เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย wanwi, 11 ตุลาคม 2016.

  1. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,272
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,034,266
    มาอีกล่ะ กำลังรอเม้นท์จากท่านรังสีอันอบอุ่นอยู่

    อ่านทีไร ชื่นใจทุกครั้ง ขอบพระคุณมากครับ

    แต่ช้างใหญ่ไปนิดนะท่าน...ขอแค่ควายเผือกพอ

    555...มีขำขันสลับดอกมั่ง พอครึ้มๆ
     
  2. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,272
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,034,266
    เป็นภาพแรกของกระทู้ที่ดีมาก น่ารักมาก

    ขอบพระคุณจากใจจริง...กำลังใจและ

    รักกันไว้เถิด
     
  3. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,272
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,034,266
    อายุเฉียดใกล้อีกคน...แสดงว่ากระทู้มีผู้อาวุโสมาก

    เป็นยาอายุวัฒนะทางใจให้ชุ่มชื่น...ผมยังไม่พักงานครับ

    ลูกชายบอกให้ทำครึ่งวัน กันอัลไซเมอร์(เซ็นเช็คอย่างเดียว)

    จะสังเกตว่า วันทำงานผมมักมาหลังเที่ยง
     
  4. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,272
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,034,266
     
  5. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,272
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,034,266
    เป็นสุดยอดเม้นท์ที่เยี่ยมยุทธสุดๆอีกหนึ่งวาระ

    อ่านแล้วไม่รู้จะตอบไงดี เพราะคุณอัศว์ว่าไว้หมดแล้ว

    ผมว่าถ้าอายุมากหน่อย...ไปเป็นหมอดูได้นะครับ

    วิเคราะห์ได้ดีมีศาสตร์ มีศิลป์...เรื่องพระหลวงปูโต๊ะ

    ต้องได้ฟังแน่ ทั้งการแจกอย่างแหลกราญ ไม่มีข้อแม้ รับไปแล้ว

    ไม่ทำให้รำคาญ แต่จะขายต่อได้หรือไม่ก็อีกเรื่อง

    อีกหน่อยจะเขียนให้อ่านเพลิน ทั้งหลวงปู่ทวดในแง่มุม

    ที่ผจญมาเอง และแง่มุมที่ผู้ใหญ่เคารพนับถือเล่าสู่กันฟัง

    อย่าเบื่อติดตาม ขอบอก!!!
     
  6. นำทาง

    นำทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,181
    ค่าพลัง:
    +7,865
    ...............................
    ขอบคุณที่เข้าใจนักอ่านครับ...ครั้งหนึ่งเคยอ่าน เพชรพระอุมา 48 เล่มโดยไม่สนใจเลยว่าตัวเองจะสอบตกหรือผ่าน(เมื่อครั้งเป็นนักศึกษา)...สรุปสอบตกล้างบอร์ด...แต่หลังจากนั้น สำนวน โวหารในนวนิยาย ทั้งท่วงท่าจังหวะการสอดแทรกและหักมุมหรือหลายๆอย่าง สามารถนำมาประยุกต์ในการเขียนข้อสอบ(กฎหมาย) ผ่านฉลุยมาตลอด จบเร็วกว่าเพื่อนแบบชิวๆ...แต่ตอนนี้ได้ติดตามของท่านอยู่ จะอ่านไปเรื่อย จนถึงฝั่งเช่นกัน ขอบพระคุณมากครับ
     
  7. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,272
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,034,266
    ขออภัยคุณอัครักษเทว พิมพ์ชื่อเร็วไปนิด
    แก้ไขตรงนี้นะครับ
     
  8. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,272
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,034,266
    ไม่เป็นไรครับท่านศนิวาร ที่ท่านขี่หลังนั้น ยังไงก็ไล่ตามทัน

    เรื่องของผมแน่ๆ...ขอบพระคุณมากนะครับ สำหรับการติด

    ตามไม่ละลด
     
  9. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,272
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,034,266
    อิจฉาจัง เป็นสิ่งที่ผมอยากทำ

    แต่ยังไม่ได้ทำ เพราะเจอคนมาก

    จะเป็นภูมิแพ้จามทั้งวัน รอซาอีกหน่อย

    ไปแน่ๆ แต่ก็คิดว่าคงไม่ซาหรอก จะอีกกี่วัน

    กี่เดือนมหาชนชาวไทยก็คงเนืองแน่นเช่นนี้

    ตลอดไป ขอกราบอนุโมทนาผู้ไปได้ไว้ตรงนี้

    ด้วยหัวใจจริง ทุกท่านหัวใจน่ากราบทั้งสิ้น!!!
     
  10. kom48

    kom48 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +5,858
    รอติดตามตลอดครับคุณอา ...
     
  11. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,272
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,034,266
    (ต่อ)...ขุมทองตะนาวศรี-ปีศาจปู่โสม!!!
    ------------------------------------
    ------------------------------------


    ก่อนออกย่ำป่าตะนาวศรีอีกวาระ ผมขออธิบายแผนภูมิประเทศหรือโลเกชั่นรอบทิศ
    พอให้เห็นภาพสำหรับผู้ไม่อยู่ในคณะร่วมทาง

    จากหน้าปากถ้ำใหญ่ ถ้าเลี้ยวขวาแบบหักศอกจะเลียบหุบเหวมีทางเดินไปถ้ำที่พบปู่ฤาษี (น่าจะเรียกถ้ำฤาษีได้ด้วย)...เส้นทางนี้ลัดเลาะคดเคี้ยว มีมุมเคิร์ฟน่าหวาดเสียว ทอดสู่ลำห้วยตะนาวศรีไกลลิบเบื้องล่างที่ไม่เคยมีมนุษย์หน้าไหนผ่านไปได้ เพราะบางตอนเป็นหน้าผาหินตัดล้วนๆ ต้องนักไต่เขามืออาชีพมีอุปกรณ์ทันสมัยครบเครื่อง จึงไต่
    ได้โดยร่างไม่แหลกเหลว เส้นนี้ลุงพรานว่า ถ้าบ้าและไปรอดจะถึงทะวายไวกว่าทุกเส้นทาง แต่กี่วันไม่รู้เพราะแกก็ไม่ปัญญาอ่อนทดลอง

    คราวนี้หากออกปากถ้ำ เดินตรงแหน๋วไปหน้าไม่หักเลี้ยว ก็ตกเหว เป็นจุดที่ผมกับบักสม ดื่มด่ำอัศจรรย์ยามเช้าเมื่อตะวันทอแสงเหนือขุนเขา บรรเลงออเคสตร้าธรรมชาติครบวง
    และคงจะไม่มีวาสนาได้มาเห็นอีกแล้วในชีวิตนี้

    ถ้าออกถ้ำ เดินเยื้องซ้ายทำมุมเฉียงเล็กน้อย แล้วลัดไปหน้า เป็นที่ราบเดินร้อยก้าว ภูเขาใหญ่ที่เราข้ามมาหลังฟาดปากกับไอ้เหลือมพม่า (ความจริงควรเรียกยัดปากเข้าไปถึงขากรรไกรจริงๆ)จะขวางอยู่ข้างหน้า

    แต่เราก็ไม่ได้ไปทางนั้นที่โหดนัก ไม่มีปัญญาหอบคอนเพื่อนลัดตัดเขา...เราออกปากถ้ำ หักเลี้ยวซ้ายเก้าสิบองศาหรืออาจจะมากกว่า เกือบกลับหลังหัน แล้วเลียบล่องป่าไปตามทิศนี้

    เป็นทางขามากับเกียรติ...ลุงพรานบอกผมและบักสม เพียงเท่านี้ก็พอนึกภาพ ภูมิประเทศได้เกือบครบทิศ360องศาแล้ว...ผมกับบักสมหิ้วแคร่ไม้ไผ่ทำเองแข็งแรง
    สองเราสะพายแก้ปเหน็ปโคลท์แบบเดียวกัน เกียรตินอนหนุนหัวด้วยห่อผ้า ร่างคลุมผ้าพวยถึงอกกันความหนาวเย็นและความชื้น ลุงว่าป้องกันไอ้เปลี่ยวดำไว้ก่อน ผมมารู้ทีหลังว่ามันคือ นิวมอเนีย หรือปอดบวม ตัวลุงเองเอาเถาวัลย์มาทำที่สะพายแก้ป มือถืออีโต้หัวตัดที่บักสมเบิกจากสโตร์เหมือง คอยปัดป่ายตัดเถาไม้ เถาวัลย์ระเกกะเบิกทางเป็นระยะ

    ขบวนท่องไพรอันรุ่งริ่งแสนน่าเวทนา ก็แห่ริ้วขบวนสี่สหายจากถ้ำเขาฤาษีใหญ่ท่องป่าตะนาวศรี ไม่มีสภาพจอมพรานไพร แต่เหมือนผ้าขี้ริ้วกลางป่ามากกว่า หากใครเห็นขบวนเรา แล้วบอกว่านี่แหละทีมพิชิตสมิงร้ายที่คนกลัวกันทั้งตะนาวศรีย่านชนแดนต่อสวนผึ้ง รับรองไอ้หมอนั่น ต้องหัวร่องอหาย บอกว่า พวกเอ็งนี่ ไม่บ้าก็เมา...เป็นสมัยนี้มันคงบอก ไปเล่นตลกคาเฟ่เถอะไป๊!!!

    ลุงพรานตะลุยนำหน้า บักสมเตี้ยกว่าผมหิ้วแคร่สองมือ แขนตึงด้านหน้า ผมก็หิ้วตึงสองแขนปิดท้ายขบวนชวนหัว แต่ชีวิตจริง ช่วงนาทีชีวิตนั้น ทั้งไม่ตลก ทั้งหัวร่อไม่ออกดอกครับ...เส้นทางราบเรียบชั่วครู่ เมื่อเริ่มทิ้งถ้ำเถื่อนเขาไว้หลัง แต่ยังไม่พ้นรัศมีขุนเขาฤาษี เงาของท่านยังทาทาบหลังดงไม้อยู่ พักใหญ่ก็เป็นทางเดินลง ป่าเริ่มรกชัฏ
    ต้องระวังมากขึ้นจากการหอบหิ้วแคร่...เราทำเวลาได้ช้ามากเพราะอุปสรรคป่า ยามเช้าป่าชื้นและพื้นลื่นหลายแห่ง บักสมที่ไม่ใช่นักล่องไพรมาก่อน เดินผิดพลาดถลากไถลบ่อย ถ้าต่างคนต่างเดิน สิ่งนี้คงไม่สังเกตเห็น แต่พอมาเดินหิ้วแคร่จังหวะต้องสัมพันธ์กัน จึงเห็นชัดว่าการเดินป่าของบักสม เหมือนดนตรีที่เล่นคร่อมจังหวะ..มันผิดคีย์และจะโคนบ่อยหน จนเราเหนื่อยหอบตัวโยน

    ใกล้เที่ยง เรามาหยุดใต้ไม้ใหญ่ ยอดทะลึ่งสูงปรี๊ด แล้วกิ่งก้านค่อยบานใหญ่เบื้องบน
    ใบหนาทึบ แหงนมองไม่เห็นฟ้าเพราะมันแผ่คลุมอากาศเบื้องล่าง ลำต้นใหญ่ไม่ต่ำกว่าห้าคนโอบ ถ้าจะปีนก็ต้องตอกทอย แค่รากที่โผล่พ้นดินก็มหึมา ซอกของรากมีมุมให้พวกเรานั่งพักสบาย...ลุงสั่งกินข้าวมื้อแรกก่อน ให้เกียรติได้กินยา ผมกับบักสม
    หาไม้แห้งก่อไฟกองเล็กๆ แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอเพราะป่าชื้น ทุกหนทุกแห่งมีแต่ไม้เปียก...ลุงพรานเดินดุ่มผละไปพักเดียว ก็กลับมาพร้อมกิ่งไม้สดหอบใหญ่ แกบอกว่า นายทหารเอานี่ จุดไฟติด ยางไม้นี้เจอไฟไม่ได้ ต้องให้ไฟกินเหมือนแพ้ทาง

    ไม่มีเวลาร่ำเรียนวิชาพฤกษ์ศาสตร์ ผมกับบักสมไม่ถามไถ่เพราะอากาศยังเหน็บหนาวทรวง ข้อมือที่หิ้วแคร่ปวดจนแข็ง รีบช่วยกันหักกิ่งใบแล้วสุมรวมเอาขี้ไต้จุดชุดตีเหล็กไฟจ่อ เสียงไฟลามเลียใบไม้เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ ตามด้วยการลุกโชนทันอกทันใจ ครู่เดียวเราก็ได้กองไฟย่อมๆใต้ไม้ใหญ่ไว้ผิง ผมเด็ดใบมันใส่กระเป๋ากางเกงไว้2-3ใบ เผื่อพลาดพลั้งต้องออกหาเชื้อไฟเองคราวหน้า จะได้มีตัวอย่าง ขืนพึ่งลุงทุกเรื่อง เกิดจับพลัด-จับผลูไม่มีแก เดี่๋ยวก็ป่วยยกทีม...ทั้งหมดเป็นสัญชาติญาณเอาตัวรอด เป็นความรอบคอบที่ผุดขึ้นมาเองเรื่อยๆ หลายเรื่อง หลายครั้ง หลายหน ระหว่างต่อสู้เพื่อเอาชีวิตและทีมรอดในป่าตะนาวศรี

    นี่กระมังที่เขาเรียกว่า วุฒิภาวะ การเติบโตทั้งด้านวิสัยทัศน์ ความคิด การมีวิธีมองโลก
    แตกต่างจากเด็กหรือหนุ่มกระทง และการพัฒนาปรับช่วงชีวิตไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่เต็ม
    ทุกเซลในเรือนร่าง พร้อมหยัดยืนด้วยสองแขน สองขา พึ่งตัวเอง ให้ผู้อื่นพึ่ง ไม่เป็นขยะ ไม่เป็นภาระผู้อื่นมากเกินจำเป็น

    มื้อเที่ยงแรกง่ายๆผ่านไป เกียรติได้กินยา พวกเราอบอุ่นพอควรพักกันพอไฟมอดก็ช่วยเกลี่ยกองไฟแน่ใจว่ามันดับสนิท ไม่เหลือเชื้อเป็นอันตรายต่อป่า ขบวนกู้ชีพจำเป็นก็เคลื่อนตัว...ยกแรกนี้การเดินทางราบรื่น เหนื่อยแต่ไร้ภัย ผมไม่ค่อยแน่ใจในยกต่อไป เพราะ ทะเลกับป่ามีอุปนิสัยคล้ายคลึงกัน

    ชอบสงบเงียบให้ตายใจ ก่อนพายุร้ายจะโหมกระหน่ำเสมอ!!!
     
  12. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,272
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,034,266
    เดิน เดิน และเดิน เหนื่อย เหนื่อย และเหนื่อย เป็นเพลงมาร์ชในค่ายก็ต้องแปลงเนื้อร้องให้เข้ากับชีวิตช่วงนี้ อย่างนั้น... จังหวะหนึ่งลุงพรานชะงักเมื่อเรากำลังจะลอดกิ่งไม้ค่อนข้างใหญ่ แต่มันต่ำเตี้ยห้อยย้อยเหนือหัวผมเล็กน้อย ลุงชี้ให้ดูร่างสีน้ำตาลลายดอกงดงาม ท้องลายสีนวลของมันมองไม่เห็น เพราะมันบิดลำตัวเป็นเกลียว เอาสีน้ำตาลปิดท้องไว้ทุกซอกมุม เออ...การพรางตัวของไอ้เหลือพม่ามันยอดจริงๆ ผมละนับถือมันแท้ เพราะถ้ามันทอดร่างไปตามกิ่งไม้ซื่อๆ ใต้ท้องขาวนวลเป็นปล้องๆของมันสังเกตเห็นชัดแต่ไกล...ไอ้หลามพม่าตัวนี้เขื่องไม่เบา แต่เล็กกว่าที่เราซัดมันหลายเท่า ลุงพรานทำสัญญาณให้เราเดินอ้อมไปหน่อย ปล่อยมันไว้อย่ายุ่ง ผมก็ไม่อยากเปลืองแรงกับมันหรอก ยิ่งบักสมนั้นในวงรัดขนาดเยี่ยวแตกยังคงจำฝังใจ

    ผ่านไอ้เหลือมพม่ามาได้ ป่าช่วงนี้เริ่มเห็นสัตวป่าประเภทสัตว์กีบบ่อยและถี่ขึ้นแสดงว่าเป็นช่วงป่าที่สมบูรณ์มาก ลุงคอยบอกให้ระวังเป็นระยะ แกเองก็เอามีดเหน็บแล้วปลดสะพายปืนแก้ปโบราณออกมาถือ ผมไม่รู้ทำไงต้องฝากชีวิตไว้กับแกก่อน แต่ก็คิดว่าหากจำเป็นต้องทิ้งแคร่แล้วใช้ปืน วิสัยเคาบอยตัวจริงน่าจะไวพออยู่ ส่วนบักสมนั้นก้มหน้า ก้มตาหิ้วแคร่แขนเกร็งไม่อุทธรณ์ฏีกา หรือสงกาสิ่งใด ไม่สำเหนียกสัญญาณป่าหรือภัยร้ายอันใดทั้งสิ้น หรืออีกทีไอ้หนุ่มคงเห็นผมกับลุงพรานเป็นที่พึ่งได้สนิทใจ โดยเฉพาะการช่วยชีวิตไว้จาก"ไอ้เหลือมยักษ์"น่าจะเป็นไฮห์ไลท์ในชีวิตที่ทำให้บักสมพร้อมลุยน้ำ ลุยไฟกับผมโดยไม่แอะปากบ่น

    ลุงพรานหันมาบอกว่า พ้นช่วงดงไม้ทึบนี้ไปอีกหน่อยจะพบลำธารต้นน้ำตะนาวศรี คืนนี้เราหาที่พักแถวนั้น แต่ต้องห่างลำธารหน่อย เพราะใกล้น้ำเป็นที่ชุมนุมของสิงสาราสัตว์
    แต่ก็ดีอย่างที่ลำธารนี้ทอดยาวไกล มีที่เราอยู่ปลอดภัย สัตวไปหากินของมันไม่กวนกัน...ทั้งมนุษย์และสัตว์นี่แปลก พอได้ยินเสียงน้ำหรือได้กลิ่นน้ำ พละพลังที่หดหายจะพลันพุ่งพรวดขึ้นไปทั้งร่างอีกหน นี่แหละที่เรียกว่า ก็อกสอง หรือพลังภายใน ผมก็เช่นกัน ใกล้ในจังหวะได้ยินเสียงน้ำ เรี่ยวแรงแขนแมนที่เมื่อยล้า ก็คืนกลับมาโดยพลัน

    ลุงกำลังมุดนำเราลอดดงไม้ ทันใดร่างเล็กๆของแกก็ชะงัก รีบทรุดลงในท่านั้่ง คุกเข่าปืนแก้ปพระเจ้าเหาประทับบ่าจ้องเขม็งไปเบื้องหน้า ก่อนนั้นแกรีบทำมือให้พวกเรานั่งลง ผมไม่รอช้าหย่อนแคร่ลงพื้น บอกบักสมเบาๆ...เตรียมปืน ยังไม่รู้อะไรเป็นไร ตัวผมเองนั้นแก้ปยาวอยู่ในอุ้งมือเรียบร้อยแล้ว ผมค่อยๆคืบไปข้างลุงพราน วาดมือไปด้านหลังให้บักสมอยู่หลังผมไว้ คอยดูแคร่กับเจ้าเกียรติที่กำลังหลับหายใจอกกระเพื่อมไม่รู้สึก รู้สม แต่ลมหายใจสม่ำเสมอ แหวกกิ่งไม้ที่ขวางหน้าเบาๆ มุดหน้าออกไปเหมือนมุดรั้วแอบดูสาวข้างบ้าน เสียงจ๋อมแจ๋มเหมือนคนเล่นน้ำอยู่ไม่ไกลเกินยี่สิบ-สามสิบหลา

    ต่อหน้าต่อตาสองคู่ สี่ข้างที่กำลังแอบมองอยู่ ลำธารเล็กใสไหลเย็นเป็นแนวขวางกั้นระหว่างเรากับมัน...มันคือหมีควายตัวเขื่อง แต่ไม่ใหญ่เอาเรื่องเหมือนที่เราเคยเผชิญ
    เจ้าหมีตัวขนาดผมเมื่อหยัดยืนเต็มตัว กำลังวิ่งจ๋อมแจ๋มไปกลางน้ำที่ลึกเพียงข้อเท้าของมัน หมีที่ไหนเล่นน้ำแบบนี้ ผมกับลุงดูมันเพลิดเพลินตา แล้วเราก็เห็นมันตะปบบางอย่างในน้ำสำเร็จ...โธ่เอ๋ย หมีจับปลากิน ผมเห็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งต่อมาลุงพรานก็สารภาพกับผมว่าแกไม่เคยเห็นเช่นกัน ไม่มีใครรู้หรอกว่า หมีจับปลากินเป็น เป็นประสบการณ์น่ารักที่สุดของป่าที่ผมได้เห็นและไม่มีวันลืมอีกเรื่อง
     
  13. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,272
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,034,266
    แต่แล้วมีบางสิ่งที่ทำให้เจ้าหมีกำลังขม้ำปลาอย่างอร่อยหยุดชะงักมองมาทางพวกเรา...เจ้าบักสมนั่นเองพรวดพราดทะเล่อทะล่า มือแหวกกิ่งไม้ เอาหน้าทิ่มออกมาดู...เสียงแหวกไม้ทำเจ้าหมีคำรามในลำคอ มันเดินลุยน้ำจ๋อม จ๋อม ขึ้นไปอีกฝั่ง วางปลาในอุ้งมือลงแล้วส่งเสียงร้องลั่น ลุงบอก..."หมีเด็ก นายทหาร คงเพิ่งออกจากแม่ หัดหากินเอง"

    การสังเกตของลุงน่าจะถูกต้อง เจ้าหมีตัวโตแต่นิสัยเด็กน้อย คว้าปลาที่พื้นแล้ววิ่งหยอยๆ ตูดกระเพื่อมเข้าป่าอีกด้านหายลับไป ผมถอนหายใจยาวใหญ่ เป็นเรื่องดีที่เรา
    ไม่ต้องก่อกรรมทำเข็ญ ฆ่ามันเพื่อป้องกันตัวหรือเอาตัวเรารอด ตั้งแต่ได้พานพบองค์ปู่ฤาษี ผมจิตนุ่มเย็นลงอย่างบอกไม่ถูก สัญชาติญาณการล่าแทบไม่มีอยู่ในหัว เหลือแต่แค่การเอาตัวรอด ผมไม่อยากจับปืนทำปาณาฯด้วยซ้ำหากไม่เอามาเป็นอาหาร ตั้งใจกับตัวเองว่า ไม่จำเป็นจะไม่ลั่นไกปืนโดยมีสิ่งมีชีวิตอยู่หน้ากระบอกปืน

    หรือนี่เป็นวาระแห่งกรรมดี วาระจิตที่ดี ที่ทำให้พวกผมรอดตายเหลือเชื่อจากป่าโหดผืนนี้?

    ลุงพรานรีบนำเราออกจากดง เดินทวนน้ำขึ้นไป แกบอกว่าถ้าตามน้ำก็เท่ากับเราเดินไปทะวาย ตลอดทางที่เดินย้อนสายน้ำเล็ก กว้างพอกระโดดข้าม นำ้ลึกแค่ข้อเท้า เราหลีกเลี่ยงการเดินที่ราบ ไม่อยากเจอะพวกมาลงกินน้ำเหมือนเจ้าหมีเด็กรายนนั้น ที่ไม่อยากเจอจริงๆคือโขลงช้างป่า กับเจ้าลายพาดกลอน...เส้นทางเดินจึงขรุขระพอควรเพราะมีหินก้อนเล็กก้อนน้อยจากลำธารเป็นอุปสรรคก้าวย่าง แล้วการนำทางของลุงก็มาถึงเนินที่ทอดยาวขึ้นบน เนินไม่ชันมาก มันค่อยๆลาดเหมือนถนนสายทอดยาวขึ้นมอเล็กๆ สายน้ำเริ่มทิ้งตัวลงมาคล้ายน้ำตกน้อยๆ เสียงของมันทำให้เพริดในอารมณ์ แต่เราก็เดินต่อไปอีก จนเจอตระพักหินราบใหญ่ ถัดไปอีกเกือบยี่สิบก้าวเป็นป่าละเมาะย่อมๆดำมืด ลุงชี้ให้เราหามแคร่เข้าไปวางใกล้ดงไม้ ห่างธารน้ำตกเล็ก ที่นั้นมีหินพอเหมาะเอาแคร่ตั้งสูงจากพื้นเหมือนเปลนอนสักครึ่งแข้ง มีหินภูเขาก้อนใหญ่บังลมล้อมสองด้าน ตรงกลางเป็นที่ว่างก่อไฟได้ นอนพักได้ พื้นที่เหลือเฟือนอนได้หลายคน เงยหน้ามองฟ้าทะลุออกไปได้ เป็นชัยภูมิที่แจ่มมากตั้งแต่ออกเดินป่ากันมาในวันนี้
     
  14. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,272
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,034,266
    พักแล้วครับ จิ้มได้ยากมากพอควร
    เริ่มปวดตา เพราะเพ่งต้นฉบับยับยู่ยี่
    และปรับแต่งให้อ่านเข้าที เจอกันคืนนี้
    ตามปกติ...สวัสดียอดนักอ่านทุกท่านครับ
     
  15. บานชื่น

    บานชื่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,529
    ค่าพลัง:
    +18,358
    ขอบคุณครับ
     
  16. split

    split เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +582
    มารอติดตามตอนต่อไป ขอบคุณครับ
     
  17. วิคิด

    วิคิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2012
    โพสต์:
    777
    ค่าพลัง:
    +1,133
    ยิ่งอ่านยิ่งลุ้นว่าจะเจออะไร ขอบคุณครับที่นำเรื่องราวดีๆมาถ่ายทอดให้ได้อ่านครับ
     
  18. puniw

    puniw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,061
    รบกวนถามคุณ wanwi เรื่องพระฤาษีผู้สร้างพระกรุครับ คือพรุ่งนี้ผมจะไปรับพระกรุวัดจุฬามณี พิมพ์หน้าฤาษีหลังนางมาบูชาครับ ตามประวัติพระกรุนี้ ผู้สร้างคือพระฤาษีปรมาจารย์ปฏิมานฤมิตร เค้าบอกว่าควรบอกกล่าวท่านตอนบูชาด้วย อีกทั้งองค์พระก็มีรูปพระฤาษีอยู่ด้านหน้าด้วย ควรบูชาท่านยังไงดีครับที่จะได้ทั้งคุณพระพุทธ(หลังนาง) และคุณครูบาอาจารย์(หน้าฤาษี)
    ตอนที่รับพระมาแล้วต้องจุดธูปบอกกล่าวมั๊ยครับ ธูปกี่ดอกครับ (ปกติผมจุด5ดอก บูชาคุณพระรัตนตรัย+คุณมารดา-บิดา+คุณครูบาอาจารย์ครับ)
     
  19. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,272
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,034,266
    โอ...ผมไม่เชื่ิอนิทานพวกขายพระนะครับ
    ผมเชื่อจารึกที่ค้นพบจากใบลานเงิน

    กรุบรมธาตุสุพรรณบุรี กับ
    ใบลานทองกำแพงเพชร

    ที่บอกการสร้างพระมากมาย
    นับแสนหรือล้านองค์ครั้งนั้น

    สร้างแล้วกระจายไว้หลายหัวเมือง
    พิษณุโลก กำแพงเพชร
    สุพรรณและหลายเมือง
    (กาญจนบุรีเมื่อพันปี เป็นขอบเขตสุพรรณ )
    ผู้อยู่ในพิธีคือฤาษี11ตน

    ฤาษีพิมพิลาลัยเป็นประธานด้านพิธี...

    ฤาษีตาวัว กับ ฤาษีตาไฟ เป็นประธานเสกฤทธิ์

    ยิ่งจากบันทึกพี่เอ็กซ์...
    ต้องบูชาท่านฤาษีสามตนนี้ก่อน

    จุดธูปสามดอกปกติเหมือนบูชา
    คุณพระรัตนตรัย

    รำลึกถึงท่านกราบไหว้ได้ทุกวัน
    ตามความเคารพที่เหมาะสม

    ไม่ต้องมากพิธีกรรมครับ
    เราชาวพุทธ ทุกอย่างหยุดที่ใจ

    แต่ต้องเป็นใจบริสุทธิ์จริงๆ!!!
     
  20. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,272
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,034,266
    ขอบคุณครับ ลุ้นต่อได้เลยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...