เหรียญมนต์พระกาฬ ประสบการณ์มากมาย มาแล้ว หลวงปู่สิมพะลี วัดป่าวิชัยรวมมิตร

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย supako, 23 เมษายน 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. jotaro4s

    jotaro4s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2012
    โพสต์:
    2,121
    ค่าพลัง:
    +5,431
    จอง 1 คิวครับพี่ อิอิ
     
  2. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    รับทราบครับผม
     
  3. pom1967

    pom1967 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +317
    จองกลุ่ม 1 กับกลุ่ม 3 ครับ
     
  4. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    รับทราบครับ
     
  5. pppw

    pppw Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +30
    ฝังเหล็กไหล ค่าครูเท่าไรครับ
     
  6. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    5000 บาทต่อองค์ครับ
     
  7. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    แค่รูปที่ลงโฆษณารุ่น ราชาโชค ก็ขอได้แล้วครับ
    วันนี้ เมื่อกี้ ได้รับโทรศัพ จากคุณ ธนูศักดิ์ เบอร์ 0817646229 บอกคุณ เอ่ยแค่รูปหลวงปู่ที่ผมตัดออกมาจากหนังสือที่ลงโฆษณา เอามายกพนมมืออธิฐาน ขอให้เตนท์รถเจรจายอมความด้วยเถิด ทั้งๆที่ขอไปหลายครั้งหลายรอบแล้ว ไม่ยอมสักที พอขอเสร็จ โทรไปหาเลย ปรากกฏว่า ยอมชะงั้นคุณเอ่ย ผมนี้ขนลุกเลย พระในคอทั้งหมดถอดทิ้งหมดเลยครับ หลังจากนั้นนะเตนท์รถโทรกลับมาพูดดีมากๆผมจองคันใหม่ไว้เลย เหลือเชื่อจริง ขนาดผมยังไม่มีวัตถุมงคลของท่านสักชิ้นเลยครับ ขอเบอร์โทรหลวงปู่ไปด้วยแล้ว บอกเกิดมาเพิ่งเคยเจอพระดังๆเต็มคอผมถอดทิ้งหมดเลย

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. pom1967

    pom1967 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +317
    1.กลุ่ม ถ่ายพลังลมปราณ สายวิชา ปรมาจารย์ตั้กหม้อ ของวัดเส้าหลิน
    ค่าครูกี่บาทครับ
    คุณศุภกรตอบทาง sms ว่า 1000 บาทครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 กุมภาพันธ์ 2015
  9. pom1967

    pom1967 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +317
    จองตะกรุดราชาโชคมหาเสน่ห์ 1 ดอก 300 บาท
     
  10. pom1967

    pom1967 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +317
    กลุ่ม 3 วิทยาธร แถมลง ธรรมบันดาลด้วยมั้ยครับ
     
  11. nickkostar

    nickkostar Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +47
    ตารางอัพเดท รายการจองวัตถุมงคลของหลวงปู่สิมพะลี ธรรมวโร วัดป่าวิชัยรวมมิตร จ.เลย หมดเขต 1 มีนาคม 2558
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3 MB
      เปิดดู:
      167
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.9 MB
      เปิดดู:
      124
    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.9 MB
      เปิดดู:
      113
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2015
  12. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    รับทราบครับ
     
  13. akeo

    akeo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +231
    ผมโอนเงินค่าจอง
    1.ล็อกเก็ตฉากทอง 1 องค๋
    2.ตะกรุด 1ดอก รวม 1850 บาท ให้แล้วนะครับ
    วันที่15 ก.พ.58 เวลา 15.27 น.
    ที่อยู่ส่งทางpm นะครับ
     
  14. boy1715

    boy1715 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2011
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +319
    อาจารย์ครับ ผมกับแฟน ขอจองคิวลงทองเปิดเส้นลายมือ ค่าครู 1000 บาทต่อท่านวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 8.30 น. ไม่แน่ใจหลวงปู่เริ่มลงทองเปิดเส้นลายมือ กี่โมงครับอยากได้ช่วงเช้า รบกวนสอบถามเพิ่มเติม
    - ต้องโอนค่าครูก่อนใช่เปล่าครับ
    - ต้องเตรียมดอกไม้ธูปเทียน
    - พอมีแผนที่ เปล่าครับ ผมเดินทางจากบ้านที่สมุทรสาครครับ
    - รายการที่ผมจองล็อกเก็ต+รูปหล่อ หากโอนแล้วในวันงาน สามารถนิมนต์พระหลวงปู่กลับได้ทั้งหมดเลยเปล่าครับ
    ** ส่วนท่านใดที่ต้องการให้หลวงปู่สวดให้สมปราถนา ให้เตรียมรูป 4"x6" 1 รูป หมายถึงให้เราเขียนสิ่งที่เราปราถานา 1 เรื่องลงหลังรูปเปล่าครับ

    ขอบคุณครับ
     
  15. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    รับทราบครับ
    ไม่ต้องโอนจองคิวครับ มาได้เลยคนคงไม่เยอะเท่าไหร่ครับ
    ส่วนรูปไม่ต้องเขียนอะไร เขียนแค่ ชื่อนามสกุล สิ่งที่ต้องการให้ช่วย มาบอกท่านเลยครับ
     
  16. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    ถ้าท่านทำให้โลกภายในตัวท่านให้สวยงามได้แล้ว
    มันจะไปยากอะไร ที่พวกท่านจะร่วมกันสร้างโลกอันกว้างใหญ่นี้ให้สวยงามตามไปด้วยไม่ได้
    เพราะว่าโลกภายใน คือ จิตใจ
    หากท่านเรียนรู้ที่จะดูแลจิตใจตนเอง ให้มันสั่นสะเทือนอยู่ในหมวดของความสุขสงบ เอาไว้เรื่อยๆ..เอาไว้ตลอดวันแล้ว นั่นคือ อาการของคน จิตใสใจสวย ล่ะนะ
    ความสำคัญของกรณีนี้มีอยู่คำเดียว คือ ท่านทั้งหลายจะทำให้จิตใจตนเอง สดสวยดูแลรักษาจิตใจตนเอง ให้สงบสมดุลไว้อย่างมั่นคงได้อย่างไร..
    คุณสมบัติ ของคนประเภท จิตใสใจสวยนั้น..คือ
    1.ต้องมองโลกไปตามความจริง คือ ไม่ปรุงแต่ง
    2.ต้องมองทุกสิ่งเพื่อเรียนรู้ คือ ใช้สติปัญญาวิเคราะห์สิ่งที่สัมผัสรู้ดูเห็นนั้นแล้ว สังเคราะห์เอานัยสำคัญออกมาใช้ประโยชน์ในการสร้างสุข สร้างสนุก และสร้างสันติ ให้แก่ชีวิตตนเองและผู้อื่น ด้วยความใส่ใจ
    3.ต้องมองทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความเป็นมิตร คือ ไม่รังเกียจและไม่ปฏิเสธ โดยพร้อมที่จะเป็นหนึ่งเดียว พร้อมที่จะเป็นเพื่อนกัน และพร้อมที่จะเป็นพวกเดียวกัน
    ดังนั้น ในระหว่างวันแต่ละวันของชีวิตท่านนั้น ไม่ว่าท่านจะสั่นสะเทือนตนเองให้จิตใสใจสวย ด้วยคุณสมบัติสำคัญทั้ง สามประการเหล่านี้ต่อสรรพสิ่งใดรูปธรรมใดก็ตาม สิ่งที่ท่านกระทำนั้น มันจะอยู่ในหมวดของ ความรัก ทั้งสิ้น เมื่อท่านสร้างและธำรงรักษา สภาวะแห่งจิตใสใจสวยเอาไว้ได้ ความปิติสุขย่อมบังเกิดขึ้นในใจ อันความปิติสุขนี่แหล่ะ คือ บุญ
    เพราะบุญ คือ ความสุขลึกล้ำที่เกิดขึ้นในจิตใจท่าน
    ดังนั้น ในระหว่างวันแต่ละวันของท่านนั้น ไม่ว่าท่านจะสั่นสะเทือนจิตใจตนเองเป็นความปิติสุข ด้วยการกระทำแบบใดๆกับใครก็ตาม สิ่งที่ท่านกระทำนั้น มันจะอยู่ในโหมด ของ การให้ ทั้งสิ้น
     
  17. nickkostar

    nickkostar Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +47
    ตารางอัพเดท รายการจองวัตถุมงคล รุ่น ราชาโชคมหาเสน่ห์ 119ปี หลวงปู่สิมพะลี ธรรมวโร วัดป่าวิชัยรวมมิตร จ.เลย
    ปิดจอง 1 มีนาคม 2558 ช้าอดนะค่ะ

    ท่านใดรายชื่อหายแจ้งด้วยนะค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    ใจ คือ แหล่งที่มั่นสุดท้าย ที่ควรรักษาไว้ จริงหรือ...
    จิตใจเธอต่างหาก ที่มันควรจะเป็นสิ่งแรก ที่เธอควรจะรักษาไว้
    เพราะ ว่า จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว
    เพราะว่า ถ้าจิตเธอไม่มั่นคง หรือเกิดความแปรปรวนรวนเร มันจะยังผลให้พฤติกรรมภายนอกต่างๆ ที่เธอแสดงออกมาไม่สมดุล ตามไปด้วย เช่น จะเกิดอาการคุ้มดีคุ้มร้าย บ้าๆบอๆน่าเกลียดน่าชัง จะทำผิดบาปต่อตนและผู้อื่นอยู่เนืองนิจเป็นต้น
    อาการต่างๆที่กล่าวนี้ มันจะเป็นเงื่อนไขด้านลบของคนอื่น จนทำให้เกิดการหมุน กรรมจักร ระหว่างเธอกับคนอื่นๆได้ไม่เลือกคน ไม่เลือกเวลาเลยทีเดียว
    ซึ่งคนประพฤติธรรมส่วนใหญ่ จะเป็นแบบนี้กันทั้งนั้น เพราะให้ความสำคัญกับ จิต เป็นลำดับสุดท้าย
    ตามประโยคที่ว่า ใจ คือ แหล่งที่มั่นสุดท้ายที่ควรรักษาไว้ ซึ่งจะเห็นว่า มันไม่น่าจะถูกต้อง
    ถ้าเธอมัวแต่สำรวมกายเป็นเบื้องแรก แล้วสำรวมใจเป็นที่มั่นสุดท้าย เธอจะตกเป็นทาสของสิ่งเร้าหรือสิ่งยั่วยุ ทั้งภายนอกโดยมนุษย์คนอื่นๆ และสิ่งเร้าภายในอันเกิดจากจิตของเธอเอง เหมือนดั่งสนิมในตน
    เพราะบ่อยครั้งที่คนรอบข้างเธอ เขามิได้ทำร้ายร่างกายเธอเลย เขาเพียงแค่ทำตัวไม่น่ารักไม่น่าดู หรือพูดจาไม่น่าฟังผ่านช่องหูของเธอแค่นั้นเองเธอก็เกิดอาการขนลุกขนชัน เกิดอาการไม่พอใจเขาไปแล้ว ทั้งๆที่เขายังไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวเลยด้วยซ้ำไป เมื่อพวกเธอเอาแต่ระวังตัว จึงเกิดอาการเผลอพลั้งจิตตก กันอยู่ร่ำไปแก้ไม่หายสักที คำกล่าวที่ว่า อย่ามีเพียง สติ นะนั่นคงจะพอมองเห็น
    เพราะสตินั้นมันเป็นเครื่องมือค้ำจุน สภาวะจิตที่มันเสียสมดุลไปแล้ว ให้คืนกลับสู่สมดุล เป็นเพียงเพราะเธอขาดการระวังระไวเท่านั้นเอง จึงแนะนำให้มี มหาสติ เพื่อป้องกันจิตใจเธอไว้เบื้องแรก จะได้ใช้จิตสำนึกแห่งการเป็นมนุษย์ ผู้มีจิตใจสูงได้อย่างเต็มที่ เมื่อถูกเหยียบตีนให้เจ็บตัว ถ้ามหาสติคุ้มครองจิตเธอ ไม่ให้เกิดอาการเจ็บใจเสียได้ ใครจะเหยียบตีนเธอ เหยียบแรงเหยียบค่อย มันก็ไม่มีปัญหาอะไรมิใช่หรือ..ท่านที่รักทั้งหลาย
    1.การครองมหาสติ คือ การรู้สติ,การมีสติ,การใช้สติ
    ถ้ายังเข้าถึง มหาสติ ที่แท้จริงไม่ได้ก็ให้ปฏิบัติตาม ข้อ สอง เพื่อให้บรรลุ ในการครองมหาสตินั้น
    2.หลักการสำหรับผู้ที่ยังไม่เข้าใจมหาสติ
    -ไม่ข้องจิต
    -ไม่คิดลบ
    -ไม่รบรา
    -ไม่หาเรื่อง
    -ไม่เซื่องซึม
    -ไม่ขรึมเศร้า
    -ไม่เขลาขลาด
    -ไม่คาดหวัง
    -ไม่รังเกียจ
    -ไม่เกลียดกลัว
    -ไม่มัวเมา
    -ไม่เน่าใน
    คำว่า เน่าในเดียวค่อยมาอธิบาย วันต่อไปนะครับ วันนี้ สุข สงบ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2015
  19. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    ชาวฮ่องกง ส่งรูปมาให้หลวงปู่ท่านสวดให้ครับ สำเร็จๆๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    วันนี้วันดี มาขอต่อ คำกล่าวที่ว่า เน่าใน ที่ค้างไว้ครับ
    หมายถึง สภาวะจิต ที่รกรุงรังไปด้วยกองกิเลสตัณหา
    หมายถึง สภาวะจิต ที่เต็มไปด้วยอยากและไม่อยาก
    หมายถึง สภาวะจิต ที่เป็นทุกข์อันเกิดจากการคิดลบ(คิดไปในทางต่ำ)ของตนเอง
    หมายถึง สภาวะจิต ที่เต็มไปด้วยเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง
    หมายถึง สภาวะจิต ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทั้งปวงอันเกิดแต่เหตุนั้น
    หมายถึง สภาวะจิต ที่ไม่สุขสงบ เต็มไปด้วยอารมณ์บูดๆ อยู่ตลอดเวลา
    สำหรับคนที่วันๆทำตนเป็นแบบ "มือถือสากปากถือศีล" เป็นคนสร้างภาพเก่ง หลอกให้คนอื่นเห็นว่าตนเป็นคนดีน่าเคารพยำเกรง แต่ลับหลัง กลับมีความประพฤติ ลามกเป็นคนทุศีล
    ที่กล่าวมา..ล้วนเป็นพฤติกรรมขยะที่แสดออกมาภายนอก ซึ่งถูกขับเคลื่อนออกมาจากอาการ เน่าใน อีกทอดหนึ่งนั่นเอง
    ท่านที่รักทั้งหลาย
    ใครๆก็พูดได้ว่า "ต้องทำจิตใจให้ผ่องใส" แต่คนที่พูดนั้นจะรู้หรือไม่ว่า จิตใจที่ผ่องใสนั้นคือ อย่างไร? เธอจะทำให้จิตใจเธอให้ผ่องใสได้อย่างไร?
    ถ้าไม่รู้ทั้งสองอย่าง หรือไม่รู้อย่างใดอย่างหนึ่งที่กล่าวนั้น มันก็จะเป็นเพียงแค่ลมปากที่ไร้สาระไปในบัดดล
    เพราะจะเข้าลักษณะ ดีแต่พูด แต่ทำตามที่พูดไม่ได้
    ดังนั้น..ท่านที่รัก "จิตใจที่ผ่องใส " จึง
    หมายถึง สภาวะจิตที่เป็นอิสระหรือว่างไปจากกิเลสตัณหา
    หมายถึง สภาวะจิตที่ว่างไปจากความอยากและไม่อยาก
    หมายถึง สภาวะจิตที่เป็นสุขอันเกิดจากความสงบในตนเอง
    หมายถึง สภาวะจิตที่ว่างไปจากเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง
    หมายถึง สภาวะจิตที่ว่างไปจากความทุกข์ทั้งปวงอันเกิดแต่เหตุนั้น และ หมายถึง สภาวะจิตที่เป็นสุขและสงบมั่นอยู่ในตนเอง ทั้งหมด นี้คือ จิตใจที่ผ่องใส อย่างแท้จริง
    ท่านที่รักทั้งหลาย การเป็นคนดี เป็นยังงัย มาดูคุณสมบัติ ของคนดี..
    1.ต้องรักให้ได้ แม้ใครคนนั้นจะไม่น่ารัก
    2.ต้องให้เขาให้เป็น..แม้เขาคนนั้นทำตัวไม่น่าจะให้
    3.ต้องไม่ก้าวก่าย(ทางโลก) ไม่ล่วงเกิน(ทางจิต )
    4.ต้องใช้จิตสำนึกดำเนินชีวิต ก็มี
    - คิดก่อนคิด
    - คิดก่อนพูด
    - คิดก่อนทำ
    5.มีมหาสติทุกขณะจิตในชีวิตประจำวัน(ธรรมชาติสมาธิ)
    - ต้องรู้สติ (รู้ว่าเราทำอะไรมา)
    - ต้องมีสติ (รู้ว่ากำลังทำอะไร)
    - ต้องใช้สติ (รู้ว่าต่อไปจะทำอะไร)
    ท่านที่รัก
    สาเหตุที่ทำให้คนเราที่เคยเป็นคนดี เปลื่ยนเป็นคนไม่ดีนั้น..
    ไม่ใช่แค่เพียง เงิน หรือ ความรวยเท่านั้นหรอก แท้ที่จริงแล้ว สิ่งที่เป็นเหตุให้คนเปลื่ยนไปในทางไม่ดี คือ - กิเลส
    - ตัณหา
    - อารมณ์
    - ความไม่รู้ หรือ ความโง่
    กิเลส หมายถึง
    อาการสั่นสะเทือนของจิตที่เรียกว่า "ความรู้สึกในทันทีที่ได้สัมผัสรู้ดูเห็นสรรพสิ่งใดๆ หรือเรื่องราวใดๆก็ตาม เช่น ชอบหรือไม่ชอบ เอาหรือไม่เอา ดีหรือไม่ดี(ในมุมของความรู้สึก)และอื่นๆๆ
    ตัณหา..หมายถึง....
    ตัณหา หมายถึง..
    ความอยากและความไม่อยาก อันเกิดจากการยึดติดในอัตตาของสรรพสิ่ง เพราะ หลงในรูปธรรมมายา ด้วยเข้าใจผิดคิดว่าเป็น แก่นแท้ ของสรรพสิ่งนั้น

    อารมณ์ หมายถึง
    อาการของจิต ที่สั่นสะเทือนขึ้น เพื่อจะทำให้กิเลสและตัณหาของตน ได้รับการตอบสนองอย่างเป็นรูปธรรม ในลักษณะของ
    - โทสะ
    - โลภะ
    - โมหะ
    และ ราคะทั้งปวง..
    ความไม่รู้(ความโง่) หมายถึง..
    ความเข้าใจผิด
    คิดผิด
    หลงผิด
    เพราะไม่พึ่งพาสติปัญญาของตนเอง
    แต่ไปพึ่งพาความรู้ที่ไม่ถูกต้อง และหรือไปพึ่งพาความจริงที่ไม่จริงของผู้อื่นเข้า..
    สาเหตุคร่าวๆเหล่านี้ต่างหาก..ที่มันทำให้คนเปลื่ยนไป
    และในกรณี ที่ว่า พอรวยแล้วเปลื่ยนไปนั้น ความโลภกับความหลงในความร่ำรวยของคนเองนั้นนั่นเอง ที่ทำให้เขาคนนั้นเห็นแก่ตัวมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะได้รู้แล้ว ว่า รวยมันดีกว่าจน ก็เลยอยากรวยมากขึ้น
    อาจจะเป็นเพราะว่า กลัวจนอีก คือ ไม่อยากจนจึงงกมากขึ้น หรือ อาจเป็นเพราะว่า กลัวจะทำให้รวยกว่าเดิมไม่ได้ จึงของงกเอาไว้ก่อน....
    ท่านที่รักทั้งหลาย
    เพราะคนส่วนใหญ่ยังยึดติดในอัตตาของตนและสรรพสิ่งนี่เอง..จึงละวางกิเลสปฏิเสธตัณหาราคะ และขจัดความไม่รู้หรือความโง่เขลาของตัวเองไม่ได้ ต่างจึงไม่อาจเข้าถึง ปัญญาแทนการใช้กิเลสตัณหาดำเนินชีวิตประจำวันได้ วันๆจึงได้แต่หมุน กรรมจักร แทน ธรรมจักร
    ก็เลยนำพาจิตวิญญาณแก่นแท้ของตนหลุดพ้น ตามที่พระพุทธองค์ทรงสื่อสอนว่า ให้นิพพาน
    กันยังไม่ได้ เพราะว่า เป็นคนดียังไม่พอ
    วันนี้รบกวนแค่นี้ครับ ขอสมสุขสมหวังจงบังเกิด กับทุกท่านที่ ได้ตัวรู้ ทั้งหมดที่เขียนมาสองสามวันแล้ว อ่านดีๆ มีตัวรู้มากมายๆๆๆๆ สาธุ รู้ว่า นี่คือ อะไร เป็นอะไร คืออย่างไร สาธุๆๆๆๆ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...