เหตุการณ์ใน-นอกโลก VS ภัยธรรมชาติ และupdate พายุสุริยะ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 10 มกราคม 2011.

  1. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

    วันที่ 27 สิงหาคม เวลา 5:44 UT เกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์มากกว่าปกติ ส่งรังสี X-ray ออกมาในระดับ M2 ในขณะที่ปริมาณจุดดับอยู่ในช่วงขาลง จากการคำนวณพบว่าคลื่นพลังงานจะเดินทางมาถึงในแนววงโคจรของโลกในวันที่ 30 สิงหาคม เวลา 6 UT +/- 7 ชั่วโมง (http://iswa.gsfc.nasa.gov/IswaSystemWeb…/iSWACygnetStreamer…)

    ในช่วงเดียวกันนี้บนโลกพบว่ามีปริมาณน้ำในอากาศสูงอยู่ โดยมีพายุอยู่ 4 ลูกบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก และแอตแลนติก เป็นเหตุปัจจัยหนึ่งให้ความรุนแรงของแผ่นดินไหวทั่วโลกโดยเฉลี่ยยังอยู่ในระดับต่ำ (Latest Earthquakes in the world)

    เมื่อพิจารณาด้านความแปรปรวนของสนามแม่เหล็กโลกในช่วงนี้ก็จะพบว่าจะเกิดสูงเป็นพิเศษประมาณวันที่ 23 และ 27 สิงหาคม (SolarHam.com - Estimated Planetary K-Index)

    ทุกท่านที่สนใจเกี่ยวกับเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลกที่จะสัมพันธ์กับเหตุการณ์นอกโลกโปรดติดตามสังเกตการณ์ต่อเนื่องได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 1 กันยายนครับ
     
  2. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

    ในวันที่ 4 กันยายน ที่ผ่านมาเกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์มากกว่าปกติ โดยพบปริมาณจุดดับลดลงต่ำสุดในรอบ สองสัปดาห์ โดยพบปฏิกริยา X-ray สูงสุดในระดับ C1 ในวันที่ 3 กันยายน และมีการส่งพลังงานออกมาหลายทิศทาง (CACTus Diagostics)

    ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลกที่จะสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงในอวกาศในช่วงนี้โปรดติดตามสังเกตการณ์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 8 กันยายนครับ

    ในช่วงนี้เองบนโลกจะพบว่ามีปริมาณน้ำในอากาศสูงกว่าปกติต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีพายุหมุนบนโลกอยู่ห้าลูกในวันที่ 4 กันยายน โดยกำลังของพายุได้ลดระดับลงแล้วจากที่ได้ขึ้นสูงสุดในช่วงวันที่ 30 สิงหาคม ซึ่งทุกท่านจะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำในอากาศรอบโลกนั้นจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงความรุนแรงของแผ่นดินไหวได้ โดยจะแปรผกผันกับความรุนแรงของแผ่นดินไหวทั่วโลกที่มีขนาดเกิน 6.8 ขึ้นไป เพราะพลังงานใต้โลกได้ถูกถ่ายเทไปบนชั้นบรรยากาศชั่วคราว เป็นการพิสูจน์ว่าความรุนแรงของแผ่นดินไหวบนโลก นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยภายในเปลือกโลกเพียงอย่างเดียว แต่แปรเปลี่ยนไปตามปัจจัยภายนอกเช่นกัน มีลักษณะไม่คงทนอยู่ได้นาน (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา)

    แต่ในช่วงนี้บนโลกก็สามารถพบแผ่นดินไหวบนโลกที่มากกว่าปกติบนโลกได้เช่นกัน เช่น แผ่นดินไหวขนาด 5.4 ที่ประเทศอาเซอร์ไบจันในวันที่ 4
    http://www.emsc-csem.org/Earthquak/earthquake.php?id=457611
    ซึ่งจะตรงกับวันที่มีความสำคัญทางดาราศาสตร์เกี่ยวกับโลก โดยมีดาวเรียงตัวระหว่าง ดาวเสาร์ โลก และ ดวงจันทร์ เป็นเส้นตรง

    นักวิจัย หรือผู้ที่มีความสนใจศึกษาทางด้านนี้ ถ้ามีความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุปัจจัยเหล่านี้ เข้าใจธรรม จะสามารถสร้างสถิติทางวิทยาศาสตร์ที่ -เห็น- ความเชื่อมโยงระหว่างพลังงานในอากาศกับภัยธรรมชาติบนโลกได้อย่างถูกต้อง และสามารถนำมาประยุกต์ใช้งานในการคาดการณ์ภัยพิบัติได้ครับ
     
  3. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็นครับ

    สำหรับกรณีศึกษาแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (16 กันยายน ) เวลา 22:54 UT นั้นมีลางบอกเหตุมาจากนอกโลกอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต โดยสามารถสังเกตได้จากปริมาณจุดดับที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ในวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา (ถ้าวัดปริมาณจุดดับ -จากบนโลก- ผ่านทางเวป
    EISN | SILSO )

    ซึ่่งในช่วงนี้เองจะพบว่าภาพรวมปริมาณพายุบนโลกได้ลดลงระดับลงไปจากช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่โลกกลับมามีความเสี่ยงต่อแผ่นดินไหวสูงอีกครั้ง

    โดยรูปแบบการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่นั้นจะมี precursor ระดับโลกเกิดขึ้นก่อนในวันที่ 13 กันยายน บริเวณประเทศเม็คซิโก
    Latest Earthquakes in the world (หรือ หนึ่งวันหลังจากปริมาณจุดดับเพิ่มขึ้นสูงสุด) และมีแผ่นดินไหวขนาด 8.2 ตามมาที่ประเทศชิลีใน

    วันที่ 16 กันยายน Earthquake - Magnitude 8.3 - OFFSHORE COQUIMBO, CHILE - 2015 September 16, 22:54:31 UTC (หรือ สี่วันหลังจากปริมาณจุดดับเพิ่มขึ้นสูงสุด) ซึ่งเป็นรูปแบบปกติที่สามารถคาดการณ์ได้

    ทั้งหมดนี้เป็นการพิสูจน์อีกครั้งว่า แผ่นดินไหวบนโลกมีเหตุส่วนหนึ่งมาจากพลังงานนอกโลก และสัมพันธ์กับปฏิกริยาดวงอาทิตย์ในรูปแบบของปริมาณจุดดับ โดยผมได้ทำการอธิบายทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับรูปแแบบการเกิดแผ่นดินไหวลักษณะนี้ไว้แล้วในการบรรยายในลิงค์นี้ครับ
    https://www.youtube.com/watch?v=G0ioVR5fluk

    และจากการประชุมวิชาการ Electric Universe 2015 เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา
    การที่เราจะรู้ทันภัยธรรมชาติต่างๆในโลกว่าจะเกิดในวันใดได้นั้น เราจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับอวกาศและการเหนี่ยวนำพลังงานระหว่างโลกและอวกาศ-อย่างถูกต้อง- โดยผมจะทำการสอนสดทางอินเตอร์เน็ตเป็นครั้งแรก เริ่มในวันที่ 3 ตุลาคม สำหรับทุกท่านที่สนใจและได้รับการคัดเลือกจำนวน 25 ท่าน (ซึ่งทุกท่านสามารถกรอกข้อมูลใบสมัครได้จากที่นี่จนถึงวันที่ 27 กันยายน ครับ

    https://docs.google.com/forms/d/1iitz8n9a3PDSJDd6rKYAAifNXbOLN8t3Zl3J2u3IAWc/viewform )

    เนื่องจากจำนวนผู้สมัคร ณ ขณะนี้มีจำนวนมาก ผมจะทำการบันทึกวิดิโอจากการสอนสดเพื่อเผยแพร่ในภายหลังอีกทีหนึ่งในกลุ่ม "รู้ภัยธรรมชาติ รู้ธรรม" ที่จัดตั้งขึ้นสำหรับผู้ที่ทำการสมัครเรียนไว้ครับ
     
  4. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

    วันที่ 18 กันยายน เวลา 9:40 UT เกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์มากกว่าปกติ โดยตรวจพบส่งรังสี X-ray ในระดับ M1 และมีเปลวพลังงานออกมาเป็นมุมกว้างทางทิศใต้ ซึ่งจากมีพลังงานบางส่วนเดินทางมายังโลก จากการคำนวณพบว่าคลื่นพลังงานจะเดินทางมายังวงโคจรของโลกในวันที่ 21 กันยายน เวลา 6 UT +/- 10 ชั่วโมง (http://iswa.ccmc.gsfc.nasa.gov/IswaSystemWebApp/StreamByDataIdServlet?allDataId=848312717)

    ในระหว่างวันที่ 18-19 กันยายน พบว่าแผ่นดินไหวยังมีมากกว่าปกติที่ประเทศชิลีขนาด 6.1
    http://www.emsc-csem.org/Earthquake/earthquake.php?id=460037
    http://www.emsc-csem.org/Earthquake/earthquake.php?id=460250

    และมีพายุลูกใหม่ก่อตัวขึ้นบริเวณมหาสมุทรแอตแลนติก
    RSOE EDIS - Tropical Storm Information

    ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในหนึ่งวันหลังจากเกิดปฏิกริยาที่ดวงอาทิตย์

    ในวันเดียวกันนี้เอง ยังเป็นช่วงที่มีปรากฏการณ์เรียงตัวระหว่าง ดวงอาทิตย์ ดาวศุกร์ และ ดาวยูเรนัส

    ทุกท่านที่สนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติจะสัมพันธ์กับเหตุการณ์ครั้งนี้ โปรดติดตามสังเกตการณ์ได้จนถึงวันที่ 22 กันยายนครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2015
  5. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

    วันที่ 20 กันยายน เวลา 18:03 UT เกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์มากกว่าปกติ ส่งพลังงานออกมาเป็นมุมกว้างรอบทิศทางทาง โดยมีทางทิศหลักออกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ด้านเดียวกับโลก (CACTus Diagostics) คาดว่าคลื่นพลังงานบางส่วนจะเดินทางมาถึงในแนววงโคจรของโลกในวันที่ 23-24 กันยายน และขณะที่ปริมาณจุดดับอยู่ในช่วงที่ทรงตัว

    ในวันที่ 23 กันยายนนี้เองยังเป็นวันสำคัญทางดาราศาสตร์อีกครั้งโดยมีการเรียงตัวระหว่าง ดวงอาทิตย์ ดาวพุธ และ ดาวพฤหัส เป็นเส้นตรง

    สำหรับบนโลกในช่วงนี้พบว่าเกิดแผ่นดินไหวมากกว่าปกติขนาด 6.3 เวลา 5.03 UT Earthquake - Magnitude 6.3 - OFFSHORE COQUIMBO, CHILE - 2015 September 21, 05:39:32 UTC หรือประมาณหนึ่งหลังจากเกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์ขึ้น
    และมีพายุอยู่บนโลก 4 ลูกด้วยกัน RSOE EDIS - Emergency and Disaster Information Service

    ทุกท่านที่สนใจเกี่ยวกับเปลี่ยนแปลงทางธรรมบนโลกที่สัมพันธ์กับเหตุการณ์ครั้งนี้โปรดติดตามได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 25 กันยายนครับ
     
  6. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

    ระหว่างวันที่ 26-30 กันยายน จะเป็นช่วงที่มีความสำคัญทางดาราศาสตร์อีกครั้ง ได้แก่ในวันที่ 26 จะมีการเรียงตัวระหว่าง ดวงจันทร์ โลก และดาวพฤหัส เป็นเส้นตรง และจะเกิดจันทรุปราคาตามมาในวันที่ 28 กันยายน 27 กันยายน / 28 กันยายน 2015 — Total Lunar Eclipse – Where and when to see

    และในวันที่ 30 กันยายน จะมีการเรียงตัวระหว่าง โลก ดาวพุธ และดวงอาทิตย์

    ทุกท่านที่สนใจเกี่ยวกับปรากฏการณ์ของดาวต่อการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลก และดวงอาทิตย์ โปรดติดตามสังเกตการณ์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 กันยายนครับ
     
  7. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

    วันที่ 26 กันยายน พบว่าเกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์มากกว่าปกติ โดยพบปริมาณจุดดับเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันสูงสุดในรอบกว่า 8 สัปดาห์ และในวันที่ 27 กันยายน เวลา 10:40 UT ดวงอาทิตย์ส่งพลังงานรังสี X-ray ออกมาสูงสุดในระดับ M1 ทิศทางที่ตรงกับโลก

    ในช่วงนี้เองมีพายุบนโลกจำนวนสี่ลูกด้วยกัน
    โดยมีพายุเกิดใหม่ในวันที่ 27 กันยายนบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก
    RSOE EDIS - Tropical Storm Information
    และพบว่าพายุ Dujuan เพิ่มกำลังเป็นซุปเปอร์ใต้ฝุ่นในวันเดียวกัน RSOE EDIS - Tropical Storm Information

    การที่พายุเพิ่มกำลังขึ้น และมีมากในช่วงนี้นั้น จะพบว่าแปรตามปฏิกริยาดวงอาทิตย์ในช่วงขาขึ้น และสามารถอธิบายได้โดยใช้ทฤษฏีทางไฟฟ้าซึ่งผมได้ทำการบรรยายไว้ในการประชุมวิชาการ electric Universe ในปี พศ 2557 https://www.youtube.com/watch?v=aSEE8Z3czos

    ทุกท่านที่สนใจเกี่ยวกับเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลกที่จะสัมพันธ์กับเหตุการณ์ในครั้งนี้โปรดติดตามสังเกตการณ์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 1 ตุลาคม ครับ
     
  8. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็นครับ

    ในช่วงระหว่างวันที่ 30 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม พบว่าเกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์มากกว่าปกติ โดยรูปแบบของรังสี X-ray ออกมาสูงสุดในระดับ M5 และมีความเข้มของพลาสม่าสูงที่ดวงอาทิตย์และที่โลก ซึ่งภาพถ่ายดาวเทียมจะสังเกตเห็นเปลวพลังงานที่ดวงอาทิตย์ชัดเจนกว่าช่วงที่ผ่านมา และมีทิศทางมายังโลกบางส่วน

    การที่เปลวพลังงานมีทิศทางมายังโลกนี้เอง ทำให้พลาสม่ารอบๆโลกมีสูงขึ้นตามมาส่งผลให้การนำไฟฟ้าในชั้นบรรยากาศมีมากกว่าปกติ ในช่วงนี้เองทุกท่านจะสังเกตเห็นว่า ปริมาณน้ำในโลกมีมากกว่าปกติ มีพายุและฝนตกหนักในหลายพื้นที่ทั่วโลก นอกจากนั้นแล้วในช่วงนี้พบว่าพายุ Joaquin เพิ่มกำลังขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 24-48 ชั่วโมงกลายเป็นเฮอร์ริเคนระดับ 4
    (RSOE EDIS - Tropical Storm Information)
    ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งตามที่ผมได้บรรยายไว้ในการประชุมวิชาการในปีพศ 2557 ที่ผ่านมา เป็นการพิสูจน์ความถูกต้องของทฤษฏีนี้อีกครั้งหนึ่ง ( https://www.youtube.com/watch?v=y8EE0p9kx5o )

    ถ้าสังเกตต่อไปอีกจะพบว่าช่วงที่มีน้ำเป็นปริมาณมากกว่าปกติบนโลก จะไม่พบแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในช่วงดังกล่าว และในบริเวณดังกล่าว

    ซึ่งความสัมพันธ์เหล่านี้สามารถเข้าใจได้โดยใช้โมเดลทางไฟฟ้า โดยมองว่า แผ่นเปลือกโลกเป็นขั้วหนึ่งของตัวเก็บประจุไฟฟ้า อีกขั้วหนึ่งคือ Ionosphere และอวกาศรอบนอก โดยมีชั้นบรรยากาศเป็นฉนวนกั้นกลาง ในช่วงที่มีน้ำในอากาศมาก ชั้นบรรยากาศจะนำไฟฟ้ามากขึ้น ฉนวนในชั้นบรรยากาศจะรั่วซึม ส่งผลให้มีการถ่ายเทพลังงานกับฉนวนชั้นใต้ดินได้มากกว่าปกติ จึงไม่เกิดความเครียดสะสมในชั้นดินเพียงพอที่จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ได้

    ปรากฏการณ์พลาสม่ารอบๆดวงอาทิตย์นั้นจึงเป็นตัวบ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อแผ่นดินไหว หรือสภาพอากาศได้ เนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า การสะสมพลังงาน และถ่ายเทพลังงานบนโลกจะมากกว่าปกติในช่วงใดบ้าง โดยปกติแล้ว แผ่นดินไหวขนาดใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วงที่ปริมาณจุดดับอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบหลายสัปดาห์โดยในช่วงนั้นต้องมีปริมาณน้ำในชั้นบรรยากาศต่ำเช่นกัน และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในช่วงเวลานั้นที่ดวงอาทิตย์เป็นสิ่งบอกเหตุ ในช่วงที่ปริมาณจุดดับเพิ่มขึ้นสูงสุดก็เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ได้เช่นกัน แต่ต้องอาศัยเหตุปัจจัยเกี่ยวกับสภาพอากาศบนโลกที่เอื้ออำนวยมาประกอบจึงจะเกิดได้ครับ

    ถ้าทุกท่านนำหลักการนี้ไปใช้ในการศึกษาหาความสัมพันธ์ระหว่างปฏิกริยาดวงอาทิตย์ และภัยธรรมชาติบนโลกก็จะพบความสัมพันธ์ได้โดยง่าย ทำให้ภัยธรรมชาติคาดการณ์ได้ในระดับมหภาค รู้ได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องอาศัยสมมุติอื่นๆที่ซับซ้อนไปกว่านี้ ทุกท่านที่มีสนใจ -ปรารถนาจะค้นพบ- ความสัมพันธ์ระหว่างปฏิกริยาดวงอาทิตย์และภัยธรรมชาติบนโลก โปรดพิจารณาศึกษาตามแนวทางที่ผมแนะนำไปครับ
     
  9. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็นครับ

    สำหรับกรณีศึกษาพิเศษเกี่ยวกับแผ่นดินไหวขนาดใหญ่บนโลกที่ประเทศชิลี ในวันที่ 16 กันยายน พศ 2558 กับความเชื่อมโยงกับปฏิกริยาดวงอาทิตย์ หรือความแปรปรวนของพลังงานนอกโลกนั้น ผม, Ben Davidson, Straser, Venkatanathan และท่านอื่นๆ ได้ตีพิมพ์บทความในวารสาร New Concepts in Global Tectonics ประจำเดือนกันยายน ที่ผ่านมา เพื่อให้ทุกท่านทราบถึงหลักฐานพิสูจน์ว่าแผ่นดินไหวขนาดใหญ่บนโลกมีลางบอกเหตุล่วงหน้า และสามารถคาดการณ์ได้

    โดยผมได้แนะนำรูปแบบหนึ่งของการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ โดยใช้การสังเกตการเปลี่ยนแปลงของปริมาณจุดดับในรอบหลายสัปดาห์ Straser ใช้หลักการสังเกตการผิดปกติของสนามแม่เหล็กที่โลกในช่วง 1-5 วัน ก่อนเกิดเหตุ และ Ben Davidson ให้หลักการสังเกตขั้วสนามแม่เหล็กที่ดวงอาทิตย์เพื่อคาดการณ์ภายในช่วง 24-48 ชม

    ส่วน Venkatanathan และ คณะได้ค้นพบความผิดปกติของพลังงานสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่ประเทศชิลี ในช่วงที่ดวงอาทิตย์มีการเปลี่ยนแปลงของพลังงานของจุดดับเริ่มในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งช่วยในการบอกตำแหน่งของแผ่นดินไหวบนโลกที่ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

    สำหรับทุกท่านที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในรายละเอียดได้จากที่นี่ครับ http://www.ncgt.org/newsletter.php?action=download&id=149

    ในการที่จะคาดการณ์ภัยธรรมชาติอย่างถูกต้องได้นั้น จะต้องรวมองค์ความรู้จากหลายๆสาขา หลายมิติเข้ามาประกอบกัน เพื่อให้การคาดการณ์มีประสิทธิภาพ

    การทำให้เกิดความเป็นไปได้ในการเตือนภัยพิบัติขนาดใหญ่นั้น ไม่ใช่หน้าที่ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของสังคมโดยรวมที่จะรับฟัง เรียนรู้และส่งเสริมองค์ความรู้ ความเข้าใจใหม่ๆ เพิ่มเติมจากความเข้าใจเก่าๆ หรือแทนที่สมมติฐานที่ผิดต่อหลักสัจธรรมทั้งในอดีตหรือปัจจุบัน เพื่อให้เกิดความเป็นไปได้ในสิ่งที่ไม่เคยเป็นไปได้มาก่อน และเพื่อให้วิทยาศาสตร์โลกมีความเจริญพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้องตามหลักธรรมครับ
     
  10. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็นครับ

    ในระหว่างวันที่ 7-8 ตุลาคมนี้ จะเป็นวันสำคัญทางดาราศาสตร์อีกครั้ง โดยมีการเรียงตัวระหว่าง ดวงอาทิตย์ พุธ ศุกร์ และ ระหว่าง โลก ดวงจันทร์ และ ดาวศุกร์ เป็นเส้นตรง

    สำหรับปฏิกริยาดวงอาทิตย์ในช่วงนี้ยังพบว่าแนวสนามแม่เหล็กเปิดขนาดใหญ่เรียงตัวกับโลก และปริมาณจุดดับลดลงต่ำสุดในรอบหลายสัปดาห์

    ทุกท่านทีสนใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างดาวเรียงตัว ปฏิกริยาดวงอาทิตย์ กับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติในระะบสุริยะและบนโลก โปรดติดตามสังเกตการณ์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 8 ตุลาคมครับ
     
  11. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

    ในวันที่ 10 ตุลาคม เกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์มากกว่าปกติ โดยเกิดแนวสนามแม่เหล็กเปิดขนาดใหญ่ ทิศทางตรงกับโลก และเป็นช่วงทีปริมาณจุดดับลดลงต่ำสุดในรอบหลายสัปดาห์

    ในช่วงนี้เองยังเป็นช่วงมีความสำคัญทางดาราศาสตร์ โดยมีการเรียงตัวระหว่าง ดาวพุธ ดวงอาทิตย์ และดาวเสาร์ เป็นเส้นตรงในวันที่ 10 ตุลาคม และ ระหว่าง ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ โลก และ ดาวยูเรนัส เป็นเส้นตรง โดยประมาณในวันที่ 12 ตุลาคม

    ทุกท่านที่สนใจเกี่ยวกับปรากฏการณ์ในอวกาศครั้งนี้ กับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลกโปรดติดตามสังเกตการณ์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 13 ตุลาคมครับ
     
  12. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็นครับ

    วันที่ 13 ตุลาคม เวลา 21:38 UT เกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์ มากกว่าปกติ โดยพบเปลวพลาสม่าขนาดใหญ่ปะทุออกมาจากผิวดวงอาทิตย์ทางทิศตะวันออก ไม่ตรงกับโลก ในช่วงดังกล่าวดวงอาทิตย์ได้ส่งรังสี X-ray ออกมาในระดับ C9 สำหรับปริมาณจุดดับที่ดวงอาทิตย์นั้นอยู่ในช่่วงขาขึ้นโดยได้เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 12 วันในวันนี้ จากการคำนวณพบว่าคลื่นพลังงานจะเดินทางมาถึงในแนววงโคจรของโลกในวันที่ 17-18 ตุลาคม

    ในวันที่ 17-18 ตุลาคม นั้นจะเป็นวันสำคัญทางดาราศาสตร์อีกครั้ง โดยมีการเรียงตัวระหว่าง โลก ดาวอังคาร และ ดาวพฤหัส และ ในวันที่ 19 จะมีการเรียงตัวระหว่าง ดาวเสาร์ ดวงอาทิตย์ และ ดาวศุกร์

    นอกจากนั้นแล้วในวันที่ 20-21 ตุลาคมจะมีการเรียงตัว ระหว่าง โลก ดาวศุกร์ ดาวอังคาร และ ดาวพฤหัส เป็นเส้นตรงโดยประมาณ และเป็นช่วงที่มีดาวเคราะห์เรียงตัวกันเป็นจำนวนมากที่สุดในช่วงนี้

    ทุกท่านในสนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลก ที่จะสัมพันธ์กับเหตุการณ์ครั้งนี้โปรดติดตามสังเกตการณ์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 21 ตุลาคม ครับ
     
  13. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็นครับ

    สำหรับแผ่นดินไหวขนาด 7.1 ในวันที่ 20 ตุลาคม เวลา 21:52 UT ที่เกิดขึ้นที่ Vanuatu Earthquake - Magnitude 7.1 - VANUATU - 2015 October 20, 21:52:03 UTC นั้นก็มีเหตุปัจจัยมาจากปฏิกริยาดวงอาทิตย์ โดยในช่วงนี้จะพบว่าในวันที่ 20 ตุลาคมทึ่ผ่านมา เป็นวันที่ปริมาณจุดดับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ หลังจากที่ได้ลดลงต่ำสุดในวันที่ 10 ตุลาคม ในรอบหลายสัปดาห์ (ตามรูปที่แนบมา) ซึ่งการเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนี้พบว่ามีปริมาณจุดดับเป็นสิ่งบอกเหตุเช่นเดียวกับแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่ประเทศชิลี ในวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา และผมได้ตีพิมพ์รูปแบบการสังเกตการณ์แผ่นดินไหวแบบนี้ในบทความวิชาการในวันที่ 7 ตุลาคม แล้ว จึงเป็นการพิสูจน์ความถูกต้องของข้อสังเกตดังกล่าว http://www.ncgt.org/newsletter.php?action=download&id=149

    ในการติดตามการเกิดเหตุภัยธรรมชาติที่ดีนั้นควรทำอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นทุกท่านที่สนใจโปรดสังเกตการณ์ต่อถึงวันที่ 25 ตุลาคมครับ

    จากสถิติต่างๆที่ผ่านมาเกี่ยวกับแผ่นดินไหวขนาดใหญ่รวมถึงภัยธรรมชาติในรูปแบบอื่นๆบนโลกจึงสามารถคาดการณ์ได้ และสามารถพิสูจน์ได้ทางหลักวิทยาศาสตร์ ถ้าผู้ศึกษาและสนใจในเรื่องนี้มีความ-เข้าใจ-ถึง เหตุปัจจัย กลไกการทำงานของโลก อวกาศ และปฏิกริยาดวงอาทิตย์ -อย่างถูกต้อง- ว่าเชื่อมโยงและสัมพันธ์กันอย่างไรบ้าง

    สำหรับความเข้าใจเกี่ยวกับกลไกการทำงานของปรากฏการณ์เหล่านี้ ผมได้จัดทำวิดิโอการเรียนการสอนทางวิทยาศาสตร์ให้กับท่านผู้สนใจศึกษาที่มาใหม่ โดยศึกษาได้จากลิงค์ข้างล่างนี้ครับ

    https://www.youtube.com/watch?v=G0ioVR5fluk
    https://www.youtube.com/watch?v=aSEE8Z3czos
     
  14. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

    วันที่ 26 ตุลาคม นี้จะเป็นวันสำคัญทางดาราศาสตร์อีกครั้ง โดยมีการเรียงตัวระหว่าง ดาว เนปจูน ดวงอาทิตย์ ดาวพุธ และ ดาวพฤหัส เป็นเส้นตรง และ ระหว่าง ดาวพุธ โลก และ ดาวยูเรนัส

    ทุกท่านที่สนใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างดวงดาวกับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลก โปรดติดตามสังเกตการณ์ได้ในช่วงวันดังกล่าวครับ
     
  15. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็นครับ

    ดวงอาทิตย์ นั้นมีลักษณะเช่นเดียวกับโลก และร่างกายมนุษย์ นั่นคือจะเกิดขึ้นได้ และคงอยู่ได้นั้นต้องอาศัยเหตุปัจจัยจากภายในและภายนอกมาประกอบกัน ไม่ใช่ก้อนธาตุที่จะคงอยู่ได้ด้วยตัวมันเอง (อัตตา)

    ปฏิกริยาดวงอาทิตย์ในรูปแบบต่างๆ ที่เราสังเกตเห็น เช่น พายุสุริยะ ลมสุริยะ Solar flare ปริมาณจุดดับ ก็เช่นเดียวกัน จะมีเกิด ตั้งอยู่ หรือดับไปได้นั้น ต้องอาศัยเหตุจากภายในและภายนอกดวงอาทิตย์มาประกอบกัน อุปมาได้กับมนุษย์ที่จะมีปฏิกริยาได้นั้น ต้องอาศัยอากาศรอบๆมนุษย์ ถ้าอากาศมีมาก ปฏิกริยาจะเป็นแบบหนึ่ง ถ้าอากาศเบาบาง ปฏิกริยาก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง การตอนสนองจึงมีทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประกอบกัน

    การที่จะเข้าใจถึงกลไกการทำงานของปฏิกริยาดวงอาทิตย์ได้อย่างถูกต้องนั้น ไม่สามารถทำได้ เพียงการอ่านหนังสือ ตามความคิดนึกปรุงแต่ง ตั้งสมมติฐาน หรือคำนวณสมการคณิตศาสตร์ ตามที่ใจต้องการอย่างเดียว แต่ต้องมีเหตุมีผลที่ถึงพร้อม และเกิดจากการ-เข้าใจธรรม- นั่นคือการเห็นของจริง มีการจำลองสถานการณ์ขึ้นมาเพื่อศึกษาเทียบเคียง กับสิ่งที่เกิดขึ้นที่ดวงอาทิตย์ ว่ามีคุณสมบัติที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกันอย่างไรบ้าง จึงจะสามารถสรุป คุณสมบัติเหล่านั้นได้ตามความเป็นจริงในปัจจุบัน ที่เคยเกิดในอดีต และจากสามารถ "คาดการณ์" สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้

    นักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันก็ได้สร้างห้องทดลองที่พยายามจำลองปฏิกริยาดวงอาทิตย์ขึ้นมา ซึ่งการทดลอง-ทั้งหมด- ล้วนอาศัยเหตปัจจัยภายนอกห้องทดลองทั้งสิ้น โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าที่ป้อนเข้าให้พลังงานพลาสม่าเกิดขึ้นในสิ่งที่ทดลอง

    ในวิดิโอข้างล่างนี้ก็เช่นกัน จะพบว่า รูปทรงกลมพลาสม่าจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยพลังงานไฟฟ้าจากภายนอก ประกอบกับความหนาแน่นของอากาศในหลอดทดลอง เมื่อความหนาแน่นของพลาสม่าในหลอดทดลอง หรือพลังงานไฟฟ้าเปลี่ยนไป ปฏิกริยาที่ทรงกลมพลาสม่าที่ก่อตัวขึ้นในหลอดย่อมเปลี่ยนแปลงตาม ซึ่งพิสูจน์ได้ตามการทดลองในวิดิโอนี้ โดยพลาสม่านั้นมีได้หลายสีซึ่งแปรตามธาตุที่นำมาใช้ทำพลาสม่า โดยพลาสม่าที่ดวงอาทิตย์ ประกอบด้วยไฮโดรเจนเป็นส่วนใหญ๋ จึงให้แสงออกมาเป็นสีขาวเหลือง แต่พลาสม่าที่ใช้ในการทดลองนี้จะออกสีม่วง

    ฉันใดก็ฉันใด เราจึงไม่ควรสรุปว่าปฏิกริยาดวงอาทิตย์ นั้นมีเหตุมาจากภายในดวงอาทิตย์ หรือ พลังงานที่ทำให้ดวงอาทิตย์สว่างได้นั้นมาจากภายในเพียงอย่างเดียว (อัตตา)

    แต่ควรสรุปว่าดวงอาทิตย์นั้น ไม่ใช่ตัวตน ไม่มีตัวตนที่แท้จริง ปฏิกริยาดวงอาทิตย์ไม่เป็นไปตามอำนาจบังคับบัญชาจากภายในดวงอาทิตย์เองอย่างแท้จริง (อนัตตา)

    เมื่อเข้าใจเช่นนี้ เราจึงจะสามารถคาดการณ์ปฏิกริยาดวงอาทิตย์ได้บางส่วน โดยรู้จักการสังเกตจากสิ่งต่างๆที่เคลื่อนไหวอยู่รอบดวงอาทิตย์ เป็นสิ่งบอกเหตุครับ
     
  16. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟซ. อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

    -ประกาศข่าวครับ-

    ผมได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับภัยธรรมชาติมาหลายปี สามารถค้นพบถึงรูปแบบที่นำมาซึ่งช่วยให้ทุกท่านสามารถสังเกตและคาดการณ์ภัยธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติได้ และได้เผยแพร่ข้อมูลบางส่วนให้กับผู้ที่สนใจศึกษาร่วมกันบนเฟสบุค แห่งนี้ เพื่อใช้เป็นเครื่องเตือนสติ ในการดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท โดยผมเริ่มเผยแพร่องค์ความรู้นี้ในวงการวิชาการระดับโลก มีนักวิชาการหลายท่านได้เห็น และเริ่มเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของอวกาศและภัยธรรมชาติบนโลกแล้ว

    แต่เนื่ององค์ความรู้นี้ มีความละเอียดอ่อนมาก ทั้งในเชิงวิธีการเผยแพร่ และ ความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับอวกาศ โดยต้องใช้สมมติฐานที่ตรงตามหลักธรรม และสังเกตตามความเป็นจริง นั้นคือ การศึกษาตามกฏอิทัปปัจจยตา ไม่ได้เกิดจากการอธิบายตามสมมติบัญญัติตามตำราเรียนวิทยาศาสตร์ที่เกิดจากการท่องจำ ปัญหาจึงเกิดขึ้นได้ในแง่การสื่อสารทำความเข้าใจ

    ด้วยเหตุนี้เอง จึงมีผู้นำความรู้เหล่านี้ไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น การนำไปอ้างอิง โดยนำสมมติที่ไม่เหมือนกันทางวิชาการมาปะปนกัน สร้างความสับสน หรือการนำไปก่อความกลัว วิตก กังวล การทำธุรกิจหารายได้โดยไม่สุจริต ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ในสังคมออนไลน์ ผมเองไม่ได้ผลประโยชน์อันใดจากการขายของหรือการทำธุรกรรมทางการเงินเหล่านี้ และการกระทำเหล่านี้ไม่ส่งผลดีต่อการเผยแพร่สร้างความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ตามเจตนารมของผมแต่อย่างใด

    ดังนั้น ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผม-ขอยุติ-การให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเตือนภัยธรรมชาติทั้งหมดทางเฟสบุคแห่งนี้ เพื่อป้องกันการแอบอ้างนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิดอีกในอนาคต

    สำหรับผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับภัยธรรมชาติ ว่าควรเตรียมการอย่างไร ผมได้ตั้งกลุ่มเปิด facebook ชื่อ "รู้ธรรมะ รู้ทันภัยธรรมชาติ" ขึ้นเพื่อช่วยเหลือ หาทางออกให้กับทุกท่านในการเตรียมตัวอย่างถูกต้องตามหลักธรรม ไม่ก่อหนี้สิน หรือ เกิดความขัดแย้งกับคนรอบข้าง และคลายความกังวลในเรื่องนี้ โดยมี Admin หลายๆท่านจะช่วยตอบคำถามให้กับท่าน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ถือเป็นการช่วยเหลือสังคม

    สำหรับผู้ที่สนใจในการคาดการณ์ภัยธรรมชาตินั้น ผมได้เปิดสอนวิชานี้กับกลุ่มย่อยตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยกลุ่มนี้เป็นการสอนนำร่อง และอยู่ระหว่างการเก็บข้อมูลการสอน โดยผมมีโครงการที่จะเปิดการสอนวิชานี้อีกครั้ง เพื่อให้ท่านที่สนใจมาเข้าสมัครเรียนได้ ในปี พศ 2559

    ในระหว่างนี้ผมจะใช้เวลาเขียนหนังสือหรือบทความวิชาการ เพื่อใช้เผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้อย่างเป็นทางการในอนาคต ซึ่งแจ้งข่าวให้ทุกท่านทราบผ่านทางเฟสบุคแห่งนี้ในภายหลังครับ

    จึงเรียนให้ทุกท่านทราบโดยทั่วกัน
     
  17. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟซ อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

    กรณีศึกษาแผ่นดินไหวขนาด 6.9 ทีประเทศชิลิในวันที่ 7 พฤศจิกายน เวลา 7:31 UT
    http://www.emsc-csem.org/Earthquak/earthquake.php?id=468618

    นั้นมีลางบอกเหตุมาจากปฏิกริยาดวงอาทิตย์ เช่นเดียวกับแผ่นดินไหวขนาดใหญ่-ทุกกรณี- ที่ผมได้ทำการศึกษาติดตามมาเป็นเวลา 6 ปี

    โดยพบว่าในระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน เป็นช่วงที่ปริมาณจุดดับมีการแกว่งตัวผิดจากปกติสูงสุดในรอบเกินกว่า 30 วัน โดยในวันที่ 2 พฤศจิกายน นั้นเป็นวันที่ปริมาณจุดดับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์ และพบปฏิกริยา X-ray จากดวงอาทิตย์ สูงสุดในวันที่ 4 พฤศจิกายน
    ทั้งสองเหตุการณ์ มีเปลวพลังงานจากดวงอาทิตย์ ส่งออกมาเป็นมุมกว้าง ในแนวเดียวกับโลก โดยจากการคำนวณพบว่าคลื่นพลังงานจะเดินทางมาถึงโลกในวันที่ 7 พฤศจิกายน เวลา 6 UT +/- 7 ชม

    ในวันที่ 4 พฤศจิกายน บนโลกจะพบ แผ่นดินไหวที่เป็น Precursor เกิดขึ้นเพิ่อเป็นการเตือนว่าจะมีความเสี่ยงแต่แผ่นดินไหวเพิ่มเติมในอีกประมาณ 3 วันถัดมา คือแผ่นดินไหวที่ประเทศชิลีในวันนี้ (7 พ.ย.)

    นอกจากนั้นแล้วช่วงนี้ยังเป็นช่วงที่มีความสำคัญทางดาราศาสตร์ คือมีการเรียงตัวของดาวเคราะห์หลายดวงในระบบสุริยะ ได้แก่ โลก ดวงจันทร์ ดาวศุกร์ และ ดาวอังคาร เป็นเส้นตรง

    ทุกท่านที่สนใจสามารถใช้เหตุการณ์นี้เป็นกรณีศึกษาอีกแบบหนึ่ง (ในช่วงปริมาณจุดดับอยู่ในช่วงค่าสูงสุด) ทั้งนี้ขอให้ทุกท่านได้ตระหนักด้วยว่า แผ่นดินไหวใหญ่นั้น ยังมีเหตุปัจจัยบนโลกเป็นตัวแปรเช่นกัน เช่น ความชื้น หรือ ปริมาณพายุที่มีบนโลกในขณะนั้นซึ่งจะแปรผกผันกับขนาดแผ่นดินไหวใหญ่บนโลก ได้ครับ
     
  18. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

    กรณีแผ่นดินไหวที่เกิดมากกว่าปกติในช่วงนี้ เช่นที่ประเทศญีุ่่ปุ่นในวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 20:51 UT ขนาด 6.6 Earthquake - Magnitude 6.6 - NORTHWEST OF RYUKYU ISLANDS - 2015 November 13, 20:51:36 UTC

    สามารถทราบล่วงหน้าได้จากการดูการแกว่งตัวของปริมาณจุดดับบนดวงอาทิตย์ โดยแผ่นดินไหวขนาดใหญ๋กว่าปกติจะเกิดขึ้นโดยมีการหน่วงเวลาจากการแกว่งตัวของจุดดับ ที่มีค่าสูงสุดหรือต่ำสุดในรอบ-หลายสัปดาห์- ประมาณ 2-5 วัน ขึ้นอยู่กับว่าใช้ปฏิกริยาดวงอาทิตย์แบบใดเป็นสิ่งบอกเหตุ

    ซึ่่งการที่แผ่นดินไหวหน่วงเวลาไป 2-5 วันจากปริมาณจุดดับที่ขึ้นลงนั้น จะตรงกับเวลาที่ลมสุริยะใช้ในการเดินทางจากดวงอาทิตย์มาที่วงโคจรของโลกพอดีโดยที่ทิศทางหลัก -ไม่จำเป็นต้องตรงกับโลกแต่อย่างใด- เนื่องจากเป็นคลื่นที่ออกมารอบด้านจากดวงอาทิตย์เป็นวงรอบทิศทางดังรูป background ในเฟสบุคนี้

    คลื่นลักษณะนี้ยังไม่มีในนิยามตำราเรียนปัจจุบันอย่างเป็นทางการแต่มีอยู่ตลอดในระบบสุริยะและพิสูจน์ได้จากการสังเกตปรากฏการณ์แผ่นดินไหวบนโลก เป็นคลื่นที่พอคำนวณความเร็วได้เช่นเดี่ยวกับนิยามพายุสุริยะในตำราเรียนปัจจุบัน โดยสามารถสังเกตได้จากช่วงที่พลังงานเข้ามาในแนววงโคจรของโลก เช่นในกรณีนี้อาศัยการสังเกตปฏิกริยาดวงอาทิตย์ระหว่างวันที่ 9-11 พฤศจิกายน โดยมี ปฏิกริยาดวงอาทิตย์มากเป็นพิเศษในวันที่ 11 พย เวลา 21:24 UT ซึ่งสามารถคำนวณช่วงที่พลังงานเดินทางมาถึงโลกในวันที่ 13 พย เวลา 18 UT +/- 7 ชั่วโมง

    CACTUS CME Details
    http://iswa.ccmc.gsfc.nasa.gov/IswaSystemWebApp/StreamByDataIdServlet?allDataId=868115629

    ผมได้เคยบรรยายการค้นพบเกี่ยวกับคลื่นนี้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับคลื่นเสียงเป็นครั้งแรกในปี พศ 2555 ที่ มหาวิทยาลัยมหิดล และครั้งล่าสุดในการประชุมวิชาการ Electric Universe, Observer Frontier 2015 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาได้จากวิดิโอใน Youtube ครับ
     
  19. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟซ อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

    กรณีแผ่นดินไหวที่ประเทศกรีก วันที่ 17 พฤศจิกายน เวลา 7:10 UT
    Earthquake - Magnitude 6.5 - GREECE - 2015 November 17, 07:10:09 UTC
    Strong Quake Hits Greek Island of Lefkada, 2 Dead - ABC News

    นั้นมีลางบอกเหตุจากปฏิกริยาดวงอาทิตย์ในวันที่ 14-15 พฤศจิกายน โดยในวันที่ 14 พฤศจิกายน พบปริมาณจุดดับลดลงอย่างฉับพลัน ต่ำสุดในรอบหลายสัปดาห์ มีการเรียงตัวระหว่างแนวสนามแม่เหล็กเปิด (Coronal hole) ที่ตรงกับโลก และเกิดการปะทุที่ผิวดวงอาทิตย์ ในทิศทางด้านเดียวกับโลกในวันที่ 15 พฤศจิกายน เวลา ประมาณ 21 UT http://spaceweather.com/images2015/15nov15/eruption_anim.gif?PHPSESSID=67f9e3gqb41n1ldcdd4ilinaq2

    นอกจากนั้นแล้วยังเกิดพายุและไฟฟ้าดับในรัฐ Oklahoma สหรัฐอเมริกา
    Storms Lead To Power Outages Across Eastern Oklahoma - NewsOn6.com - Tulsa, OK - News, Weather, Video and Sports - KOTV.com |

    สำหรับทุกท่านทีสนใจเกี่ยวกับสิ่งบอกเหตุล่วงหน้าเกี่ยวกับภัยธรรมชาติ สามารถใช้เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นกรณีศึกษาหนึ่งในการคาดการณ์ภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นได้อีกในอนาคตครับ
     
  20. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

    กรณีศึกษาแผ่นดินไหวขนาด 7.2 ที่ประเทศเปรูในวันที่ 24 พฤศจิกายน นััน สามารถทราบล่วงหน้าได้ จากการดูการ-เปลี่ยนแปลง-ของปริมาณจุดดับบนดวงอาทิตย์ พายุสริยะ ดำแหน่งของดาวเคราะห์ และอื่นๆ โดยสิ่งบอกเหตุที่ชัดเจนนั้นเริ่มต้นในวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พบปริมาณจุดดับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 12 วัน หลังจากที่ได้ลดลงต่ำสุดในรอบเกินกว่า 30 วันในวันที่ 18 พฤศจิกายน และพบว่าดวงอาทิตย์ได้ส่งเปลวพลังงานขนาดใหญ่มาในทิศทางเดียวกับโลก

    https://www.youtube.com/watch?v=u1udOMCndpY

    โดยเข้ามาในแนววงโคจรของโลกประมาณ 2-5 วันหลังจากเกิดเหตุ

    นอกจากนั้นแล้วเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงที่มีความสำคัญทางดาราศาตร์ โดยมีการเรียงตัวระหว่าง ดวงอาทิตย์ ดาวพุธ ดาวเสาร์ โลก และ ดวงจันทร์ เป็นเส้นตรงโดยประมาณ

    ดังนั้นภัยธรรมชาติบนโลกนั้น เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยอันหลากหลาย มีรูปแบบ สามารถรู้ได้ สังเกตเห็นได้ง่ายจากภายนอกโลกล่วงหน้า มีลักษณะตรงตามหลักสัจธรรม นั่นคือ มีเหตุจึงเกิด หมดเหตุจึงดับ บังคับไม่ได้ มีความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่มีตัวตนที่แท้จริง

    ผู้ใดเข้าใจธรรมแล้ว ผู้นั้นย่อมเข้าใจธรรมชาติ ผู้ใดเข้าใจธรรมชาติแล้ว ผู้นั้นย่อมเข้าใจธรรมนั้นคือสามารถเป็นผู้หยั่งรู้ ฟ้า ดิน พยากรณ์ธรรมชาติได้ด้วยตนเอง เมื่อรู้แล้วจึงหมดความสงสัย ไม่ต้องไปถามใครว่าอะไรจริงหรือไม่จริง อีกต่อไป เพราะรู้ดีอยู่แก่ใจตนเองครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...