เรื่องเล่า ตื่นนอน ตอนสายๆ

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 30 มิถุนายน 2010.

  1. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    ขอแสดงความนับถือในความเมตตา กรุณา และเสียสละของท่านหมอครับ

    มีหลายๆท่านรอเรื่องเล่าจากท่านหมอสุวิอยู่ครับ
     
  2. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เมื่อตอนปลายปี เดือน ธันวา ต่อ มกรา สุวิ๒ กลับมาเล่าอะไรต่อมิอะไรให้ฟังหลายเรื่อง ก่อนที่มันจะหายจ้อยไปในจักวาล
    เรื่องแรก ก็ไอ้เรื่องที่ตามจับ พวกอสูร ที่นำเหราจากเมืองจีนมาปล่อยที่อยุธยา
    สุวิ๒ มันเล่าว่า
    พวกนี้เป็นจิตจักวาล มาจากทวีปน้อยของบุพวิเทหะ ร่วมมือกับพวกมารและอสูร(มิจฉาทฐิ)ในโลกมนุษย์ เพื่อการก่อภัยพิบัติต่างในโลกมนุษย์ในช่วงสิ้นปีนี้
    โดยมีจุดมุ่งหมายหลักให้พระพุทธศาสนาหักกลาง ไม่ให้สืบต่อไปได้(ให้หมดสิ้น ไม่เกิน สามพันปี)

    ตัวหัวหน้า หนีไปถึงเมืองศรีเทพ ภายใต้การชักนำของอสูรในเมืองมนุษย์ ว่าที่เมืองนี้ มีอสูรเป็นหัวหน้า พอพึ่งพาได้
    แต่ที่ใหนได้ อสูรเมืองนี้ถึงกับเป็นซี้กับ สุวิ๒ (ไม่รู้ว่ามันไปตีซี้เอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่)
    เขาจึงจับประเคนให้กับ สุวิ๒ แต่โดยดี
    และสุวิ๒ เชิญเจ้าเมืองศรีเทพให้ไปเที่ยวกรุงเทพฯด้วยกัน

    เมื่อกลับถึงกรุงเทพฯ แล้ว ไอ้สุวิ๒ ก็สร้างวีระกรรมอันพรรเจิดเพริดแพรว
    มันไม่คุมขังเชลยทุกตน แต่กลับให้เกียรติดังแขกรับเชิญ เลี้ยงดูรับรอง เสมอกับเจ้าแห่งศรีเทพ
    มันไม่เคืองแค้น ที่อสูรเหล่านี้ตัดมือตัดแขนตัดขามัน จนเป็นพรหมลูกฟักนองกลิ้งไปมา
    มันให้อภัยทานแก่พวกนี้จนหมดสิ้น ฯลฯ
    สุดท้ายมันยังรับปากจะพาพวกนี้กลับสู่บ้านเกิด คือทวีปบุพพวิเทหะ ซะอีก
    แล้วมันยังเชิญเจ้าเมืองศรีเทพไปท่องอวกาศกับมัน

    หมดเวลาไปเดือนกว่า ในการพาท่านศรีเทพ ท่องเที่ยว และพาพวกอสูร จากบุพพวิเทหะกลับบ้าน
    ตรงนี้หมอสุวิ ยิ่งงงเต็ก มันไปหายานอวกาศมาจากใหน ลำเบ้อเลิ่ม มันพาคนตั้งหลายร้อยคน ไปท่องอวกาศ
    ยานของมันใช้เวลาเพียงเดือนเศษนิดๆ ก็ไปกลับทวีป บุพพวิเทหะได้
    นี่ไม่ธรรมดาซะแล้ว ไอ้สุวิ๒ นี่ อ้อนี่คงเรียกไอ้ไม่ได้ซะแล้ว
    ท่านคง ...วุ้ย.. เรียกเป็นท่านนี่ลำบากปากวะ
    เอ็งเป็นใครกันแน่วะ
    งง.. โว้ย

    หลังจากท่านสุวิ๒ กลับมา จึงเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟัง
    มันว่า ตอนที่ท่องไปในอวกาศนะ ไอ้พวกที่โดนจับนะ มันเปิดปากเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้ฟังจนหมดสิ้น ทั้งๆที่ไม่ได้ถามไม่ได้สอบสวนอะไรเลย

    แล้วมันก็เล่าทุกอย่างให้หมอสุวิฟัง พร้อมทั้งบอกให้ระวังตัว และฝึกปรือฝีมือให้มาก ให้เชี่ยวชาญ
    ต่อแต่นี้ไปอาจเกิดเรื่องราวได้ตลอดเวลา อย่าประมาทเด็จขาด และมันไม่อาจอยู่ช่วยได้ รวมทั้งสุวิท่านอื่นๆด้วย
    และส่งท้ายด้วยลีสองประโยค

    กัมมุนา วัตตตีโลโก (สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม)
    อัตตาหิอัตโนนาโถ (ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน)
     
  3. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    สุวิ๒ เล่าเรื่องมากมายให้ฟัง และมันว่า ตัวมันสามารถเดินทางในอวกาศ จากจุดหนึ่งไปอีกจุด ได้เพียงอึดใจ
    แต่การพาคนจำนวนมากไปนี่ต้องใช้ยานอวกาศ ต้องเสียเวลาหน่อย
    ความจริงในช่วงที่มันเดินทางพาแขกท่องเที่ยวไปในอวกาศนี่ ตัวสุวิ๒ ไปๆมาๆโลกมนุษย์นี่ไม่ตำกว่า ๓-๔ ครั้ง แต่ไม่ได้แวะมาหา
    และมันก็รู้ความเป็นไปในโลกมนุษย์นี้ดี

    มันยังให้หมอสุวิ นึกถึงตอนที่ท่องเที่ยวกับมัน ไปพบสถานที่หนึ่ง ที่มีบันทึกมากมายหลายรูปแบบ (ที่อ่านยากคือบันทึกไร้อักษร)
    และมันสอนให้หมออ่านบันทึกเหล่านั้น
    มีบันทึกอยู่ชุดหนึ่ง เป็นวิชาจักรพรรดิ และบันทึกประวัติศาตร์ อันน่าเศร้า ของจักรพรรดิหลายท่าน(นี่เป็นเหตุให้หมอไม่อยากฝึก)

    มันให้หมอไปทบทวนความจำ และฝึกๆ เอาไว้ จึงจะเอาชีวิตรอดได้ (มันว่า ไม่อยากฝึกก็ต้องฝึก - มิเช่นก็ไม่อาจรักษาตนให้พ้นทุกข์ภัยได้)
    ( เฮ้อ....ตอนนั้น โดนมันขู่ซะอุจาระหด ผายลมก็ไม่ออก)

    ตูต้องเข้าวังวน แห่งความเศร้า แบบเดียวกันท่านเหล่านั้นหรือ แงงงงงงงงงงงง
     
  4. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ตอนที่สุวิ๒ เล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟัง ใจก็ตะหงิดๆว่า จริงหรือเปล่าวะ
    ตู หลงละเมอเพ้อพกไปหรือเปล่า ไอ้เรื่องเล่าตอนตื่นนอน ตอนสายๆนี่ มันเป็นความฝันชัดๆ
    นี่ตูฝันไปละเปล่านี่

    ตอนที่มันเล่าถึงเรื่องการให้อภัยทาน แก่พวกอสูรทั้งหมดร้อยกว่าท่าน ทำให้นึกได้ว่า
    การให้อภัยทาน เช่นที่ สุวิ๒เล่านี่ หากเกิดขึ้นจริง ต้องเกิดบุญรองรับอย่างมหาศาล
    หากเราอินเข้าไปกับเหตุการณ์ และอนุโมทนาบุญไปกับการอภัยทานของสุวิ๒
    หากเรื่องเป็นจริง บุญย่อมเกิดแก่ตัวเราเองอย่างมหาศาลเช่นกัน
    หากเป็นเรื่องสมมุติหรือฝันไป ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น บุญแม้แต่เศษเสี้ยวหน่วยอาชวิน ก็จะไม่มีปรากฏ

    การทดสอบเริ่มต้น
    หมอระลึกไปถึงความทุกข์ทรมารที่สุวิ๒ โดนตัดแขนขา นอนกลิ้งเป็นพรหมลูกฟักที่ วังจันทรเกษมที่อยุธยา
    นึกถึงการตัดใจไม่เอาความหรือโต้ตอบ การวางอุเบกขาธรรมต้อนรับขับสู้เหล่าอสูรที่ทำร้ายตน
    และยังเอื้อเฟ้อ เลี้ยงดู พร้อมพาส่งบ้านที่ห่างไกล
    พออินได้ที่ ก็กล่าวคำอนุโมทนาสาธุไปกับการให้อภัยทานนั้น

    พอสาธุเสร็จหมอสุวิถึงกับตกตะลึง ไปกับผลบุญที่เกิดขึ้น มันนับได้ มันเป็อสงไขยหน่วยอาชวินเลย

    หมอยังไม่แน่ใจ จึงนำเรื่องนี้เล่าให้พรรคพวกที่มาเยี่ยมหมอสุวิตอนปีใหม่ฟัง แล้วให้เขาเหล่านั้น ลองอนุโมทนาสาธุกับผลบุญของสุวิ๒ ดู
    ผลก็เป็นเช่นเดียวกัน ต่างคนต่างได้บุญกันไปมากอักโข มากบ้างน้อยบ้างตามกำลังที่ิอินเข้าไปในเหตุการณ์
    ใครที่ร่วมทดสอบกับหมอสุวิ อนุโมทนาบุญกับสุวิ๒ ก็ออกมารายงานตัวได้นะมีอยู่ ๔ ท่าน

    สรุปได้ว่า ผลบุญได้เกิดขึ้นจริง
    ดังนั้นเหตุการณ์ต่างๆที่สุวิ๒ เล่าให้ฟังก็เป็นความจริงทั้งหมด
     
  5. marteeratanya

    marteeratanya Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +66
    อ่านไป ขนลุกไป
    ผมอนุโมทนาบุญกับอ.สุวิ๒ ขนงี้ลุกเกรียวเลย
    ไม่รู้ว่าจะได้มากน้อยแค่ไหน
    ขอบพระคุณครับ อาจารย์สุวิ
     
  6. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เมื่อวิธีการทดสอบการให้อภัยทานได้ผล
    หมอสุวิ จึงเกิดไอเดียนำวิธีการนี้มาประยุกต์ใช้กับการรักษคนไข้ ที่ถูกเบียดเบียนจากจิตวิญญาน
    โดยเฉพาะกับพวกเจ้ากรรมนายเวรกำมะลอ

    ยกตัวอย่าง สัตรีผูหนึ่งมาหาหมอด้วยอาการเนื้องอกในมดลูก
    มองๆดูแล้วก็เห็นเป็นเด็กผู้หนึ่ง นั่งจุมปุกอยู่ในมดลูกของนาง
    ไอ้หนูอีหนูมันว่า อีนางนี่ใจร้ายใจดำ อำมหิต หนูเป็นลูกเขา เขาฆ่าหนูได้ลงคอ เนี่นเขาทำหนูยังงี้นะ เจ็บปวดทรมารสุดๆเลย
    หนูน่าสงสารนะ มันบรรยายซะ เห็นเป็นภาพสามมิติเลย
    แต่การเล่าของมัน
    บางตน มันเล่าหน้าตาเฉย ใจมันก็เฉย ไอ้นี่มันไม่ค่อยจะอินไปกับการถูกทำแท้งเลยนะ
    แต่บางรายนะ มันอินสุดๆ จะเราน้ำตาตกไปกะการเล่าของมันด้วย ไอ้แม่มันโหดจริงๆ
    ไอ้เราก็ต่อรอง อโหสิกรรมกันนะ
    มันก็ยอม แต่ก็เรียกร้องเอาโน่น นี่ นั่น ตามแต่ใจมัน

    คุณแม่บางรายเล่าให้ฟังว่า ทำบุญส่งส่วยแล้วส่งส่วบอีก มันก็เวียนเทียนมาไม่จบสิ้น

    แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรละว่ามันจริงหรือโกหกแบบด้านๆ เพื่อหาสินไหมทดแทน
    ก็ใช้วิธีอภัยทานตามที่เล่าไว้นะซิ
    ถ้าเป็นการทำแท้งจริง มีการอโหสิกรรมจริง ย่อมต้องเกิดบุญ
    หากเป็นการสวมรอย เป็นเจ้ากรรมนายเวรกำมะลอ จะไม่เกิดบุญขึ้นเลย
    ใครก็ตามที่สามารถเช็คปริมาณบุญ บาปได้ ก็ให้สมมุติขอทดลองทำอโหสิกรรมดู และขอดูบุญบาปที่จะเกิดขึ้นว่าจะมีหรือไม่
    ถ้าไม่มี นีแสดงว่าอีเป็นเจ้ากรรมนายเวรกำมะลอ มาหลอกเอาสินไหม(บุญ)

    ตัวหมอสุวิ จึงใช้วิธีนี้ตรวจเช็คเจ้ากรรมนายเวรของคนไข้ได้
    ไม่ว่าไอ้ตัวเจ้ากรรมนายเวรกำมะลอมันจะวางแผนเนียนปานใด ก็ไม่อาจตบตาเราได้
    นั่นเพราะ บุญและบาป เป็นเรื่องที่ไม่อาจลอกเลียน กุขึ้น หรือสร้างภาพได้
    ดังข้อความว่า

    สัพเพ สัตตา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา
    กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ กัมมะปะฏิสะระณา

    สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีกรรมเป็นของของตน, มีกรรมเป็นผู้ให้ผล,
    มีกรรมเป็นแดนเกิด, มีกรรมเป็นผู้ติดตาม,มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศ้ย
    ยัง กัมมัง กะรัสสันติ, กัลฺยาณัง วา ปาปะกัง วา,
    ตัสสะ ทายาทา ภาวิสสันติ

    จักทำกรรมอันใดไว้, เป็นบุญหรือเป็นบาป,
    จักต้องเป็นผู้ได้รับผลกรรมนั้นๆ สืบไป
     
  7. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    สุวิ๒ เล่าเรื่องราวไว้หลายเรื่อง เพื่อให้ระวังตัว ให้รู้วิธีรักษาตัว ให้ใช้ปัญญาให้มาก กว่าการใช้กำลัง ฯลฯ

    เรื่องที่ ๑ น้ำจะท่วมกรุงเทพฯไม๋

    พวกอสูรที่ถูกจับ สารภาพกับสุวิ๒ ว่า
    มารและอสูรในโลกมนุษย์ มีสารไปชักชวนพวกตนให้มาทำงานใหญ่ในโลกมนุษย์กัน ความสำเร็จรออยู่ตรงหน้าแล้วไม่นานสามโลกก็จะเป็นของพวกเรา
    พวกตนรับหน้าที่ทำให้น้ำท่วมกรุเทพ โดยมีแผน

    ๑ พาพวกเหราจากเมืองจีนมา(มีตัวใหญ่อยู่ ๔ ท่าน)พร้อมลูกหลาน โดยใช้ อยุธยาและจังหวัดใกล้เคียงเป็นที่พัก
    และนัด รวมพลกันที่สะพานพระรามแปด ในวันที่ ๙ พ.ย.๒๐๑๒
    และใช้วันนั้นเป็นวันทดสอบการสร้างคลื่นอัดจากทะเลขึ้นมา และจากสะพานพระรามแปดกวาดลงไป
    (หากจำกันได้วันที่ ๙ พ.ย.นะ เป็นวันถวายกฐินพระราชทาน ทางชลมาศนะ หากเกิดจริงตามแผนเขานี่ เละตุ้มเป๊ะแน่)

    ๒ เมื่อน้ำท่วมกรุงเทพฯ เจิ่งนองพอดินนิ่มแล้ว ให้พวกเหราทั้งหมด ด้นแผ่นดินในกรุงเทพทั้งหมดให้เป็นโพลงก่อนปีใหม่

    ๓ ส่งคนไปยั่วยุ เหราตัวยักษ์ทีปากน้ำเจ้าพระยาให้ออกมา(เขาอยู่ที่ริมทะเลบางขุนเทียน ตามที่เคยเล่าเอาไว้) ดีเดย์ประมาณวันสิ้นปี
    และให้สร้างคลื่นอัดเข้ามาอีกครั้ง (จะมีสัญญานบอกมา ทำพร้อมกันเกือบทั่วโลก)

    รับรองได้ว่า หากเขาทำตามแผนสำเร็จ เพียงเท่านี้ กรุงเทพก็จมน้ำถาวรแล้ว
     
  8. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    หากไปอ่าน ช่วงที่สุวิ๒ กวาดจับอสูรที่วังจันทรเกษมอยุธยา
    จะมีกล่าวถึงนกยักษ์ตัวหนึ่งบินร่อนไปมา เหนือท้องฟ้า ดาวทะเลทรายเป็นผู้ยืนยันนะ
    เห็นนกตัวนั้น มีรูปร่างคล้ายคน มีปีก ดาวทะเลทรายยังพึมพัมว่าใช่ครุฑหรือไม่

    ความจริงแล้ว นกตัวนั้นเป็นลูกน้องของสุวิ๒ เป็นยักษ์มีปีก ชาวโลกรู้จักกันในนามการูด้า มีถิ่นพำนักในอินโดนีเซีย
    และสุวิ๒ ยอมรับว่าตัวมันมีลูกน้องเป็นยักษ์ทั้งหมด ๑๖ ตน แต่ละตนมีลูกน้องเป็นกองทัพอีกตนละแสนหนึ่ง
    รวมทั้งหมดมีเป็นล้าน (อู้ฮู้แฮะ....นี่มันจะยึดครองซะเองนี่ .. อุ้ย...ไม่อยากคิดวุ้ย)

    ยิ่งมายิ่งสงสัยวุ้ย สุวิ๒ นี่เป็นใครกันแน่
     
  9. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เรื่องที่ ๒ ที่มาของยักษ์ ๑๖ ตน

    สุวิ๒ เล่าให้ฟังดังนี้

    ยักษ์ตนที่ ๑
    ตอนปรากฏตน อีว่าท่านท้าวเวสสุวรรณ สั่งให้มาคอยรับใช้
    ยักษ์ตนนี้ท่านเป็นชาวป่าเผ่าพันธ์ดั่งเดิมของแหลมมาลายู(มาเลย์เซีย)
    และเป็นเผ่าพันธ์เดียวกันกับเงาะที่ ร.5 นำมาชุบเลี้ยงในวังนั่นเอง

    ยักษ์ตนที่ ๒
    พบถูกอำนาจจากพวกจิตจักรวาล นำมาขังไว้ที่ แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
    จิตจักวาลร่วมมือกับ สงฆ์ปลอมๆและพวกอิสลามมิฉาทิฐิจากภาคใต้ เพื่อก่อการให้ไทยเกิดการเปลียนแปลง
    แล้วเขาก็จะฉกฉวยผลประโยชน์จากไทย
    พวกนี้มีอำนาจจากคัมภีร์ดั่งเดิมด้วย ซึ่งมีอำนาจมาก พระสงฆ์ของไทยที่มีอำนาจจิต ต้านเขาไม่ได้เลย

    เขาใช้ให้ยักษ์ตนนี้มาทำงานฆ่ามนุษย์ และให้นำลูกน้องมาร่วมทำงานด้วย
    ผลงานตกอยู่กับพวกเขา บาปการฆ่าฟันตกแก่ยักษ์
    นี่เป็นต้นเหตุแห่งเรื่องราว ฆ่าฟันกันที่ สามจังหวัดภาคใต้

    เมื่อช่วยยักษ์ออกมาได้แล้ว พูดคุยกันจึงรู้เรื่องว่า
    เดิมพวกเขาดูแลพุทธสถาน บุโรพุทโธ ในอินโดนีเซีย เป็นยักษ์มีปีกเหมือนครุฑ บินได้(ชาวพื้นเมือง เรียก การูด้า)
    เขาโดนพวกจิตจักรวาลจับมา และใช้อำนาจบังคับขู่เข็ญให้ทำงานดังกล่าว
    ไม่ทำก็โดนทำโทษ ทำให้ไม่สบายพิกลพิการไปตามๆกัน
    ยักษ์พวกนี้ต้องทนทำงาน ได้แต่บาปติดตัว

    เมื่อสุวิ๒รู้เรื่อง ก็รับไว้และให้หมอสุวิช่วยรักษาทั้งร่างกายและจิตใจ
    ให้อยู่กับยักษ์ท่านแรก พูดคุยสอนสั่งกัน
    หมออุทิศบุญให้ทั้งสองเสมอ จนท่านที่สองนี้ มีบุญมากโข

    ช่วงนี้ สุวิสองเริ่ม ก็นำยักษ์ทั้งสองออกทำงาน ตะเวณไปทั่วพระนคร
    ยักษ์ทั้งสองนี้ นับว่าได้ช่วยประเทศไทยมากอยู่ โดยเฉพาะเรื่องในวังหลวง และเสมา
     
  10. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ยักษ์ตนที่ ๓ ไอ้เสมา
    หลังจาก ยักษ์การูด้า มาอยู่ด้วยไม่นาน ก็มีเรื่องของนางพรรณพฤกษา สอบถามเรื่องต่างๆเข้ามา
    เมื่อตรวจเช็คในรายละเอียด พบเรื่อราวซับซ้อนพอควรดังที่เล่าไว้ในกระทู้นี้แต่แรก
    และในงานนี้ได้พบ มนุษย์ผู้หนึ่งที่ถูกฝังทั้งเป็นให้เฝ้าสมบัติเป็นปูโสมเฝ้าทรัพย์
    เมื่อเช็คเรื่องราวต่างๆ มนุษย์ผู้นี้ น่าสงสารนัก มีรักมั่นคง มีใจภักดีต่อองค์เหนือหัว ยอมสละชีวิตเป็นปูโสมเฝ้าสมบัติ(แม้ว่าจะทำด้วยใจประชดก็ตาม)

    หมอกับสุวิ๒ จึงช่วยกันตัดพันธนาการต่างๆออก
    พอเป็นอิสระ มันก็จุติใหม่ทันทีเป็นยักษ์ โดยสมบูรณ์ด้วยอำนาจแห่งความโกรธแค้นที่ฝังแน่น
    และเห็นมันช่วยเฝ้าสมบัติจักรพรรดิ์ให้ลูกหลาน แม้ว่าจะเฝ้าสมบัติปลอมๆก็ตาม
    จึงอุทิศบุญให้ก้อนหนึ่งมากพอให้ที่จะย้ายภพภูมิขึ้นสู่ชั้นมหาจาตุราชิกาทีเดียว
    และร้องขอความเมตตาท่านท้าวเวสสุวรรณให้ช่วยเหลือมัน ให้มีตำแหน่งหน้าที่ มีหน้ามีตา พอที่จะกลับไปอวดสาวๆได้บ้าง รวมถึงพ่อของสาวเจ้าด้วย
    ก็มันหลงรักชอบสาวอยู่ แต่มันไม่มีอะไรเลย พ่อเขาจึงไม่ไยดีไล่ตะเพิดมัน มันเลยน้อยใจ ไปตายซะดีกว่า

    เหตุที่ตังชื่อให้มันว่า ไอ้เสมา มีเหตุสองประการ
    ๑ ชื่อนี้เหมาะแก่ดวงกำเนิด(จุติ)ของมัน ที่เป็นยักษ์เต็มตัว ทำให้มีทั้งโชคลาภเงินทอง ยศฐาบรรดาศักดิ์
    ๒ ตอนนั้น ละครเรื่องขุนศึกเพิ่งจบ ทุกคนอินไปกับพระเอกของเรื่องคือ ไอ้เสมา ผู้มีใจรักมั่น ในแม่หญิงเรไร
    มันได้แต่เฝ้ารัก แต่มันต่ำต้อยนัก ด้วยเป็นคนธรรมดา
    จึงโดนกีดกันทุกวิถีทาง
    มันจึงเพียรพยายาม ฝึกตนเรียนรู้ รับราชการทำคุณแก่แผ่นดิน จนได้เป็นแม่ทัพใหญ่
    มียศมีตำแหน่ง พอที่จะเชิดหน้าชูตาให้แม่หญิงเรไรทีมันรักมั่นได้
    และที่สำคัญ ทำให้พ่อแม่ของนางพอจะยอมรับในฐานะและตำแหน่งหน้าที่ และยอมยกลูกสาวให้

    ซึ่งเรื่องราวมันมาซ้อนทับกับเรื่องราวของไอ้เจ้ายักษ์ตนนี้พอดี
    จึงตั้งชื่อให้มันว่า "เสมา"
    เผื่อว่ามันจะมีมุมานะ ขึ้นเป็นขุนศึกกะเขาได้บ้าง

    แต่ชิชะ ความขี้น้อยใจของมัน ความเจ้าคิดเจ้าแค้น ชอบประชดประชันของมัน ฯลฯ เกือบจะทำให้มันต้องตกอับแล้ว
    แต่มันก็โชคดีนะ ที่คนรอบข้างมันให้ความช่วยเหลือมันทั้งปลอบทั้งขู่ จนอยู่กะร่องกะรอย ก่อนหมดโอกาส

    อย่างไรก็ดี การจุติใหม่ ย่อมเกิดขึ้น ในสองกรณี
    ๑ เพราะหมดบุญ
    ๒ เพราะหมดกรรม

    หวังว่าไอ้เสมา จะได้จุติใหม่ด้วยเหตุ หมดกรรม
    และมันคงได้กลับเป็นมนุษย์(เป็นเทวดามนุษย์)อีกครั้ง
    แต่อย่าให้ความเศร้าหมองเกาะกุมหัวใจมันนะ
    ความเศร้าหมองจะทำให้ราศรีความเป็นเทวดาของมันอับแสง

    อีกไม่นาน ไอ้เสมาคงต้องจุติใหม่แล้ว
    ไม่หมดบุญ ก็คงหมดกรรม

    แต่สุดท้าย มันก็ถูกเนรเทศ ลงมา เป็นยามเฝ้าวัดพระแก้ว อยู่พักใหญ๋
    แถมวันแรกที่ลงมาก็ได้ตะลุมบอนกะพวกจิตจักวาลที่มายึดพื้นที่
    สรุปตัวมันเพื่อนก็ถึงกับนอนหยอดน้ำข้าวต้ม
    หมอกะสุวิ๒ ต้องไปลากเอามาเยียวยารักษา(ดังความที่ปรากฏในกระทู้แล้ว)

    และสุดท้าย ก็ต้องมาอยู่ช่วยสุวิ๒ ทำงานในเมืองมนุษย์
     
  11. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ยักษ์ตนที่ ๔
    หลังจากส่งเสมาขึ้นไปให้ท่านท้าวดูแลแล้ว
    สุวิสอง ก็พายักษ์ตนที่ ๑ และ ๒ (รากูด้า และ เงาะ) วิ่งเข้าวิ่งออกวัดพระแก้วและวังหลวงไม่เว้นแต่ละคืน
    ด้วยสำผัดได้ถึงเหล่าจิตจักวาลและอสูร จำนวนมาก ที่จะเข้ามายึดอำนาจ การปกครองของพระ......ฯ
    วิ่งเข้าวิ่งอกอยู่นาน เห็นรูปปั้นยักษ์ยืนยามเฝ้าวัดอยู่ จึงคิดไปว่าน่าจะมีผู้ยืนยามเฝ้าวัด ก็น่าจะดี

    และช่วงเวลานี้ ไอ้เจ้าเสมา ก็หนีจากสวรรค์ชั้นมหาจาตุราชิกาลงมาหาสาวเจ้าอยู่เนืองๆ
    สุวิ๒ คงคิดดังไปหน่อย ท่านท้าว เลยไล่ไอ้เจ้าเสมา กะเพื่อของมันอีกท่านหนึ่ง ลงมายืนยามที่วัดพระแก้ว
    ไอ้เสมา ก็จะได้ไม่ต้อง โดดงานเทียวไปเทียวมาให้เสียเวลา

    ยักษ์ทั้งคู่ มาถึงวันแรก ก็ได้รบกับไอ้พวกจิตจักวาลที่มันมายึดวังหลวงและวัดพระแก้วอยู่
    ผลไอ้ยักษ์ทั้งสอง ถูกซ้อมซะปางตาย
    หมอเลยได้อาชีพใหม่ นอกจากรักษาคนแล้ว ยังเป็นหมอรักษายักษ์ด้วย
    และอีกไม่กี่วัน ยักษ์ทั้งคู่ก็บาดเจ็บเจียนตายอีกครั้ง ด้วยน้ำมือของอสูรและจิตจักวาลชุดเดิมนั่นแหละ

    พอรักษาหายจากการบาดเจ็บ การเฝ้าวัด ก็ไม่ค่อยเข้มงวดเท่าไรแล้ว
    ไอ้พวกอสูรและจิตจักวาล มันจะเดินเข้าเดินออกอย่างไรก็ช่างหัวมัน
    และหลังจากนั้นไม่นาน คำสั่งเลิกเฝ้าวัดก็ตกลงมา
    และท่านท้าวก็ประทานทั้งสองมาให้สุวิ๒ ใช้งานแทนการเฝ้าวัด
    เพื่อนของไอ้เสมาที่มาร่วมเฝ้าวัด ก็คือยักษ์ตนที่ ๔

    ตอนนี้ไอ้สุวิ๒ จึงมียักษ์เป็นบริวารถึง ๔ ตน
     
  12. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ยักษ์ตนที่ ๕ และ ๖
    เมื่อมีคำสั่งเลิกเฝ้าวัด ยักษ์ทั้งสองก็ถูกถ่ายโอนมาให้สุวิสอง ดูแลแทน
    สุวิสองให้รุ้สึกคล้ายกับว่า เดิมวัดนี้มันน่าจะมียักษ์ที่ทำหน้าที่เฝ้าวัดอยู่แล้ว และมันหายไปไหน

    ตรวจสอบดูว่า ถูกเรียกกลับ สู่ชั้นมหาจาตุราชิกาหรือไม่
    ปรากฏว่าไม่มี

    ตรวจสอบในชั้นมนุษย์ ทุกซอกทุกมุม
    จึงพบว่ายักษ์ผู้เฝ้าวัดเป็นถึงเทวดาชั้นมหาจาตุราชิกา ตกอับ ไร้ซึ่งพลังอำนาจ
    กลายเป็นยักษ์เร่ร่อน สภาพนาอนาจไม่ผิดกับไอ้เสมาตอนที่ช่วยมันขึ้นจากหลุมเลย
    จึงอุทิศบุญให้ และสอบถามดู จึงรู้ว่ายักษ์ทั้งสองนี้ ถูกพวกจิตจักวาลและอสูรทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส และริบอำนาจบุญบารมีเสียสิ้น แล้วไล่ออกมานอกวัด
    เมื่อหมดอำนาจบุญบารมี ก็ไม่อาจติดต่อต้นสังกัดได้(ก็มหาจาตุราชิกา กับชั้นมนุษย์มันห่างกันตั้งไกล)จึงกลายเป็นยักษ์อนาถาไป
    หลังจากอุทิศบุญที่มากพอและส่งกลับสู่มาหาจาตุราชิกาแล้ว
    ไม่นานท่านท้าวก็ส่งทั้งสองกลับลงมาช่วยไอ้สุวิสอง ทำงานอีก
     
  13. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    อ้าว คุณอาคะ แล้วมนุษย์ที่เค้าว่าติดต่อกับจิตจักรวาล
    ก็คือติอต่อกะพวกนี้เหรอคะ ก็ไหนทำท่าว่าจะมาช่วยคน
     
  14. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ยักษ์ตนที่ ๗-๑๖
    หลังจากส่งยักษ์ตนที่ ๕-๖ กลับไปหาท่านท้าวแล้ว
    ก็นึกได้ว่า ยังมียักษ์ที่เฝ้าวัดหลวงอยู่อีกสองวัด คือวัดโพธิ์ กับวัดแจ้ง(วัดอรุณ)อยู่อีกวัดละ ๕ ท่าน
    ยักษ์ทีวัดทั้งสองยังอยู่ดีมีสุขประการใด จึงออกสำรวจกัน
    ไม่นานก็เจอยักษ์ทั้งสองวัด ที่อดีต ชอบท้าตีท้าต่อยกันเสมอ
    แต่วันนี้กลับกลายเป็นยักษ์เร่ร่อน กอดคอกันกลมเกลียว นอนข้างถนน
    ทั้งสิบตน มีสภาพเป็นเช่นเดียวกันกับยักษ์ที่เฝ้าวัดพระแก้วเลย
    สอบถามดู ก็เป็นเรื่องเดียวกัน จึงอุทิศบุญและส่งกลับไปหาท่านท้าว

    ไม่นานท่านก็ส่งทั้งสิบท่านนี้กลับมาให้สวิสองดูแลต่อ ในเวลาไล่ๆกับสองท่านแรก (ยักษ์ตนที่ ๕ และ ๖)
    ผิดกันแค่วันเดียวมั้ง


    เมื่อยักษ์ทั้งสิบหกท่านมาอยู่ด้วยกันในบ้านหมอ
    ก็หนุกหนานนะ กลางวันก็นอนกันเงียบฉี กลางคืนก็ออกตะเวร กัน ไม่รู้ออกไปทำอะไรกันบ้าง ไอ้สุวิสองมันไม่ค่อยเล่าให้ฟังสักเท่าไหร่
    มันว่าอยากรู้ให้ตามดูเอา
    ก็มันก็รู้ว่าหมอหูหนวกกะตาบอด จะตามดูตามฟังมันเล่าจะได้เรื่องรื้อ

    และอีกไม่นาน ไอ้ยักษ์ทั้งสิบหกตน ก็ตามหาลูกน้องเก่าได้มาเป็นล้านตน ตั้งกันเป็นกองทัพเลย
    ตอนนี้กองทัพยักษ์ตั้งขึ้นสำเร็จแล้ว
    ไอ้สุวิสองมันได้พื้นที่ที่พรหมชั้น ๗ ใช้เป็นสถานที่ชุมนุมพล
    และย้ายสำมะโนครัวออกไปจากบ้านหมอจนหมด ไม่รู้เป็นตายร้ายดีประการใดบ้าง
     
  15. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    เขามากันมากมายหลายก๊ก

    บางพวกก็ดี บางพวกก็ปากว่าตาขยิบ(เหมือนเหนังเรื่อง "อวตาร เลย)


    บางพวกก็เป็นศัตรูกัน พอพบหน้ากันก็อัดกันเละ
    พวกนี้คงเคยได้ยินว่าหมอสุวิรักษายักษ์ที่บาดเจ็บจากพวกจิตจักวาลที่มาจากบุพพะวิเทหะได้
    เลยแบกหามกันมาให้หมอสุวิรักษาหลายรายอยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2013
  16. marteeratanya

    marteeratanya Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +66
    อาจารย์สุวิครับ
    บุคคลที่ไม่มีอภิญญาใดๆ ไม่ได้เป็นบุคคลพิเศษ จะช่วยประเทศได้ยังไงครับ
    นี่ถ้ารวมเป็น AEC แล้ว จะไม่วุ่นไปกว่านี้หรือครับ
    แล้วบุคคลพิเศษในอดีตของเรา โดนเหมือนยักษ์ทั้ง 2 วัดหรือเปล่าครับ
     
  17. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ฟังแล้วให้เป็นกังวล เหมือนกำลังจะเข้าสู่ภาวะสงครามไงงั้นเลย
    สภาพไม่ต่างกันเลยนะคะ โลกมนุษย์กะโลกทิพย์ อยู่ยากขึ้นทุกวัน
     
  18. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    อ.suwi ครับ ถ้าจะช่วยอุทิศบุญให้กับผู้ที่คุ้มครองกรุงเทพ คุ้มครองประเทศไทย คุ้มครองพุทธสถานและสถานที่สำคัญต่างๆจะอุทิศอย่างไรจึงจะถึงพวกเขาจริงๆและครอบคลุมทั้งหมด และต้องอาศัยบุญอะไรช่วยให้พวกเขามีกำลังฤทธิ์ที่มากพอครับ อ่านดูแล้วเหมือนกับกำลังฝ่ายดีที่ช่วยคุ้มครองบ้านเมืองมีน้อยและฤทธิ์ไม่ค่อยมากเท่าไร สู้พวกที่มาจากต่างจักรวาลไม่ค่อยได้

    และพวกที่มาจากต่างจักรวาลที่มีพลังมากๆ จะหาทางป้องกันอันตรายจากพวกนี้ได้อย่างไรครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2013
  19. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ผู้ที่ฟังเรื่องเล่าแล้ว ไม่ตัองวิตกมากเกินไป
    เพราะเรื่องราวทีเล่านี้ มันผ่านไปแล้วตั้งแต่กลางปี ๒๐๑๒
    บางเรื่องก็จบไปตั้งแต่ปลายปี
    แต่บางเรื่องก็ยังคาราคาซังอยู่

    ช่วงนั้น ทั้งหมอและสุวิ๒ ยังงงกันอยู่ ว่าเกิดอะไรขึ้น (เวลาจะเล่าอะไรก็ยังอ้ำๆอึ้งๆ)
    และเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้ก็ราวเดือนกันยา-ตุลา เป็นช่วงที่รวบรวมกองทัพยักษ์สำเร็จ
    และมาสรุปเรื่องได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ตกเอาปลายเดือน พฤศจิกา
    เห็นได้ว่า ตั้งแต่ ปลายเดือน พ.ย หมอก็เริ่มหยุดเขียน และเข้าสู่ภาวะสงครามเต็มตัว

    สุวิ๒ หลังจากกลับจากจักวาล เมื่อช่วงต้นธันวา เล่าอะไรให้หมอฟังเสร็จก็อำลากลับไปทำงานของตน จนปัจจุบันก็ยังไม่กลับมาเยี่ยมเยือนกันเลย
    และยังบอกว่า ไม่น่าเกินเดือนมกรา สุวิ อีกหลายๆท่านก็คงต้องทะยอยจากไปทำงานของตนจนหมด
    หากงานเกินคน คงมีการสร้างสุวิตนใหม่ๆขึ้นอีก ให้ฝึกเตรียมตนและร่างกายไว้
    ตั้งแต่นี้ต่อไป คงต้องฝึก ให้ตนเป็นทีพึ่งแห่งตนให้ได้

    นึกถึงวันนั้นแล้ว มันเศร้าๆพิลึกๆแฮะ
    เคยสุมหัวพูดคุยกันหนุกหนาน ท่องเที่ยวด้วยกัน ต่อไปคงไม่มีอีกแล้วนิ
     
  20. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    พวกที่มียศสักดิ์ ก็ ได้รับการเลี้ยงดูปูเสื่อ และยังได้รับการให้เกียรติอย่างดี แต่ไม่อาจสั่งการอันใดได้ เหมือนพวกตกงานนะ

    สรุป มันก็เหมือนเชลยศึกชั้นดีนะเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...