เส้นทางนักแสวงหาพระสมเด็จ

ผมสนใจอยากได้มาศึกษาบ้างครับ ไม่แน่ใจว่าต้องทำอย่างไรครับ

 

สวัสดีครับคุณphak622 มวลสารที่มีส่วนผสมที่เยอะที่สุด พระสมเด็จบางขุนพรหมระหว่าง ปี02 กับ ปี09 คือ จะเป็นปี02 ของหลวงปู่นาคเหรอครับ แล้วปี09 มวลสารจะน้อยกว่า เข้าใจแล้วครับขอบคุณมากครับ แล้วในส่วนที่ทางคุณphak622ลงกระทู้ไว้ในส่วนที่จะมีการแจกเชื้อมวลสารพระสมเด็จบางขุนพรหมเห็นลงไว้ว่ายังมีการแจกอยู่ อันนี้ทางผมยังพอมีโอกาสได้รับไหมครับ เพราะจะได้เก็บไว้เป็นองค์ครูเพื่อดูมวลสารพระสมเด็จต่อไปครับ ขอบคุณครับ...อนุโมทนา...สาธุครับ

 

คุณแฉล้ม บัวเปลี่ยนสี คนขวามือสุดครับ สมัยนั้นผมก็คอหนัง จักรๆ วงศ์ ๆ เหมือนกันครับ 5555

 

กลับมาที่เชื้อที่คุณ phak622 ว่าไว้ รบกวนถามครับว่า ตกลงหากผมพอจะมี บางขุนพรหม 09 อยู่แล้ว ก็น่าจะพอใช้ได้แล้วใช่ไหม ก่อนนอนก็ กอดลูก สวดพระคาถาชินบัญชรทุกวัน ไม่รู้ท่านจะมาโปรดเมื่อไหร่ เฉียดไปก็เฉียดมา 5555 สุดท้ายไม่ซีเรียสแล้ว ศึกษาก่อนนิมนต์ดีที่สุดครับ

 

คือผมกำลัง ไม่ใช่กำลังทำแต่ทำมานาน ถึง3ปีแล้ว.กับการศึกษาว่าพระสมเด็จมีกี่พิมพ์วัดระฆังนะครับ. เพื่อกรอบในการดูพระของผมเองเพื่อถ้าเจอจะได้ไม่หลุดมือว่ามาตรงกับพิมพ์ไหนแล้วพิจารณา ถ้าพิมพ์ไม่ได้ก็คือไม่ใช่ท่านทั้งหลายเคยสังเกตมั้ยว่าในการเล่นหาของวงการนั้นเอาแค่พิมพ์ใหญ่วัดระฆังแค่ที่มีขอบกระจกที่ถือว่าเป็นผลงานของหลวงวิจารณ์ท่าน เล่นหาอยู่กี่บล็อก ผมเปิดหนังสือพระท่านทั้งหลายก็ลองทำดูพิมพ์ใหญ่ จะมีมากก่วา1บล็อก. บล็อกที่นิยมที่สุดสวยงามก็เห็นจะเป็นบล็อกยุคสุดท้าย ประมาณพวกอกวีทั้งหลาย แต่ที่ผมค้นคว้าทั้งจากภาพและเห็นองค์จริงจากเล่มนั้นเล่มนี้คนนั้นคนี้. มีมากมายให้เราแสวงหามากกว่าที่มีเห็นพบเจอในตลาดหรือหนังสือ. วีเล็กวีใหญ่. อวบ อกผายเอวผาย อกยาว เป็นต้นนี่แค่ความต่างของหน้าอกยังมีมากแต่ในทางเจาะลึกก็จะเห็นว่าในอกวีก็มีจุดที่ต่างกันในตัวบล็อกแยกได้อีก. แต่ผมยังห่างไกลกว่าที่จะมานำเสนอให้ท่านสมาชิกได้รับชมและเรียนรู้. เพราะสาเหตุที่ผมทำเพียงอยากมีพระสมเด็จวัดระฆังติดตัวบูชาเท่านั้น ผมก็อยากให้ทุกท่านมีเช่นกัน จึงเอาที่รู้มาบอกกล่าวกัน ในส่วนที่นึกออกบอกได้ ท่านทั้งหลายที่รับข้อมูลก็วิเคราะเอาเองนะครับ. เมื่อผมรวบรวมพิมพ์เอาเฉพาะพิมพ์ใหญ่หลวงวิจารณ์ทุุกยุค. ก็มีหลายบล็อก. ถามว่ามีทั้งหมดกี่บล็อกอันนี้ใครตอบได้ตรงเอาไปเลยครับทุกยุคนะครับของหลวงวิจารณ์. คำตอบเป็นคำตอบจากผมเองผิดหรือถูกเป็นข้อมูลส่วนตัวของผมเองแต่ท่านใดตอบตรงกับข้อมูลส่วนตัวที่ผมมีว่าพิมพ์ใหญ่มีกี่บล็อกครับ. เอาตัวเลขหรืออธิบายด้วยว่ามีอะไรมั่งก็ดีจะได้ร่วมศึกษากันเชิญตอบเลย. ใครตอบถูกผมจะส่งไปให้ท่านนะครับ

 

ขอตอบตามความรู้ที่มีครับ
พระสมเด็จ 3 ยุค 4 สมัย คือ
1. ยุคต้น พ.ศ. 2352 - พ.ศ. 2393 สมัยรัชกาลที่2
2. ยุคกลาง พ.ศ. 2394 - พ.ศ. 2406 สมัยรัชกาลที่3 - รัชกาลที่ 4
3. ยุคปลาย พ.ศ. 2407 - พ.ศ. 2415 สมัยรัชกาลที่4

ผู้สร้างในยุคสมัย
1. ยุคต้น
- ฝีมือช่างชาวบ้าน ตระกูล วงค์ช่างหล่อ
2. ยุคกลาง
- ฝีมือช่างสิบหมู่
- วังหน้า
- วังหลัง
- วังหลวง
3. ยุคปลาย
- หลวงวิจารณ์เจียรนัย
- หลวงวิจิตรฯ
- หลวงสิทธิ์ฯ

แม่พิมพ์ มีทั้งหมด 249 พิมพ์ หลายวัด หลายที่ หลายกรุ

เนื้อพระมีทั้งหมด 12 เนื้อ คือ
1. เนื้อดินเผา
2. เนื้อดินสอพอง
3. เนื้อข้าวสุก เศษอาหารที่ฉันท์เหลือ
4. เนื้อกล้วย
5. เนื้อขนุน
6. เนื้อตะกั่ว
7. เนื้อเทียนชัย
8. เนื้อว่าน
9. เนื้อเกสรดอกไม้
10.เนื้อปูนฝรั่ง หรือปอทแลน
11.เนื้อหินอันฮุย
12.เนื้อปูนเปลือกหอยดิบ & เนื้อปูนเปลือกหอยสุก

การจำแนกพระพิมพ์ใหญ่ช่างหลวงวัดระฆัง 6 ประเภท
1. พระพิมพ์ใหญ่อกผาย
2. พระพิมพ์ใหญ่อกวี
3. พระพิมพ์ใหญ่อกจีวรสังฆาฎิ
4. พระพิมพ์ใหญ่อกกระบอก
5. พระพิมพ์ใหญ่อกร่อง
6. พระพิมพ์ใหญ่อกแบน

ขนาดพิมพ์พระแบ่งออกเป็น 3 ขนาด ดังนี้
เล็ก กลาง ใหญ่

ขนาดเล็กที่สุดเรียกว่าพิมพ์คะแนน มีขนาดต่างกัน
เพื่อใช้นับ หลักร้อย หลักพัน หลักหมื่น

พระพักตร์พระสมเด็จ แบ่งออกได้ดังนี้
1. หน้าเม็ดพริกไทย
2. หน้ารูปไข่
3. หน้ารูปผลมะตูม
4. หน้ารูปตั๊กแตน
5. หน้าข้าวหลามตัด
พระพักตร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด จะเป็น พระพัตร์หน้าตั๊กแตน

ในส่วนพิมพ์พระเพิ่มเติมจะมี พิมพ์ใหญ่เกศทะลุซุ้ม

ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลจากหลายๆ ที่หากเกิดข้อมูลมีความผิดพลาดต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

วัดระฆัง พิมพ์ใหญ่นิยม ที่ผมได้รับการถ่ายทอดมา (ที่เขาว่าเป็นยุคปลาย) มีพิมพ์ A (มีเส้นแซมใต้หน้าตักองค์พระ) , พิมพ์อกวี , อกกระบอก และ เกศทะลุซุ้มครับ

 

แล้วพอจะทราบไหมครับว่าท่านสร้างไว้ทั้งหมดกี่องค์ ตั้งแต่ยุคต้นถึงปลายเลยครับ (เดาก็ได้ครับ)

 

องค์ที่จะให้ครับ แต่ อยากแค่ให้ตอบว่า พิมพ์ใหญ่ที่หลวงวิจารณ์แกะคิดว่ามีกี่บล็อกแค่นี้ครับ

 

2พิมพ์ครับ แหะๆเรียนตามตรง เดาครับ

 

ขอเดาว่า 13 พิมพ์ขอรับ

 

องค์นี้ผมว่าพอที่จะชี้ลงไปให้ท่านสมาชิกที่แสวงหา. ได้รับรู้ว่าพระสมเด็จไม่ได้จำกัดที่ว่าจะต้อง. ขอบกระจกด้านซ้ายขององค์พระจะต้องหายไปตรงท่อนแขนแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น. เพราะองค์นี้ก็คือพิมพ์ใหญ่เช่นกัน. มีขอบกระจกเช่นกัน หลวงวิจารณ์ท่านก็แกะพิมพ์เช่นกัน. เนื้อหามวลสารอยู่ในแบบเนื้อปานกลางเป็นพระประเภทแก่มวลสาร เมื่อเป็นพระแก่มวลสารเนื้อหยาบปานกลาง น้ำหนักพระก็จะเบากว่าพวกที่แก่ปูนแก่ผง เพราะความหนาแน่นขิงมวลสารย้อนกว่า และพระประเภทนี้การยุบตัวก็จะรุนแรงกว่ามากกว่า. พระประเภทนี้ส่องแล้วเพลินมากพวกมวลสารเยอะๆ แต่สิ่งที่อยากบอกคืิอเป็นกำลังใจแก่นักแสวงหา เรารู้ว่ามีคนที่เล่นแต่ขอบกระจกหายตรงแขนก็หลุดมือเราก็มีโอกาสมากขึ้นอีก. ประการแรกเรื่ิองกำลังใจ. ประการที่สองเรื่องเนื้ิอ เนื้อที่แก่มวลสาร. ความแน่นขององค์พระยังคงแน่นเป็นเนื้อเดียวกันโดยเมื่อดูแล้วรู้สึกได้และการยุบตัวเพราะพระที่แก่มวลสารจะยุบตัวมากกว่า. อันนี้เป็นเรื่องธรรมชาติที่ต้องดูด้วยว่าเนื้อถึงหรือไม่ถึง. ประการที่สาม อยากให้ลองสังเกตุดูผงที่ผุดขึ้นมาจากองค์พระว่าเป็นอย่างใรมีความสำคัญอย่างไรเราจะดูอย่างไรในจุดนี้อันนี้ฝากเป็นการบ้านเดียวมาว่ากันต่อทีหลังครับ

ทำไมเราต้องเดินอยู่แต่ในบ้าน. เพราะนอกบ้านรั้วที่กั้นใว้นั้นก็บ้านของเราเช่นกัน.

 

งั้นเดาว่า 4 พิมพ์ ครับ

 

พิมพ์พระบอกได้เลยนะครับว่าดูยากครับ. แต่ทั้งสามวัดไม่มีพิมพ์นี้นะครับ. ที่ใกล้เคียงที่สุดก็เกศไชโยหกชั้นอกตัน. แต่ยังไงก็ต่างเยอะส่วนเนื้อถ้าวัดเกศเนื้อจะละเอียดมากและเนื้อจะแน่นมากๆครับ แต่องค์นี้เหมือนเนื้อจะดูละเอียดแต่ความแน่นไม่ถึงขั้นวัดเกศเลยครับ. ต้องขออภัยถ้ามีสิ่งใดล่วงเกินไปด้วยนะครับ

 

ติดตามอ่านมานานแล้ว ได้ความรู้ดีครับ

 

ในการดูฝ้าสีขาวฝุ่นสีขาวหรือที่เราบางท่านเรียกแป้งโรยพิมพ์. แต่่ตามความเป็นจริงแล้ว. คือการเกิดปฎิกิริยากับอากาศ ถ้าพระถูกล้างมาตัวนี้จะช่วยให้พระคืินสภาพ. แต่หลายปีนะกว่าจะสวย แต่ถ้าพระถูกเอามาห้อยมาใช้ฝ้าขาวก็จะหายไปเพราะความชื้นของอากาศและตัวเราแต่พอไม่ห้อยฝ้าขาวก็จะปรากฎ. ตัวฝ้าขาวนี้นั้นบอกได้ว่า้นื้อพระถึงยุครึเปล่า. มีส่วนที่จะต้องใช้ในการพิจารณาองค์พระด้วยนะครับ. ที่นี้มาดูว่าฝ้าขาวดูอย่างไรดีกว่า
ในพระสมเด็จวัดระฆังนั้น เนื่องจากพระอายุร้อยกว่าปีเก่า. ฝ้าขาวนั้นที่บางคนบอกเป็นแป้งโรยพิมพ์ จริงๆคือมีแป้งโรยพิมพ์จริงแต่พระขณะมาผึ่งอากาศให้แห้งแป้งตัวนี้ได้หายไปนานแล้วอาจจะปริวพระยังชื้นซึมเข้าเนื้อพระอะไรประมาณนี้ครับ. แต่ที่เราเห็นในพระสมเด็จองค์แท้ๆนั้นคือเนื้ิอพระถูกดันตัวขึ้นมาจากด้านในด้วยความชื้นนั่นแหละมาคลุมผิวพระด้านนอกเมื่อถูกดันตัวมาจากด้านในสิ่งที่จะเปลี่ยนแปรงเลยคือสีของฝ้า. สีของฝ้าที่โผล่มาคลุมจะต้องเห็นเป็นสีขวาแต่ขาวขุ่น ไม่ขาวเป็นแป้งฝุ่น. แต่สีจะออกนมข้นตรามะลิก็ได้. สีประมาณอย่างนั้นถ้าสีออกมาขาวเป็นแป้งให้ระวังเป็นอย่างมากยิ่งถ้าใช้ห้อยคอแล้วไม่หายไปเลยแปลกถ้าห้อยคอสียังขาวอยู่แปลก เพราะฝ้าตัวนี้ถูกความชื้นจะดูดความชื้นมาใว้กับตัวเมื่อเราส่องฝ้าก็จะมองไม่เห็นแต่พอสังเกตุได้แต่พอถอดทิ้งใว้ไม่ไดใส่จะปรากฎให้เห็น หรือประเภทกรอบพระที่กันน้ำพวกนี้ใส่ก็อาจจะปรากฎให้เห็น ต่อมาเมื่อเราเจอพระสวยเข้าตาถ้ามีฝ้าให้พิจารณาก็ดูด้วยว่าเป็นสีอย่างไรเพราะในการปลอมพระฝีมือดีๆเขาเอาผงพระสมเด็จมาเคลือบ แต่ในตัวเนื้อพระอายุไม่ถึงเมื่อมีฝ้าขึ้นก็จะเป็นสีขาว. ย้อนกลับไปองค์นายแฉล้มที่ผมจะให้ในผงพระกรุเก่าฟ้ายังขึ้นเป็นสีขาวขุ่นเลยครับ. นี่คือการดูฝ้าขาวในพระสมเด็จวัดระฆัง. ที่สำคัญในการพิจารณาคือสีและความเป็นธรรมชาตขิงสีและความเป็นธรรมชาติของการเกิดฝ้า ให้เราพิจารณาองค์ประกอบนี้ด้วยนะครับถ้าในพระที่หยิบส่องมีให้พิจารณา. คือผมอยากที่จะหาจุดที่เป็นธรรมชาติต่างๆของพระสมเด็จมาพูดเพื่อให้นักแสวงหาเข้าใจความสวยงามโดยธรรมชาตการมีอยู่เกิดขึ้นด้วยธรรมชาติเพราะพระทุกวันนี้นั้นฝีมือดีครับ. แต่ต่อให้ดีแค่ไหน ธรรมชาตเกิดมาเองโดยที่ธรรมชาติรู้ว่าต้องเกิดตอนไหนเพื่ออะไร. แต่พระปลอมพยายามเอาธรรมชาติมาใส่นี่แหละครับผมถึงอยากเน้นความสำคัญว่าของธรรมชาติของพระ. เป็นเกล็ดเล็กๆน้อยๆจากคนที่ยังอ่อนด้อยประสบการณ์ วิเคราะข้อมูลเอาครับ. ผมว่าไม่ค่อยมีใครมาบอกกันหรอกครับผมก็เลยบอก. และผมคิดว่าแม้บอกบางท่านที่ไม่ถนัดเรื่องธรรมชาติก็อาจจะไม่เข้าใจมากพอที่จะนำไปใช้ได้. แต่ให้รู้ใว้ดีกว่าครับ. คราวหน้าผมจะเอาจุดที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเห็นแบบนั้นแบบนี้อย่ายุ่งอย่าไปเกี่ยวข้องมาฝาก. เป็นจุดที่เราจะคัดพระตัดออกจากเส้นทางขิงนักแสวงหา. เรียกว่าการเปิดตาให้เห็นศตรูนั่นเองครับ.

 

ติดตามอ่านตั้งแต่หน้าแรกครับ ได้รับความรู้มากมาย มีพี่ๆ มาช่วยตั้งคำถามต่างๆ นาๆ เพื่อให้ได้คำตอบ เป็นวิทยาทาน ผมเป็นผู้หนึ่ง ที่อยู่ในเส้นทางแสวงหาพระสมเด็จเช่นกันครับ แต่ยังไม่ถึงไหนเลยครับ จึงอยากเรียนถามท่านครับ ว่า พระสมเด็จพิมพ์เจดีย์ องค์นี้เป็นอย่างไรบ้างครับ

 

ขอฝากสักองค์ครับ

 

ขอเสนอความเห็นส่วนตัวครับ ตามที่คุณphak622 ได้กล่าวไว้เป็นความเชื่อของผมที่ได้รับการถ่ายทอดมาอย่างนั้นจริงๆ เนื่องจากหลวงวิจารณ์หลายท่านมีความคิดว่าต้องมีการตัดให้เหลือกรอบกระจกไว้ และนำส่วนตรงนี้มาเป็นบรรทัดฐานในการเล่นหา พระสมเด็จที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือพระสมเด็จของหลวงวิจารณ์เจียรนัย เพราะเป็นพระสมเด็จที่มีความสง่างามที่สุดใน หมู่ช่างหลวง แต่การตัดตกแต่งพิมพ์พระตามที่ทราบมีการตัดชิดขอบซุ้มก็มีบางท่านเมื่อเจอพระสมเด็จที่องค์ไหนไม่มีกรอบกระจก ก็อาจจะมีความคิดว่า ไม่ใช่ เก๊ ผิดพิมพ์ แต่ถ้าความเก่าธรรมชาติใช่ ก็ควรเก็บไว้ ผมเชื่อว่าต้องมีผ่านมือและหลุดไป ถ้ามูลค่าการเช่าหาไม่เจ็บตัวจนเกินไปเก็ไว้ไม่เสียหลายครับ แต่ถ้าได้มีโอกาสชมพระแท้ (โปรดพิจารณา) ขอให้จดจำ เรื่อง แม่นพิมพ์ ชำนาญเนื้อ คุ้นเคยธรรมชาติ ดังนี้
แม่นพิมพ์ จดจำลักษณะพิมพ์ทรงพระสมเด็จให้ได้ว่าพิมพ์นี้เรียกว่าอะไร พิมพ์นี้มีความแตกต่างกันอย่างไร และทำไมถึงเรียกชื่อนี้
ชำนาญเนื้อ ทำความเข้าใจในเนื้อหาว่า พระสมเด็จวัดระฆังตามความเข้าใจของผมมีเยอะเหมือนกัน แต่เนื้อที่เค้านิยมไปทางพุทธพาณิชย์ มีแค่ไม่กี่เนื้อ แต่ถ้าคนที่สะสมแบบศึกษาจริงๆ จะไม่จำกัดการเล่นหาเพื่อสะสม พระจะมีคุณค่าทางใจมากกว่ามูลค่าพุทธพาณิชย์
คุ้นเคยธรรมชาติ ความเก่าที่ผ่านกาลเวลาไม่ต่ำกว่า 140ปี คงไม่มีคนปลอมพระแหกตาเราได้ ความเก่าเพียงเราสนใจศึกษา คราบแคลเซียม รอยปูไต่ รอยหนอนด้น หลุมพระจันทร์ หรือรอยบ่อน้ำตา รอยรูเข็ม การยุบตัวเนื้อพระ รอยปริแยก คราบราดำ เม็ดมวลสารต่างๆ
การที่เราสนใจในเรื่องพระสมเด็จควรศึกษา และวิเคราะห์ทุกอย่างให้มีเหตุและผล ผมเวลาที่มีความสงสัยในเรื่องรายละเอียดพระสมเด็จ จะหาข้อมูลต่างๆ แต่ไม่ใช่แค่บริโภคจากแหล่งเนื้อหาเดียว แต่ละเนื้อหาจะมีความแตกแยกออกไปอีก ควรนำมาวิเคราะห์ที่มีความคล้ายคลึงกันว่า ใช่แบบนี้ไหม หรือไม่ใช่แบบนี้ ผมไม่ใช่คนเก่งอะไร เป็นผู้แสวงหาพระสมเด็จ เหมือนพี่ๆ แต่การเรียนรู้ที่ไม่มีวันจบสิ้นของพระสมเด็จมีให้ศึกษาตลอด สักวันสิ่งที่ตามหาอาจจะตามหาคุณเองก็ได้ บางคนออกตามหาตั้งนาน แต่คนที่ไม่ดิ้นร้นกลับเดินทางมาหาแบบง่าย ผมเข้ามาในกระทู้นี้ เรื่องบางเรื่องที่คุณphak622 นำมาลงนำเสนอเชื่อไหมครับ ผมพึ่งทราบยังคิดไม่ถึงเลยครับ นับถือคุณphak622 มากครับ เรื่องบางเรื่องที่ไม่มีคนรู้ แต่พี่เค้านำมาเสนอเพื่อเป็นความรู้ บทความมีเนื้อหาที่มีประโยชน์ติดตามอ่านเสมอครับ ขอบคุณครับ อนุโมทนา...สาธุ

 

แนะนำองค์นี้ด้วยนะครับท่าน
ขอบคุณครับ พระโดนน้ำแซะใช่เปล่าครับ