ไม่ควรมีการเททองหล่อพระอีกต่อไป

ถามคุณ (สี่อาน เบาะรองนั่งทั้งสี่)
1 ถามว่า ถ้าท่านมีโอกาศเลือกเป็นมหาเทพ กับ พยามาร ท่านเลือกเป็นอะไร
2 ถ้ามีโอกาศ อาราธนาพระพุทธะองค์ให้อยู่นานๆจะอาราธนาใหม
3 พระเทวทัตน์มีข้อดีตรงใหนจึงได้มาเกิดอีก

 

ถามคุณ (สี่อาน เบาะรองนั่งทั้งสี่)
ท่านได้เรียนรู้ถึงเผ่าพันมนุษย์ สองคนสุดท้ายของจักรวาล ท่านเรียนรู้อะไรอีกบ้าง มีหรือไม่สิ่งที่ท่านเรียนรู้โดยไม่ผ่านเรา สิ่งที่ท่านรู้คือสิ่งที่เรารู้ก่อน มีสิ่งใดที่ท่านจะเอาชนะเราได้นอกจากคำว่า ยอม เราเคยสอนให้คมในฝัก เรามีดาบแต่ยังไม่ชัก นี่แต่เริ่มเบาะๆท่านกล้าเสียงเสียชื่อ เสี่ยงเสียศรัทธาเพื่อสัจธรรมหรือไม่ เลิกอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพระพุทธองค์เถิด
อ้อแล้วอีกอย่าง อย่ากล่าวหาว่าด้วยพระเจ้า พระพุทธเจ้า โดยอนุมานเอง ผมถ่อมตัวให้ท่านมากเพราะปราถนาไม่ให้ท่านทุกข์ อย่างโอหังให้มากเพราะความรู้ที่ท่านได้มา ไม่ได้มาฟรี คนเก่งมีเยอะแล้วในโลก อยากหาคนดี

 

ชนะ ชนะ ชนะ ฮ่าๆๆๆๆ ชนะ ชนะ ชนะ ฮ่าๆๆๆๆ ชนะ ชนะ ชนะ ฮ่าๆๆๆๆ ชนะ ชนะ ชนะ ฮ่าๆๆๆๆ
แค่นี้หรือคือความพอใจ
ทำไม ไม่พูดว่า สานติ สันติ สานติ สันติ สานติ สันติ สานติ สันติ สานติ สันติ ล่ะ
แข่งบุญวาสนาแข่งบ่ได้ ดีบ่ดัดังบ่ดีเด้อ อย่าดังเดี๋ยวบ่อดี

 

(deejai)(deejai) deeja__a (deejai)(deejai)

 

อยากเทก็เทไป เทด้วยหัวใจ ที่ศรัทธา ความศรัทธา เกิดขึ้นเ็นสิ่งดี เทได้เทต่อไป เอาโลหะ ขึ้นมาเยอะๆ ให้ผมทำความดีรหว่างปลูกป่ากับเททองหล่อพระ ผมปลูกป่าดีกว่า พวกท่านหล่อพระเถอะ

 

ขอวกกลับมาถามเหมือนเดิม
การเททองหล่อพระได้บุญหรือไม่ เป็นประโยชน์หรือไม่ ถูกหลักคำสอนหรือไม่ สมควรจะทำหรือไม่

ฝ่ายหนึ่งมองว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้มากราบไหว้พระพุทธรูป จะมาเสียเงินทองหล่อพระทำไม ผิดหลักคำสอน แทนที่จะไปปฏิบัติภาวนาให้รู้แจ้งธรรมแก่ใจตน เน้นปฏิบัติบูชา

อีกฝ่ายมองว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ห้ามการเททองหล่อพระ แต่สอนเรื่องการเคารพบูชาผู้ที่ควรเคารพซึ่งเป็นบุญอย่างหนึ่ง การกราบไหว้สักการะด้วยดอกไม้ธูปเทียนก็ถือเป็นการแสดงความเคารพจึงเป็นสิ่งที่สมควรกระทำเช่นเดียวกับการปฏิบัติตามคำสอนของท่าน ซึ่งสามารถทำไปพร้อมกันทั้ง 2 อย่าง แต่หากใครไม่มีเงินทองซื้อดอกไม้ธูปเทียนจะประนมมือตั้งจิตตั้งใจเอาก็ได้ โดยไม่ได้มองว่าการเสียเงินเป็นอามิสบูชานั้นเป็นเรื่องที่ผิด ไร้ค่าหรือเสียเวลาแต่อย่างใด และไม่ได้ทำเพียงเพราะเห็นเขาทำๆกันมาเลยต้องทำตาม

สำหรับผมมองว่า
- อามิสบูชา และ ปฏิบัติบูชา ทำร่วมกันได้ แล้วแต่ความเหมาะสม ความสะดวกของแต่ละคน
- การกราบไหว้พระพุทธรูป การเททองหล่อพระ การสร้างสถูปเจดีย์ หรือการสร้างวัดก็เป็นสิ่งที่ควรกระทำ ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามคำสั่งสอน การถือศีล ภาวนา นอกจากเป็นบุญแก่ตนเอง ยังเป็นการทำนุบำรุงสืบทอดพระศาสนา
- พระพุทธเจ้าไม่ได้บังคับหรือสั่งสอนให้ใครมากราบท่าน แต่ทุกคนก็พร้อมจะกราบท่าน สวดมนต์ระลึกถึงท่าน เช่นเดียวกัน แม้ท่านจะไม่เอ่ยว่าเมื่อท่านปรินิพพานแล้วจะต้องสร้างพระพุทธรูป จะต้องมีการรวบรวมคำสอนของท่านหรือบันทึกประวัติท่าน แต่ชาวพุทธก็พร้อมใจกันสร้างถวายท่าน รวบรวมคำสอน ประวัติ มีการสังคายนาพระไตรปิฎกขึ้น
ดังนั้น สิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้บอก ไม่ได้แปลว่าสิ่งนั้นไม่ดีหรือห้ามทำ ผู้ที่มีจิตสำนึกดี มีความคิดเป็นกุศล ก็ย่อมทำสิ่งที่ดีๆให้เกิดขึ้นได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้ใครมาบอกเสมอไป

แต่ ทุกอย่างก็ขึ้นกับความพอดี ความเหมาะสม สิ่งดีๆบางอย่างเมื่อไปเจอกิเลส หรือความไม่รู้ของคนก็กลายเป็นสิ่งที่ไม่ดีไปได้ บางคนเอาพระพุทธรูป พระเครื่องมาหลอกล่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์จนเกินจริง บางคนอ้างว่าต้องสร้างพระใหญ่ให้ได้ไม่เช่นนั้นประเทศต้องเจอภัยพิบัติ ทำให้บางคนลุ่มหลง ลืมหลักคำสอน คิดว่ามีเครื่องรางของขลังแล้วจะคุ้มครองตนเองได้ คิดว่าทำบุญสร้างพระใหญ่ไปแล้วจะรอดพ้นภัยพิบัติ เลยตั้งตนอยู่ในความประมาทก็มี หรือสั่งสมแต่สิ่งเหล่านี้ก็มี

สรุป - การเททองหล่อพระนั้นเป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์ ได้บุญ แต่ไม่ได้เป็นการบังคับว่าทุกคนต้องทำ ใครสะดวกทำบุญแบบไหนก็ทำไป และต้องระวังผู้ที่แอบอ้างหวังผลประโยชน์ หรือสร้างความเข้าใจผิดด้วย
- ตึงเกินไปก็คืองมงาย หย่อนเกินไปก็คือละเลย/ไม่เคารพศรัทธา ความพอดีอยู่ตรงไหนก็แล้วแต่จะพิจารณาละกันครับ

 

ประเด็นต่อมา
- เคารพด้วยใจอย่างเดียวได้มั้ย เพราะต่อให้กราบก็ไม่ได้แปลว่าใจจะเคารพ

ศาสนาพุทธไม่ได้บังคับใครครับ เจอพระจะไม่ไหว้ไม่กราบก็ได้ ระลึกเอาก็เป็นบุญ แต่ถ้าไม่มีข้อจำกัด เช่น ไม่ได้เจ็บป่วย ไม่ได้พิการ ไม่ได้ปวดแข้งปวดขา การกระทำดีทั้งทางกาย วาจา ใจ ก็ย่อมได้บุญมากกว่าแค่ทำดีทางใจอย่างเดียวไม่ใช่เหรอครับ แม้ว่าทางใจจะได้บุญสูงสุดก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องละเลยด้านการกระทำนี่ครับ

แต่ส่วนใหญ่ ถ้าใจมีความเคารพศรัทธาจริงก็ย่อมแสดงออกมาทางการกระทำด้วย ถ้าปากบอกว่าใจเคารพแต่การกระทำนั้นไม่ใช่ผมว่ามักไม่ได้เคารพอย่างแท้จริงหรือเป็นเพราะมิจฉาทิฎฐิสูงมากๆ
อย่างผมเองพอถึงวันพ่อวันแม่แต่ก่อนก็ไม่เคยกราบ รู้สึกว่าทำไมต้องมาสร้างภาพรักพ่อรักแม่กันในวันนี้วันเดียว แต่พอพิจารณาดีๆเป็นเพราะทิฐิมานะในตัว อายไม่กล้าจะทำอะไรดีๆซะมากกว่า พอได้กราบแล้วจึงเห็นว่ามีประโยชน์จริงๆ พ่อแม่ก็สุข เราก็สุข แบบนี้ก็คือบุญนั่นเอง ยิ่งทำมากก็ยิ่งได้บุญมาก แต่อย่างน้อยก็ปีละครั้งก็ยังดี

ปล. ถ้ายึดติดในการกระทำความดี ยึดติดในพระธรรมคำสอน ก็ย่อมเป็นทางไปสู่นิพพาน พระพุทธเจ้าท่านสอนไม่ให้ยึดติดนั้นเป็นเรื่องของการยึดติดกิเลสมากกว่าครับ

 

ใครหลงนะครับ

 

ใครหลงนะครับ ท่านหรือใคร ไม่ใช่ผมแน่

 

ลองดูเลย ช็อตมาเลย 5 ชั่วโมง เดี๋ยวผมรอ ส่งมาเลยพลังนะ

 

สรุปแว่ ~~~ กระทู้นี้


FAKE ตั้งแต่เริ่ม

 

ไม่เฟคครับ ตั้งใจ ชี้ให้เห็นว่า เททองหล่อพระกันมากไป จนจะลืมความหมายเลย ทดสอบดูว่ามีคนหลงกี่มากน้อย

 

ความคิดบางเวลาเมื่อแสดงออกก็ค้านสายตาความน่าจะเป็นในหัวคิดมนุษย์

 

หากความตั้งใจเป็นเช่นนั้น ก็ อนุโมทนา ด้วยครับ

(good)

 

สวัสดีท่าน bade อ่านธรรมะท่านมาหลายหน้าแล้วครับ
วันนี้จิตตกหรือครับ พระธรรมท่านรั่ว-ไหลออกมาเติมเลย ผมไม่ได้ปราถนานิพานอย่างท่านนี่ครับ ก็เลยไม่ต้องวาง ได้ท่องเที่่ยวถ่ายรูปตามวัดวาอารามไปทั่ว ได้ทำนี่ โน่น นั่นอีกเยอะแยะ สนุกดี ผมคงต้องเกิดมาเททองหล่อพระทุกชาติไป บุญมันน้อยต้องค่อยๆเติมนะครับไม่รีบร้อน เพลงมาจากตู้ไหนครับ มีสอนกันด้วยเหรอครับ เอท่านรู้จักหลวงปู่มั่นไหมครับท่าน
สอนธรรมะเก่งนะครับ....ธรรมะที่หลวงปู่มั่นสอนนี่นะสุภาพสุดๆ ท่านสอนแบบบัวไม่มีช้ำน้ำไม่มีขุ่น ลูกศิษย์ท่านสำเร็จอรรหันหลายองค์ครับ หลวงปู่แหวน หลวงปู่สิม หลวงปู่ฝั้น ล้วนแต่เป็นหลวงปู่แทบทั้งนั้น แล้วธรรมะของหลวงปู่มั่นนี่ สุภาพ สุขุมลุ่มลึกจริงๆ ขอน้อมกราบธรรมะเฉพาะของจริง ส่วนแบบโหวกเหวกโวยวาย หรือว่าต้องสอนธรรมด้วยถ้อยคำหยาบคาย ผมว่าเป็นของเล่นนะครับ..วันนี้สวัสดีอีกครั้งครับ

 

สวัสดี ท่านbade
ไหลได้อีกเรื่อยๆ เน่อะ

 

เมื่อกี้ มีเมสเซส ชวนทำบุญเข้ามาด้วย แต่ตอนนี้เครื่องมีปัญหาโดนไวรัสกำลังจัดสเปคใหม่ เปิดไม่ออกครับ ไม่รู้เป็นไร อนุโมทนา..อนุโมทนา..อนุโมทนา..สงสัยลองใจอีกละ เฮ้อ..