ไม่ควรมีการเททองหล่อพระอีกต่อไป

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย manforlove, 6 สิงหาคม 2012.

  1. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ในอนาคตเราว่ามาหลายเลยล่ะท่าน ไม่ใช่เด็กหนุ่มคนเดียวล่ะ ทุกวันนี้ก็มีเกิดกันอยู่ทุกวันเลย
     
  2. ตาดำดำ

    ตาดำดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +732
    เขาเรียกว่า delusion ครับ คือเชื่อแบบผิดๆและไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องรักษาด้วยยาครับ ผมจึงไม่ได้คาดหวังว่าจขกท.จะเข้าใจอะไรนักและก็หวังว่าจะได้รับการรักษาโดยเร็ว
    ส่วนคนอื่นที่การรับรู้ปกติแต่เต็มไปด้วยมิจฉาทิฐิ เป็นฆราวาสแต่คิดว่ารู้มากกว่าพระทั้งที่ความรู้พื้นฐานยังไม่มี บุญธรรมดายังไม่รู้จักแล้วยังไปหวังเอานิพพาน แบบนั้นก็แก้ยากเช่นกัน

    ปล. สำหรับประเด็นเรื่องการทำบุญ อานิสงส์การทำบุญ พุทธพาณิชย์หรือไม่อย่างไร คิดว่าควรตั้งกระทู้ใหม่ดีกว่าครับ แต่ฝากไว้สั้นๆว่า เป็นชาวพุทธก็ต้องรู้จักทำบุญในศาสนาพุทธ แต่คนเรามีหลายบทบาทหน้าที่ ไม่ใช่แค่ชาวพุทธอย่างเดียว ยังเป็นส่วนหนึ่งของสังคมก็ต้องดูแลช่วยเหลือสังคม การจะช่วยบริจาคเงินเด็กกำพร้า ช่วยเหลือผู้ยากไร้ก็เป็นสิ่งที่สมควรทำ ได้บุญ แต่ถามว่าอานิสงส์มากพอช่วยให้เราเข้าใจหลักธรรมคำสอนหรือไม่ นั่นคงเป็นคนละเรื่อง (เหมือนที่เคยได้ยินพวกดาราเมืองนอกที่บริจาคเงินทีเป็นหลายล้าน แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เห็นธรรม) ถ้าอยากแสวงหาธรรม ก็ต้องแสวงหาผู้รู้ธรรม การทำบุญก็ไม่ได้ขึ้นกับจำนวนเงิน แค่ไปกราบไปฟังธรรมจากท่านก็ได้ แต่ถ้าคิดเพียงทำบุญกับผู้ด้อยโอกาสแล้วจะหวังผลเอานิพพานโดยมานั่งตีความพระธรรมเอาเอง ผมว่ายากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  3. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    คำตอบสุดท้ายไม่ใช่ว่า..คนใช้มันยังไม่ดีพอหรือท่าน ?
    เพราะสิ่งบริสุทธิ์จริง ก็ต้องคู่กับผู้บริสุทธิ์เท่านั้นไม่ใช่หรือคะ




    อันนี้เป็นกิเลส อัตตา ตัวตน ชักนำแน่นอน เค้าเรียกว่าเจือปนสิ่งไม่ดี เหมือนจะดีแต่ไม่ดีจริง เพราะชั่วที่เจตนานะท่าน

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 สิงหาคม 2012
  4. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ท่านรู้ได้อย่างไรล่ะคะว่าไม่มีใครเชื่อ ถ้าหากมันเป็นความจริง และเป็นสิ่งที่ดีจริง ในเมื่อท่านพูดความจริงแล้ว เจตนาดีจริงแล้วใยท่านจะต้องกลัวว่าผู้อื่นจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ
    ในเมื่อเราถามท่าน นั่นหมายถึงว่า เรายินดีที่จะอ่านข้อความทุกข้อความของท่าน ที่ท่านได้ตอบเรามา ใยท่านต้องมาตัดสินในความเป็นเราว่าเราจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เราคุยกันไม่ใช่หรือ
    สิ่งที่ท่านรู้ และเข้าใจ หากเป็นความจริงแล้ว ใยจะต้องหวั่นไหวกับสิ่งอื่นที่เค้าเข้าใจได้หรือไม่ได้ โลกธรรรม คำนี้ท่านแจ้งแล้วหรือยัง
     
  5. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    เมื่อถึงเวลา ทุกอย่างก็จัดสรรค์ได้เองเสมอ เพียงแต่ในเวลานี้ ตัวเราเองแต่ละคนดีพอหรือยัง เท่านั้นเอง
    อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ
     
  6. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    คำว่า "ผู้บริสุทธิ์ หรือ มนุษย์ผู้ประเสริฐ" ท่านเข้าใจคำนี้อย่างแท้จริงหรือยัง
     
  7. Artorius

    Artorius เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +313
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Artorius [​IMG]
    เรียน จขกท.ครับ
    คุณรู้ได้อย่างไรครับ ว่าคลองที่กำลังขวางนั้น เป็นคลองที่พาไปสู่ที่ต่ำ เป็นที่ไปของอบาย
    รู้ครับจึงตั้งก
    เอาง่ายๆสั้นๆนะครับ แบบเข้าประเด็น
    1.การสร้างพระ ถ้าสร้างแล้วทำให้ระทู้
    หลงยึดติดในรูปนาม ไม่เข้าถึงแก่นแห่งพุทธ ก็เป็นอันตราย แล้วแต่ปัญญา บุญ กรรม ของผู้นั้น
    ถูกแต่พอเสียสละบอกได้ก็เสียสละบ้างไม่เหลือบ่ากว่าแรงเลย
    2.การสร้างพระ ถ้าสร้างแล้ว เพื่อเป็นพุทธานุสติ เพื่อเข้าถึงกรรมฐานเพื่อวิปัสณา เพื่อเป็นผู้เข้าถึงกระแส(โสดาบัน) ก็เป็นกุศล คนละเรื่อง การเข้าถึงกระแสโสดาปัติผล คือความศรัทธาแน่วแน่ต่อพระรัตนไตร เรื่องสร้างพระเป็นทางเดินเพื่อล่อลวงคนหมู่มากให้เดินตามกันตามทางที่ปูลาดไว้เนียนที่สุด
    ด้วยเหตุแห่งการสร้างพระ เป็นเหตุให้เกิดผลลัพธ์2อย่างที่แตกต่างกัน ถึงคุณและโทษ
    คุณจขกท.จึงห้าม(ปลี่ยนเป็นคำว่าไม่ควรไม่ใช่ห้าม)ไม่ให้มีการปฏิบัติเททอง แต่ผู้ที่มองแตกต่าง มองประการที่2คือ คุณประโยชน์ คุณกลับกล่าวว่า เป็นผู้ไม่รู้ธรรม เป็นผู้ยึดติด ใช่หรือไม่ครับ
    บางคนอาจยึด
    คุณ จขกท.คิดเห็นอย่างไร กรุณาอ้างอิงกระทู้นี้ และตอบด้วยครับ ขอบคุณ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    บางคนไม่ยึดนานาจิตตัง<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->


    เมื่อคุณ จขกท. โต้แย้งในประการที่2 ด้วยเหตุที่"การสร้างพระ ถ้าสร้างแล้ว เพื่อเป็นพุทธานุสติ เพื่อเข้าถึงกรรมฐานเพื่อวิปัสณา เพื่อเป็นผู้เข้าถึงกระแส(โสดาบัน) ก็เป็นกุศล" ว่าเป็น "คนละเรื่อง การเข้าถึงกระแสโสดาปัติผล คือความศรัทธาแน่วแน่ต่อพระรัตนไตร เรื่องสร้างพระเป็นทางเดินเพื่อล่อลวงคนหมู่มากให้เดินตามกันตามทางที่ปูลาดไว้เนียนที่สุด" ก็ถือว่าสิ้นสุด แล้วแต่ปัญญาของใครของมัน

    อ้างอิง: ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Artorius [​IMG]
    นั่งยังไงครับ สรุปแล้วท่านก็คือสร้างเหมือนกัน แล้วจะเหมารวมหมดว่าไม่ควรสร้างได้อย่างไร แล้วท่านจะเหมารวมหมดว่าคนที่สร้างคือคนที่ทำตามๆกันมา เหมือนเด็กๆ อย่างนี้น่ะถูกแล้วหรอ
    ผมว่าท่านต้องแยกแยะแล้วล่ะครับ ถ้าหากเจตนาท่านดีจริงอย่างที่ว่า

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Artorius [​IMG]
    นั่งยังไงครับ สรุปแล้วท่านก็คือสร้างเหมือนกัน แล้วจะเหมารวมหมดว่าไม่ควรสร้างได้อย่างไร แล้วท่านจะเหมารวมหมดว่าคนที่สร้างคือคนที่ทำตามๆกันมา เหมือนเด็กๆ อย่างนี้น่ะถูกแล้วหรอ
    ผมว่าท่านต้องแยกแยะแล้วล่ะครับ ถ้าหากเจตนาท่านดีจริงอย่างที่ว่า
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ตามชื่อกระทู้ครับ ผมตั้งว่าเททองหล่อพระ<!-- google_ad_section_end -->

    เททองหล่อพระคุณว่าทำให้หลงยึดติด แล้วสร้างพระเครื่องจากดิน ไม่ยึดติดหรอ
    555 เอาเถอะๆ ว่ากันเท่านี้ ผมไม่คะยั้นคะยอคุณแล้ว
    ผู้อ่านตามความคิดเห็น เค้าพิจารณาได้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว


     
  8. Artorius

    Artorius เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +313
    พระอริยสงฆ์ จำนวนอย่างต่ำ 2-3 ท่านกล่าวถึงอานิสงส์การสร้างพระพระพุทธรูปเพื่อเป็นวิหารธรรม คุณกลับเห็นว่า ทำให้หลงยึดติด ก็แล้วแต่คุณเถิด



    อานิสงส์การหล่อ/สร้างพระพุทธรูป

    ถาม-การหล่อหรือสร้างพระพุทธรูปมีอานิสงส์(บุญกุศล)มากน้อยแค่ไหนคะ?

    ตอบ-

    1)สร้างพระ 1 องค์ ได้อานิสงส์ 5 กัป(หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ)....ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ สร้างด้วยอะไรก็ตาม หมายความว่าบุญกุศลจะตามหนุนส่งท่านไปทุกภพทุกชาตินานถึง 5 กัป........

    2)หลวงพ่อฤาษีลิงดำ กล่าวว่า"การสร้างสมเด็จองค์ปฐมทำได้ยาก คือ ว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต้นพระพุทธเจ้าทั้งหมด การสร้างองค์ปฐมนี้ ท่านเปลี่ยนบัญชีใหม่ โดยใช้บัญชีสีทอง เป็นทองคำล้วนทั้งเล่ม จดบันทึก(เป็นอีกเล่มหนึ่งจากที่จดธรรมดา) ก็แสดงว่า คนที่จะสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมได้นี้ ต้องเป็นคนมีบุญมาก และไปนิพพานได้เร็วมาก" เพราะบัญชีสีทอง หลวงพ่อฯบอกว่า พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต้องโมทนาหมด......

    3)ผู้ใดสร้างรูปพระพุทธเจ้า จะเป็นองค์เล็กเท่าต้นคาก็ดี ใหญ่กว่าต้นคาก็ดี ผู้นั้นจะได้เป็นพรหม เป็นอินทร์ หมื่นชาติแสนชาติ ถ้าเป็นมนุษย์ จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิหมื่นชาติ แสนชาติ จะไม่เป็นผู้ตกต่ำเลย ตราบจนกว่าเข้าสู่นิพพาน(หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว)......

    4)การสร้างพระ เปรียบได้กับธนาคารบุญ ซึ่งจะเกิดบุญกุศลกับผู้ที่มีส่วนในการสร้าง โดยบุญกุศลนั้น จะเกิดขึ้นทุกครั้ง ที่มีผู้มากราบไหว้ สักการะบูชา เท่ากับจำนวนคน และจำนวนครั้ง (หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา).......

    5)การที่ผู้สร้างพระพุทธรูปได้เกิดศรัทธา จนถึงสละเงินออกมาสร้างพระพุทธรูปได้ และออกมาทำทาน ในงานฉลองพระพุทธรูปได้ ชื่อว่าเป็นผู้มี"ความเห็นตรง เห็นถูกแท้" เพราะเป็นบุญของตนเอง ไม่ใช่บุญของใครเลย ผู้สร้างพระพุทธรูป ชื่อว่า เป็นผู้ไม่ประมาท ชื่อว่า เป็นผู้ได้เตรียมตัวก่อนตาย(หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม)

    6)ถวายสังฆทาน 100 ครั้ง อานิสงส์ไม่เท่ากับถวายวิหารทาน 1 ครั้ง......




    อานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป

    คำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ(พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี เกี่ยวกับอานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป

    การสร้างพระพุทธรูปจัดว่าเป็น พุทธบูชา ถ้าในกรรมฐานจัดว่าเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน (การระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์) ถ้าตายจากคนไปเกิดเป็นเทวดา มีรัศมีกายสว่างไสวมาก

    การสร้างพระถวายด้วยอำนาจพุทธบูชาทำให้มีรัศมีกายมากเป็นคนสวย ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า

    "พุทธะปูชา มะหาเตชะวันโต" แปลว่า "การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดชอำนาจมาก"

    การสร้างพระพุทธรูปนี่เป็นพุทธบูชาเป็นพุทธานุสสติในกรรมฐาน ๔๐ กอง ท่านบอกว่ากำลังของพุทธานุสสติเป็นเหตุให้เข้าถึงนิพพานได้ง่ายที่สุด ง่ายกว่ากองอื่นก็เห็นจะจริง เพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านอยู่ที่นิพพานนี่ และท่านก็เป็นต้นตระกูลของพระนิพพาน ทีนี้เมื่อเราต้องการสร้างพระพุทธรูปให้สวยตามที่เราชอบเห็นแล้วก็ทำให้จิตใจสดชื่น จิตมันก็นึกถึงพระอยู่เสมอ ถ้าจิตนึกถึงพระพุทธรูปองค์นั้นอยู่เสมอก็จัดเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน ถ้าใจเราเกาะพระพุทธเจ้าเป็นปกติ ตายแล้วลงนรกไม่เป็น ฉะนั้นถ้าเราชอบพระแบบไหนปางไหน ก็ให้สร้างอย่างที่เราชอบจิตจะได้เกิดศรัทธา

    หลวงพ่อปานวัดบางนมโคแนะนำว่าควรหันหน้าพระบูชาไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ ไม่ควรหันหน้าพระบูชาไปทางทิศตะวันตก หรือทิศใต้ เพราะจะทำให้สตางค์ไม่เหลือใช้

    ส่วนอานิสงส์การสร้างแท่นพระนั้น ก็มีอานิสงส์เหมือนกับการสร้างพระพุทธรูป คือแท่นพระพุทธรูปเขาบกพร่องอยู่ เราทำให้เต็ม อย่างที่นางวิสาขาหรือพระสิวลีได้เคยทำมาในอดีตชาติ อานิสงส์ไม่ใช่เล็กน้อยนะ อานิสงส์ใหญ่มาก จะเกื้อหนุนให้รวย วาสนาบารมีสูง การสร้างแท่นพระหนุนพระพุทธรูป ซึ่งเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าให้สูงน่ะ จะทำให้ฐานะของเราดีขึ้น

    ครั้งหนึ่งมีญาติโยมถามหลวงพ่อฤาษีลิงดำเรื่องการชำระหนี้สงฆ์ว่าถ้าหากนับรวมหลาย ๆ ชาติเราไม่รู้ว่าเคยล่วงเกินของสงฆ์มามากน้อยเท่าไหร่ จะทำอย่างไรจึงจะชำระหนี้สงฆ์ได้หมด หลวงพ่อท่านกำหนดสมาธิจิตถามพระพุทธเจ้า ก็ปรากฏนิมิตเป็นพระพุทธเจ้าลอยมาตอบคำถามท่านว่า "ถ้าจะชำระให้ครบถ้วนเป็นเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอ ให้สร้างพระพุทธรูปหน้าตัก ๔ ศอก" พระหน้าตัก ๔ ศอก ถือว่าเป็นพระประธานมาตรฐาน ท่านบอกว่า "พระพุทธรูปนี่ไม่มีใครตีราคาได้ ใช้ในการชำระหนี้สงฆ์ หนี้สงฆ์ที่แล้ว ๆ มา ถือเป็นการหมดกันไป" เมื่อถามว่าการสร้างพระองค์หนึ่งชำระหนี้สงฆ์ได้คนเดียวหรือกี่คน ท่านก็บอกว่า "ถ้าไม่ปิดทองได้คนเดียว ถ้าปิดทองครบถ้วนได้ทั้งคณะ" คำว่า "คณะ" หมายความว่าบุคคลหลายคนก็ได้ ตัดบาปเก่าชำระหนี้สงฆ์เก่า ๆ ได้หมด แต่ถ้าสร้างหนี้ใหม่ต่อก็เป็นหนี้ใหม่เหมือนกันนะ

    เวลาถวายสังฆทานเพื่ออุทิศให้แก่ผู้ตาย อย่างน้อยควรมีพระพุทธรูปหน้าตักกว้าง ๕ นิ้วขึ้นไป ผู้ที่อนุโมทนารับบุญรับกุศลจะมีรัศมีกายสว่างมาก เพราะเทวดาหรือพรหมเขาแบ่งฐานะกันตามความสว่างของร่างกาย ไม่ได้ดูที่เครื่องแต่งตัว ถ้ามีผ้าจีวรด้วย ผู้อนุโมทนาจะมีเครื่องประดับสวยงามกว่าเดิม ถ้ามีอาหารด้วย ความเป็นทิพย์ของร่างกายจะดีกว่าเก่า

    อานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป นำมาจากหนังสือ "หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๑" โดยพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม (ท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี จัดทำโดย เจ้าหน้าที่ธัมมวิโมกข์
     
  9. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    ไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อ แต่ผมพิจารณาก่อนค่อยเชื่อ ไม่ใช่ไม่เชื่อพระพุทธองค์ แต่ไม่เชื่อตำราทั้งหมดว่าจริงทั้งหมดจึงขอพิจารณาก่อนค่อยเชื่อ
     
  10. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    แสดงว่าท่านแค่ต้องการหัวเราะและชนะ ไม่ต้องการให้เห็นข้ออรรถและธรรม
    ใช้ถ้อยคำวกวนเพื่อให้เจ้าของกระทู้หลงดูถูกการสร้างพระเครื่องของพุฒาจารย์โต ซึ่งเจ้าของกระทู้ก็ไม่ได้หลงตามคุณ ผมตั้งว่าไม่ควรเททองอย่างเดียว ไม่เกี่ยวกับปูนปั้นและรูปแบบการสร้างอย่างอื่นเพื่อป้องกันเรื่องอย่างนี้ เมื่อถึงระดับนี้แล้ว การเททองหล่อพระก็ไม่ควรเท เพราะมีเยอะแล้วจริงๆ แต่ใครจะสร้างผมไม่ได้ไปห้ามแค่ชี้ให้เห็นว่าเยอะแล้ว ปฏิบัตบูชาดีกว่า เรื่องพุฒาจารย์โต ท่านสร้างพระเครื่อง ช่วงที่ท่านแจกท่านตะโกนว่า พระร้อนๆ มาแล้วจ้า หมายความว่าอย่างไร ท่านคงไม่ทราบ และพายเรือแจกชาวบ้าน ชาวบ้านได้ใช้ฝนทา ป้องกันพิษภัยต่างๆ ไม่เหมือนเดี๋ยววนี้เพราะหายาก เอาไปฝนทาแผลสัตว์กัดแมลงกัดไม่ได้เหมือนเดิมยุคนั้นหยูกยาหายากและเรื่องโรงพยาบาลยังไม่มีเจตนาท่านสร้างไว้และทำนายว่าต่อไไปคนจะนิยมมาก คือวัตถุนิยม คนละเรื่องราวของ ธรรมะบูชาซึ่งเจ้าของกระทู้ จะชี้นำเพื่อน้อมไปปฏิบัติ ดั่งความตึงความหย่อน ความพอดีนั่นแหละ ทำให้ดีให้เหมาะ ย้ำกระทู้นี้ไม่ได้ห้าม แต่ใช้คำว่าไม่ควร แล้วแต่ใครศรัทธาอะไไรก็ทำแต่ถ้าศรัทธาพระพุทธองค์จริงและรักษาธรรมแท้แล้วท่านย่อมเข้าใจในสิ่งที่สื่อสารโดยไม่ต้อง ยอก ไม่ต้องย้อน เลย
     
  11. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    ถ้าเกิดอีก ห้ากัป หรือ เกิดเพียงชาติเดียวไม่เห็นทุกข์ก็ถือว่าประมาท ถ้าหล่อพระแล้วนิพพานทำไมพระพุทธองค์ไม่นำพาสาวกสร้างรูปของพระองค์ละทำไมท่านไม่สร้างด้วยพระองค์เองท่านสอนสาวกและแต่งตั้งเป็นเอหิภิคขุแล้วให้ออกตระเวณแจ้งธรรม ไม่ได้ไปบอกให้ขยายการสร้างรูปเคารพ ท่านไม่ได้ห้ามก็จริง เพราะในยุคของท่านนั้น ท่านปฏิเสธพาหิระลัทธิต่างๆเพราะอะไร พระพุทธองค์ท่านไม่ได้เน้นสร้างรูปเคารพ จนกระทั่งนิพพาน แม้ยุคต่อมาอีกหลายร้อยปี จึงเริมมีการปั้นรูปปั้นขึ้นมาโดยชาวกรีก จึงเกิดเป็นลัทธิแตกแยกมาหลายนิกายถึงปัจจุบันน่าจะเชื่อเพียง พุทธโอาวาท และปฏิบัติบูชาดีกว่า ที่จะสร้างพระซึ่งไม่รู้ชัดว่าบุญมากเพียงใดแต่ที่รู้คือ สวดมนต์คือยาทา วิปัสนาคือยากิน ปฏิบัติบูชา คือทั้งกินทั้งทาย่อมหายโรคเร็วกว่า สร้างหล่อพระ ซิ่งเป็นอามิสบูชา
     
  12. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    เมื่อแสวงหาผู้รูธรรมแล้วชักชวนกันปฏิบัติธรรมอย่างเดียวจะง่ายกว่า ชักชวนกันปฏิบัตะธรรมหาธรรมย่อมน่าโมทนา มากกว่าครับ
     
  13. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216

    คำนี้กับอารียบุคคลซึ่งหากสนทนาธรรมด้วยไม่นานจะเข้าใจและหลบหลีกออกจาก อาจารย์เทียมได้ครับ รู้สึกว่าคำถามท่านถามมาคล้ายจะยากให้ผมพูดอะไรบางอย่างใช่ใหม ท่านต้องสนทนากันคนอื่นให้มาก เพราะท่านกำลังถูกใครคนหนึ่งครอบงำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 สิงหาคม 2012
  14. namitta

    namitta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,061
    ค่าพลัง:
    +3,517
    คนที่น่ากลัวที่สุด คือคนที่ไม่รู้จักแยกแยะความดี ความชั่ว
     
  15. mikycar offroad

    mikycar offroad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +255
    สวัสดีครับ ท่าน kumpeang
    เห็นด้วยครับ กับข้อความข้างต้น แต่ไม่ทั้งหมดครับ (มองให้ลึกกว่านั้น)
    ถ้า..แผนที่นั้นเขียนขึ้นจากผู้รู้จริง... ย่อมนำพาทุกท่านไปถูกทาง
    แล้ว..ถ้าแผนที่นั้นถูกเขียนขึ้นจากผู้รู้ไม่จริงล่ะท่าน...อะไรจะเกิดขึ้นกับหมู่คณะ
    คงมิใช่แค่มีแผนที่แล้วก็เดินตาม คงต้องมีการศึกษาและไตร่ตรองควบคู่กันไปด้วยนะท่าน วันนี้สวัสดี
     
  16. mikycar offroad

    mikycar offroad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +255
    อ้างอิงจากหัวข้อข่าว
    พระบรมรูป'ในหลวง'องค์แรกของโลกพระบรมรูป “ในหลวง” องค์แรกของโลกสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว เผยเป็นพระบรมรูปฉลองพระองค์ชุดจอมทัพไทย เตรียมเชิญประดิษฐานวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ประเทศอินเดีย เดือน ก.พ.56 วันที่ 18 ส.ค.55 ที่พระอุโบสถวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ท่าพระจันทร์ มูลนิธิวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ได้แถลงข่าวการจัดสร้างพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ไปประดิษฐานยังวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ เมืองกุสินารา รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย พระราชรัตนรังษี หัวหน้าพระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาล กล่าวว่า การจัดสร้างพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ใช้เวลาในการจัดสร้าง 2 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์ ทั้งนี้ การจัดสร้างพระบรมรูปครั้งนี้จัดสร้างขึ้นในโอกาสวาระมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา เมื่อปี 2554 รวมทั้งถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา ในปี 2555 และยังเป็นการฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าด้วย

    ปวงชนชาวไทยน้อมใจอนุโมทนา ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
    นี่แหละครับคือความสวยงามของวัฒนธรรมไทย การเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ยังดำรงค์อยู่คู่คนไทย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2012
  17. manmut01

    manmut01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +273
    ตอนแรก จขกท (เราว่า จขกท น่าจะเป็น ทหาร )
    ให้เลือกปลูกต้นไม้กับการเททอง ต่อมา เปลี่ยนอีก มาเป็นดูแลบิดามารดาผู้มีพระคุณกับการเททอง เราก็เลยสงสัย ต่อไป จะเอาอะไรมาเปรียบกับการเททองอีก ก็ในเมื่อการปลูกต้นไม้ การดูแลบิดามารดา การเททองหล่อพระก็ล้วนแต่เป็นสิ่งดีงาม ถูกต้อง มีประโยชน์ด้วยกันทั้งนั้น ก็ไม่เห็นจะต้องเอามาเปรียบเทียบกันเลย เขาก็ทำในสิ่งที่ดี สิ่งที่เขาสามารถทำได้ตามกำลังและจริตของเขา คนเรามี บุญ วาสนา บารมี สติ ปัญญาไม่เท่ากัน จะให้ทำเหมือนกันได้อย่างไร
    ก็ค่อยๆทำกันไป พอเขาเข้าถึงแก่นธรรมะมากขึ้น เดี๋ยวเขาก็เข้าใจเอง
    ก็เหมือนกับเด็ก ที่เริ่มหัดเขียน หัดเรียน หัดอ่าน นั่นแหละ จู่ๆจะให้อ่านหรือเขียนเป็นประโยคได้เลยจะมีกี่คนที่ทำได้ แต่พอเรียนได้ไม่นานก็สามารถทำได้
    เด็กบางคนอยู่ชั้นสูงกว่า ยังอ่าน เขียนสู้เด็กชั้นเดียวกันหรือต่ำกว่าไม่ได้เลย เฉกเช่นเดียวกัน เด็กชั้นต่ำกว่าอาจจะเก่งกว่าเด็กชั้นสูงก็ได้
    นั่นเพราะอะไร เพราะคนเราบุญ วาสนา บารมี สติ ปัญญา มันไม่เท่ากันนั่นแหละ จะให้เขาคิดหรือทำได้เหมือนกันคงไม่ได้หรอก ขอแค่ให้อยู่ในแนวทางที่ดี ก็ดีแล้ว อย่างน้อยก็มีจุดหมายปลายทางที่ดี
    เราคิดว่าถ้า จขกท เข้าถึงแก่นธรรมะจริง ก็น่าจะเข้าใจเหตุผล ในเรื่องการเททองหล่อพระ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2012
  18. mikycar offroad

    mikycar offroad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +255
    สวัสดีครับทุกท่าน...วันนี้...กระทู้นี้หมองเลย
    วันนี้แวะไปอ่านเรื่อง เทวดา ตีฟจ้อป เจอพระธรรมของปลอมไหลออกจากตู้อีกแล้ว แวะไปเยี่ยมชมกันหน่อยน่ะ ติชมได้แบบสุภาพ เพราะท่านเป็นถึงนักบวชเชียวนะ
    แปลกจริงแฮะนักบวชที่ชอบยุ่งกับเงินชาวบ้านเป็นเงี้ยทุกที (พระธรรมไหลออกจากตู้)
     
  19. Artorius

    Artorius เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +313



    ความรู้ทั้งหมดเปรียบเสมือนใบ้ไม้ในป่า แต่ทางพ้นทุกช์มีเพียงใบไม้กำเมืองเดียว เหตุที่พระพุทธเจ้าไม่บอกให้คนไปเททองหล่อสร้างพระ เพราะสิ่งนี้ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์โดยตรง ทางพ้นทุกข์โดยตรงคือ สมาธิ วิปัสนา เพื่อให้รู้แจ้ง
    แต่!! คงไม่มีใคร ที่ไม่เคยกราบพระพุทธรูป ไม่เคยนึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า แล้วปฏิบัติตามพระพุทธเจ้าจนพ้นทุกข์ เปรียบเสมือนคุณต้องหัดอ่านก.ไก่ก่อน แล้วถึงจบดอกเตอร์ แต่ใครจะจบหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่ปัญญาของคนนั้น
    แต่คงไม่มีครูคนไหน สอนว่าให้สร้างหนังสือเรียนก.ไก่เข้าไว้ แล้วพวกเธอจะจบดอกเตอร์
     
  20. undeath13

    undeath13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +1,830
    ไปกันใหญ่ละมั่วมากๆ แยกให้ออกสิครับ ธรรมมะที่ท่านสอนพระสงฆ์ กับสอนฆราวาส ผมยังกินขี้ปี้นอนอยู่ จะให้ผมละหมดเลยหรือไง จะบ้าหรอ ถ้าสอนพระเพื่อให้บรรลุธรรม นั้นถูกไม่ควรยึดติดกับรูปเพราะมันทำใหไปนิพพานไม่ได้

    แต่ฆราวาสอย่างผมมันไปไม่ได้อยู่แล้วมันต้องมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจครับ

    ไม่ให้ผมกราบไหว้ ทำให้ผมอดได้บุญ ผมตายห่าไปตกนรก คุณรับผิดชอบไหวไหม โถ่เอ้ย

    ไปอ่านพระไตรปิฎกใหม่มาไป๊ กราบกองทรายแล้วบูชาด้วยดอกไม้ คิดว่ากองทรายนั้นคือตัวแทนพระพุทธเจ้า ยังขึ้นสวรรค์เกิดเป็นพระเจ้าจักพรรดิ์ทั้งโลกตั้งหลายครั้ง บุญเยอะมหาศาลมาก แล้วนี้หล่อเป็นตัวแทนท่านบุญจะไม่เยอะกว่าหรือ

    คุณกำลังขัดขางทางบุญผู้อื่นนะรู้ไหม ระวังจะพบบาปกรรมหนัก กราบพระด้วยจิตเลือมใสนั้นบุญมากมายคนที่ขัดขวางก็จะบาปหนักพอๆกะบุญที่จะได้แหละ
     

แชร์หน้านี้

Loading...