เจอดีที่อินเดีย ไม่รู้ว่ามาแสดงตัวเพราะเราก้าวร้าว หรือ นอยไปเอง

ตัวแสดงในหนังเรื่อง ทัช มาฮาล





เล่าต่อจากหน้าที่แล้วเรื่อง ตำนาน พระนางมุมตัช มาฮาล และ ทัช มาฮาล
ภาพจากในหนัง ทัช มาฮาล นิทานแห่งความรัก แสดง โดย ซอนย่า เจฮาน ลูกครึ่ง ปากีสถาน-ฝรั่งเศษ
หนังเรื่องนี้ ฉาก ชุด และเพลง อลังการมาก และใช้ อาจารย์ ศิลปะชั้นครูอายุเกือบร้อยปี ชาว อินเดีย และ ปากีสถานออก
แบบ ฉาก ชุด เพลง สคริป เนื้อเรื่อง ดาราทุกคนในหนังเรื่องนี้คัดเฉพาะชาว ปากีสถาน ที่หน้าตาอินเตอร์ จริงๆ
เพราะต้องรับบทเป็น ชนชั้นสูงในสมัยราชวงค์โมกุล ซึ่งมาจาก อุซเบกีสถาน ซึ่งสืบทอดเชื้อสายมาจาก
แขกเปอร์เซีย ที่ผสมเข้ากับ ผู้รุกรานจากมองโกลของ เจงกีส ข่าน ที่มี อาณาจักรอยู่ที่
Jaghatai kanate จากาไต กาเน็ต ซึ่งอยู่ข้างใต้ทะเลสาป บาลคาช ซึ่งเป็นดินแดนที่อยู่กึงกลางระหว่าง
รัสเซียขาว (ชาวคอร์เคเซี่ยน) กับ มองโกลเลีย (ชาวมองโกลเอเชีย) พอดี........
โดยที่ พวก คอร์เคเซี่ยนหรือฝรั่งจะอยู่ไปฝั่งซีกตะวันตกของเทือกเขาคอเคซัส
พวกฝรั่งที่ผสมแต่งงานกับ มองโกล จะกลายเป็น ชาวสลาวิก
ในขณะที่ พวกมองโกลที่ผสมแต่งงานเข้ากับ แขกเปอร์เซีย
จะได้ ชาว เติร์ก ออกมา....... ชาวเติร์ก ที่ผสมกับชาวสลาวิกก็จะเป็น ชาว ตาต้าร์

(แขกเปอร์เซีย เป็น คอร์เคเซี่ยนสายใต้ ป.ล
แขกทางตะวันออกกลางทั้งหมด, พวกที่เป็น คอร์เคเซี่ยนแท้
จะเรียกอารยัน และ พวกที่เป็นคอร์เคเซี่ยน แบบมีเชื้อคนผิวดำ
sahara ผสม อยู่จางๆ, แต่คนดำประเภทนี้ จะไม่ดำแบบนิโกรในอัฟริกา คือคนดำพวกนี้จะ
กลายจากคนดำมาแล้วระดับหนึ่ง คือ ตัวดำจริง
แต่ มี รูปกระโหลก โด่งยาว ตาลึกแบบคนคอร์เคเซี่ยน เช่นเดียวกะ
คนไทย ก็มีเชื้อคนดำ แต่สายเงาะสุมาตราทางใต้เรียก
มาลาโย นิกิโต้ malayo nigito อยู่กลายๆ
ขึ้นอยู่กะว่าใครมากใครน้อย, แต่คนในโซนร้อนทั้งหมด
จะมีเชื้อคนดำผสมจางๆอยู่ ) โดยมากแขกตะวันออกกลางที่เห็นส่วนใหญ่จะ
มีเชื้อคนดำ ซาฮาร่า ผสมอยู่จางๆ ที่ทำให้มี จมูกโต ตาโตกว่าฝรั่ง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังจัดเป็นชาวคอร์เคเซี่ยนเพราะคนดำดังกล่าวก็มี รูปลักษณ์
ก่ำกึ่งกะ คอร์เคเซี่ยน เพียงแค่ตัวดำเฉยๆ จะต่างจาก นิโกรแท้ๆ ที่อยู่ใน
อัฟริกากลาง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แขกก็จะมี ส่วนที่ได้จากนิโกรไปด้วยเช่น
ปากหนา, จมูกโด่งจริงแต่ใหญ่, และ ตาโตกลม..... แต่นิโกร แท้ๆ จะมีส่วน
ของคน เอเชียผสมด้วย คือ ใบหน้าแบน หน้าผาก กับดั้งไม่สูง แต่ทั้งนี้
ทั้งนั้น แขก ที่เป็นคอร์เคเซี่ยนแท้ๆก็มี และแขก ที่ ผสมมองโกล
สมัยเจงกีส ข่าน ก็มี เช่นกัน .....พวกนี้สังเกตได้คือ จะมีกรามกับโหนกแก้มแบบคนเอเชีย
แต่หน้าคมแบบแขก ตัวอย่างเช่น ชาว อุซเบก, เอเชียกลาง
และ อินเดียที่ขาวๆสายเติร์ก


พวกแขกเปอร์เซียผสมกับมองโกลออกมา จะได้ชาวเติร์ก
ชาวเติร์ก ซึ่งแพร่กระจายเข้าไปยัง เอเชียกลาง ในสมัย
ที่อาณาจักรเปอร์เซียเรืองอำนาจ และแพร่อาณาจักรยึดเอเชียกลาง
และอินเดีย ในเอเชียกลาง ได้แก่ อุซเบก, ทาจิกีสถาน, ไคร์จิกีสถาน,
คาซัคสถาน และ อินเดีย


เติร์กดังกล่าวนี้ได้กลายเป็นต้นตระกูลของราชวงค์โมกุล ซึ่งผสมเข้ากับคนท้องถิ่นของอินเดียเข้าไป


โดยจักรพรรดินี มุมตัช มาฮาล นั้น เดิมที มีชื่อว่า อาร์จูมัน เป็นหญิงสาวลูก
คหบดี ซึ่งงดงาม ที่สุดในอินเดีย เกิดในเมือง อังคะรา
ของอินเดีย พระนาง มุมตัช มีชื่อ เดิม ว่า ท่านหญิง อาร์จูมัน บานู บีกัม
นับถืออิสลาม มีบิดา เป็นขุนนาง เป็น คนเชื้อสาย เปอร์เซีย แท้
ไม่มี อินเดียหรือ เติร์ก ผสม จึงหน้าฝรั่งมากๆ......เจ้าชาย คูรัม
( เป็นอินเดียเชื้อสายเติร์ก)ทรงไปพบนางในระหว่างที่ปลอมตัวเป็น
ชาวบ้านไปเดินในตลาด


หลังจากทรงอภิเสกไป กับเจ้าชาย คูรัม ซึ่งกลายเป็น ซาร์ ในเวลาต่อมา บรรดานาง
ในฮาเล็มก็ อิจฉาในความงามของพระนางมาก และบางนางก็หาเรื่องกลั่นแกล้ง แม้แต่
มเหสีเอกก็ตกอันดับ..... เดี๋ยวมาเล่าต่อ
































































นางเอกสวยมาก นาตาลี เกลโบว่า ชิดซ้ายเลย























ใครอยากชมความงาม นางเอก ผู้แสดงเป็น จักรพรรดินีมุมตัช มาฮาล เข้าไปดู ตัวอย่างหนังได้ในลิงค์นี้

Taj Mahal - An Eternal Love Story



เพลงประกอบ ลึกลับ โบราณ แบบแขกแต่มี ฮิ้นท์ ความทันสมัยแบบตะวันตกอยู่ด้วย


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=rsuA_-O9s1k"]Ajnabi Thehro Zara - Taj Mahal: An Eternal Love Story (2005) Full Song - YouTube[/ame]


....

 

เล่าต่อ พระนางมุมตัส

เล่าต่อ พระนางมุมตัส ได้รับหน้าที่ให้ไปเป็นนักเล่นดลตรีแสดงความสุนทรีย์ถวาย
พระเจ้า ซาร์ จาฮาน ในวัง ทรง มีนางสนมในฮาเล็มมากมายแต่ กลับชอบ
มุมตัสมากที่สุด เพราะ และมี อัครมเหสีฝ่ายซ้ายฝ่ายขวาสองนาง
พระนามว่า อักภาบดี มาฮาล กับ กาญดาหารี มาฮาล
คำว่า มาฮาล เป็นภาษาที่ได้รับอิทธิพลจากภาษา อิหร่านหรือ
เปอร์เซีย แปลว่า แห่ง วิหาร หรือ แห่งปราสาท มหาวิหาร คำนี้
มีรากเดียวกับคำว่า วิหารในภาษาสันสกฤต เป็นตำแหน่งแก่
บรรดา เมียๆของ ซาร์ หรือ กษัตริย์ อิสลามที่ใช้ภาษาเปอร์เซีย
ซึ่งจะต่างจาก สาย อิสลาม อาหรับ ที่ กษัตริย์ และราชินี คือ
สุรต่าน และสุรตานี ซึ่ง แปลว่า ชายผู้มี (สุระ) พละกำลังอำนาจ
และหญิงที่มี พละอำนาจ



ในขณะที่ กษัตริย์ และ ราชินี อินเดีย ที่นับถือ ฮินดูพุทธ พรามณ์
จะเรียกว่า มหาราชา และมหารานี ซึ่งก็มีรากศัพท์ใกล้กับ
ภาษาทางยุโรปใต้ หรือ ลาติน ที่ เรจิน่า แปลว่า ราชินี นั้นเอง


แน่นอนว่า ทั้ง พระนางอัคภาบดี และ กาญดาหารีต่าง ไม่มีคุณ
สมบัติและสเน่ห์ ตลอดจนความงามเท่าเทียม อาร์จูมัน
ในขณะที่ อาร์จูมัน เป็นสาวเชื้อสายเปอร์เซีย แท้ ผิวขาว
แก้มชมพู เป็นสิ่งที่นิยมว่างามในเวลา
นั้น หลังจากการเข้าวังไปไม่นาน อารจูมันก็ได้กลายเป็น
คนโปรดของกษัตริย์ ทรงพระราชทานนามใหม่ให้นางว่า
มุมตัส มาฮาล แปลว่า อัญมนีแห่งวิหาร


บรรดานางในบางคนและ อัครมเหสีซ้ายขวา พระนาง อัคภาบดี
และ กาญดาหารี ต่าง รษยา และกลั่นแกล้งนาง แต่ก็ไม่สามารถ
ทำให้นางหลุดจากตำแหน่งได้ หนำซ้ำนางยังให้กำเนิด
โอรสธิดาแก่กษัคริย์ ชาร์เช ถึง 14 พระองค์ ด้วยวัย เพียง
22 ปี และ ธิดาองค์สุดท้าย คือ องค์ที่ 14 พระนางก็สิ้นใจ
ตาย คา เตียงออกลูก

กษัตริย์เสียพระทัยมาก จนถึงกับ ให้สร้าง ทัช มาฮาล ซึ่ง
ย่อมาจาก ชื่อของนาง มุมตัส มาฮาล โดยให้เป็นอนุสรณ์
แห่งความรักบรรจุพระศพนาง ทำจากหินอ่อนและอัญมณี
ใช้วิศวกรต่างชาติ ให้ทำให้ยิ่งใหญ่ที่สุด ให้เป็นสิ่งมหัศจรร์
ของโลก ว่ารักของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่ไม่มีวันตาย อ่านเรื่อง
นี้แล้ว ก็นึกถึงกลอนของ เช็คสเปียร์ ที่ว่า all come to dust
ทุกสิ่งในที่สุดก็กลายเป็นเพียงผงธุลี หญิงงามที่สุดในชมพูทวีป
สิ่งมหัศจรรย์ที่ทำยิ่งใหญ่ที่สุด ในที่สุดก็ต้องตายจากกันอยู่ดี
เพื่อสนอง ตัญหา เวลามีชีวิตอยู่ เวลาตายมันก็ไม่มี
อะไรสักอย่าง


ฝากรูปสาวอินเดียใต้ในชุดส่าหรีแบบอินเดียใต้สวยๆ

 

Fashion ปากีร์ กับอินเดีย

อันนี้จะนางแบบปากีร์









































































....................................................


อันนี้อินเดีย

 

สุดยอดหนังอินเดียที่สยองขวัญ เรื่อง Ghost 2012

ถ้าสยองขวัญสุดๆก็เรื่องนี้











เป็นสุดยอดภาพยนตร์สยองขวัญสุดโหดของอินเดียที่ถึงกับ
ทำให้โดนแบนน์ โดยมีเดียของอินเดีย และต้องมีการตัดภาพ
โหดในภาพยนตร์ออก เป็นเรื่องราวของโรงพยาบาลที่ทัน
สมัยที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดียที่ จู่ๆก็มีการตายของ แพทย์
และพยาบาลเกิดขึ้นในโรงพยาบาลอย่างน่าสงสัย
ในขณะเดียวกันนั้น วิชัย พระเอกของเรื่อง เป็นนักสืบที่ทาง
หน่วยงานราชการได้ส่งให้มาสืบหาสาเหตุการตายของ
บรรดา แพทย์และพยาบาลในโรงบาลแห่งนี้ที่ตายกัน
อย่างสะหยดสยอง...... วิชัยเคยพักงานไปเป็นเวลานานและ
เคยประสบอุบัติเหตุกระทบกระเทือนทางสมองจน
เขามีความจำสับสน และ ประสาทหลอนเล็กน้อย

ในระหว่างการเข้ามาสืบคดีของวิชัยในโรงบาลแห่งนี้ นี้เอง
นักสืบหนุ่มได้มีโอกาสรู้จักกับ แพทย์หญิง ท่าทางเรียบร้อย
เคร่งครึ่มนางนึงในโรงบาล ซึ่งมีชื่อว่า คุณหมอ สุหะณี
จากการสอบปากคำ เธอเป็นคนนึงที่เชื่อว่าการตายอย่าง
สะยดสยองของบุคคลากรในโรงบาลนั้นมาจากสิ่งลี้ลับที่
มองไม่เห็น ซึ่งมีศีรษะ เป็นผู้หญิง หน้าตาแตกเละน่ากลัวแต่มีลำตัวเหมือน
แมลงสาป เพราะหมอสาวยืนยันว่าเธอเคยเห็นเจ้าสิ่งนั้นแว็บๆ
ในโรงบาล.....แต่วิชัยไม่เชื่อและคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ
แต่แล้วหลังจากเหตุการณ์ น่ากลัวที่ เขาได้มีโอกาสได้มา
เผชิญหน้า ในโรงพยาบาล ประกอบกับการตายของบุคคล
ต่างๆที่ตายไป ก็เริ่มทำให้วิชัย รื้อฟื้นความจำขึ้นมาได้ ตะงิดๆ



และแล้ว ในที่สุดเมื่อได้เผชิญหน้าจังๆกับปีศาจ ที่มีหัวเป็น
สตรีหลายครั้งก็ทำให้วิชัยนึกจดจำเหตุการณ์ ในอดีตขึ้นมาได้
เพราะว่าเขาเคยเจอ ผู้หญิงที่มีหน้าตาคล้ายปีศาจนั้นมาก่อน
เมื่อหลายปีมานี้เอง ก่อนที่เขาจะความจำเสื่ม วิชัยเคยมีแฟน
อยู่คนหนึ่งเป็นชาวต่างชาติ ชื่อแมรี่ เป็น
พนักงงานฝึกงานในโรงบาลแลกเปลี่ยนที่มาจากประเทศรัสเซีย

วิชัยหลงรักและตัดสินใจจะแต่งงานกับแมรี่ วิชัยได้ไปบอกพ่อ
ของเขาว่า จะแต่งงานกับแมรี่ ซึ่งพ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร ทั้งที่ในใจโกรธมาก
ด้วยเพราะ เป็นคนเชื้อสายพรามณที่เคร่งศาสนา และการ
แต่งงานกับคนต่างศาสนานั้นถือว่า เป็นเรื่องร้ายแรงอย่างยิ่ง
แต่ทั้งสองได้ไปทำพิธีแต่งงานกับเงียบๆ ที่โบสถ์ แห่งหนึ่งใกล้ชายป่า


ในระหว่างที่ทั้งแมรี่และวิชัยเดินออกจากโบสถ์ จู่ๆก็มีโจร
ผู้ร้ายเข้าตีหัววิชัยจนเขาสลบไป ในขณะที่ลักพาตัวแมรี่ไป
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นวิชัยจำแมรี่และทุกอย่างที่เกิด
ขึ้นไม่ได้อีกเลย ในขณะที่แมรี่นั้นโดนคนร้ายจับไปซ้อม
จนบาทเจ็บปางตาย ก่อนที่จะทำทารุณกรรมโดยการจับ
เธอตรึกางเขนและเอาตะปูตอก มือและเท้าแบบพระเยซู
และนำไปปักเย้ยหยั่นไว้ที่บริเวณป่าหลงโบสถ์
พอดีมีคนมาพบเข้าจึงช่วยนำ แมรี่ส่งโรงพยบาลห่งหนึ่ง
ในขณะที่ คนที่มาพบวิชัยก็นำเขาส่งอีกโรงบาลนึง ทั้งคู่จึงไม่เจอกัน


ณ ที่ โรงพยาบาลที่แมรี่โดนส่งตัวไปนั้นเอง แพท์ได้พบว่า
ร่างกายของเธอบอบช้ำเกินกว่าจะเยียวยา และใช้งาน
ไม่ได้แล้วนอกจากหัวใจเพียงดวงเดียวที่ยังเต้นอยู่
ในช่วงนั้นสถานฑูต ออสเตรเลียกำลังมีเรื่องฟ้องร้อง
ประเทศอินเดียเรื่องนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ สูญหาย
หรือมาโดนปล้นตาย บ่อยครั้ง และต้องการเอาเรื่องทาง
รัฐบาล ดังนั้นถ้าข่าวเรื่อง แมรี่ โดนคนอินเดียทารุณ
กรรมอย่างโหดเหี้ยมแพร่ออกไป ถ้าเธอรอด ก็จะต้อง
เป็นข่าวใหญ่ ทีมหมอจึง ได้ตัดสินใจไม่รักษาเธอ
และส่งเด็กลูกมือในโรงพยาลส่งร่างแมรี่ไปยังโรงฆ่าสัตว์
หั่นเธอเป็นชิ้นๆแบบเนื้อสัตว์เพื่อปกปิดหลักฐานและ
ใส่ถุงไปทิ้งในทะเล หัวใจที่แข็กร่งของแมรี่นั้นยังไม่ตาย
และด้วยแรงแห่งความอาฆาตเธอกลายเป็นผีประกอบขึ้น
มาจากชิ้นส่วนต่างๆที่โดนตัดเป็นท่อนๆกลายเป็นปีศาจ
น่ากลัว และกลับมาฆ่าทุกๆคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการ
สังหารเธอ ไม่เช่นนั้นผีแมรี่ก็จะไม่ไปไหน



ในสุดท้ายวิชัยมาพบความจริงว่า พ่อของเขานั้นเป็น
ผู้อยู่เบื้องหลังการจ้างวานคนไปสังหารแมรี่ และแมรี่ก็
ได้ตามมาจัดการ อริของเธอไปจนคนสุดท้าย ก่อนที่จะ
ไปสู่ภพภูมิที่เหมาะที่ควรของวิญญาณ

























Teaser น่ากลัวมาก


[ame=http://www.youtube.com/watch?v=CvQt6Y6K8Xs]Ghost Trailer 2012 Horro Movie.. - YouTube[/ame]

 

น่าดูจังหนังอินเดียแต่ละเรื่อง ถ้าอยากดูนี่ต้องไปหาได้ทีไหนค่ะ คุณดัชเชส ;20

 

คุณรียา หายไปตั้งหลายวันแล้ว น่าเป็นห่วงจัง เป็นไรหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้ายังสบายดีอยู่ โปรดรายงานตัวด้วยน่ะจ้า ;20​

 

ปกติแถวบ้านดิฉันอยู่ที่ต่างประเทศ มีแขกเยอะมากคะ อย่างบ้านดิฉันนี้ชั้นบนขึ้นไปสามชั้นก็แขกหมด ชั้นกลาง แขกอินเดียสุรินัมเม่ ชั้นบนสุดแขกตุรกี บ้านที่ติดกันข้างขวาแขกโมร็อกโค ด้านซ้ายแขกอิรัก ตรงกันข้ามแขกซีเรีย มันเลยมีหนังแขกขายในร้ายเยอะมากคะ แต่ถ้าที่เมืองไทย จะมี แถว พาหุรัต นานา สุขุมวิทเท่าไรจำไม่ได้ แต่ เข้าซอยหน้า ห้างเอมโพเลี่ยมก็มีอยู่ร้านนึงคะ และก็ อโศก คือ แถวที่แขกอยู่ จะมีหนังอินเดียขายเยอะคะ อย่าง พาหุรัต ลองไปเดินดูจะมีร้านขายหนังอินเดียใหม่ หลายร้าน ที่ ดิโอล สยามก็มีคะ
ถ้ามีเงิน เอฟฟ็อตหน่อยเอาแบบ ชัวร์ๆ มีทุกเรื่องก็ ออร์เดอร์ จากเวปไซต์ก็ได้คะ

วันนี้เพิ่งดูหนังอินเดียเรื่องแม่มดทะเลทรายมาสนุก มันสุดๆคะ แล้วจะมารีวิวต่อ ความจริง หนังอินเดียแนว โรแมนติก พีเรียตเซตฉากสวยๆนี้ก็มีหลายเรื่องคะ

 

ขอบคุณมากน่ะค่ะ คุณดัชเชส เราอยู่ไกลสงสัยจะอดดู เด๋วจะลองดูทางเวไซด์ว่าอันไหนสั่งได้บ้างค่ะ อยากดู มุมตัส ทัชมาฮาล จังค่ะ อ่านเรื่องย่อของคุณแล้วน่าสนุก มีหนังอะไรสนุกๆ ก็มารีวิวอีกน่ะค่ะ ขอบคุณมากๆ อีกคร้งค่ะ ที่รีวิวมาสนุกทุกเรื่องเลยค่ะ ;20

 

แนะนำหนังอินเดียต่อ

เรื่องแม่มดทะเลทราย








Synopsis เรื่องแม่มดทะเลทราย



เพิ่งจะดูมาสดๆร้อนๆวันนี้เอง เรื่อง แม่มดทะเลทรายคะเป็นเรื่อง คาโล แม่มดทะเลทราย
เป็นภาพยนตร์อินเดียแนวลึกลับ แต่จากที่ดูแล้วออกทำนองพจญภัย
ผสมแอ็คชั่น ให้ความรู้สึก ตื่นเต้น เร้าใจ มากกว่าจะสยองขวัญ
หรือออกแนวหลอน การ เซต ฉาก มุมกล้องก็ทำได้ดีมาก
ดูเวิ้งว้างวังเวง สวยงามปนหลอนๆเล็กน้อยแ ต่ไม่ถึงกับสยอง
ขวัญ จนดูแล้วนอนไม่หลับ





เป็นเรื่องราวของ รถขนส่งประจำทาง ข้ามเมืองที่มีจุดมุ่งหมายปลาย
ทางจะพาผู้โดยสารทั้ง 11 ชีวิตจากภาคอินเดียทางเหนือไปยัง
อินเดียทางตะวันตกเฉียงใต้ โดยเส้นทางนั้นเป็นระยะทางไกล
ที่ต้องขับรถข้ามวันข้ามคืน เพื่อจะไปยังเมือง กุลเทวี ซึ่งระยะ
ทางนั้นต้องผ่านทะเลทรายในแคว้นราชาสถานทางตะวันตกของ
อินเดีย ในภาพยนตร์เรื่งนี้รู้สึกจะมีวิวของซากเมืองโบราณ
ฮารัปปาของอินเดีย ที่อยู่กลางทะเลทรายทางตะวันตกของอินเดียด้วย






หนึ่งในบรรดาผู้โดยสารทั้งหมด ก็มีเด็กผู้หญิงเล็กๆวัย 12ขวบ
เดินทางลำพังไปกับรถทัวร์ ด้วย เพื่อจะไปค้างที่บ้านของคุณยาย
ในช่วงปิดเทอม หนูน้อยคนนี้มีชื่อว่า โชนา แสดงโดย
เด็กหญิง ฉวีนี การ่า เป็นเด็กผู้หญิงที่ มีหน้า โฟโตเจนิค
หรือขึ้นกล้องมาก หน้าตาของเธอมีจุดเด่นที่ทำให้แตกต่าง
และน่าสนใจ มากคะ เป็นเด็กที่มีตาโตกลมใหญ่มากราวกับ
ไข่ห่าน ดูบ๋องแบ๋วเหมือนภาพวาด รับกันดีกับทรงผมบ็อบสั้น
ปลายงุ้มๆขมวดๆกลมๆประมาณเคลียต้นคอ และมีบุคลลิก
ที่น่าสนใจมาก คือ เป็นเด็กผู้หญิงที่ออกแนว เท่ห์ เก๊ ๆ
ฉลาด และซื่อ ไม่ใช่แนว หวานน่ารัก ใสๆธรรมดาแบบเด็กผู้หญิงทั่วไป





เธอเป็นเด็กเพียงคนเดียวบนรถทัวร์ จึงได้รับความสนใจจาก
ผู้ใหญ่ทุกคนในรถเป็นพิเศษ โชน่าได้เก้าอี้นั่งข้าง ซาเมียร์
พระเอกของเรื่อง ซึ่งรับบทโดย อาดิษยา ศรีวาสตาวะ
นอกจากนี้ในรถทัวรก็ประกอบไปด้วยคู่รักหนุ่มสาว สองคู่
และก็ก๊วนสามหนุ่มเกเร ซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังๆ และก็มี
คู่สามีภรรยาวัยผู้ใหญ่ค่อนไปทางมีอายุ และ ก็คนขับ
กับพนักงานรถทัวร์อีกหนึ่งคน









ตลอดเส้นทางการเดินทางทุกอย่างก็ดูเหมือนจะครื่นเครงดี
ทุกคนต่างตื่นเต้นที่จะได้ไป เที่ยว ไปเยี่ยมญาติ หรือไปทำธุระของตน
แต่แล้วเรื่องราวก็กลับกลายเป็นน่าสะพรึงกลัว เมื่อ รถทัวร์
ต้องขับผ่านทะเลทรายอันเวิ้งว้างในเขตเมือง คุลภาทา
ซึ่ง มีตำนานเรื่องลือกันว่าเมื่อหลายร้อยปีก่อน บริเวณนี้
มีหมู่บ้านกลางทะเลทรายซึ่งก็เคยเป็นหมู่บ้านธรรมดาๆ
ทั่วไปเช่นที่ต่างๆ จนกระทั้ง มี แม่มดนางนึงย้ายเข้ามาอยู่
นางมีนาม่า คาโล และได้พยามจะจับเด็กผู้หญิง หรือ
สาวพรหมจรรย์ มาบูชายัญเพื่อจะทำให้นางเป็นสาวอมตะ









พวกชาวบ้านรู้เท่าทันจึงได้นำ แม่มด คาโลมาเผาไฟ แต่ครั้น
พอนางสิ้นใจไป กลับกลายเป็นปิศาจร้ายที่ยิ่งอันตรายมาก
กว่าเก่า และนางคอยหลบอยู่ใต้พื้นดินในทะเลทราย วันดีคืน
ดีในทุกร้อยปี ก็จะโผล่ขึ้นมาหาฆ่าเด็กหญิงหรือสาวพรหมจรรย์
ไปฆ่า เพื่อให้นางคืนร่างงาม อีกครั้ง ทำให้พวกชาวบ้าน
ต้องทิ้งหมู่บ้านและย้ายไปที่อื่น และปล่อยเมืองนี้ร้างไว้
ครั้นกาลต่อมา ไม่ว่า พวก นอหมัด จะพาสัตว์ อูด แกะ
มาหากินในทะเลทรายย้านนี้ ตลอดจน พวกช่างทำทาง
หลวงต่างโดนแม่มดทะเลทรายฆ่าตายทั้งสิ้น










ใครที่จะผ่านไปยัแถบนี้จะต้องมีเครื่องราง ติดตัว แต่แล้วเจ้ากรรม เมื่อ แม่มดทะเลทรายร่วงรู้ว่ามี
เด็กผู้หญิงซึ่งเป็นหญิงพรหมจรรย์เพียงคนเดียวอยู่หนึ่งคนที่ร่วมมา
กับรถทัวร์นั้น นางจึงจ้องจัดการตาม เขย่าขวัญบรรดาขบวนรถทัวร์
คันนี้ตลอด จนเกิดเรื่องราวสยองขวัญขึ้น ครั้นเมื่อโดนปีศาจกึ่งสัตว์
ประหลาดตามรังควานฆ่าคนในรถทัวร์ไปแล้วคนนึงทุกคนก็ต่างกลัว
มากและเริ่มพยามเอาตัวรอด ถึงกับอยากจะให้ขับไล่หนูน้อยออกไป
จากรถเพราะเธอเป็นสิ่งเดียวที่แม่มดคาโลต้องการ แต่ พระเอก
เป็นคนเดียวที่มีคุณธรรมมากที่สุดและพยามปกป้องเด็ก
ตอนจบก็ คือ เหลือพระเอกกะเด็กรอดสองคนกลางทะเลทราย









































...

 

เดี๋ยวจะมา review แนวคลาสสิกๆ บ้างคะ ฉากสวย แนวลึกลับ หวานๆอมวังเวงนิดๆนี้มีเยอะหลายเรื่องมากเลยคะ คุณแอนนี้ชอบแนวไหนคะ แบบย้อนยุค สมัยอินเดีย โบราณ หรือ ย้อนยุคแบบ ประมาณได้รับอารยะธรรมฝรั่ง แต่งตัวแบบปนยุโรปๆนิดๆ

 

ชอบแนวย้อนยุคทุกแบบ และแบบน่ากลัวๆค่ะ. ขอบคุณล่วงหน้าเลยคร๊าาาาา ;20

 

เดี๋ยวมารีวิวต่อพรุ่งนี้คะ วันนี้ไปนอนก่อนคะ แต่พอนึกออก ดิฉันว่าคุณแอนนี้น่าจะชอบเรื่อง บุล บูไลย์ยา คะ เป็นหนังอินเดียเรื่องแรกที่ทำให้ดิฉันติดต้องดูหนังอินเดียเรื่อยมาคะ เป็นแนวผี ระลึกชาติ เนื้อเรื่องหนังอินเดียนี้ดิฉันชอบมาก มันซับซ้อน มีเรื่อง ฤทธิ์ ฤาษีนักพรต แม่มด เวียนว่ายตายเกิดมาผสม ทั้งที่เป็นหนังแนวใหม่ แต่พล็อตหนังอินเดียจะคลาสสิกมาก อย่างเรื่อง
บุล บูไลยา นี้ ฉากสวยมาก ครึ้มๆเย็นๆ ลึกลับแต่ไม่สยอง ถ่ายที่เมืองพารานาสีสวยมากๆ คะ ใหญ่โตอลังการ ใครดูหนังอินเดียเรื่องนี้แล้วจะหลงรักหนังอินเดียทุกคนคะ

 

เป๊ะเลยคะ หนังแนวนี้ชอบมาก ตอนเด็กๆ เคยได้ดูหนังแขกที่มาฉายในเมืองไทย จำชื่อนางเอกได้คนเดียว่า "เฮม่า มาลินี" จากนั้นก็ไม่ได้ดูอีกเลย โดยสวนตัวชอบแนวแขกๆ มากค่ะ ชอบตรงที่พวกเขาหน้าตาคมๆ ดูแล้วบาดใจ ชอบกลิ่นกำยาน ชอบอาหารแขก ชอบเสื้อผ้าแขกสวยวิจิตรตระการตา เคยคิดว่าวันหนึ่งจะไปสอยสาหรีสีชมพู กะเขียว อย่างดีมาไว้ในครอบครองให้ได้ค่ะ

ระหว่างนี้คุณรียาไม่ยอมกลับเข้ากระทู้ เหล่าแฟนคลับเช่น พวเราจะลั่นหล้าไปก่อน จนกว่าคุณรียาจะกลับมากันนะค่ะ ;20

 

คุณแอนนี้ลองเข้าไปดูลิงค์นี้คะดิฉันว่าจะซื้อ ซัลวาร์ คามิซ ของเวป นี้เขาใช้ดีไซน์เนอร์อินเดียนำผ้างานฝีมืออินเดียมาออกแบบผสมแนวทันสมัยแต่ยังคงมีลูกเล่นแบบอินเดียอยู่ สวยมากคะ ดิฉันจะซื้อตัวที่คุณทัศมาลีเลือกให้คะ ตอนวันเกิด อีกสองอาทิตย์



http://palungjit.org/threads/ช่วยเลือกหน่อยคะว่าชุดแขกพรามณีตัวไหนสวย.511170/

 

ขอบคุณมากค่ะ เด๋วสวดมนต์เสร็จแล้วจะมาอ่านดูค่ะ ;20

 

ภาพยนตร์แนวผี เรื่อง บูล บุไลย์ยา




บูล บุไลย์ยา เป็นภาษาอินเดียแปลว่า ความยุ่งยากวุ่นวาย ปัญหา

บูล ลุไลย์ยา ปัจจุบัน ภาพยนตร์นำชื่อนี้มาจาก
เขาวงกลดของ ของมหาปราสาท ในเมือง ลัคนาว
ซึ่ง นาวาป แห่งรัฐสร้างสถานที่แห่งนี้ขึ้นมาเพื่อเก็บสะสม
สมบัติของพระองค์ ว่ากันว่า มีผนังภายในปราสาทมากกว่า
สามพันผนัง ใครก็ตามที่คิดจะเข้าไปขโมย จะเหมือนติด
อยู่ในเขาวงกลดและตายจากการหาทางออกไม่เจอ
ผู้ที่จะเข้าไปเอาสมบัติได้จะมีเพียงนาวาปและวิศวกร
ผู้เขียนแผนที่การเดินเข้าไปภายในปราสาทแห่งนี้ให้
ฮึ้ม ฟังแล้วสยองเล็กน้อย นี้เป็นที่มาของคำว่า บูล บุไลย์ยา
คือ ปัญหา ความยุ่งยากที่จะต้องแก้นั้นเอง

แต่ทั้งนี้ทั้นั้นในภาพยนตร์ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสถาน
ที่ที่ชื่อ บุล บูไลย์ยา ดังกล่าว แต่เกี่ยวกับ ผีและเรื่องราว
ระลึกชาติ จุดไต้ตำต่อ เดี๋ยวจะกลับมาเล่าเรื่องภาพยนตร์และ
ทริลเลอร์หนัง อีกที




























...

 

ภาพยนตร์แนวผี เรื่อง บูล บุไลย์ยา








เรื่องนี้ ฉากสวยมากๆ และเพลงก็แนวทันสมัยมีภาษาอังกฤษ แนวป็อบ
ผสมอินเดีย และการเปิดฉาก ดลตรีซาวแทรกค์ก็สไตน์หนังแฟนตาซีผีของฝรั่ง


เรื่องราวเริ่มต้นฉากในยุคปัจจุบัน ที่เมืองพารานาสีหรือบานาราส พระเอก
ในเรื่องชื่อ สิทธัตธา พระเอกของเรื่อง เป็นหนุ่มอินเดีย
ลูกชายคนเดียวของตระกูลพราหมณ์ชั้นสูงของอินเดียซึ่งถูก
พ่อแม่ส่งไปอยู่อเมลิกาตั้งแต่เด็กได้กลับมาเยี่ยมบ้านที่อินเดีย
พร้อมทั้งเซอร์ไพรส์ทุกคนในครอบครัว ด้วยการนำ ภรรยา
ของเขา เป็นสาวอินเดียที่เรียนด้วยกันกลับมาด้วย เธอมี
ชื่อว่า อาวะนี บ้านของ สิทธัตทา เป็น ปราสาทโบราณ
หลังใหญ่มีห้องปีกซ้ายปีขวา และสถานที่ต้องห้ามซึ่ง
ครอบครัวไม่อนุญาตให้ใครล่วงล่้าเข้าไปด้วยเหตุลึกลับ
บางประการ ที่ปราสาทตระกูลพราหมณ์แห่งนี้ประกอบ
ไปด้วยสมาชิกในครอบครัวมากมายหลายคน หนึ่งในนั้น
คือ ลัดดา ลูกสาวของพราหมณ์ผู้ดูแลประตูห้องลึกลับ
ในปราสาท ซึ่ง แต่เดิมนั้น ครอบครัวของสิทธัตทา
ตั้งใจจะให้สิตธัตธา แต่งงานกับ ลัดดา ซึ่งลัดดาเป็น
ผู้หญิงสวยเรียบร้อย หัวโบราณ ซึ่งไม่ค่อยแสดง
ความรู้สึก....... แต่เธอแอบรอคอยสิทธัตทา กลับมา
แต่งงานด้วยเสมอมา จนกระทั้งชายหนุ่มกลับมาพร้อมกับเมีย
ที่เขาแต่งงานด้วยแล้วจากอเมลิกาก็ทำให้ ลัดดาเสีย
ใจมาก ไม่มีผู้ใดในบ้านร่วงรู้ว่าเธอเสียใจมากแค่
ไหนนอกเสียจาก สิทธัตทา ที่รู้เรื่องนี้





ลัดดาเป็นผู้หญิงสวยแต่ไม่ใช่รสนิยมของสิทธัตทา
เพราะเขาเห็นเธอมาตั้งแต่เด็กและรู้สึกกับลัดดาเหมือนญาติ
อีกอย่าง สิทธัตทา ชอบผู้หญิง เก่ง มีการศึกษา แบบ
อาวะนีมากกว่า อาวะนีเป็นสาวที่จบจากเมืองนอก
เป็นคนทันสมัย ไม่เชื่อเรื่องลึกลับ ในระหว่างนั้น
เธอได้ทราบข่าวที่ ตระกูล แห่งนี้มีห้องลับที่ปีกซ้ายของ
บ้านที่ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไป ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
อาวะนีจึงขโมยกุญแจและแอบไปที่ปีกซ้ายของบ้านและ
ไปพบกับห้องดังกล่าวที่ประตูห้องมี สายศีลและยันต์
ติดเต็มไปหมด เธอก็ยังไม่เชื่อและไขกุญแจเข้าไป
ในห้องนั้น











วิทยา บาลาน สาวหน้าหวานผิวแทนแสดงเป็น อาวะนี อดีตชาติเป็นนางรำมัณจูลิกา
























ในห้องนั้น เต็มไปด้วยของประดับแต่งตัวของสตรีโบราณ
มากมาย และบนนังก็มีภาพวาดของสตรีใส่ชุดนางรำโบราณ
ซึ่งอาวะนีได้ลองนำเอาชุดและของประดับดังกล่าวมาใส่
หลังจากเล่นในห้องนั้นสักพักเธอก็ออกไป ลัดดาเป็นคน
เดียวที่รู้เรื่องนี้และแอบมาเห็น อาวะนีทีทางเดินบรรได
จากตึกซีกซ้ายจะไปตึกซีกขวา












หลังจากการแอบเข้าไปในห้องลึกลับในวันนั้น เหตุการณ์
เลวร้ายน่าสะพรึงกลัว ที่คนในบ้านเจอผีหลอกก็ตามมา
ทุกคนในบ้านเชื่อว่า เป็นเพราะต้องมีใครในบ้านแอบไป
เปิดห้องลึกลับเพราะกุญแจนั้นหายไป แต่ สิทธัตทา
เป็นคนทันสมัยเขาไม่เชื่อเรื่องผี ดังกล่าว แต่เชื่อว่า
เป็นเพราะลัดดา เป็นผู้หญิงเรียบร้อย
ที่เสแสร้งและพยามสร้างสถานการณ์ต่างๆขึ้นเพราะ
โมโหที่สิทธัตธาไปแต่งงานใหม่ ทางครอบครัวของ
สิทธัตทา พยามติดต่อ พราหมณ์ ผู้เป็นพ่อของลัดดา
ซึ่งเป็นเพียงคนเดียวที่รู้วิธีควบคุมผีในห้องนั้น
แต่โชคไม่ดีที่เขาไปต่างประเทศ สิทธัตธา
มีเพื่อนเป็น หมอผีที่มีญาณวิเศษ จึอาสามาปราบผี
ที่ปราสาทของตระกูล เพื่อนหมอผีของสิทธัตธาบอก
ชายหนุ่มว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะผีจริงๆไม่ใช่
ลัดดาแกล้ง แต่ไม่ว่าหมอผีคนไหนก็ทำอะไรไม่ได้




อมิชา ปาเทล แสดงเป็น ลัดดา
ลูกสาวพราหมณ์ที่ดูแลกุญแจห้องขังผี ชอบรูปหน้าอมิชา
มาก รูปไข่ หน้าผากรูปหัวใจ คางบุ๋ม หน้าคลาสสิกมาก
เหมือนนางเอกสมัยก่อน หน้าทรงนี้ดูแล้วหวานมาก
หาสมัยนี้ไม่มีเลย















ชีนี่ อหุยา แสดง เป็นสิทธัตทา พระเอกหมายเลขหนึ่งของเรื่อง





อักเชย์ กุมาร แสดงเป็นหมอผี เป็นรองพระเอก
ชื่อ อาจารย์ อดิตยา ชรีวาสตาวะ







จนในที่สุด เหตุการณ์เลวร้ายก็เกิดขึ้น เมื่อ อาวะนี
หายตัวไป และทุกคนพบเธอ นำชุดนางรำและเครื่อง
ประดับของนางรำในห้องลึกลับมาใส่และรำ ท่าทาง
โบราณอย่างที่เธอไม่สามารถทำได้มาก่อน พ่อของ
สิทธัตธาจึงเล่าตำนานให้ฟังว่า เมื่อหลายร้อยปีก่อน
นั้นปราสาทแห่งนี้เคยเป็นวังของ ราชา วิภูติ นารายัณ
ซึ่งหลงรักนางรำคลาสสิกชาวเบงกอล ซึ่งมีนามว่า
มัณจูลิกา แต่หญิงสาวมีคนรักอยู่แล้วซึ่งเป็นนักแสดง
ร่ายรำถวายราชา วิภูติ ในระหว่างที่สองสามีภรรยาได้
ร่ายรำถวายราชา วิภูติในห้องท้องพระโรงต่อหน้าบรรดา
เสนาอำมาตร์ทั้งหลาย ครั้นเมื่อ ราชาวิภูติ มาถึงบัลลังค์
และชมการรำนั้น พระองค์ก็เกิดโมโหขึ้นมาครั้นเมื่อ
มีบทร่ายรำที่ทั้งสองต้องหยอกเย้ากัน ครั้นพอจบการแสดง
นักรำทั้งสองก็ได้เข้าไปถวายการบังคมแก่องค์ราชา
กษัตริย์ วิภูติได้โอกาสจึงควักดาบขึ้นมาตัดคอ ชาชิตธาร์
สามีของ มัณจูลิกา เพื่อบังคับให้นางเป็นสนมของพระองค์
แต่ มัณจูลิกา ไม่ยินยอมและเสียใจบ้าคลั่งราวคนเสียสติ
กษัตริย์จึงสั่งขังนางเอาไว้ในห้องแต่งตัวนางรำ
นางเสียชีวิตเพราะตอมใจตายในเวลาต่อมา
วิญญาณของนางกุมแค้นและเฮี้ยนมากจนออกอาระวาท
คิดถึงสามี และ แค้นพระราชา วิภูติ เป็นอย่างยิ่ง
จนกษัตริย์ต้องยกปราสาทนี้ให้แก่ตระกูลพราหมณ์
ผู้เก่งวิชาเพื่อ จองจำดวงจิตของมัณจูลิกาไม่ให้ออกมาอาระวาท

















ตระกูลของพราหมณ์ดังกล่าว สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งเป็นตระกูลของ สิทธัตธา นั้นเอง แต่แล้ว ก็กงกรรม
กงเกวียน การรอคอยของดวงวิญญาณของนางรำ
มัณจูลิกาเป็นผล ด้วยบุญที่พอมีของนางทำให้อาวะนี
ยืมรูปร่างหน้าตาของนางมาเกิด ทำให้ สิทธัตธา
ซึ่งคือกษัตริย์ วิภูติหลงรัก เพราะยึดติดในรูปกาย
ของมัณจูลิกามาแต่ชาติก่อน ในขณะที่ นางรำชาย
สามีของมัณจูลิกากลับมาเกิด เป็นลูกพี่ลูกน้อง
ของสิทธัตธา ซึ่ง เมื่อ มัณจูลิกาเข้าสิงค์ร่างของ
อาวะนีเป็นพักๆในช่วงแรกและแสดงอาการชื่นชอบ
ลูกพี่ลูกน้องของสิทธัตธาเพื่อแกล้งยั้วให้สิทธัตธาโกรธ เรื่องราว
จะเป็นอย่างไรต่อ ทั้งหมดต้องรอพราหมณ์ชั้นผู้ใหญ่
กลับจากต่างประเทศมาหาวิธีทำให้มัณจูลิกาไป
สู่สุขคติซึ่งไม่ง่ายเลย




...

 

ไอศวรรยา ไร




กุสาริช แสดงโดย เจ๊ ไร หรือ ไอศวรรยา ไร
ตอนที่เธอปรากฎตัวในภาพยนตร์เรื่อง DEVDAS เมื่อปี 2002
จูเลีย โรเบิร์ตส์ นางเอกอันดับต้นๆของฮอลลี่วู้ดเห็นเธอจาก
ภาพยนตร์เรื่องนี้ ถึงกับตะลึงแล้วหลุดปากว่า
“เธอเป็นผู้หญิงสวยที่สุดในโลก”
จากนั้น..เธอก็เป็นหญิงสาวชาวอินเดียคนแรก
ที่ถูกเลือกให้คงร่างอมตะอยู่ในพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง
มาดาม ทุซโซด์ ที่มหานครลอนดอน
เธอชื่อ ไอศวรรยา ไร ( Aishwarya Rai)
อดีตนักศึกษาสถาปัตย์ ที่กลายเป็นเจ้าของมงกุฏ
มิสเวิลด์ปี 1994 ผู้ที่นิตยสาร Times จัดให้เป็นหนึ่งใน
"บุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุด 100 คนบนโลก" เมื่อปี 2003
และถูกเรียกว่า"ผู้หญิงที่งามเย้ายวนที่สุดในโลก"
ของนิตยสารต่างๆ เช่น Hello Magazine, Stuff Magazine,
FHM, Variety Magazine, GQ, New York Times,
Harper’s & Queen และมีคนทำเวบไซต์ให้เธอมากกว่า 17,000 เวบ
ทุกอย่างข้างต้น...คงยืนยัน"ความสวย"ของเธอได้แน่นอนแต่ความเจ๊ ไร แกออกแนว โดดเด่น
และมีเครื่องหน้าที่แปลกสะดุดตาซึ่งจุดนี้
เองที่เป็นจุดขายของนาง เช่นตาใหญ่คม สีประกายรุ้ง
ขอบตาดำ กับหน้ากลม และริมฝีปากหนา จมูกแหลม และเธอโด่งดังมาจากการที่สีตาเปลี่ยนสีได้ตามคอนดิชั่นของแสง



































































กุสาริชเป็นภาพยนตร์แนวรักแฟนตาซี ที่จริงๆแล้วมีเนื้อเรื่องที่เศร้ามาก
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้กำกับกลับสามารถเอาเรื่องราว
สุดเศร้ามาถ่ายทอดออกมาได้อย่างสวยงาม
และโรแมนติก มีความเป็นโลกส่วนตัวสูง
เหมือนตัดขาดจากโลกภายนอกและอยู่แต่กับ
โลกสวยงามของตัวเอง แต่แสนสั้น











เรื่องราวเกิดในรัฐกัวของอินเดียซึ่งเป็นอาณานิคม
ของโปรตุเกสมาก่อน ทำให้ ประชากรบางส่วน
ในเมืองนั้นเป็นคริตส์ และใช้ชื่อแบบโปรตุเกส
......ในคฤหาสน์ทรงยุโรปใต้ที่เงียบสงบสวยงาม
บรรยากาศเหงาๆ อิธาน แมสคาเรนฮาส นัก
มายากลหนุ่มรูปหล่อผู้ร่ำรวยและสร้างรายได้มากมาย
ประสบอุบัติเหตุคอหัก เป็นเหตุให้ตั้งแต่บัดนั้นสมอง
ส่วนที่ควบคุม อวัยวะร่างกายให้เคลื่อนไหวหยุดทำงาน
เป็นเหตุให้เขากลายอำมพาตอย่าถาวรและทำอะไรไม่
ได้เลยแม้แต่จะขยับมือ เมื่อนั้นจึงได้มีการจ้างพยาบาล
ประจำส่วนตัวนอกเครื่องแบบมาคอยดูแล และพักอาศัย
อยู่ที่คฤหาสน์ของ อิธาน โซเฟีย ดิ เซาซ่า
พยาบาลสาวรูปงามราวเทพ แสดงโดยเจ๊ไร
ก็ได้เข้ามาเป็นพยาบาลดูแลอิธานที่คฤหาสน์









โซเฟียนั้นแต่งงานแล้วแต่ไม่ค่อยอยากจะอยู่บ้านและ
ทุ่มเทการดูแลผู้ป่วยมากกว่า เพราะที่บ้านนั้นสามีขี้เมา
และชอบทำร้ายเธออยู่เป็นประจำ ในคฤหาสน์อันร่มรื่น
ของอิธาน ประกอบไปด้วย มารดาของเขา ชื่อ อิสซาเบล
และสาวใช้อีกสองคน แม้จะเป็นคนป่วยขยับเขยื่อนไม่
ได้แต่อิธานเป็นคนหล่อและมีชีวิตชีวา ทำให้ โซเฟีย
พยาบาลผู้ดูแล เมื่อได้อยู่ใกล้ก็หลงรักอิธานขึ้นมา
เธอทำงานดูแลเขาต่อไปเป็นเวลาสิบสองปี แม้จะไม่ได้
เป็นแฟนเขาแต่ก็รู้สึกรักอิธานเสมือนคนรักก็ไม่ปาน
ทั้งสองต่างมีความสุขมากที่ได้อยู่ใกล้กัน ในคฤหาสน์
ยุโรปที่สวยงาม เงียบๆ โรแมนติก















ในระหว่างนั้นอีธานก็ผันตัวเองมาเป็นดีเจทางวิทยุ
และให้ความบันเทิงแก่ผู้คน เขามีแฟนคลับมากมาย
ทั้งโซเฟียและอิธานเหมือนจะมีความสุขมาก จนกระทั้ง
ปี ที่ สิบสี่ ของการเข้ามาดูแลอิธาน แม่ของพระเอก
ก็เสียชีวิตลง และหมอก็พบว่าร่างกายของอิทาน
ได้ค่อยๆตายไปทีละส่วน และมีอาการเข้าขั้นหนัก
ซึ่งในอนาคตเขาจะต้องตายในเร็ววัน แต่จะเจ็บปวด
อิธานทราบเช่นนั้นก็เสียใจแต่พอทำใจได้
ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้นเขาประสงค์จะยื่นขอหมอ
ให้ช่วยกระทำเมตตาฆาต ฉีดยาให้เขาตายไป
อย่างสงบ โดยผ่านทางทนายความที่เป็นเพื่อนสนิท
ชื่อ เทพยานี ดัดตา









แต่ก็ได้รับคำปฏิเศษจากหมอ ว่าต้องได้รับการอนุมัติ
จากศาล อิธานจึงวางแผนจะล่าลายชื่อการโวตจาก
บรรดาผู้คนที่ฟังรายการวิทยุของเขา เพื่อขอความ
เห็นชอบจากศาล แต่ผลปรากฏก็คือไม่มีใครห็นด้วย
กับการตายวิธีนั้น รวมทั้งโซเฟียที่เสียใจ และไม่เห็น
ด้วยเป็นอย่างยิ่งเพราะอิธานป็นคนที่เธอรักมากที่สุด
และขดเขาเธอจะอยู่ได้อย่างไร ในระหว่างนั้น
โอมาร์ ซิดดิก เด็กหนุ่มนักมายากลรุ่นใหม่ได้มา
เรียนวิชามายากลที่บ้านของอิธาน




เรื่องมาหักมุมตรงที่ว่านางเอกยังไงก็ไม่ยอมให้พระเอก
ทำเมตตาฆาต จนกระทั้งวันหนึ่ง เนวิล สามีขี้เมาของ
นางเอกได้บุกมาที่คฤหาสน์ของพระเอกเพื่อตามนาง
เอกกลับบ้าน แต่ เธอไม่ยอมไป จึงเกิดการทะเลาะ
กันขึ้นต่อหน้า พระเอกที่เป็นอำมพาต เขาต้องทนดู
นางเอกโดนสามีตบตีทำร้าย จิกหัว ต่อหน้าต่อตา
โดยที่เขาช่วยเหลืออะไรเธอไม่ได้เลย นั้นยิ่งทำ
ให้เขาเจ็บมากยิ่งกว่าร่างกายที่มันเจ็บ ตอนจบคือ
นางเอกหนีจากสามีมาได้ และกล้าพอจะยอมหย่า
กับเขา เธอกลับมา และเข้าใจความรู้สึกของพระเอกที่
การต้องอยู่ใช้ชีวิตแบบที่ไม่มีอิสระภาพมันเป็นยังไง
นางเอกจึงตกลงทำตามคำขอของพระเอก
ในเมื่อ หมอ และศาลหรือใครๆก็ไม่ช่วยพระเอก
ให้เป็นอิสระจากโรคร้ายที่ทรมานนี้ ในเมื่อเธอรัก
เขา เธอจึงตัดสินใจช่วยเขาด้วยการทำเมตตาฆาต
ให้พระเอกด้วยตัวเอง นวนิยายเรื่องนี้ภาพสวย
งามแต่เนื้อหาหินสุดยอด
















...

 

คุณดัชเชส เฉลยตอนจบให้อ่านหน่อยจ้า เรื่องนี้ชอบมากๆ เลยค่ะ ;20

 

จบของ บุล บุไลย์ยา ต่อ




คุณ แอนนี้ต้องหาเรื่อง บูล บูไลย์ยา มาดูให้ได้คะ ยิ่แผ่นแท้จะเห็นเลยว่า ฉาก
การเซตฉาก ไตเติ้ล เสื้อผ้า เพลง ลงตัวมาก จริงๆเรื่อง
ที่แนะนำมาทุกเรื่องจะเนี้ยบจริงๆคะ เลยนำมาเล่าสู่กันฟัง
บางเรื่องที่แม้ไม่ใช่เรื่องผี แต่กลับ ลุ้น และตื่นเต้น แบบ
เหมือนพจญภัย อันนี้ก็มีหลายเรื่องอย่างเรื่อง แจ็บ วี เม็ท
เรื่องนี้ก็ปแนวรักดราม่า แต่เนื้อเรื่องตื่นเต้นน่าสนใจ
เพราะบรรยากาศ เมืง และสถานที่ต่างๆในอินเดีย
มันชวนให้คิดไปในง่ลึกลับตื่นเต้นอยู่แล้วคะ รักประเทศ
นี้จริงๆคะ มาเล่าตอนจบของบุล บุไลย์ยาต่อ


















สรุปก็คือ ราชาวิภูติ กลับชาติมาเกิดเป็น พระเอก
หรือในเรื่องชื่อสิตธัตธา ส่วนนางรำชาวเบงกอล นามว่า
มัณจูลิกา ก็ยังคงเป็นผีเฮี้ยนโดนขังอยู่ในห้องแต่งตัว
นางรำในปราสาท ซึ่งโดนดูแลโดยตระกูลพราหมณ์
พ่อแม่ของสิตธัตทาด้วยแรงแค้น และถึงลาแห่งวาระกรรม
มาถึง อาวะนี มีกรรมสัมพันธ์คล้ายคลึงกับนางรำมัณจูลิกา
ทำให้เกิดมาหน้าเหมือนมัณจูลิกา และสามารถถูกครอบ
งำโดยดวงวิญญาณของมัณจูลิกาได้ง่าย ตั้งแต่การที่
อาวะนีสนใจจะเข้าไปในห้องขังวิญญาณของมัณจูลิกา
และหลังจากนั้น วิญญาณของมัณจูลิกาก็เข้าสิงค์
หรือ แฝงตัวอาวะนีเป็นพักๆ บางทีก็แกล้งยั้วให้
พระเอกหึงเพราะนางรู้ว่า สิทธัตทา คือ ราชา
วิภูติกลับชาติมาเกิด ในขณะที่ผีมัณจูลิกาใน
ตัวอาวะนีจะชื่นชอบ ลูกพี่ลูกน้องของสิทธัตทา
มากเพราะเขาคือ ชาชิตธาร์ สามีของนางกลับชาติมา
เกิด











ตอนจบก็คือ มัณจูลิกาแค้นและจะไม่ยอมออกจาก
ร่างอาวะนี สามีของ มัณจูลิกาที่กลับชาติมาเกิดคอยช่วย
พูดเกลี่ยกล่อมผีด้วย มัณจูลิกาจึงตกลงว่าถ้านางได้ฆ่า สิทธัตทา
นางก็จะไป ในที่สุดพราหมณ์ผู้รู้พิธีกรรมปราบผีก็กลับมาจากอังกฤษ
และเจรจากับ ผีมัณจูลิกาในร่างอาวะนี ให้ออก แต่นาง
ไม่ออก นอกเสียจากจะได้ฆ่าสิทธัตธาก่อนตอนจบนี้จำ
ได้ไม่ละเอียดคะเพราะดูนานแล้วแต่สรุปโดยรวมคือ
ล่อให้มัณจูลิกาในร่างอาวะนีเอาดาบฟันหุ่นปลอม
ให้สิทธัตทามานอนบนกระดานให้มัณจูลิกาฟัน
พอมัณจูลิกาจะฟันก็พลิกกระดานอย่างเร็วให้ด้านหุ่น
ปลอมขึ้นมาแทน ของสิทธัตทา ซึ่งรู้สึกจะเอาเลือด
ของสิทธัตทา ทาเอาไว้ที่หุ่นคะ โดยใช้มนต์
ทำให้มัณจูลิกาเข้าใจผิดว่าคือ สิทธัตทาจริงๆ
พอฟันคอเสร็จ วิญญาณก็ออกทันที เพราะ
อาวะนีจะสลบและตื่นเป็นพักๆเวลา
ผีเข้าและออก ตอนจบก็ปลดปล่อยวิญญาณของ
มัณจูลิกาออกจากร่างของอาวะนีและไปสู่โลกของ
คนตายเลิกแล้วต่อกัน ไม่ต้องโดนขังอีกคะ




...