เพราะอะไรขันธ์ถึงคิดตลอดเวลา

ชื่อตามไอดี ของท่าน

ชื่อ ก็บอกอยู่แล้ว ว่าติด ธรรมารมณ์ ติด วิญญาณปรุงแต่ง..

ของเก่าที่มีในอดีต มันอยู่ครึ่งทางแล้ว..

 

ที่กล่าวว่าไม่ทันความคิดคือเห็นมันฟุ้งๆ แต่มันไม่ชัดว่าเรื่องอะไร
ผมเลยเข้าใจว่าผมไม่ทันความคิด หรือผมตั้งใจไปเจตนาครับ

 

ท่านเล่าปัง ท่านแนะนำต่อเลย..

เราจะคอยตามอ่าน..

 

แต่ถ้า .....

รู้แบบนี้ได้บ่อยๆ จะไม่ใช่ รู้ทันความคิด แล้ว

อินทรียภาวนา มันเกิน

อินทรียภาวนาเกิด ต้อง ยกใหม่

ยกอาการ รู้อนิจจัง นั้นเป็น สภาวะธรรมอย่างหนึ่ง

เป็น กองสัญญา

แล้ว ตามเห็น อาการสัญญาระลึกสภาพอนิจจังของ สังขาร
เป็น อนุปัสสนา แทนการเห็น สังขาร

เรียก ตามเห็น อนิจสัญญา เกิด แล้ว ก็ดับ แทน

ซึ่ง การทำให้มากซึ่ง การตามเห็น อนิจสัญญา จะทำให้
ได้ "ชวนปัญญา"

คือ เห็น อนิจจสัญญา ได้ บ่อยขึ้น ถี่ขึ้น ( จะกลับไป
ย้อนดู ความคิดดับไม่ได้แล้ว มันหยาบเกิด ฝีมือ
ในการ ภาวนา ...ปัญญินทรีย์มันกล้าไป หาก ผ่อน
เป็น หรือ ทำปัญญาให้ทุรพลเป็น ก็จะ สว่าง ว๊าบ
แบบ พวก สมถยานิก แล้วไปเล่น ฌาณจิต ได้
แต่ไม่แนะนำ เจริญปัญญา สำคัญกว่า )

เมื่อ ชวนปัญญา มีมากๆ เห็น อนิจสัญญาดับ ดับ ดับ
ก็จะค่อยเกิด ขิตปัญญา* (บาลีเขียนถูกเป่า มะรู้) พอ
ได้ตัวนี้ ถึงจะ เย็นนนนนนนอก หวั่นไหวใจ จนหลวง
พ่อเยื้อขันติพะโล ชำเรือง แล้วพา ไปกินน้ำเย็น เพื่อ
ตรวจสอบ

หลังจากนี้ จะไม่ต้องฟังธรรมใดๆ อีก

จะภาวนาด้วยตนเอง ผู้เดียว แม้นปริยัติใดๆ ก็ทำ
ให้ เอ๊อะ อะ อะไรไม่ได้อีกแล้ว เป็น อนัตตาธรรม
ไปแล้ว เริ่มตกกระแส หรือ พาดกระแส

หาก ภาวนาเหยาะๆ แหยะๆ ก็ สองแสนกัป นับไป

 

มหา ห่ม หนังเสือ

ไอ้ที่ ก๊อปปี้เอาไว้ใน มือถือ มันไม่เคยพอ

 

ไม่ต้อง ไล่เรื่อง ที่คิด

การเห็น สภาวะจิตคิด คือ เห็นมัน เคลื่อนไปคิด
ยิบๆ ยับๆ หลายเรื่อง

พูดตาม สมถยานิก คือ เหมือนคนตกต้นไม้

รู้แน่ว่า ตก เห็นหมดหละ ผ่านไปกี่กิ่ง แต่ไม่
ต้องไปนับว่า กิ่งไหน กี่ใบ

ถ้า สติ กล้าเกินไป จะเห็น เป็น ช๊อตๆๆๆ

และ จะโดนสังขารมาร มัจจมาร จัดหนึ่งดอก
สองดอก หาก พยายามจะไปเพ่ง เรื่องที่คิด

ส่วนใหญ่ก็ รถคว่ำ ตกหน้าผา เอาจริงๆ แล้ว
เป็น มหา อดทน รถทับไม่ตาย (เว้นแต่
อุปฆาติกรรมตามทัน ก็ ต่ายฮ่านไป แบบ
พระพาหิยะ ) แล้วไปลุ้น เอา พุทธันดรหน้า
เพราะ ขณะที่ ตายฮ่าน ย่อมมี ฌาณกัดกบาล
พาไปเกิดเป็น พรหม ไม่มี บุญกุศล เกิดมา
เป็นคน ก็ ล่อนจ้อน

สังขาร แม้นนิดเดียว เป็น ภัย ติด สมาแทะ งุดโง งุดโง

 

จาก ประวัติ ที่เคย ฝากปากกันมา

คุงหัวแมว มีแนวโน้ม ห่วงญาติมิตร อันเป็นจิต
ที่ผลิกไปทาง กตัญญู รู้คุณ

เป็น เมตตา กรุณา แทรกจิต

หาก จิตมี เจตสิก สองตัวนี้อยู่ จิตจะไม่ ปลิโพธิ์
และ จะเป็นตัว ขวางนิพพาน ไว้ เพราะต้องการ
จะ เอาความรู้ ไปสอน ไปพาหมู่มิตร ญาติโก
โหติกา ไปด้วย ......

ถ้าเป็นแบบนี้ อนิจสัญญา เองก็จะ ไม่ คณามือ
"อินทรียภาวนา" ทีมีอยู่ จะต้อง ยกเป็นการเห็น

อนัตตสัญญา ดับ ดับ ดับ แทน อนิจสัญญา

ตามเห็น อนัตตสัญญาดับ ดับ ดับ ให้มากๆ ก็จะ
ได้ ชวนปัญญา แล้ว ตามด้วย ติกขะปัญญา*
( บาลี ตัวนี้น่าจะ ถูกแระ ) ซึ่งก็จะ เริ่ม ตัด

มรรค นั้น ยังไงก็ เดินคนเดียว

คนอื่นที่เป็น ขันธ์เรือพ่วง ใน สหชาติ จะได้แค่
"นาบุญไม่มีวันใช้หมด" หากเขาไม่ใส่ใจ ทุกขสัจจ
ก็จะเป็น โจรที่รวยมาก แบบ ทรัมภ์ เรียกพี่

แต่ถ้าเขามี วาสนา นาน่วมพอ ก็จะ เฝ้นอุบายนำออก
ก็จะผลิกเป็น พระมหากัจจานะ ทั้งหล่อ ทั้งรวย
ทั้งมี ธรรม

 

จะตัดยังไงครับ ปโลธิ นี่

 

เราแค่ให้ท่านได้โชว์ความสามารถที่มี คนทั่วไปจะได้เห็นของจริง ในความรู้ความสามารถท่าน

ไม่ใช่ให้ท่านมาแนะนำเรา

เราแค่เปิดโอกาสให้ได้ ไถ่โทษ..

 

หลอนอย่างเรา คนชอบนักแล..


อะจ๊ากกกก..

 

ยากโหน่ย หาก คนไม่โสด

แล้วถ้ามี เรือพ่วงด้วย

ขันธ์ มันจะแบก คูณ5 super gang TKO

แล้ว ตามมารยาท เขาจะไม่ถามกัน

หากไปถามพระ พระบอกวิธี จะเป็น อาบัติ
เหมือน เป็น พ่อสื่อ แม่สื่อ

ฆราวาสแนะนำ ก็ เรือแตก จิฮับ

แต่....

ตักบาตร ทุกเช้า พอแล้ว
( แม้นกับ พระทุศีล )

ว่าแล้ว ก็ แทรก clip ก่อนเจ้าสาวของอานนท์

 

ก็แนะนำเขา ให้กำหนดรู้ทุกขสัจจ สิ

ความพลัดพราก เป็นทุกข์ยังไง..

ให้ปัญญา เห็นบ่อยๆ จิตมันก็เบื่อหน่ายคลายกำหนัด ไปเรื่อยๆ เอง..

แนะนำแบบนี้ มันผิดวินัยตรงไหน..

 

คุณดำ กับ คุณลา นี่เป็นปลิโพธิ กันหรือ ?

 

พอดีเรา ขี่ ลา น่ะ55555

 

ถามเอง ไม่ใช่เหรอ ว่าทำยังไง

วิธีทำง่ายนิดเดียว

ปัญหาคือมันไม่ทำตามวิธี
ทำเรื่องง่ายให้เป้นเรื่องยาก

 

ถ้าท่านจะคุยเอาสนุกเฉยๆ เราก็จะไม่ไปรบกวนท่าน

แต่ถ้าท่านจะคุยเพื่อให้ได้ปัญญาและบารมี ท่านต้องอธิบายให้คนอื่นพิจารณา ตามได้

ถ้าท่านไม่พร้อมจะแนะนำคนอื่น ก็อย่าเพิ่งไปแนะนำเลย เดี๋ยวจะเข้ารก เข้าพง เป็นวิบากกรรมติดตัว เปล่าๆ..

 

ที่กระทู้ท่าน ทุกคนที่พูดเรื่องสติ และ สติปัฏฐาน ท่านยังไม่รู้เรื่องเลย

มีของดี พบเจอของดี กลับขาดปัญญาพิจารณา..

 

อุตส่าห์ บอกทางเป็นระยะๆ วิธีแก้เมื่อเจอวิปัสนูกิเลส และ นิวรณ์

บอกไว้หมดเป็นระยะๆ ท่านกลับไม่ได้อะไรจากกระทู้ที่ตนเองตั้งขึ้น..

 

การฝึก ไม่มีใคร ตามทันความคิดได้หรอกครับ ในการเริ่มต้น

มีแต่อาศัย การรู้ตาม บาลีเรียก อนุปัสนา คือการตามรู้ ตามเห็น กายกับใจ

ฉะนั้น ในส่วนของความคิด ก็คืออาศัย คิด เป็นเครื่อง ฝึก ในการ รู้ตาม ตามรู้

รู้ตามความเป็นจริง ที่จิตมันคิด ฝึกไปเรื่อยๆ จนมันรู้เท่าทันความคิด

และก้ได้อย่างต่อเนื่องเป็นอัตโนมัติ

ในการทำวิปัสนา หรือการทำ ลัขณูปนิชฌาน หรือจะเรียก สมาธิในอริยะมรรค
จะไม่มีข้ออ้างในการฝึก แต่ถ้ายังมีข้ออ้างในการฝึก คือ ยังไม่เข้าใจในวิธีทำ
ต้องมาเรียนมาทวนวิธีทำ

ฉะนั้น ปลิโพธิ ถ้าเอาเข้าจริงๆ ในการ ทำสมาธิในอริยะมรรค
จะไม่เป็นอุปสรรค ในการภาวนาเลย

 

ในโพสต์นี้ มันมีอารมณ์ใจ เกาะเกี่ยวมาเยอะ พอสมควร แก้อารมณ์ตนเองให้ได้ก่อน แล้วจะได้ปัญญา