ให้บูชาวัตถุมงคลประจำปี ๒๕๖๖

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย phumiput, 9 มกราคม 2023.

  1. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,750
    ค่าพลัง:
    +16,580
    รายการฝาก
    ให้บูชาเหรียญพระราหู ลงยาดำ เนื้อทองทิพย์ หมายเลข ๒๕๙๙๗ ของ วัดศรีษะทอง นครปฐม
    สำหรับรุ่นนี้พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน ได้เข้าร่วมอธิษฐานจิต ปลุกเสกเหรียญเมื่อ วันพุธที่ ๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓
    รายชื่อพระเกจิที่เมตตาอธิฐานจิตปลุกเสกเหรียญพระราหู รุ่นสุริยันจันทรามีรายชื่อ ดังนี้
    1.พระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ สมุทรสงคราม 2.หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม 3.หลวงพ่ออ่าง วัดสว่างอารมณ์ นนทบุรี 4.หลวงพ่อเพ้ง วัดหอมเกร็ด จ.นครปฐม 5.พระมหากาเหว่า เจ้าอาวาสวัดศีรษะทอง จ.นครปฐม 6.หลวงปู่นน สำนักสงฆ์เขาพรานธูป จ.ประจวบ 7.ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน
    8.พระมหาจำนงค์ วัดท่ากระบือ จ.สมุทรสาคร 9.หลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ จ.สมุทรสงคราม 10. พระอาจารย์ เล็ก วัดท่าขนุน
    พระเกจิสายภาคอีสาน
    1. หลวงพ่อหนุน วัดพุทธโมกพลาราม สกลนคร 2. พระครูวิบูลย์กิตติสาร วัดหนองสมบูรณ์ 3. พระครูกัลยาณพัฒนกิจ วัดโคกขามป้อม 4. หลวงพ่อสมชาย วัดสันติวนาวาส 5. พระอาจารย์ซิง วัดไตรมิตร นครพนม
    6. พระอาจารย์นิยม วัดบ้านโสกน้ำขุ่น นครราชสีมา 7. พระอาจารย์ทอง วัดป่าโนนวิเวก อุดรธานี 8. พระอาจารย์สำรวย วัดหนองแวง มหาสารคาม
    สำหรับพระราหูรุ่นนี้ ต้องถือว่าเป็นรุ่นพลิกชีวิตด้วย เพราะพระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุนได้นำเหรียญสมเด็จพลิกชีวิตเนื้อทองคำเข้าพิธีนี้ ท่านได้กล่าวในเก็บตกบ้านเติมบุญเดือนมีนาคม ๒๕๖๓ ว่า
    ถาม : หัวรุ่งเช้าวันที่ ๕ หลวงพ่อกวยท่านมาบอกให้เอาตำราใหญ่ของท่านไปด้วย แต่ผมขี้เกียจหอบไป เพราะคิดว่า "เฝือ" ไม่คิดว่าจะตรงกับที่หลวงพ่อบอก ว่าท่านจะให้ขนาดนี้ ?
    ตอบ : ท่านมาเอง..ท่านเทมาหมดเลย ท่านบอกว่าทำอะไรได้ท่านให้หมดเลย เกิดจากประการแรกก็คือ ท่านตั้งใจช่วยจริง ๆ ประการที่ ๒ ก็คือ เรื่องของสมเด็จองค์ปฐม ถือว่าไม่มีอะไรเกินกว่านี้อีกแล้ว ท่านจึงเทให้หมดเลย
    อาตมาก็ว่าหมุนมาเป็นพายุ มีแต่อักขระเลขยันต์บินว่อนไปหมด
    ส่วนตอนปลุกเสกราหูที่วัดศีรษะทอง ด้วยความที่นำสมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิตเข้าไปด้วย พออาราธนาท่านเสด็จมาไม่มีที่นั่ง ก็เลยไปประทับนั่งอยู่บนเศียรพระราหูไปเลย เอาไว้มีโอกาสสร้างประทับพระราหูสักรุ่นดีไหม ? เพราะว่าพระองค์ท่านทำตัวอย่างให้ดูแล้ว

    ถือว่ารุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่น่าเก็บครับ สุดยอดมาก เรียกว่าพกพระราหูองค์นี้องค์เดียว อานุภาพครบเลยครับ (สำหรับความคิดผม ใช้แทนรุ่นแพง ๆ ได้เลยครับ)
    ให้บูชาองค์ละ ปิดรายการ จัดส่ง 40 จองได้สามว้นครับ
    IMG_5369.jpg IMG_5370.jpg IMG_5371.jpg IMG_5372.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2023
  2. rt5038

    rt5038 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,123
    ค่าพลัง:
    +2,612
    แจ้งโอนเงินบูชาเหรียญพระปัจเจกพุทธเจ้า (หลวงพ่อเงินล้าน) เนื้อทองทิพย์ จำนวน 2 เหรียญ
    ให้เรียบร้อยแล้วครับ
    รายละเอียดส่งไปที่ข้อความเรียบร้อยครับ.
    ขอบคุณครับ..


     
  3. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,750
    ค่าพลัง:
    +16,580
    ขอบพระคุณครับ จะจัดส่งให้พรุ่งนี้ครับ
     
  4. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,750
    ค่าพลัง:
    +16,580
    ให้บูชาธงนารายณ์ทรงฤทธิ์(นารายณ์ทรงครุฑ) ขนาด 3.5x8 นิ้วโดยประมาณ ของ วัดเขาวงถ้ำนารายณ์ ปี 66
    สำหรับข้อมูลของรุ่นนี้มีดังนี้

    ธงนารายณ์ทรงฤทธิ์นี้ ทางวัดเขาวงถ้ำนารายณ์ได้จัดสร้างขึ้นมาโดยมี หลวงตาวัชรชัย (พระครูภาวนาพิลาส เจ้าอาวาสวัดเขาวงถ้ำนารายณ์)ท่านได้ให้จัดสร้าง โดยมีพระแสงขรรค์ยอดฟ้าและตะกรุดนารายณ์ทรงฤทธิ์เข้าพิธีพร้อมกันด้วย พิธีพุทธาภิเษก วันที่ ๘ เมษายน ๒๕๖๖
    ครูบาอาจารย์ที่นิมนต์มาอธิษฐานจิต ดังนี้.
    ๑. พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร วัดจันทาราม(ท่าซุง) ๒. พระมหาสิงห์ วิสุทฺโธ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่
    ๓. พระราชสุวรรณเวที วัดสุวรรณคีรี ๔. พระครูสาครสิทธิวิมล วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ ๕. พระราชภาวนาพัชรญาณ วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ๖. พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน ลพ.เล็ก ๗. พระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ วัดจันทาราม(ท่าซุง) ๘. พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม วัดโพธิ์ลังกา ๙. พระครูปลัดสุริยัณ จนฺทวณฺโณ วัดป่าฉัพพรรณรังสี.
    โดยท่านพระครูปลัดสมนึก ได้อัญเชิญลูกแก้วจักพรรดิ วัดท่าซุง เป็นลูกแก้วองค์ประธานในพิธีพุทธาภิเษก


    หลวงตาบอกว่า เรื่องธงนารายณ์ทรงฤทธิ์ และตะกรุด จะบูชาไว้ตรงไหนนั้น ให้อธิษฐาน
    ถ้ารู้สึกอย่างไร ก็นำไปบูชาไว้จุดนั้น เพราะวิบากกรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนไว้ในบ้าน /หน้าบ้าน /บนโต๊ะทำงาน / ติดตัว ฯลฯ หลวงตาบอกว่าวันนี้ พิธีได้ผลเต็มที่ ป้องกันภัย คนประทุษร้ายก็ทำอะไรเราไม่ได้ และเรื่องลาภก็จะได้เต็มวาสนาที่ทำมา บูชาวัตถุมงคลไปแล้วอธิษฐานให้ดี วัตถุมงคลชุดนี้ที่ทำออกมา
    เป็นสายปราบก็จริง แต่วิธีใช้ วิธีอาราธนาไม่ไช่เพื่อไว้ทำลายหรือทำร้ายใคร "ให้ตั้งจิตเมตตาเป็นหลัก"
    เปรียบความว่า " วัตถุมงคลคือดวงอาทิตย์ ส่องแสงมายังโลก ไม่ได้เพื่อแผดเผาใคร ไม่ได้เพื่อต้องการทำให้ใครเป็นตาแดง แต่ผู้ที่มีโรคอยู่แล้วนั้น ไม่สามารถสู้แสงได้ดั่งคนเป็นโรคตาแดง เขาจะแพ้ของเขาไปเอง " กำลังของวัตถุมงมงคลชุดนี้นั้นมีมาก ใครจับแล้ว เกิดความอาฆาตต่อฝ่ายตรงข้าม ให้รีบเปลี่ยนความคิดเสีย วัตถุมงคลชุดนี้สร้างขึ้นมาเพื่อไม่ใช่จะไว้ทำลายใคร แต่ให้มีไว้เพื่อป้องกันตัว ปกป้องคนที่เราเห็นว่าควรปกป้อง


    1 ใน ครูบาอาจารย์ได้บอกกับลูกศิษย์ท่านว่า ฤาษีฯ มาเต็มถ้ำ พระอาจารย์หลายๆท่านพูดตรงกันว่า พิธีวันนี้ สว่างไสว กำลังเต็มที่ โล่งโปร่ง หลุดพ้นทุกอย่าง

    องค์พระนารายณ์ท่านมีฤทธิ์มาก เป็นสายปราบ และลาภเยอะ คุ้มครอง ป้องกันภยันตราย บันดาลให้สมปราถนาที่ขอ ท่านเคยบอกหลวงตาว่า หากเปรียบว่า พระพรหมเอราวัณ คือเศรษฐีในเมือง ท่านคือเศรษฐีบ้านนอก วัดเขาวงนี้ ในเรื่องการก่อสร้างต่างๆ พระนารายณ์ท่านเป็นองค์คุมลงมาทั้งหมด เพราะท่านเคยสร้างวัดนี้มาก่อน และคนเดียวที่จะสร้างต่อได้คือพระคุณหลวงตาเท่านั้น เพราะในอดีตเคยสร้างมาด้วยกัน
    คยมีคนเป็นหมันมาขอลูกที่ศาลนี้ หลังจากนั้นไม่นานก้ได้ลูก เรื่องเลื่อนยศตำแหน่ง เรื่องงาน ก็สมปราถนากัน หลวงตาท่านบอกว่าเรื่องคุ้มภยันตรายต่างๆ หากไม่เกินของกรรมแล้ว ก็คุ้มคนได้ทั้งคน คุ้มรถได้ทั้งคัน คุ้มบ้านได้ทั้งบ้าน แต่ห้ามขอเรื่อง ไม่ให้ได้ทหารเกณฑ์ เพราะจะได้ทันที


    คาถาอาราธนาพระนารายณ์ทรงฤทธิ์
    อุทธัง ครุโฑ เหฏโฐ เทโว
    พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สะระณัง อิติ (9จบ)
    อุทธัง ครุโฑ = เบื้องล่างคือครุฑ
    เหฏโฐ เทโว = เบื้องบนคือเทวดา
    พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สะระณัง อิติ = ดังนี้ เราจึงขอยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง

    รุ่นนี้พระอาจารย์เล็กได้กล่าวไว้ในเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๘ เมษายน ๒๕๖๖ ผมขอนำข้อความบางช่วงบางตอนมาให้อ่านกันครับ
    วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพวิ่งไปยังวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) หมู่ที่ ๕ ตำบลเขาวง อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เพื่อไปร่วมงานปลุกเสกวัตถุมงคลของทางวัดเขาวง โดยพระเดชพระคุณพระราชภาวนาพัชรญาณ วิ. (เจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เจ้าอาวาสวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) นิมนต์ไว้ โดยนิมนต์พระในสายลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงด้วยกัน มาร่วมงานในลักษณะเหมือนกับวันชุมนุมศิษย์เก่าวัดท่าซุงก็ว่าได้


    แม้กระทั่งวันนี้ก็เช่นกัน เมื่อท่านพระครูปลัดเอ๊ด (พระครูปลัดนิพพาน โชติธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) มาบอกกล่าวถึงกำหนดการแต่ละขั้นตอนว่าใครต้องทำอะไรบ้าง แต่พอเริ่มพิธีเข้าจริง ๆ แล้ว องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าชี้มาที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ผู้เป็นครูบาอาจารย์ และท่านมเหสักขาที่เป็นพี่ใหญ่ของพวกเราว่าไปจัดการให้ด้วย


    หลวงพ่อท่านลงมาชี้ไม้เท้าไปทีเดียว วัตถุมงคลทั้งหมดก็สว่างไสวไปทั้งกองแล้ว ตามมาด้วยท่านพี่มเหสักขาที่ดูแลเกี่ยวกับบรรดาวัตถุมงคลซึ่งเป็นพระนารายณ์ทรงครุฑ สัญลักษณ์ของวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์)

    เมื่อท่านจัดการเรียบร้อยก็บอกว่าให้ดำเนินการต่อได้ ก็คือให้ดับเทียนสัตตบริภัณฑ์ ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่าเทียนสำคัญในพิธีนั้นก็คือเทียนบูชาพระรัตนตรัย ซึ่งถ้าหากว่าเป็นทางภาคเหนือ จะเรียกว่าเทียนนวหรคุณ เทียนตรงนี้จุดบูชาพระรัตนตรัย แล้วหลังจากนั้นก็เป็นการจุดเทียนชัยในพิธี แล้วก็เป็นเทียนวิปัสสีซึ่งอยู่สองข้างของเทียนชัย ถ้าหากว่าไม่มีก็จะเป็นเทียนสัตตบริภัณฑ์ซึ่งล้อมรอบกองวัตถุมงคลอยู่

    เมื่อทำการดับเทียนสัตตบริภัณฑ์ พรมน้ำมนต์ โปรยดอกไม้แล้ว กระผม/อาตมภาพก็บอกกล่าวตามที่ครูบาอาจารย์ คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงสั่งมาว่า ให้คนอื่นทำน้ำมนต์ พรมในพิธีและโปรยดอกไม้เป็นพุทธบูชา ธัมมบูชา สังฆบูชาเสียก่อน หลังจากนั้นแล้วค่อยให้พระครูปลัดสมนึก โปรยน้ำอบน้ำหอมผ่านแก้วจักรพรรดิ โดยที่ท่านเองส่วนใหญ่แล้วก็มักจะระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดจนกระทั่งหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นหลัก

    แต่ว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า ให้ระลึกถึงท่านปู่พระอินทร์และท่านย่า ซึ่งเป็นเจ้าของแก้วทั้งสองดวงด้วย เมื่อโปรยน้ำอบน้ำหอมผ่านแก้วจักรพรรดิแล้ว ก็ไม่ควรให้ใครพรมน้ำมนต์ทับลงไปอีก


    ดังนั้น..ในวันนี้ก็เลยกลายเป็นว่ากระผม/อาตมภาพไปป่วนพิธีเขา จนกระทั่งผิดพลาดไปจากกำหนดการเดิมเสียมาก ต้องขออภัยต่อท่านเจ้าคุณหลวงตาและพระครูปลัดเอ๊ดไว้ ณ ที่นี้ด้วย

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ากำหนดการของเรานั้น ไม่ว่าจะกำหนดเอาไว้ดีขนาดไหนก็ตาม ก็ต้องขึ้นอยู่กับพระ หรือว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านจะสั่งว่าเอาอย่างไร กระผม/อาตมภาพกลายเป็น "ไอ้ตัวป่วน" ในพิธีมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ท่านต้องเข้าใจว่าคำสั่งของพระหรือครูบาอาจารย์นั้นถือเป็นเด็ดขาด ซึ่งตรงนี้เจ้าคุณหลวงตาท่านก็เข้าใจ แล้วก็มักที่จะบอกว่า "เอาตามที่แกเห็นว่าสมควรก็แล้วกัน"

    เมื่อทำพิธีเสร็จสรรพเรียบร้อย กราบลาออกมาทางด้านนอก ญาติโยมทั้งหลายจะใส่ย่าม แต่กระผม/อาตมภาพไปไหนไม่ค่อยจะนำย่ามไปด้วย จึงบอกกับญาติโยมว่า พวกเราทั้งหลายร่ำรวยพอแล้ว ให้ทำบุญกับบรรดาพระเถระที่ตามออกมาข้างหลัง ซึ่งจะปิดท้ายด้วยท่านอาจารย์บ๊ะ (พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม) วัดโพธิ์ลังกา

    แต่ปรากฏว่าท่านอาจารย์บ๊ะนั้นเผ่นตามกระผม/อาตมภาพออกมาติด ๆ กลายเป็นทั้งสองคนออกจากพิธีมาก่อนคนอื่นเขา ไม่ได้ไปนั่งเป็นเนื้อนาบุญ กระผม/อาตมภาพนั้นไม่อยากที่จะไปนั่งแล้วเสียเวลาตรงนั้นนาน เพราะว่าหนทางกลับวัดนั้นยาวไกลกว่าคนอื่นเขา แต่ว่าท่านอาจารย์บ๊ะนั้น กระผม/อาตมภาพเข้าใจว่าท่านจะออกไปหาที่สูบบุหรี่ ก็เลยฉวยโอกาสกลับวัดไปเลย ซึ่งตรงนี้เป็นอันว่าเรารู้กันอยู่ ต่างคนต่างขึ้นรถได้ก็เผ่นแน่บ..กลับไปวัดใครวัดมัน..!

    พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน ท่านได้กล่าวเกี่ยวกับนารายณ์ทรงครุฑ ของวัดเขาวงไว้ในเก็บตกงานกฐินวัดเขาวง-วัดถ้ำป่าไผ่ ( ๓๑ ตุลาคม-๑ พ.ย. ๕๒) ว่า (ขอนำข้อความบางช่วงบางตอนมาให้อ่านกันครับ)
    ญาติโยมทั้งหลาย..วันนี้เป็นงานเทวาภิเษกเทวรูปพระนารายณ์ทรงฤทธิ์
    เจ้าพ่อนารายณ์ทรงฤทธิ์นั้นเป็นใครที่ไหน ? เราไม่ต้องไปนึกถึง เรามานึกถึงในจุดที่ว่า ปัจจุบันนี้ท่านมีศักดิ์เป็นพี่ของลูก ๆ หลวงพ่อวัดท่าซุงทุกคน
    อาตมาขึ้นไปที่พระจุฬามณีเจดีย์สถานครั้งแรกในชีวิต เจอเทวดาองค์ใหญ่เท่าภูเขาเลย ท่านเฝ้าประตูอยู่ ถามท่านว่าชื่ออะไร ? ท่านบอกว่า "ชาวบ้านเรียกผมว่าพระนารายณ์ครับ แต่ท่านเรียกผมว่าพี่ก็พอ" ดังนั้น..ในเรื่องของเทวรูปพระนารายณ์ อาตมาเชื่อว่าทั้งประเทศไทยและอาจจะทั่วทั้งโลกด้วย คงไม่มีที่ไหนทำแล้วขลังเหมือนกับวัดเขาวง เพราะว่าท่านเป็นพี่ของอาตมาทั้งสามรูป (หลวงตาวัชระชัย หลวงพ่อเล็ก และหลวงพ่อสมปอง) ถึงเวลาพี่ก็จะต้องสงเคราะห์น้องเป็นปกติ และก็ต้องเผื่อไปถึงลูกหลานของน้อง ๆ ด้วย
    จริง ๆ แล้วเทวรูปเจ้าพ่อนารายณ์ทรงฤทธิ์เป็นของเก่าแก่ มีโยมที่เขามีจิตศรัทธาถวายให้คู่กับวัดเขาวงมาตั้งแต่ต้น ถ้าหากที่ใดก็ตามมีของศักดิ์สิทธิ์แบบนี้ การดูแลบริหารงานในสถานที่นั้น จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเฉพาะพระนารายณ์ท่านอยู่ในฐานะผู้ปราบ คำว่า ปราบ คือ ทำให้เรียบเสมอกัน ก็แปลว่าอะไรที่โผล่เกินมา ก็โดนทำให้ยุบราบลงไปเสมอกัน

    ผมมีอยู่ 5 ผืนให้บูชาผืนละ 250 เหลือ 4 ผืนจัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
    227632.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2023
  5. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,750
    ค่าพลัง:
    +16,580
    รายการฝาก เนื่องจากเจ้าของต้องการใช้เงินครับ
    ให้บูชาจตุราวุธ ของพระอาจารย์เอ บ้านสุมโน (เป็นการรวมอาวุธของท้าวมหาราชทั้งสี่ ไว้ในแบบเดียวกัน)
    ผมได้นำข้อความของรุ่นนี้มาจากเพจบ้านสุมโนมาให้อ่านกันครับ
    ประวัติการสร้าง “จตุราวุธ"
    (อาวุธท้าวมหาราชทั้ง ๔ รวมเป็น ๑)
    หลวงพ่อเอเมตตาเล่าว่า
    เมื่อประมาณ ๕ ปีที่แล้ว อาตมาฝันไปว่า ได้พบท่านท้าวเวสสุวัณ ประธานใหญ่แห่งท้าวมหาราชทั้ง ๔ ท่านบอกว่า จากนี้ไปอีกไม่นาน ท่านจะปลดเกษียณแล้วเข้าพระนิพพานกันหมด ในฝันอาตมารู้สึกใจหายเล็กน้อย จึงได้เรียนถามท่านว่า ถ้าท่านไปแล้ว ลูกหลานจะทำอย่างไร..? ท่านว่าท่านยังสงเคราะห์ได้อยู่ แต่จะไม่ใกล้ชิดเหมือนเมื่อก่อนเพราะหมดภาระหน้าที่แล้ว เรียนถามท่านว่า ถ้าลูกหลานต้องการความอนุเคราะห์จากท่านจะทำอย่างไรครับ..? ท่านว่า เอาอย่างนี้นะ หลังจากนี้ให้เธอทำอาวุธประจำกายของพวกฉันขึ้นมาทั้ง ๔ อย่าง เป็นองค์ครูไว้ก่อน ทำการเสกด้วยตนเองทุกวันตลอด ๑ พรรษาห้ามขาดแม้แต่วันเดียว หลังจากนั้น ให้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ท่านจะมาประสิทธิ์ให้อีกครั้ง และจะถือว่าเป็นตัวแทนแห่งท่านทั้ง ๔ องค์นี้ไปตลอดแม้ฉันจะหมดวาระก็ตาม เมื่อเวลาถึงพร้อม ให้เธอทำอาวุธทั้ง ๔ อย่างนี้ขึ้นมาโดยใช้องค์ครูที่ทำรอไว้แล้ว เป็นประธานเป็นสื่อในการเสกวัตถุมงคลที่จัดสร้างขึ้น จะทำรูปแบบใดเมื่อถึงเวลารู้เอง...! ให้ใช้ชื่อว่า “จตุราวุธ” เมื่อตื่นขึ้น จึงพยายามทบทวนความทรงจำทั้งหมดให้ได้ คิดเอาเองว่า ไม่เพียงแต่มนุษย์ที่ต้องใช้เส้นสาย เทวดาก็มีเหมือนกันนะเนี่ย การที่เรารู้จักมักคุ้น เป็นดั่งญาติการช่วยเหลือย่อมง่ายดายและสะดวก ซึ่งถ้าองค์ใหม่ที่มาประจำการเราไม่รู้จักหรือสนิทสนมด้วย การขอความอนุเคราะห์จากท่านอาจไม่สะดวก....
    เมื่อเป็นอย่างนั้น อาตมาจึงใช้นิมิตนี้เป็นการเริ่มโครงการ โดยขอให้อ.สุชาติช่วยปั้นแบบองค์ครูแห่งอาวุธท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ ชนิดขึ้นมา ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรนักปล่อยให้อ.สุชาติปั้นออกมาเอง เวลาผ่านไปไม่ถึงอาทิตย์ทุกอย่างสำเร็จเรียบร้อย หน้าที่ต่อไปเป็นของอาตมาที่ต้องเสกเองคนเดียวตลอดทั้งพรรษาไม่ขาดเลยสักวัน จนถึงงานพุทธาภิเษกเป่ายันต์เกราะเพชรที่วัดท่าขนุน ปี ๕๗ อาตมาได้อัญเชิญอาวุธทั้ง ๔ ชิ้นขึ้นประจำบายศรีตรงตามทิศทั้ง ๔ ในงานนั้น เป็นอันจบโครงการเบื้องต้น
    นับจากวันนั้นมาถึงปัจจุบัน สิ้นเวลาประมาณ ๕ ปี อาตมาได้รับการดลใจจากท่านว่าถึงเวลาแล้ว(จะเป็นเวลาอะไรนี้ไม่ทราบได้) ให้จัดสร้างอาวุธของท่านดังกล่าว ช่วงที่ไปรักษาตัวกับพระอาจารย์บ๊ะ ได้ปรารภเรื่องนี้ขึ้นมา และเล่าให้ท่านฟังคร่าวๆ ท่านชอบมาก และท่านเองเป็นคนออกแบบการรวมตัวของจตุราวุธเข้าด้วยกัน โดยให้ ตัวเป็นกระบอง ด้ามเป็นพระขรรค์ คอด้ามเป็นจักร พลองสั้นอยู่ข้างในแล้ว อีกทั้งตั้งชื่อให้ด้วย ท่านให้เรียกจตุราวุธ...! ยังความฉงนใจให้อาตมายิ่งนัก เพราะชื่อตรงกับสิ่งที่รู้มาทั้งที่ยังไม่ได้บอกพระอาจารย์บ๊ะเรื่องชื่อเลย สิ่งสำคัญที่สุดท่านเมตตาบอกว่าให้เอาแผ่นชนวนมาให้ท่านๆจะจารให้ทั้งหมด ยินดีช่วยเต็มที่ และยังช่วยอธิบายรายละเอียดของอาวุธแต่ละชนิดให้ฟังอย่างละเอียดตามที่อาตมาได้บันทึกไว้แถมยังบอกว่าสิ่งที่คุณพูดว่าจากนี้โรคแปลกๆจะมา หมอจะรักษาไม่หาย โรคคุณผี คุณคน จะมากมาย อันนี้คุณพูดถูกนะ โอ้โห...! ข้างบนเขาออนแอร์กันขนาดนี้เชียวหรือ มาคิดเองว่า คงถึงวาระจริงๆแล้วกระมัง เพราะทุกอย่างดูง่ายดายและลงตัวที่สุด(เรื่องภายในเป็นปัจจัตตัง ไม่ต้องเชื่ออาตมาก็ได้) ฟังกันต่อไป
    เมื่อนำแผ่นยันต์ทั้งของพระอาจารย์เล็ก พระอาจารย์บ๊ะ หลวงพ่อใจ และมวลสารทั้งชีวิตที่อาตมาเก็บสะสมไว้ตลอดทุกครั้งที่มีการสร้างพระ มาปรึกษาช่างๆรีบดำเนินการทั้งปั้นและหล่อองค์ต้นแบบให้เสร็จภายในเวลาอาทิตย์เดียว(จะเร็วไปไหมนี่) ธรรมะจัดสรรอีกแล้วสินะ...
    เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ตามที่ทุกคนได้เห็นแล้ว อาตมานึกในใจว่า แล้วจะเอามาทำอะไร ยังไง ในที่สุดท่านก็ดลใจบอกว่า ท่านจะทำบุญสร้างวัดเป็นอานิสงส์ ให้ออกเป็นบุญกฐิน ถึงยุคที่ต้องใช้แล้ว และจงให้เป็นของขวัญแก่สาธุชนเหล่านั้น....ดีงาม
    ดังนั้น อาตมาจึงได้จัดสร้างจตุราวุธขึ้น พร้อมบรรจุในซองหนังเรียบร้อย ให้เป็นของขวัญสำหรับผู้มีจิตศรัทธาสร้างบุญใหญ่ร่วมกับท่าน จะเห็นได้ว่า สิ่งที่อาตมาสร้างแต่ละอย่าง ไม่ใช่คิดอยากจะทำก็ทำตามอำเภอใจ ของทุกอย่างต้องมีที่มาที่ไป ถ้าไม่ใช่วาระ ไม่ใช่สิ่งที่ท่านสั่ง จะไม่ทำและทำไม่ได้ ถึงดื้อทำก็ไม่สำเร็จ ของทุกอย่างต้องดีที่สุดก่อนจะออกไปจากมือเรา พระอาจารย์บ๊ะพูดว่า คุณเหมือนกับผมตรงที่ จะทำอะไรไม่สุกเอาเผากิน เราจะต้องให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเขาเพราะเป็นของมงคล ต้องมีคุณค่าและสามารถใช้ได้จริง อาตมาจึงมีความยินดีและอนุโมทนากับทุกคนที่มีส่วนร่วมในบุญมหากุศลนี้ทุก
    หากจะกล่าวถึง ท้าวจตุโลกบาล หรือ ท้าวมหาราชทั้งสี่ ผู้เป็นเทวดาหัวหน้าของทิศทั้งสี่ นำโดย
    ท้าวเวสสุวรรณ ปกครองทิศเหนือ มีเหล่ายักษ์เป็นบริวาร อาวุธคู่กายของท่านคือ กระบองยาว
    กระบอง --> กันภูติผี ปิศาจ กันคุณไสย กันโรคภัย เป็นลาภเพราะกระบองท้าวเวสสุวัณเป็น เพชร
    ท้าวธตรฐ ปกครองทิศตะวันออก มีเหล่าคนธรรพ์เป็นบริวาร อาวุธคู่กายของท่านคือ พระขรรค์
    พระขรรค์ --> มีคม ๒ ด้าน มีปัญญาเฉียบแหลม เป็นมหาอำนาจ ตัดอุปสรรคและเคราะห์กรรม
    ท้าววิรุฬหก ปกครองทิศใต้ มีเหล่ากุมภัณฑ์เป็นบริวาร อาวุธคู่กายของท่านคือ พลองสั้น
    พลอง --> ค้ำชีวิตไม่ให้ตกต่ำ ให้มีแต่ดียิ่งๆขึ้นไป
    ท้าววิรูปักข์ ปกครองทิศตะวันตก มีเหล่านาคเป็นบริวาร อาวุธคู่กายของท่านคือ จักร
    จักร --> เป็นอำนาจ เป็นการประกาศแสนยานุภาพ โดยเฉพาะการป้องกันและปราบปรามอำนาจมืด สำหรับปราบ รวบรวมบริวาร
    คาถาบูชาจตุราวุธ จัตตาโรเตมะหาราชาสะมันตาจะตุโรทิสาทัททัลละมานาอัฏฐังสุ
    เรื่องราวคร่าวๆของท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ก็ประมาณนี้เเต่ถ้าจะให้เล่าอย่างละเอียดคงยาวยืดนิ้วล็อคเป็นเเน่ ที่อยากจะเล่าในตอนนี้คือ อาวุธของทั้งสี่ท่านที่ประกอบไปด้วย
    กระบองยาว พระขรรค์ พลองสั้น เเละจักร ซึ่งประมาณปี พ.ศ.๒๕๕๗ หลวงพ่อเอได้มีนิมิตรเกี่ยวกับท้าวมหาราชทั้งสี่ว่าท่านใกล้จะครบวาระหรือเข้าใจง่ายๆว่า ปลดเกษียณ หลวงพ่อเกิดความใจหายเพราะทั้งสี่ท่านเมตตาสงเคราะห์หลวงพ่อท่านอยู่บ่อยๆ ในนิมิตรนั้นท้าวเวสสุวรรณได้บอกให้หลวงพ่อสร้าง อาวุธประจำกายทั้งสี่ ขึ้น พร้อมทั้งให้หลวงพ่อเสกตลอดพรรษาสามเดือน ห้ามขาดเเม้เเต่วันเดียว
    หลวงพ่อท่านเล่าว่า บางทีทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน อยากพักก็พักไม่ได้ท่านคุมทุกวัน ต้องเสกทุกวันจนกว่าจะครบสามเดือน… อีกทั้งยังได้นำอาวุธทั้งสี่ไปอยู่ในต้นบายศรีงานพุทธาภิเษกเป่ายันต์เกราะเพชร ณ วัดท่าขนุน ปี ๕๗ โดยวางตามทิศที่ถูกต้อง ซึ่งตอนนั้นหลวงพ่อก็ยังไม่รู้ว่าทำ อาวุธทั้งสี่นี้ขึ้นมาเพื่ออะไร ท้าวเวสสุวรรณบอกเเค่ว่า เมื่อถึงเวลาจะรู้เอง…เเละเมตตามอบชื่อให้กับหลวงพ่อว่า จตุราวุธ
    เวลาผ่านไปจนถึงปี พ.ศ.๒๕๖๒ ที่ผ่านมา หลวงพ่อได้รับคำสั่งให้จัดสร้าง จตุราวุธ ขึ้น ช่วงที่หลวงพ่อไปรักษาตัวกับพระอาจารย์บ๊ะ ได้ปรารภเรื่องนี้ขึ้นมา และเล่าให้ พอจ บ๊ะ ฟังคร่าวๆ ท่านชอบมาก และท่านเองเป็นคนออกแบบการรวมตัวของจตุราวุธเข้าด้วยกัน โดยให้ #ตัวเป็นกระบอง ด้ามเป็นพระขรรค์ #คอด้ามเป็นจักร #พลองสั้นอยู่ข้างในแล้ว อีกทั้งตั้งชื่อให้ด้วย #ท่านให้เรียกจตุราวุธ...!
    ทำให้หลวงพ่อเเปลกใจมาก ว่าทำไมถึงเป็นชื่อเดียวกันทั้งๆที่ไม่เคยพูดเรื่องชื่อนี้กับท่านเลย ต้องบอกว่า ข้างบนเค้า ออนเเอร์ทะลุ 5G กันเลยทีเดียว
    พระอาจารย์บ๊ะยังเมตตาเขียนยันต์บนเเผ่นชนวนในการสร้างจตุราวุธ ผู้เขียนนั่งนับเเผ่นที่ท่านเขียน น่าจะเกิน ๑๐๐ เเผ่น เเละเเต่ละเเผ่นนั้นอักขระเลขยันต์ไม่ซ้ำกันเลยสักเเผ่น ยังจำได้ติดตราตรึงใจอยู่ ท่านผูกยันต์เป็นรูปอาวุธเเต่ละอย่างด้วย ทั้ง กระบอง พระขรรค์ พลองสั้น เเละจักร พูดได้คำเดียวว่า …สวดยวดเลยครัช
    หลังจากนั้นหลวงพ่อเอได้นำ จตุราวุธองค์ครู ทั้งสี่ชนิดมาทำความสะอาด เพื่อเตรียมไว้เป็นเหมือนเเหล่งพลังงานขนาดมหึมาที่จะกระจายออกสู่จตุราวุธที่กำลังสร้าง ผู้เขียนจำได้ดีเเม้จะผ่านมา ๑ ปีเเล้วก็ตามว่าในวันที่นำจตุราวุธองค์ครูออกจากกล่องกระจกมาทำความสะอาดนั้น พายุถล่มหนักมาก
    เอาเป็นว่าหนักขนาดว่า รถมอเตอร์ไซค์ปลิวถอยหลังบนสะพานพระรามสามกันเลยทีเดียว ตอนนั้นผู้เขียนขับรถอยู่บนสะพานพอดี ยังคิดว่า ลมอะไรขนาดนี้เนี่ย ต้องขับช้าๆเหมือนรถจะปลิวตามเหมือนกัน พอถึงบ้านสุมโนถึงได้เห็นว่า กำลังทำความสะอาดจตุราวุธองค์ครูอยู่ เล่าให้หลวงพ่อฟัง ท่านก็บอกว่านี่ไง เอาออกมาทีไรเป็นเเบบนี้ทุกที ขณะนั้นผู้เขียนได้เเต่สตั๊นท์ ว่าขนาดนี้เลยหรือนี่…
    ในวันที่พระอาจารย์บ๊ะมาเสกจตุราวุธที่บ้านสุมโน ท่านเสกอยู่นานทีเดียวเกือบชั่วโมงเห็นจะได้ ใครที่อยู่ในพิธีคงจำได้ดีว่า วันนั้นเกิดอะไรขึ้นไม่รู้ ข้างบ้านสุมโนดันก่อสร้างซ่อมเเซมวันนั้นพอดี มีทั้งเสียงตัดเหล็กเสียงเคาะ เสียงตอก ดังสนั่นหวั่นไหว ผู้เขียนเเอบนึกตำหนิในใจว่า ร้อยวันพันปีมันไม่ทำ ดันมาทำวันเสกส้ะนี่
    พอพระอาจาร์บ๊ะลืมตา คำพูดของท่านทำให้ผู้เขียนเเทบสำลักความง่าวของตัวเอง ท่านยิ้มเเล้วเล่าว่า ท่านขอท้าวมหาราชทั้งสี่เเสดงนิมิตให้เห็นเป็นรูปธรรมสักหน่อยเถิด ปรากฏว่า มีเสียงเลื่อยวงเดือนตัดเหล็กดัง เเชร๊ดดดดดด นี่คือนิมิตของจักร
    จากนั้นมีเสียงค้อนทุบผนัง โป๊กๆๆๆ นี่คือนิมิตของพลองสั้น ต่อจากนั้นมีเสียงอะไรสักอย่างกระเเทกพื้นอย่างดัง ตึ้มๆๆๆ นี่คือนิมิตของกระบองยาว ยังไม่จบเท่านั้น มีเสียงเลื่อยเหล็กด้วย อี๊ดๆๆ นิมิตของพระขรรค์ เป็นอันว่า ครบถ้วนกระบวนความเลยครับผม
    หลวงพ่อเอเคยปรารภกับผู้เขียนว่า “ถ้าเป็นเครื่องราง อันดับหนึ่งที่หลวงพ่อสร้างก็ต้องจตุราวุธนี่เเหละ”
    ที่สำคัญมีคนเคยถามว่า จตุราวุธเด่นด้านป้องกันอย่างเดียวหรือ
    พอจ บ๊ะเคยบอกว่า “อย่าลืมนะ กระบองยาว ที่เป็นอาวุธของ ท้าวเวสสุวรรณ เป็นเพชรทั้งองค์นะเว้ย เเล้วจะไม่มีลาภได้อย่างไร
    หลังจากนั้นหลวงพ่อยังได้นำ จตุราวุธทั้งหมด ไปเข้าพิธีพุทธาภิเษกเป่ายันต์ เกราะเพชร ที่วัดท่าขนุน เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม พ.ศ ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นพิธีเดียวกับ สมเด็จองค์ปฐม หน้าตัก ๕ นิ้ว อีกด้วย ในพิธีนั้นหลวงพ่อได้นำ จตุราวุธองค์ครูวางบนต้นบายศรีทั้งสี่ทิศอีกวาระหนึ่ง

    ที่สำคัญรุ่นนี้มีประสบการณ์เรื่องวิญญาณชงัดนัก ผมได้นำข้อความที่เกิดขึ้นกับพระอาจารย์เอและสมาชิกท่านนึงที่ลงประสบการณ์ไว้ในเฟสมาให้อ่านกันด้วยครับ
    จตุราวุธ
    ขออภัยที่ทำให้รอนานสำหรับเรื่องราวประสบการณ์ของจตุราวุธนะครับ
    จากตอนที่เเล้วผู้เขียนได้เล่าถึงที่มาการจัดสร้างเเละพิธีเสกของจตุราวุธให้พอได้ทราบกันบ้างเเล้ว มาถึงตอนนี้จะได้เล่าถึงประสบการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับคนที่ได้บูชาจตุราวุธไป ทั้งเล่ามาทางเพจ เกษมธรรมบำเพ็ญบุญ หรือเล่าให้ผู้เขียนฟังด้วยตัวเอง เเละทีเด็ดคือประสบการณ์จากหลวงพ่อเอด้วย…
    ขอเริ่มจากประสบการณ์ของหลวงพ่อเอก่อนเลย ครั้งท่านเดินทางไปทำธุระทางภาคเหนือ ผู้เขียนเคยเล่าไว้บ้างเเล้วในเรื่องเล่าข้างเก้าอี้ตอนที่๑๐ จะขอยกมาให้ท่านที่ยังไม่เคยอ่านได้อ่านกัน หลวงพ่อเอได้เมตตาเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า
    หลวงพ่อเดินทางขึ้นไปจังหวัดทางภาคเหนือ ก็เข้าไปที่พักเเห่งหนึ่ง เค้าจัดห้องพักไว้ให้อย่างดี ลักษณะของห้อง จะมีส่วนเเยกออกเป็นครัวมีประตูกระจกบานเลื่อนมองทะลุได้ พอเปิดประตูเข้าห้องมองไปที่หลังตู้เสื้อผ้าเห็นกล่องนมเปรี้ยว เเละกล่องน้ำผลไม้เจาะหลอดเรียบร้อยวางอยู่ เลยให้คนไปตามเเม่บ้านมาเก็บไป พอเเม่บ้านมาถึงก็ร้องว่า
    “ห้องนี้ปกติไม่เปิดให้พักเจ้าค่ะ พวกเราเอาไว้ไหว้ขอเลขกัน เค้าคงเห็นเป็นพระเลยเปิดให้ อย่างไรพรุ่งนี้เช้ามาบอกหวยด้วยนะเจ้าคะ”
    เเล้วเธอก็กุลีกุจอเดินออกไป
    อีหยังว่ะ…
    พอหลวงพ่อจัดของเสร็จกำลังจะนอนมองไปทางประตูห้องครัว เห็นหน้าของเด็กชายหญิงเเปะอยู่ตรงกระจก หน้าตาเเละการเเต่งตัวเค้าดูน่าสงสาร เเต่เข้ามาข้างในไม่ได้เพราะจตุราวุธวางอยู่ข้างๆ ที่รู้เพราะว่า ผีเด็กน้อยทั้งสอง ชี้มือมาทาง #จตุราวุธ เเล้วเเสดงความกลัวออกมา หลวงพ่อเลยส่งเค้าไปอยู่มีสุขขึ้น
    ผู้เขียนได้มีโอกาสได้คุยกับท่านเจ้าอาวาสวัดท่ามะขาม รูปปัจจุบัน ท่านบอกว่า ช่วงเเรกๆที่มาอยู่วัดท่ามะขาม ก่อนที่หลวงพ่อเอจะสร้าง อาคารปฐมา ท่านต้องสู้รบกับสิ่งที่มองไม่เห็น เเล้วจะทำให้ท่าน มีอาการปวดหัวหนักๆ เเละบ่อยๆ ท่านจะใช้ #จตุราวุธ นี่เเหละ ขออาราธนาบารมีครูบาอาจารย์เเล้ว นำมาเเตะที่ศีรษะ จะว่าบังเอิญก็ได้มั้ง อาการปวดหัวกลับทุเลาลง จนหายสนิท ทำให้ท่านพก จตุราวุธติดตัวตลอด…
    ถัดมาเป็นเรื่องของลูกเพจมาเล่าให้ฟังว่า เพื่อนของเค้าทำงานขับรถบรรทุกเเละจะต้องไปจอดรถ นอนในปั๊มน้ำมันเเห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือ ทุกครั้งที่จอดนอนตอนกลางคืนจะเจอ วิญญาณของผู้หญิงมาปรากฏตัวให้เห็นและมาหลอก เพราะว่ามาจอดทับที่ของเธอ ทำให้เค้าไม่ได้นอนเเทบทั้งคืน เป็นเเทบทุกครั้งที่มาจอดรถที่ปั๊มเเห่งนี้ ทั้งๆที่หน้ารถก็เเขวนพระเครื่องวัตถุมงคลเเต่ผีสาวก็ห้าวหาญหาได้เกรงกลัวไม่… คนที่เล่าให้ผู้เขียนฟังเลยบูชาจตุราวุธไปให้เพื่อนของเค้าลองดู ในอีกไม่กี่วัน เค้าก็ได้ไปจอดรถที่ปั๊มนั้นอีกเเละได้วาง #จตุราวุธ ไว้หน้ารถ พอได้เวลา…เธอก็มาตามนัด พี่เค้าเลยหยิบจตุราวุธขึ้นมา เท่านั้นเเหละ พี่เค้าเล่าว่า ได้ยินเสียง กรี้ดดดดด…! ดังลั่นเเละก็มั่นใจด้วยว่า เป็นเสียงของผีสาวตนนั้นเเน่นอน …หลังจากนั้นไปจอดรถที่นั่นเมื่อไร หลับเต็มตื่น ฟื้นเเล้วสบาย ทุกครั้งไป
    ผู้เขียนเคยได้นำจตุราวุธให้ อาจารย์สมัยมัธยมของผู้เขียนดู ท่านเป็นครูสอนนาฏศิลป์ เเน่นอนว่าต้องมีครูบาอาจารย์ พอสัมผัสจตุราวุธ ท่านก็เริ่มมีอาการ หาวๆ เรอๆ ขอบอกก่อนท่านไม่ได้เป็นคนทรงเจ้าเข้าผีอะไรนะครับ ท่านจับจตุราวุธพลิกไปพลิกมา เเล้วบอกว่า “อันนี้เเรง มีญาณของครูบาอาจารย์” เเถมยังบอกให้ผู้เขียนทำน้ำมนต์ให้ลูกท่านกินอีกโดยใช้จตุราวุธนี้ เเต่ผู้เขียนได้ปฏิเสธไป เเม้จะมั่นใจในจตุราวุธแบบไม่มีข้อสงสัย เเต่ไม่มั่นใจในฝีมือตัวเอง กลัวจะทำให้ลูกเค้า หนักกว่าเดิม…เเต่อาจารย์ก็ตื๊อหนัก เลยกราบอาราธนาบารมีท้าวมหาราชทั้งสี่ บารมีครูบาอาจารย์ช่วยเมตตาประสิทธิ์นำ้ในขวดนี้ให้กลายเป็นน้ำทิพย์น้ำมนต์ขจัดสิ่งอัปมงคลทั้งหลายให้มลายสิ้นไป…
    ถัดมาเรื่องนี้เพิ่งได้ยินมาสดๆร้อนๆก่อนจะเขียนตอนนี้ไม่ถึงสัปดาห์ วันนั้นผู้เขียนได้เดินทางไปกราบ พอจ เเห่งอินทร์บุรี เเละได้มีพระจากวัดท่าซุง มากราบ พอจ บ๊ะด้วย พระรูปหนึ่งได้เข้ามากราบหลวงพ่อเอ พร้อมทั้งเล่าให้หลวงพ่อเอฟังว่า วันก่อนมีลูกงูเห่า เข้าไปในห้องน้ำที่กุฏิของท่านและแอบอยู่ใต้ชักโครก ท่านพยายามไล่ตั้งเเต่แปดโมงเช้า จนถึงห้าโมงเย็น ก็ไม่ยอมออก ทำทุกอย่างแม้จะรมควันไล่ก็ไม่ไป จนสุดท้ายได้นำ #จตุราวุธ เข้าไปวางในห้องน้ำแล้วอาราธนาบอกกล่าว… พร้อมกับวางบุ้งกี๋ไว้ ไม่ถึงห้านาที งูตัวนั้นก็เลื้อยเข้าไปนอนขดในบุ้งกี๋ท่านจึงยกออกไปอย่างง่ายดาย…เอาสิ้
    พอจ.บ๊ะท่านได้ยินก็หัวเราะท่านก็บอกว่า “จะไม่ออกได้อย่างไรเล่า หัวหน้าเค้ามาจะอยู่ไหวหรอ นี่คืออาวุธของท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ตอนเสกท่านก็มาเสกให้เอง เเละก็ไม่ให้ทำอีกเเล้วด้วย ผมยังมีเเขวนไว้ที่นี่อันหนึ่งเลย”
    พร้อมกับชี้นิ้วไปทีด้านหลังของท่าน ผู้เขียนรวมถึงหลายๆคนก็เพิ่งจะเคยเห็นนี่เเหละว่าท่านเเขวนไว้ตรงที่รับเเขกของท่านด้วย
    หลวงพ่อเอเคยปรารภกับผู้เขียนว่า “ถ้าเป็นเครื่องราง อันดับหนึ่งที่หลวงพ่อสร้างก็ต้องจตุราวุธนี่เเหละ”
    ที่สำคัญมีคนเคยถามว่า จตุราวุธเด่นด้านป้องกันอย่างเดียวหรือ
    พอจ บ๊ะเคยบอกว่า “อย่าลืมนะ กระบองยาว ที่เป็นอาวุธของ ท้าวเวสสุวรรณ เป็นเพชรทั้งองค์นะเว้ย เเล้วจะไม่มีลาภได้อย่างไร
    นอกจากนั้น หลวงพ่อเอยังบอกไว้อีกว่า “อีกชื่อของท่านท้าวเวสสุวรรณคือ ธนบดี ไฉ่ซิงเอี๊ยะ เป็นเทพเจ้าด้านเงินทองของคนจีน หลวงพ่อท่านก็ขอพรในส่วนนี้เอาไว้ในจตุราวุธอีกด้วย” จึงไม่ต้องห่วง จตุราวุธนี้ ทั้งปราบ ทั้งกัน เเละลาภผลอยู่ในจตุราวุธครบหมด
    ทั้งหมดที่เล่ามานี้คือ ความเมตตาของ พรหมเทพ เทวดา ครูบาอาจารย์ที่ท่านได้มอบวัตถุมงคลไว้ให้พวกเราปกป้องรักษาคุ้มครองตัว หากระลึกนึกถึงท่านท้าวมหาราชก็จะเป็นเทวตานุสติ เเละอย่าลืมว่า #จตุราวุธ นี้ได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกสมเด็จองค์ปฐม หน้าตัก ๕ นิ้ว ที่วัดท่าขนุน ในพิธีนั้นสมเด็จปู่องค์ปฐมได้เมตตาเสกให้ด้วย หากท่านนึกถึงตรงจุดนี้ได้ก็จะเป็นพุทธานุสติที่มีกำไรมหาศาล
    อย่าได้คิดเพียงว่านี่คือเครื่องรางเพียงอย่างเดียว…
    ที่สุดเเล้วขอให้ผู้อ่านทุกท่าน อยู่รอดปลอดภัยในที่ทุกสถานในกาลทุกเมื่อ เเคล้วคลาดจากภัยอันตรายต่างๆ ไปในที่เเห่งหนตำบลไหน เป็นที่รักใคร่ของเทวดาทั้งหลาย เจริญในธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจนกว่าจะเข้าถึงที่สุดของกองทุกข์ ทุกท่านทุกคนเทอญสวัสดี…

    ส่วนเรื่องราวของสมาชิกท่านหนึ่งลงไว้ในเฟสครับ อ่านได้ที่ภาพเลยครับ

    ให้บุชา ปิดรายการ จัดส่ง 50 (สำหรับรายการนี้จองได้เพียงสองวันนะครับ)
    ++สำหรับด้ามนี้เจ้าของได้ผ่านการบูชาติดตัวมาแล้วนะครับ แต่สภาพยังสวยอยู่ครับ ให้พิจารณาจากภาพก่อนที่จะบูชาครับ+++

    227640.jpg 227641.jpg 227642.jpg 227643.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2023
  6. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,967
    ค่าพลัง:
    +6,566
    ขอจอง1ผืนครับ
     
  7. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,750
    ค่าพลัง:
    +16,580
    รับทราบการจองธงนารายณ์ทรงฤทธิ์ จำนวน 1 ผืนครับ ขอบพระคุณมากครับ
     
  8. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,750
    ค่าพลัง:
    +16,580
    ให้บูชาสมเด็จพระคำข้าว(รุ่นแรก) พิมพ์จันทร์ลอย ด้านหลังเป็นยันตมหาเศรษฐีล้อมรอบด้วยพระคาถาเงินล้าน ของ วัดท่าขนุน
    ผมขอนำข้อความบางช่วงบางตอนที่เกี่ยวกับสมเด็จพระคำข้าวมาให้อ่านครับ

    ส่วนเรื่องของพระสมเด็จคำข้าวนั้น กระผม/อาตมภาพสั่งทำไป ๓ พิมพ์ ก็คือปรกโพธิ์พิมพ์ใหญ่ ๑ พิมพ์เล็ก ๑ แล้วก็พิมพ์จันทร์ลอยอีก ๑ พิมพ์จันทร์ลอยก็คือกลม ๆ เพียงแต่ว่าพิมพ์ปรกโพธิ์นั้น ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร แต่ด้านหลังพิมพ์จันทร์ลอยเป็นยันต์มหาเศรษฐีเงินล้าน ซึ่งจะว่าไปแล้ว ถ้าหากว่าจะเน้นในเรื่องลาภผล ยันต์มหาเศรษฐีเงินล้านน่าจะตรงกว่า แต่ว่าตามที่พระท่านสงเคราะห์มา ก็ไม่เคยเห็นท่านทำด้านเดียว ส่วนใหญ่ก็ให้หลายด้านด้วยกัน บางครั้งก็ให้มากกว่าที่เราคิด
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๖

    หลังจากฉันเช้าแล้ว มานำญาติโยมทั้งหลายร่วมกันภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ ซึ่งในงานนี้ได้นำเอาข้าวปากหม้อมาเข้าพิธี เพื่อทำเป็นผงคำข้าวศักดิ์สิทธิ์ เอาไว้สำหรับสร้างวัตถุมงคลตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านได้สั่งเอาไว้

    งานนี้พระปัจเจกพุทธเจ้าท่านเสด็จมาสงเคราะห์ตั้งแต่ต้นจนจบ สว่างไสวผ่องใสเหมือนพระจันทร์วันเพ็ญอยู่ตลอดพิธี ช่วยเสกคำข้าวเพื่อที่จะนำไปเป็นผงสร้างวัตถุมงคลให้อย่างเต็มที่

    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕

    อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ในวันนี้กระผม/อาตมภาพได้มอบผงคำข้าวที่ทำการเสกแล้วให้แก่บุคคลที่มารับไปดำเนินการ เพื่อสร้างสมเด็จคำข้าว วัดท่าขนุน ที่ตกลงกันไว้ว่าจะมีอยู่ ๓ พิมพ์ ก็คือปรกโพธิ์พิมพ์ใหญ่ องค์ประมาณพระสมเด็จขนาดมาตรฐาน ปรกโพธิ์พิมพ์เล็ก องค์ประมาณสมเด็จคำข้าว วัดท่าซุง และขณะเดียวกันก็ยังมีองค์จันทร์ลอย ก็คือเป็นลักษณะทรงกลม ด้านหน้าเป็นรูปสมเด็จองค์ปฐมทองคำวัดท่าขนุน ด้านหลังจะเป็นพระคาถามหาเศรษฐีเงินล้าน
    ตรงจุดนี้ยังไม่ขอกล่าวถึง ที่อยากจะกล่าวถึงก็คือ ท่านผู้ที่รับไปดำเนินการนั้น เมื่อกลับบ้านก็ไปภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบให้ครบตามกำลังใจของตน ปรากฏว่าเมื่อภาวนาจบแล้ว รู้สึกปวดหัวเหมือนกับจะระเบิด..! ลืมตาขึ้นมาจึงเห็นว่าตนเองวางผงคำข้าวไว้ใกล้ชิดติดกับตัวเลย จึงได้กราบขอขมาพระและอธิษฐานว่า "อาการปวดหัวขนาดนี้ ถ้าเป็นเพราะบารมีพระจริง ๆ ก็ขอให้หายในฉับพลัน" แล้วก็รายงานมาว่า "หายวับไปเหมือนกับปลิดทิ้งเลย"
    กระผม/อาตมภาพอยากจะบอกว่า การสร้างพระสมเด็จคำข้าว วัดท่าขนุนนั้น ถ้าหากว่าเป็นไปตามคำพรขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ก็คือ "ปลอดโรค ให้ลาภ และศัตรูพินาศ"
    ดังนั้น..ในสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ที่เล่ามา เป็นการแสดงให้เห็นว่า ด้านการรักษาโรคนั้น ท่านก็ทำได้เช่นกัน โดยเฉพาะตั้งแต่เริ่มการตำผงคำข้าวแล้วไม่มีการขอขมา ผู้ตำก็อยู่ในลักษณะปวดหัวแทบระเบิดในลักษณะนี้เช่นกัน แสดงให้เห็นว่าพระองค์ท่านสงเคราะห์ให้อย่างเต็มที่แล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องไปปลุกเสกเพิ่มเติมก็ได้
    แต่ตามที่ครูบาอาจารย์ได้บอกไว้ก็คือ ทำเพื่อรักษากำลังใจของหมู่ศิษย์ เนื่องเพราะว่าถ้าคณะศิษย์ไม่ได้เห็นการบวงสรวงพุทธาภิเษกเต็มพิธี อาจจะมีความลังเลสงสัย แล้วเสียประโยชน์ที่ตนเองจะพึงได้ในบางส่วนไป
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕


    วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ เป็นวันแรม ๙ ค่ำ เดือน ๘ ซึ่งโบราณเขาถือว่าเป็นฤกษ์ที่ดีที่สุด เหมาะสำหรับที่จะเอาไว้สร้างโบสถ์เท่านั้น โดยเรียกเป็นภาษาบาลีว่า อัฏฐเสาร์ นวศุกร์ ก็คือวันเสาร์ขึ้นหรือว่าแรม ๘ ค่ำ และวันศุกร์ขึ้นหรือว่าแรม ๙ ค่ำ

    ฤกษ์พวกนี้จะว่าไปแล้วไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ดีเกินไป ดังนั้น..ถ้าหากว่าเอามาใช้งานทั่ว ๆ ไป ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดผลร้ายมากกว่าผลดี เหมือนกับว่าเราสามารถแบกข้าวสารได้ ๒๐ กิโลกรัม แล้วเขาโยนข้าวสารกระสอบละ ๑๐๐ กิโลกรัมมา เราก็อาจจะโดนทับตายได้..!

    คราวนี้เมื่อทางด้านโรงงานส่งพระสมเด็จคำข้าววัดท่าขนุนทั้ง ๓ พิมพ์มา ซึ่งโดยปกติไม่ต้องทำพิธีแล้วก็ได้ แต่ว่าเพื่อที่บรรดาญาติโยมทั้งหลายจะได้มีความมั่นใจมากขึ้น จึงมีคำสั่งให้จัดพิธีปลุกเสกขึ้นในวันนี้ นอกจากจะเป็นฤกษ์วันศุกร์ ๙ ค่ำแล้ว ตามตำราโหราศาสตร์ วันศุกร์ยังถือว่าเป็นวันเงินวันทอง
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๖


    ผมแบ่งจากท่านอื่นมาครับ ให้บูชา
    ปิดรายการ บาทจัดส่ง 40

    +++ตรงเข่าขององค์พระ จะปั๊มไม่เรียบร้อยนะครับตามภาพ +++
    IMG_6377.jpg IMG_6378.jpg IMG_6379.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤษภาคม 2023
  9. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,967
    ค่าพลัง:
    +6,566
    ขอจองครับ
     
  10. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,750
    ค่าพลัง:
    +16,580
    รับทราบการจองสมเด็จพระคำข้าว วัดท่าขนุน ขอบพระคุณมากครับ
     
  11. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,750
    ค่าพลัง:
    +16,580
    รายการฝาก
    ให้บูชาพระเจ้าห้าพระองค์ ยาวาสนาจินดามณี วัดท่าขนุน
    ผมขอนำข้อมูลต่าง ๆ มาให้อ่านดังนี้ครับ
    พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวานพระครูสมุห์อานนท์ เอาลูกอมที่เข้ามาหลายพิธีแล้วมาให้เสกใหม่ ที่ชอบใจไม่ใช่อะไรหรอก เพราะลูกอมมีผงปถมัง มหาราช อิทธิเจ ตรีนิสิงเห ฯลฯ ครบถ้วนเลย
    สมัยนี้พระที่จะไปเขียนผง ลบผง จนกระทั่งเพียงพอที่จะทำได้ก็ลำบาก เพราะผงอย่างที่หนึ่งเขียนเสร็จก็มาปั้นเป็นดินสอ เขียนผงอย่างที่สอง อย่างที่สองเขียนเสร็จก็ปั้นเป็นดินสอ แล้วเขียนอย่างที่สาม จะยากมาก แต่พระครูสมุห์อานนท์อาศัยว่ามีครูบาอาจารย์ดีเยอะ ขอจากองค์นั้นบ้าง จากองค์นี้บ้างเอามาทำ
    อาตมาก็เลยให้ไปช่วยทำพระงบน้ำอ้อยพระเจ้า ๕ พระองค์ ด้วยผงยาจินดามณี สำหรับยาจินดามณีจะทำเมื่อไรก็ได้ แต่วัสดุหายากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างพวกดอกคราด สมัยที่อยู่เกาะพระฤๅษีใหม่ ๆ มีเป็นตัน ๆ เลย สมัยนี้โดนยาฆ่าหญ้าตายหมด บางคนเรียกผักคราด ผักคราดหัวแหวน ดอกจะเป็นสีทองเล็ก ๆ ประมาณปลายนิ้วมือ เป็นยาชาที่เด็กบ้านนอกจะรู้จัก เวลาปวดฟันเอามาเคี้ยว ๆ อุดไว้ในรูฟันที่ผุ จะช่วยให้ไม่ปวดฟัน"
    อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
    "ยาจินดามณีรักษาโรคที่หาสาเหตุไม่ได้เกือบทุกโรค บางคนสงสัยว่าสร้างเป็นรูปพระแล้วจะทำเป็นยาอย่างไร ? ถ้าคิดว่ากลืนทั้งองค์ได้ก็เอา...! โบราณเขาใช้ฝนกับฝาละมี ยาจินดามณีใช้น้ำมะนาวเป็นกระสาย ฝนกับฝาละมี อาตมาก็สงสัยว่าที่ฝนออกมานั่นเป็นยาหรือว่าเป็นผงจากฝาละมี ฝาละมีก็คือฝาหม้อดิน สมัยนี้ไม่ได้หุงข้าวด้วยหม้อดินกันแล้ว ก็เหลือแต่ฝาหม้อยาเท่านั้น
    ใช้อธิษฐานรักษาโรค ถ้าไม่ใช่เพราะหมดอายุขัยจริง ๆ เท่าที่พบมาก็สามารถอยู่รอดมาได้จนหมอเองก็ยังงง เพราะส่วนใหญ่หมอมักจะบอกว่าอยู่ได้อีกไม่กี่วัน แต่พอเจอยาจินดามณีเข้าไปกลับอยู่ต่อมาได้อีกเป็น ๑๐ ปี แต่ที่อาตมาเจออย่างหลวงพี่มหาทรงกลด ฉันยาจินดามณีไปเป็นกำก็ยังมรณภาพ แสดงว่าหมดอายุจริง ๆ
    เนื่องจากส่วนผสมต่าง ๆ หายาก โอกาสที่จะทำได้จึงมีน้อย โดยเฉพาะว่าสมัยนี้ที่ทำได้เต็มสูตรจริง ๆ หาได้ยากมาก สมุนไพรหลายชนิดก็หายากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่าป่าหมดไปทุกวัน"
    "ในส่วนของอำพันทองนี่ได้จากลูกศิษย์ คือ พระครูสมุห์อานนท์ อานนฺโท วัดบึงลาดสวาย ท่านอุตส่าห์เสาะหามาได้ ท้ายสุดอาตมาเองก็จ่ายสตางค์น้อย เพราะลูกศิษย์บอกว่าที่เหลือจะทำถวาย จึงบอกว่าพยายามเอาให้ได้มากที่สุดเท่าที่ส่วนผสมจะอำนวยให้ ท่านคำนวณมาให้แล้วว่าน่าจะได้สัก ๖,๐๐๐ องค์ แต่ ๖,๐๐๐ องค์นี้ ถ้าคนรู้คุณค่าจริง ๆ อาตมาเชื่อเลยว่าไม่พอ
    คิดว่าตัวอาตมาเองก็ต้องเก็บเอาไว้บ้าง เพราะสุขภาพชำรุดไปเรื่อย ๆ ถึงเวลาหมอสมัยใหม่รักษาไม่ได้ก็ต้องอาศัยยาจินดามณี สมัยก่อนเขารักษาด้วยตัวยาและคุณพระ อย่าลืมคำว่า "คุณพระ" อำนาจของพลังจิตบวกกับบารมีครูบาอาจารย์ ตลอดจน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทำให้สามารถรักษาโรคที่หาสาเหตุไม่ได้
    แต่จะว่าหาสาเหตุไม่ได้ก็ไม่ใช่หรอก สาเหตุใหญ่คือเราสร้างกรรมปาณาติบาตเอาไว้ แต่คราวนี้หมอสมัยใหม่หาสาเหตุไม่ได้ ก็บอกว่าโรคไม่มีสาเหตุ โดยเฉพาะสมัยนี้เชื้อโรคพัฒนาเร็วมาก พัฒนาจนกระทั่งยาสมัยใหม่เอาไม่อยู่ สมัยก่อนเรามีเพนิซิลินก็มั่นใจว่าเอาอยู่ทุกโรค ที่ไหนได้...ปัจจุบันนี้เพนิซิลินอาศัยไม่ได้เลย"
    พระอาจารย์กล่าวว่า "วันเสาร์ที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๐ มีพิธีกรรมสร้างพระเจ้าห้าพระองค์เนื้อยาจินดามณีอีกขั้นตอนหนึ่ง เพราะว่าเป็นวันเสาร์เพชฌฆาตฤกษ์ ตรงกับตำราที่หลวงปู่บุญได้ให้เอาไว้ ก็แปลว่า ยานี้ทำยาวมาตั้งแต่วันลอยกระทงปีที่แล้ว ยังไม่เสร็จเลย เป็นอะไรที่ค่อนข้างจะยุ่งยากมาก เพราะพิธีกรรมและฤกษ์ยามมีระบุไว้ชัดเจน ต้องเป็นไปตามนั้น
    ส่วนผสมก็หายาก โดยเฉพาะอำพันทอง ร้อยวันพันปีจะมีหลุดมาสักทีหนึ่ง ราคาก็แพงเหมือนกับทองจริง ๆ ซื้อมาเป็นส่วนผสมหน่อยเดียวหมดไปแปดหมื่นบาท..!
    ตำรายาจินดามณีที่มีเขียนเอาไว้นั้นเป็นแค่ตำราเบื้องต้น รายละเอียดอื่น ๆ ทางด้านสำนักจะเก็บเอาไว้ ลักษณะเหมือนกับเป็นทีเด็ดเฉพาะตัว ส่วนผสมที่มีเพิ่มขึ้นมา อย่างเช่นอำพันทอง น้ำนมเสือ นอแรด งาช้างกำจัด ฯลฯ เหล่านี้ ไม่ได้ระบุไว้ในตำราอย่างชัดเจน ฤกษ์ยามและพิธีกรรมต่าง ๆ ไม่ได้ระบุเอาไว้อย่างชัดเจน เป็นการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นเท่านั้น ถ้าไม่ได้เข้าไปศึกษาให้รู้ชัด ต่อให้มีสูตรไว้ก็เป็นแค่สูตรเบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถผลิตยาได้ตามที่ต้องการ"
    อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๖๐
    พระอาจารย์กล่าวว่า "แจ้งให้ญาติโยมทราบว่าพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์เนื้อยาจินดามณีนั้น หมดเกลี้ยงไปในวันงานเป่ายันต์ฯ แล้ว ไม่ต้องมาเสาะหากันอีก ตอนนี้เหลืออยู่อย่างเดียวคือ ถ้าหาอำพันทองได้เมื่อไรแล้วค่อยว่ากันใหม่
    อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนเมษายน ๒๕๖๐
    วันศุกร์พระอาจารย์กล่าวว่า "ทางกองทุนหลวงปู่ปานบอกว่าอยากจะร่วมทำบุญด้วย จึงถวายยาจินดามณีมา ๒๐๐ ขวด บอกว่าร่วมบุญกับพระอาจารย์ด้วย เป็นชุดเดียวกับที่สร้างพระนั่นแหละ ก็เลยให้เอาไปขาย ราคาแพงหน่อย...ขวดละ ๒๐๐ บาท"
    ถาม : วัดโพธิ์ผักไห่ขายขวดละ ๓๐๐ บาทค่ะ ?
    ตอบ : อ้าว...อาตมาไม่รู้ กลายเป็นไปตัดราคาเขา ไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาทำจำหน่ายขวดละ ๓๐๐ บาท เขาอุตส่าห์เอาไปถวายถึงวัด บอกว่าขอร่วมบุญกับพระอาจารย์ด้วย คราวที่แล้วเอาเข้าพิธีเสาร์ ๕ ไว้ ๘ กิโลกรัม เป็นอันว่าเราขายถูกกว่าเขา ๑๐๐ บาท ต้องขออภัยด้วย เพราะว่าขายเท่าไรก็ได้กำไรเท่านั้น ใครมาก่อนก็ถือว่าโชคดีไป
    อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๐
    ที่ขำก็คือมีคนเขากินกันทั้งองค์เลย ดีเหมือนกัน เล่นหั่นแบบหั่นขนมเค้กเลย หั่นพระเป็น ๕ องค์ จริง ๆ ก็ทำมาให้กิน ให้คิดว่าอัญเชิญพระเข้าไปสถิตอยู่ในตัวเรา เมื่อวานอาตมาเอาที่ปั้นเป็นเม็ด ๒ ขวดไปฝากท่านอาจารย์บ๊ะ ยังไม่ทันจะล้วงเลย ท่านแบมือ “รับด้วยความยินดีครับ” พอจับชีพจรให้อาตมาแล้วท่านบอกว่า “ชีพจรดีขึ้นมากเลย” ได้ยาจินดามณีก็ฉันเข้าไป ๓ เม็ด ร่างกายจึงดีขึ้น
    ปกติแล้วช่วงก่อนงานเป่ายันต์ฯ หมาที่วัดติดโรคหัดตายไปเยอะมาก เพราะลูกหมายังเล็กอยู่ ตอนช่วงงานเป่ายันต์ฯ ในเมื่อมีพุทธาภิเษกยาจินดามณีเพื่อรักษาโรคด้วย อาตมาจึงขอพระท่านสงเคราะห์หมาไม่ได้เอายาไปให้หมากินนะ แต่ขอให้ท่านช่วยสงเคราะห์ขับไล่โรคให้หมาด้วย"
    ถาม : ยานี่เอาไว้ทำอะไรคะ (ยาจินดามณี) ?
    ตอบ : เขาเอาไว้รักษาโรคที่หมอทั่วไปรักษาไม่ได้ แต่มีผลข้างเคียงอยู่อย่างหนึ่ง ก็คือร่างกายทรุดโทรมช้า หม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา ใคร ๆ ก็เรียกคุณยาย ๒,๐๐๐ ปี เพราะว่าพระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพยอาภา เล่นเหมายาหลวงปู่บุญไปให้ภรรยา ภรรยากินทุกวัน อายุ ๘๐ กว่าแล้วยังเดินตัวปลิวเลย
    เจตนาเขาไว้รักษาโรค ถ้าจะกินให้ไม่แก่นั่นผิดเจตนา ยังแก่อยู่...แต่เป็นคนแก่ที่แข็งแรง
    จริง ๆ แล้วต้องขายเป็นเม็ด สมัยก่อนหลวงปู่บุญให้ลูกศิษย์ปั้นยาจินดามณี เม็ดเท่าพริกไทยเอง สมัยนี้พวกเราฟุ่มเฟือยเป็นบ้า ส่วนผสมยิ่งหายาก ๆ หลายอย่างต้องอาศัยบุญวาสนาจริง ๆ ถึงได้เรียกว่ายาวาสนา ดูอย่างอำพันทอง ร้อยวันพันปีจะมีลอยมาติดชายฝั่งเสียที บางคนบอกว่าเป็นสเปิร์มปลาวาฬ บางคนบอกว่าเป็นอ้วกของปลาวาฬ
    อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกันยายน ๒๕๖๐
    มีอยู่องค์เดียวให้บูชา 1250
    ติดจองจัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
    ++สภาพเจ้าของติดตัว ด้านหลังจะมีรอยกดหน่อยนะครับ แต่เนื้อไม่ได้หาย เนื่องจากตอนได้มาใหม่องค์พระยังนิ่มแล้วมีการโดนกดช่วงด้านหลังเลยทำให้เป็นรอย++
    227633.jpg 227634.jpg 227635.jpg 227636.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤษภาคม 2023
  12. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,750
    ค่าพลัง:
    +16,580
    รายการฝาก
    ให้บูชาหนุมานอุ้มดวง เนื้อดินเผาผสมมวลสาร ของ วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม ปี 54 ด้านฐานอุดตะกรุดหนุนดวง
    รุ่นนี้เพื่อนผมเคยไปถามหลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ สมุทรสงคราม ท่านว่ารุ่นนี้ดีมาก
    หนุมานหนุนดวงร่นนี้เขาว่ากันว่า ดวงตก ดวงไม่ดี ปีชง เบญจเพศ ต้องบูชาหนุมานอุ้มดวง
    หนุนดวงชะตาไม่ให้ตกต่ำ ช่วยให้แคล้วคลาดจากสิ่งอัปมงคลต่างๆ หมุมานอุ้มดวง ปัดป้องศาสตราวุธ (ของมีคมทุกชนิด และอาวุธ) คุ้มครองป้องกันภัย มหาอุตม์ คงกระพันชาตรี เสริมดวงชะตาที่ตกต่ำอุ้มหนุนดวงให้ดียิ่งๆขึ้น เสริมบารมี ให้มีโชคลาภ
    รายการนี้ฝากออกที่ 400 จัดส่ง 40 จองได้สามวัน (เนื่องจากต้องโอนให้เจ้าของพระ)

    227637.jpg 227638.jpg 227639.jpg
     
  13. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,750
    ค่าพลัง:
    +16,580
    ให้บูชาพระผงพิมพ์ห้าเหลี่ยม มีเกศา ด้านหลังอยู่หลายเส้นครับ ของ หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก จ.ชลบุรี ปี27 (สภาพบูชา)องค์นี้เกศาถือว่าเยอะเลยครับ บางองค์มีแค่เส้นเดียว บางองค์ก็ไม่มีครับ
    ท่านมรณภาพเมื่อปี 41 นายทหารชั้นผู้ใหญ่สมัยนั้นขึ้นกับท่านมากครับ หลวงปู่ม่นเป็นที่เคารพ ศรัทธาของบรรดาศิษย์ เสียสละ สร้างคุณงามความดี ให้แก่พระพุทธศาสนาและท้องถิ่น เป็นที่ยอมรับของสาธุชนทั่วไป ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงปู่ม่นมากที่สุด คือ พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร ส่วนเหรียญที่มีประสบการณ์มากที่สุด คือ "รุ่นเจริญพร" ซึ่งเป็นรุ่นที่นายทหารชั้นผู้ใหญ่บูชาติดตัวมากที่สุด
    องค์นี้ให้บูชา 100 ค่าจัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

    IMG_6345.jpg IMG_6346.jpg IMG_6347.jpg
     
  14. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,750
    ค่าพลัง:
    +16,580
    ให้บูชาพระผงจันทร์ลอย รุ่นสร้างอุโบสถ ของ ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ รุ่นนี้จัดสร้าง ปี๒๕๒๗
    สำหรับครูบาธรรมชัย ท่านเป็นพระสหธรรมิกของหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุงครับ ท่านเป็นพระหมอด้วย พระเครื่องของท่าน(ตามความเข้าใจของผม )น่าจะอาราธนาทำน้ำมนต์รักษาโรคได้ครับ ถ้าไม่เกินวิสัย
    ท่านมรณภาพแล้วสรีระสังขารไม่เน่าเปื่อยครับ
    องค์นี้จะมีเนื้อกระเทาะ(ตามภาพ) เน้นพุทธคุณครับ
    ให้บูชา 100 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
    IMG_6301.jpg IMG_6302.jpg IMG_6303.jpg IMG_6304.jpg
     
  15. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,750
    ค่าพลัง:
    +16,580
    เหรียญขวัญถุงมหาลาภบันดาลโชค ขนาดประมาณเหรียญ 1 บาท เนื้อชุบทอง เข้าพิธีหล่อไฉ่ซิ่งเอี๊ยด้วย พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกา ปลุกเสกครับ
    รุ่นพิเศษ (ที่สุดแห่งพิธี #มหาลาภ #ชนะอุปสรรค ปัดเป่าอุปสรรค พระสีวลี พระอุปคุต ไฉ่ซิ่งเอี๊ย และ พระฤาษี )
    คิดแค่ว่า มหาลาภอย่างพระสีวลีมารวมกับเทพเจ้าแห่งโชคลาภจะลาภมหาศาลแค่ไหน ท่านเมตตาทำให้ ใช้ได้ทุกศาสนา เป็นสากลมาก...
    มีคนได้มหาลาภจากวัตถุมงคลบางอย่างมาเป็นล้านแล้วนะครับ ไม่ใช่ท่านเดียวด้วย ... วาระใคร วาระคนนั้นครับ...
    จัดสร้าง 2 เนื้อเงิน เนื้อชุบทอง
    สามารถใส่รวมกับกิมปั๋ง ห้อยคอ เก็บไว้ในเซฟ ในกระเป๋าสตางค์ ได้หมด หรือจะใส่ทุกกระเป๋าก็ได้ ท่านทำให้เป็นสากล คนต่างศาสนาก็ใช้ได้นะครับ
    ยันต์ปั้มจากลายมือหลวงพ่อครับ
    วัตถุมงคลที่นำเข้าพิธี พระท่านสงเคราะห์เสกทรัพย์ให้ ทั้งอริยทรัพย์คือ ปัญญา และ ทรัพย์ทางโลก คือความมั่งคั่ง เป็นพิธีที่ได้ทั้งโลกุตตระ และ โลกียทรัพย์ มีความเป็นมงคลอย่างสูง
    หลวงพ่ออธิบายว่า หากเรามีทรัพย์แต่ไม่มีปัญญาทรัพย์นั้นก็จะอยู่ได้ไม่นาน แต่ถ้าเรามีปัญญาแล้ว ทรัพย์นั้นก็จะยั่งยืน ( ต้องกราบขอบพระคุณท่านปู่ฤาษี เพราะวันนั้นเป็นวาระจัดสรร กำลังปัญญาจึงลงมาด้วย )
    เหรียญขวัญถุงนี้ เค้าเรียก เหรียญขวัญถุงเงินล้านนะครับ
    แนะนำให้ ใส่ทุกสิ่งที่เก็บเงิน กระเป๋า เซฟ เก๊ะเงิน กล่องที่ใส่กิมปั๋ง ฯลฯ... เงินจะมาไม่ขาดสาย เหมาะกับยุคนี้ที่สุด...

    ให้บูชาเหรียญละ ปิดรายการ จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
    IMG_6294.jpg IMG_6295.jpg IMG_6296.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2023
  16. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,967
    ค่าพลัง:
    +6,566
    ขอจองครับ
     
  17. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,750
    ค่าพลัง:
    +16,580
    รับทราบการจองเหรียญขวัญถุงเงินล้าน พระอาจารย์บ๊ะครับ ขอบพระคุณมากครับ
     
  18. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,750
    ค่าพลัง:
    +16,580
    ให้บูชาเหรียญแปดเหลี่ยม พิมพ์เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย ขี่เสือ หลังยันต์โป๊ยข่วย ออกที่วัดหน้าพระเมรุ ปี 53 ของพระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกา และพระอาจารย์อ๊อด ตำหนักพระมหาจักรพรรดิ์โพธิ์สัตว์กวนอิม 2 ท่านร่วมกันเสกครับ

    ข้อมูลรุ่นนี้มีดังนี้
    เหรียญรุ่นนี้เด่นด้านการเงินเป็นอย่างมาก พระอาจารย์บ๊ะกล่าวไว้ท่านเสกเองพร้อมเกจิอาจารย์รุ่นเก่าอีกมากมายไม่ดีได้อย่างไรไม่ดีท่านคงไม่เอาองค์ใหญ่มาไว้บูชา แก้ฮวงจุ้ยได้ด้วยครับ พกติดตัวก็ดี ติดบ้านก็ได้ครับ พระอาจารย์บ๊ะท่านบอกว่า กูเสกเองเรื่องเงินล้วน ๆ ถ้าไม่ดีกูไม่เอาองค์ใหญ่มาบูชาหรอก 555

    สามารถใช้แทนเหรียญโป้ยข่วยรุ่นแรกที่หายากได้เลยครับ (เป็นรุ่นที่มีประสบการณ์มาก)
    ให้บูชา 450 บาท จัดส่ง 40 บาทจองได้สามวันครับ
    IMG_6297.jpg IMG_6298.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2023
  19. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,750
    ค่าพลัง:
    +16,580
    รายการฝาก
    พญาโครัตนมงคล (วัวธนู) ของ วัดโพธิผักไห่ ปี 2565 ขนาดเล็ก (ตามภาพเมื่อเทียบกับเหรียญ 50 สตางค์)
    สำหรับข้อมูลของรุ่นนี้มีดังนี้

    คำปรารถหลวงพ่อ พระครูปลัดพิจารย์ เจ้าอาวาส วัดโพธิ์ผักไห่ ว่า
    วัวธนูนี้ให้ชื่อว่า “ พญาโครัตนมงคล ” (การสร้างไม่ได้ประกอบด้วยภูตพราย วิชาเบื้องต่ำแต่อย่างใด) แต่เป็นการอัญเชิญ พระปริตรคาถา อันเป็นมงคลต่างๆมาประกอบกัน กระทำวัวธนู เพื่อเป็นคติ เพื่อป้องกันความเลวร้าย ภัยพาลต่างๆ ตามความเชื่อในพระพุทธศาสนา ว่า “ ธรรมะย่อมชนะอธรรม ” ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
    -พิธีจัดสร้างที่ถูกต้องตามขั้นตอนตำราโบราณ“ดีนอกดีใน “.
    -จัดสร้างเพียง๕๐๐ ตัว
    -ขนาดแต่ละตัวไม่เท่ากันเนื่องจากทำมือทุกขั้นตอน
    ตัววัว ปั่นประกอบตัวจาก ครั่งไม้ต่างๆ มีครั่งพุทราเป็นต้น
    ภายในตัววัว บรรจุด้วย เทียนชัยพุทธาภิเษกสิบแห่ง มีคติว่า “ ชัยสิทธิ์ ” มีชัยชนะสิบทิศ ผสมกับปรอทสำเร็จบรรจุภายในพร้อมกับ ตะกรุดลงหัวใจ รัตนสูตร บางตำราเรียกว่า คาถายอดตาลเหี้ยน กล่าวไว้ว่า อย่าว่าแต่ศึกมนุษย์เลย ศึกเทวดาก็ไม่แพ้
    บรรจุคาถาปลุกวัว ว่า "โอมโคโน มหาโคโน สิทธิสวาหะ จุ๊ จุ๊ สู้ สู้ จุ จุ ชน ชน จุ จุ กันนะ กันนา กันนิ กันนู กันเน กันนัง กันนัย กันนะ"
    รุ่นนี้พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน ได้เป็นประธานในการปลุกเสกเมื่อวันที่ ๒ กรกฏาคม ๒๕๖๕


    ผมขอนำข้อความบางช่วงบางตอนมาจากเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ของวันที่ ๒ กรกฏาคม ๒๕๖๕ มาให้อ่านกันครับ

    เมื่อสนทนามาถึงตรงนี้ ก็ได้เวลาตามฤกษ์ที่ได้กำหนดไว้ กระผม/อาตมภาพจึงต้องไปทำการบวงสรวงบอกกล่าว เพื่อขออนุญาตในการปลุกเสกวัตถุมงคลในวันนี้ ซึ่งของหลักเลยก็คือโคอุสุภราช หรือที่ชาวบ้านเรียกกันง่าย ๆ ว่า วัวธนู
    เมื่อเห็นว่าฤกษ์เป็นวันเสาร์ยังไม่พอ เครื่องบวงสรวงทั้งหมดยังประกอบไปด้วยสีแดงเป็นหลัก ก็รู้ว่าหลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์ท่านเอาแน่งานนี้ เพราะท่านบอกว่า คราวที่แล้วเมื่อสร้างวัวธนูไป ได้เงินมาก้อนหนึ่ง สามารถถมที่ในบริเวณวัดได้อย่างที่ต้องการ
    "สำหรับวัวธนูรุ่นนี้ ขออนุญาตหลวงพ่อช่วยให้ผมได้สร้างกำแพงวัดหน่อยครับ" เพราะว่าวัดโพธิ์ผักไห่นั้น ตลอดระยะเวลาสองสามร้อยปีที่ผ่านมาไม่เคยมีรั้ววัด ทำให้พื้นที่บางส่วนมีชาวบ้านบุกรุกเข้ามาใช้ประโยชน์อยู่ ถ้าหากว่าจะขับไล่กันก็จะเสียน้ำใจ แต่ถ้าหากว่าสร้างรั้วเมื่อไร เขารู้ตัวว่าอยู่ในเขตวัด ถ้าไม่ย้ายออกไปเอง ก็จะต้องมาจ่ายค่าเช่าให้กับวัด ถือว่าเป็นการจัดการที่นุ่มนวลกว่า
    กระผม/อาตมภาพรับฟังแล้ว เมื่อเข้าวิหารไปเพื่อทำการปลุกเสกวัตถุมงคล นอกจากระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันตเจ้า พรหม เทวดา และครูบาอาจารย์ทั้งหมดแล้ว ก็ยังสงสัยว่าโคอุสุภราช หรือว่าวัวธนูนั้นมีที่มาอย่างไร ?
    กระผม/อาตมภาพทราบแค่ว่า หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทองสร้างวัวธนูจนกระทั่งติดอันดับ ๙ เครื่องรางสะท้านแผ่นดิน ส่วนทางด้านภาคเหนือ ก็มีหลวงปู่ครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ ท่านได้สร้างวัวธนูเอาไว้และมีชื่อเสียงมาก เป็นตำราคล้ายคลึงกับตำราของหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง
    ส่วนครูบาอาจารย์ที่กระผม/อาตมภาพทันอย่างแน่นอน ก็คือหลวงปู่คำแสน วัดดอนมูล ซึ่งท่านได้สร้างวัวธนูเอาไว้ และมีชื่อเสียงมาก ๆ เพราะว่าหลายคนที่อาราธนาวัวธนูของท่านไป สามารถที่จะเห็นวัวนั้นออกมาเดินป้องกันรอบบ้านให้ด้วย..!

    เมื่อระลึกมาจนถึงตรงนี้ ก็เห็นพญาโคอุสุภราชขยายจนกระทั่งใหญ่เต็มวิหารที่ทำพิธี ลืมบอกกล่าวกับทุกท่านไปว่า หลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์เห็นว่าวัตถุมงคลในวันนี้ ไม่ใช่วัตถุมงคลที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จึงไม่ทำในโบสถ์ แต่ย้ายมาทำที่วิหารข้างโบสถ์แทน ก็ต้องบอกว่าเป็นการจัดลำดับได้ถูกต้อง และเป็นการเคารพในคุณพระรัตนตรัยที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง
    พญาโคอุสุภราชที่ขยายโตเต็มวิหารนั้นมีท่านปู่พระอินทร์นั่งบนหลังมาด้วย จึงได้กราบเรียนถามท่านปู่พระอินทร์ว่า มีที่มาที่ไปอย่างไร ?
    ท่านบอกว่าวิชาการนี้มาจากทางสายพราหมณ์ ซึ่งนับถือพระอิศวร และพระอิศวรนั้นทรงโคนนทิหรือที่เรียกว่าโคอุสุภราช ทำให้เมื่อบรรดาพราหมณาจารย์ทั้งหลาย ศึกษาวิชาการเพิ่มเติมขึ้นมาจากไตรเพท หรือว่าไตรเวท ซึ่งประกอบไปด้วยตำรา ๓ เล่มก็คือยชุรเวท ฤคเวท และสามเวทแล้ว ก็ยังได้สร้างตำราเล่มที่ ๔ ขึ้นมา เรียกว่าอาถรรพเวท ประกอบไปด้วยเรื่องของไสยศาสตร์เวทมนตร์ต่าง ๆ ซึ่งบรรดาครูบาอาจารย์รุ่นเก่า ๆ เห็นว่าเป็นเครื่องถ่วงให้เนิ่นช้า
    แต่ครูบาอาจารย์รุ่นหลังเห็นว่าเป็นเรื่องที่สามารถสงเคราะห์ญาติโยม ลูกศิษย์ลูกหาได้ดี จึงได้บันทึกวิชาการเหล่านี้เอาไว้ มาตอนหลังก็ขยายกลายเป็นวิชาการพุทธตันตระ ซึ่งไปโด่งดังทางด้านทิเบต จนกระทั่งมาภายหลัง พราหมณ์ส่วนหนึ่งที่ศึกษาแล้ว ได้เดินทางมายังสุวรรณภูมิของเรา และนำเอาวิชาการเหล่านี้เข้ามาด้วย ดังนั้น...จึงได้มีการปรับจนกระทั่งกลายเป็นวิชาการสร้างวัวธนูตามแบบที่ทุกคนเห็นอยู่แล้วพระอิศวรนั้นก็เป็นตำแหน่งหนึ่งของท่านปู่พระอินทร์ เนื่องจากว่าท่านเป็นเทวดาที่มีศักดานุภาพ และตำแหน่งหน้าที่ใกล้เคียงกับพระอิศวรของทางฮินดูมากที่สุด จึงต้องรับหน้าที่นี้ไปโดยปริยาย ท่านปู่พระอินทร์แนะนำว่า ถ้าหากว่าเราท่านทั้งหลายจะบูชาวัวธนูนั้น ให้รำลึกถึงพระโพธิสัตว์สมัยที่เสวยชาติเป็นวัว อย่างเช่นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ที่เสวยพระชาติเป็นโคอุสุภราช ชื่อว่าโคนันทวิศาล เป็นต้น กำลังใจของเราจะได้เกาะว่า สิ่งนี้ในอดีตเป็นชาติหนึ่งขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา เป็นการดึงให้ทุกอย่างใกล้เคียงเข้ามากับพุทธศาสตร์ แทนที่จะเป็นไสยศาสตร์ล้วน ๆ

    หลังจากนั้นกระผม/อาตมภาพก็ต้องใช้ระยะเวลานานมาก ในการที่จะตั้งธาตุ ปลุกธาตุ หนุนธาตุ ลงอาการ ๓๒ แล้วท้ายที่สุด เมื่อเสร็จพิธีแล้วก็ยังต้องมีการเจิมอีกต่างหาก แล้วหลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์ ได้ประกาศต่อหน้าพระประธานเป็นภาษาบาลีว่า "สุณาตุ เม ภันเตฯ" เป็นต้น ซึ่งแปลเป็นไทยใจความประมาณว่า ทางวัดได้สร้างวัวธนูนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นประโยชน์แก่ชนหมู่มาก บัดนี้ได้สำเร็จเรียบร้อยลงมาตามตำราแล้ว ท่านใดก็ตาม ถ้าหากว่านำไปใช้ ไม่อยากภาวนาคาถายาว ๆ ก็ให้ใช้คาถาว่า โคโน มหาโคโน สิทธิสวาหะ เอาแค่สั้น ๆ นี้ก็ได้
    อย่าลืมคำแนะนำของท่านปู่พระอินทร์ก็คือ ให้ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เสวยพระชาติเป็นโคอุสุภราช แล้วอธิษฐานให้ป้องกันสถานที่หรือว่าตัวเราตามอัธยาศัย


    เจ้าของฝากมาที่
    ปิดรายการ จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
    +++เจ้าของเขาปิดทองบูชามาแต่เดิมนะครับ+++

    IMG_6386.JPG IMG_6387.JPG IMG_6388.jpg IMG_6389.jpg IMG_6390.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2023
  20. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,967
    ค่าพลัง:
    +6,566
    ขอจองครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...