ไขปริศนาลูกไฟประหลาดแบบบั้งไฟพญานาคบ้านเรานี่

สงสัยต้องเชิญพญานาคตัวเป็นๆ ให้ได้อย่างเดียวล่ะมั้งถึงจะยืนยันกับชาวโลกวิทยาศาสตร์ได้ว่ามีจริง หรือไม่ก็ต้องเอานักวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ ไปเมืองพญานาคแล้วกลับมาเหล่าหรือบอกเรื่องราวในเชิงวิทยาศาสตร์ให้ฟังล่ะมั้ง

มีในพระไตรปิฎกครับ ถ้าจะให้เชื่อต่อเมื่อเห็นงั้นผมไม่เห็นอะตอมหรือโมเลกุล งั้นผมก็เชื่อได้ว่าไม่มีอยู่จริงก็ได้ถูกเปล่า เพราะพระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ไม่ให้เชื่อตำรา ความรู้ต่างๆ ที่บันทึกไว้ เป็นแบบนั้นจริงๆ รึ

แม้แต่คุณเองก็ยังไม่เคยเห็นอะตอมด้วยตา ก็ยังต้องอาศัยเครื่องมือต่างๆ ช่วย แล้วเครื่องมือเหล่านั้นมันรู้ดีหมดทั้งเอกภพเลยเหรอว่าอะไรเป็นอะไร สุดท้ายคุณก็เชื่อเพราะคุณเชื่อว่ามันพิสูจน์ได้ในแบบของคุณเองรึเปล่า

คำว่าความเชื่อ ไม่จำเป็นว่าถ้าเชื่อในสิ่งที่ยังพิสูจน์ไม่ได้จะแปลว่าคนๆ นั้นโง่หรืองมงาย ชาวไร่ชาวนา เค้าต้องรู้เท่านักวิทยาศาสตร์เลยรึเปล่า ก็เปล่า แล้วจะว่าเค้าโง่ได้ไหมหรือว่าไม่รู้อะไรเลยได้รึเปล่า ก็ไม่ได้ ใครมีความเชื่ออะไรมันไม่ใช่สิ่งผิดถูกจะมาตัดสิน แต่จะรู้ว่าผิดถูกต่อเมื่อคนๆ นั้นพิสูจน์ด้วยประสบการณ์ของตัวเองแล้วเท่านั้นว่านั่นเป็นจริงหรือเท็จ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็บังคับกันไม่ได้หรอกครับ

ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่าอย่าเชื่อนั่นก็ถูกต้องดีแล้ว แต่สุดท้ายก็อยู่ที่ประสบการณ์เราเองว่าจะตัดสินใจเชื่ออะไร เพราะสุดท้ายแล้วเอาเข้าจริงๆ คุณคิดว่าตัวคุณเองมีตัวตนจริงๆ รึ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าจะเชื่ออะไรดี

 

ขอแสดงความคิดเห็นด้วยครับ ถ้ามันง่ายจริงหรือทำได้จริงแล้วทำไมยังไม่มีการทำให้เห็นจริงๆละครับแล้วบันทึกให้คนอื่นรับรู้ได้เลยก็ยิ่งดี ไม่ใช่พูดแต่ทฤษฎีไม่มีข้อพิสูจน์ ผมเห็นว่ายังมีอีกหลายเรื่องนะครับที่วิทยาศาสตร์ยังอธิบายไม่ได้เลยได้แต่อ้างหรือตั้งทฤษฎี แต่ในหลักของศาสนาพุทธไม่เห็นต้องทำอย่างนั้น ซึ่งถ้าจะให้อ้างก็ดูได้จากหลักของวิทยาศาสตร์ไม่ว่าสมัยใดยังม่มีทฤษฎีใดเลยที่จะนำหน้าคำอธิบายในศาสนาพุทธเลย เช่น เรื่องของการเกิดของมนุษย์ทั้งที่ไม่มีเครื่องมือทันสมัยอย่างตอนนี้ หรือเรื่องของอิเลคตรอน ผมถึงอยากให้ลองคิดดูนะครับถ้าในกรณีที่ยังสรุปไม่ได้ผมว่าก็ไม่ควรนำมากล่าวอ้างเพราะว่าโอกาสผิดพลาดจะมีสูงจนกว่าจะได้รับการยืนยันแล้วค่อยนำมากล่าวอ้างจะดีกว่าครับ

 

ให้กำลังพี่หมอนะครับ

ตอนนี้ผมมีภาระหนักครับ

เลยไม่ไหวจะเคลียร์ช่วยพี่หมอซักเท่าไหร่

เจอฝ่ายต่อต้านตลอดเลยนะครับ อะอะอะอะอะ

 

วิทยาศาสตร์รู้และเชือแค่ที่พิสูจน์ได้

แต่สิ่งที่มีอยู่แต่ไม่มีปัญญาไปพิสูจน์มัน

บางคนบอกว่าไร้สาระ

วิทยาศาสต์เหมือนกบในกะลา

อย่าปิดกั้นตัวเองด้วยวิทยาศาสต์เดี๋ยวโง่

 

ผมอ่านเว็บนี้ทุกวันไม่ค่อยจะคอมเมนต์เท่าไหร่ แต่เห็นคำตอบนี้แล้วอยากจะมาแชร์ด้วยมากๆเลยครับ
เมื่อก่อนผมก็มีความคิดแบบวิทยาศาสตร์สุดโต่งเหมือนกัน ทุกอย่างต้องมีเหตุมีผลผมถึงจะยอมเชื่อ แต่เมื่อเวลาผ่านไป จึงได้รู้ว่า ยังมีสิ่งอีกตั้งมากมายที่วิทยาศาสตร์อิธิบายไม่ได้ ยิ่งพยายามอฺธิบายยิ่งเหมือนเหตุผลไม่เข้าตอบแบบข้างๆคูๆ

อ่านแล้วชอบคำนี้มากเลยครับ
" ลูกไฟที่ปรากฏก็แน่นอนถึงจะเป็นลูกไฟที่ออกจากปากพญานาค ก็จริง แต่ก็อยู่ในกฏของโลก ไม่พ้นที่จะเกิดตามหลักการทางวิทยาศาสตร์แน่ๆ "

แต่ไม่ได้บอกว่ากระทู้นี้ไม่ดีนะครับ เป็นกระทู้ที่ดีครับ เป็นวิวัฒนาการของวิทยาศาสตร์ที่น่าจะรู้ไว้เพราะใกล้ตัวเรา

 

เพียงแค่เปิดใจ..
แต่ บางสิ่งบางอย่าง.. ก็ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องรู้นะครับ ^^

 

ก๊าซมีเทน อ่ะนะ

เหอะๆ

 

อย่าว่าหยั่งงั้นหยังงี้เลยนะครับ

ผมนั่งทำงานอยู่ดีๆก็นึกอยากรู้เรื่อง บั้งไฟพญานาค ขึ้นมาและก็ได้เข้าตามเวปต่างๆซึ่งก็นานาจิตตัง บ้างเชื่อว่าจริงมั่งเท็จมั่งคนทำมั่ง เกิดเองมั่ง ซึ่งจริงๆ แล้วผมเป็นคนที่ไม่เชื่ออะไรเลยถ้าผมยังไม่เห็น เช่น ทำอย่างนี้นะตายไปจะเป็นเปรต ทำอย่างนี้นะตายไปจะเป็นกระสือบ้าง เป็นงูบ้าง เป็นเสือบ้าง วัวควาย บ้าง ก็ว่ากันไปแต่ผมถามหน่อยว่า ที่ทำแล้วเป็นเปรต ประเทศ อังกฤษ มันมีกันไม๊ครับ พอตกเย็นมา มืดมา เอาล่ะ ผีจะออก มันจะออกมาทำแมวน้ำอะไรมิทราบ กะลังมืดๆเนี่ย มันจะรู้ไม๊ว่าซีกตะวันตกของโลก มันเป็นกลางวัน แค่โลกมันหมุนๆๆๆๆๆ บังเงาตัวเองกลายเป็นกลางวันกลางคืนบางที่ในโลกหลายคนยังไม่รู้ครับว่ามันมีที่ๆ แทบจะไม่มีกลางคืนเลย แล้วพวกเปรตพวกผีคงเสด็จไปไม่ได้สินะแล้วบางที่ครับ มันมีแต่กลางคืน แทบจะหากลางวันมิได้แสดงว่าผีมันเยอะรึเปล่าแถวนั้นคงเป็นแหล่งมั่วสุมของพวกผีสินะ ทุกอย่างครับในโลกใบนี้ขอให้เวลามันผ่านไปเถอะถ้าระยะเวลาสั้นๆ รับรองเถียงกันไม่ได้เพราะรู้หมดทุกคน แต่พอหลาย อายุคนเข้า ผู้เฒ่าผู้แก่พูด โอวววว อันนี้ขลังจริง เชื่อกันหมดเลยอ่ะ!! ไม่เชื่อรอพวกคุณแก่ไปก่อนครับพอเด็กทำไรผิดก็"ระวังนะทำอย่างนี้ไม่ดีจะไปเกิดเป็นพญาครุฑ(หน้าธนาคารกรุเทพ)"นี่ยกตัวอย่างนะครับพออายุมากแม่งก็หลอกเด็กบางอย่างก็ควรเชื่อครับ บางอย่างอย่างมงายมาก ไอที่กล่าวยาวๆนี่ไม่ไช่ว่าอะไรหรอกครับ ผมอ่านกระทู้ บั้งไฟพญานาค มาก็หลายอันแล้วผมไม่เชื่ออะไรหรอกแต่ความรู้ความคิดคนมันเยอะครับ ผมก็ได้แต่อ่านและเก็บไว้ประดับบารมีมั่งไครคุยเรื่องนี้จะได้คุยกะเขาได้ เฉกเช่นกระทู้นี้ อาจจะนานไปสำรับการตอบกระทู้แต่ผมอ่านแล้วมันหงุดหงิดใจครับ ไอ้เจ้าของกระทู้อุตส่าห์ หาข้อมูลความรู้เด็ดๆอีกแขนงนึงมาให้อ่านก็ดีแล้วครับ เก็บไว้ประดับบารมี ดันมีพวกชอบ เสือก ทะลึ่งมาขัดกระทู้อีกเชื่อไม่เชื่อ มันเป็นเรื่องส่วนบุคคลครับจะเอา สมอง อันน้อยนิดมา พ่นอะไร เถียงไปเถียงมา ถ้าถามความคิดเห็นผมซึ่งโดยส่วนตัวแล้วไม่เชื่อ อะไรเลยถ้าไม่เห็น คือถ้า ผี มันมีจริงเนี่ยกรุณามาหาผมทีครับ โทรมาก่อนก็ได้ 083-73115xx มันเป็นผีคงพอรู้สินะงั้นจะลอยไปลอยมาดังใน TV หาแมวน้ำอะไร คือไม่เชื่อครับ ไปคุยเรื่อง ผีกระสือ กะพวก ยุโรป นี่เขายังไม่รู้เรื่องเลย พอๆกะ ผีดิบ ของ จีน และ ผีดูดเลือด ของยุโรปอ่ะครับ ถ้าโผล่มาหาผม จะจับ แม่ง ทำน้ำซุปเลย อย่าว่าก้าวก่ายอะไรนะครับ พระพุทธเจ้า สองพันห้าร้อย กว่าปีเนี่ยไครมันไปบันทึกท่าเดินท่านไว้หรอครับเวลา ประสูติ อยากรู้มาก พุทธประวัติเล่ม บานเบอะไครน้อช่างเดินตามท่านทุกระเบียดนิ้วรู้หมดขึ้นนรก ลงสวรรค์ แม้กระทั่งตอนปลีกวิเวกมีตัวอะไรมากวน ท่านบ้างแม่งดันรู้หมด อย่าบอกนะว่าท่านเป็นคนบอกเอง ความจริงเเล้วบรรลุแล้วเจออะไรก็เก็บไว้ก็ได้ ไม่ต้องคุยโอ้อวดสรรพคุณไห้มากมาย ศาสนาเป็นสิ่งที่ดีครับยึดถือไว้เถอะมันสอนลูกสอนหลานไห้เป็นคนดีได้ครับ แต่เรื่องเชื่อ ไม่เชื่อ เนี่ย อย่าเถียงกันเลยครับ เก็บไว้อย่าโอ้อวดครับ พญานาค กระดูกมันยังไม่เคยเจอเลย ไดโนเสาร์ ตัวก็ใหญ่กระดูก บานเบอะ หัดเหลือกลูกกระตาน้อยๆ ดูมั่งครับ สุดท้ายอยากบอกว่า ความรู้คือความรู้ ความเชื่อคือความเชื่อ ถ้าไม่อยากไห้เรื่องมันยาวมากไปกว่านี้ กรุณา อย่าสเหร่อ เอามันมารวมกันครับ

 

เป็นสมมุติฐานที่ดีนะครับ...อธิบายได้อย่างมีระบบ แต่มันก็เป็นแค่แนวคิดน่ะครับ
ถ้ามีแนวคิดระบบการคิดใหม่ที่เข้าท่ากว่า สมมุติฐานเดิมก็จะเป็นเรื่องตลกไปเลย
ของแท้ของจริงยังไงก็คือของแท้ของจริง...ไม่มีเปลี่ยน
แต่สมมุติฐานและแนวความคิดเป็นการคาดเดาอย่างมีหลักการเท่านั้นเอง แต่ก็ไม่ใช่ของจริง
วิทยาศาสตร์สมัยนี้ ไม่สามารถ ให้ความกระจ่างในเรื่องลึกลับหลายๆเรื่อง แต่ถ้าไขปริศนาได้....มันก็คือ ธรรมชาติปกติของสิ่งนั้นเอง

 

เมื่อ สามร้อยปีก่อน ...... เสียงตามสาย เป็นเรื่อง ลึกลับ
แต่ทุกวันนี้ ทุกคน สามารถติดต่อได้ทุกที่ไม่เว้นแม้กระทั้งนอกโลก....
ระบบความคิดที่แตกต่างนั้นหมายถึง คนเรารู้จักที่จะพัฒนา เรียนรู้ในสิ่งไม่รู้
กระทำให้จินตนาการเป็นความจริง..

 

ในฐานที่ผมอยู่ที่หนองคายและเห็นบั้งไฟมาตั้งแต่เป็นเณรอยู่วัดหินหมากเป้ง
1.ต้องขอบอกก่อนว่าที่แม่น้ำโขงไม่มีน้ำขึ้นน้ำลงครับ
2.การใหลของน้ำโขงแรงมากจึงไม่สามารถทำให้ซากใดจมลงไปได้นอกจากวัตถุนั้นมีน้ำหนักมาก
3.บริเวณนั้นมีการสำรวจแล้ว ไม่พบกลุ่มก๊าชใดๆทั้งสิ้น
4.จริงอยู่การเกิดบั้งไฟนั้นมีเป็นประจำแต่จะเป็นวันพระทั้งคืนดับและแจ้ง
5.วันที่สรีระร่างของหลวงปู่เทสก์ นำกลับมาที่วัดหินหมากเป้ง วันนั้นบั้งไฟขึ้นเยอะมาก ทั้งที่ไม่ใช่วันพระและไม่ใช่ 15 ค่ำเดือน 11 สมัยที่หลวงปู่ยังอยู่ ที่หินหมากเป้งบั้งไฟขึ้นมามากจริงๆ โดยเฉพาะหน้ามณฑป ที่หลวงปู่อยู่ แต่หลังจากที่พระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ไปแล้ว กลับไม่มีบั้งไฟขึ้นตรงนั้นอีกเลย
6.หลวงปู่ชอบไปอเมริกา ที่น้ำตกไนแอการ่า ก็มีบั้งไฟขึ้นมาสักการะหลวงปู่เช่นกัน

อะไรที่เป็นเรื่องของศรัทธาผมว่าอย่าเอามาวิจารดีกว่าเพราะ ITV โดนมาแล้ว เพราะไปยุ่งมาก

 

พูดกับพวกหัววิทย์จัดๆ ก็อย่างเนี๊ยะแหละ ต้องเอาไปพิสูจน์ในป่าช้าให้เข็ด หรือเอาไปนอน

ถ้ำที่มีพญานาคอยู่ แล้วให้ไปพูดท้าทายมากๆ เด๋วก็เจอเอง

แล้วอย่ากลัวจนลืมทฤษฏีทั้งหลายแหล่ละครับ

 

...............................................

 

แหม๊ะ....ท่านพูดได้ใจสมกับเป็นท่านจิงๆ ของแท้ๆ