เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ต้องขอขอบคุณท่านเช่นกัน..ท่านเซลล์ สำหรับของขวัญที่ให้
    เป็นชิ้นแรก ที่ได้รับในปีนี้ เลยนะนั่น

    เดี๋ยวจะเอามาแบ่งปันเพื่อนๆเช่นกัน ขอเวลาถอดเทปก่อน
    ไม่สามารถ แปลงไฟล์ แบบของ Falky ได้
    แบ่บว่า...อุปกรณ์ที่ฟังได้ ต้องเข้าไปฟังในรถอะ
    ขับไปฟังไป ไม่ได้ เดี๋ยวหลุดมิติ ละยุ่งเรยยย อิอิอิ

    แล้วยังมี ของขวัญสวยๆน่ารักๆ จากฝีมือ เจ้าลูกเกดน้อย อีก
    เดี๋ยวจาเอามาโพทนา ให้ดู...อิอิอิ
    ปีนี้ รู้สึกว่าวันคล้ายวันเกิด มันพิเศษ ยังงัยไม่รู้
    ....ฮือออ อ อ ซึ้งใจเจงๆ

    Love You All ....My Dear Friend
     
  2. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    วันนั้นพาเดิน TCDC คุ้มดีจริงๆ ตอนแรกนึกว่าจะเดินดูแค่ชม.เดียว ไปๆ มาๆ อยู่ตั้ง 3 ชม.
     
  3. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ช่วงออกพรรษานี้ไปยกระดับจิตวิญญาณกับทริปทอดกฐินกับกลุ่มอาจารย์คณานันท์มาได้กำไรมาหลายอย่าง ได้เข้าใจความหมายของความฝันว่า กระเป๋าที่เราถือนี้ใบเล็กนิดเดียว แต่เรามีกระเป๋าใบใหญ่ที่ลืมไว้ที่พระเจดีย์ เข้าใจความหมายชัดเจนแล้ว

    เอาบุญมาฝากเพื่อน ๆทุก ๆคนด้วยค่ะ

    รักเหมือนเดิม

    จินตวดี
     
  4. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสมาธิจริง ๆ สมาธิกับปัญญาเป็นของคู่กัน วันสุดท้ายของทริปนอนไม่ได้เลย เพราะอยู่ ๆ มองเห็นภาพที่กลางหน้าผากอย่างชัดเจน เป็นหลาย เหตุการณ์ประเดประดังเข้ามาพร้อมกันทั้งหมดจนจิตไม่สงบ ภาพในอดีต และหลายเส้นทางผ่านเข้ามาพร้อมกันถ้าจดจ่อภาพใดพร้อมที่จะดึงเราไปสุ่เส้นทางนั้นในทันที เกิดอาการกระสับกระส่ายมาก ๆ โชคดีได้คุณพระช่วยคุมสติให้ด้วยเลยหลับได้ เพราะตอนนั้น น้อง ณ.รู้ถึงวาระจิตเราดี ได้ตะโกนออกมา (ขณะทุกคนหลับหมด) ว่า "ให้อยู่กับพระ" เราจึงสงบระงับลงได้โดยกลางหน้าผากปรากฏเป็นแสงสีทองเข้ามาบดบังภาพที่ปรากฏแทน ทำให้หลับได้

    จิตมันรับของเก่าได้แล้วระลึกได้แล้วเห็นภาพชัดขึ้น แต่ยังคุมจิตไม่ได้ ยังคุมสติไม่ได้ โชคดีที่สิ่งศักดิสิทธิมาช่วยไม่งั้น แย่เหมือนกัน
     
  5. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ขออนุโมทนา กับคุณจินตวดี ด้วยค่ะ
    เป็นอะไรที่ดีมากๆ เลย ที่มีโอกาสได้ไปฝึกฝนและพัฒนา สมาธิ
    ตอนนี้ เดรด ไม่ค่อยได้ฝึกฝน เลยค่ะ...
    ไม่อยากอ้างว่างานยุ่งเลย
    เรา คงละเลยเองแหล่ะ...เฮ้อ!!...เลยฝันมั่ว ชะมัด!!!
     
  6. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    เมื่อคืน มีฝันค่ะ ฝันว่า...
    ถึงวันงานฌาปณกิจ คุณแม่ ของพี่นักเขียน
    แต่มีพวกเราไปกัน ไม่กี่คนเอง รู้สึกโหวงเหวงมาก
    แล้ว มีความจำเป็นต้องเข้าห้องน้ำ ก็เจอแต่ห้องไม่สะอาด
    ไม่สามารถเข้าได้...เลย ในฝัน มันค้างคาไงไม่รู้

    ตอนนี้ เข้าใจแล้วว่า คงเป็นภาวะจิตเราเอง
    ห้องวิทย์ฯเรา ตอนนี้ เงียบๆ หายๆ กันไป
    เรื่องห้องน้ำ น่าจะหมายถึงความไม่สะดวก บางประการ

    จริงๆมีเรื่องราวเยอะแยะ ที่พี่นักเขียน พูดคุย กับพวกเราในวันนั้น
    เดรดพยายามเรียบเรียง เอาเฉพาะคำถามตัวเองละกันนะค่ะ

    เดรดถามเรื่องความฝัน..
    เคยมีความฝันบางอย่างที่เราชอบฝันซ้ำๆ ซึ่งพี่นักเขียนบอกว่า มันเป็นปัญหาคาใจ
    หรือสิ่งที่เรายังไม่เข้าใจ แต่หลายๆเรื่อง ที่ถูกคลี่คลายไปแล้ว ก็จะไม่ฝันอีก
    ที่นี้..ช่วงหลัง เดรดฝันเรื่อง จะต้องอาบน้ำ หรือเปลี่ยนเสื้อผ้า
    ห้องน้ำ ก็มัก โปร่งใส เห็นไปถึงไหนๆ หรือบางที มีแต่เสา ไม่มีผนังเฉยเลย
    แล้วมันจะเป็นห้องน้ำไปได้ยังไง(แต่ในฝัน มันคือห้องน้ำอะ...แป่ว)

    หรือบางทีเป็นห้องนอน หรือห้องส่วนตัว ก็ว่างโล่งซะงั้น มีปิดด้านเดียวบ้าง
    สองด้านบ้าง แต่ก็โล่งโจ้งอยู่ดี...เราก็สงสัยว่า มันหมายถึงอะไร

    พี่นักเขียน บอกว่า
    ความฝัน เป็นโลกต่างมิติ ที่ปราศจาก ช่องว่าง กาลเวลา และเครื่องพราง
    โลกของความฝัน ไม่มีความลับ ไม่มีอะไรปกปิดได้
    สิ่งใดๆที่เกิดขึ้น สามารถรับรู้ และถูกรับรู้ได้เสมอ ไม่มีรอดพ้น
    อยู่ที่ว่า เราจะเข้าไปเก็บเกี่ยวข้อมูลเหล่านั้น ได้เอง แค่ไหน

    เลยถึงบางอ้อ...
    มิน่า ทำไมบางที่เราไปรับรู้เรื่องราวบางอย่างเอง ทั้งๆที่ไม่มีใครมาบอก
    โลกของจิตวิญญาณ ไม่มีความลับ ถึงว่าพี่นักเขียนเคยบอกว่า

    "จิตมนุษย์นั้นแท้จริง หยั่งถึง..."

    จบ 1 คำถาม
     
  7. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    คำถามที่ 2
    (จริงๆ มันได้เรียงกันเป็นลำดับแบบนี้หรอกค่ะ ต่างคน ต่างถามสลับกันไป)

    พี่นักเขียน เล่าให้ฟังเรื่องภวังค์สมาธิ
    ที่ว่าจะมีภาวะหนึ่ง(เรียกไม่ถูกค่ะ ประมาณนี้) ที่พี่นักเขียน อยู่กับความว่าง ไม่มีอะไร
    มันจะนิ่งเงียบ มืดๆ ดำๆ ละแล้วจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 ทั้งหมด
    (ต่อจากนี้ไม่ขออธิบาย เดี๋ยวผิด)

    ตรงนี้ คำถามคือ เดรดเคยเข้าไปตรงดำๆ มืดๆ นี่แหล่ะ แต่มันไม่นิ่ง
    มันเหมือนมี อะไรวูบดับ วูบดับ
    พี่นักเขียนถามว่า เหมือนโยนหินลงน้ำใช่ไหม บุ๊ง!! แล้วเป็นวงกระเพื่อมออก
    เดรดบอกใช่เลย พี่นักเขียนบอกว่า มันคือการเคลื่อนที่ของอารมณ์
    การกระเพื่อม แต่มันคงที่ เลยเป็นจังหวะ สม่ำเสมอ

    พี่เค้าบอกว่า แสดงว่า จิตยังไม่นิ่ง ให้ละออกจากตรงนั้น อย่าไปสนใจ
    ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ เอาแต่ดูๆๆ...เพลินเชียว
    พี่เค้าบอกว่า ระวังเพลินไปก็จะติดสุข อยู่ตรงนั้น ไม่ไปไหน...

    ตอนนี้ มีท่าน mead และท่าน Falky อยู่ด้วย
    หากข้าพเจ้า รับฟังอะไรมาผิด หรือเข้าใจบิดเบือน มาแย้งกันด้วยนา
    เพราะ อธิบายออกมาเป็นคำพูดยากจัง

    จบ...
     
  8. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    คำถามสุดท้าย

    เดรดถามพี่เค้า เรื่องตัวเองได้ยินเสียงกรน(อิอิ)ของตัวเอง
    แบ่บว่า ไม่ใช้ ครืดคราดๆ ขนาดนั้นนา เป็นกุนสตรี กรนขนาดนั้น หล่ะแย่เรย
    แบบเป็นเสียงหายใจลึกๆ สม่ำเสมอ หน่ะค่ะ

    แรกๆ ก็ตกใจว่า ใครมากรนเนี่ย คนจะหลับจะนอน ไม่มีมารยาท
    ก็มานึกได้ว่า นอนคนเดียวนี่หว่า เลยตกใจตื่นเต็มที่ ฟาวล์เลย
    หลังๆ รู้แล้ว พอได้ยิน ก็ขำๆๆ...ได้ยินอีกแระ ก็ขำอยู่นั้น
    แต่ไม่ได้หัวเราะออกมานะ ได้แต่นอนดูไปจนหลับ

    พี่นักเขียนบอกว่า นั่นแหล่ะ มันไปอีกระดับของสติ
    แสดงว่าเราประคองสติ จนสามารถละประสาทสัมผัส ได้เกือบหมดแล้ว
    เหลือแต่หู คราวหลังถ้าเป็นอีก พี่นักเขียนบอกให้ ละไป อย่าไปสนใจ
    แล้วเข้าข้างในเลย เข้ามาดูอารมณ์ มันจะก้าวล่วงเข้าความฝันอย่างมีสติ
    อันนี้สำคัญนะ จะประคองสติสัมปชัญญะได้ ไม่ใช่หลับแล้วหลับเลย

    เมื่อปิดประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้ จะเหลือแต่สติสัมปชัญญะ
    ที่นี่แหล่ะ โลกต่างมิติก็เปิดให้เข้าไปท่องเที่ยว แบบชัดแจ๋วเชียว

    หมดแระ....ใครมีอะไรจะเล่า ก็มาเล่าเด้อ
    ความรู้ที่เป็นประโยชน์ทั้งนั้นเลยวันนั้นหน่ะ
     
  9. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    ตอนนี้กำลังจะฟอร์แมตเครื่องอยู่ เลยใช้อีกเครื่อง
    เครื่องเก่าโดนพวก spyware แป่วมาก ช้ามากทำงานไม่ได้เลย :'(
     
  10. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    ตอนไปงานศพคุณแม่ของพี่นักเขียน พี่เค้าเล่าถึงเรื่องก่อนที่คุณแม่จะไป
    แล้วพี่นักเขียนเอา iPod ของหนังสือพี่นักเขียนให้คุณแม่ฟังไป 9 ชั่วโมงได้มั้ง
    แล้วเห็นความดันของคุณแม่ดิ่งลง (พี่นักเขียนเคยบันทึกไว้ว่าถ้าลง ตัวบน ตัวล่าง เท่าไหร่ คือ ได้ฌานไหน) แบบว่า รายละเอียดจำไม่ค่อยได้นะ

    เดี๋ยวรอพี่เค้ามาเล่าดีกว่า น่าสนใจมากจริงๆ นะ

    พี่เค้าจะแต่งเป็นหนังสือ สำหรับงานเผาคุณแม่ของพี่เค้าด้วย รออ่านกันนะ
     
  11. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    Saint Roch

    [​IMG]

    ที่เคยเล่าให้ฟัง ตอนที่พวกเราอยู่งานศพคุณแม่พี่นักเขียน
    ว่า คุณยาย ของ Falkman เมื่อก่อนตอนท่านสาวๆ ไฟไหม้ครัว แล้วก็มีคนมาปลุก เป็นฝรั่งเหมือนรูปปั้น St. Roch ที่มีอยู่ ถือไม้เท้าเหมือนกัน เอาไม้เท้ามาเขี่ยให้ตื่น แล้วเอาไม้เท้าชี้ไปที่ครัว คุณยายตื่นมาดับไฟทัน
    (คุณยายนับถือ ทั้งพุทธและคริสต์ คุณพ่อคุณยายเป็นฝรั่งชาวโปรตุเกส นับถือคาทอลิก อิอิ)

    เคยไปอ่าน ประวัติ St.Roch. เห็นว่าท่านเป็น saint ทางรักษาโรคต่างๆ
    (แต่หาไม่เจอแระ ว่าไปอ่านจากไหนมา)

    ทำนองเดียวกันคุณพ่อของ Falkman ก็เคยเห็นเทวดา
    พ่อบอกว่านอนหลับอยู่ มีเทวดาแต่งตัวระยิบระยับ สว่างมาก ประดับด้วยเพชรสวยสว่างมาก (เคยถามพ่อบอกว่า นึกถึงเครื่องแต่งตัวของพวกลิเก) พ่อบอกว่า เทวดามาปลุก ทีแรกไม่ยอมตื่น เทวดาก็ยืนอยู่ตรงนั้น ปลุกจนตื่น แล้วชี้ไปที่ครัวบอกว่า ไฟไหม้ครัว

    สองกรณี เป็นแบบเดียวกันเลย แต่คนที่มาปลุกต่างกัน
    พี่นักเขียนบอกว่า ต้องแสดงตัวต่างกันตามที่เราเชื่อหรือนับถือ เราจะได้รู้จักเค้าว่าเป็นใคร (พูดไม่ถูกอ่ะ) แป่ว
     
  12. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    หนุกม๊ะ เอาอีกม๊ะ :cool:
     
  13. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    หนุกๆๆ...เอาอีก:cool:

    วันนั้น Falkman พูดเก่ง ถามเก่ง (ไม่เคยเห็น ตะเองเป็นเช่นนี้มาก่อนเรย)
    มีอะไรดีๆอีกเยอะ...เล่ามาให้หมดซะดีๆ...
     
  14. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    ได้ๆ ระหว่างรอ backup เครื่องโน๊ตบุ๊คอีกเครื่อง (เพื่อจะลง windows ใหม่) จะเล่าไปพลางๆ อิอิ
    :boo:
     
  15. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    เรื่องมีอยู่ว่า (อ๊ะแฮ่ม ขอเก๊กเสียงหน่อย) อิอิ

    เอาเท่าที่จำได้นะ เอาเรื่องนี้ก่อน (ถ้าอย่างไรอยากให้พี่นักเขียนมาเสริมอีกอ่ะจ้า)

    คือ ถามพี่นักเขียนว่า ช่วงนี้จะเห็นสภาวะจิตอย่างหนึ่ง คือ ตอนนั่งสมาธิ จะเห็นช่วงที่จิตมันลงไปอยู่อีกมิติ หรือ หรือลงไปในความคิดซึ่งเหมือนความจริงมาก หรือ ลงไปในความฝัน จะเห็นได้ชัดมากๆ

    คือว่า พอนั่งสมาธิไปสักพัก พอเริ่มสงบบางทีจะเห็นมันไหลเข้าไป อีกมิติ (ขอเรียกว่าอีกมิติแล้วกันนะ) แล้วมันจะเหมือนกับแคบๆ ค่อยๆ เข้าไปอีกมิติแบบเนียนๆ :boo:(เหมือนกับคำว่า Boo ในemoผี คือ เล็กๆ แล้วค่อยมาใหญ่ อาจต้องจินตนาการหน่อยนะ อิอิ) อยากวาดรูปประกอบด้วยอ่ะ

    พี่นักเขียนบอกว่า พี่เข้าใจที่อ๋อบอกว่าเนียน แล้วเข้าไปเล็กๆ พี่ขอใช้ว่าเหมือนรูเข็ม เข้าไปเหมือนกับตัวเราจะเข้าไปไม่ได้ แต่ก็เข้าได้แล้วมันค่อยๆ ใหญ่ขึ้น แบบเนียนๆ พี่นักเขียนบอกว่าเคยคุยกับพี่หน่อง (สามีพี่นักเขียน) ว่าอย่างนี้คือ การที่ฌานสาม เข้า ฌานสี่ (ถ้าผิดอย่างไรขอให้พี่นักเขียนช่วยมาแก้ไขแล้วกัน)

    คือ ถ้าเลยจากนี้แล้ว จะเป็นความสงบ บางคนหรือบางสำนัก ก็จะคิดว่าเอาแค่ตรงนั้น เพราะความสงบมันจะมีความสุขมาก เหมือนกับไม่มีอะไรมากระทบ (เลยบอกพี่นักเขียนว่า หลวงพ่อปราโมทย์เคยบอกว่า หลายๆ คนที่ปฏิบัติไปนานๆ แล้วจะไปติดตรงนี ลพ เรียกว่า ติดความว่าง คือ จะสบายไม่มีอะไรมากระทบ มีแต่ความสงบสุข พี่นักเขียนบอกว่า ใช่)

    แต่จริงๆ สภาวะที่ว่า (ฌานสามขึ้นฌานสี่เนียะ) พี่นักเขียนบอกว่า เหมาะสำหรับการพิจารณาสภาวะธรรม จะเห็นสภาวะธรรมได้ชัดเจนตรงนี้ ถ้าเลยฌานสี่ไป ส่วนมากก็จะเป็นอภิญญาเสียมากกว่า (ได้แต่ฤทธิ์แต่ไม่พ้นทุกข์นะจ๊ะ อันนี้เสริมเอง อิอิ)

    เลยบอกพี่นักเขียนว่า จะมีเป็นช่วงๆ ระหว่างเวลาหลับ บางทีเหมือนหลงเข้าไปอีกมิติหนึ่ง แล้วจะตื่นมาเวลาเดียวกันเกือบทุกวัน (พูดไม่ค่อยถูกอ่ะจ้า)
    แต่เห็นไอ้สภาวะที่เข้าไปอีกมิติ (ใช้คำนี้แล้วกันนะ) เหมือนก่อนหลับจะเข้าไปฝัน ถ้ามีสติพอมันจะเห็นตรงที่มันไหลเข้าไปเนี่ยะ หรือ เวลานั่งมาธิจะเห็นเวลามันจะไหลเข้าไปในความคิด (ซึ่งเนียนมากๆ)

    จบแระ

    จริงๆ อยากให้พี่นักเขียนมาอธิบายเรื่องนี้ด้วยตนเอง เพราะว่าจะเป็นประโยชน์มากกับทุกๆ คน โดยเฉพาะผู้ที่ปฏิบัติธรรม :cool:
     
  16. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    มีอีกเรื่อง เอาย่อๆ นะ
    คือว่า ตอนที่พี่นักเขียนเล่าถึงเรื่องพาคุณแม่ ไปอีกภพภูมิ คือ พี่นักเขียนเคยขอ อจ อนาลัย ให้แนะทางที่จะไปภพภูมิใหม่ให้คุณแม่ แต่ว่าพี่นักเขียนเป็นคนพาไป เลยสงสัยมาก ถามพี่นักเขียนว่า แล้วไปอย่างไร รู้ได้อย่างไรต้องไปทางไหน ทางซ้าย ทางขวา หรือ มีจุดหมายอะไร มีไฟส่องข้างหน้าแล้วเดินตามไปเหร๋อ (คือ สงสัย แล้วถ้าเป็นไปได้จะได้เอามาใช้บ้าง)

    กลางคืนเลยฝันเห็นอจ อนาลัยเลย ท่านใส่ชุดขาว มายืนข้างพี่นักเขียน แต่ว่าไม่ได้พูดอะไรกับท่านหรอก แต่เหมือนกับเข้าใจกันด้วยจิต แล้วเหมือนท่านบอกว่า ท่านคือ อจ อนาลัย ท่านก็อธิบาย ถึงว่าที่เราสงสัยว่าจะไปได้อย่างไร ท่านก็บอกคล้ายๆ ว่า จริงๆ ที่เราอยู่มันเป็นที่กว้าง ขอเรียกว่า space แล้วกัน แล้วจิตวิญญาณเราก็ล่องลอยไป (ตอนฝันเข้าใจนะ ถึงว่าทำไมพี่นักเขียนถึงพูดมาเป็นคำพูดลำบาก เลยอ๋อๆๆๆๆๆ อย่างนี้เอง คือ เราเข้าใจของเราแต่จะพูดให้คนอื่นเข้าใจก็ลำบาก)

    เช้ามาเลยไปเล่าให้พี่นักเขียนฟัง พี่นักเขียนบอกว่า ใช่แล้ว เราอยู่ใน space จิตวิญญาณ ล่องลอยไปในนี้ มีเกิดดับ เกิดดับ หาสาระอะไรไมได้เลย
    (โดนใจมากขอบอก)

    จบแระ
     
  17. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    อีกเรื่อง
    ตอนที่พี่นักเขียนถึง หน้าที่ของจิต มีสามประการ เลยรู้สึกสะกิดใจขึ้นมา แต่จำไม่ได้ เลยถามๆ กันในกลุ่ม แต่ก็ไม่มีใครแน่ใจ เลยถามพี่นักเขียนอีกที

    หน้าที่ คือ (อาจใช้คำพูดไม่เหมือนนะ)
    1) ประสานกับกาย ให้กายมีชีวิตได้ในปัจจุบัน (เรียกว่า รู้กายป่าวหว่า)
    2) รู้ปัจจุบัน
    3) ทำหน้าที่ประสานกับมิติอื่นๆ

    จำได้แค่นี้แหล่ะ แต่ว่าใครช่วยเกลาภาษาให้ทีนะ
     
  18. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    รอบรรยายสรุปตั้งนาน จากท่านที่ไปสนทนากับพี่นักเขียน

    ขอบคุณครับ คุณ dred คุณ falky ที่มาแชร์ให้ฟัง มีประโยชน์มากๆเลย

    เรื่องเกลาภาษา เกลาสำนวน ต้องใช้ยาหม่องมะเดรด ช่วยให้หายคันได้เป็นปลิดทิ้ง อิอิ..

    อนุโทนากับคุณจินต์ด้วยนะครับ

    การฝึกสติ สัมปชัญญะ ให้อยู่ในปัจจุบันขณะได้ต่อเนื่อง มีประโยชน์มากๆเลยนะครับ

    ตื่นก็ ตื่นอย่างมีสติ หลับก็หลับอย่างมีสติ

    ในช่วงการฝัน มันจะเปลี่ยนแปลงคลื่นความถี่ คลื่นสมองหลายช่วงมากๆ หากจับจังหวะได้คล่อง ในช่วงที่ปิดประสาทสัมผัสทั้ง 5 ไปแล้ว แต่ก็แค่รู้สึกว่ามีกาย แต่กายไม่ส่งผลมารบกวน (ไม่รู้ว่าช่วงนี้ เรียกว่าอะไรเหมือนกัน)

    หากวางคำถามไปแล้ว จะได้รับคำตอบทันที เป็นการสนทนาโต้ตอบกัน โต้ตอบกับตัวเราเอง แต่ต่างกันที่ภูมิปัญญาที่ไม่เหมือนกัน ตื่นมาอาจจะงงๆว่า เราทราบได้อย่างไร
    แต่จริงๆแล้ว ก็คือตัวเราเองนะแหละที่เป็นผู้ตอบ

    อย่างที่พี่นักเขียนจะเน้นย้ำเสมอๆว่า พวกเราอ่านหนังสือเล่มนี้จบทั้งชุดแล้ว ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม

    เป็นบทสนทนาสั้นๆ ที่จดจำมาได้บางส่วนครับ เนื่องจากสติสัมปชัญญะยังไม่เต็มที่เท่าไหร่

    p2 : ทิศทางพายุ ทำไมถึงเบี่ยงเบนไปได้
    p1 : เธอต้องทำความเข้าใจก่อนว่า พายุที่เกิดนั้น โดยธรรมชาติของตัวมันเอง จะไม่เข้าสู่แผ่นดิน และสร้างให้เกิดความเสียหาย
    p2 : แต่ที่เห็น ดูจะไม่เป็นอย่างนั้น
    p1 : ทิศทางการเกิด ของมัน โดยปกติจะมีทิศทางที่แน่นอนที่ถูกกำหนดไว้อยู่แล้ว
    (มีภาพประกอบ mark เป็นจุดๆ และก็วิ่งผ่านไปลงมหาสมุทรที่กำหนดไว้แล้ว)
    p2 : จุดที่ mark ไว้ เหมือนกับแม่เหล็ก ที่คอยดูดเข้ามาเลย
    p2 : ถ้าเป็นเช่นนั้น ทำไมถึงวิ่งเข้าแผ่นดินหละ
    p1 : ก็เพราะเราใช้จิตสำนึกเบี่ยงเบนจุดนั้น ให้กลายสภาพเป็นแม่เหล็กดูดหนะซิ (การขาดสมดุลของพลังงาน)
    p2 : แล้วจะแก้ไขยังไงหละ
    p1 : ใช้ความรักงัย ใส่เข้าไปตรงใจกลางพายุนั้นแหละ
     
  19. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    รอบรรยายสรุปตั้งนาน จากท่านที่ไปสนทนากับพี่นักเขียน

    ขอบคุณครับ คุณ dred คุณ falky ที่มาแชร์ให้ฟัง มีประโยชน์มากๆเลย

    เรื่องเกลาภาษา เกลาสำนวน ต้องใช้ยาหม่องมะเดรด ช่วยให้หายคันได้เป็นปลิดทิ้ง อิอิ..

    อนุโทนากับคุณจินต์ด้วยนะครับ

    การฝึกสติ สัมปชัญญะ ให้อยู่ในปัจจุบันขณะได้ต่อเนื่อง มีประโยชน์มากๆเลยนะครับ

    ตื่นก็ ตื่นอย่างมีสติ หลับก็หลับอย่างมีสติ

    ในช่วงการฝัน มันจะเปลี่ยนแปลงคลื่นความถี่ คลื่นสมองหลายช่วงมากๆ หากจับจังหวะได้คล่อง ในช่วงที่ปิดประสาทสัมผัสทั้ง 5 ไปแล้ว แต่ก็แค่รู้สึกว่ามีกาย แต่กายไม่ส่งผลมารบกวน (ไม่รู้ว่าช่วงนี้ เรียกว่าอะไรเหมือนกัน)

    หากวางคำถามไปแล้ว จะได้รับคำตอบทันที เป็นการสนทนาโต้ตอบกัน โต้ตอบกับตัวเราเอง แต่ต่างกันที่ภูมิปัญญาที่ไม่เหมือนกัน ตื่นมาอาจจะงงๆว่า เราทราบได้อย่างไร
    แต่จริงๆแล้ว ก็คือตัวเราเองนะแหละที่เป็นผู้ตอบ

    อย่างที่พี่นักเขียนจะเน้นย้ำเสมอๆว่า พวกเราอ่านหนังสือเล่มนี้จบทั้งชุดแล้ว ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม

    เป็นบทสนทนาสั้นๆ ที่จดจำมาได้บางส่วนครับ เนื่องจากสติสัมปชัญญะยังไม่เต็มที่เท่าไหร่

    p2 : ทิศทางพายุ ทำไมถึงเบี่ยงเบนไปได้
    p1 : เธอต้องทำความเข้าใจก่อนว่า พายุที่เกิดนั้น โดยธรรมชาติของตัวมันเอง จะไม่เข้าสู่แผ่นดิน และสร้างให้เกิดความเสียหาย
    p2 : แต่ที่เห็น ดูจะไม่เป็นอย่างนั้น
    p1 : ทิศทางการเกิด ของมัน โดยปกติจะมีทิศทางที่แน่นอนที่ถูกกำหนดไว้อยู่แล้ว
    (มีภาพประกอบ mark เป็นจุดๆ และก็วิ่งผ่านไปลงมหาสมุทรที่กำหนดไว้แล้ว)
    p2 : จุดที่ mark ไว้ เหมือนกับแม่เหล็ก ที่คอยดูดเข้ามาเลย
    p2 : ถ้าเป็นเช่นนั้น ทำไมถึงวิ่งเข้าแผ่นดินหละ
    p1 : ก็เพราะเราใช้จิตสำนึกเบี่ยงเบนจุดนั้น ให้กลายสภาพเป็นแม่เหล็กดูดหนะซิ (การขาดสมดุลของพลังงาน)
    p2 : แล้วจะแก้ไขยังไงหละ
    p1 : ใช้ความรักงัย ใส่เข้าไปตรงใจกลางพายุนั้นแหละ
     
  20. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    แจ่มมาก Falky เก็บตกสาระ สำคัญๆ ได้เกือบหมด



    ส่วนอันนี้ ไม่แน่ใจเหมือนกัน มาลองค้นดูในหนังสือ เจอแต่ อันนี้
    ไม่แน่ใจว่า ใช่ป่าว แต่ไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร อ่านอีกที ก็ได้...ยิ่งอ่านก็ยิ่งเก๊ท

    ------------------------------------------------------------------------------
    ตามความเป็นจริงแล้วจิตวิญญาณซึ่งมาถือกำเหนิดในร่างกายตัวตนทางกายภาพของเธอพร้อมด้วยบุคลิกภาพไม่มีการแบ่งแยก แต่เพื่อทำให้เธอเข้าใจได้ง่ายขึ้น ฉันจะแบ่งแยกสติสัมปชัญญะของเธอออกเป็นสามส่วนตามหน้าที่ของมัน

    ๑.สติสัมปชัญญะส่วนที่จดจ่อกับโลกภายใน
    สติสัมปชัญญะนี้จดจ่อกับโลกภายในและ"ตัวตนภายใน"
    ซึ่งพวกเธอบางคนเรียกกันว่า "กายใน"แต่ฉันขอเรียกว่า "ตัวตนภายใน"
    เพราะ"กายใน" ในความหมายของพวกเธอยังคลาดเคลื่อนจากธรรมชาติ
    และความเป็นจริงอยู่มาก โลกภายในเป็นโลกแห่งความฝันอันสร้างสรรค์"ตัวตนภายใน"
    ประกอบด้วยหน่วยย่อยของสติสัมปชัญญะ
    ที่มีสติรู้ถึงพลังงานที่แปลงสภาวะเป็นสสารอันเป็นร่างกายตัวตนของเธอ
    และของบรรพบุรุษเธอ...อ่านต่อ หน้า 11-12-->> Bk2_chap2_p11

    ๒.สติสัมปชัญญะส่วนที่จดจ่อกับรูปกายหรือร่างกาย
    ก่อนหน้านี้สติสัมปชัญญะส่วนนี้
    คุ้นเคยกับการจดจ่อกับสภาพแวดล้อมภายในมาก่อน
    รูปกายตัวตนก่อเกิดจากการรวมตัวกันของหน่วยย่อยของพลังงาน
    อันเป็นประจุแม่เหล็กไฟฟ้า
    จากภาวะของการเป็นอะตอม-เซลล์-โมเลกุล-อวัยวะ-ระบบอวัยวะ-ร่างกายตัวตน...อ่านต่อ หน้าที่ 13-15-->> Bk2_chap2_p13

    ๓.สติสัมปชัญญะส่วนที่จดจ่อกับโลกภายนอก
    สติสัมปชัญญะส่วนที่จดจ่อกับโลกภายนอกอันเป็นกายภาพ
    เป็นสติสัมปชัญญะส่วนที่ทำให้จิตวิญญาณสามารถมีอยู่เป็นอยู่ดำเนินไปในโลกทางกายภาพ
    พร้อมด้วยตัวตนที่มีร่างกายเนื้อหนังอันเป็นกายภาพภายใต้สภาวะแวดล้อมที่เป็นกายภาพได้
    หากปราศจากสติสัมปชัญญะส่วนที่จดจ่อกับโลกภายนอก
    จิตวิญญาณจะคงสภาพอยู่ในโลกมนุษย์ไม่ได้ เพราะตามธรรมชาติแล้ว
    จิตวิญญาณจดจ่อกับสภาวะใด จิตวิญญาณจะมีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปในสภาวะนั้น
    อย่างไม่มีข้อยกเว้น

    ตัวตนที่จดจ่อต่อโลกภายนอกเป็นตัวตนพร้อมด้วยสติสัมปชัญญะ
    -ซึ่งเป็นตัวตนที่เธอคิดว่า-เป็นของเธอ-คือเธอ
    ฉันเรียกตัวตนนี้ว่า "ตัวตนภายนอก"

    จากหนังสือ ความฝันกับวิธีแห่งจิตวิญญาณ
    บทที่ 2 สติสัมปชัญญะของนักฝัน
    ------------------------------------------------------------------------------
    ไม่รู้จะเกลา ยังไง เพราะไม่แน่ใจว่าจะใช่ เรื่องนี้หรือเปล่า
    อันที่3 ของ Falky จำได้เลาๆว่า พี่นักเขียน บอกว่าอดีต หรืออนาคต เนี่ยแหล่ะ
    ซึ่งจะเรียกว่า มิติอื่น ก็ย่อมได้Falky พูดอีก ก็ถูก อีก ...
    ไม่ต้องเกลาแล้ว เข้าใจใคร เข้าใจมันจ้า...อิอิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...