999 ประสบการณ์วัตถุมงคล หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ 999

"คัดลอกมาให้อ่านครับ ขออนุญาติเจ้าของบทความด้วยครับ"

ครับมีปัญหาที่หลาย ๆคนเคยถามกับผมและกับลูกศิษย์คนอื่น ๆของหลวงปู่ฯ ท่าน เหมือน ๆกันคือเรื่องหลวงปู่ฯ ท่านห้ามดื่มเหล้า ถ้าดื่มแล้วจะเสื่อม?
จริงครับหลวงปู่ฯท่านห้ามดื่มเหล้า และให้รักษาศีลด้วยนะครับ เพราะท่านรักลูกศิษย์ต้องการให้ลูกศิษย์เป็นคนดีมีศีล และมีธรรม ไม่ไปก่อกรรมให้กับใครแม้แต่กับตัวเองที่ว่าดื่มเหล้าแล้วเสื่อม ไม่ใช่ของเสื่อมนะครับ แต่เป็นตัวคนที่เสื่อมเราดื่มเหล้าแล้วเสื่อมอย่างไรอันนี้คงไม่ต้องอธิบายให้มากความ
หลวงปู่ฯท่านพูดให้ฟังเสมอ ๆ ว่า ครูบาอาจารย์ถ้ารักลูกศิษย์แล้วต้องให้ลูกศิษย์ถือศีลถ้าให้แต่ของขลังไปแล้วบอกแต่ว่าของนี้ฟันไม่เข้า ยิงไม่ออกลูกศิษย์ที่ดีก็มีที่ไม่ดีก็ต้องมีปะปนมาและพวกนี้ที่เอาของขลังทั้งหลายไปก่อกรรมทำชั่วเกะกะระรานเกเรสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน และสุดท้ายก็สร้างเวรก่อกรรมมากต่อมากกรรมเวรเหล่านั้นก็จะมาถึงครูบาอาจารย์ด้วยในที่สุดเพราะไม่ได้สั่งสอนลูกศิษย์ให้เป็นคนดีแต่แรก
อย่างหลวงปู่ ฯท่านๆจะบอกก่อนเลยว่าของ ๆ ท่านต้องถือศีล ถ้าถือศีลไม่ได้ก็ไม่ต้องเอาไป แต่อย่างไรก็ตามเท่าที่ได้รู้ได้เห็น คนที่โดนอะไรหนัก ๆ (หนักจริงๆ)ทั้งหลายก็เป็นคนที่ดื่มสุราเป็นอาจิณต์ครับ บางคนถูกยิงไม่เข้าก็มาเรียนหลวงปู่ฯท่าน ๆ ก็ถามว่าดื่มเหล้าหรือเปล่า เขาตอบว่าดื่ม หลวงปู่ ฯ ท่านก็ตอบต่อไปว่านี่ถ้าไม่ดื่มเหล้าปืนยิงไม่ออกดอกก็เล่าเท่าที่ทราบให้พิจจารณากันนะครับ

นะเมติ นะเมติ นะเมติ

 

ขอสอบถามครับว่าทำบุญกฐิน 3000 บาท ได้รับรูปหล่อโลหะ 30 องค์ และพระบูชา 5 นิ้ว 1 องค์ใช่ไหมครับ ขอบคุณมากครับ

 

เชิญชมคลิ๊ป หลวงปู่หงษ์ ทำพีธีลงสาริกาลิ้นทอง ครับ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=eD7oh_yrOtc"]YouTube - สาริกาลิ้นทอง[/ame]

นะเมติ นะเมติ นะเมติ

 

ตอบคุณ กริด 99 วันนี้โทรไปถามหลานหลวงปู่ให้แล้วครับ ผ้าป่ากองละ 3000 บาท รับรูปหล่อ 30 องค์ ประธานสายได้รับ รูปหล่อหลวงปู่หงษ์นั่งบนสาริกา ขนาด 5 นิ้ว

ส่วนรูปลักษณ์วัตถุมงคล ยังไม่เรียบร้อยดี ถ้ายังไงปลายเดือนผมไปหาหลวงปู่ แล้วถ้ามีอะไรคืบหน้าจะมาแจ้งให้ทราบ

ช่วงนี้หลานหลวงปู่- พระลูกวัด หลายรูป- ผู้มีจิตศรัทธาต่างๆ รวมถึงคณะศิษย์หลวงปู่หงษ์ ต่างร่วมด้วยช่วยกัน หาปัจจัยถวายหลวงปู่เพื่อนำไปเป็นในการสร้างปราสาท พระเจ้าห้าพระองค์ โดยช่วงนี้ที่เห็นทำอยู่ภายในปีนี้ ก็น่าจะมีดังนี้

1 ผ้าป่ากองละ 3000 ของหลานหลวงปู่ - หลวงพี่ญาติ และ หลวงพี่ถวิล
2 สร้างพระกริ่งจอมขวัญ
3 วัตถุมงคล รุ่น ฉลองมงคล ๙๓ (คณะศิษย์สร้างถวาย) ตอนนี้รูปแบบทั้งหมดใกล้เสร็จเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว จะประชาสัมพันธ์ให้ทราบเร็ววันนี้ โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำถวายหลวงปู่หงษ์

โดยทั้งหมดที่กล่าวมานั้น จุดประสงค์ เพื่อนำรายได้ถวายหลวงปู่ เพื่อเป็นทุนทรัพย์ในการสร้างปราสาทพระเจ้าห้าพระองค์ เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแก่พุทธศาสนิกชนทั่วไปในภายภาคหน้า


ความเป็นมาของปราสาทพระเจ้าห้าพระองค์ มีความเป็นมาอย่างไร เมื่อประมาณเดือนตุลาคม ปี ๒๕๕๒ ทางผมและคณะศิษย์รวมถึงผู้มีจิตศรัทธา ได้นำเงินกฐินไปถวายหลวงปู่เพื่อสร้างรั้ว ปราสาทมรกตจตุรมุข(อาศรมหลวงปู่) เพิ่มเติมให้แล้วเสร็จ ซึ่งในวันก่อนที่จะถึงพิธีกฐินในวันรุ่งขึ้น หลวงปู่ปรารภ และ เล่าในนิมิตรฝันให้ฟังว่า ปัจจุบันผู้คนเปลี่ยนไป ต่างผิดศีล ผิดธรรม ไม่ปฏิบัติศีลห้า ทำกรรมมาก และในอนาคตจะเกิดภัยพิบัติ ร้ายแรง ผู้คนจะล้มตายเป็นจำนวนมาก มีโรคระบาดเกิดขึ้น และจะคร่าชีวิตผู้คนมากมาย ซึ่งจะแก้ได้ด้วยการทำกรรมดี เร่งสร้างบุญและหมั่นถือศีลปฏิบัติธรรม เอาไว้ให้มาก และ ครูบาอาจารย์เหล่าเทพยดา ก็มานิมิตรในฝันหลวงปู่อีกว่า ให้หาที่ดินเพื่อ สร้างสถานปฏิบัติธรรม ผู้คนจะได้พ้นจากความเสื่อมของจิตใจ และ หันเข้ามาทำความดี ก็จะคลาย และ แก้สิ่งร้ายกลายเป็นดีไม่มากก็น้อย เมื่อคนดีมีศีลธรรม มีจิตใจดี ก็จะป็นคนดี ครอบครัวก็จะดี ชีวิตก็จะดี สังคมก็จะดี และประเทศชาติก็จะดี

ในช่วงเดือนนั้น หลานหลวงปู่ ได้มาปรึกษาหารือกับผมและลูกศิษย์อีกหลายๆท่าน ว่า หลวงปู่เล่าเรื่องการหาเงินซื้อที่ดิน เพื่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมตามที่หลวงปู่นิมิตรฝันอยากที่จะให้ช่วยกันบอกบุญ และช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรดี หลังจากนั้น ก็มีโครงานบุญหลายๆอย่างได้ริเริ่มก็ตั้งขึ้นมา อาทิเช่น ผ้าป่า - กฐิน - พระไม้หัวสะพานรุ่น 1 และ 2 - เหรียญพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ - พระกริ่งและ พระปิดตา พระเจ้าห้าพระองค์ ฯลฯ

ซึ่งผมเองก็แอบดีใจอยู่ลึกๆ ว่า เป็นเพราะบารมีของหลวงปู่โดยแท้

เมื่อใดก็ตามที่หลวงปู่มีดำริที่จะทำโครงการใดๆ ก็แล้วแต่ เมื่อนั้นเหล่าคณะศิษย์ของ

หลวงปู่จะร่วมมือกันทำงานนั้นๆให้สำเร็จเสร็จสิ้นไปโดยง่าย

แต่โครงการ การสร้างปราสาทพระเจ้าห้าพระองค์นั้น ถ้าถามใจผมเองก็ถือว่าเป็นมหา

โปรเจคเลยทีเดียว หลวงปู่เคยเล่าให้ฟังว่า จะสร้างปราสาททั้งหมด 5 หลัง โดยบนยอด

ปราสาทแต่ละหลังจะมี พระเจ้าห้าพระองค์(สัตว์ 5 ชนิด งู - เสือ - เต่า - วัว - ไก่)

ถือว่าเป็นสัตว์ในตำนาน (จะเล่าให้ฟังในตอนท้ายเพื่อเป็นความรู้ ว่ามีความสำคัญอย่างไร

และ เกี่ยวกับพุทธศาสนาอย่างไร)

การสร้างอาคารทั้งหมดนั้น ผมเองก็ไม่ทราบว่าจะต้องใช้ทุนทรัพย์มากมายสักเท่าใด

เคยถามหลวงปู่ ว่า หลวงปู่ครับถ้าสร้างอาคาร 5 หลัง 100 ล้านจะพอไหม หลวงปู่ก็

หัวเราะ บอกไม่รู้ แล้วถ้าสร้าง 1 อาคาร และมี 5 ชั้นได้ไหม หลวงปู่ก็ตอบว่าก็ยังไม่แน่ใจ

ผมเองก็เอาจะลองถามหลวงปู่อีกครั้งครับว่า เมื่อมีทุนทรัพย์เพียงพอสมควรแล้วจะสร้าง

อย่างไร รูปแบบเป็นแบบไหน ใช้ทุนทรัพย์เท่าไหร่

พวกผมเองเป็นกลุ่มลูกศิษย์กลุ่มเล็กๆ ที่เคารพรักศรัทธา ในองค์หลวงปู่หงษ์ อย่างมาก

งานใดหากทำได้โดยไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็พร้อมจะทำให้ได้ทุกเวลา ซึ่งในการทำวัตถุมงคล

ถวายหลวงปู่นั้น พวกเราเองไม่ได้มีทุนทรัพย์ส่วนตัวมากมาย จึงสร้างและทำตามกำลัง

สมควรที่พอจะทำได้ ส่วนปัจจัยก็ถวายมากบ้างน้อยบ้าง บางครั้งก็ 6-70000 บาท

100,000 กว่า 200.000 กว่า 300,000 กว่า 700,000 กว่า อันนี้ก็แล้วแต่ชิ้นงานที่

ทำ ทำผ้าป่าบ้าง กฐินบ้าง ทำพระบ้าง ก็ตามเรื่องตามราวครับ

แต่ในช่วงปี สองปี มานี้ดีใจแทนหลวงปู่อย่างมากมายจริงๆ ครับ เห็นแล้วชื่นใจ ที่ผู้มีจิต

ศรัทธาและกลุ่มของลูกศิษย์หลวงปู่หลายๆ กลุ่ม ที่เข้ามาช่วยงานบุญหลวงปู่ มากขึ้น

เรื่อยๆ

 

ตำนานพระเจ้าห้าพระองค์

สารคดีตำนานพระเจ้าห้าพระองค์ เป็นสารคดีที่สำคัญเรื่องหนึ่งที่สอดคล้องกับหลักทางพระพุทธศาสนาและยังผูกโยงไปถึงเรื่องการลอยกระทงอีกด้วย ตำนานนี้เป็นการดำเนินเรื่องเกี่ยวกับความเป็นมาของพระพุทธเจ้าครั้งยังบำเพ็ญเป็นพระโพธิสัตว์ลูกของพระพญากาเผือกและสารคดีนี้ผู้เขียนใช้เวลาในการสืบถามนักปราชญ์ที่ทรงความรู้ในเรื่องตำนานพระเจ้าห้าพระองค์ในท้องถิ่นเป็นเวลาหลายเดือนกว่าจะเขียนสารคดีตำนาน

เจ้าพระองค์ออกมาได้ แรงบันดาลใจที่ผู้เขียนได้เขียนตำนานพระเจ้าห้าพระองค์ในครั้งนี้ คือเพื่อสืบทอดตำนานโบราณที่สำคัญของพระพุทธศาสนา
ไว้ เพื่อเป็นวิทยาทานให้แก่ผู้อ่านทุกท่านได้รับความรู้ที่คนส่วนใหญ่ไม่มีใครรู้กันและได้รับความรู้ที่กว้างขวางมากขึ้น จากเรื่องตำนานพระเจ้าห้าพระองค์ที่ตราตรึกอยู่ในเนื้อเรื่องนี้
ตำนานพระเจ้าห้าพระองค์มีอยู่ว่า ในสมัยต้นปฐมกัปมีพญากาเผือก ๒ ตัวผัวเมียทำรังอยู่ที่ต้นมะเดื่อริมฝั่งแม่น้ำคงคา อันเป็นธรรมชาติสถานที่รื่นรมย์ ในเวลาต่อมาพระโพธิสัตว์ได้ทรงปฏิสนธิในครรภ์แม่พญากาเผือกพร้อมกันถึง ๕ พระองค์ เมื่อครบทศมาสแม่กาเผือกก็ออกไข่ ณ ที่รังต้นมะเดื่อจำนวน ๕ ฟอง (สถานที่นี้ในกาลต่อมาเรียกชื่อว่า วัดพระเกิด อ.วังเหนือ ) แม่กาเผือกคอยเฝ้าฟักดูแลรักษาไข่ด้วยความทะนุถนอมเป็นอย่างดี ครั้นอยู่มาวันหนึ่งพญากาเผือกได้ออกไปหากินถิ่นแดนไกลได้ไปถึงสถานที่หนึ่งอันอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพรรณธรรมชาติพืชพรรณธัญญาหาร แม่กาเผือกได้เพลิดหากินอาหาร ชื่นชมธรรมชาติอันรื่นรมย์จนมืดค่ำพอดีฝนตกฟ้าคะนองพายุใหญ่พัดกระหน่ำทำให้มืดครึ้มทั่วไปหมด ทำให้พญากาเผือกหาหนทางออกไม่ถูกจึงหลงในบริเวณสถานที่นั้น ( สถานที่นั้นต่อมา จึงได้ชื่อว่า เวียงกาหลง ) แม่กาเผือกได้พักอยู่ที่เวียงกาหลงคืนหนึ่ง พอรุ่งอรุณเบิก

ฟ้าแม่กาเผือกจึงรีบถลาบินกลับสถานที่พัก ณ ที่รังต้นมะเดื่อริมฝั่งแม่น้ำ แต่ปรากฏว่ากิ่งไม้มะเดื่อที่ทำรังอยู่ได้ถูกลมพายุใหญ่พัดหักล้มลงไปในแม่น้ำ แม่กาเผือกตกใจรีบบินถลาหาลูกทั้ง ๕ ในแม่น้ำแต่อนิจจาหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ แม่กาเผือกพยายามหาไข่ลูกของตนไปในทุกสถานที่ตามลำน้ำจนเหนื่อยอ่อนเมื่อยล้า ด้วยความโศกเศร้าเสียใจในความรักลูกอย่างสุดซึ้ง จึงไม่สามารถระงับความอาลัยทุกข์ได้ในที่สุดก็สิ้นใจไปอย่างน่าสงสาร

( สถานที่แม่กาเผือกสิ้นชีวิตนั้น คือ วัดอักโขชัยคีรี อ. แจ้ห่ม จ. ลำปาง ) ด้วยอานิสงส์ที่มีความเมตตารักลูกอับริสุทธิกับทั้งที่ลูกของแม่กาเผือกเป็นโพธิ์สัตว์ถึง ๕ พระองค์ จึงเป็นบุญกุศลหนุนส่งให้แม่กาเผือกตายไปเกิดอยู่แดนพรหมโลกชั้นสุธาวาสมีวิมานทองคำสดใสบริสุทธิ์งดงามตระการตาได้พระนามชื่อว่า “ ฆติกามหาพรหม ” พระฆติกามหาพรหมจักได้เป็นผู้ถวายอัฏฐะบริขารบวชแก่ลูกทั้ง ๕ พระองค์เมื่อได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนไข่ทั้ง ๕ ได้ถูกลมพัดตกน้ำไหลไปในสถานที่ต่างๆ

ไข่ฟองที่ ๑ มีไก่เก็บไปดูแลรักษา
ไข่ฟองที่ ๒ แม่นาคราชเก็บไปดูแลรักษา
ไข่ฟองที่ ๓ แม่เต่าเก็บไปดูแลรักษา
ไข่ฟองที่ ๔ แม่โคเก็บไปดูแลรักษา
ไข่ฟองที่ ๕ แม่ราชสีห์เก็บไปดูแลรักษา<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O></O>

ครั้นในกาลเวลาต่อมา พระโพธิสัตว์ ทั้ง ๕ ก็ประสูติออกจากไข่ทั้ง ๕ ปรากฏเป็นมนุษย์ รูปร่างสวยสดงดงามทั้ง ๕ พระองค์ ในเวลาเดียวกันตามลำดับของแม่เลี้ยงทั้ง ๕ ที่นำไป เก็บ ดูแลรักษา พระโพธิสัตว์ทั้ง ได้เจริญเติบโตอยู่กับแม่เลี้ยงดัวยความกตัญญูจึงรู้หน้าทุกอย่างทดแทนบุญคุณแม่เลี้ยงเป็นอย่างดีจนถึงอายุได้ดี๑๒ ปี ด้วยบุญกุศลเก่าหนุนส่ ก็มี ออกบวชเนกขัมบารมีเป็นฤๅษีอยู่ในป่า จึงได้อำลาแม่เลี้ยงของตนเหมือนกันทั่ง ๕ พระองค์ ฝ่ายแม่เลี้ยงถึงจะมีความรักความอาลัยในลูกสักเพียงใด แต่ก็ไม่ขัดความประสงค์เจตนาที่เป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ของลูก จึงได้อนุญาตให้ลูกไปบวชเป็นฤๅษีบำเพ็ญบารมีอยู่ในป่าด้วยความอนุโมทนา ด้วปณธานอันแน่วแน่ของพระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ พระองค์ ที่มุ่งมั่นจะบำเพ็ญบานมีพระโพธิญาณ เพื่อเป็นพระพุทธเจ้าโปรดสัตว์โลก ให้พ้นจากกองทุกข์ภัยในวัฏฏะสงสารแม่เลี้ยง ทั้ง ๕ เห็นปณิธานอย่างนั้นจึงฝากนามของแม่เลี้ยงไว้กับลูกเพื่อเป็นอนุสรณ์ตำนานไว้แก่โลกต่อไปในภาคหน้าเมื่อลูกได้ตรัสรู้เป็นพุทธเจ้าโปรดโลกแล้วตามลำดับพระนามดังนี้

องค์ที่ ๑ มีพระนามว่า พระกกุสันโธ เพราะตามนามแม่เลี้ยงที่เป็นไก่
องค์ที่ ๒ มีพระนามว่า พระโกนาคมโน เพราะตามนามแม่เลี้ยงเป็นนาค
องค์ที่ ๓ มีพระนามว่า พระกัสสโป เพราะตามนามแม่เลี้ยงเป็นเต่า
องค์ที่ ๔ มีพระนามว่า พระโคตโม เพราะตามนามแม่เลี้ยงเป็นโค
องค์ที่ ๕ มีพระนามว่า พระศรีอริยเมตไตรโย เพราะตามนามแม่เลี้ยงที่ เป็นราชสีห์

ในกัลป์นี้ได้ชื่อว่าภัทรกัปเป็นกัปที่เจริญที่สุดเพราะมีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกนี้ถึง๕พระองค์มีพระนามตามที่กล่าวมาแล้วนั้นทั้ง ๕ พระองค์ จึงเป็นที่มาของคำว่า (นะโมพุทธายะ)
นะคือพระกกุสันโธ

โม คือ พระโกนาคมโนพุทธ คือพระกัสสะโปธาคือ พระโคตโมยะคือพระศรีอริยเมตไตยโย

ฝ่ายพระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ พระองค์ เมื่อออกบวชเป็นฤๅษีได้บำเพ็ญเพียรพระกัมมัฏฐานจนสำเร็จญาณ อภิญญาสมบัติ จึงสามารถเหาะไปหาอาหารผลไม้ด้วยฤทธิ์ทุกพระองค์ อยู่มาวันหนึ่งได้เหาะไปหาอาหารผลไม้และบำเพ็ญเพียรธรรมที่ป่าดอยสิงกุตตระ ณ ใต้ต้นนิโครธอันร่มเย็นด้วยกิ่งไม้สาขาใหญ่ ด้วยเหตุปัจจัยในกุศลบารมีธรรมฤๅษีทั้ง ๕ ได้มาพบกัน ณ ที่นี้โดยไม่ได้นัดหมายรู้จักกันมาก่อน จึงสอบถามความเป็นมาของกันและกันจึงได้รู้ว่าแต่ละองค์มีแต่แม่เลี้ยงเหมือนกัน แม่ที่แท้จริงอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ฤๅษีทั้ง ๕ จึงได้ร่วมกันตั้งสัจจะอธิฐานขอให้ได้พบแม่บังเกิดเกล้าที่แท้จริง ด้วยอำนาจสัจจะอธิฐานธรรมอันบริสุทธิ์ของฤๅษีทั้ง ๕ จึงดังก้องไปถึงพรหมโลกเป็นเหตุให้ท้าวฆติกามหาพรหมซึ่งเป็นแม่กาเผือกตายและได้มาเกิดเป็นพรหมทราบเหตุการณ์ทั้งหมด จึงจำแลงเพศเป็นแม่กาเผือกขนสวยงามยิ่งนักมาปรากฏอยู่ข้างหน้าฤๅษีทั้ง ๕ ฝ่ายฤๅษีทั้ง ๕ ก็รู้ด้วยญาณทัศนะทันทีว่านี่แหละเป็นแม่บังเกิดเกล้าที่แท้จริง จึงสอบถามแม่กาเผือกถึงความเป็นมาตั้งแต่ต้นว่า เรื่องเป็นมาอย่างไรแม่กาเผือกจึงเล่าความเป็นมาแต่หนหลังครั้งทำรังอยู่ต้นมะเดื่อฝั่งแม่น้ำคงคา อยู่มาวันหนึ่งได้ออกมาหาอาหารกินถิ่นแดนไกลถึงสถานที่ที่หนึ่ง ซึ่งอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธ์ธัญญาหารเป็นธรรมชาติอันสวยงามสงบร่มเย็น บังเกิดพายุใหญ่จนมืดค่ำจึงหลงทางอยู่สถานที่นั้นจนกระทั่งอรุณรุ่งวันใหม่ฝนฟ้าพายุสงบลงจึงรีบบินกลับมาที่พักมาหาลูกที่รังด้วยความเป็นห่วง แต่ปรากฏว่าคืนที่ผ่านมาฝนตกหนักพายุใหญ่ได้พัดกิ่งไม้มะเดื่อหักทำให้รังไข่ทั้ง ๕ ฟอง ลูกแม่กาเผือกตกลงไปในน้ำและได้ถูกน้ำพัดไหลไปในที่ต่าง ๆ หาไข่เท่าไหร่ก็ไม่พบจนหมดความสามารถ ในที่สุดด้วยความรักความอาลัยอันบริสุทธิ์ที่มีต่อลูกก็สิ้นใจตาย ได้เกิดเป็นพระพรหม ณ แดนพรหมโลกชั้นสุธาวาสมีวิมารทองคำเป็นที่อยู่ ด้วยอานิสงส์ความรักความเมตตาอันบริสุทธิ์กับทั้งลูกเป็นพระโพธิญาณมีบุญญาธิการมาก จึงได้ส่งผลให้เกิดมาเป็นพรหมและได้จำแลงเพศเป็นแม่กาเผือกให้ลูกฤๅษีทั้ง ๕ ได้ทราบถึงความเป็นมาทั้งหมดเมื่อลูกฤๅษีได้ทราบเหตุเช่นนั้นแล้วก็รู้สึกสลดสังเวชใจเป็นอย่างยิ่งและสำนึกในบุญสร้างคุณอันใหญ่หลวงของแม่กาเผือก จึงน้อมกราบนมัสการฆติกามหาพรหมผู้เป็นแม่ที่ให้กำเนิดชีวิตลูกได้สร้างบุญบารมีพระโพธิญาณ จึงกราบขอสัญลักษณ์อนุสรณ์ของแม่กาเผือกผู้บังเกิดเกล้าเอาไว้บูชา พระแม่กาเผือกจึงประทานผ้าฝ้ายเป็นด้ายฟั่นเป็นตีนกาสัญญาลักษณ์อนุสรณ์ของแม่กาเผือกประทานให้ลูกฤๅษีทั้ง ๕ ไว้ใช้เป็นไส้ประทีปจุดบูชาทุกวันพระ และต่อมาเป็นประเพณีจุดประทีปตีนกาบูชาแม่กาเผือก ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ลอยกระทง เป็นตำนานสืบไว้ในโลกาตลอดกาลนาน เมื่อแม่กาเผือกฆติกามหาพรหมประทานสัญลักษณ์ ไว้ให้ลูกฤๅษีโพธิสัตว์ทั้ง ๕ แล้วก็ลาลูกกลับเทวสถานวิมานของตนบนพรหมโลกตามเดิมฤๅษีโพธิสัตว์ทั้ง ๕ ต่างก็พากันตั้งหน้าบำเพ็ญเพียรรักษาศีลธรรมภาวนามิได้ขาด ทุกวันพระก็จุดประทีปตีนกาบูชาพระแม่กาเผือกฆติกามหาพรหมผู้เป็นแม่อยู่เสมอ เป็นเวลานานหลายปีชีวิตฤๅษีทั้ง ๕ ก็ดับขันธ์ ได้ไปเกิดบนเทวโลกชั้นดุสิตพิภพอันเป็นที่อยู่ขององค์เทพพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ได้เสวยทิพยสมบัติอยู่ในที่นั้นและในกาลต่อมาก็วนเวียนบำเพ็ญบารมีทุกภพชาติที่กำเนิดเกิดในสังสารวัฏนี้จนบารมีเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ทั้ง ๓๐ ทัศแล้วก็เสด็จมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เมื่อพระองค์ไหนจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ท้าวฆติกามหาพรหมผู้เป็นแม่ต้นปฐมกัลป์ก็จะนำเอาบริขารคือ บาตร ไตร จีวร มาถวายลูกโพธิสัตว์ทั้ง ๕ พระองค์ ในพระชาติสุดท้ายที่จะได้เป็นพระพุทธเจ้าโปรดโลกทุก ๆ พระองค์ กาลเวลาอันยาวนานผ่านไปจนถึงปัจจุบันนี้ พระโพธิสัตว์ลูกแม่กาเผือกต้นปฐมกัลป์ก็ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า โปรดโลกไปแล้วถึง ๔ พระองค์ ตามลำดับดังนี้ คือ

๑ . พระกกุสันโธสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๔ หมื่นปี มีเขมวตีนคร ของพระเจ้าเขมะเป็นราชธานี
๒ . พระโกนาคมโนสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๓ หมื่นปี มีโสภวตีนครของพระเจ้าโสภะเป็นราชธานี
๓ . พระกัสสโปสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๒ หมื่นปี มีพาราณสีนครของพระเจ้ากิงกิเป็นราชธานี
๔ . พระโคตโมสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๘๐ ปี มีกบิลพัสดุ์นครของพระเจ้าสุทโธทนะเป็นราชธานี

ส่วนพระโพธิสัตว์องค์ที่ ๕ อันเป็นลูกองค์สุดท้ายของแม่กาเผือกคือ พระศรีอริยเมตไตรย์ จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ ในภัทรกัปนี้ จะมีอายุถึง ๘ หมื่นปี ในยุคของพระศรีอริยเมตไตรย์นั้นสภาพสังคมมนุษย์โลกจะอุดมสมบูรณ์พูนสุขมาก เพราะผู้คนมีศีลธรรมอยู่ด้วยกันได้เมตตาธรรม มีศีล ๕ บริสุทธิ์ทุกคน จึงมีทรัพย์สมบัติมากมีอายุยืนยาวไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมีรูปร่างสวยสดงดงามหน้าตาผ่องใสเบิกบานด้วยกันหมด เพราะผู้คนในยุคนั้นได้สร้างบุญบารมี ให้ทานรักษาศีลภาวนากันมาสมบูรณ์ดีหมดและเพราะพระบารมีของพระพุทธเจ้าศรีอริยเมตไตรยที่สั่งสมบารมี เพื่อความสันติสุขของโลกซึ่งมีพระเจ้าสังขจักรพรรดิทรงปกครองบ้านเมืองโดยชอบธรรมในเมืองเกตุวดีนครและแผ่ธรรมจักรพรรดิให้คนรักษาศีล ๕ ทั้งโลก เมื่อพระศรีอริยเมตไตรย์ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว

จากสารคดีพระเจ้าห้าพระองค์ที่ถ้าท่านอ่านกำลังอ่านใกล้จะจบแล้ว ท่านผู้อ่านเกิดความสงสารแม่กาเผือกหรือเปล่าครับ ที่ต้องพัดพรากจากลูกรักบินหาลูกเท่าไหร่ก็ไม่พบหนสุดท้ายก็สิ้นใจตายอย่างน่าสงสาร ผู้เขียนได้นำเรื่องนี้มาเขียนเป็นสารคดีก็เพื่อให้ผู้อ่านเกิดความตระหนักในความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก อีกทั้งในเรื่องนี้มิใช้มีแต่เรื่องความรักของพระแม่กาเผือกเพียงอย่างเดียว หากยังรวมไปถึงคุณความดีความเชื่อถือและประเพณีที่สอดแทรกด้วย ในเรื่องนี้ผู้อ่านสังเกตหรือไม่ครับว่ามีเรื่องของลอยกระทงมาเกี่ยวข้องด้วยแต่ในสารคดีนี้ไม่ระบุไว้อย่างชัดเจนชักเท่าไหร่นัก แต่จะเน้นไปเรื่องตำนานพระเจ้าห้าพระองค์เป็นส่วนใหญ่ ผู้เขียนขอกล่าวถึงความเป็นมาของการลอยกระทงและการจุดประทีปบูชาท้าวฆติกามหาพรหมสอดแทรกเพิ่มเติมให้กับผู้อ่าน เพื่อจะได้รู้ข้อมูลได้อย่างชัดเจนเพื่อจะได้นำข้อมูลที่อ่านบอกต่อๆกันไปไม่ผิดเพียนจากต้นฉบับ
เรื่องมีอยู่ว่า ในระหว่างที่พระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ พระองค์ได้พบแม่บังเกิดเกล้าของตนแล้ว และท้าวฆติกามหาพรหมก็ประทานผ้าฝ้ายเป็นรูปตีนกาให้แก่ฤๅษีลูกทั้ง ๕ เก็บไว้บูชาในวันพระเพื่อเป็นการบูชาพระคุณของแม่ ทุกวันพระก็จุดประทีปตีนกาบูชาพระแม่กาเผือกฆติกามหาพรหมผู้เป็นแม่อยู่เสมอ เป็นเวลานานหลายปีชีวิตฤๅษีทั้ง ๕ ก็ดับขันธ์ ได้ไปเกิดบนเทวโลกชั้นดุสิตพิภพอันเป็นที่อยู่ขององค์เทพพระโพธิสัตว์ และในกาลต่อมาก็วนเวียนบำเพ็ญบารมีทุกภพชาติที่กำเนิดเกิดในสังสารวัฏนี้จนบารมีเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ทั้ง ๓๐ ทัศแล้วก็เสด็จมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ในคราวที่พระองค์เสด็จมาเป็นพระพุทธเจ้าและได้ตรัสรู้นั้น พระพุทธองค์ก็ทรงแสดงพระธรรมโปรดเหล่าสาวกและประชาชนที่มาเข้าเฝ้ารับฟังโอวาท พระองค์ทรงระลึกชาติของพระองค์ก่อนที่จะมาเป็นพระพุทธเจ้าให้เหล่าสาวกฟัง และพระองค์ก็ยกประวัติของพระองค์ครั้งยังเป็นฤๅษีบำเพ็ญบารมีอยู่ในป่า และจุดประทีบบูชาผู้เป็นแม่อยู่ทุกวันพระและเหล่าให้สาวกและประชาชนจนจบ หลังจากที่สาวกและเหล่าประชาชนได้ยินดังนั้นแล้วก็นำคำกล่าวของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติกันจนเป็นประเพณีสืบต่อกันและดัดแปลงประเพณีมาจนถึงปัจจุบันนี้ ผู้อ่านคงจะรู้ถึงความเป็นมาแล้วนะครับว่าเป็นอย่างไรเราจะเห็นได้ว่าเรื่องต่าง ๆที่กว่าจะได้มานั้นจะต้องมีความเป็นมาและประวัติสำคัญที่จารึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรหรือการปฏิบัติต่อ ๆ กันมาของบรรพบุรุษเรากว่าจะเป็นเรื่องราวออกมาเขียนไว้เป็นสารคดีได้ท้ายสุดนี้ผู้เขียนขอให้ทุกท่านจงพากเพียรให้ทาน รักษาศีล ภาวนา จะได้ไปเกิดในพระศาสนาพระศรีอาริย์หากเข้าสู่นิพพานยุคนี้ยังไม่ได้ ท่านก็ยังมีโอกาสได้พบพระพุทธเจ้าอีกพระองค์หนึ่งอย่างแน่นอนคือพระศรีอริยเมตไตรย์ลูกแม่กาเผือกองค์สุดท้าย การเกิดมาพบพระพุทธศาสนาเป็นของหายากการเกิดมาพบพระพุทธเจ้าก็แสนยาก บางครั้งโลกนี้ว่างจากพระพุทธเจ้าเป็นล้านปีสัตว์โลกไม่มีโอกาสเห็นหนทางพระนิพพานเลยขอให้พวกเราอย่าได้ประมาท จงหมั่นขยันสร้างบุญบารมีด้วยการให้ทาน รักษาศีล ภาวนา ทำนุบำรุงรักษาพระพุทธศาสนาก็จะเข้าถึงศีลธรรม สันติสุขได้ทุกคนและได้ร่วมสายบุญบารมีพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ผู้คนจึงได้ฟังพระธรรมจักรได้ดื่มรสอมตะธรรมแห่งพระศรีอริยเมตไตรย์ ได้บรรลุเข้าถึงสวรรค์นิพพานโดยแท้ ผู้คนในยุคนั้นจึงโชคดีที่สุดที่เกิดมาเพื่อสันติสุขเข้าถึงศีลธรรมอันดีงามทั้งหมด

ถ้าท่านผู้อ่านทุกท่านเริ่มให้ท่าน รักษาศิล ภาวนา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก็ไม่สายเกินไปที่จะได้ไปเกิดในศาสนาของพระศรีอริยเมตไตรย์อย่างแน่นนอน

 

รูปแห่งความประทับใจ ที่หาดูได้ยากอีกภาพหนึ่ง ภาพนี้เดินทางไปพบหลวงปู่ในป่า ในตอนที่หลวงปู่เฝ้าคุมคนงานขุดสระน้ำ เพื่อให้ชาวบ้านไว้กิน ไว้ใช้ในยามคลาดแคลน

พระผู้มากด้วยความเมตตาโดยแท้

 

ขอบคุณคุณBROSNAN มากครับสำหรับข้อมูล จะรอข้อมูลต่อไปนะครับ

 

ภาพแห่งความประทับใจ

ภาพแห่งความประทับใจเมื่อครั้งที่กลุ่ม SPRIT TERM นำกฐินไปถวายหลวงปู่ที่อาศรม หน้าวัดศรีลำยอง ซึ่งกฐินครั้งนี้นำรายได้ถวายหลวงปู่ทั้งหมด ครับ

 

เดือนนี้จะไปไหว้ครู เพราะเกือบตาย จากอุษัติเหตุทางรถยนต์
ถ้าไม่ได้หลวงปู่ถ้าจะตายเรียบร้อยแล้ว
และพบกันนะครับ เพื่อนๆและคุณสุวัต

พ่อเลี้ยงเชียงใหม่

 

ลืมไป เหรียญฉลองมงคล93 ของกองทุนฯ สวยมาก สวยสุดๆ
ครั้งแรกผมตั้งใจ เช่าเหรียญเสมาหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่และให้หลวงปู่หงษ์เสก แต่กองทุนฯ ทำออกมาคล้าย เหรียญเสมาหลวงปู่ทิมมาก
ถ้าจะให้ดีผมว่า น่าจะต้องมีขนาดเท่ากับเหรียญเสมาหลวงปู่ทิม เพราะเวลานำไปเลี่ยมทอง และห้อยออกมานอกเสื้อ เป็นอะไรที่ดูดีมาก ถ้าทำเล็กผมเกรงจะไม่สวย และอย่าลืม นำพระตัวอย่างออกมาโชว์เร็วๆนะครับ

ขอเป็นกำลังใจให้ ทุกท่านๆในกองทุนฯ ขอทำให้สำเร็จนะครับ จะเอาใจช่วย

 

งานไหว้ ครูมีพี่ๆท่านใดไปบ้างครับ
อยากไปด้วยกลัวไม่มีเพื่อน

ไปยังไงกันบ้างครับ

 

ผมไปครับ เจอกันวันไหว้ครูวันจันทร์ที่ ๒๖ กรกฏาคม พิธีเริ่มประมาณ 13.00น คิดว่าถ้าต้นแบบวัตถุมงคลรุ่น ฉลองมงคล ๙๓ เสร็จทัน วันนั้นคงได้ชมกัน จะๆครับ นำไปให้ดูกันถึงที่เลยครับ ใครสนใจสั่งจองล่วงหน้าก่อนเปิดจองจริงก็ได้ครับ แต่ไวนิดครับ เพราะชุดกรรมการใหญ่เกือบเต็มแล้ว ครับ (เหมือนเดิมครับจองกันล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนทำกันเลย)
ก็ขอขอบพระคุณพี่ๆน้องๆทุกท่านนะครับที่ให้ความไว้วางใจกันอีกครั้ง ในวัตถุมงคลรุ่นนี้

แล้วพบกันวันไหว้ครูนะครับ นะเมติ ขอให้ทุกท่านเดินทางปลอดภัย

 

คุณอสูรเทวะ สวัสดีครับ ไปไหมครับ
คุณสมาธิ7679 ไม่ได้คุยกันนาน สบายดีครับ แล้วคุณไปหรือเปล่า

 

เมื่อไหร่คุณสมาธิ7689 จะเล่าประสพการณ์ให้ฟังละครับ รอฟังอยู่ เห็นลงรูปรถเอาไว้ 1 รูป ก่อนหน้านี้

 

ชมคลิ๊ปของหลวงปู่ครับ

หลวงปู่หงษ์ โปรดศิษย์ ณ.วัดอินทราราม วันที่ 3 กรกฎาคม 2550

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=TTFv0VP-mvc]YouTube - หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ โปรดศิษย์[/ame]


นะเมติ นะเมติ นะเมติ

 

สวัสดียามเช้าลูกศิษย์ปู่ทุกคนครับ

วัตถุมงคลที่เกี่ยวกับการเรียน การศึกษา จำใด้ว่าหลวงปู่เคยทำออกมา ตอนนี้ยังมีที่วัดใม้ครับ ....^_^....

 

อีกไม่กี่วันก็ถึง งานวันไหว้ครู แล้วนะครับ ช่วงนี้เข้าหน้าฝนแล้ว รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ ระวังจะไม่สบาย แล้วไปกราบครูบาอาจารย์ ด้วยกันครับ

นะเมติ นะเมติ นะเมติ

 

สวัสดีครับ คุณ BROSNAN ไม่ได้คุยกันนานเลยครับ (ขออภัยด้วยครับที่ไม่ได้โทรฯไปคุย)
ไว้มีโอกาสผมว่าคงได้พบและพูดคุยกันอีก พอดีเห็นถามถึงรถผม (ชอบปะขายต่อ) อิอิ ล้อเล่นครับ คือเจ้าคันนี้เป็นรถของคนงบน้อยอย่างผมครับ
(หรือพูดง่ายๆ พี่ชายซื้อมาให้"ให้ผมมาซ่อม") แต่บังเอิญผมเป็นคนที่ชอบไปกราบไหว้พระด้วยตัวเอง (ชอบไปตลาดอัมพวา จ.สมุทรสงคราม "จนเพื่อนๆแซวว่าซื้อบ้านแถวนั้นหรือ"
"อีกที่ก็ จ.สุรินทร์ ครับ) ว่าแล้วก็เข้าเรื่องเลยดีกว่า คือก่อนปลายปีที่แล้วประมาณ 24-26 ธันวาคม 2552 ผมอยากไปกราบหลวงปู่หงษ์อีกครับ ก็เลยหาสมาชิกร่วมทาง (คือ ลูกพี่ลูกน้อง และอีกท่าน ก็คือ คุณสุวัฒน์ครับ) เรา 3คนเดินทางไป ก็ไม่มีอะไรมาก นั่งกันไปหลับไป ก็มีแวะปั๊มบ้าง (พักรถครับ เก่า) ก็จนถึงที่สุสานครับ แล้วค้าง 1คืน
โดยฝากให้เป็นหน้าที่คุณสุวัฒน์ ขออนุญาตหลวงปู่ ทุกอย่างสะดวกครับ
โดยพวกเราสามคน ไม่ต้องทำอะไรมากครับ (เน้นแต่นั่งมองดู หลวงปู่ที่เมตตาออกมาโปรดญาติโยม) เป็นภาพที่ประทับใจครับ ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่หลวงปู่ท่านฉันอาหาร โปรดญาตโยมเวลามากราบหลวงปู่ และยังมีภาพเด็กน้อย ที่หลวงปู่ท่านเอ็นดูอีก (จากใจครับ)
แล้วอีกอย่างที่จำได้เสมอคือคำสอนของหลวงปู่ครับ ไม่ว่าจะเรื่องศีล 5 (ไม่ข้อพูด"พิมพ์ให้เยอะนะครับ"ว่าศีล 5 มีอะไรบ้าง ศิษย์ทุกท่านคงรู้แล้ว
จนถึงเวลากลับคือตอนกลับ (ก่อนหน้านี้มีคนโปรดให้หลวงปู่เจิมรถให้ครับ)ดีจัง
แต่รถผมเก่าแล้วไม่กล้าครับ เขินๆ (แล้วตอนกลับจริง พวกผมก็ไปกราบลาหลวงปู่ท่าน)
ผมก็มาที่รถจัดรถให้เรียบร้อย ระหว่างนั้นเพื่อนผมทั้งสองคนก็ไปห้องน้ำ *โอกาสเหมาะครับ* ผมวิ่งไปนำน้ำมนต์ในตุ่ม ที่วางเรียงรายกันนั้นใส่ขวดน้ำเปล่าแล้วมาล้างกระจกหน้ารถและหลังรถ แล้วอธิฐานบอกหลวงปู่ขอให้พวกเรากลับบ้านอย่างปลอดภัยครับ
ระหว่างกลับนั้นเราก็ตกลงกันว่าจะกลับทางไปกันดี ได้เรื่องคือกลับทางสระแก้วกันครับ
ตกลงตามนั้นเราก็เดินทางกันมาเรื่อยๆ แวะพักชมวิวระหว่างทาง (หิวข้าวครับ)
ระหว่างทานข้าวนั้น คุณสุวัฒน์บอก "ขอถ่ายรูปรถเป็นที่ระลึกหน่อย พามาถึงที่ได้"(แอบดีใจครับ) หลังจะนั้นเราก็เดินทางผ่านมาเรื่อยๆ จนผมบอกเพื่อนว่าแวะปั๊ม(อีกแระ)
เพื่อนผมก็ไปเข้าห้องน้ำ ส่วนผมก็มานั่งดูรถ (อ๊า..ตกใจๆ) สิ่งที่เกิดขึ้นคือ หม้อน้ำรั่วครับ(ตรงตะเข็บ) น้ำก็ไหลๆๆๆๆๆ :'( จะทำไงดีละ ทำเพื่อนลำบากแล้วสิเรา (เพราะเค้ามีนัดกับเพื่อนเค้าด้วยสิ) เล่นกันตั้งแต่สระแก้วเลยกว่าจะถึงกรุงเทพก็อีกหลายๆๆๆกิโล
แต่ไม่รู้จะทำไงได้ เพราะร้านปิดหมดเลย ผมเลยใช้สิทธิ์เจ้าของรถ ขับไปจอดไปครับ(จอดปุ๊บก็ดูน้ำตกไหลเลย :'( (ขอร้องไห้อีก) แต่ก็โชคดี ตะเข็บที่แตกนั้นเท่าเดิม(ไม่ขยายไปกว่านี้) แล้วพวกเราก็กลับมาเรื่อยๆ จอดปั๊มไปเรื่อยๆ ไม่ขอบรรยายนะว่ากี่ครั้ง(ไม่อยากนับ)
พอมาถึงเส้นบางนาผมก็เลยต้องให้คุณสุวัฒน์ลงตรงนั้นเพื่อให้ไปทันนัด ส่วนผมก็ขับไปจอดที่สำโรงครับ เพื่อรอให้น้ำในหม้อนั้นเย็นก่อนจึงกลับบ้าน
ปล. 1. ทำไมหม้อน้ำที่แตกนั้นจากสระแก้วมาถึงกรุงเทพ (ไม่มีการขยาย)
2. น้ำที่ไหลออกมานั้นก็ไม่ลดมากกว่านั้นครับ
หรือเป็นเพราะผมใช่เทคนิค พักจอด พักจอด แล้วก็พักจอด
ปล.อีก ผมเป็นคนที่ไม่เคยเขียน(พิมพ์)อะไรยาวครับ อาจมีการพิมพ์ผิดได้
และได้นำรูปรถมาลงให้อีกครั้งครับ

 

ประสบการณ์ ส่วนตัวครับเจอมา 2 ครั้ง ครับเกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ไม่นับเรื่องอื่นๆ

1.ผมอยู่ชลบุรีครับ แถวที่พัก พอฝนตกแล้วน้ำมักจะท่วม วันนั้นฝนตกหนักมาก ผมขับรถกลับหอ ทางบายพาส ลุยน้ำที่ท่วมถนน ประมาณครึ่งล้อรถยนต์น่ะครับ ก็ขับลุยๆๆๆๆๆไปเลย แต่พอตอนเลี้ยวที่ซอยจะเข้าหอนี่สิครับ มันเป็นหลุมลึก ผมลืมเลยเลี้ยวเข้าไป โอ้พระเจ้า น้ำท่วมรถผมไปครึ่งคันเลยครับ ปรากฎว่ารถดับ สนิท หมดสิทธิ์ ไปต่อกลางถนนเข้าซอยเลย ชาวบ้านจะออกก็ออกไม่ได้ จะเข้าก็เข้าไม่ได้ น้ำใหลเชี่ยวอีกต่างหาก พอวิ่งได้ก้แค่รถกะบะ ตอนนั้น 4ทุ่มกว่าแล้ว ประตูรถก็เปิดไม่ได้ น้ำก็ไหลเชี่ยว ในใจคิดว่าแย่สุดๆๆๆๆ ไม่รู้จะทำไงดี บิดกุญแจสตาร์ทรถมากว่าครึ่งชั่วโมง หมดหวังแล้วครับ ตัดสินใจนอนในรถกลางถนน เลยแล้วกัน นั่งในรถซักพักนึงนึกได้ว่า หลวงปู่บอกว่า ถ้าเราไม่ดื่มเหล้าแล้วจะขออะไรก็ได้ยามเดือดร้อน ก็เลยกำพระของหลวงปู่ที่ผมห้อยประจำ อธิฐาน
ขอให้หลวงปู่ช่วย ก็อัศจรรย์เหลือหลายครับ หลังจากขอเสร็จ บิดกุญแจครั้งเดียวติด ช่วงเวลานั้น ผมขนลุกทั้งตัวและดีใจมาก ทั้งๆที่น้ำก็ท่วมเท่าเดิมไม่มีวี่แววว่าฝนจะหยุดดด้วย
พอรถติดก็รีบเข้าเกียร์ออกตัวเลยครับ เพราะถ้าอยู่ตรงนั้นชาวบ้านคนอื่นก็เข้าหอไม่ได้ จะออกก็ออกไม่ได้ น้ำท่วมขนาดนั้นไม่มีใครมาช่วยผมแน่นอน

รักหลวงปู่ครับ

นะเมติ นะเมติ นะเมติ

 

2.ประสบการณ์ครั้งที่สอง เดินทางไกลก็ห้อยพระหลวงปู่เป็นประจำ มีครั้งนึงผมเดินทางจากโคราชมา ชลบุรี ระหว่างลงเขาปัก ก็รถมีอาการแปลกๆ เร่งไม่ขึ้น ขับได้ไม่เกิน 100 ก็เหลืออีกครึ่งทางกว่าจะถึงชล ครับ แย่แล้วมีปัญหาที่เครื่องชัวร์ ดึกแล้วใครจะช่วยเราได้ก็เลยฝืนขับ มาและขอให้พระคุ้มครอง ขอหลวงปู่ให้ช่วยครับ เชื่อไหมครับผมขับฝืนๆมาเป็นร้อย กิโล ขับมาถึงหอพักที่ชลบุรีมาถึงหอแล้ว กำลังจะจอดครับ รถพังเลย กระตุกเหมือนรถตุ๊กๆ โซลินอยด์ขาด เสียใจที่รถเสีย แต่ดีใจยามเราลำบากก็ได้รับความช่วยเหลือครับ ส่วนตัวรู้ครับว่าเกิดอะไรขึ้น ขอบพระคุณหลวงปู่ครูบาอาจารย์มากครับ
เคยมีพี่ท่านนึงบอกว่า ครูบาอาจารย์ช่วยประวิงเวลา เลื่อนเวลา ให้คลาดเคลื่อน เลื่อนไป แคล้วคลาด ปลอดภัย เพราะแกก็เคยเจอมาเช่นกัน