เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย toplus99, 20 พฤศจิกายน 2011.

  1. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    โลกนี้ไม่มีอะไรที่สมปารถนาไปได้ทุกอย่าง
    ดังใจจี...ดีใจจัง เป็นคนแรกที่มีโอกาส "ไม่เห็นด้วย":cool:
    กระผมอยู่มา6ปี นี่โดนประจำ
    ===
    ไม่ช่ายย..ไม่เห็นด้วยในเนื้อหาที่เขียนนะแม่ต้อยนา..

    แต่ไม่นิยมตัวพิมพ์เล็กๆ...เกินเหตุต่างหาก
    พิจารณาแล้วว่าหากปล่อยเหตุการณ์นี้ให้เกิดขึ้นเรื่อยๆ
    ก็จะทำให้แม่ต้อย แอบมาเขียนตัวเล็กๆอีก จึงต้องออกมาปรามไว้ก่อนแต่เนิ่นๆ
    หากเล็กๆมาอีกก็จะโดนลงโทษอีก จขกท.ใหญ่สุด
    ( แต่ยังสู้..แอดมินเวปบอร์ดไม่ได้)

    พูดง่ายๆ ว่าไม่อยาก "ตามใจคนแก่..." อิ อิ

    ล่วงมาเป็นอาทิตย์แล้วเพิ่งมา Birht Dayไม่รอรวมปีใหม่ซะทีเดียวล่ะแม่ต้อย

    ขอบคุณครับ..ที่อวยพรให้อายุยืนอย่างน้อยก็อีกตั้ง 24 ปี
    ยังมีเวลาทำอะไรต่ออะไรได้อีกตั้งเยอะแยะ ;aa7;aa10
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2012
  2. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ขอบคุณนะครับ.. คุณครูวิทย์:cool:
    ที่ช่วยมาออกแรง เพิ่มสาระธรรมในกระทู้นี้ให้...ผ่อนแรงลงไปได้เยอะเชียว

    มีโอกาสก็แวะมาเยี่มโรงเรียนนี้บ่อยๆก็ดี ชอบๆ
    Toplus99 จะได้มีเวลา เก็บกวาดขยะเก็บใบไม้ลงแข่ง มีเวลาตัดหญ้า รดน้ำปลูกต้นไม้ในโรงเรียน ไม่ต้องเร่งรีบมาก ได้แอบนอนหลับพักผ่อนใต้ต้นไม้
    ตามประสาคนขี้เกียจกับเขาบ้าง อิ อิๆ

    อยู่คนเดียว...เขียนคนเดียว.. กว่าจะพิมพ์ได้ กะดุ๊กกระดิ๊กๆ
    และกว่าจะได้แนวทางการเขียนนี่ ก็ใช้ต้องเวลาพอสมควรเชียว
    ก็อย่างว่า.. คนมันหัวใจ Artice...ถ้ารีบไปก็เสียของ

    แต่คนอ่าน เค๊าอ่านแปร๊บเดียว...จบ!
    จะเอาอีก มาเร็วๆเขียนใหม่ไวๆ เล่าอีกมาๆ
    ใครหนอจะเข้าใจ...ข่อยเครียด:'(

    ลงชื่อ.....
    ภารโรงToplus99
     
  3. ภิศรณ์

    ภิศรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2012
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +1,495
    พอจะเข้าใจบ้างค่ะ และหากมีส่วนในการผสมโรงทำให้เกิดความเครียดก็ขอสูมาเต้อะเจ้า
    rat_wting
     
  4. มะลิดำ

    มะลิดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2012
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +588
    เข้าใจดีและเห็นใจ...จะไม่เร่งไม่รีบ...ติดตามอ่านไปเรื่อยๆ จนกว่าเน็ตจะใช้การไม่ได้ ขอบคุณหลายๆ...เน้อ(kiss)
     
  5. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    ท่านพี่ Toplus99 ครับ .....
    อย่าเรียกผม ครูเลยครับ ..... ผมก้อคนธรรมดาคนนึงครับ

    มีอะไรอยากสื่อก้อมาช่วยท่านขีดเขียนครับ ด้วยจิตผูกพันธ์

    โรงเรียนนี้จะได้ไม่ฮา อย่างเดียวไงครับ อิอิ

    มาแอบขีดเขียนให้คนรำคาญมั่ง เค้าจะได้มีหลาย รส-ซาดดดดดดดดด 55555

    ผมก้อแค่ เด็กมาแอบเขียนกระดานดำ มีคนมาอ่านแล้วก้อผ่านไป
    ครั้งหน้าก้อแอบมาเขียนใหม่

    กลัวว่าสักวัน จะจเอภารโรงรูปหล่อตีหัวเหมียนนนนกัลลลล ครับ เหอะๆๆๆ



    .... เด็กดื้อธรรมดา ที่มากับธรรมชาติ
     
  6. ChaiDinDaeng

    ChaiDinDaeng Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +55
    555.. ผมคนนึงละครับที่เข้าใจอารมณ์คุณ Toplus99 ที่กว่าจะกลั่นกรองตัวอักษรออกมาแต่ละตัวได้นี่ ช่างยากเย็นซะจริง ขอเป็นกำลังใจให้ครับ จะรออ่านไปเรื่อยๆ ไม่เร่ง ไม่รีบครับ chearr
     
  7. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ขอเวลาเรียบเรียง ศึกษาข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติมแบบนิ่งๆสบายๆ สักพักก่อนนะครับ

    ในเรื่องที่เคยเกริ่นๆมาเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วย เช่น มะเร็งหรืออาการปวดส่วนต่างในร่างกายที่เราสามารถใช้ในพลังจิตบำบัดได้นี่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

    ในเวปบอร์ดนี้ คนสัญจรผ่านไปมาเยอะ..จะไปใส่ข้อมูลเล่าอะไรมั่วๆ ผิดพลาดขึ้นมา
    นี่ค่อ่นข้างเสี่ยงต่อการถูกโจมตี หรืออาจจะโดนสอยร่วงจากผู้รู้ทั้งหลายได้เอาง่ายๆ
    ถึงเวลานั้นอาจไม่มีพื้นที่ให้อยู่... หวังว่าท่านทั้งหลายคงพอเข้าใจกัน

    งานนี้Toplus99 ก็ต้องสืบค้นข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติมอีกพักใหญ่ อยากให้ผิดพลาดน้อยสุด เพื่ออย่างน้อยก็พอให้ได้ประโบชน์เป็นแนวทางในการสังเกตุสิ่งผิดปกติ พร้อมแนวทางบำบัดเบื้องต้นบางอย่างในร่างกายเราเอง..ควบคู่กับการใช้สมาธิพลังจิตรักษาได้พอเป็นสังเขป

    ถ้าเราสามารถที่ฝึกหัดจนสัมผัสพลังพระเครื่องได้ระดับหนึ่ง ก็ไม่น่าเป็นเรื่องยากที่จะใช้พลังจิตรักษาตนเองและคนใกล้ชิดในเบื้องต้น
    ได้สมควร....ดีกว่าการต้องไปพึงพาผู้อื่น

    การใช้จิตรักษาตัวเองได้...ก็เท่ากับเป็นการศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้าไปด้วยในตัว
    นับว่าประโยชน์ยิ่ง

    " ตนนั้นแล เป็นที่พึ่งแห่งตน"

    แล้วเดี๋ยวค่อยมาว่ากันอีกที เห็นควรเหมาะสมเมื่อไหร่
    ..เราก็มานัดเจอกันใหม่..นะจ๊ะเอย!

    ขอได้รับความขอบคุณจาก

    Toplus99
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2012
  8. aeziss

    aeziss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +1,294
    รอคอย..อยู่นะจ๊ะ..ชะเอิง..เอย!!!
     
  9. lomdadbaimai

    lomdadbaimai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,379
    ขอบพระคุณท่าน toplus99

    ที่บอกกล่าวเรื่องราวเตือนสติ

    ให้ชาวเว็บพล้งจิตได้ขบคิด

    ว่าชีวิตเกิดมาเพื่ออะไร


    ขออภัยที่สัมผัสอาจจะไม่ถูกหลัก แทนคำขอบคุณนะคะ คุณ toplus99

    ชะแว้บไปแล้ว เอย (ซะงั้น)
     
  10. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อ..# เรื่องการทำกัวซา และโรคมะเร็ง ตามแนวทัศนะคติของ topls99
    (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ)


    บางส่วนจากเนื้อเรื่อง..กัวซา (ก่อน...แล้วค่อยไปเรื่องที่ต่อเนื่องกัน..ฉบับ toplus99)

    การทำกัวซานั้นช่วยได้ดีมากในเรื่องของพิษไข้การขับความร้อนระบายพิษ และการขูดเพื่อลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยเฉพาะการปวดเมื่อย บ่า คอ หลัง ไหล่ สะบัก อาการออฟฟิสซินโดรมทั้งหลาย ซึ่งเกิดจากการคั่งของพิษในกล้ามเนื้อ เนื่องจากเลือดไหลเวียนไม่สะดวกนอกจากนี้กัวซายังมีส่วนช่วยดูแลผิวพรรณในเรื่องของความงามอีกด้วยนับว่าเป็นจุดเด่นของการกัวซาเลยก็ว่าได้

    กัวซาเป็นวิชาจากภูมิปัญญาบรรพบุรุษโบราณของชาวจีน ที่ทำได้ไม่ยาก ได้ผลดี ที่สำคัญช่วยให้เราลดการกินยาได้ เพราะยาแก้ปวดหัว หรือ ยาคลายกล้ามเนื้อที่เรากินนั้นเป็นเคมี ที่ทำให้เกิดความร้อน เป็นพิษสะสมในตัวเรา แลัวมันก็จะเผาตับ ไต ไส้ พุง เราไปเรื่อยๆ ร่างกายก็จะเสื่อมโทรมเพราะพิษความร้อน ที่ไม่ได้ขับออก เป็นสาเหตุของโรคต่างๆที่จะตามมาในที่สุดกัวซาจึงเป็นวิธีง่ายๆที่จะจัดการกับปัญหาตามหลักธรรมชาติเพียงมีแผ่นกัวซาติดตัวไว้ชิ้นเดียวก็สามารถช่วยเหลือตัวเองหรือผู้อื่นในเบื้องต้นได้
    (เคยมีเพื่อนชาวจีนเดินทางมาทำงานเมืองไทย เขาก็พกแผ่นกัวซามาคนละอัน)
    <O:p</O:p
    หลายท่านสงสัยว่าแผ่นที่มาใช้ในการทำกัวซานั้นมีหลายแบบ จะเลือกอย่างไรจริงๆแล้วเวลานำมาใช้ในการทำกัวซาทุกแบบใช้ขับพิษได้เหมือนกันแต่จะมีสรรพคุณเฉพาะตัวที่พิเศษแตกต่างกัน จึงจะสรุปสรรพคุณเฉพาะของแต่ละแบบสั้นๆเพื่อช่วยในการตัดสินใจนะคะ<O:p</O:p
    1.กัวซาหม่าเล่าเป็นหินหยกชนิดหนี่ง เชื่อกันว่ามีพลังงานและแร่ธาตุสูงเพราะทับถมกันนานนับล้านปี นิยมมาทำเครื่องลาง ของขลัง (ปี่เซี๊ยะ)หรือพกติดตัวเพื่อรักษาสุขภาพ<O:p</O:p
    2.กัวซาหยกเป็นหินที่มีความเย็นช่วยดูดซับความร้อนและพิษร้อนจากร่างกายได้ดี ช่วยในเรื่องของความงาม สิวฝ้า<O:p></O:p>
    3.กัวซาหินเปียนสือ เป็นหินจากหุบเขาโบราณมีแร่ธาตุและคลื่นเร็วเหนือเสียงที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้า<O:p</O:p
    4.กัวซาเขาจามรีเขาสัตว์มีฤทธิ์เย็น และจัดอยู่ในประเภทยาเย็นชนิดหนึ่งของยาโบราณ ช่วยดับพิษร้อน พิษไข้มีสีเหลืองอำพัน<O:p</O:p
    5.กัวซาเขาควายเขาสัตว์มีฤทธิ์เย็น และจัดอยู่ในประเภทยาเย็นชนิดหนึ่งของยาโบราณ ช่วยดับพิษร้อน พิษไข้มีสีดำ<O:p></O:p>
    6.กัวซาหวีทำจากเขาควายช่วยกระตุ้นเส้นประสาทบนหนังศีรษะและการไหลเวียนเลือดทำให้เลือดไปเลี้ยงหนังศีรษะมากขึ้นกระตุ้นรากผมให้แข็งแรง ขับพิษร้อนจากความเครียด ลดอาการปวดศีรษะ ช่วยให้ผ่อนคลายนอนหลับสบาย<O:p</O:p
    จากข้อมูลที่บอกไว้ คงพอจะช่วยให้เลือกได้บ้างนะคะ และขอเพิ่มเติมอีกนิด คือ แผ่นกัวซาประเภทหินทุกชนิด ให้ความเย็นและความนุ่มนวลมากกว่าแผ่นกัวซาประเภทเขาสัตว์แต่แตกได้ง่าย ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังค่ะ<O:p</O:p
    ข้อมูลจาก
    http://www.healthythaiherbs.com<O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2012
  11. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อ..# เรื่องการทำกัวซา และโรคมะเร็ง ตามแนวทัศนะคติของ topls99
    (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ)
    การขูดกัวซาครั้งที่ 1
    [​IMG]
    ลูกค้าท่านนี้มีอาการหายใจติดขัดหายใจไม่สะดวก ปวดหลัง,ปวดเอวมากเนื่องจากขับรถนานๆ และนั่งทำงาน
    อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 08:00 น. ถึง 12:00 น.พักกลางวัน เริ่มทำงานต่อ 13:00 น.ถึง 17:00น.
    เลิกงานขับรถกลับบ้านถึงบ้าน 19:00 น.ทำอย่างนี้ทุกวันจนเป็นกิจวัตรประจำวันที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
    จนรู้สึกมีอาการหายใจติดขัดหายไม่สะดวก เนื่องจากอาชีพที่ทำงานเกี่ยวกับการออกแบบดีไซน์ เคยทำแอร์บรัชซึ่งเกี่ยวข้องกับสีต่างๆ
    ทำให้ต้องสูดดมอยู่บ่อยๆทำให้ปอดไม่แข็งแรง อาการปวดหลัง เนื่องจากต้องนั่งทำงานอยู่ในท่าเดิมๆนานๆจนปวดหลังและปวดเอว
    เพราะต้องขับรถกลับบ้านจากลาดพร้าว 48 ถึง รามอินทรา กม.8 เป็นประจำทุกวันถึงระยะทางจะไม่ไกลมาก แต่การจราจร
    ติดสุดๆเลย ครั้งแรกที่ลูกค้าเข้ารับบริการได้บอกอาการทั้งหมดนี้ให้ฟังทางร้านได้ขูดกัวซาทั้งตัวให้และนวดปรับสมดุลย์โครงสร้างร่างกาย
    (นวดจัดกระดูกไทย)ลูกค้ามีอาการดีขึ้นและนัดครั้งต่อไปคะ

    การขูดกัวซาครั้งที่ 2
    [​IMG]
    ลูกค้ามาตามที่นัดไว้และเล่าถึงอาการที่เคยปวดต่างๆว่าอาการหายใจไม่สะดวกนั้นดีขึ้นหายใจโล่งขึ้นและอาการปวดหลังปวดเอวก็ดีขึ้นมากคะทางร้านรฺ้สึกดีใจกับลูกค้าที่ช่วยให้อาการดีขึ้นคะและเริ่มทำการขูดครั้งที่ 2 จนเสร็จ ปรากฎว่าพิษที่หลังลดน้อยลงไปมาก
    ลูกค้าน่ารักมากคะทางร้านแนะนำให้ปรับเปลี่ยนเรื่องอาหารไม่ทานอาหารรสจัดมากๆและให้ดื่มน้ำเยอะๆ
    (เพราะลูกค้าไม่ชอบดื่ม) รวมถึงปรับเปลี่ยนเรื่องการนั่งทำงานอยู่กับที่นานๆให้มีกายบริหารในท่านั่งทำงานด้วยค่ะ
    ลูกค้าทำตามที่แนะนำทุกอย่างค่ะ และนัดขูดกัวซาครั้งต่อไปค่ะ
    การขูดกัวซาครั้งที่ 3
    [​IMG]
    ลูกค้ามาตามทีนัดไว้และอาการดีขึ้นตามลำดับและนัดครั้งต่อไปค่ะ
    การขูดกัวซาครั้ง 4
    [​IMG]
    ลูกค้ามาตามทีนัดไว้และเริ่มขูดกัวซาครั้งนี้พิษสะสมเหลือน้อยมากๆอาการต่างๆดีขึ้นมากอาการปวดต่างๆไม่มีอีกแล้ว
    ลูกค้าพอใจและประทับใจในศาสตร์ทั้ง 2 อย่างเป็นอย่างมากและแนะนำเพื่อนๆ มารับบริการกับทางร้านเรากันทั้งออฟฟิศเลยคะ

    Kradang-Nga Beauty & Massage
     
  12. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ไม้กัวซา ชนิดต่างๆ

    มีไม้กัวซา แบบต่าง ๆ ให้ท่านได้เลือก ตามความเหมาะสม
     
  13. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    กัวซา ขูดพิษเพื่อสุขภาพ

    โดย: Olivier

    กัวซาเป็นการแพทย์ดั้งเดิมของชาวไทยภูเขา ชาวจีน พม่า ลาว เวียดนาม มีประสิทธิภาพเอาพิษออกจากร่างกายโดยระบายพลังงานที่เป็นพิษจากเลือดที่ถูกกระตุ้นให้เคลื่นมาระบายพิษที่ผิวหนัง ทำให้สามารถบรรเทาอาการไม่สบายได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นแล้ว การกัวซายังเป็นทั้งการวินิจฉัยโรคและการรักษาโรคไปพร้อมกัน

    วิธีกัวซา

    - ทำกัวซาในสถานที่โล่งโปร่ง ลมไม่แรง[​IMG]
    - เลือกใช้ขี้ผึ้งย่านาง ยาหม่อง น้ำมันเขียว หรือน้ำใบย่านาง น้ำเปล่า อย่างใดอย่างหนึ่งทาบนบริเวณผิวหนังก่อน
    ถ้าไม่มีไม่ต้องทาอะไรก็ได้
    - ใช้อุปกรณ์ที่มีขอบเรียบ เช่น ช้อน ชาม เหรียญ จะขูดผ่านผิวหนังตรงๆ หรือจะขูดผ่านเสื้อผ้าก็ได้
    - การกัวซาควรเริ่มจากด้านซ้ายก่อนเสมอ ขูดซาในบริเวณที่รู้สึกไม่สบายหรือบริเวณที่ถอนพิษจากร่างกายได้ดี เช่น แผ่นหลัง ลำตัวด้านหน้า แขน ขา มือ สะโพก เท้า
    - น้ำหนักของการขูดแต่ละครั้งให้ลงน้ำหนักไม่แรงเกินไป ไม่เบาเกินไป ลงน้ำหนักสม่ำเสมอ
    - การขูดที่พอดีคือขูดให้ผิวมีสีแดง จนกว่าจะไม่แดงไปกว่านั้น หรือขูดจุดละประมาณ 10-50 ครั้ง
    - หลังทำกัวซา ไม่ควรอาบน้ำทันที ควรปล่อยไว้ประมาณ 4-8 ชั่วโมง เพื่อให้เลือดที่เคลื่นมาบริเวณผิวหนังมีเวลาระบายพิษออกไปได้มาก ถ้าเรารีบอาบน้ำเย็นเร็วเกินไป เส้นเลือดจะหดตัวบีบเลือดที่ยังระบายพิษได้ไม่มากกลับคืนไปสู่เซลล์เนื้อเยื่อและอวัยวะภายในของเรา ทำให้พิษระบายได้น้อย
    - ส่วนใหญ่ รอยแดง 7 วัน มักจะยุบหายไป
    - ความถี่ในการทำกัวซา เมื่อรู้สึกไม่สบายตัว หรือทำทุกวัน
    วันละหลายๆ ครั้งก็ได้
    [​IMG]





    ข้อสังเกต :

    หลังขูดจนเกิดรอยแดง สามารถแปลผลได้ดังนี้

    สีชมพูหรือแดงเรื่อๆ แสดงว่า ดี
    แดงเป็นปื้น แสดงว่า พิษเริ่มสะสม
    เป็นจ้ำเหมือนไข้เลือดออก แสดงว่า พิษสะสมมานาน
    แดงช้ำ แสดงว่า พิษสะสมมาก
    ช้ำเป็นสีม่วงหรือสีดำ แสดงว่ามีพิษมาก


    จาก: เว็บไซต์ [​IMG]
     
  14. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    <TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" id=AutoNumber1 border=1 cellSpacing=0 borderColor=#111111 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#ffff00><TBODY><TR><TD width="100%">
    มาทำความรู้จักกับน้ำให้มากขึ้น
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    พอจิตต์ ขันทอง
    นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการ
    เจริญชัย จิรชัยรัตนสิน
    วิศวกร ปฏิบัติการ
    <TABLE style="BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px; BORDER-COLLAPSE: collapse; BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px" id=AutoNumber2 border=1 cellSpacing=0 borderColor=#111111 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" width="20%" align=middle>[​IMG]</TD><TD style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" width="20%" align=middle>[​IMG]</TD><TD style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" width="20%" align=middle>[​IMG]</TD><TD style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" width="20%" align=middle>[​IMG]</TD><TD style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" width="20%" align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    น้ำเป็นธาตุประกอบที่มีโครงสร้างทางเคมีง่ายๆ ประกอบขึ้นจากธาตุ 2 ธาตุ ที่ธรรมดาที่สุดในจักรวาล คือ ออกซิเจน และไฮโดรเจน แต่น้ำกลับเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในชีวิตของเรา คนส่วนใหญ่มักคิดว่า น้ำเป็นของเหลวที่เรารู้จักกันดีแล้ว แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะว่าน้ำมีความลี้ลับมากมายที่เรายังไม่เคยรู้ หรือไม่เข้าใจ อธิบายไม่ได้ มีคำถามมากมายที่เรายังหาคำตอบไม่ได้ นักวิทยาศาสตร์ยอมรับว่าเรารู้จักสสารที่เรียกว่าน้ำน้อยเกินไป ดังนั้น จึงน่าสนใจที่เราจะมาทำความเข้าใจโครงสร้างของน้ำ ซึ่งไม่หยุดนิ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แล้วเราจะพบกับความมหัศจรรย์ของน้ำ ที่ส่งผลต่อชีวิตและสุขภาพของตัวเรา

    ในประมาณปี ค.ศ.1900 นักวิทยาศาสตร์ และนักธรรมชาติวิทยา ชื่อ วิคเตอร์ เชาเบอร์เกอร์ แบ่งน้ำเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม ”น้ำเป็น” หรือกลุ่มน้ำที่มีชีวิต และ กลุ่ม “น้ำตาย” หรือกลุ่มน้ำที่ไม่มีชีวิต

    กลุ่มน้ำที่มีชีวิต นั้น โมเลกุลน้ำจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มหรือคลัสเตอร์ (Cluster) ซึ่งมีรูปร่างหกเหลี่ยมสวยงาม คล้ายดอกไม้เล็กๆ ที่เป็นรูปของผลึกหิมะ มีคุณสมบัติรักษาโรคได้ และมีพลังบำบัดที่น่าทึ่ง น้ำที่มีผลในการรักษาโรค ถูกค้นพบในบ่อน้ำลึกหลายแห่งทั่วโลก และมี 2-3 แห่งในโลกนี้ ที่การเจ็บป่วยแทบจะไม่เกิดขึ้นเลย เช่น แถบภูเขาในประเทศเนปาล น้ำที่มีชื่อเสียงในด้านการรักษาโรค ปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ในรูปของน้ำบรรจุขวด
    มีคำถามว่า น้ำบรรจุขวดยังมีคุณสมบัติในการบำบัดรักษาโรคได้เหมือนตอนดื่มน้ำจากแหล่งน้ำอยู่หรือไม่ คำตอบคือ ไม่มีการพบว่า น้ำบรรจุขวดจะสูญเสียคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพในระยะเวลาประมาณ 20 ชั่วโมง
    พลังชีวิตในน้ำ

    ผลการวิจัยในเรื่องสิ่งแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อโมเลกุลของน้ำ แสดงให้เห็นว่า สิ่งใดก็ตามที่มีผลกระทบกับน้ำ ย่อมส่งผลกระทบกับร่างกายเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในปัจจุบันมีข้อมูลที่เชื่อถือได้ว่า โมเลกุลของน้ำสามารถสื่อสารกับเซลล์ของร่างกายโดยการส่งและรับพลังงานกันได้ สิ่งที่เราพูด คิด และทำ เสียงดนตรี เสียงสวดมนต์ ภาวะแวดล้อม และตัวอักษร ต่างก็เป็นพลังงานคลื่น ซึ่งสามารถกระทบต่อโครงสร้าง ในระดับโมเลกุลของน้ำได้

    <TABLE style="BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px; BORDER-COLLAPSE: collapse; BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px" id=AutoNumber3 border=1 cellSpacing=0 borderColor=#111111 cellPadding=0 width="100%" height=18><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" height=18 width="33%" align=middle>[​IMG] ผลึกน้ำจากเขื่อน
    ก่อนนำมาทำน้ำมนต์


    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" height=18 width="33%" align=middle>[​IMG] ผลึกน้ำจากเขื่อน
    หลังผ่านการสวดมนต์

    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" height=18 width="34%" align=middle>[​IMG] ผลึกน้ำที่มีคำกล่าวว่ารัก
    หรือยกย่องชมเชย


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ศาสตราจารย์ ดร.มาซารุ อีโมโต หัวหน้าสถาบันฮาโด โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้ศึกษาพลังคลื่นและการเกิดรูปร่างผลึกของน้ำ ที่เก็บมาจากแหล่งต่างๆ เช่น แม่น้ำ น้ำพุ น้ำใต้ดิน เป็นต้น โดยได้นำตัวอย่างน้ำมาหยดใส่ในจานแก้ว และแช่ตู้เย็น อุณหภูมิประมาณ -20 องศาเซลเซียส จนกระทั่งเกิดผลึกน้ำแข็ง เขาได้ดูผลึกด้วยการส่องกล้องจุลทรรศน์ เห็นรูปร่างของผลึกน้ำดูคล้ายเกล็ดหิมะเป็นรูปผลึกหกเหลี่ยมที่สมมาตรกันเสมอหลายชนิดเหมือนดอกไม้เล็กๆ และโครงสร้างของผลึกน้ำจากแหล่งที่เก็บแต่ละแห่ง จะไม่เหมือนกันเลย​
    <TABLE style="BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px; BORDER-COLLAPSE: collapse; BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px" id=AutoNumber4 border=1 cellSpacing=0 borderColor=#111111 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" width="33%" align=middle>[​IMG]
    ผลึกน้ำที่มีคำว่าขอบคุณ
    ติดอยู่ข้างขวด

    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" width="33%" align=middle>[​IMG] ผลึกน้ำที่อยู่ในสถานที่
    เปิดเพลงโฟคแดนส์

    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" width="34%" align=middle>[​IMG] ผลึกน้ำที่อยู่ในสถานที่
    เปิดเพลงร็อครุนแรง

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เขาสรุปได้ว่า ผลกระทบของภาวะแวดล้อมรูปแบบพลังงานจากคลื่นและสิ่งต่างๆ จะมีอิทธิพลต่อรูปร่างของผลึกหกเหลี่ยมของน้ำ และสามารถปรับเปลี่ยนสร้างสรรค์หรือทำลายลักษณะผลึกน้ำ ไปในทางที่ดีหรือเลวได้ โดยสรุปได้ว่า น้ำมีคุณสมบัติอ่อนไหวตามการสั่นสะเทือนของคลื่น จิตของคนเราเป็นพลังคลื่นชนิดหนึ่ง การมีจิตสำนึกที่ดี หรือความคิดที่ดีจะส่งคลื่นออกมาเป็นผลกระทบต่อการรวมตัวของโมเลกุลน้ำที่มีอยู่มากถึงร้อยละ 70 ในตัวเราในทางที่ดีด้วย คลื่นความคิดของเรายังสามารถกระจายไปสู่น้ำในบรรยากาศ ในสิ่งแวดล้อม และกระจายไปสู่น้ำในร่างกายของบุคคลอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ได้ด้วย
     
  15. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    น้ำ เปลี่ยนเเปลงได้ ด้วยความคิดและคำพูด

    ในปี 1990 นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า Dr.Masaru Emoto ได้ทำการทดลองเพื่อพิสูจน์ว่า ความคิดนั้นมีพลังงานอย่างไรโดยได้นำน้ำจากแหล่งเดียวกัน มาตั้งไว้อยู่ในสิ่งแวดล้อมต่างๆเช่น ตั้งไว้ในขณะพูด สวดมนต์ หรือขณะเปิดเพลง แล้วหลังจากนั้น ได้นำน้ำเหล่านั้นไปแช่แข็ง แล้วถ่ายภาพขยายของโมเลกุลน้ำ ซึ่งผลการทดลองที่ออกมานั้นน่าสนใจมาก…
    [​IMG]
    นักวิทยาศาสตร์ผู้นี้พบว่า โมเลกุลน้ำที่เหมือนกัน แต่หากผ่านคำพูดที่มีอารมณ์ต่างกันเช่น คำขอบคุณ คำเกี่ยวกับความรัก หรือคำสาปแช่ง คำพูดเหล่านี้จะมีอิทธิพลทำให้น้ำนั้นเรียงตัวแตกต่างกันไปอย่างไม่น่าเชื่อ ที่น่าสังเกตได้ก็คือ น้ำที่ผ่านการพูดทางบวก เช่นคำว่ารัก (Love) คำขอบคุณ (Thank you) นั้นจะมีโมเลกุลที่เป็นลักษณะสมมาตร (symmetric) เเละรูปร่างสวยงาม สมดุล ส่วนน้ำที่ผ่านคำพูดทางลบ เช่น “เธอทำให้ฉันเบื่อจนสุดๆ ฉันจะฆ่าเธอ (You make me sick, I will kill you)” โมเลกุลนั้นจะมีรูปร่างน่าเกลียด และมีสีมืดดำ นี่ก็เป็นการทำให้เห็นว่า ความคิดนั้นถึงแม้จะมองไม่เห็น แต่มันก็มีพลังอย่างไม่น่าเชื่อ ลองคิดดูเล่นๆสิคะว่า ขนาดน้ำ ยังได้รับผลกระทบจากความคิดของเรา แล้วร่างกายเราเอง ก็มีน้ำอยู่เกินครึ่งนึงทีเดียว อย่างนี้ เวลาเราคิดบวก หรือคิดลบ ร่างกายเราคงได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนค่ะ

    [​IMG]

    เพราะฉะนั้น อย่าลึมตรวจสอบความคิดของคุณเป็นประจำ เพราะไม่แน่ ถ้าคำพูดที่ว่า “You are what you think you are” นั้นเป็นจริงล่ะก็ การเปลี่ยนชีวิตเราให้ดีและมีคุณภาพขึ้นนั้น ก็น่าจะเริ่มต้นจากการเปลี่ยนความคิดเราให้มีคุึณภาพขึ้นเป็นอันดับเเรกก็ได้นะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2012
  16. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    มะเร็ง

    <!-- /firstHeading --><!-- bodyContent --><!-- tagline -->จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    <!-- /tagline --><!-- subtitle -->
    <!-- /jumpto --><!-- bodycontent --><TABLE style="TEXT-ALIGN: left; PADDING-LEFT: 0.5em; WIDTH: 23em; PADDING-RIGHT: 0.5em; FONT-SIZE: 90%" class=infobox><TBODY><TR style="BACKGROUND: lightgrey; COLOR: #000000"><TH style="TEXT-ALIGN: center; FONT-SIZE: 120%" class=fn colSpan=2>มะเร็ง
    (Cancer)

    </TH></TR><TR style="TEXT-ALIGN: center"><TD colSpan=2>[​IMG]



    </TD></TR><TR style="TEXT-ALIGN: center; LINE-HEIGHT: 1"><TD colSpan=2><SMALL>เมื่อเซลล์ปกติเสียหาย หรือแก่ตัวลง เซลล์จะผ่านกระบวนการตาย (Apoptosis) แต่เซลล์มะเร็งจะไม่ยอมผ่านกระบวนการนี้</SMALL></TD></TR><TR style="TEXT-ALIGN: center; BACKGROUND: lightgrey"><TD colSpan=2>การจำแนก และแหล่งข้อมูลอื่น</TD></TR><TR><TH>DiseasesDB</TH><TD>28843</TD></TR><TR><TH>MedlinePlus</TH><TD>001289</TD></TR><TR><TH>MeSH</TH><TD>D009369</TD></TR></TBODY></TABLE>มะเร็ง คือ กลุ่มของโรคที่เซลล์เจริญ(แบ่งตัว) อย่างผิดปกติ การที่เซลล์เปลี่ยนสภาพไปจากปกติจะไม่อยู่ในการควบคุมวัฏจักรการแบ่งตัว รุกรานเนื้อเยื่อข้างเคียง หรืออาจแพร่กระจายไปยังที่อื่น ๆ (การแพร่กระจายของเนื้อร้าย) ลักษณะทั้งสามประการที่กล่าวมานี้เป็นคุณสมบัติของเนื้อร้ายซึ่งต่างจาก เนื้องอก ซึ่งไม่ร้ายแรงเพราะไม่รุกรานหรือแพร่กระจาย และขนาดจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มะเร็งทั้งหมดยกเว้นมะเร็งเม็ดเลือดขาวจะมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อ
    มะเร็งเกิดขึ้นได้โดยสารพันธุกรรมหรือยีนซึ่งควบคุมการทำงานของเซลล์ผิดปกติไป โดยที่ความผิดปกติของสารพันธุกรรมนั้นเป็นผลมาจากสารก่อมะเร็ง อาทิ ยาสูบ ควัน รังสี สารเคมีอย่างอื่น หรือ เชื้อโรค ยีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมะเร็งอาจเกิดขึ้นได้อย่างไม่จำเพาะเจาะจงระหว่างการทำสำเนาของดีเอ็นเอ หรืออาจถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ ซึ่งสามารถตรวจพบได้ในทุกเซลล์หลังจากคลอด การถ่ายทอดทางพันธุกรรมของมะเร็งนั้นได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอย่างอื่นๆ ด้วย
    จากการศึกษา พบว่าผู้หญิงวัยกลางคนในอังกฤษราว 6,000 คน เป็นมะเร็งมากขึ้นทุกปี สาเหตุมาจากความอ้วน โดยพบความเชื่อมโยงระหว่างน้ำหนักกับโอกาสเสี่ยงที่เป็นมะเร็งนั้น ขึ้นอยู่กับช่วงอายุของผู้หญิงด้วย และทางกองทุนวิจัยมะเร็งโลก ประกาศเตือนว่า ความอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็ง ดังต่อไปนี้ คือ มะเร็งมดลูก มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งที่ไต มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งทรวงอก มะเร็งไขกระดูก มะเร็งที่ตับอ่อน มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอน-ฮอดจ์กิ้น และมะเร็งรังไข่ <SUP id=cite_ref-0 class=reference>[1]</SUP>
    มะเร็งกำเนิดจากเซลล์ร่างกายที่สามารถแบ่งเซลล์ได้วิวัฒนาการจนไม่สามารถควบคุมได้ มีกระบวนการวิวัฒนาการโดยการเปลี่ยนแปลงของโครโมโซมนั้นๆทำให้ผลิตเอนไซม์มาสร้างเทโลเมียร์ในเซลล์อย่างไม่หมดสิ้นทำให้เซลล์ไม่สามารถหยุดแบ่งเซลล์ได้
    เกร็ด: เทโลเมียร์ของมนุษย์เปรียบเหมือนนาฬิกาทีนับถอยหลังไปเรื่อยๆ ซึ่งในขณะนั้นเซลล์ร่างกายยังสามารถแบ่งเซลล์ต่อไปโดยเทโลเมียร์จะหดสั้นลงเรื่อยๆ และเมื่อสายเทโลเมียร์หมดก็จะทำให้เซลล์ร่ายกายหยุดแบ่งตัวทำให้มนุษย์ต้องหยุดเจริญเติบโต แต่เทโลเมียร์ของเซลล์มะเร็งไม่หดสั้นลงอีกทั้งเติบโตโดยไม่สามารถหยุดยั้ง


    <TABLE id=toc class=toc><TBODY><TR><TD>เนื้อหา

    [ซ่อน]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>[แก้] มะเร็งในประเทศไทย

    ในปี พ.ศ. 2549 ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง 66,000 ราย โดยในผู้ชายพบมะเร็งปอดมากที่สุด 5,535 ราย รองลงมาคือโรคมะเร็งตับ ส่วนผู้หญิงพบมะเร็งปากมดลูกมากที่สุด 1,484 ราย รองลงมาคือ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม<SUP id=cite_ref-1 class=reference>[2]</SUP>
    ในปี พ.ศ. 2553 สถิติมะเร็งที่พบมากที่สุด 10 อันดับแรกในประเทศไทย
    <TABLE class=wikitable><TBODY><TR><TH>อันดับ</TH><TH>โรคมะเร็งที่พบบ่อยในเพศชาย</TH><TH>จำนวน(%)</TH><TH>โรคมะเร็งที่พบบ่อยในเพศหญิง</TH><TH>จำนวน(%)</TH></TR><TR><TD>1</TD><TD>Trachea, Bronchus, Lung
    หลอดลม, ปอด

    </TD><TD>23.6</TD><TD>Breast
    เต้านม

    </TD><TD>47.8</TD></TR><TR><TD>2</TD><TD>Colon, Rectum
    ลำไส้ใหญ่

    </TD><TD>21.5</TD><TD>Cervix uteri
    คอมดลูก

    </TD><TD>16.2</TD></TR><TR><TD>3</TD><TD>Liver, Bile ducts
    ตับ, ท่อน้ำดี

    </TD><TD>17.3</TD><TD>Colon, Rectum
    ลำไส้ใหญ่

    </TD><TD>10.4</TD></TR><TR><TD>4</TD><TD>Esophagus
    หลอดอาหาร

    </TD><TD>8.2</TD><TD>Trachea, Bronchus, Lung
    หลอดลม, ปอด

    </TD><TD>7.1</TD></TR><TR><TD>5</TD><TD>Nasopharynx
    คอหอยส่วนจมูก

    </TD><TD>6.6</TD><TD>Corpus uteri
    มดลูก

    </TD><TD>4.0</TD></TR><TR><TD>6</TD><TD>Non-Hodgkin lymphoma
    มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดแพร่กระจายเร็ว

    </TD><TD>6.4</TD><TD>Ovary
    รังไข่

    </TD><TD>4.0</TD></TR><TR><TD>7</TD><TD>Tongue
    ลิ้น

    </TD><TD>4.8</TD><TD>Liver, Bile ducts
    ตับ

    </TD><TD>3.5</TD></TR><TR><TD>8</TD><TD>Mouth
    ปาก

    </TD><TD>4.5</TD><TD>Thyroid
    ไทรอยด์

    </TD><TD>2.6</TD></TR><TR><TD>9</TD><TD>Larynx
    กล่องเสียง

    </TD><TD>3.7</TD><TD>Non-Hodgkin lymphoma
    มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดแพร่กระจายเร็ว

    </TD><TD>2.4</TD></TR><TR><TD>10</TD><TD>Stomach
    กระเพาะอาหาร

    </TD><TD>3.6</TD><TD>Stomach
    กระเพาะอาหาร

    </TD><TD>2.0</TD></TR></TBODY></TABLE><SUP id=cite_ref-2 class=reference>[3]</SUP>
    [แก้] โภชนาการกับโรคมะเร็ง

    การกินและพฤติกรรมเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้เป็นอย่างมาก อาหารบางประเภท มีสารที่ต้านอนุมูลอิสระได้สูงและป้องกันการเกิดมะเร็งได้ดี เราเรียกอาหารประเภทนี้ว่า อาหารต้านมะเร็ง <SUP id=cite_ref-3 class=reference>[4]</SUP> โดย บรอกโคลี, อโวคาโด , แครอท, ฯลฯ เป็นหนึ่งในอาหารต้านมะเร็งที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป
    จากการศึกษาพบว่า อาหารอาจมีส่วนสัมพันธ์ กับการเกิดโรคมะเร็งได้ประมาณ 30-50% แต่ในขณะเดียวกันอาหารประเภทพืชผัก ผลไม้ ธัญพืช และ เครื่องเทศต่างๆ ก็มี คุณสมบัติในการป้องกันมะเร็งได้ ดังนั้น การรับประทานอาหารอย่างถูกต้องตามหลัก โภชนาการ จึงเป็นหนทางหนึ่ง ซึ่งสามารถป้องกันโรคมะเร็งได้


    อาหารที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดมะเร็ง
    1. อาหารที่มีราขึ้นโดยเฉพาะราสีเขียว-สีเหลือง
    2. อาหารไขมันสูง
    3. อาหารเค็มจัด ส่วนไหม้เกรียมของอาหารปิ้ง ย่าง รมควัน และอาหารที่ถนอมด้วยเกลือ ดินประสิว<SUP id=cite_ref-4 class=reference>[5]</SUP>
    [แก้] ดูเพิ่ม

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2012
  17. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อ..# เรื่องการทำกัวซา และโรคมะเร็ง ตามแนวทัศนะคติของ topls99
    (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ)

    แล้วมาเดินเรื่องกันอีกที ว่า....

    "พรายย้ำ + ร่องรอย เลือดพิษจากกัวซา+โมเลกุลน้ำ + แสงออร่า+มะเร็ง,อำมพฤกษ์,อำพาต ,อาการเจ็บปวดบางที่ในร่างกาย+ ผลจากคุณไสยบางประเภท+ผลกรรม"

    =ความสัมพันธ์ในสุขภาพร่างกายมนุษย์เราได้อย่างไร"

    แล้วเบื้องต้นควรจะทำอย่างไร หรือแก้ไขอย่างไรดีล่ะที่นี้?

    รอเดี๋ยวนะ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 592694.jpg
      592694.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.4 KB
      เปิดดู:
      93
    • akarn32_240_220.jpg
      akarn32_240_220.jpg
      ขนาดไฟล์:
      10.4 KB
      เปิดดู:
      50
    • A2326936.jpg
      A2326936.jpg
      ขนาดไฟล์:
      18.8 KB
      เปิดดู:
      42
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2012
  18. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    มะเร็ง เป็นเนื้องอกชนิดร้ายที่เนื้อมะเร็งมีการแทรกซึมเข้าไปในเนื้อเยื่อปรกติที่อยู่โดยรอบ เป็นเซลล์ร่างกายที่มีการแบ่งตัวไม่เป็นไปตามแบบแผนอยู่นอกเหนืออำนาจการควบคุม สามารถแพร่กระจายไปยังบริเวณอื่นของร่างกายที่ห่างไกลออกไป และไม่ติดต่อกับก้อนมะเร็งเดิม มะเร็งสามารถเกิดจากเซลล์ทุกชนิดในร่างกาย ยกเว้น ขน ผม เล็บที่งอกออกมาแล้วเท่านั้น

    การแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง มีได้ 4 วิธี คือ
    <TABLE border=0 width=580><TBODY><TR><TD width=19></TD><TD vAlign=top width=15>
    1.


    </TD><TD vAlign=top width=540>โดยทางกระแสเลือด (หลุดเข้ากระแสเลือด แล้วไปเจริญเติบโตในอวัยวะต่างๆ เช่น ปอด ตับ กระดูก สมอง เป็นต้น) </TD></TR><TR><TD></TD><TD vAlign=top>
    2.



    </TD><TD vAlign=top width=540>กระแสน้ำเหลือง (หลุดเข้าหลอดน้ำเหลือง แล้วไปเจริญเติบโตในต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียง หรืออยู่ห่างไกลออกไป และสามารถแพร่กระจายเข้าสู่หลอดเลือดอีกทีหนึ่ง) </TD></TR><TR><TD></TD><TD>
    3.


    </TD><TD width=540>การฝังตัวของเซลล์มะเร็ง (หลุดแล้ว ตกไปงอกตรงส่วนที่มีเซลล์มะเร็งตกอยู่)</TD></TR><TR><TD></TD><TD>
    4.


    </TD><TD width=540>การแพร่กระจายแทรกตัวไปตามพื้นผิวภายในอวัยวะที่เป็นมะเร็งและอวัยวะหรือเนื้อเยื่อที่อยู่ข้างเคียง </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สาเหตุการเกิดมะเร็ง
    สาเหตุที่แท้จริงของโรคมะเร็ง ในปัจจุบันยังไม่สามารถบอกได้แน่ชัด แต่มีข้อมูลสนับสนุนว่า มาจากสาเหตุหลายๆอย่างร่วมกัน เช่น

    <TABLE border=0 width=580><TBODY><TR><TD width=19></TD><TD width=15>
    1.


    </TD><TD width=540>สาเหตุภายในร่างกายเอง (เชื้อชาติ, พันธุกรรม, เพศ, อายุ เป็นต้น)</TD></TR><TR><TD></TD><TD vAlign=top>
    2.



    </TD><TD width=540>สาเหตุจากภายนอกร่างกาย (ทางกายภาพ - แสงอาทิตย์, นิ่ว, แผลจากไฟไหม้, น้ำร้อนลวก ; ทางเคมี-สารหนู, สีย้อมผ้า, บุหรี่ เป็นต้น)</TD></TR><TR><TD></TD><TD>
    3.


    </TD><TD width=540>การอักเสบจากการติดเชื้อเรื้อรังนานๆ</TD></TR><TR><TD></TD><TD>
    4.


    </TD><TD width=540>ฮอร์โมนที่มีผลต่อการเป็นมะเร็ง โดยจะพบค่าผิดปรกติ เมื่อเป็นโรคมะเร็ง </TD></TR></TBODY></TABLE>
    การดูแลตนเองให้พ้นจากมะเร็ง
    หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ที่อาจทำให้เกิดโรคมะเร็ง เช่น พฤติกรรมการรับประทานอาหารจำพวกดิบๆสุกๆ, มีไขมันสูง, ปิ้ง-ย่าง, ดองเค็ม, อาหารที่ถนอมด้วยเกลือไนเตรต-ไนไตรท์ หรืออาหารที่เก็บทิ้งไว้นานจนเชื้อราขึ้น นอกจากนี้โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังมาจากการกินเหล้า สูบบุหรี่ หรือการตากแดดจัดเป็นเวลานานๆ ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ ดังนั้นจึงควรให้การดูแลสุขภาพอนามัยเป็นประจำสม่ำเสมอ รับประทานอาหารให้ถูกหลักอนามัยครบทั้งห้าหมู่ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ ข้าว ข้าวโพด เมล็ดธัญพืชอื่นๆ การออกกำลังกายเป็นประจำ ร่วมไปกับการดูแลน้ำหนักไม่ให้มากเกินไป และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค โดยพยายามทำจิตใจให้ เบิกบาน ไม่มีเรื่องเศร้าหมอง แต่เมื่อตรวจพบอาการผิดปรกติให้รีบมาปรึกษาแพทย์ทันที

    http://www.yourhealthyguide.com/article/ac-cancer-3.html
    <!-- InstanceEndEditable -->
     
  19. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    <TABLE border=0 width=760 align=center height=100><TBODY><TR><TH background=../Index/images_index/Logo-Heading/logo-yellow-1-color-11a-nw.gif scope=col>[​IMG]</TH></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width=760 align=center><TBODY><TR><TD height=25 width=125>
    [​IMG]
    </TD><TD height=25 width=123>
    [​IMG]
    </TD><TD height=25 width=123>
    [​IMG]
    </TD><TD height=25 width=123>
    [​IMG]
    </TD><TD height=25 width=123>
    [​IMG]
    </TD><TD height=25 width=123>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width=760 align=center height=20><TBODY><TR><TH class="Font-menu style50" bgColor=#bb9976 height=20 scope=col><!-- InstanceBeginEditable name="Article-title" -->มะเร็งคืออะไร<!-- InstanceEndEditable --></TH></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=760 align=center height=556><TBODY><TR><TD height=436 vAlign=top width=135><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=135 height=400><TBODY><TR><TH class=style86 height=25 scope=col>[​IMG]</TH></TR><TR><TH class=style86 height=25 scope=col>[​IMG]</TH></TR><TR><TH class=style86 height=25 scope=col>[​IMG]</TH></TR><TR><TH class=style86 height=25 scope=col>[​IMG]</TH></TR><TR><TH class=style90 height=25 scope=row>[​IMG]</TH></TR><TR><TH class="style90 style94" height=25 scope=row>[​IMG]</TH></TR><TR><TH class=style90 height=25 scope=row>[​IMG]</TH></TR><TR><TH class=style90 height=25 scope=row>[​IMG]</TH></TR><TR><TH class=style90 height=25 scope=row>[​IMG]</TH></TR><TR><TH class=style90 height=25 scope=row>[​IMG]</TH></TR><TR><TH class=style90 height=25 scope=row>[​IMG]</TH></TR><TR><TH class=style99 height=25 scope=row>[​IMG]</TH></TR><TR><TH class=style99 height=25 scope=row>[​IMG]</TH></TR><TR><TH class=style99 height=25 scope=row>[​IMG]</TH></TR><TR><TH class=style99 height=25 scope=row>[​IMG]</TH></TR></TBODY></TABLE></TD><TD bgColor=#fffef2 vAlign=top borderColor=#fffef2 width=20> </TD><TD bgColor=#fffef2 vAlign=top borderColor=#fffef2 width=580><!-- InstanceBeginEditable name="Article-detail" -->
    [​IMG]มะเร็ง เป็นเนื้องอกชนิดร้ายที่เนื้อมะเร็งมีการแทรกซึมเข้าไปในเนื้อเยื่อปรกติที่อยู่โดยรอบ เป็นเซลล์ร่างกายที่มีการแบ่งตัวไม่เป็นไปตามแบบแผนอยู่นอกเหนืออำนาจการควบคุม สามารถแพร่กระจายไปยังบริเวณอื่นของร่างกายที่ห่างไกลออกไป และไม่ติดต่อกับก้อนมะเร็งเดิม มะเร็งสามารถเกิดจากเซลล์ทุกชนิดในร่างกาย ยกเว้น ขน ผม เล็บที่งอกออกมาแล้วเท่านั้น
    การแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง มีได้ 4 วิธี คือ
    <TABLE border=0 width=580><TBODY><TR><TD width=19> </TD><TD vAlign=top width=15>
    1.
    </TD><TD vAlign=top width=540>โดยทางกระแสเลือด (หลุดเข้ากระแสเลือด แล้วไปเจริญเติบโตในอวัยวะต่างๆ เช่น ปอด ตับ กระดูก สมอง เป็นต้น) </TD></TR><TR><TD> </TD><TD vAlign=top>
    2.​
    </TD><TD vAlign=top width=540>กระแสน้ำเหลือง (หลุดเข้าหลอดน้ำเหลือง แล้วไปเจริญเติบโตในต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียง หรืออยู่ห่างไกลออกไป และสามารถแพร่กระจายเข้าสู่หลอดเลือดอีกทีหนึ่ง) </TD></TR><TR><TD> </TD><TD>
    3.
    </TD><TD width=540>การฝังตัวของเซลล์มะเร็ง (หลุดแล้ว ตกไปงอกตรงส่วนที่มีเซลล์มะเร็งตกอยู่)</TD></TR><TR><TD> </TD><TD>
    4.
    </TD><TD width=540>การแพร่กระจายแทรกตัวไปตามพื้นผิวภายในอวัยวะที่เป็นมะเร็งและอวัยวะหรือเนื้อเยื่อที่อยู่ข้างเคียง </TD></TR></TBODY></TABLE>สาเหตุการเกิดมะเร็ง
    สาเหตุที่แท้จริงของโรคมะเร็ง ในปัจจุบันยังไม่สามารถบอกได้แน่ชัด แต่มีข้อมูลสนับสนุนว่า มาจากสาเหตุหลายๆอย่างร่วมกัน เช่น
    <TABLE border=0 width=580><TBODY><TR><TD width=19> </TD><TD width=15>
    1.
    </TD><TD width=540>สาเหตุภายในร่างกายเอง (เชื้อชาติ, พันธุกรรม, เพศ, อายุ เป็นต้น)</TD></TR><TR><TD> </TD><TD vAlign=top>
    2.​
    </TD><TD width=540>สาเหตุจากภายนอกร่างกาย (ทางกายภาพ - แสงอาทิตย์, นิ่ว, แผลจากไฟไหม้, น้ำร้อนลวก ; ทางเคมี-สารหนู, สีย้อมผ้า, บุหรี่ เป็นต้น)</TD></TR><TR><TD> </TD><TD>
    3.
    </TD><TD width=540>การอักเสบจากการติดเชื้อเรื้อรังนานๆ</TD></TR><TR><TD> </TD><TD>
    4.
    </TD><TD width=540>ฮอร์โมนที่มีผลต่อการเป็นมะเร็ง โดยจะพบค่าผิดปรกติ เมื่อเป็นโรคมะเร็ง </TD></TR></TBODY></TABLE>การดูแลตนเองให้พ้นจากมะเร็ง
    หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ที่อาจทำให้เกิดโรคมะเร็ง เช่น พฤติกรรมการรับประทานอาหารจำพวกดิบๆสุกๆ, มีไขมันสูง, ปิ้ง-ย่าง, ดองเค็ม, อาหารที่ถนอมด้วยเกลือไนเตรต-ไนไตรท์ หรืออาหารที่เก็บทิ้งไว้นานจนเชื้อราขึ้น นอกจากนี้โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังมาจากการกินเหล้า สูบบุหรี่ หรือการตากแดดจัดเป็นเวลานานๆ ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ ดังนั้นจึงควรให้การดูแลสุขภาพอนามัยเป็นประจำสม่ำเสมอ รับประทานอาหารให้ถูกหลักอนามัยครบทั้งห้าหมู่ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ ข้าว ข้าวโพด เมล็ดธัญพืชอื่นๆ การออกกำลังกายเป็นประจำ ร่วมไปกับการดูแลน้ำหนักไม่ให้มากเกินไป และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค โดยพยายามทำจิตใจให้ เบิกบาน ไม่มีเรื่องเศร้าหมอง แต่เมื่อตรวจพบอาการผิดปรกติให้รีบมาปรึกษาแพทย์ทันที
    <!-- InstanceEndEditable --></TD><TD bgColor=#fffef2 borderColor=#fffef2 width=20> </TD></TR><TR><TD width=135> </TD><TD bgColor=#fffef2 borderColor=#fffef2 width=20> </TD><TD bgColor=#fffef2 height=30 borderColor=#fffef2 width=580> </TD><TD bgColor=#fffef2 width=20> </TD></TR><TR><TD width=135> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อ..# เรื่องการทำกัวซา และโรคมะเร็ง ตามแนวทัศนะคติของ topls99
    (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ)

    ไม่รู้จะเริ่มต้นเดินเรื่องอย่างไรดี ...งั้นขออรัมภบทก่อนดีกว่า
    ทุกวันท่ามกลางภัยพิบัติมากมาย โรคร้ายก็รุมเร้า ภาระค่าใช้จ่ายก็เพิ่มพูน บางครั้งก็สนุก หลายครั้งหัวใจก็อ่อนล้า
    มันช่างน่าให้คิดนักว่า “อันตัวข้านี้มันเกิดมาเพื่ออะไร?”
    เริ่มจาก แรกเกิดวัยเตาะแตะ >>> เติบโต>>>เต่งตึง>>> โตงเตง
    >>>ที่สุดก็.. ต้องตาย

    - หรือเราเกิดมาเพื่อสนุกกับของเล่นในวัยเด็ก อยากเป็นโน่นนี่ ตำรวจ ทหาร คุณหมอ พริตตี้ ตามเรื่องไป ต้องเรียนหนังสือ ทำการบ้าน สอบวัดผล คบเพื่อนฝูง หาสถานที่เรียนเด่นดัง
    เข้าสู่วัยรุ่นก็เริ่มแอบเหล่หนุ่มหล่อ แอบปิ๊งสาวสวย หาดารา-นักร้องเป็น IDOL
    สนุกกับกิจกรรมสารพัดที่ยังไม่เคยเรียนรู้ ทั้งสนุกและไม่สนุก แต่ก็ไม่เคยที่จะหยุดลองเรียนรู้

    - โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ จบการศึกษา ออกมาหางานทำเลี้ยงชีพ มองหมายหาเนื้อคู่แต่งงาน
    เก็บเงินทอง ซื้อบ้าน ผ่อนรถ เลี้ยงหมาแมวไปตามเรื่อง สุดท้ายแต่งงานก็ได้ลูกสาว ลูกชาย กันไปตามประสา (หลายบ้านลูกๆก็เลือกเพศของเขาเอาเองอย่างที่ต้องการในภายหลัง)
    คอยประคบประหงมห่วงใย เฝ้าระวังมิให้เจ็บป่วย รับส่งไปโรงเรียน ลูกเรียนเก่งก็ชื่นใจคุยอวด
    ลูกเกเรหัวใจแม่ พ่อ ก็แสนจะทุกข์กังวลว่าหนอ ต่อไปจักเลี้ยงตนเองอย่างไรในภายหน้าหนอลูก
    พรากเพียรหาเงิน เก็บไว้ให้ลูกเรียนลูกใช้ เป็นสมบัติสะสมให้ถึงหลาน

    - เลี้ยงลูกโตเรียนจบ..หรือไม่จบ ก็ต้องคอยดูว่ามีงานการทำหรือยัง มีหน้าตาหรือเปล่า?
    ต่อไปคู่ครองลูกจะดีไหม? เมื่อไรจะมีหลานให้ปู่ให้ย่า ให้ตาให้ยาย
    มีลูกห่วงลูก.. มีหลานก็ห่วงหลาน
    ดังโบราณว่า “...รักลูกเท่าลูกตาล รักหลานน่ะเท่าลูกมะพร้าว”
    เอ๊า!ยิ่งแก่ ก็ยิ่งห่วง ยิ่งทุกข์กังวลหนักเข้าไปอีก เฮ้อ..ก็หลานมีหลายคนแล้วนี่

    - เริ่มแก่มาก ก็ยิ่งเจ็บป่วยบ่อย หูตาฝ้าฟาง แขนขาก็อ่อนล้าโรยแรง ความจำเริ่มเลอะเลือน ลุกนั่งเดินเหินก็โอยๆ
    พฤติกรรมก็เริ่มงอแงคล้ายเด็กลงอีกที ลูกหลานก็เริ่มเบื่อหน่าย เพื่อนฝูงญาติมิตรก็เริ่มล่วงลับ ทะยอยดับตายหายจาก
    ทีละคนๆ
    สุดท้ายก็ถึงคิวข้า.. ต้องอำลาวงการมนุษย์ ไปอยู่เมืองผี....เช่นคนอื่น

    ได้ผ่าน... ความรัก ความเกลียด ความสมหวัง ผิดหวัง ทุกข์ สุข เศร้า ลำบาก สบาย หัวเราะ ร้องไห้
    ผ่านความเจ็บ ความป่วย ความชรา รอดพ้นความพิการ พ้นคุกรอดตะรางจากเหตุรายล้อม ก็นับว่าประเสริฐเพริดแพร้ว
    แล้วนับแต่เกิดมา ยันถึงวันตายนี้ มันได้สาระอะไรนับแต่เกิด ยันชรา แก่เฒ่าตาย?
    ตกลงว่า..อันตัวกูนี้เกิดมาเพื่อสิ่งใด? เกิดมาทำไมกันหนอ?

    ที่บ่นมาเรื่อยเปื่อย นี้คือชีวิตแบบพื้นๆของมนุษย์ทั้งหลายที่ได้มีโอกาส “แก่ตาย”
    คงมีผีๆวิญญาณมากมายที่ไม่ได้แก่ตายแอบอิจฉา เพราะตนมาตายก่อนสู่วัยชราเสียก่อน
    แล้วกว่าจะล่วงพ้นปลายชีวิตไปได้ เราต้องเผชิญโรคภัยที่พัฒนาสายพันธุ์แกร่งขึ้นอีกมากมาย เราคงต้องลุ้นสู้กันอีกหลายยกเชียว มันก็น่าเหนื่อยเหมือนกันนะ เพื่อนมนุษย์ร่วมโลกเราเอ๋ย!
    ++++++++
    แล้วค่อยมาเรื่องที่เกิดจาก...พรายย้ำกับร่องรอยเลือดพิษ จนถึงขึ้นต้องโดนหวายอาคมที่ปรากฏร่องรอยคล้ายกันแต่สาหัสกว่าเยอะ....เพราะดันโดนอาถรรพ์ไสยศาสตร์แบบไม่รู้ตัวบางอย่างของ Toplus99

    บางท่านอาจจะเคยมีอาการคล้ายๆกัน..แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...