เจอบางท่านที่นิพพาน

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย ,,,,,,, 15 ตุลาคม 2004.

  1. เตชะวโร

    เตชะวโร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2008
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +23
    เลื่อมใส
     
  2. GUYTHUM

    GUYTHUM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    1,354
    ค่าพลัง:
    +1,088
    ศรัทธา ศรัทธา ศรัทธา......... :)
     
  3. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171

    ขอบคุณที่ส่ง PM ไปแนะนำวิธีฝึกกรรมฐานกองที่เหมาะสมแก่ให้ผม

    ขอโมทนาบุญในธรรมทานด้วยครับ


    .
     
  4. อนุรักษ์คนมีครู

    อนุรักษ์คนมีครู สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +14
    ผู้ใดแจ้งแล้วในธรรมเท่านั้นจึงจะเข้าสูแดนนิพานได้ อย่าสร้างบาปให้ตัวเองเลย
     
  5. อนุรักษ์คนมีครู

    อนุรักษ์คนมีครู สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +14
    ระวังถูกเทวปุตมารหลอกเอาพระพุทธเจ้าแตกดับไปแล้ว ท่านผู้มีปัญญาน้อยทั้งหลายจะไปพบพระองค์ได้อย่างไร ตัวเองยังไม่บรรลุอะไรเลย เพียงแต่เข้าสมาธิแล้วถูกเปรตเนรมิตให้เห็น การที่ท่านอ้างเช่นนี้ นรกอเวจีหลุมที่ลึกที่สุดรอท่านอยู่
     
  6. ธรรมะชาติ

    ธรรมะชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +64
    ศีล...........สมาธิ..............ปัญญา.............ปากตรงกับใจ...........
     
  7. donny007

    donny007 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +44
    ตัวเองรู้ตัวเราเองแค่นี้ก็พอแล้วครับ
    แต่ตัวผมเองยังสับสนกับตัวเองอยู่เลยครับผม สมาธิก็ไม่ได้ทำ กรรมฐานก็ไม่ได้ทำ ยังไม่ได้เริ่มเดินทางเลยครับ
    ถึงแม้จะเดินมาคนละทาง แต่จุดเส้นชัยขอเป็นจุดเดี่ยวกันก็พอครับผม
     
  8. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    อยากถาม จขกท. ว่าไปฝึกมาจากที่ไหน มีอาจารย์ท่านใดเป็นผู้สอน และนิพพานที่ว่านี่อยู่ที่ใด ทำอย่างไรจึงจะได้ไปบ้างครับ
     
  9. countdown

    countdown เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +3,165
    พระพุทะองค์ บอกไว้ในพระไตรปิฎก ว่าเมื่อตถาคตนิพพานไปแล้ว มนุษย์และเทวดาจะไม่เห็นตถาคตอีก อย่างนั้นมโนยิทธิคือการแสดงภาพด้วยมโนภาพที่เกิดจากใจเราเองเป็นตัวกำหนด ให้มีขึ้น ด้วยพลังของจิต ภาพนั้นเป็นภาพสมมุติเอง น่าจะเป็นอย่างนั้น ไม่อย่างนั้นคงไม่เรียกมโนยิทธิ มั้ง
     
  10. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    เห็นด้วยกับคุณ countdown ครับ หลวงปู่ใหญ่ ท่านก็บอกผมเช่นกันว่า เมื่อพระพุทธเจ้า เข้าพระนิพพานแล้ว จะไม่สามารถพบพระพุทธเจ้าได้อีก นั่นคือธาตุนิพพาน ผู้ที่เราจะพบได้ก็มีแต่พระโพธิสัตว์ ที่ทำหน้าที่แทนพระพุทธองค์ ซึ่งก็สอดคล้องกับที่หลวงปู่ใหญ่ท่านบอกกับผมว่าเรื่องมโนมยิทธินั้นหลวงปู่ใหญ่ท่านทำอยู่ภายใน ดังนั้นสภาวะนิพพานที่เราเห็นกันนั้น ผมเข้าใจจากที่หลวงปู่ใหญ่ท่านบอกก็คือยังไม่ใช่แดนพระนิพพานตามที่พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ท่านกล่าวถึงไว้ในพระไตรปิฎก(พระนิพพานที่เราเห็นกันนั้น ผมเข้าใจว่าเป็นแดนจำลองของพระนิพพาน ด้วยกำลังบารมีของพระมหาโพธิสัตว์) ซึ่งที่จริงผมก็เคยปฏิบัติจิตเข้าไปดูมาแล้วเหมือนกัน แต่ก็ยังสงสัยอยู่เลยถามหลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร ท่านก็เมตตาบอกให้ แต่มโนมยิทธิก็มีประโยชน์หากใช้เป็นเพราะจะทำให้จิตผู้ฝึกมีจิตยึดมั่นในบุญกุศล และเกรงกลัวต่อบาป นอกจากนั้นสามารถพัฒนาไปสู่การปฏิบัติจิตเพื่อการหลุดพ้นได้เช่นกัน ผมเชื่อว่าถ้าเป็นพระธรรมใน 84000 พระธรรมขันธ์นี่ก็เป็นทางหลุดพ้นได้หมดครับ

    หากใครศึกษาเรื่องของมโนมยิทธิ ควรศึกษาเรื่องของจิตคนเราที่มีหลายดวงด้วย(มีบันทึกไว้ในพระอภิธรรม) เมื่อแยกแยะสภาวจิตตนเองไม่ได้ว่าจิตแต่ละดวงทำงานสัมพันธ์กันยังไง ปัญหาก็เกิดได้ เท่าที่ศึกษามาก็คือว่า เมื่อจิตรู้เห็นอะไรครั้งแรก ครั้งต่อๆไปจิตมันก็สามารถนำภาพนั้นมาใช้ได้เลย คิดปุ๊ปก็ปรากฏปั๊บเลยแหละครับ ผมเองก็เจอจิตตัวเองหลอกมาก่อน เหมือนกัน

    ที่จริงก็ไม่อยากจะเล่าสักเท่าใด เพราะลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤษีลิงดำบางท่านเขาจะเคืองเอา หากจะเคืองกันจริงๆก็ให้เคืองหลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดรก็แล้วกันครับเพราะท่านบอกผมอย่างนั้น ครับ หากท่านไหนสงสัยก็ลองปฏิบัติไปพิสูจน์เทียบเคียงกับพระวิปัสสนาจารย์รูปต่างๆ ดูครับ

    ผมถือว่านักปฏิบัตินั้นเป้าหมายขั้นสูงก็คือการรู้เห็นตามความเป็นจริง ทุกคนมีสิทธิ์สงสัย เมื่อผมสงสัยก็เลยศึกษาค้นคว้าหาความจริงจากพระผู้รู้ หากท่านไหนไปศึกษาค้นคว้ามาแล้ว ได้ความว่าเป็นอย่างไรก็มาเล่าสู่กันฟังครับ

    ต้องขออภัยหากทำให้ท่านใดจิตตก ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2008
  11. ภูมิพัฒน์รัตน

    ภูมิพัฒน์รัตน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +407
    ผมคิดว่าที่ยกคำกล่าวว่าเมื่อพระพุทธองค์เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานจะไม่ได้เห็นพระองค์อีก
    หมายถึง การจากไปจากโลกไม่สามารถ พบเห็นอย่างบุคลทั่วๆไป
    ไม่เช่นนั้นคงไม่มีใครกล่างถึง ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา
    สำหรับ การฝึกมโนมยินธิ ก็มีในวิสุธิมรรคอย่างชัดเจน เพียงแต่ครูบาอาจารย์ท่านใดจะสอนให้(เผยแพร่)ตามบุเพฯของแต่ละคนจะฝึกได้หรือไม่
    ผมเคยไปกราบครูบาท่านหนึ่งเรียนถามเรือง การปฎิบัติ
    คำตอบคือ ศิษย์พระคถาคตเหมือนกัน
    เป็นไง ดีไหม ถ้าผู้รู้มาก,รู้น้อย ไม่บอกทางให้ คนไม่รู้ก็คงตาบอดไปเลย
    สำหรับทุกท่านที่ได้เห็นแล้ว ผมอ่านแล้วก็รู้สึกยินดีและขออนุโมทนาด้วยครับ
    และขอให้ท่านทั้งหลายโปรดอโหสิกรรมให้กับผู้ปามาสด้วยครับ
    สำหรับท่านที่เตือนสติ ก็ดีครับเวลาผมฝึกจะระวังให้มาก
     
  12. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    สำหรับการได้พบเห็นพระพุทธเจ้า นี่ก็น่าคิดในบางแง่มุม อย่างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พระมหาอุปคุต ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่มีฤทธิ์มาก สามารถปราบพญามารได้ แต่พระมหาอุปคุตท่านก็ยังต้องขอให้พญามาร เนรมิตกายของพระพุทธเจ้าให้ท่านดู จึงน่าจะนำมาพิจารณา ว่าการรู้เห็นรูปกายของพระพุทธเจ้า ของคนในระดับเราๆนั้น จะแน่ใจได้อย่างไรว่าเป็นของแท้ ครับ
     
  13. สมภาพธรรม

    สมภาพธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +845
    ไปเมืองนิพพาน...ต้องจ่ายตังค์เท่าไหร่ครับ

    นิพพานเมืองหรือครับ
     
  14. สมภาพธรรม

    สมภาพธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +845
    นิพพาน...พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า

    ธรรมอันเป็นที่สิ้นตัณหา
    ธรรมอันไม่มีสังขารปรุงแต่ง
    ธรรมอันดับความยึดมั่นถือมั่นแห่งตัวตน
    ธรรมอันไม่มีความอาลัย
    ธรรมอันสงบ ปราณีต
    ธรรมอันดับความมัวเมา

    ไม่เห็นมีตรงไหนที่ว่าเป็นเมืองแก้วสวยงามเลย

    งมงายกันหรือเปล่า........
     
  15. siantseiya

    siantseiya สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +5
    สวัสดีครับ
     
  16. siantseiya

    siantseiya สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +5
    สวัสดีครับ เป็นสมาชิกใหม่นะครับ ตอนนี้สับสนมาก ว่าจะฝึกสมาธิ กรรมฐาน วิปัสสนา ด้วยวิธีไหน เนื่องจากผมเป็นคนเปิดรับ ความรู้ ไม่จำกัด ทำให้ตอนนี้ไม่รุ้ว่า จะฝึก ปฏิบัติแบบ พุทธโธ สัมมาอะระหัง ยุบหนอพองหนอ ธรรมกายเจ็ดฐานแบบวัดธรรมกาย หรือ ธรรมกายเจ็ดฐานแบบคุณลุงการุณย์ หรือ มโนมยิทธิ ชอผู้ชิ้แนะด้วยครับ
     
  17. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +494
    ทำไมต้องเป็นแก้ว...ครับ ถ้าเป็นแสงยังพอว่าแต่แก้วนี่...
    จิตติดอยู่กับกาย พอกายแต่งจิตก็หลุดลอยออกนอกกาย(ผมเชื่ออย่างนั้นน่ะครับ)
     
  18. มารวิกะ

    มารวิกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +526
    ลองศึกษาดูในแต่ละแบบ แต่ต้องมีครูผู้ฝึกสอนด้วยนะครับ แล้วถามใจเราเองว่าอันไหนที่ตรงกับใจเรามากที่สุด
    เข้าใจได้ง่ายที่สุด คนเราแต่ละคนมีบุพกรรมไม่เหมือนกัน ฉะนั้นถ้าฝืนไปในทางที่เราไม่เคยปฎิบัติศึกษาหรือเคยได้
    มาแล้วในกาลก่อนๆ อาจจะทำให้ไม่ประสบความสำเร็จตามที่เราต้องการได้ครับ ผมเคยเ็ป็้นแบบนี้มาแล้ว
    ตั้งแต่อายุ13-14 ไขว่คว้าหาตำหลับตำราต่างๆมาปฎิบัติเองไม่เคยทำได้หรือว่าเข้าใจเลย จนกระทั่งได้ค้นพบ
    หนทางนั้นๆเอง กว่าจะเจอได้ก็หลายปีเหมือนกันครับ สรุปคือ ต้องเจอสายที่ตรงกับ จริตของเราเองครับ ถึงจะสำเร็จตาม
    ที่ต้างการได้
     
  19. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ขอเสนอนิดนึงไว้เป็นเหตุผล...คุณณฐมณฑ์ ลองคิดหรือว่างๆลองพิจารณาดูนะครับ...มโนมยิทธิ ความเห็นผมว่า คือฤทธิ์ทางใจครับ ...ใจคือธาตุรู้ ...มีหน้าที่รู้อย่างเดียว..เช่น ไปรู้ว่าเจ็บ.. ไปรู้ว่าสุข.. ไปรู้ว่าเห็น.. ไปรู้ว่าคิด.. ถ้าเกิดเราสอนให้ใจเป็นอย่างไรก้จะเป็นอย่างนั้น ...เช่น...การฝึกอสุภะกรรมฐาน ก้อาศัยหลักมโนมยิทธิเหมือนกันเช่น นึกให้เห็นภาพที่ไม่สวยงามของร่างกายซึ่งมี 10 ข้อ แล้วแต่จะเลือกเอาข้อไหน สมมุติเราเลือกเอาข้อที่ ว่าด้วย ร่างกายนอนตายไปจนเน่า ..ก็นึกเอาให้เห็นเป็นอารมณ์ จนสามารถเห็นเหมือนลืมตาเห็นชัดเจน หากสอนจิตหรือใจให้ทำแบบนี้ก็จะสามารถเห็นได้ชัดเจนแต่ต้องทำบ่อยๆๆเนื่องๆ จนได้ความชำนาญ คือ วสี เมื่อทำจนชำนิชำนาญก็จะสามารถทำได้อย่างคล่องแคล่วหากทำแบบนี้บ่อยๆๆอานิสงฆ์ที่ได้ก็จะเริ่มเบื่อหน่ายกับร่างกายตัวเองความโลภก็จะลดลงกิเลสก็จะลดลง..กิเลสลดลงเช่น ..หากเมื่อก่อนเป็นคน รักสวยรักงาม ชอบแต่งตัวฟุ่มเฟือย อาการแบบนี้ก็จะลดลง หากเป็นคนสันหาเรื่องกินเลือกกินกินแต่ของถูกใจไม่ถูกใจไม่กินอาการแบบนี้ก็จะลดลง ซึ่งการฝึกแบบนี้ก็ยังอยู่ในสมถะกรรมฐาน ยังไม่ยกเป็นวิปัสนา..หากการฝึกแบบมโนที่แบบว่าน้อมไปหานิพพานทำไปเรื่อยๆๆจิตมันก็จะสร้างนิพพานมาเองโดยเป็นการสร้างจากการกระทำของจิตหากเป็นการกระทำหรือบังคับจิตให้สร้างนิพพานอารมณ์แบบนี้ก็ยังอยู่ในสมถะ (ยังไม่เป็นวิปัสนา)วิปัสนาเท่านั้นที่จะทำให้ได้นิพพานและนิพพานก็ไม่มีเข้าไม่มีออก..มีหมวดนึงของอนุสติ 10 ข้อ ที่ว่าด้วยนึกถึงนิพพานเป็นอารมณ์..ก็คือนึกน้อมให้รู้ว่านิพพานเป็นทางพ้นทุกข์เป็นที่ที่ควรไป จนจิตเริ่มเป็นสมาธิแล้วจึงเจริญวิปัสนาไม่ใช่ว่าให้เข้าใจว่ามีเมื่องนิพพานเราไปเมืองนิพพานอันนี้จิตมันสร้างขึ้นเอง...ซึ่งมันเป็นเรื่องความละเอียดของความคิดโดนจิตตัวเองหลอกโดยไม่ทันจิตเป็นโมหะหรือความหลงอย่างละเอียดมากๆๆๆ..นิพพานพระพุธท่านสอนก็ยังบอกว่ามีอยู่จริงแต่ไม่ได้เป็นการสร้างนิพพานเองแต่มันจะเห็นเมื่ออรหันต์..ในกรรมฐาน 40 กองที่พระพุธท่านสอนก็มีกรรมฐานหลายกองที่อาศัยหลักมโนมยิทธิ..เช่น...อสุภะทั้ง10 ..กสินทั้ง 10 อาหาเรปฏิกูล ธาตุ 4 กายคตาสติ เป็นต้น..ซึ่งอาศัยความจำ การนึก เป็นมโนภาพ เป็นหลักการเดียวกับมโนมยิทธิ...ฝึกมโนมยิทธิผมก็ชอบฝึกอยู่แต่ที่ว่าไปนิพพานโดยการถอดจิตไปผมว่ามันไม่ตรงตามที่พระพุธท่านสอน...นอกจากการเข้านิโรธสมาบัติหรือสมาบัติ 9 ซึ่งเป็นการดับทุกข์ของจริง..และเรื่องการถอดจิตคนทำได้ก็ทำได้จริงและพิศูจน์ได้...ว่างๆๆลองถอดจิตมาหาผมก็ได้นะผมจะเขียนอักษรไว้หน้าคอมผมหากตอบตรงก็แสดงว่าคุณ ณฐมณฑ์ ถอดจิตได้จริง ขนาดนิพพานคุณ ณฐมณฑ์ ยังไปได้เห็นพระพุธ เห็นเทวดานางฟ้า..แค่บ้านผมเองก็คงไม่ยากหรอกครับ..อันนี้ก็เป็นการฝึกดูด้วยว่าเราทำได้จริงเปล่า ธรรมมะของพระพุธเจ้าเป็นวิทยาศาสตร์พิศูจได้ครับแต่หากจะบอกว่าเป็น ปัจจัตตัง อันนี้ก้ถูกอยู่ แต่ผลมันจะเหมือนกับตำราที่พระไตรปิฏกสอนมาครับ..ซึ่งที่ผมเขียนมานี่ก็เป็นแนวคิดเสนอแนะของผมที่ผมฝึกมาอย่าได้โกรธเคืองเลยนะครับถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนการปฏิบัติธรรมกันครับ...
     
  20. ลิงเมืองละโว้

    ลิงเมืองละโว้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    709
    ค่าพลัง:
    +1,521
    ผมเองก็เคยส่งสัย ว่านิพพานนั้นแท้จริงเป็นเช่นไร ทุกวันนี้ก็ยังสงสัยอยู่ แต่ยังคงปฏิบัติต่อไป
    แต่ไม่อยากให้ทุกคนมาปรามาสกัน คนที่ปฏิบัติ เป็นคนที่มาชี้หน้าว่ากันหรือไร
    เรื่องออกความเห็นนั้นผมว่าออกได้ คนที่อยู่ในธรรมเองควรต้องรับฟังผู้อื่น
    คนที่ไม่รับฟังนั่งยันนอนยันเอาความคิดตนเองมันไม่ดีหรอกครับ มันบ่งบอกว่าคุณยังมีทิฐิ
    เราควรเปิดกว้าง แล้วแสดงความคิดกันตราบใดเรายังไม่เข้าถึง เราจะมาเถียงเพื่ออะไร ยกพระไตรปิฎกชูขึ้นหัวมาพูดปาวๆ
    ทั้งที่ตนเองไม่ได้ต่างจากผู้อื่น มาลงหัวคิดดีกว่าน่ะครับ แนะกันไปกันมา หาคำตอบมิดีกว่าหรือ
    การฝึกมโนมยิทธินั้น หากต้องให้ถูกต้องนั้น หลวงปู่ดู่ท่านว่าให้ ทดสอบก่อน
    หากถูกต้อง ก็แสดงว่าจิตใช้ได้ แล้วถึงไปดูนรก สวรรค์
    จริงครับธรรมะของพระพุทธองค์ท่าน เป็นวิทยาศาสตร์ แต่เรื่องพุทธศาสตร์ บางครั้งวิทยาศาสตร์ยังพิสุจน์ไม่ได้
    เหมือนพระพุทธองค์แสดงปาฏิหารย์แก่่พวกเดียร์ถีย์ อะไรมาพิสูจน์ได้ครับ พระพุทธองค์ทำได้เช่นไร อธิบายได้ไหม
    บอกฝรั่งหัวแดงมาพิสูจน์มันจะดูถูกเอาอีก แล้วหลวงปู่มั่นเจอยักษ์ก่อนท่านบรรลุธรรม มีใครอธิบายได้บ้าง
    การปรามาสกันนั้น ระวังนะครับ หากผิดพลาดมา ไม่คุ้มกัน อเวจีดีๆนี้เอง
    อนุโมทนากับทุกท่านที่ปฏิบัติและที่สนใจ จะ พุท-โธ สัมมาอรหัง อะไรก็ตาม อย่าลืม วิปัสนาน่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...