีพระคุณนี้6ล้านบาทได้และฟ้องล้มละลาย แต่ผู้มีพระคุณสงสารเลยยกฟ้องและยกหนี้6ล้านให้

    ครั้นผ่านไปไม่นานผู้มีพระคุณก็ได้ล้มป่วยไร้สาเหตุจนลุกไม่ได้ ปวดตามตัวตลอดเวลาและต้องฉีดมอร์ฟีนทุก2ชั่วโมงค่าห้องโรงบาลก็คืนละ2หมื่นยังไม่รวมค่ายาค่ารักษา(เดือนนึงหมดเกือบล้านบาท) โยมท่านนึงจึงขอให้พระกรรมฐานช่วยแก้ให้ถอนของจนแกลุกขึ้นเดินได้ จากที่ลุกไม่ได้มานานหลายเดือน เรื่องของเรื่องเพราะผู้มีบุญคุณโดนทำของจากสามีแกหวังหุบสมบัติพันล้านไว้คนเดียว กะให้แกตายไปเลย แต่โยมมาช่วยไว้โดยให้พระท่านแก้ คนทำของเลยหันมาทำใส่โยมซึ่งเป็นกรรมหนักมากมีอบายเปนที่ไปแต่คนเราย่อมไม่กลัวตราบที่กรรมไม่ให้ผล คนทำของจึงหันมาเล่นโยมที่ไปให้พระท่านแก้ให้ พระท่านสามารถแก้ของจากที่วัดเลย จนผู้ป่วยอาการดีขึ้นทันที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2013
  15. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    อภิญญาคืออะไร?

    พระท่านเจริญวิปัสนากรรมฐาน จนถึงขั้นมองเห็นคนป่วยเป็นโรคอะไร มาจากบุพกรรมไหน แม้ไม่ต้องพบหน้าอยู่ไกลกันคนละทวีปก็สามารถรู้ได้ สามารถล่วงรู้วาระจิตและระดับอภิญญาของผู้อื่นได้ถูกต้องและพูดเป็นอรรถเป็นธรรมมีจิตเมตตา จนฝรั่งมาจากLondonเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์และจบจากอังกฤษ มาฝากตัวเป็นศิษย์ขอบวชเป็นพระ และพระฝรั่งก็สามารถภาวนาจนบรรลุฌานและบุฟเพนิวาสานุสติ ธรรมนี้ไม่ได้ฝึกได้คนเดียวแต่สามารถชี้ทางให้ผู้อื่นฝึกตามจนบรรลุผลตามลำดับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2013
  16. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ครั้นได้สนทนากับเสธ.ท่านนึงมากจากกทม ท่านได้เล่าประสบณ์การพิศวงว่า เมื่อครั้งนึงเสธ.ได้นิมนต์พระท่านไปกทม ในระหว่างทางอยู่บนทางด่วนนั่นเองรถเกิดเร่งคันเร่งแล้วไม่ไป อยู่ๆนิ่งซะงั้น เลยถามพระท่าน บอกว่าพระนารายมาให้เชิญท่านออกก่อน ครั้นเสธนาธิการบดีทหาร.. ได้อฐิฐานเชิญพระนารายที่ท่านห้อยออกก่อน รถก็กับมาแล่นได้ตามปกติทันที นี้เป็นประสบณ์การที่ท่านพบกับตัว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2013
  17. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ส่วนอีกท่านนึงเป็นที่ปรึกษาผู้นำประเทศ ครั้นท่านมีอาการโรคหัวใจไปตรวจโรงบาลดังๆหลายแห่งในกทม จนหมดเงินไปหลายล้านบาทเฉพาะค่าตรวจเพราะตรวจหลายโรงบาลเพื่อกันการวินิฉัยผิดพลาดแต่ละแห่งก็แนะนำให้ท่านผ่าตัดหัวใจเพราะมีอาการปวดของโรคหัวใจและอันตราย ท่านที่ปรึกษาผู้นำของประเทศก็ได้ไปหาเพื่อนสนิทที่เป็นผอใหญ่.โรงบาลในกทม ผอ.ท่านก็แนะนำให้ไปผ่าตัดหัวใจจะดีกว่า(ผอ.เป็นเพื่อนสนิทของท่านตั้งแต่เด็กโตมาด้วยกันไม่โกหกแน่นอน)

    เหตุการณ์เปลี่ยนเมื่อท่านลังเลในการเข้ารับการผ่าตัด และหันเข้าหาวัดหาธรรมมะ ได้มาที่วัดถามพระอาจารย์ว่าผ่าตัดจะหายไหมหรือมีทางแก้อื่นไหม พระท่านก็ทำสมาธิชั่วครู่แล้วเมตตาบอกว่าให้ไปขอขมากรรมที่เคยทำในชาตินี้ (ซึ่งไม่ขอบอกนะที่นี้) เดี๋ยวก็หาย ไม่ต้องผ่าตัดหรอก ที่ปรึกษาผู้นำของประเทศก็ไปทำพิธีขอขมากรรมจุดธูป(ไม่มีการเสียเงินนะคับ) และท่านก็ได้หายจากอาการโรคหัวใจ(จากที่หลายโรงบาลวินิฉัยมา) หลังจากนั้นที่ปรึกษาผู้นำประเทศ ก็หันเข้าหาธรรมมะมากขึ้น คือมาปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานและก็กลับกทมไปมีเวลาก็ทำวิปัสนากรรมฐานต่อ อาการต่างๆก็ดีขึ้น ท่านบอกผมว่าทุกครั้งที่ได้ภาวนาท่านจะรุสึกดีมาก และตอนทอดกฐินผมก็ถามท่านว่าทำไมท่านบริจาคเงินเยอะ(ทุกปี ปีละ1ล้านบาท) ท่านเลยเล่าเรื่องป่วยของท่านจนหายให้ผมฟังเฉกเช่นข้างบนได้กล่าวไว้ และท่านได้บอกต่ออีกว่าผู้นำประเทศได้เชิญท่านไปเป็นรัฐมนตรีท่านก็ไม่ขอเป็น ขอเป็นที่ปรึกษาพอ..
     
  18. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    พระพุทธองค์ สอนให้ปฏิบัติธรรม เพื่อให้หายเจ็บป่วย เพื่อให้ไม่ตาย เพื่อให้ได้ลาภยศ หรืออย่างไร?

    ทำไมการจะดึงคนให้มาปฏิบัติธรรม ต้องล่อด้วยมนุษย์สมบัติ?
     
  19. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ทำตัวเป็นแมลงสาบไปได้อินทรบุตรเกิดเป็นมนุษย์แท้ๆ ภาวนาไม่ถึงไหนอย่าเที่ยวไปอิจฉาให้ร้ายคนอื่นสิ จะยิ่งทำตนให้ห่างไกลกับพระสัจธรรมเปล่าๆ พระท่านเมตตาโปรดโยมที่หมดทางรักษาจากโรงบาล ไปกล่าวปรามาสพระท่านจะเป็นการเปิดอบายให้ตนไหม?

    มหาสมุทธกับฝั่งนทีห่างไกลกันมากแล้ว แต่ธรรมของสัตบุรุษกับผู้ทุศีลนั้นห่างไกลยิ่งกว่า.....
    ทุกข์จะไม่เกิดกับคนพาลปัญญาทรามมีปกติทุศีลเที่ยวอิจฉาได้หรือ เก่งในการหาอบายให้ตน ?

    ดั่งพุทธองค์ตรัสเทศนาในคิริมานนทสูตร พระคิริมานนทท่านเกิดอาพาสทุกข์เวทนาแสนสาหัส พุทธองค์ทรงให้พระอานนท์ไปแสดงสัญญา10 จนท่านพระคิริมานนทหายจากทุกข์เวทนาและบรรลุอรหัตผล เวรไม่กินหัวแต๋วไม่เลิกนะอินทรบุตร เหอะๆ ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2013
  20. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    หน้าที่ของพระ คือรักษาร่างกายสังขารของมนุษย์

    หรือ พามนุษย์ให้พ้นจากความหลง?

    ตัว Tamjugg เองหนะ หลงไปเท่าไหร่แล้ว

    ปฏิบัติธรรมเพื่ออะไร? อยากได้ลาภ ยศ สรรเสริญ อยากได้อภิญญา ก็เลยปฏิบัติธรรม เห็นธรรมะของพระพุทธองค์มีแค่นี้จริงๆ หรือ?
     

แชร์หน้านี้

Loading...