เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    อี้จิงใช่ที่เกี่ยวกับเส้นยาว เส้นประหรือเปล่าครับ ถ้าเส้นยาว 3 เส้นก็หมายถึงสวรรค์ เส้นประสามเส้นหมายถึงโลก เคยอ่านแบบที่เป็นการทำนายอ่ะครับ

    ส่วนเรื่องการตื่นอย่างสมบูรณ์ในความฝัน ผมคิดว่าคงต้องจับสติให้ได้ในระหว่างที่กำลังหลับอยู่หน่ะครับ ต้องจับไปให้ได้ตลอดแล้วเวลาฝันเราจะรู้ตัวเอง ผมกำลังลองวิธีนี้อยู่ตอนนี้เลยมาหัดการจับสติอยู่
     
  2. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    คัมภีร์มรกต เคยอ่านผ่านมาบ้างครับ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นศาสตร์ของเสียงรึเปล่าครับ
    ขอบคุณคุณ mead นะครับ ตอนนี้ดีขึ้นกว่า 90% แล้วครับ

    คุณ mead มีอารมณ์ขันจริงๆ :z2

    ชอบประโยคที่ว่า "ก็จะพยายามก้มมองดูตัวเอง ในกระจกบ้างถ้าเห็น..(แต่ฝันที่ไรมักจะไม่ค่อยเห็นกระจกนี่สิครับ..)"


    ผมเคยรู้สึกตัวอยู่ช่วงนึง พยายามก้มมองดูตัวเอง แต่ไม่เห็นอะไรเลย
    บางครั้งฝันอยู่ เราก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่ากำลังฝัน อิอิ ;k07
     
  3. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    เรื่องการตื่นแบบสมบูรณ์ในฝัน...เดรดคิดว่า ที่สำคัญสุดน่าจะเป็นขั้นตอน การช้อนสติ ที่พี่นักเขียนเคยสอน เรื่องการฝึกฝัน ถ้าสามารถติดตามสติสัมปชัญญะ ก่อนเข้าภวังค์ได้ และสามารถประคองความรู้สึกนี้ไว้ได้น่าจะ เข้าสู่ขั้นตอนการตื่นอย่างสมบูรณ์ ได้

    เดรด เคยมีประสบการณ์ ขณะนอนทำสมาธิ เดรดได้ยินเสียงตัวเองกรน อืมม์..แหม!!..เป็นผู้หญิง กรนแลดูไม่งาม...เอาเป็นว่า ได้ยินเสียงหายใจเข้าและออก จากทางปาก กระทบกันยังไงไม่ทราบ จึงเกิดเสียง แต่พอระลึกได้ เราดันตกใจ เลยตื่นเลย ถ้าไม่ตกใจแล้วระลึกรู้ตามไป...เดรดว่ามีลุ้น...ใครเคยเป็นบ้าง ยกมือขึ้น...อิอิ
     
  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    คงเป็นเล่มเดียวกันครับคุณซิปฯ
    คัมภีร์นี้อายุกว่า 4500 ปี ครับ ตอนหลังขงจื้อเอามาศึกษาเพิ่มเติม
    จากที่เป็นรูปภาพก็กลายมาเป็นตัวอักษร เมื่อขงจื้อได้ศึกษาจนเข้าใจ
    ภูมิปัญญาอันลึกซึ้งที่ซ่อนแฝงอยู่ในอี้จิงแล้ว ถึงได้กล่าวออกมาว่า

    "หากมีเวลาอีก 50 ปี จะใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดมาศึกษาอี้จิง
    เพื่อจะได้ไม่ดำเนินชีวิตผิดพลาดเหมือนอย่างที่ผ่านมา"

    เท่าที่เห็นนอกจากการทำนายก็มีอะไรลึกๆอีกมากครับ
    ลองไปค้นในเนทดูน่ะครับ ที่อ่านเองได้มาจากหนังสือ ผู้จัดการรวมเล่ม
    ที่พูดถึงภูมิปัญญาตะวันออกครับ ที่เคยคัดเอามาลงบางส่วนก็คือ..
    เรื่องการเดินทางท่องจักรวาลในนวนิยายของ Mead (ที่ช่วยกันแต่งไว้นั่นล่ะครับ)

    ภูมิปัญญาอะไรที่แฝงอยู่ใน คัมภีร์อี้จิง

    หนังสือที่ค้นคว้าเกี่ยวกับ "อี้จิง" หรือ "โจวอี้" นี้ มีจุดประสงค์หลักอยู่ที่ ต้องการไขความถึงเรื่องที่เกี่ยวกับสรรพสิ่งทั้งหลาย ในจักรวาล ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในหนังสือแฝงด้วยสิ่งที่เกี่ยวกับวัฏจักรของสิ่งที่ตรงกันข้าม เช่น อิม เอี๊ยง, ความแข็ง ความอ่อน, เคลื่อนไหว สงบนิ่ง เพื่อนำไปแสวงหาสาระสำคัญในหลักปรัชญา ที่มีต่อกฏเกณฑ์ ต่างๆของมวลสิ่งในปัจจุบัน รับมือกับการสมาคม การเข้าสังคม การใช้ชีวิตของมนุษย์ แสวงหาวิธีการพยากรณ์เรื่องราวเกี่ยวกับอนาคต สิ่งเหล่านี้ล้วนต้องใช้ภูมิปัญญาอย่างสูง
    นี่คือ ตรรกของอี้จิง เมื่อถึงจุดสูงสุด ก็จะปรับตัวลงต่ำ, เมื่อเข้าตาจนก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง, เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ก็จะทำให้เกิดความกระจ่าง, ถ้าเข้าใจถึงหลักของอี้จิงแล้ว ถึงแม้จะเผชิญกับภาวะคับขัน ก็สามารถเอาตัวรอดได้

    อี้จิง พื้นฐาน ภูมิปัญญาสำคัญในการก่อเกิดวิชาความรู้ขึ้นมาอีกหลายแขนง ซึ่งล้วนแล้วแต่ใช้หลักการของ การผันเปลี่ยนตามกฏแห่งธรรมชาติ อันประกอบด้วย ท้องฟ้า พิภพ สิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม น้ำ ภูเขา หรือ แม้แต่ดวงดาวต่างๆในจักรวาล ล้วนแล้วแต่มีความสัมพันธ์กัน เมื่อสามารถเข้าใจธรรมชาติเหล่านั้นจนเป็นหนึ่งเดียวแล้ว นักปราชญ์ในสมัยโบราณจึงสามารถใช้ อี้จิง เป็นพื้นฐานในการพัฒนาวิชาต่างๆขึ้นมา อีก 5 แขนงหลักๆ คือ
    • "ซัว" (ภูเขา) เป็นหลักการเกี่ยวกับการฝึกกำลังภายใน พลังปราณ ชี่กง และ ศาสตร์ฮวงจุ้ย
    • "เหมี่ย" (ดวงจีน ดูดวงจากวันเดือนปีเกิด)
    • "อุย" (แพทย์แผนโบราณของจีน เช่น การแมะ การฝังเข็ม)
    • "เสี่ยง" (การดูโหงวเฮ้ง)
    • "ปกข่วย" (การเสี่ยงทาย ทำนายทายทัก)
    ซึ่งวิชาทั้ง 5 แขนงนี้ ก็ได้ถูกนำไปขยายผลต่อ เกิดเป็นวิชาการต่างๆ ขึ้นมาอีกมากมาย แม้แต่การแพทย์สมัยใหม่ เช่น DNA RNA ของมนุษย์ หรือ ระบบคอมพิวเตอร์ ฯลฯ
    http://www.fengshui168.net/content_ichinghistory.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2008
  5. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    เคยได้ยินแต่คนอื่นกรน อย่างนี้ใช้ได้หรือเปล่าครับ อิอิ
    สงสัยว่าจะต้องนอนถือช้อนไว้แล้วครับอย่างนี้จะได้ช้อนสติได้

    เคยแต่รู้สึกว่าจะวูบในช่วงขณะนอนครับ เขียนมางี้เหมือนว่าจะเป็นลมตอนนอนเลย [​IMG]
     
  6. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    อี้จิงเท่าที่เคยอ่านมาจะเขียนไปทางพยากรณ์ซะมาก เลยไม่ค่อยรู้ว่ามีอะไรแฝงมานอกเหนือจากนั้นหรือเปล่า บางทีอาจจะมีแนวความคิดอะไรอยู่แต่ดันมีคนพูดถึงในทางพยากรณ์ซะมากก็ได้เลยรับรู้แต่ด้านนั้น

    เพิ่มเติม: เอ้อ เล่มที่ผมอ่านนั้นเค้าเขียนเป็นการ์ตูนนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2008
  7. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ได้ยินคนอื่นกรน แสดงว่า ไม่ได้นอนคนเดียวละซิท่า...กิ้วๆ
    เดรดว่าช้อน คงเล็กไป เพราะช้อนไม่ได้ซักที...ว่าจะลองทัพพีดูค่ะ กะไม่พลาด
    เรื่องวูบวาบ เนี่ย ชอบจริงๆ วูบแร้ว หลอนไปเลยอะค่ะ...โฮะ โฮะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2008
  8. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    Link คัมภีร์มรกตครับ มี 12 แผ่น แผ่นที่ 12 ว่ากันว่าสุดยอดมาก
    คุณเดรดเพิ่งฝันถึงภาษาโบราณหยกๆด้วยนี่ครับ มาเล่าให้ฟังกันหน่อยครับ
    คัมภีร์มรกต
    http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=1187.0

    หากต้องการจะถอดจิต ไปยังวิหารศักดิ์สิทธิ์ของแอตแลนติส
    ก็ให้บริกรรมมนตร์ต่อไปนี้ โดยไม่ออกเสียง
    1. Me-Kut-El-Shab-El
    2. Hale-zur-Ben-El-Zabrut
    3. Zin-Efrim-Quar-El

    และหากต้องการถอดจิตไป "ศัมภาลา" ก็ขอให้บริกรรมมนต์ต่อไปนี้
    เพื่อเปิดทวารเข้าสู่ศัมภาลา "Edom-El-Ahim-Sabbe-Rt-zur-Adom"
     
  9. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ข้างบนนั่น จะถือข้อนถือทับพีนอนกันแล้ว 5555....
    เสริมครับคุณซิปฯ คัมภีร์นั่นเค้ามีทุกอย่างเลยครับที่เราอยากรู้
    ถึงขั้นวินิจฉัยโรคจากน้ำเสียงพูดได้ด้วยนะครับ อิอิ
    มีอันนีงบอกว่าหนวดคนเราคือแผงระบายความร้อน..คนจีนเค้าถึงไว้หนวดกันมากไงครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2008
  10. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ที่เคยมาเล่าให้ฟังค่ะ ว่า ได้ยินเสียงคนมาพูดภาษาแปลกๆ ออกเสียง กุม กำๆ โทนก้องอ่ะค่ะ หลังจากฝันคืนนั้น วันรุ่งขึ้นเดรดก็ไปเจอบทความที่เกี่ยวกับคัมภีร์มรกต ซึ่งมีภาษามนตราที่คุณ mead นำมาโพสเนี่ยแหล่ะค่ะ

    เดรดก็ออกเสียงไม่ถูกหรอก แต่มีประโยคหนึ่ง บอกว่า

    "ในตอนที่ผู้ฝึกต้องการหลุดลอยออกจากกายหยาบ ไปยังที่ไกลๆสุดขอบฟ้าขอให้เขาบริกรรมมนตร์ "Dor-E-Ul-La" เอาไว้ในใจ ก่อนอื่นต้องทำใจให้สงบนิ่งผ่อนคลายร่างกายตั้งจิตมุ่งมั่น ที่จะปลดปล่อยตนเองออกจากกายหยาบหากต้องการพาดวงจิตขิงตนไปที่ใด ก็ขอให้นึกถึงเสรีภาพแห่งดวงจิตพร้อมบริกรรมมนต์ต่อไปนี้ "la Um-I-L-Gan" (ลาอุมอีลูกาน)"

    ที่มา http://www.geocities.com/visshop1993/keys/vis1.html


    ในวงเล็บที่ออกเสียง มันเหมือนในฝันเลยอ่ะค่ะ
    ใครเข้าใจ อธิบายหน่อยว่า มันคืออะไร?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2008
  11. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ถ้าทัพพียังไม่ได้อีกขอแนะนำสวิงตักปลาเลยนะครับ เอาอันใหญ่ๆ นะ ปากกว้างดีคงจะจับทันแน่ [​IMG]

    ปกตินอนกับน้องครับ นอนอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วไม่เคยแยกห้องนอนเดี่ยวๆ

    ตามที่คุณ Mead อธิบายมาแสดงว่าเราคงรู้มาแค่ส่วนนึดนึงของอี้จิงจริงด้วย

    โอเสียงที่คุณเดรดได้ยินมันพ้องกับคำในคัมภีร์มรกต ลองท่องแล้วลองไปจ๊ะเอ๋กับพี่นักเขียนดูสิครับ
     
  12. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    "la Um-I-L-Gan" (ลาอุมอีลูกาน)"
    ถ้าเราไม่เข้าใจความหมายของภาษาเหมือนการสวดมนตราที่เราไม่เข้าใจ
    จะไปได้รึเปล่านะ อิอิ บางที่อาจจะเจออะไรที่เราไม่คุ้นเคยเข้าก็ได้
    หรือว่าคลื่นเสียงสั่นสะเทือนไปดึงดูดบางอย่างเข้ามาได้..เหมือนคำว่า ..โอม...ม...
    ไม่เชื่ออย่าลบหลู่..ลองกันดูนะครับ...ไม่แน่อาจมีเรื่องเด็ดๆมาเล่าให้ฟังนะครับคุณเดรด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2008
  13. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    อืมม์...จะให้เดรดลองเหรอ? อืมม์...ขับรถในกทม.ยังหลงเลย
    อืมม์...แล้วถ้าไปแล้วไม่เจอพี่นักเขียนละ? อืมม์...แล้วถ้าไปเจอที่ไม่ชอบละ?
    อืมม์...ขอทำใจก่อน แระกัน...แหะ แหะ
     
  14. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    " โอวาทจากพระอาจารย์จี้กง " (เอามาฝากครับ :D)

    ธรรมะ เป็นสิ่งที่ดำรงอยู่ทุกหนแห่ง
    แต่อนิจจา คนส่วนมากกลับคิดว่าธรรมะเป็นเรื่องของคนบำเพ็ญปฏิบัติที่ปล่อยวางจากโลกีย์วิสัยแล้ว
    พวกเขาจึงมองข้ามธรรมะที่มีอยุ่ในตน มองข้ามสาระแห่งธรรมที่พบได้ในชีวิตประจำวัน แม้แต่ผู้ที่กำลังบำเพ็ญปฏิบัติธรรมอยู่ ส่วนมากก็ยัง " สละใกล้แสวงไกล "
    เพราะคิดว่าธรรมะอยู่แต่ในวัดวาอาราม คิดว่าธรรมะมีอยู่แต่ในพระธรรมคัมภีร์เท่านั้นหารู้ไม่ว่า

    ............บำเพ็ญธรรมไม่ห่างจิต
    ............ปฏิบัติธรรมไม่ห่างกาย
    ............เมื่อจิตกับกายไม่ไกลจากธรรม
    ............ธรรมะจึงอยู่ในชีวิตประจำวัน

    " ธรรมะกับชีวิตจะต้องดำเนินควบคู่กันไป "

    เราไม่อาจดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีธรรมะ หาไม่แล้ว ชีวิตของเราก็ไม่แตกต่างอะไรกับซากศพที่เดินได้
    เราไม่อาจแยกธรรมะออกจากชีวิตของเราได้ หาไม่แล้วชีวิตของเราก็จะไร้ซึ่งคุณค่า สาระและแก่นสาร

    เพียงเราคิดดี พูดดี ทำดี ให้ได้ในทุกวัน เราก็เสมือนได้ปฏิบัติธรรม และเข้าถึงธรรมในจิตแล้ว

    ธรรมะไม่ได้อยู่ ณ ดินแดนแสนไกล แต่ธรรมะอยู่ที่การปฏิบัติต่อผู้อื่น ธรรมะอยู่ในครอบครัวของเรา ธรรมอยู่ในสังคม ระหว่างผู้คน และธรรมะอยู่ที่ประเทศชาติบ้านเมือง ฉะนั้นทุกหนทุกแห่งจึงมีธรรมะดำรงอยู่ ........
     
  15. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ได้อุปกรณ์ฝึกสติใหม่แล้ว ทั้งช้อน ทัพพี สวิงตักปลา ต่อไปคงเป็นกะละมัง และแห 555

    อ่านที่เพื่อนๆเสนอแนะมา เรื่องการตื่นในฝันนั้น thx1

    ทำให้คิดได้ว่า

    หากหมั่นฝึกสติ โดยเฝ้าดูสติสัมปชัญญะที่จดจ่อกับการกระทำ กับสติสัมปชัญญะที่จดจ่อกับการสังเกตการณ์ ไปตลอดเวลา อย่างต่อเนื่อง

    เมื่อมีสติสัมปชัญญะที่ฝึกมาดีแล้ว เมื่อเข้าไปในความฝัน ก็จะตื่นขึ้นในฝันได้เช่นกัน

    เรื่อง การเห็นตนเองกรน เคยเหมือนกันครับ จุ๊ๆอย่าบอกใครนะครับคุณเดรด อิอิ

    ในคัมภีร์มรกต คุณเดรดฝันมาแล้ว คงต้องให้คุณเดรดไป search ข้อมูลต่อเรื่องความหมายนะครับ ได้เรื่องยังไงแวะมาบอกกันด้วยนะครับ

    คำนี้ลึกซึ้งกินใจจริงๆนะครับ คุณ mead "สละใกล้แสวงไกล" ;aa34
     
  16. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    หุหุ...คุณเซลล์ ได้ไอเดียเลย ใช้ได้ผลอย่างไรแล้วมาบอกกันด้วยนะค่ะ...อิอิ
    ว่าแต่ว่า ได้ยินเสียงตัวเองกรน แล้วตกใจมั๊ย แล้วทำอย่างไรต่อ
    ทีแรกเดรดพยายามฟังง่าเสียงอะไร พอรู้เท่านั้นแหล่ะ ตกใจเลย ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่า ทำไมต้องตกใจ

    แล้วบางที เวลาเริ่มจะวูบๆ(เหมือนที่คุณzipp บอก) ก็จะเกิดความรู้สึกกลัว
    ก็ไม่รู้ทำไมต้องกลัวอีกเหมือนกัน ยังไม่เข้าใจความรู้สึกแบบนี้ อีกหลายอย่าง
    เหมือนรู้สึกไม่ปลอดภัย ยังงั้นแหล่ะค่ะ คือ เราไม่รู้มั้ง ว่าจะเจออะไร
    เหมือนไปอยู่ในภาวะที่ควบคุมไม่ได้อ่ะ... ติดอยู่ตรงนี้ มานานแล้วนะ ไปต่อไม่ได้ซักที
    ...ใครทราบบ้าง แนะนำหน่อยซิค่ะ

    ขอบคุณ mead ที่เอาบทธรรมะดีๆ ที่เป็นธรรมชาติ ลักษณะนี้มาสอนค่ะ ถูกจริตมาก
    สำหรับคนไร้ขอบ และกฎเกณฑ์ อย่างข้าพเจ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2008
  17. VeggieGuy

    VeggieGuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    3,945
    ค่าพลัง:
    +4,262
    ...

    ตอนแรกไม่ได้อ่านหัวข้อ
    เลยนึกว่าเป็นโอวาทของคุณ mead ซะเอง
    กำลังจะชมว่าสุดยอดเลย
    แต่กลายเป็นโอวาทของท่านจี้กงแทน
    ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันครับ
     
  18. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ตอนแรกก็ตกใจเหมือนกันว่า เสียงใครหว่า อิอิ

    วูบๆเนี่ย ตามความเข้าใจของผม คือ ถ้ายามนั่งสมาธิ มี 2 อย่าง คือ วูบแล้วเหมือนตกไปในหลุมอากาศ คือ นิ่งอยู่เฉยๆ ไม่มีอะไร
    อีกแบบคือ วูบแล้วไปสู่ความว่างจากปราสาทสัมผัสทั้ง 5

    แต่ถ้าวูบตอนหลับ ก็จะมี 2 ทางเลือกเหมือนกัน คือ วูบแล้วหลับ กับวูบแล้วตื่น

    จังหวะก่อนจะวูบ วูบ และหลังวูบ เหมือนเป็นการเปลี่ยนภาวะการจดจ่อ จากภาวะนึง ไปอีกภาวะนึง ซึ่งในภาวะปกติ เรามีการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ตลอดครับ เช่น เปลี่ยนอารมณ์ เปลี่ยนความรู้สึก เปลี่ยนความคิด แต่เราอาจยังไม่ทันสังเกต พอมาสังเกตการณ์ดูจิตตนเอง เลยเห็นได้ชัดเจนขึ้น

    ถึงต้องมีการฝึกสติสัปชัญญะที่จดจ่อกับการสังเกตการณ์มาอีกตัวตนหนึ่ง เพื่อเฝ้าดูสติสัมปชัญญะที่จดจ่อกับการกระทำ

    เพื่อไม่ให้สติสัมปชัญญะที่จดจ่อกับการกระทำ จมลงไปเป็นภาวะนั้นโดยไม่รู้ตัว

    ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามคุณเดรดได้ครบมั๊ย เดี๋ยวให้เพื่อนๆมาช่วยเติมให้อีกทีครับ ;k07
     
  19. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ขจรวรรณไม่เคยเป็นภาวะวูบแบบคุณเดรต แต่เคยมีอาการคล้ายถูกกระชากอย่างแรงไปกระแทกตามผนังห้องบ้าง, หรือพุ่งออกไปนอกโลกบ้างและก็เกิดอาการกลัวคล้ายกับที่คุณเดรตเป็นเลยค่ะ เคยถามพี่นักเขียนแล้วพี่นักเขียนแนะนำให้ไปอ่านหนังสือความฝันกับวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณและทำความเข้าใจกับเรื่องประสาทสัมผัสภายในและสติสัมปชัญญะของนักฝันให้ดี เพื่อให้เรานำความรู้ติดสติสัมปชัญญะเข้าไปในความฝันด้วยค่ะ

    ลองดูนะคะเผื่อจะช่วยได้ เพราะตอนนี้ขจรวรรณก็ไม่มีอาการกลัวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว และบางทีก็ไม่คิดว่าเป็นความฝันแต่เป็นสถานการณ์จริงที่เราเผชิญเลยค่ะ เมื่ออาทิตย์ก่อนในภาวะกายหลับจิตตื่นเข้าใจว่าตัวเราโทรศัพท์ไปคุยกับอาจารย์พลังยูเรอัสยาวเลย แต่พอตื่นขึ้นก็พึ่งรู้ว่าตัวเองฝันไปน่ะค่ะ.. นั่งงงอยู่ตั้งนานแน่ะ..^_^
    :z4;aa34
     
  20. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    โห..คุณขจรวรรณ โดนกระชากโดนเหวี่ยงมาหนักเหมือนกันนะครับ!
    อาการวูปเวลานอนหลับจนทำให้เราตกใจตื่น
    หรือบางขณะในการทำสมาธินี่เคยเป็นเหมือนกันครับ ..
    เหมือนว่าเรายืนบนหน้าผากำลังจะดิ่งลงมาสู่หุบเหวลึกๆ รู้สึกใจหายครับ
    หรือภาวะที่คุณเซลล์บอกว่าไปวูปสู่ความว่าง..น่าจะเป็นความรู้สึกเดียวกันนะครับ

    เป็นเพราะเราใช้ประสาทสัมผัสภายนอกจนเคยชินมาตลอดทั้งวัน จนรู้สึกกลัวว่าจิตเราจะไม่ปลอดภัยเวลาเข้าไปสู่มิติที่ไร้ "เครื่องพราง" ใจเราปรุงแต่งความกลัวขึ้นมาเองน่ะครับ มิติของจิตวิญาณเป็นมิติที่ดูลึกลับ แต่แท้จริงเป็นธรรมชาติที่น่าค้นหาครับ เพราะ "เราเป็นจิตวิญญาณที่มาเรียนรู้ความเป็นมนุษย์ - ไม่ใช่มนุษย์ที่มาเรียนรู้เรื่องจิตวิญญาณ" อาจารย์อนาลัยกล่าวไว้ครับ ประโยคนี้ทำให้มุมมองผมเปลื่ยนไปเยอะครับ..ความกลัวหายไปเลยกับข้อความนี้..หลังๆเลยไม่ค่อยเจออะไรที่น่ากลัว คงเพราะความเชื่อเปลี่ยนไป..จึงเริ่มรู้ทันครับ อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...