เรื่องเล่าของข้าพเจ้าความศักดิ์สิทธิ์พระคาถาชินบัญชร

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย ชัชวาล เพ่งวรรธนะ, 1 ตุลาคม 2008.

  1. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    ตอบกุ้ง

    ตื่นแบบเต็มตัวกับรู้สึกว่าฝันอยู่ต่างกันจ๊ะ
    ตรงที่รู้สึกว่าฝันให้โน้มใจเข้าไปแล้วเตืนตนเองว่าตื่นซิหรือบอกกับตนเองว่านี่เราตื่นในความฝันได้ตรงนี้ล่ะสนุกนักล่ะ
    การที่กุ้งทำสมาธิและนอนหลับไปบางวัน...

    กุ้งจะบังคับฝันได้แต่ยังไม่ได้เรียกว่าตื่นคือฝันนั้นๆเราจะรู้สึกว่า
    เรามีกำลังเราจะวิ่ง เราจะเหาะมันมีแรงให้ทำตามใจจริงๆ
    แต่ถ้าวันใดสมาธิมีกำลังน้อยมันเหมือนคนหมดเรี่ยวหมดแรง
    บังคับอะไรไม่ได้สมดั่งใจ

    การตื่นในฝันบางคนจะกินเวลาไม่กี่วินาทีแต่บางคนอาจจะหลายนาที
    การตื่นในฝันกำลังสมาธิมีน้อยมากสะสมมาน้อยแต่ละวันจึงไม่เหมือนกันนัก

    บางวันถ้าตื่นในฝันอาจจะกลายเป็นความฝันบังคับเราให้ตามดูมัน
    เราจะมีสภาพเหมือนดั่งลอยละล่องแต่ภาพคมชัดเหมือนดูหนังในโรงอย่างไรอย่างนั้น

    แต่บางวันถ้าเรามีกำลังมากเราจะับังคับมันและตื่นแบบเต็มตัว
    การตื่นแบบเต็มตัวถ้าเราตื่นเต้น รีบเร่งและส่งจิตให้ไหลเคลื่อนไปกับฝันเราจะอยู่ในความฝันไม่กี่นาที

    แต่ถ้าเราตื่นและเราสร้างกำลังเอาไว้ รักษากำลังเอาไว้
    เราจะท่องแล่นไปเป็นเวลานานจนหมดแรงกำลัง

    ส่วนการถอดจิตเราต้องเห็นกายหยาบเป็นหลักฐาน
    ตรงนี้เราจึงจะไปในมิติภพอื่นได้ด้วยการโน้มเข้าไปตามกำลังมิติของจิต

    กุ้งอบรมสติระหว่างวันเสมอๆนะ สตินี่หล่ะเป็นตัวระลึกได้
    สตินี่หล่ะมีคุณในทุกๆอย่าง
    สตินี่หล่ะเป็นตัวรักษากำลังและไม่ส่งจิตซัดส่ายจนเรียวแรงหดหาย
    แค่อบรมกายและจิตแบบง่ายๆที่กุ้งทำอยู่
    กำลังมันจะปรากฏเพิ่มมากขึ้นเมื่อสติมีกำลัง สมาธิก็มีกำลังเช่นกัน
    อนุโมทนากุ้ง...
    เจริญดีขึ้นนะ ทำให้มันสิ้นสุดลงอย่างน้อยภพชาติเราก็ล่นลงมาเยอะแล้วที่มีสัมมาทิฎฐิเช่นนี้นะ
    จากพี่อ้องครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2009
  2. โป

    โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +256
    ผมขออนุญาต...คุณอ้อง

    ขอเป็นปราวณากำลังกาย กำลังใจ และจะช่วยในทุกสิ่งที่ตนเองสามารถทำได้ในทุกๆภพชาติ

    หนุนเนื่องให้คุณได้สมประสงค์ในความปราถนาช่วยสรรพสัตว์ให้พบกับทางสว่างครับ


    และขอให้คุณ...แผ่เมตตาให้ผมมีความได้กระทำตามที่ตั้งไจไว้โดยไม่เนิ่นช้า

    และหากบังเอิญพบเห็นผมตกหล่นอยู่ที่ใด ขอความกรุณาฉุดผมด้วย ขอบพระคุณครับ
     
  3. โป

    โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +256
    ผมขออนุญาต...คุณอ้อง

    ขอเป็นปราวณากำลังกาย กำลังใจ และจะช่วยในทุกสิ่งที่ตนเองสามารถทำได้ในทุกๆภพชาติ

    หนุนเนื่องให้คุณได้สมประสงค์ในความปราถนาช่วยสรรพสัตว์ให้พบกับทางสว่างครับ


    และขอให้คุณ...แผ่เมตตาให้ผมมีความได้กระทำตามที่ตั้งไจไว้โดยไม่เนิ่นช้า

    และหากบังเอิญพบเห็นผมตกหล่นอยู่ที่ใด ขอความกรุณาฉุดผมด้วย ขอบพระคุณครับ
     
  4. kung_9894

    kung_9894 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +1,584
    ตื่นในฝันหรือเปล่าคะ

    ไม่ได้ส่งการบ้านเสียนานค่ะพี่อ้อง
    ธาตุรู้คืออะไรคะ ปรากฏขึ้นได้อย่างไร
    มีบางครั้งที่หนูผุดความคิดขึ้นมา แล้วก็เป็นความจริง เหมือนได้ยินเสียงกริ่งหรือเสียงโทรศัพท์ก็จะนึกเห็นว่าคนนั้นคนนี้มา
    หรือคิดว่าเค้าจะพูดว่าอะไรก็ดักพูดซะก่อนค่ะ อันนี้คือธาตุรู้หรือเปล่าคะ

    เมื่อเช้าตอนใกล้รุ่งน่ะค่ะ หนูไปชงนมให้ลูกแล้วก็คิดว่าลองนอนสมาธิดู
    ก็กำหนดจิต ดูลมหายใจ เข้าสมาธิ
    สักพักพอจิตเริ่มนิ่งวูบไป ก็นึกอธิษฐานขอพระพุทธเจ้าพาไปเที่ยวดวงจันทร์ค่ะ
    คือนึกว่าอยากเห็นดวงจันทร์จัง จะเป็นอย่างไรหนอ
    จู่ๆกำลังเคลิ้มๆเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่นนะคะ หนูรู้สึกว่าตัวเองลอยขึ้นไปแบบเร็วมากๆ
    แล้วก็มาถึงยังที่แห่งหนึ่งซึ่งจิตบอกว่าเป็นดวงจันทร์ คือลักษณะพื้นผิวขรุขระแบบนั้นค่ะ ลองดูที่พื้นก็เป็นสีขาวทึบๆ
    ลักษณะหยาบๆลองจับดู ไม่ใช่ดิน ไม่ใช่หิน ไม่ใช่ทราย
    ก็ดูไปรอบๆ
    ไม่มีสิ่งมีชีวิตเลย
    ก็นึกสงสัยว่า ที่มีผู้ค้นพบว่าบนดวงจันทร์มีร่องรอยของน้ำไหลผ่านเป็นไง
    ก็เห็นทันทีว่าเป็นทางลักษณะเหมือนกับเคยมีของเหลวไหลผ่านไป
    แต่รอยนั้นแห้งแล้ว
    สักพักก็รู้สึกว่าตัวเองลอยวูบออกมาจากตรงนั้นค่ะ
    แล้วเห็นภาพเหมือนภาพถอยหลัง
    เห็นดวงจันทร์บนอวกาศ ดวงกลมใหญ่มาก
    แล้วก็ตื่นขึ้นมา
    อันนี้คือตื่นในฝันหรือเปล่าคะพี่อ้อง
    กินเวลาไปประมาณสักครึ่งชม.นะคะ
    แต่หนูรู้สึกตัวดีค่ะ ตอนนั้นยังลองจับดูเลย คือไม่เชิงเป็นดินนะคะ ลักษณะเหมือนปูนขาวเนื้อหยาบๆ
    ก็คิดว่านี่เหรอดวงจันทร์ ไม่เห็นจะสวยเลย 555

    ขอให้พี่อ้องเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งๆขึ้นไปค่ะ
    กุ้ง

     
  5. taw_wan

    taw_wan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +124
    Merry Christmas & Happy New Year 2010

    ;k06 ขอให้ครอบครัวคุณอ้องมีความสุขกายสุขใจตลอดปี 2010 นะคะ catt15
     
  6. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    ไปงานแต่งน้องที่กาญจนบุรีพึ่งกลับนะครับ...
    เลยไม่ได้มาเขียนหลายวัน

    หนุ่ย...
    พี่อ้องหาหนังสือไม่ได้เลย สงสัยจะต้องขอโทษหนุ่ยมาด้วย
    มีแต่คนเก็บและส่งต่อให้อ่านไปเลยขอกันลำบาก

    กุ้ง...
    ตื่นในฝันจ๊ะ สนุกดีไม๊ อือม...
    บังคับฝันได้แสดงว่าจิตมีกำลังของสมาธิแนบไปอยู่
    ยิ่งอยู่นาน รู้ตัวนานแสดงถึงสมาธิที่สะสมเอาไว้มากพอสมควร
    คราวหลังสำรวจกายเราด้วยนะ ดูมือ ดูเท้า ตีตัวเองเบาๆ
    ถามตัวเองว่านี่ตกลงคือตื่นในฝันหรือจิตไปสร้างรูปละเอียดภายนอก
    กายกันแน่ โลกภายนอกมันจะวังเวงเหมือนอยู่คนเดียว
    ถ้าไม่เกิดความหวาดกลัวก็จะมีเรื่องตื่นเต้นได้นาน
    สิ่งหนึ่งคืออย่าพยายามหวั่นไหว ตื่นเต้น ทำตัวตามปกติ รักษากำลังสมาธิเอาไว้
    ด้วยสติ และอย่าสนุกจนลืมสำรวจมิติภพภูมิ ความจริงของโลกละเอียด
    เพื่อเตือนตนด้วยความไม่ประมาทว่า สวรรค์มี นรก มี แถมผีก็มี ก็คือตัวเรานี่เอง
    ที่กำลังล่องลอยไปกับมิติแห่งกาลเวลา...

    ถึงคุณ Taw wan
    สวัสดีปีใหม่เช่นกันขอให้มีสุขภาพแข็งแรงครอบครัวร่มเย็น

    ถึงคุณ โป
    อนุโมทนาครับ.. เส้นทางอีกยาวไกลคงได้พบเจอและช่วยกันและกันเสมอครับ

    ส่วนเรื่องที่อ้องเขียนอีกเรื่องคือ
    2012 จริงหรือจะจบ เดี๋ยวจะมาเขียนอธิบายในเชิงประกอบให้นะครับ
    อ่านสนุกๆเช่นเคยครับ

    อ้อง...
     
  7. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    21/12/2012 หรือ 21/12/2555 จริงหรือจะจบสิ้น

    [​IMG] กระทู้นี้ควรอ่านอย่างพิจารณาเพราะเป็นการอ้างอิงวิทยาศาสตร์
    ซึ้งก็เป็นสิ่งที่นำเอาเหตุการณ์อดีตมาอ้างอิง มาวิเคราะห์และมีโอกาสเสมอที่จะถูกหักล้าง
    ด้วยทฤษฎีใหม่ๆได้อยู่เสมอ

    อดีตที่ผ่านมามักมีการยกเอาคำทำนายต่างๆเช่น2525 วันวินาศโลก
    y2k รหัสทำลายโลก และเข้ามาสู่2012 วันจบสิ้นโลก โดยยกเอาข้อความในสิ่งเดิมๆ
    มาแปลกันใหม่ ผูกโยงกันใหม่ (เลื่อนเวลาการทำนานทายทักมาเรื่อยๆ)
    อย่างคลุมเคลือและกำกวม

    ถ้าถามอ้องว่าอะไรคือวันจบสิ้นโลกก็คือ4.5ถึง5พันล้านปีข้างหน้าจบแน่เพราะดวงอาทิตย์จะจบสิ้นบวมจนกลืนโลก
    ส่วนวันเดือนปี 21/12/2012 เรามาลองมาอ่านกันในเชิงวิเคราะห์กันอย่างสนุกสนานแบบมีเหตุมีผล
    ในหลักของวิทยาศาสตร์และท้ายๆอ้องจะขอยกเอายุคแห่งเปลือกโลกเสื่อมอย่างแท้จริงมาเอ่ยถึง

    เพราะทำเอาอ้องต้องเสริซ์หาหลวงพ่อองค์นี้และท้ายสุดก็พบว่า
    พระธาตุท่านบ่งบอกการไม่กลับมาย่อมแสดงถึงศีล สมาธิ ปัญญา
    ที่ท่านได้ฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี
    ท่านเตือนเพื่อไม่ให้ประมาทและสร้างจิตสำนึกใหม่อย่าผลัดวันประกันพรุ่งและใช้โอกาส

    ที่หาได้ยากยิ่งในช่วงนี้เร่งขวนขวายพัฒนาอบรมตนเองเพื่อความพ้นไปไม่กลับมาอีกต่อไป

    ไม่มีจุดตำแหน่งแห่งใดยั่งยืนล้วนตกอยู่ใต้อนิจจลักษณะมีสภาพไม่เที่ยงแท้ไม่มั่นคง
    ขึ้นชื่อว่ารูปย่อมถูกสลายด้วยไฟตั้งอยู่ไม่ได้
    ย่อมสลายหายไปเป็นไปตามกฏของธรรมชาติ
    แม้โลก ระบบสุริยะ แกแลคซี่ รวมทั้งจักรวาล

    ทุกสิ่งอยู่ใต้กฏธรรมชาติเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับสลายแล้วก็เกิดใหม่ส่งต่อกันไม่สิ้นสุด
    พลังงานไม่มีวันดับสูญ สสารพลังงานแลกเปลี่ยนกันและกัน จึงหาต้นกำเนิดไม่ได้
    หาจุดสิ้นสุดไม่ลง
     
  8. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    21/12/2012 หรือ 21/12/2555 จริงหรือจะจบสิ้น

    ต้องรอดหรือรอดแล้วจะอยู่ไหวไม๊…

    การเผชิญหน้ากับความจริงด้วยการยอมรับความจริงเป็นสิ่งที่พวกเรา
    เพื่อนๆในลานธรรมฝึกอบรมพัฒนากันอยู่…. [​IMG]

    สิ่งที่อ้องจะกล่าวถึงมาจากการอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลหลายสถานที่ด้วยกัน
    เราจะมาพูดกันในหลักของเหตุและผลอย่างค่อยเป็นค่อยไปและในท้ายที่สุดก็จะยกเอาความจริงที่หนีไม่พ้นที่พวกเราจะต้องพบเจออย่างแน่นอน…
    21/12/2012 หรือ 21/12/2555 กึ่งศตวรรษแห่งพุทธวงศ์
    สิ่งที่มนุษย์ชาติกำลังตื่นกลัวในภัยของธรรมชาติที่จะปรากฏเช่นดั่งนวนิยาย…
    นั่นก็คือวันทำนายว่าจะเป็นจุดต้นกำเนิดของวันสิ้นโลก

    กรณีผลกระทบจากปฎิกิริยาเรือนกระจก (Greenhouse effect),
    กรณีผลกระทบจากพายุสุริยะ (Solar wind effect),
    กรณีผลกระทบจากการที่ระเบิดของภูเขาไฟ (Volcanic Activity),
    กรณีผลกระทบการชนปะทะของวัตถุใกล้โลก (Near Earth impact)
    การพุ่งชนของดาวNibiruและ การเรียงตัวของกลุ่มดวงดาว
    แกนโลกพลิกกลับขั้ว180องศา49วัน…

    สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นการจับประเด็นการขยายความการบอกเล่า
    ไปในทิศทางต่างๆ อย่างขาดเหตุผลและความเข้าใจที่ครบถ้วน
    และพร้อมกับการอ้างหลักการทางวิทยาศาสตร์ ที่มีความ
    กำกวม ผิดหลักเกณฑ์ และเลื่อนลอย ด้วยจุดประสงค์ที่ต่างๆกันไป โดยเฉพาะ
    การเล่นตลกบนโลกอินเตอร์เน็ต กระทบต่อความเข้าใจของผู้คนทั่วไป จนมีความกังวล
    และเกิดเป็นคำถามตามมามากมาย ว่า ค.ศ.2012 เป็นวันสิ้นโลกจริงหรือ ?
     
  9. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    21/12/2012 หรือ 21/12/2555 จริงหรือจะจบสิ้น

    เรื่องปฎิทินชาวมายาโบราณ (Ancient Mayan calendar )

    การนำวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 มากำหนดให้มีความน่าสนใจ จุดประสงค์ให้คน
    ทั่วไปได้ขบคิด เพื่อเพิ่มน้ำหนักเหตุผลของวันสิ้นโลก
    แต่สำหรับปฎิทินชาวมายาโบราณ วันสุดท้ายในยุคนั้นคือ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012

    เป็นเพียงแต่การคำนวณวันสุดท้ายของปฎิทินและไม่มีการบ่งบอกลักษณะของการทำลายล้างโลกแต่อย่างไร
    สิ่งที่ชนเผ่ามายาคิดคำนวณนั้นทำได้เพียงวัน/เดือน/ปีที่ไม่คลาดเคลื่อนของตำแหน่งดวงดาวที่แสดงอยู่ได้แค่นั้น

    ถ้ามิฉะนั้นแล้วชนเผ่ามายาคงจะคำนวณวันสิ้นสุดและสลายหายไปของเผ่าตนเองเอาไว้ด้วยตามหลักของเหตุและผล
    ดังนั้นการนำเอาจุดสิ้นสุดของการคำนวนดวงดาวมาบ่งบอกว่าเป็นวันสิ้นโลกยังคงขาดน้ำหนักและเหตุผลว่าสิ่งใดคือหายนะอย่างแท้จริง

    ดาวNiburi
    กรณีดวงดาวNiburi นับเป็นเรื่องตลกของนักวิทยาศาสตร์
    เพราะสำหรับชื่อ Nibiru เป็นชื่อดาวเคราะห์ ที่คิดขึ้นเพื่อ เล่นตลกบนโลกอินเตอร์เนต

    ทั้งไม่มีข้อเท็จจริงอ้างอิงทางวิชาการ
    ถ้า Nibiru หรือ Planet X บ่ายหน้ามุ่งมายังโลก ในปี ค.ศ.2012จริงๆแล้ว…

    นักดาราศาสตร์ ที่มีเครื่องมือที่จะตรวจสอบระยะ เส้นทางผ่านเข้ามาได้ล่วงหน้านับทศวรรษ
    คงจะบอกเส้นทางการคำนวนวิถีของดาวดวงนี้ได้และแน่นอนหากเป็นจริง ระยะที่ใกล้โลกขณะนี้ ที่บอกว่าจะพุ่งชนโลก
    คนทั้งโลกคงสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าไปนานแล้ว

    แต่ที่ไม่เห็นเพราะยังไม่ได้เกิดขึ้นเพราะไม่มีตัวตนของดาวดวงนี้

    แต่ถ้าจะมีก็คือดาวเคราะห์น้อยใกล้โลก โดยมีความเป็นไปได้
    ว่า ดาวเคราะห์น้อย 99942 Apophis (2004 MN4) จะเฉียดใกล้โลก
    ในวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2029 (พ.ศ.2572)

    โดยมีการแขวนป้ายเตือน ในระดับที่ 2
    (Yellow Zone) จาก 10 ระดับหรือ (ในรายงานปี ค.ศ. 2006)หรืออีก19ปีข้างหน้า

    เหตุที่ใช้คำว่าเฉียดนั่นก็เพราะดาวเคราะห์นั้นอาจจะเปลี่ยนวิถีโคจรกลายมาเป็นการพุ่งชนแทนก็ได้
    อีก19ปีข้างหน้าวิทยาการยังไม่มีความสามารถที่จะทำลายมีแต่ต้องเผชิญกับชะตากรรมหรือคำว่าฟรุ๊คเท่านั้น…
    สิ่งนี้คือการคำนวณดวงดาวที่จะพุ่งชนโลก คำนวณได้เป็นระยะเวลาหลายสิบปี ดาวNibiruนั้นจึงแทบไม่ต้องพูดถึง…
     
  10. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    21/12/2012 หรือ 21/12/2555 จริงหรือจะจบสิ้น

    สิ่งที่น่าตลกขบขันคือมนุษย์ต่างดาว
    มีการอ้างอิงคนที่ถูกส่งตัวไปบนยานบินต่างดาว
    การอ้างอิงรูปภาพหายตัวบนเตียงและลอยไหม้บนช่องเพดานเหนือเตียง
    เป็นรูปร่างคน... ฝรั่งที่ช่างคิดค้นจินตนาการอย่างสุดโต่ง

    แม้กระทั่งภาพที่ทำขึ้นบนผืนนาเป็นรูปทรงพิศดาล
    การอ้างอิงคำทำนายลึกลับที่หาไม่ได้แต่ดันเพิ่งปรากฏ
    การปล่อยข่าวขององค์การนาซ่าเรื่องแกนโลกพลิก(ประธานาธิบดีสหรัฐ เป็น งง...)
    การอ้างอิงคัมภีร์ไบเบิ้ล

    นอสตาดามุสที่เลื่อนวันเวลาและจับพลิกไปพลิกมาในตัวหนังสือ
    คุณยายเวนก้าที่ทำนายสงครามโลกครั้งที่สาม2008
    ญาณหยั่งรู้ของฝรั่งที่ขายหนังสือหลายล้านเล่มจนร่ำรวยบนความทุกข์ของคนที่หลงเชื่อ...
    และที่น่าตลกคือ...คำเตือนของมนุษย์ต่างดาว รวมทั้งแอเรีย51(ศูนย์บัญชาการปฏิบัติ์การของมนุษย์และมนุษย์ต่างดาว)

    การล้างโลกของทางไต้หวันพร้อมกับเชื้อเชิญการบริจาคเงินเพื่อการอยู่รอด

    เพื่อนๆน้องๆในการอ่านนวนิยายการเชิญเชื่อสิ่งใดก็ตามเราจึงควรเสาะหาข้อมูลมาประกอบร่วมด้วย เราจึงจะอ่านอย่างสนุกสนานและไม่เป็นไปตามการขายสื่อต่างๆอย่างงมงาย

    เรามาดูอดีตที่ผ่านมาที่มีการอ้างอิงเหตุการณ์โลกแตกเพื่อสร้างศรัทธาและการทำให้มวลมนุษย์ถึงกับฆ่าตัวตายหมู่เพราะหลงเชื่อในลัทธิ์ต่างๆกัน

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <o:OfficeDocumentSettings> <o:RelyOnVML/> <o:AllowPNG/> </o:OfficeDocumentSettings> </xml><![endif]--><link rel="themeData" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_themedata.thmx"><link rel="colorSchemeMapping" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_colorschememapping.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:TrackMoves/> <w:TrackFormatting/> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:DoNotPromoteQF/> <w:LidThemeOther>EN-US</w:LidThemeOther> <w:LidThemeAsian>X-NONE</w:LidThemeAsian> <w:LidThemeComplexScript>TH</w:LidThemeComplexScript> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> <w:SplitPgBreakAndParaMark/> <w:DontVertAlignCellWithSp/> <w:DontBreakConstrainedForcedTables/> <w:DontVertAlignInTxbx/> <w:Word11KerningPairs/> <w:CachedColBalance/> </w:Compatibility> <m:mathPr> <m:mathFont m:val="Cambria Math"/> <m:brkBin m:val="before"/> <m:brkBinSub m:val="--"/> <m:smallFrac m:val="off"/> <m:dispDef/> <m:lMargin m:val="0"/> <m:rMargin m:val="0"/> <m:defJc m:val="centerGroup"/> <m:wrapIndent m:val="1440"/> <m:intLim m:val="subSup"/> <m:naryLim m:val="undOvr"/> </m:mathPr></w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" DefUnhideWhenUsed="true" DefSemiHidden="true" DefQFormat="false" DefPriority="99" LatentStyleCount="267"> <w:LsdException Locked="false" Priority="0" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Normal"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="heading 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 7"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 8"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 9"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 7"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 8"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 9"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="35" QFormat="true" Name="caption"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="10" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Title"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="1" Name="Default Paragraph Font"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="11" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtitle"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="22" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Strong"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="20" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="59" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Table Grid"/> <w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Placeholder Text"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="1" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="No Spacing"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Revision"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="34" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="List Paragraph"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="29" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Quote"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="30" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Quote"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="19" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="21" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="31" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Reference"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="32" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Reference"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="33" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Book Title"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="37" Name="Bibliography"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" QFormat="true" Name="TOC Heading"/> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Cordia New"; panose-1:2 11 3 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Cambria Math"; panose-1:2 4 5 3 5 4 6 3 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1610611985 1107304683 0 0 159 0;} @font-face {font-family:Calibri; panose-1:2 15 5 2 2 2 4 3 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1610611985 1073750139 0 0 159 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627400839 -2147483648 8 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-unhide:no; mso-style-qformat:yes; mso-style-parent:""; margin-top:0cm; margin-right:0cm; margin-bottom:10.0pt; margin-left:0cm; line-height:115%; mso-pagination:widow-orphan; font-size:11.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Calibri","sans-serif"; mso-ascii-font-family:Calibri; mso-ascii-theme-font:minor-latin; mso-fareast-font-family:Calibri; mso-fareast-theme-font:minor-latin; mso-hansi-font-family:Calibri; mso-hansi-theme-font:minor-latin; mso-bidi-font-family:"Cordia New"; mso-bidi-theme-font:minor-bidi;} .MsoChpDefault {mso-style-type:export-only; mso-default-props:yes; mso-ascii-font-family:Calibri; mso-ascii-theme-font:minor-latin; mso-fareast-font-family:Calibri; mso-fareast-theme-font:minor-latin; mso-hansi-font-family:Calibri; mso-hansi-theme-font:minor-latin; mso-bidi-font-family:"Cordia New"; mso-bidi-theme-font:minor-bidi;} .MsoPapDefault {mso-style-type:export-only; margin-bottom:10.0pt; line-height:115%;} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 72.0pt 72.0pt 72.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-priority:99; mso-style-qformat:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin-top:0cm; mso-para-margin-right:0cm; mso-para-margin-bottom:10.0pt; mso-para-margin-left:0cm; line-height:115%; mso-pagination:widow-orphan; font-size:11.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Calibri","sans-serif"; mso-ascii-font-family:Calibri; mso-ascii-theme-font:minor-latin; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-theme-font:minor-fareast; mso-hansi-font-family:Calibri; mso-hansi-theme-font:minor-latin;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]ค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]33-150 [/FONT][FONT=&quot]ชาวคริสต์ยุคแรกกลุ้มใจว่าโลกจะแตกสลาย[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]ค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]992-1000 [/FONT][FONT=&quot]พระชาวยุโรปคิดว่า โลกจะวินาศในปี ค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1000 [/FONT][FONT=&quot]ผู้คนจึงหวาดกลัวกันใหญ่[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]ค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1001 [/FONT][FONT=&quot]ปรากฏว่าโลกยังไม่แตก พระชาวฝรั่งเศสจึงบอกว่า ภัยพิบัติจะเลื่อนไปเกิดปี ค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1033

    [/FONT][FONT=&quot]ค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1033 [/FONT][FONT=&quot]โลกยังหมุนต่อไป[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]ค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1186 ([/FONT][FONT=&quot]พ.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1729)[/FONT][FONT=&quot]เกิดดาวเคราะห์เรียงตัวกัน ชาวยุโรปนึกว่าโลกจะล่มสลาย[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]ค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1346-1418 ([/FONT][FONT=&quot]พ.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1889-1961) [/FONT][FONT=&quot]เกิดโรคกาฬโรคขึ้น ประชากร [/FONT][FONT=&quot]1 [/FONT][FONT=&quot]ใน [/FONT][FONT=&quot]3 [/FONT][FONT=&quot]ของยุโรปตาย และคร่าชีวิตประชากรครึ่งประเทศในอังกฤษ[/FONT][FONT=&quot]แต่มนุษย์โลกก็เพิ่มจํานวนกลับคืนมาตามเดิม[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]ค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1501 ([/FONT][FONT=&quot]พ.ศ.[/FONT][FONT=&quot]2044) [/FONT][FONT=&quot]คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ค้นพบรหัสไบเบิ้ล[/FONT][FONT=&quot]เรียกมันว่า"ไบเบิ้ลโค้ด" ได้ผลทํานายออกมาว่า โลกจะแตกใน ปีค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1656 ([/FONT][FONT=&quot]พ.ศ.[/FONT][FONT=&quot]2199)

    [/FONT][FONT=&quot]ค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1656 ([/FONT][FONT=&quot]พ.ศ.[/FONT][FONT=&quot]2199) [/FONT][FONT=&quot]คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ทํานายผิด[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]ค.ศ. [/FONT][FONT=&quot]1844 [/FONT][FONT=&quot]วิลเลียม มิลเลอร์ บอกสาวก[/FONT][FONT=&quot]50,000 [/FONT][FONT=&quot]คนว่า โลกจะพินาศในปีนี้แล้ว แต่ก็ผิดหวัง[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]ค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1848 [/FONT][FONT=&quot]วิลเลียมบอกว่า มันจะเลื่อนมาเกิดปีนี้ต่างหาก .. แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น วิลเลียมจึงบอกว่า มันเลื่อนไปเกิดปีหน้า[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]ค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1849 [/FONT][FONT=&quot]วิลเลียมไม่ได้รับความเชื่อถืออีกต่อไป[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]ค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1910 [/FONT][FONT=&quot]ดาวหางฮัลเล่ห์ปรากฏ ผู้คนต่างหวาดกลัวว่าจะเกิดวันสิ้นโลก[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]ค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1925 [/FONT][FONT=&quot]แม่ชี โรเบิร์ต ไรท์บอกว่า พระเจ้ามาบอกว่า โลกจะพินาศในปีนี้[/FONT][FONT=&quot]เผอิญปีนั้น เกิดโรคระบาด แผ่นดินไหวถี่ผิดปกติ ภาวะบ้านเมืองอึมครึม[/FONT][FONT=&quot]คนเลยเชื่อใหญ่ บางคนร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร บางคนขายบ้าน ขายที่นา[/FONT][FONT=&quot]พอถึงวันที่แม่ชีว่าจะเกิด แม่ชีไรท์พาลูกศิษย์หลบเข้าป่าจําศีลภาวนา[/FONT][FONT=&quot]แต่แล้วก็ผิดพลาดอีก[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]ค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1945 [/FONT][FONT=&quot]ชาร์ล ลอง นักฟิสิกส์อังกฤษ บอกว่า โลกจะพินาศ[/FONT][FONT=&quot]ซึ่งในระยะเดียวกันนั้น บังเอิญเกิดดาวหางบ่อยๆ[/FONT][FONT=&quot]เกิดสุริยคราสและจันทราคราส บ่อยๆ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]น้ำท่วมเป็นประจํา แผ่นดินไหวถี่ผิดปกติ จึงเป็นเหตุผลที่ชาวโลกควรเชื่อ แต่ก็ผิดพลาดหนักเข้าไปอีก[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]ค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1975 [/FONT][FONT=&quot]กลุ่มชาวคริสต์ออกมาทํานายว่าปีนี้โลกจะพินาศ หลังจากทายผิดติดต่อกันมาแล้ว [/FONT][FONT=&quot]10 [/FONT][FONT=&quot]ปี[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]ค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1996 [/FONT][FONT=&quot]ไมเคิล ดรอสนินท์และเอลิยา ริปป์ ตีความไบเบิ้ลโค้ด แล้วบอกว่า[/FONT][FONT=&quot]จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ [/FONT][FONT=&quot]3[/FONT][FONT=&quot]ในวันที่ [/FONT][FONT=&quot]25 [/FONT][FONT=&quot]กรกฏาคม ...แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น[/FONT][FONT=&quot]ไมเคิลและริปป์จึงบอกว่า สงครามโลกครั้งที่[/FONT][FONT=&quot] 3[/FONT][FONT=&quot]และภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดขึ้นแน่ แต่เลื่อนไปในปีค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1999

    [/FONT][FONT=&quot]ค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]1999 [/FONT][FONT=&quot]นอสตราดามุส บอกว่าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ [/FONT][FONT=&quot]3... [/FONT][FONT=&quot]นอกจากนอสตราดามุสแล้ว ยังมีไมเคิลกับริปป์ที่หน้าแหกเป็นเพื่อนอีกตั้งหาก[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]ค.ศ.[/FONT][FONT=&quot]2000 [/FONT][FONT=&quot]ดาวเคราะห์เรียงตัวกันในวันที่ [/FONT][FONT=&quot]5 [/FONT][FONT=&quot]พฤษภาคม ผู้คนบนโลกเชื่อว่าโลกจะแตก แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]กันยายน [/FONT][FONT=&quot]2005 - [/FONT][FONT=&quot]สิงหาคม [/FONT][FONT=&quot]2006 [/FONT][FONT=&quot]กลุ่มไบเบิ้ลโค้ดเชื่อว่า[/FONT][FONT=&quot]จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ [/FONT][FONT=&quot]3 [/FONT][FONT=&quot]ตามที่คัมภีร์ทํานายว่าจะเกิดใน สิงหาคม [/FONT][FONT=&quot]2006 [/FONT][FONT=&quot]แต่ก็ผิดอีก[/FONT]


    เรามาดูการเรียบเรียงของ ดร ต่างๆในไทยกันที่ต่างก็เขียน1999วันโลกาวินาศ
    การผูกโยงเรื่องราวต่างๆอย่างสารพัดที่จะทำกันเพื่อหวังเพียงการขายหนังสือให้เกิดความแตกตื่นโดยไม่ชี้แนะ
    ว่าควรอ่านด้วยการพิจารณาแต่เป็นการใส่ข้อมูลชนิดว่า อ่านแล้วไม่เชื่อไม่ได้อีกแล้ว

    ท้ายสุดก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นมาอย่างที่เขียนๆกันมา
    คนเขียนก็ทำหน้าที่เขียนแบบไม่รับผิดชอบต่อความเดือดเนื้อร้อนใจของคนที่อ่านข้อมูลข่าวสารนั้นๆ

    มาคราวนี้ก็ถึงตัวเลขสะสวยคือ21/12/2012 วันสิ้นโลกของคำทำนายชาวมายา
    ทั้งๆที่ชาวมายาก็ไม่ได้ทำนายเพียงแต่เป็นการคำนวนปฏิทินตามระยะเวลาเท่านั้น
    ถ้าชาวมายาสามารถทำนายวันสิ้นโลกได้ก็คงจะทำนายวันหายสาบสูญหมดสิ้นของชาวมายาเอาไว้เสียด้วยแล้ว

    วันเวลาดังกล่าวจึงไม่สามารถจะมาโยงเป็นประเด็นแบบกำกวม ทั้งแกนโลกพลิก
    ดาวชนโลก น้ำท่วมโลก การสงบนิ่งของดวงอาทิตย์ที่เตรียมแผ่รังสีเต็มสตีมในห้วงเวลาที่โลกขาดพลังแม่เหล็กโลกคุ้มครอง

    การประทุของภูเขาใต้มหาสมุทรในรอบ75,000ปี ที่จะครบรอบเร็วๆนี้
    (ตรงนี้เป็นการสันนิษฐานในเชิงธรณีวิทยาโดยการสุ่มตรวจพื้นฐานของแร่ธาตุต่างๆในชั้นดิน ที่มีโอกาสจะถูกหักล้างด้วยทฤษฎีใหม่ๆได้อยู่เสมอ)

    โลกนะไม่ใช่ลูกโป่งเป่าแล้วแตก...
    เปลือกโลกก็ไม่ใช่อยู่ดีๆจะกระเด้งยุบตัวไปทั้วทั้งโลก

    ในรอบสุดท้ายที่เรียกว่าเสื่อมมันจะกินระยะเวลา6,500ปีอันเนื่องมาจากมนุษย์ที่ระดมเอาทรัพย์ยากรณ์ของโลกมาใช้
    ชนิดที่เจาะจนดั่งแมลงชอนไช

    ความเสื่อมไม่ได้มาจากธาตุเสื่อมแต่มันเกิดมาจากการไม่รู้จักยั้งคิดในการใช้จนเข้าขั้นทำลายตนเองต่างหาก
    <o:p></o:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ธันวาคม 2009
  11. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    21/12/2012 หรือ 21/12/2555 จริงหรือจะจบสิ้น

    ทฤษฎีแกนโลกพลิกกลับขั้ว (Polar shift theory)

    เปลือกโลกไม่สามารถที่จะหมุนกลับแบบ180องศาใน1วันหรือ1สัปดาห์หรือ49ตามคำภีร์ไบเบิ้ลอย่างแน่นอน

    เพราะแผ่นทวีปจะค่อยๆเลื่อนตัวเองอย่างช้าๆกินเวลาไม่ต่ำกว่าหมื่นปี-แสนปี

    ความสัมพันธ์การหมุนของโลกกับกระแสไฟฟ้า
    ของสนามแม่เหล็กโลก (Magnetic polarity of Earth)
    ไม่ว่าจะผิดปกติเพียงใดแต่ทุกๆสิ่งจะปรากฏอย่างค่อยเป็นค่อยไปมิฉนั้นเผ่าพันมนุษย์จะหายสาบสูญไปจากโลกใบนี้อย่างถาวร


    การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้จะเกิดขึ้นราวทุกๆ 400,000-600,000 ปี
    และเปลี่ยนแปลงมาแล้วหลายครั้ง แบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้าๆ นับระยะเวลา
    เป็นหมื่นหรืออาจแสนปี

    แต่สิ่งที่เราอาจจะต้องพบเจอภายใน50ปีนี้คือน้ำ


    โดยปกติโลกมีปริมาณน้ำบนโลกมีถึง 70% มากกว่าผืนแผ่นดินอยู่แล้ว

    การยกตัวของระดับน้ำทะเล จากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ของน้ำทะเลร้อนขึ้น
    และการละลายของแผ่นน้ำแข็ง เมื่อรวมทั้งสองกรณี เข้าด้วยกัน จะมีศักยภาพ
    ใหญ่โตมาก อย่างไม่น่าเชื่อ จากการคำนวณว่าปริมาณแผ่นน้ำแข็ง Greenland
    และ Antarctica สามารถทำให้ การยกตัวระดับน้ำทะเลอยู่ระหว่าง 7-73 เมตร

    ดังนั้นมีความเป็นไปได้ ภายใน 50-100 ปีข้างหน้า (แต่ไม่ใช่ภายใน ค.ศ. 2012)

    อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำของโลกจะค่อยๆสูงขึ้นในทุกๆปี บริเวณที่จะเกิดปัญหา
    ก่อนใคร คือ เกาะขนาดเล็ก เมืองท่าบริเวณปากอ่าวแม่น้ำ และที่ลุ่มริมฝั่งรวม
    ถึงลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในประเทศไทย

    การเพิ่มขึ้นของน้ำ จะไม่เกิดในลักษณะน้ำท่วมจนไม่เหลือผืนแผ่นดิน แต่จะทำ
    ให้ผืนดินน้อยลง เกิดความไม่สมดุลยต่อประชากรที่เพิ่มขึ้น ต่อพื้นที่เพาะปลูก

    จะเกิดโรคระบาดใหม่ ขาดแคลนทรัพยากร จะเห็นปัญหาต่างๆชัดขึ้นราว
    ค.ศ. 2050

    จนทำให้แก้ไขยากขึ้นเรื่อยๆ
    ถ้าเพื่อนๆอ่านมาถึงจุดนี้แล้วอาจจะถอนหายใจไปเฮือกใหญ่เพราะที่ดูหนังกับชีวิตจริง
    มันจะแตกต่างกันเพราะชีวิตจริงหาใช่ดั่งนวนิยาย
    แต่ช้าก่อน…
     
  12. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    21/12/2012 หรือ 21/12/2555 จริงหรือจะจบสิ้น

    สิ่งหนึ่งคือการให้เหตุผลและการกล่าวอ้างอดีตของเหล่านักวิทยาศาสตร์นั้น
    มีโอกาสที่จะถูกหักล้างด้วยทฤษฎีใหม่ๆได้อยู่เสมอ เพราะคนที่กล่าวอ้างอดีตเป็นหมื่นปีแสนปี
    ด้วยการคำนวนและวิเคราะห์ธาตุต่างๆของผิวดินที่กินระยะเวลาตามการคำนวนของธาตุบนชั้นผิวดินและธาตุต่างๆของแท่งน้ำแข็งขั้วโลกนั้น

    อาจจะถูกในส่วนหนึ่งและผิดในส่วนหนึ่งก็ได้...

    เพราะความเป็นจริงในช่วงนั้นกับความเป็นจริงในช่วงนี้
    อาจจะไม่เหมือนกันอันเป็นไปตามกฎของธรรมชาติแห่งความเสื่อมเพื่อเริ่มต้นใหม่ก็แป็นไปได้

    ในยุคต้นอาจจะเปลี่ยนแปลงอย่างช้ามาก ยุคกลางอาจจะเริ่มเร็วขึ้นและยุคสุดท้ายอาจจะถี่จนทำให้มนุษย์และสัตว์แทบจะไม่มีเวลาหายใจ

    สิ่งที่อ้องจะพูดถึงคือการเสื่อมของเปลือกโลกซึ้งในยุคต้นและยุคกลางไม่ได้ทำให้ปวงสัตว์ได้รับผลกระทบอันใดเลยแม้แต่น้อย
    แต่ยุคแห่งปลายแห่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อเริ่มต้นเปลือกโลกใหม่นั้น

    ระยะเวลาหกพันปีนับจากนี้คือการคำนวณของหลักของความเสื่อมแห่งอายุขัยของมนุษย์พร้อมกับศีลธรรม คุณธรรม
    ที่กำลังก้าวลงไปสู่จุดต่ำที่สุดของวัฎจักรของวงจรแห่งความเสื่อมของมนุษย์ชาติ

    ถ้าเพื่อนๆใช้การพิจารณาในสังคมในยุคปัจจุบันนี้ เพื่อนๆคิดว่าศีลธรรมในยุคนี้พอจะผ่านไปถึง2,500ปี ข้างหน้าได้หรือไม่

    สำหรับอ้องเองนั้น ความเสื่อมของศีลธรรมในปัจจุบันนี้อีก50-100ปีข้างหน้ามนุษย์ต้องพบจุดจบ เพราะการทำลายล้างกันครั้งใหญ่เพราะมาจากทรัพยากรของโลกไม่เพียงพอต่อมนุษย์ ชาติ

    วันใดที่พลังงานขาดแคลน น้ำดื่มหาได้ยาก ภัยพิบัติธรรมชาติถี่มากขึ้น
    มนุษย์ที่ไร้ศีลธรรมจะทำลายล้างกันขนานใหญ่เพียงแต่จะไม่ปรากฏเป็นสงคราม ล้างโลกเพราะมนุษย์จะเจอภัยทางธรรมชาติจนตั้งตัวไม่ติดอีกไม่นานเกินรอ…
     
  13. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    21/12/2012 หรือ 21/12/2555 จริงหรือจะจบสิ้น

    ..................... คำปรารภของพระอริยเจ้าองค์หนึ่ง................

    สถานการณ์โลกในปัจจุบัน
    ที่กำลังเกิดขึ้น ตามสถานที่ต่างๆทั่วโลก ภัยธรรมชาติประเภทต่างๆที่กำลังเกิดขึ้น จะมีความรุนแรงมากขึ้น
    ที่ยังไม่ทันเกิดก็จะเกิดในไม่ช้านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย เป็นไปตามธรรมชาติในตัว ของมันเอง
    ไม่มีใครมีอำนาจควบคุมหรือบังคับสั่ง การอะไรได้

    .........ผู้มีปัญญาย่อมไม่ตั้งตนอยู่ในความ ประมาท สิ่งที่ผ่านมาก็ผ่านไปแล้ว ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
    ขอให้ทุกท่าน ได้ใช้เวลาที่มีอยู่ สร้างบุญกุศลบารมีตัวเองเอาไว้ให้มาก
    พวกเรามีโอกาส ได้เกิดมา
    ในยุคสมัยที่พระพุทธศาสนายังคงความบริบูรณ์อยู่ จงพากันตั้งใจหมั่นสร้างเสริมบุญบารมี ทาน ศีล
    และภาวนา ให้ถึงพร้อมอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นเหตุเป็นปัจจัยนำพาท่านทั้งหลายข้ามพ้นวัฏฏะ อันเต็ม
    ไปด้วย ความระทมทุกข์ ไปสู่ฝั่งพระนิพพานดังที่ได้ปรารถนาไว้โดยเร็วพลันด้วยเทอญ..
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  14. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    21/12/2012 หรือ 21/12/2555 จริงหรือจะจบสิ้น

    .ในโลกนี้มีพระพุทธเจ้าองค์เดียวเท่านั้นที่มีญาณวิเศษรู้เห็น ว่าโลกทั้งสามนี้เกิดขึ้นแต่เมื่อไร
    พระสาวก
    ทั้งหลายไม่มีญาณหยั่งรู้เหมือนพระพุทธเจ้าได้ ที่เรียกว่าโลกวิทู เป็นผู้รู้แจ้งโลกทั้งหมด
    รู้ความเป็นมาของโลกในอดีตถึงปัจจุบัน และรู้ความเป็นไปในเรื่องอนาคตของโลกนี้อย่างทั่วถึง
    ความรู้แจ้งโลกนี้ จะมีเฉพาะพระพุทธเจ้าเท่านั้น บรรดาพระอริยสาวกทั้งหลายมี
    ปัญญาญาณในการละกิเลสเท่านั้นพระพุทธองค์จึงเป็นครูสอนเทวดา มาร พรหม และมนุษย์ทั้งหลาย

    ....พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ในโลกนี้มีอยู่แสนโกฏิจักรวาล โลกที่พวกเราอาศัยอยู่ในขณะนี้
    เป็น จักรวาลหนึ่งที่ตั้งอยู่
    ในท่ามกลางของแสนโกฏิจักรวาล


    ....ฉะนั้นจักรวาลที่โลกมนุษย์อาศัยอยู่ จึงเป็นศูนย์กลางของจักรวาลทั้งหลาย ผู้จะทำกรรมดี กรรมชั่ว ก็ต้องทำ
    ในจักรวาลนี้ทั้งนั้น เมื่อทำกรรมดี จิตวิญญาณก็ส่งผลให้ไปอยู่ในจักรวาลอื่นๆ ที่เรียกว่าเทวโลกหรือพรหมโลก
    ในชั่วระยะหนึ่ง เมื่อบุญกุศลได้หมดไปก็ได้กลับมาเกิดในโลก มนุษย์นี้อีก หรือทำกรรมชั่วเอาไว้ จิตวิญญาณก็
    จะได้รับผลในอบายภูมิ คือ นรก เปรต สัตว์ดิรัจฉาน อสุรกาย

    เมื่อกรรมชั่วหมดไปก็จะไก้กลับมาเกิดในโลกมนุษย์นี้อีก
    จึงเป็นวัฏจักรที่จิตวิญญาณ ต้องหมุนเวียนไปมา ตามกรรมที่ทำไว้แล้ว เว้นแต่พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า
    และพระอริยเจ้า ผู้สิ้นอาสวะกิเลสได้แล้วอย่างสมบูรณ์เท่านั้น จึงไม่มีการเกิดในโลกทั้งสามนี้อีกต่อไป นี้เป็นหลัก
    ของพระพุทธเจ้าที่พร้อมด้วยเหตุและผล

    ....ดังที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ในโลกมนุษย์นี้ หากมีการประดับประดาให้สุดสวยงามงอนเหมือน ราชรถก็ย่อม
    ทำได้ พระพุทธเจ้าตรัสต่อไปว่า ..."คนเขลาเท่านั้นข้องอยู่ คนฉลาดหาข้องอยู่ไม่"..
     
  15. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    21/12/2012 หรือ 21/12/2555 จริงหรือจะจบสิ้น

    ....เมื่อเราได้รับรู้ในคำตรัสของพระพุทธเจ้าแล้วอย่างนี้ เรามีความคิดเห็นเป็นประการใด ให้เราใช้ปัญญา
    พิจารณาดูตัวเองบ้าง อาจสำนึกได้ว่าเราเป็นผู้ฉลาดหรือเป็นคนเขลากันแน่ ถ้ารู้ตัวเองว่าเป็นคนเขลา
    เราจะฝึกสติปัญญามาสอนใจให้มีความฉลาดรอบรู้ตามความเป็นจริงได้อย่างไร ให้ใจมีความฉลาด
    รอบรู้ในหลักสัจจธรรมเอาไว้บ้าง ถ้ารู้ตัวเองว่าเป็นคนเขลา เราจะหาวิธีฝึกใจให้มีความฉลาดได้

    ....ถ้าเข้าใจว่าตัวเองเป็นผู้ฉลาด โอกาสที่จะเป็นคนเขลานั้นมีสูง หายากมากที่คนเราเกิดมาจะมีความฉลาด
    มาพร้อมกัน จะต้องมีความเขลาติดตัวมาด้วย แล้วฝึกความฉลาดให้เกิดขึ้นในภายหลัง หรือเหมือนที่คน
    เกิดมาจะมีความดีถูกต้องไปเสียทั้งหมด ย่อมเป็นไปไม่ได้ ทุกคนย่อมมีการทำผิด และพูดผิดมาก่อน
    แล้วนำมาเป็นบทเรียนเพื่อแก้ไขตัวเองให้มีการทำและการพูดที่ถูกในภายหลัง

    ....พระพุทธเจ้าเอาสัจธรรมมาสอนในหมู่มนุษย์ทั้งหลาย มิใช่ว่าพระองค์จะเอามาจากที่อื่น เพราะ
    สัจธรรมความจริงมีอยู่ในตัวเราอยู่แล้ว แต่เราไม่รู้ว่าสิ่งนี้เป็นธรรม จึงได้เกิดความหลงและเกิดความ
    เข้าใจผิดคิดว่าสมบัติทั้งหลายเป็นของของเรา

    จึงเอาสมบัติของโลกมาทับถมใจตัวเองให้เกิดความทุกข์
    หรือเรียกว่าแสวงหาความสุขในเหตุที่เป็นทุกข์ฉะนั้น

    พระธรรมจึงเป็นของเก่ามีมาพร้อมกันกับมวล หมู่มนุษย์
    ทั้งหลาย พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ที่ผ่านมาก็เอาสัจธรรมความจริงที่มีอยู่ในตัวของ มนุษย์ทั้งหลาย
    นำมาสอนให้มนุษย์มีความรู้เห็นที่ถูกต้องในความจริง จึงเรียกว่า พระพุทธเจ้าได้ ค้นพบหลักสัจธรรม
    ในหมู่มนุษย์ แล้วสอนให้ทุกคนดูสัจธรรมที่มีอยู่ในตัวเอง ว่าทุกอย่างมีความ เป็นจริงอย่างนี้ด้วยสติปัญญาเฉพาะตัว
     
  16. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    21/12/2012 หรือ 21/12/2555 จริงหรือจะจบสิ้น

    8ภัยธรรมชาติ

    ถ้าเพื่อนๆเข้าใจคำว่าเปลือกโลกเสื่อมก็ย่อมมองไปที่ลอยแตกของชั้นเปลือกโลก ที่เริ่มปรากฏเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น 4-5ปีที่ผ่านมาเราจะพบเห็นเหตุการณ์ทางธรรมชาติเช่นแผ่นดินไหว พายุถล่ม ซึมามิ น้ำท่วมโคลนถล่ม อากาศที่ผิดปกติพันแปรทางธรรมชาติและลมที่แรงจนน่ากลัว
    อุณหภูมิที่สูงขึ้นยังไม่น่ากลัวเท่ากับภัยเงียบที่อยู่ในชั้นใต้ผิวดิน

    ....ภัยธรรมชาติจะเกิดขึ้นในตัวมันเอง เป็นภัยธรรมชาติที่มีอยู่ประจำโลกมาแต่กาลไหนๆ
    เมื่อโลก นี้ได้เกิดขึ้นมานานหลายล้านๆปี ก็จะถึงกาลสมัยเปลือกโลกเสื่อมหมดคุณภาพลง ภัยธรรมชาติจะปรากฏถี่ขึ้นอย่างที่เรากำลังจะเริ่มพบเห็นกันทั้งที่ผ่านมา และอนาคตที่จะถึง

    ....ภัยธรรมชาติที่จะกล่าวต่อไปนี้ เป็นภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นในช่วงที่
    อายุขัยของมนุษย์ต่ำกว่า ๑๐๐ ปีเป็นต้นไป ๓๐ เปอร์เซนต์
    ของ ประชากรโลกคือส่วนที่รอด แล้วเริ่มตันชีวิตใหม่ โดยไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายเหมือนยุคปัจจุบัน

    ....ภัย ธรรมชาตินี้จะเกิดต่อเนื่องต่อกันยาวนาน จะหลบจากภัยธรรมชาติในจุดหนึ่งได้แล้ว ก็ไป
    เจอกับภัยธรรมชาติอย่างอื่น อีก ภัยธรรมชาตินี้มีอยู่เป็นจุดใหญ่ ๘ จุดด้วยกัน คือ

    ๑. วาตภัย จะเกิดลมพายุใหญ่ทั้งบนบกและในทะเล
    ๒. อุทกภัย จะเกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรง
    ๓. ธรณีภัย จะเกิดแผ่นดินถล่มและแผ่นดินไหว
    ๔. อัคคีภัย จะเกิดความแห้งแล้ง ไฟไหม้ป่า
    ๕. มลพิษภัย จะเกิดมลภาวะที่ร้ายแรง มีผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสัตว์เป็นอย่างมาก
    ๖. โรคภัย จะเกิดโรคระบาดนานาชนิด
    ๗. อาหารภัย จะเกิดการอดอยากในอาหาร
    ๘. โจรภัย ภัยจากกลุ่มคนพาลปล้นจี้ลักขโมย
     
  17. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    21/12/2012 หรือ 21/12/2555 จริงหรือจะจบสิ้น

    มนุษย์กำลังเข้าสู่ยุคดึกดำบรรพ์ในไม่ช้านี้เพราะไร้ซึ้งพลังงานไฟฟ้า
    อากาศยานที่บินไม่ได้เพราะลมแรงและหลุมอากาศอย่างมากมาย
    ทะเลที่ปั่นป่วนบ้าคลั่งเต็มไปด้วยคลื่นสูงและลมพายุ
    เครื่องบินบินไม่ได้ เรือเล่นออกจากฝั่งไม่ได้
    รถยนต์หมดสิ้นพลังงานขับเคลื่อน
    พืชผลการเกษรได้รับความเสียหาย
    พิษของผิวดินละลายลงในน้ำ
    เชื้อโรคชนิดใหม่ๆปรากฏขึ้น
    ยารักษาโรคที่หายไปกับป่าไม้
    ้บ้านเรือนที่อาศัยอยู่ไม่ได้
    ภูเขาและถ้ำถล่มทลาย
    เปลือกโลกดันตัวเปลี่ยนแปลง
    ช่องโพลงดินสูบน้ำให้กลายเป็นแอ่งน้ำวนหายไปทั้งทะเลสาบและไปโผล่เอาอีกที่หนึ่ง
    แผ่นดินไหวขนาด12ริคเตอร์

    ถ้าเพื่อนๆคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะปรากฏไม่กี่วันดั่งในหนังก็ิคิดผิด
    4-5ปีที่ผ่านมาภัยพิบัติที่รุนแรงจะปรากฏไม่กี่ครั้งและจะเริ่มเป็นหลายเดือนละไม่กี่ครั้ง
    กลายมาเป็นเดือนละกี่ครั้ง

    ในจุดในตำแหน่งที่แตกต่างกันออกไปโดยกินระยะเวลานานถึง6พันปี
    ในอีก2545ปีข้างหน้ามนุษย์จะก้าวมาสู่อายุขัยต่ำสุดคือ10ปีเพียงแต่ว่าก็จะปรากฏมนุษย์อายุขัย20-30ปีบ้าง
    เช่นในยุคปัจจุบันที่คนมีอายุเฉลี่ย75ปีแต่ก็ยังมีมนุษย์ที่อายุขัย100-125ปีปรากฏอยู่

    ในจุดกึ่งกลางแห่งพุทธศาสนาจะปรากฏจิตสำนึกใหม่ อะไรเป็นตัวการสร้างจิตสำนึกใหม่
    มนุษย์ที่ไม่เห็นโรงศพไม่หลั่งน้ำตา
    อะไรทำให้มนุษย์หันหน้ามาเข้าสู่ความร่มเย็น ความอันเป็นที่พึ่งอาศัยทางจิตใจได้อีก

    ภัยพิบัติทั้ง8นั้นจะเริ่มเมื่อไหร่ นับเป็นสิ่งหนึ่งที่พระอริยเจ้าองค์นี้ได้เตือนเพื่อให้เราอย่าประมาทในชีวิต
    เพราะการสืบเนื่อง การส่งต่อ การกำเนิดใหม่ย่อมปรากฏกับพวกเราเสมอไปที่ยังไม่พ้นไปจากขันธ์๕นี้

    หกพันปีข้างหน้าเราจะต้องกำเนิดเพื่อกลับมาบนมิติโลกแห่งนี้ในช่วงไหน
    และหกพันปีข้างหน้าก็เริ่มแล้วนับจากนี้... [​IMG]
     
  18. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    สิ่งที่จะเกิดไม่ใช่เกิดแบบลบล้างไม่กี่วัน
    แต่จะกินระยะเวลายาวนานหลายพันปีจึงจบสิ้นในยุคแห่งการเสื่อมถอยของศีลธรรม
    และการจ้องเบียดเบียนกันและกัน กอบโกยเอาทรัพยากรณ์ต่างๆแบบไม่สนใจ
    สถานที่กำเนิดคือโลกของตนเอง
    อีกไม่กี่ปีข้างหน้าภัยทางธรรมชาติจะรุนแรงมากขึ้นแต่ไม่ใช่หมายถึง
    จะเกิดไปทั้งโลกแต่จะเกิดเฉพาะจุดแต่รุนแรงถึงขั้นทำลายมวลมนุษย์ให้สพึงกลัว

    มนุษย์ที่ตื่นตัวหันกลับมาเพื่อรักษาโลกยังน้อยกว่ามนุษย์ที่ยังจ้องเสพทุกๆสิ่งที่เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว

    วันข้างหน้าที่สำนึกคือวันที่ช้าไปทุกๆสิ่ง เหมือนบ้านที่ถูกแผดเผาด้วยไฟแล้ว
    กลับยืนชมด้วยความสนุกสนานจนเริ่มที่จะลุกลามใหญ่โตแล้ววิ่งหาน้ำมาดับไฟ
    ทุกๆอย่างก็กลายเป็นคำว่าสายไปเสียแล้ว

    ในรอบหกพันปีข้างหน้าเราไม่รู้ระยะเวลาว่า...
    ปีไหน วันไหน ที่จะปรากฏเหตุการณ์ต่างๆ เพียงแต่ว่าทุกๆสิ่ง

    ได้เข้ามาในจุดเริ่มต้นมาหลายปีแล้ว...
    ไฟได้ถูกจุดไปในพื้นที่หลายๆแห่งบนโลกแบบไม่รู้ตัว

    ธาตุต่างๆกำลังผันแปไปเพื่อปรับความสมดุลย์
    ทุกๆสิ่งเกิดมาจากฝีมือของมนุษย์ชาติจึงต้องรับผิดชอบร่วมกัน
    เดี๋ยวมาอ่านกันต่อในภัยทางธรรมชาติต่างๆนะครับ

    ที่สำคัญเรายังต้องเกิดอีกการที่คิดว่าไกลตัวคงไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนัก
    มาฝึกอบรมพัฒนาตนเองเพื่อหยุดนิ่งหรือก้าวเข้าสู่สุขคติภพซักช่วงเวลาหนึ่ง
    ก็คงน่าจะดีหมั่นรักษาศีลและสร้างคุณธรรมให้มากยิ่งขึ้น

    ด้วยความไม่ประมาทเสียแต่วันนี้นะครับ
    อ้อง...
     
  19. SONICx

    SONICx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +225
    ไม่เป็นไรครับพี่ ขอบคุณมากครับ....
    ทุกวันที่ออกท่องเที่ยวด้วยกำลังสมาธิขั้นฌาน ด้วยทำให้จิตไปสร้างรูปละเอียดภายนอก ก็ใช่ว่าจะไม่มีประโยชน์ครับ ผมได้พบสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆมากมาย ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย และสามารถย้อยรอยอดีตตนเองได้ ทำให้รู้ว่าเป็นวิบากเดิมของตนเองที่ทำแบบนี้ได้ ผมยก กายาคตนุสติกรรมฐาน มรณานุสติกรรมฐาน อสุภะกรรมฐานสิบ จตุธาตุวัฏฐานสี่ มาพิจารณาทุกครั้งจนจิตขยะแขยงในกายเนื้อ มันจึงออกได้ง่าย ด้วยกำลังใจ ณ ปัจจุบัน ที่ได้ตามรู้การปรุงแต่งของจิตในชีวิตประจำวัน จนเริ่มหดสั้นเข้า แล้วใช้กำลังสมาธิออกท่องเที่ยว พักผ่อน อารมณ์ใจมันเบา สบาย ครับ.
    ขอบคุณพี่อีกครั้งที่แนะนำถึงวิธีถอดจิตให้ผม ขอบุญบารมีที่ผมได้บำเพ็ญเพียรนี้ได้ช่วยเกื้อหนุนให้พี่ได้บรรลุ มรรคผลในเร็ววันครับ..
    หนุ่ยครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2009
  20. วันชัย13

    วันชัย13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +176

แชร์หน้านี้

Loading...