เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ทางสายธาตุ ..เล่าเรื่องมีคนตามหา อาจารย์ ที่เก่งคุณไสย..เพื่อไล่ผีแขกออก
จำได้ว่า..เรื่องอยู่ที่ เวบพ้องลึกลับ...ลงมานานแล้ว
...........................................................................
ตรวจแล้วผีแขกแรงมากๆๆ...ใครพลังจิตต่ำ...ไปแก้...จะเดี้ยงลูกเดียว
เหมือนกับเสี่ยงตายไปช่วยชีวิต...คนช่วยเสื่ยงมากๆๆ ฟรี
..............................................................................
ถ้า อ.ไป...อาจารย์ ต้องหยุดนั่งทำสมาธิสุดๆๆ นาน ถึงสามวัน
จึงจะฟื้น พลัง กลับมา ตรวจออร่า...ได้
..................................................................
หสยไปสามวัน เสียหายหลายแสน...ไม่คุ้ม
..................................................................
มีอีกประตูเดียว...ให้ไปหา ร่างทรงแท้ๆๆ ของ พระ ศิวะ
ให้ท่านลืมตาที่ สามเผา..น่าจะได้
...................................................................

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ suwi

ในสิ่งที่ดีที่สุด
แต่ผู้ใช้ไม่ควรแก่งาน ไร้ซึ่งคุณธรรมควรคู่ กับสิ่งที่ท่องบ่นเป็นนิจ
เมื่อสมาธิจิตบังเกิด ล้วนชักนำความสมปรารถนา แต่เคลือบด้วยความทุกข์และโรคภัยมาให้ไม่รู้สิ้น
ในถานะหมอ ได้พบโรคภัยแปลกๆ อันเกิดจากการสวดคาถาบทนี้มากมาย
แต่ละเคส ล้วนมีที่มายิ่งใหญ่ทั้งสิ้น
บ้างใหญ่จริง บ้างใหญ่ปลอม
พวกที่ใหญ่ปลอมๆ เราก็พอรักษาได้
แต่เจอพวกใหญ่คับฟ้า หมอก็ต้องถอนตัว ใส่ตีนหมา ภวนาหลวงพ่อโกยช่วยด้วย

***********************************************************


อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ คนสีขาว
อาจารย์ ... เผอิญสวดบทนี้เป็นประจำ ..อยากขอคำอธิบายอาจารย์เพิ่มเติมค่ะ...อะไรคือใหญ่จริง / ใหญ่ปลอมคะ แล้วโรคภัยประเภทไหนที่เกิด เกิดเพราะอะไรคะ ...ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ


**************************************************************

คุณสุวิตอบ........

การที่จะตอบคำถามนี้ให้เข้าใจ ต้องกล่าวย้อนหลายเรื่อง และต้องอุปมาอุปมัยในหลายๆเรื่องเช่นกัน

๑. ทุกท่านทราบดีว่า รอบกายมนุษย์เราจะมีเกราะป้องกันตัวจากการเบียดเบียนต่างๆ
ทั้งจากโรคภัยไข้เจ็บ(ธรรมชาติ) และการเบียดเบียนจากอมนุษย์ต่างๆ
เกราะดังกล่าว ก็คือ ออร่า รัศมีรอบตัวนั่นเอง

ออร่านี้จะสัมพันกับสุขภาพกาย และจิตของท่านผู้นั้น ผู้ที่ฝึกมาดีจะสามารถเข้าควบคุม สั่งการ เกราะออร่านี้ได้
แม้ไม่ได้ฝึกจิต เกราะนีก็มีอยู่โดยธรรมชาติ และยังคงสั่งงานได้ด้วยจิต(ถ้าสั่งเป็น)

*************************************************************

๒.คาถาชิณบัญชร เป็นคาถาเปิดร่าง อัญเชิญ(ยอมให้)ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างมาประทับหรือนั่งในส่วนต่างๆ ในร่างของเราได้

พูดง่ายๆก็เหมือนขึ้นบ้านใหม่ เปิดบ้านเชิญผู้ทรงคุณ มาเหยียบบ้านเพื่อเป็นศิริมงคลไง
พูดง่ายๆก็คือ อธิษฐานเปิดออร่า เชิญให้แขกเข้าบ้าน

************************************************

๓. ปัญหามันอยู่ตรงนี้นะ
ผู้ออกบัตรเชิญ ทรงคุณบารมีแค่ใหน
บางท่าน บ้านเรือนตนเองก็ยังหมักหมม ด้วยกิเลส ดังขึ้กองใหญ่ วางไว้บบที่นั่ง
แล้วเชิญให้ผู้ทรงคุณวิเศษ ไปนั่งทับขี้กองใหญ่ที่หมักหมมอยู่
ผู้ที่มีกายและใจสะอาด ใครจะไปนั่งลงได้ ด้วยเมตตาก็แค่ให้พรแล้วผ่านไป
อีกประการ ผู้มีจริตแบบใด ก็ย่อมแผ่กระแสจริตนั้น ชักจูงผู้มีจริตที่สอดคล้องกันให้เข้ามาหา

******************************

ดังนันแขกที่ไม่ได้รับเชิญ ย่อมมาอวยชัยให้พรมากโขอยู่
บางท่านอวยพรแล้วจากไป
บางท่านถือโอกาส เอ็งเชิญมานะ แล้วเอ็งไม่ส่งข้ากลับ ข้าก็ขออยู่ตรงนั้นนั่นแหละ(มันก็ขวางทางเดินเลือดลมนะซิ)

************************************************************


แขกเหล่านี้มีบางท่านฝึกฝนมาดี ทรงคุณวิเศษอยู่ และก็เข้าใจในตนเองว่าสำเร็จแล้ว
มีปริญญาบัตรเป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่ บ้างก็เป็นเนรฯ(คุณ) บ้างก็เป็นท่านโน้นท่านนี้
ที่หนักๆก็ว่า ข้าสำเร็จเป็นพุทธนะโว้ย ข้าเป็นอริยะเจ้านะ ข้าเป็นโพธิสัตว์โว้ย
เอ็งเชิญข้าแล้วข้าก็เข้าไปนั่งซิ
ก็ข้ามีสิทธิ์นิ ตามที่ข้าเข้าใจ และเอ็งก็เข้าใจตามที่ข้าเข้าใจไง (ชักงงวุ้ย)
แล้วก็สั่งสอนชักจูงกันไปตามจริตที่มี

*************************************************************

ในเวปนี้ก็มีเยอะ ในมิติก็มากโข
ทีเป็นตัวจริงก็พอมี (ใครได้ตัวนี้มาก็พอรอดตัว)
ที่เป็นตัวหลอกก็มากยิ่งกว่า(ใครได้ตัวนี้ นับว่าซวยไป)
พวกนี้ว่าตนสำเร็จแล้วแต่ก็ยังเต็มไปด้วยโมหะ ถกเถียง ด่าทอ และสุดท้ายก็บีบบังคับ ให้คนข้างเคียงทำสิ่งที่ตนปรารถนา
ครั้งไม่ได้ดังใจ ก็อาละวาดเอา (ในเวปนี้ก็มีเยอะ)
เจ้าของร่างก็เจ็บตัวฟรี

*******************************************

คำถามที่ว่า "อะไรคือใหญ่จริง / ใหญ่ปลอมคะ แล้วโรคภัยประเภทไหนที่เกิด เกิดเพราะอะไรคะ "
ที่ใหญ่จริงก็คือผู้สำเร็จทางจิต ระดับใดระดับหนึ่ง เป็นผู้มีฤทธิ์
แต่ยังเป็นปุถุชน (บางท่านเข้าใจตนว่าสำเร็จแล้ว)
ถ้าเป็นผู้มีสัมมาทิฐิ ก็สั่งสอนกัน ร่วมกันสร้างบารมีธรรม
พวกนี้ มีน้อยมั๊กๆ จงอย่าหวังว่าจะพบเจอง่ายๆ

**********************************************

ถ้าเป้นพวกมิจฉาทิฐิ ก็พากันชักชวนสร้างทางลงนรกโดยง่าย
ที่ใหญ่ปลอมก็คือ พวกผี ปีศาจ สัมภเวสี ฯลฯ เข้าสวมสิทธิ์ เป็นท่านโน้นท่านนี้
โห้ พวกนี้มากซู๊ดๆ

*********************************************

ที่อ้างเป็น ร. ๕ จี้กง กวนอิมฯลฯ พวกนี้ทั้งนั้นแหละ
แต่พวกที่ทรงคุณธรรมที่อ้างก็มีนะ ท่านมาทำหน้าที่แทนเป็นมือเป็นเท้าให้ตัวจริงนะ อย่าเหมาว่าเป็นตัวร้ายซะหมดละ

********************

แล้วรู้ได้ไง
ก็สภาพธรรมที่ท่านแสดงไง เป็นตัวบ่งชี้
ถ้าท่านรู้และเข้าใจธรรมนั้น ท่านก็จะแยกออก
หากท่านไม่รู้ธรรม หรือรู้น้อยกว่า ก็จงศึกษาธรรมที่เขาบอกและวางอุเบกขาเสีย
อย่ากระดี้กระด้าให้มากนัก
แล้วศึกษาให้รู้ลึกลงไปเรื่อยๆ พอเรารู้เราเข้าใจสภาพธรรมแล้วเรก็จะแยกเขาออกได้

*******************************************

โรคภัยไข้เจ็บที่พวกนี้ชักนำมามีอะไรบ้างละ

๑.พวกตัวปลอมนี่นะ บางท่านก่อนตาย
บ้างป่วยตาย บ้างประสพอุบัติเหตุแขนขาขาด ฯลฯ

อาการเหล่านั้น และความเจ็บปวด จะยังคงฝังอยู่ในจืตเขา
เมื่อท่านเหล่านั้นมาอยู่กับผู้ใด อาการเหล่านั้นจะปรากฎในกายของท่านนั้นๆด้วย
ไปตรวจกี่หมอๆ ก็หาที่มาของโรคไม่เจอ

*********************************************

๒. ตำแหน่งที่ท่านเหล่านั้นเข้าไปอยู่ มันจะขวางทางเลือดลมที่ไปหล่อเลี้ยงร่างกาย
บ้างก็ดูดซับปราณจากจ้าของร่าง เพื่อมาหล่อเลี้ยงตนเอง
ทำให้บริเวรนั้นขาด ปราณหล่อเลี้ยง สักพัก ร่างกายส่วนนั้นๆก็จะอ่อนแรงไป โดยไร้สาเหตุ
ไปหากีหมอๆ ก็หาเหตุแห่งโรคไม่เจออีกนั่นแหละ

*************************************************

๓. ในร่างคนที่มีภูมิต้านทานดี ร่างกายจะสร้างพังผืดมาปิดหุ้มสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาฝังตัวอยู่ ทำให้เป็ซิสต์ เป็นเนื้องอก และสุดท้านเป็นมะเร็ง
พวกนี้หมอหาต้นเหตุเจอนิ ก็ตัดออก โยนทิ้งไปซะ
แต่พวกนี้ เขาเชิญมาแล้วนี่กูไม่ไปใหนง่ายๆร๊อก กูก็ย้ายที่อยู่ใหม่ก็ได้นิ
ว่าแล้ว ก็ย้ายจาก นมไปอยู่ที่มดลูกแทน แล้วก็ไปที่ตับ ปอด เซ่งจี้ ดอกจอก ตัวเดียวอันเดียวแทน
(หมดยังหว่า)

*******************************************************

ถ้าจะให้ไปอยู่ที่อื่นนะ ต้องจ่ายค่าขนย้ายนะ แต่ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ใหนนะ
นอกจากค่าขนย้ายแล้วต้องไปสร้งบ้านใหม่ให้ด้วยนะ ไม่งั้น ชั้นไม่ปาย
อ้อ เฟอร์นิเจอร์ในบ้านใหม่ต้องครบนะ
โอ้ยเหนื่อยโว้ย ต่อรองกับไอ้พวกนี้
แล้วหมอก็ต้องสำรองจ่ายไปก่อน ไอ้คนไข้ก็ไม่ค่อยเข้าใจ
จบแต่ละเคส หมอก็แทบสิ้นเนื้อประดาตัว

*******************************************

(ต่อ) วันที่ 1-9-2009

อย่างไรก็ตามผมขอยืนยันข้อความที่ผมเขียนนี้
" คาถา ชิณบัญชรนี้ เป็นคาถาที่ดีมีอานุภาพสูงมาก"
แต่ผู้ใช้ ผู้ท่องบ่นต้อง เป็น ผู้ที่ทรงคุณธรรมสูงมีศีลครบ"
คาถาชินบัญชร จะเหมาะกับท่านมาก

*********************************************

น้อยคนนัก ที่จะประสพความสำเร็จในคาถานี้
และท่านอาจเป็นผู้ทรงอภิญญา โดยไม่ต้องออกแรงฝึกปรือด้วยตัวเองมากนัก ดังเช่นท่านผู้นี้
บุญรักษาเช่นกันครับ
น้อมเคารพคุณธรรมสูงสุดที่คุณทรงอยู่
สุวิ <!-- google_ad_section_end --> __________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->นิพพานในโลกมนุษย์นี้เขาเรียกว่า
ปฏิบัติ"จิต"ให้ว่างที่สุด นานเท่านาน
ผู้นั้นถึงนิพพานแห่งการเป็นมนุษย์ คือ สุญญัง
นี้แหละเขาเรียกว่าสูญจากอาสวกิเลส
สูญจากการเป็นทาสอารมณ์แห่งการเป็นมนุษย์
--สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)--

-----------------------------------------------------------------------------

ข้อความของคุณ visnu

ง่ายๆครับ ก็แค่อ่านคำแปลแล้วก็สำรวจตัวว่าเราปฏิบัติดีอย่างไรแล้วเอามาไว้กับตัว
แล้วคิดว่าเราจะปฏิบัติดีอยู่ในที่ดี แค่คิดว่าเหล่าอรหันนั้นอยู่กับกายเรายามเราคิดไม่ดี
ยามเราไปว่าหรือนิทาคนอื่น ยามเราไปปฏิบัติสิ่งไม่ดีต่างๆ ยามที่เราไปดื่มสุรายาเมา
แล้วคิดดูว่าบาปที่ตามมากรรมที่เกิดเป็นอย่างไร .......5-5-5

-------------------------------------------------------------------------------

ข้อความของคุณ เห็ดหอม

ผมก็เป็นคนนึงที่เคยสวดคาถาชินบัญชร ก่อนอื่นขอถามทุกๆท่าน

ที่สวดคาถาชินบัญชรก่อนว่าเคยทำบุญให้พระอรหันต์แต่ละพระองค์ที่คุณ

เชิญท่านมาลงร่างกายตามส่วนต่างๆของคุณหรือไม ยกตัวอย่างคุณเชิญพระสงฆ์

มาสวดทำบุญที่บ้านคุณก็ต้องเลี้ยงพระถวายปัจจัยไทยะทานก็เช่นเดียวกันครับ

ถ้าสวดคาถาชินบัญชรเชิญท่านมาแล้วไม่ทำบุญถวายท่านก็เป็นหนี้บุญท่านละครับ

และอย่าลืมนะครับเราเป็นมนุษย์ก็ย่อมมีกิเลศ มีอบายมุข เข้าผับบริหารมือขวา

บริหารเสร็จอาจชวนน้องๆไปกินข้าวต้มตอนดึกอีก แล้วคุณคิดดูละกันบาปแค่ไหน

เพราะเราเชิญท่านมาแล้วไม่ได้เชิญท่านกลับละครับ ๕๕๕๕๕ตลกเศร้าครับ

------------------------------------------------------------------------------

ผมได้อ่านและทำความเข้าใจ ตามสติปัญญา เท่าที่จะพอมี จึงขอยกข้อความ

ที่ได้กล่าวถึงพระคาถาชินบัญชร ในหน้า139 มาให้อ่านอีกครั้ง

ก็ขอบอกตามตรงล่ะครับ กลัวผู้ที่ไม่เข้าใจ หรืออนุชนที่อ่านรุ่นหลัง

จะขาดความศรัทธา และเกิดการปรมาศ ไม่อยากท่องบ่น

กรรม...ที่สร้างโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

 

- ผมเชื่อเรื่องของอนุภาคปรมาณู เชื่อในเรื่องของพลังงาน ของอริยะเจ้า

ของพระผู้ปฏิบัติดีแล้ว ยังคงสถิตย์และล่องลอย อยู่ทุกอณูของอากาศ


- แต่ผมไม่เชื่อว่า จะมีมนุษย์คนไหน ที่มีขีดความสามารถขนาดอัญเชิญ

พระอรหันต์ ที่เป็นจิตแท้ ๆของท่าน และจำนวนหลาย ๆ องค์ มาสิงสถิตย์

ในกาย ตามตำแหน่งต่าง ๆ


- แต่ผมเชื่อว่าสิ่งที่มานั้น เป็นกระแสจิต ที่อยู่ในรูปของพลังงานบริสุทธิ์

ที่ยังล่องลอยอยู่ สิ่งนี้ต่างหาก ที่เราอัญเชิญมา


- เมื่อใจมีศีล มีธรรมพร้อม จิตที่คิดเป็นอกุศล ย่อมไม่มี หรือมีแต่เบาบาง

แต่สิ่งที่พึงระวัง คือการสร้างอุปปาทานจิต


- สถานที่อโคจร หรือการกระทำ ที่เป็นเรื่องน่าละอาย จิตจะพิจารณาได้เอง

ว่าควรไป หรือไม่อย่างไร รู้และคิดได้เอง สิ่งใดสมควร/ไม่สมควร


- ผู้เคยประกอบกรรมหนัก เมื่อถึงคราวรับผล โรคก็มา มารก็แทรก พระคาถา

ไม่ว่าจะวิเศษวิโสอย่างไร ท่องแล้วก็ช่วยไม่ได้ ผลกรรมมีน้ำหนักมากกว่า

เลยเป็นที่มา ที่ไปของปัญหาในบางเคส/บางราย


- ผู้ที่สวดด้วยใจเคารพศรัทธา ยึดมั่นในศีล จะไม่มีผลลบจากตัวพระคาถา (ยกเว้นข้อที่กล่าวด้านบน)


- แต่ครั้งโบราณ เคยได้ยินบรรพบุรุษ และพระผู้ปฏิดี ปฏิบัติชอบ หลายต่อหลายองค์

ซึ่งล้วนแต่ถึงพร้อมด้วยศีล สมาธิ ปัญญา อีกยังมีองค์พระมหากษัตริย์ในอดีต

ทรงกล่าวถ้อยคำสรรเสริญ


นานาจิตตัง แล้วแต่บุญวาสนาบารมี

 

ชิ นะ ปัญ ชะ ระ ปะ ริต ตัง มัง รักขะตุ สัพพะทา


ขอเล่าย้อนหลังเหตุบางประการ

จะโพสท์ตอบสักหน่อย เมื่อหลายวันก่อน เลยหารูปท่านสมเด็จในกูเกิ้ล โอ้โฮ!

มีมากมายให้เลือก ก็เลือกไม่ถูกใจเสียที กดปุ่ม BACK ถอยกลับไปมาหลายรอบ

พอมาเจอรูปนี้ ไม่ชอบนะ จะหารูปอื่น แต่ว่า................กดปุ่ม BACK ถอยหลัง

อย่างไร ก็เลื่อนไม่ไป ไหงเป็นงั้นหว่า สงสัยปุ่มเสีย เอาน่า....ไม่คิดมาก

ทำไปทำมาเลยตัดสินใจไม่โพสท์ล่ะ เดี๋วขัดกับท่านอาจารย์ และสหายธรรม


พอปิดคอมจะเข้าห้องนอน อ้าว! ปรกติแฟนหลับแล้ว ไหงวันนี้ดูทีวี ก็เลยอยากรู้

มานขนลุก! ขนลุกขึ้นมา เพราะแฟนเปิดหนังประวัติ ของท่านขรัวสมเด็จ


ผ่านมาได้อีก 2 วัน กำลังนั่งคิดถึงเรื่องในกระทู้ เรื่องของขรัวโต แล้วจู่ ๆ

คล้าย ๆ นะ คือรู้สึกได้เหมือนมีท่อกลม ๆ ใหญ่ ๆ จากข้างบน ส่งกระแสลมลงมา

แล้วพัดเศษใบไม้แห้ง ที่หล่นอยู่ตามพื้น กระจายออกเป็นรัศมีวงกลม เว้นพื้นที่

ตรงกลางจนโล่ง คือไม่พัดไปทางซ้ายและขวา หรือพัดป่ายไปมา

สรุปแล้ววันนั้น ก็ไม่โพสท์อยู่ดี


พอมาวันนี้ เจอะแผ่นกระดาษหน้าบ้าน อ้าว! ใครหนอ มาโยนทิ้งไว้ เลยหยิบกระดาษ

ว่าจะทิ้งลงถัง................................เขียนมาถึงตรงนี้ ขนเริ่มลุกอีก

กระดาษแผ่นที่จะเอาไปทิ้ง เป็นพระคาถาชินบัญชร


อะ ไร จะ บัง เอิญ ขนาด นั้น

 

วันนี้ 26 กย 52..ตอนช่วงบ่ายแก่ๆๆ
มีหนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินมา..ที่บู๊ธ 042
มาขอให้'และชีวิต คู่จะเป็น อย่างไร
..............................................
พอนั่งคู่กันเรียบร้อย
ก็กล่าวสวัสดี อาจารย์..บอกว่า เคยพบ อาจารย์ มาแล้ว
ประทับใจ มาหลายปี..จนปัจจุบัน
...........................................................
ขณะนี้ เรียนอยู่ ม.ธรรมศาสตร์ ปี 3 คณะวิทยาศาสตร์
ตอนนั้น เรียน ม.6 อยู่ที่โรงเรียนดังมากๆๆ..อยู่ รังสิต คลองสี่
อาจารย์ไป บรรยายธรรม และ สอนวิชา แสงออร่า หรือ แสงชีวิต
ทุกคน ตกใจ ในความที่เห็น ปรากฏ การณ์ประหลาดที่ไม่น่า เชื่อ สายตา
............................................................................

 

ผมก็จำได้ ว่า มีการเชิญ จากครูที่ สอนวิชาศาสนาพุทธ
ให้ไปบรรยาย ธรรมะ และ แสงชีวิตเกี่ยวข้องกันอย่างไร
..............................................................
วันที่ไป..ขับรถไปเองที่ คลองสี่ ธัญญบุรี
แยก เข้าทางซ้ายเข้าไปปหลายกิโลเมตร
พบว่า ระหว่างทาง มีหม่บ้านใหญ่ๆๆดังๆๆเรียงกันเป็นกระจุก
.................................................................
พอไปถึง ก็พบว่า เป็น โรงเรียนที่ ค่อนข้างใหญ่จริงๆๆ สมดังคำเล่าลือ
ไปถึงก่อนเวลาเล็กน้อย เพื่อ พบ ครู ที่คุมสอนวิชาศาสนา พุทธ
.............................................................................
พอได้เวลาก็เชิญ เข้าห้องประชุมใหญ่ ของ โรงเรียน
ห้องประชุมค่อนข้างใหญ่...ไม่มีเก้าอี้
นักเรียนนั่งกับพื้น เรียงเป็นแถวเต็ม ห้อง ใหญ่..ประมาณ 300 คน
......................................................................
อาจารย์ผู้เชิญ บอกว่า ที่แรก จะเชิญมาบรรยายในชั้นเรียน
แต่รู้ว่า วิชา ออร่า/แสงกายทิพย์ นั้นสำคัญ.
.หาคนมาบรรยายเรื่อง แบบนี้ ยาก
...................................................................................
ก็เลยขออนูญาติ ครุใหญ่...ให้นกเรียนทั้งหมด ที่เรียน ม.6 มาฟังกันหมด โรงเรียน
จำนวนจึง มากมาย 300 คน...ถ้าห้องละ 45 คน..ก็เท่ากับ 7 ห้องมารวมกัน
......................................................................................

 

เวลาที่ให้บรรยายคือ สอง ชั่วโมง
ชั่วโมงแรก จึงให้ คุณประหยัด สหายธรรม บรรายาหลัก พุทธ ศาสนา
ชั่วโมงที่ สอง อ.สามตา บรรยายเรื่อง ออร่า/แสงชีวิต
เกี่ยวข้องกับคนและชีวิตคนอย่างไร...
จะอยู่อย่างมีสุขภาพดี ต้องทำอย่างไร
.................................................................................
พอดี ตอนนั้น นักเรียนวัยรุ่น กำลัง บ้า เห่อ สักยันต์
ตามแขนขามากมายเป็น แฟชั่น...
ทั้งๆๆที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง ต่อ ชีวิตและวิญญาณ
.......................................................

 

จึงต้องเรื่มเรื่องว่า..วิธีการบูชารูปเคารพ
ให้บูชาแต่รูปที่ดี เช่น รูปพระสงฆ์ ที่ ได้ ชื่อว่า ที่ปฏิบัติดี
เช่นหลวงปู่แหวน/หลวงปู่มั่น/หลวงพ่อชา/หลวงปู่หลุยส์..ฯลฯ
บูชา เทพ/ พระโพธิสัตว์ ที่ดี อย่าง อย่างพระแม่กวนอิม ./เทพกวนอู.
......................................................................
จะไหว้บูชา เทพฮินดู อย่าง พระพิฆเนศวร/พระนารายณ์ พระแม่ลักษมี..ฯลฯ
ก็ได้ เพราะเป็นเทพ ที่ ช่วยเหลือมนุษย์ /เมตตาต่อมนุษย์
อย่าไป บูชารูปสัตว์ /สักยันต์ รูปสัตว์ ดุร้าย บนตัว
เพราะพออายุมาก..กำลังคนจะอ่อนลง..
ในที่สุดก็จะถูกสัตว์ ที่ สักไว้ ครอบเอาไปเป็น ทาส
...........................................................

 

นักเรียนทั้งห้องฟังกันเฉยๆๆ...เหมือนเป็นเรื่อง ห้ามปรามธรรมดา
เอาละซิ !!!!!ต้องแสดงให้เห็น เป็นที่ ชัดเจนว่า อันตรายอย่างไร
..........................................................................
ก็ใช้ตาทิพย์ มองกวาด ไป ยังนักเรียน แถวหน้าๆๆ ร่นไป สามสี่แถว
ก็พบว่า มี นักเรียนสาวคนหนึ่ง...ข้างในมีพระแม่กวนอิม อยู่
ก็ชี้ ให้ลุกออกมายืนข้างหน้า...นี่ คือ ตัวดี
...................................................................
มองหาตัวร้าย..ก็พบว่า มีนักเรียนชายรูปร่างโค่ง ท่าทางนักเลง ตัวใหญ่
ก็ชี้ให้มายืน ข้างหน้าหน้า ไปทางซ้าย และขวาเป็น นักเรียนสาว
ตอนที่ ชี้เรียกออกมา..ทั้งห้อง ฮาครืน..แปลว่า นักเรียนคนนี้ตัวแสบ
.........................................................................
เมื่อ พร้อมก็ บอกนักเรียนทั้งหมดให้คอยดู นะ
ทุกคนชักสนใจจ้องมอง ว่า..จะเกิด อะไร ขึ้น
......................................................
สามตา..มายืนเบื้องหน้า นักเรียนสาว
อัญเชิญ พระแม่กวนอิมที่เป็น เทพ ประจำตัวออกมา
พอออกมา..บรรยากาศ ในห้อง หนาวเย็น จับใจ..
เป็นความเย็น แห่ง พลัง เมตตา
...........................................................
พระแม่กวนอิม ก็ รำ อวยพรในปาง พระอวโลกิเตศวร หรือ ปางพันมือ
โบกมือ รอบตัว..เหมือนโบก มือ ทั้งพัน
พอได้ เวลา สองนาที ก็เชิญ เสด็จ กลับ..นักเรียนก็ ยืนนิ่งสงบ
......................................................................

 

ทีนี้ถึงคราวตัวแสบ นักเรียนชาย ที่สักยันต์หณุมาณ ไว้
สามตาก็มายืนตรงหน้า..ประกาศ ดังๆๆ ด้วยไมค์ ว่า

ขอเชิญ สิ่งที่อยู่ในตัวที่ ออกมา
สิ้นคำประกาศ หณุมาณ..ลงทันที่ เพราะอยากออก แสดงฤทธิ์ เต็มแก่
ชู สองกำปั้น เหยียด แขนตรงเหนือ หัว..หัวร่อ ดัง.."ฮ่า ฮ่า ฮ่า "
เอามือ ลง..ลงเดินลุยไปข้างหน้า..กระทืบพื้น จนพื้นสั่นอย่างแรง
....................................................................
เดินเข้าหา กลุ่มนักเรียนที นั่งกับพื้น ในท่า ดุ ร้าย.กระทืบพื้น แบบเหยียบพสุธา
นักเรียนเริ่ม ตกใจ และ วงแตก..
แยก เป็น ช่อง ด้วยความตกใจ ที่ อยู่ดีดี..เพื่อนทำท่า วิปริตให้ดู
นักเรียน เริ่มกระจายออกห่าง
...........................................................
สามตาจึงต้องประกาศให้ เพื่อนๆๆ สี่ คนเข้าจับล๊อค แขนขาไว้ เพื่อ ให้ หยุด
ปรากากฏ ว่า สี่คนล๊อคไว้ เขายังเดินลุยเฉย
ต้องบอกให้เพื่อน อีก สอง คน กอดล๊อคขาไว้ ..ไม่ให้ เดิน
รวม ต้องใช้นักเรียนชาย หก คน จึงจะหยุดเขาได้
แสดงว่า มีพลังมหาศาลจริงๆๆ
........................................................
พอดี ครู พละ ตัวใหญ่ถลันเข้ามาช่วยอีก คน
สามตา บอกให้ ทั้งเจ็ด คน จับเขาให้ ตัวลอย..จะได้ เดินไม่ได้
แล้ว วางลงคว่ำหน้า กับ พื้น
นักเรียนทั้งหก คน กดตัวเขาไว้ แนบกับ พื้น
..................................................................
พอถูกกด นิ่ง...สามตาก็ สั่งเชิญ หณุมาณ ให้ ออก..กลับขึ้นไป ข้างบน
พอสั่งเสร็จ..เขาก็ ฮวบนิ่ง สลบไป...บอกไม่ต้องตกใจ..อีกสิบนาที ก็ จะฟื้น
.................................................................................

 

รออาจารย์เล่าค่ะ

 

เหล็กกำลังร้อน..จึงต้องรีบตี
จึงประกาศ ว่า นี่ คือ ตัวอย่างการสักยันต์ รูปสัตว์ ร้าย
เช่น หณุมาณ/ ลิงลม/ เสือเผ่น/ อินทรีย์ผยอง
เมื่อ หนุ่มแน่น..เขาจะทำให้ วัยรุ่น มีอำนาจพิเศาษ/มีกำลัง มหาศาล
ทำอะไร..ก็แข็ง แรง..จนเด่นเอามากๆๆ
.........................................................................
อันตรายอยู่ที่ พอ อายุ ได้ สี่สิบปี ขึ้น
กำลัง คนจะตก..ในที่สุด จะถูกครอบด้วยสัตว์ ตัว นั้น
เป็น ทาสสัตว์ ตัว นั้น..เวลาจะตาย
จะร้องโหยหวล เหมือนสัตว์ ตัวนั้นใกล้ตาย
................................................

ทางที่ดี ที่สุด อย่าไปสักยันต์รูปสัตว์ร้ายบบตัวเลยจะดี ที่ สุด

ที่ สุด ต่อ ชีวิต และวิญญาณ...ของตัวเอง
........................................................

 

เหตุการณ์ในวันนั้น..เป็นที่ตกตะลึง แก่ นักเรียน ชั้นม.6 ทั้งหมด
ทุกคนได้ เห็นชัดว่า ว่าเกิด อะไร ขึ้น และแต่ละคน จำได้ ไม่ลืม
.......................................................................
วันรุ่งขึ้นเป็น วันเสาร์ เป็นวันหยุด
ที่บู๊ธ 053...ต่อมาย้ายมาเป็น 042
มีรถบัสขนาดใหญ่ มาจอด ที่ ข้างหน้า
มีคนเดินลงมายี่สิบ กว่า คน...แต่งตัว สบายๆๆ
.....................................................
บอกว่า เป็น นักเรียน ช้นม6. ที่ เมื่อ วานอาจารย์ไป บรรยาย
แต่ละคนมีการสัก มากบ้าง/ น้อย บ้าง..ทำไงดี
ขออาจารย์ ช่วยตรวจให้ ทุกคนด้วย
..............................................................
เลยต้องปิดบู๊ธ..ตรวจแต่นักเรียนอย่างเดียว ยี่สิบกว่า คน
เล่นเอาเหนื่อย...ผลการตรวจ..เป็น อย่างไร..จะเล่าต่อ ในวันหลัง
ตอนนี้ ดึกแล้ว..ไปนอน ก่อน ครับ ทุกท่าน
.......................................................................

 

สนุกจังเลยค่ะอาจารย์ จะรอค่ะ ขอบคุณน่ะค่ะ

 

ใกล้ชิดไปปฏิบัติธรรม มา เพิ่งกลับมาวันอาทิตย์นี้
ขอแบ่งปันสิ่งที่ดีงาม และมิตรไมตรีจิต ให้แก่ ท่านอาจารย์ และสมาชิกในห้องนี้ค่ะ

บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ กระทำนี้
ขอให้ข้าพเจ้าได้พบกัลยามิตรธรรม และมีความเพียรในการปฎิบัติ ธรรมยิ่งๆขึ้นเทอญ....

 

รออ่านของอาจารย์ต่อครับ กำลังสนุกเลย

 

ก็เพิ่งจะรู้ว่า..การเล่า เรื่อง ชัวิต และ ธรรมะ เป็นเรื่อง สนุก
นักเรียนที่ มา ประมาณ 20 คน ตรวจแล้ว
มี ร้ายแรงเป็น นักเรียนชาย
สัก เสือเผ่น/ มังกรพัน/ ลิงลม/จรเข้/นกอินทรีย็
ก็เลยต้อง ช่วยแก้ไขให้..โดยเชิญออก แล้วให้วัตถุมงคล กันการกลับเข้า
...........................................................................
นักเรียนสาว..ไม่ค่อยมีปัญหา..ส่วนใหญ่สักรูปดอกไม้ ที่ แขน / หัวไหล่
ก็ต้องถามเขาว่า...คนเราปกติ ควรจะอายุ เท่าใด.คำตอบ 65-80 ปี
แล้วดอกไม้ละ เวลา มัน บาน สวยงาม ปกติ อยู่ได้ กี่วัน.
.คำตอบ..ดอกไม้ปกติ จะบาน 3-5 วัน ยกเว้น ดอกกล้วยไม้ ที่ อาจจะเป็น เดือน
เอาของ อายุ น้อยมาสักตัว..เราก็จะตายเร็ว ขึ้นเท่านั้นเอง
.................................................................................
พบว่า มีหลายคนมีพลังจิตสูง..สามารถ ตรวจพลังพระ
ก็เลยสอนวิธี ตรวจพระเครื่องไปให้
.........................................................................
ในโรงเรียน โจษจัน กันมาก
นักเรียน ชั้นม.5 / ม.4/ ม.3
ก็ค่อยๆๆ แอบทะยอยมาให้ ตรวจ
ใช้เวลา เป็นเดือน
..........................................
บางคน พอ พ่อ แม่ รู้ ก็ ลากลูกมาให้ตรวจ และ แก้ไข
จนเป็น ที่เรียบ ร้อย
เรื่อง ทั้งหมด นี้ เกิด จาก นักเรียนเก่า ที่ จบไปแล้ว..
มาเล่า เรื่องเก่าที่ น่าอัศจรรย์ และ ประทับใจ
ก็เลย ต้องย้อนรอย กลับไปเล่า เรื่อง เก่า
นักเรียน 300 คน..คงจะไม่ลืม เรื่อง นี้ อย่างแน่นอน
.................................................................

 

ตามอ่านตั้งแต่แรกจนครบ จนได้ ประมาณ 3-4 วัน ที่ผ่านมา อิอิ

 

หนูก็คิดว่า วัยรุ่น ตั้งแต่ อายุ 15-18 ช่วงระหว่าง ม 3 ถึง ม 6 เป็นวัยที่กำลังโตมีความเข้มเข็งทางร่างกายและจิตใจ มีกำลังมาก สมัยนั้น เราเองก็ รู้สึกว่าตัวเองมีจิตใจที่เบิกบานมากๆ ยิ่งออกแรงกาย จิตยิ่งมีกำลังมากๆ สมัยนั้น เวลาสอบ ก็ไม่อ่านหนังสือ ใช้ เวิร์บ ทู เดา คือ เดาอย่างเดียว ก็สอบได้คะแนนดี อ่านหนังสือก่อนสอบในวิชายากๆ ต้องจำชื่อศัพท์ภาษาวิทยาศาสตร์ อ่านรอบเดียว จำได้หมด ตาก็เหมือนกล้องถ่ายรูป ถ่ายหน้าหนังสือเรียนแต่ละหน้า ค่อยๆ กู้ๆๆ จากความจำเวลาสอบ มันก็สอบได้เกือบเต็ม
จิตจะไวมาก มองหน้าเพื่อน พูดแทนเพื่อนได้เลย จนเพื่อนมันทักว่า เรามีสัมผัสที่หก นี่คือเพื่อนมันทักเราก่อน ...

แต่ไม่รู้เป็นไง พอเห็นองค์ตัวเอง และเวลาสื่อได้ กำลังลดลงจังหว่า.. ไม่ถูกกัน

คิดถึงชีวิตวัยเด็กจัง

 

พระคาถาชินบัญชร สามารถไปกระตุ้นของอาคมสายดำ ที่โดนไว้ ให้ไหลไปทั่วร่างกาย ตอนที่ผมโดนของสายดำใหม่ๆ ผมเลี่ยงไม่ท่องพระคาถาชินบัญชร พอวันนึงพระคาถาไหนๆ ก็เอาไม่อยู่แล้ว ผมท่องพระคาถาชินบัญชรไป ปรากฏว่า ของไหลไปทั่วร่าง นอนสลบไปเลยครับ ตื่นขึ้นมา เอาผ้ายันต์ของท่านตามาคลุมซับความร้อนทั่วร่าง ผ้ายันต์ดูดของไม่ดี เหมือนเอาผ้าเปียกๆ เย็นๆ มาซับตามตัวประทังพิษไข้นึกว่าผ้ายันต์เปียก พอจะเอามาบิดให้น้ำออก ก็แห้งไม่มีน้ำเลย งง งง เหมือนกันครับ
**************************************
เรื่องสักยันต์ เคยคิดว่าจะไปสักให้ทั่วแผ่นหลัง พอคิดดูอีกที จะทำไปเพื่ออะไร หากคะนองฤทธิ์ขึ้นมาก็เอาไม่อยู่ หากเตลิดไปทำอะไรผิดปกติไป คนทั่วไปจะว่าบ้า เลยอยู่เฉยๆ ไม่คล้องอะไร ไม่สักอะไร ดีกว่าครับ