โรคภัยไข้เจ็บ อันเกิดจากการนั่งสมาธิ / การฝึกจิต / การฝึกพลัง

เรื่องที่คุณโอมถามถึงอาการกระดูกสันหลังเคลื่อนนั้นเป็นมา 8-9 ปีแล้วค่ะเป็นที่กระดูกสันหลังส่วนบั้นเอวต่อกับกระดูกสันหลังส่วนก้นกบค่ะ ตอนแรกที่เป็นถึงขนาดขาอ่อนแรงเกือบเดินไม่ได้ หมอจะให้ผ่าตัดค่ะแต่เราปฏิเสธไปเพราะคิดว่ามันไม่ชอบมาพากลเนื่องจากอยู่ดีๆก็มีอาการและผลการตรวจเมื่อเทียบกับอาการแล้วดูไม่ค่อยสอดคล้องกันเท่าไหร่นักค่ะตอนนั้นก็เลยทำกายภาพบำบัดอยู่ 1 เดือนค่ะอาการก็ค่อยๆดีขึ้นจนกลับมาเดินได้เป็นปกติ ตอนนั้นตัวเองคิดอยู่ตลอดเวลาว่านี่คงเป็นเศษกรรมหรือผลกรรมที่เราต้องชดใช้(เพราะตอนที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลช่วงที่ปวดมากๆจิตเราบอกตนเองว่าเราเคยตีสุนัขจนหลังหัก) จึงอธิษฐานจิตว่าหากสังขารของเรายังมีประโยชน์กับเพื่อนมนุษย์ก็ขอให้เราสามารถใช้สังขารเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อไปโดยเราขอชดใช้กรรมเพียงแต่อย่าให้ต้องทุกข์ทรมานจนถึงขั้นต้องเป็นภาระกับคนอื่นเลย ปัจจุบันก็ยังต้องทรมานกับอาการปวดหลังเป็นระยะๆค่ะ แต่ก็เพียงแค่ทรมานไม่ถึงขั้นต้องเป็นภาระใครจริงๆ
ส่วนเรื่องอาบน้ำอุ่นจะพยายามเปลี่ยนค่ะ ยอมรับว่ากลัวมากจริงๆ เพราะแม้กระทั่งอาบน้ำธรรมดาในช่วงที่ไม่ใช่หน้าหนาวก็จะรู้สึกปวดศีรษะมากเคยปวดจนหมดสติเลยค่ะ ตำแหน่งที่ปวดมากๆก็คือบริเวณหน้าผากตรงหว่างคิ้วกับบริเวณท้ายทอย(เหนือต้นคอประมาณ3นิ้วค่ะ)
อาการวันนี้ยังรู้สึกร้อนแผ่นหลังเหมือนเคยค่ะแล้วก็มีน้ำตาไหลเยอะมากจนถูกแซวว่าร้องไห้เพราะไม่อยากอาบน้ำ อีกอาการหนึ่งที่เป็นตอนนี้คือรู้สึกร้อนบริเวณช่องหูค่ะ ร้อนผ่าวตลอดเลยค่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ เกิดมา 27 ปี ผ่านอะไรมาก็มาก ทนอะไรมาก็เยอะ เรื่องแค่นี้คงเป็นบทพิสูจน์ความอดทนอีกบทหนึ่งของเราค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและความกรุณาค่ะ

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

ผมตอบเมลล์แล้วนะ อ่านดู

ช่องหูร้อน คือ กุณฑาลิณี กำลังชำระระบบจักร6 ที่ช่องหู

การอาบ ฯ ให้เริ่มจากการอาบน้ำ ที่อุณหภูมิห้อง


โดยไปเดิน เล่นๆ แกว่งแขนธรรมชาติ หายใจสองจุดคือ ลิ้นปี่ กับปลายจมูก วนสองจุดนี้


ต่อไปนี้ .... อาการที่จะหมุนเวียนเปลียนไป ทีแสดงออกทางกาย
จะบอกอะไรอีกหลายอย่าง ภายใน 3 อาทิตย์นี้


อย่าลืม หาบทสวดฯ ที่ชอบ คือ สวดแล้ว ใจสบาย ขนลุก หรือปิติซาบซ่าน

ความสั้นยาว ไม่จำกัด ( เพียงแค่เรานึกถึงบทนี้ ก็ปิติได้ )


ให้ทำบุญ ปล่อยกบเป็นๆ บ่อยๆ ตามกำลัง ก็ดี

 

ขอบคุณมากๆค่ะ

ขอบคุณมากในความกรุณาอธิบายยาวๆ กระจ่างเลยค่ะ ตอนนี้รายงานนะคะ
2วันมานี้ปวดในหู ขณะนี้ก็ปวดข้างซ้ายอยู่(ความรู้สึกเหมือนเราแคะหูแล้วโดนแก้วหู)ข้างซ้ายเป็นมากกว่า ขี้ตาเยอะ และเสียวฟันมาก นี่นั่งพิมพ์ยังเสียวฟันหน้าอยู่เลย เมื่อวานเคี้ยวข้าวไม่ค่อยใด้เลย ตอนเดิน ขนลุกเย็นซ่าแป๊ปเดียวบริเวณเหนือไบหูขวา แล้วหายไป พยายามนึกเท่าไรก็ไม่ปรากฏอีกเลย(วานซืนตอนเย็น) อาบน้ำเสร็จชามากบริเวณหน้าผากเป็นนาที กินยาเขียวเสร็จยังไม่หายเลย คิดจะถวายผ้าไตรจีวรครบชุดอยู่ค่ะ คงต้องไปเสาชิงช้า หาเนื้อผ้าดีๆ
ขอบพระคุณ คุณโอมที่ให้กำลังใจ และสอนสิ่งดีๆ ขออนุโมทนาในกุศลจิตด้วยค่ะ;aa8

 

ooooooooooooooooooooo

พระพุทธรูปปางพระพุทธชินราช หน้าตัก 5 นิ้วขึ้นไป เอาแบบเรซิ่นก็ได้

จะได้ไม่แพงเกินไป

 

ขอบคุณคุณโอมค่ะ วันนี้มาเล่าความคืบหน้าให้ฟังค่ะ

รู้สึกว่ายาเขียวกินยากจังค่ะ 1 ซองมีตั้งหลายเม็ด แถมต้องกินตั้ง 3 อาทิตย์ ชักท้อแล้วนะเนี่ย

หลังกินยาเขียวยังมีอาการพะอืดพะอมอยากอาเจียนเหมือนเดิม รู้สึกปั่นป่วนในท้องตลอดเวลา เรอเยอะมากเหมือนคนมีแก๊สในกระเพาะ(พอดีเป็น GERD อยู่ด้วยล่ะ) น้ำลายออกเยอะตลอดเลยค่ะ

วันนี้มีอาการหนักเปลือกตามาก แล้วก็เวียนหัวด้วย(ซึ่งอาการเวียนหัวแบบ vertigo นี้ก็เป็นโรคประจำตัวเดิมอยู่เหมือนกัน)
ช่วงนี้อาบแต่น้ำอุ่นค่ะ เนื่องจากอากาศหนาวมาก แค่นี้คนที่บ้านก็ต้องเป็นกังวลตลอดเพราะหลังอาบน้ำจะมีอาการแน่นหน้าอก หอบ ต้องพ่นยาทุกวัน(นี่ก็โรคเดิมอีกนั่นแหละ) แล้วก็มีอาการไอมา 6 สัปดาห์แล้วค่ะ
ระหว่างคงยังรักษาแบบ full course ไม่ได้ค่ะ

เรื่องปล่อยกบจะพยายามนะคะเนื่องจากเป็นคนกลัวกบมากๆ ค่ะขนาดเดินผ่านที่ตลาดยังรู้สึกขนลุกตลอดเลยค่ะ(ว่าจะเอาไปนึกขนลุกตามที่คุณโอมแนะนำ) ตอนเด็กๆพี่เคยแกล้งโดยการจับมันใส่กล่องแล้วในเราเป็นของขวัญ เราไม่รู้พอเปิดกล่องมันกระโดดใส่ แม่เล่าว่าเราหยุดหายใจไปเลยค่ะ เขาไม่รู้จะทำไงก็เลยเอาเราจุ่มลงในโอ่งน้ำค่ะ (แค่คิดก็ขนลุกแล้วจริงๆนะ)

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


การอาบน้ำอุ่น , น้ำร้อน จะกดการทำงานของจักระ

ขนาดคนที่ตาที่สามเปิดมากๆ เจอเข้าไปยังเดี้ยงได้เลย
( ปริศนาอย่างหนึ่ง ของการบำเพ็ญ ณ ยอดเขาหิมาลัยอันหนาวเย็น
ของมหาเทวะ )

ที่หน้าให้เอาน้ำเย็นเช็ดบ่อยๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพจักร 6 ของคุณ
เมื่อกุณฑาลิณีพุ่งขึ้นมา คุณจะได้ไม่เวียนหัว มึนหัว

เอาผ้าชุบน้ำเย็น หรือ ผ้าเย็นๆ ลองเช็ดหน้าบ่อยๆ ที่ศีรษะด้วย แล้วดูการเปลี่ยนแปลง

ถ้าทานแบบเม็ดยาก แบบผงก็มี
ผมใช้ยี่ห้อ ตราปลาคู่ ในซองฟรอยด์ ซื้อเป็นกล่องจะถูกกว่าท้องตลาดกว่า30% เบอร์ติดต่อโรงงานคือ 034-391245 , 034-234524


จุดที่กระดูกสันหลังของคุณเคลื่อน ส่งผลให้จักระตั้งแต่ 3 ขึ้นไปเสียหาย
โรคภัยที่เป็นปัจจบัน เกี่ยวพันกับจุดนี้ทั้งนั้นเลย

โรคกรดไหลย้อนของคุณ พอกรดหลั่งออกมามาก เพราะจักร3 เสียหาย
ก็สามารถไหลผ่านมาถึงคอได้ เพราะ จักร สี่ มีการทำงานด้อยลงกว่าเดิมด้วย

การให้ฝึกหายใจสองจุด ที่ปลายจมูก+ลิ้นปี เพื่อกระตุ้นการทำงานของจักรสี่
ขึ้นมาถึงจักร หกนะ แต่ จำไว้ หาทางให้ใบหน้าและหัวอยู่ในสภาพเย็นกว่านี้ให้ได้ เพื่อให้กุณฑาลิณี รักษาตัวคุณเองได้ดีขึ้น


การปล่อยกบ เพื่อสร้างกรรมดีใหม่ไปช่วยคานบางเรื่อง...
ถ้ามีโอกาสร่วมทำบุญซ่อมพระ ซ่อมอุโบสถ ซ่อมเจดีย์ ให้ร่วมกับเค้า แล้วกรวดน้ำด้วยศรัทธาแรงกล้า ให้มีผลต่อการซ่อมแซมโครงสร้างร่างกายเพื่อการทำหน้าที่ สร้างบารมีแก่ตนและ ทุกชีวิต

 

คุณโอมคะ
ถ้าทำบุญด้วยยารักษาโรคจะดีไหม?
กรวดน้ำด้วยศรัทธาแรงกล้าว่าขอขอให้ผลบุญที่ลูกทำจงอุทิศแก่เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณ และส่งผลให้ลูกมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัย ย่างนี้ใช่ไหมคะ? (ปกติกรวดน้ำไม่เคยอุทิศให้ตัวเองเลย)
มีข่าวดีคืบหน้าค่ะ บังเอิญได้ไปเจอขาขมน้ำเต้าทอง 1 ซองมี 4 เม็ด บรรจุในฟรอยด์แบบยาเลยค่ะ ใช้ได้ไหมค่ะ ของเดิมที่กินอยู่ 1 ซองมีตั้ง 15 เม็ด วันหนึ่งต้องกินถึง 45 เม็ดเชียวค่ะ

 

คุณ AGELTK 229

ยาขม กดระบบจักระ กินแล้ว จะไม่ดีขึ้น
( อะไรดลใจ ป้อนข้อมูลให้สมองเนี่ย 555 )

ยาเขียว มีอะไรมากกว่าในตำรา

ถวายยารักษาโรค ให้แก่สงฆ์ที่อาพาธ เป็นมหาสังฆทานรวมยิ่งดี

นั่นเป็นบุญใหญ่

แต่ที่บอกไปก่อนหน้านี้ .... มีเหตุผลที่อธิบายไม่สะดวกในตอนนี้

การกรวดน้ำ อุทิศบุญ ให้เจ้าบุญนายคุณ เจ้ากรรมนายเวร จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทุกรูปนามที่ดูแลรักษา ทุกรูปนามที่เกี่ยวพันกัน จงอโหสิกรรม
และให้กับสังขารที่มาครองนี้ ได้บำเพ็ญบุญบารมีสัมมาทิฐิมากยิ่งขึ้น

 

คุณโอมคะ
จริงๆด้วย พออ่านข้อความคุณโอมแล้วตกใจและใจสั่นมากเลยค่ะ ตอนที่เจอยารู้สึกดีใจมากที่จะได้ลดจำนวนเม็ดต่อง 1 มื้อลง ซื้อมาตั้ง 10 ห่อ กะพอกินอีก3 วัน แถมสอบถามราคามาอย่างดีว่าหากซื้อยกกล่องจะถูกกว่าเยอะหรือเปล่า พิศวงในความไม่รอบคอบของตนเองจริงๆ ถ้าแจกยาผู้ป่วยแล้วสะเพร่าแบบนี้คงแย่แน่ๆ

คุณโอมหัวเราะอย่างสะใจเชียว

เรื่องถวายยาให้พระสงฆ์ทำอยู่เป็นประจำค่ะ

ส่วนบางเรื่องที่ไม่สะดวกจะอธิบาย ไม่เป็นไรค่ะ ลิขิตสวรรค์จะเปิดเผยได้ก็เมื่อถึงเวลา

 

สวัสดีค่ะ
อาบสูตรพิเศษวันที่6-7
หลังอาบยังมีอาการสั่นๆๆหนาว....
หายใจเข้าออก...มีขนลุกที่ตัวค่ะ
ระหว่างเดิน...แสบตา
เจ็บหลังหู....ยังมีลมที่หู
หนักหัวนิดหน่อยค่ะ
ระหว่างวัน..มีอาการเสียวฟัน
เวลาพูดยังไอๆ
หน้ามีผื่นผดกระจายทั่ว
ไม่ลืมหายใจเร็วช้าสลับกันไปค่ะ


ช่วง2วันมาเริ่มฝึกทานเจ(เขี่ย)ค่ะ
แล้วเวลาดื่มน้ำเปล่าที่แช่เย็นจะรู้สึกเย็นที่ในท้อง
ที่หลัง...นานกว่าปรกติ
กับเสียวฟัน...

 

ฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ

การอาบน้ำสูตรพิเศษ ที่ผมให้คุณอภิญญ์นี้

ไม่ใช่น้ำแข็ง แต่เป็นน้ำที่อุณหภูมิห้อง ผสมด้วยตัวยาบางอย่าง
แต่ อาบแล้ว กลับเย็น หนาวลึกลงกระดูก แสดงว่า
มีสิ่งแอบแฝง เป็นพลังงานที่เป็นโทษ หรือ จิตวิญญาณอยู่จริง

ขอให้เชื่อมั่นปฏิบัติไป

อาการเสียวฟันมีอยู่ แสดงว่า กุณฑาลิณีและยาเขียวทำงานร่วมกันได้ดี กำลังซ่อมระบบประสาทที่จักรห้า อยู่ครับ

หน้ามีผดผื่น แสดงว่า พลังที่เป็นโทษ หรือ จิตวิญญาณที่แฝงทีจักรหก ถูกขับออกมาได้แล้วบางส่วน



ผมยินดีมาก และชื่นชม ที่สตรีเช่นคุณเข้มแข็งกว่าผู้ชายอกสามศอกหลายคน อดทน รักษาตนและพยายามฝึกฝน เพื่อให้ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนได้นานขนาดนี้

 

เมื่อวานตอนเย็น ออกเดิน รู้สึกปิติซ่านขึ้นไปตั้งแต่ท้ายทอย คือศีรษะด้านหลังทั้งหมด (ไม่ใด้นึกอยู่ๆก็เกิด)ดีใจจริงๆค่ะ เพราะไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อนเลยตั้งแต่เริ่มเดิน มีกำลังใจมาก หรือเป็นเพราะสูตรใหม่เขาช่วยเร่งคะ

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

ทุกเหตุปัจจัย

โดยเฉพาะ ความเพียรของพี่เองครับ


โมทนา และยินดีด้วยครับพี่

 

ส่งข่าวค่ะ
เมื่อวานตอนเย็นหลังจากปล่อยไก่ไป 1 เล้า ก็อาบน้ำและกินยาเขียวค่ะรู้สึกเย็นมากๆค่ะโดยเฉพาะในกลางอก บริเวณหน้าเหมือนมีเข็มทิ่มเต็มไปหมดเลยค่ะ จากนั้นก็กินยาเขียว(ไม่ใช่ยาขมนะ)แล้วก็กำลังจะเข้านอนค่ะเปิดบทสวดชินบัญชรฟังด้วยค่ะเพราะว่าอยากสวดได้แต่ไม่เคยสำเร็จ ผ่านไปประมาณ20 นาทีก็มีอาการใจสั่นค่ะเหมือนคนจะเป็นลม ทั้งที่อากาศหนาวมากแต่ก็มีเหงื่อออกเต็มตัวเลยค่ะ (ตอนนี้เลิกฟังบทสวดแล้วล่ะ) ก็นอนดูสังขารตัวเองต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ ผ่านไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่ดีขึ้น ก็มีเหตุการณ์ระทึกขวัญเกิดขึ้นตามมาค่ะ คือมีเลือดไหลออกจมูก(เลือดกำเดา)ข้างซ้ายค่ะก็รูสึกตกใจนิดๆแต่ก็คิดว่าคงเป็นเพราะอากาศเย็น ออกไม่เยอะค่ะคิดว่าน่าจะประมาณ 5 ซีซีเห็นจะได้ จากนั้นก็รู้สึกร้อนบริเวณตั้งแต่ปลายกระดูกก้นกบขึ้นมาจนถึงบั้นเอวค่ะ จริงๆอาการร้อนเกิดขึ้นพร้อมๆกับที่มีเลือดกำเดาไหลเลยค่ะ อาการร้อนเป็นอยู่ตลอดเวลาจนหลับไป
เช้าวันรุ่งขึ้นก็กินยาเขียวแทนซีเรียลมื้อเช้า หลังกินไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็มีอาการเรอบ่อยเลยค่ะรู้สึกขมคอมาก จากนั้นก็ไปกินกาแฟค่ะพอกินกาแฟเข้าไปก็รู้สึกพะอืดพะอมมากค่ะ สุดท้ายก็อาเจียนออกมา กลิ่นยาเขียวตอนอาเจียนนี่ช่างบาดใจเหลือเกินค่ะแต่แล้วก็ผ่านเช้านี้ไปได้
ตกบ่ายก็กินยาเขียวแทนมื้อน้ำชาไปอีก 1 ซอง(ยังกะ coffee break)หลังกินได้ประมาณ 1 ชั่วโมงอยู่ดีๆก็มีอาการเจ็บบริเวณลิ้นปี่ ร้าวออกไปที่กะบังลมทั้ง 2 ข้าง มันเป็นความปวดที่ทรมานมาก ปวดจนตัวสั่นเหงื่อแตกเต็มไปหมด ก็เลยพยายามหายใจลึกๆ แต่ก็ทำไม่ได้ค่ะ เหมือนลมหายใจหยุดอยู่แค่กลางอกไม่ถึงลิ้นปี่ด้วยซ้ำ เป็นประมาณ 2- 3 นาทีค่ะ และแล้วอาการก็หายไปเป็นปลิดทิ้งเลย พอหายใจอาการร้อนที่หลังก็กลับมาใหม่ค่ะแต่คราวนี้เริ่มร้อนจากก้นกบขึ้นมาถึงบ่าค่ะ มันเป็นความร้อนแบบอุ่นๆค่ะ
ใกล้ถึงเวลาที่ต้องกินยาเขียวอีกแล้ว ท้อจังไม่รู้คราวนี้จะเจออะไรอีก หวังว่าคงไม่มีใครถึงตายเพราะกินยาเขียวใช่ไหมคะ ถ้าใช่จะได้ลองสู้กับเวทนาดูสักตั้งหนึ่งค่ะ

 

ฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ


..........................อย่าท้อนะ กำลังได้ผล.....................




ตอนแรก กุณฑาลิณี พุ่งขึ้นมาถึงเอว

แล้วชะงักชั่วคราว เพราะ คงจัดการกับ รอยเคลื่อนของข้อต่อกระดูก ที่เคยเป็น

ดีแล้ว ที่ตอนนี้ ทะลุขึ้นไปถึงข้างบนได้



อาการที่เหมือนเข็มทิ่มออกหน้า คือ กุณฑาลิณีและยาเขียว... ขับดัน สิ่งที่แฝงตรงจักระ 6 ออกมาบางส่วนนะ ดีแล้ว



กาแฟ ถ้างดได้ก็งด โดยเฉพาะกาแฟรสขม ถ้าเป็นกาแฟรสอ่อน หวาน มัน ทานได้ ห้ามกาแฟดำ ขมๆนะ กดระบบจักระ ร่างกายจะไม่ดี ดีแล้ว ที่ยาเขียวขับเจ้ากาแฟ ให้อาเจียนออกมา ^^



....แหม อยู่กับยาสมัยใหม่มาตั้งนาน กลัวยาแผนโบราณที่ทันสมัย ซะละ

555
สู้ต่อไป ไหมครับ............

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


ทานยาเขียว ระหว่างวัน เป็นทุก สามหรือสี่ ชม.ก็ได้ถ้าอยากให้หายเร็ว ( เข้าใจเรื่องรักสวยรักงามของสตรี ^^ )

..นี่เป็นสิ่งที่ฝังที่คอคุณมานานส่วนหนึ่งนะ ออกมาละ...

 

สู้ค่ะ อย่างน้อยก็คิดว่าชีวิตเรายังมีประโยชน์ต่อผู้อื่นได้อีกมากมาย มันคงไม่ถึงตายหรอกค่ะ ก็ดีเมือนกัน เหมือนได้ดูละครชีวิตอีกเรื่อง ฝึกขันติ ฝึกอุเบกขา ฝึกมรณานุสสติ ถ้าผ่านไปได้มันจะเป็นตำนานอีกเรื่องที่เก็บไว้ให้ตนเองภาคภูมิใจว่าเราก็สามารถผ่านเรื่องที่เล็กๆในสายตาคนอื่น แต่ยิ่งใหญ่สำหรับเราไปได้ ถ้าตายเพราะยาเขียวจริงๆ ก็จะเป็นตำนานให้คุณโอมเอาไว้เล่าให้คนอื่นฟัง

บทสวดที่ท่องแล้วขนลุกคงเป็นคาถามงกุฏพระพุทธเจ้าค่ะ ท่องเป็นประจำ ใช้กำกับใจยามฟุ้งซ่านได้เป็นอย่างดี

 

บางท่าน กุศลกรรม หรือ บุญมาก สามารถอาบผ่านครบเจ็ดวัน แล้วอาการที่ทรมานอยู่หายเลย

ความรู้นี่จะติดไป ถ้าท่านติดขัดเมื่อไร เอามาใช้เลย




บางท่าน ต้องอาบฯและทานยาเขียวนานหน่อย ต้องต่อสู้กับความรู้สึกต่อต้านลึกๆข้างใน( จิตที่แฝง) แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี สุขภาพแข็งแรงขึ้น แม้ไม่หายขาด

บางท่าน เจ้ากรรมนายเวร พาหนีไปเลย
( เราก็ต้องอุเบกขา ก้าวก่ายไม่ได้)


ฯลฯ


อยากให้ทุกท่าน ทำบุญ ทำกุศล ภาวนา ให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มกำลังบุญ
ในการรักษา

ขอให้ทุกท่านเป็นสุขทั้งกาย และ ใจ ครับ