<VSN><<<มาใหม่ สายเขาอ้อ อ.ชุม,อ.ปาล,อ.คง, สรุปรายการหน้า๑๐๓>>><NSV>

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย momotaro67, 25 ธันวาคม 2010.

  1. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,090
    ค่าพลัง:
    +5,460
    รับทราบการจองครับผม ยอดโอน 710บ.รวมค่าส่งแล้วครับ โอนแล้วแจ้งได้เลยครับผม

     
  2. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,090
    ค่าพลัง:
    +5,460
    เหรียญหล่อพระแก้วโคตรมวลสาร เนื้อนวโลหะมหาชนวน อ.อนันต์ สวัสดิเสาวนีย์

    จัดสร้างโดยอาจารย์อนันต์ สวัสดิเสาวนีย์ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร หลังจากที่ท่านจัดสร้างพระแก้วโด่งดังมาแล้วหลายรุ่น แต่รุ่นนี้ถือว่าทิ้งทวน ออกแบบได้สวยงาม พระแก้วถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้าน คู่เมือง ตามประวัติแต่เดิมจะไม่มีเครื่องทรง พุทธลักษณะของเหรียญกลมขนาดเท่าเหรียญสิบบาท ด้านหลังตอกโค๊ตประจำของอาจารย์อนันต์ สลักคาถาบูชา พระแก้วมรกต "วาละ ลุ กัง สัง วา ตัง วา" วัตถุประสงค์เพื่อแจกจ่าย แก่ผู้ร่วมทำบุญกับโรงพยาบาลสงฆ์ เพื่อพระภิษุสงฆ์ที่อาพาธ มวลสารประกอบด้วย ชนวนพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์สำคัญหลายสิบรุ่น อาทิ
    - พระกริ่งปวเรศ 2 (ปี 2530 ในหลวงเสด็จเททอง และทรงเป็นองค์ประธานในพิธี)
    - ชนวนพระกริ่งสายวัดสุทัศน์เทพวราราม
    - ชนวนพระกริ่งนเรศวร วังจันทน์
    - ชนวนพระกริ่งชินบัญชรของหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง
    - ชนวนพระกริ่งปรโม ของหลวงปู่เริ่ม ปรโม วัดจุกเฌอ จ.ชลบุรี
    - ชนวนพระกริ่งอรหัง ของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่
    - ชนวนพระกริ่งพุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่
    - ชนวนพระกริ่งรุ่นต่าง ๆ ของหลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ เป็นต้น
    และที่สำคัญยังได้ใส่ชิ้นส่วนสัมฤทธิ์จากยอดพระเกศและข้อพระกรของพระพุทธรูปโบราณที่สำคัญยิ่งองค์หนึ่งในประเทศไทยคือองค์หลวงพ่อมงคลบพิตร และส่วนผสมใส่ทองคำเก่าไปจำนวนมาก

    ด้านหลังมวลสาร(มีผงอันสูงค่าที่ไม่ควรเปิดเผยในที่สาธารณะครับ ท่านใดสนใจ สอบถามมวลสารนี้ได้ที่หลังไมค์ครับ) ผงชันเพชรบุษบกพระแก้ว ผงวิเศษที่ได้รับจากการสร้างองค์บดินทร์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปฐวีธาตุหลวงปู่คำพันธ์ ปฐวีธาตุเจ้าคุณนร ผงปฐวีธาตุ 32 อาจารย์ ผงจากพระชำรุดทั่วประเทศ ผงหลวงปู่พรหมา หลวงปู่คำพันธ์ และผงมวลสารที่ได้รับการอธิษฐานจิตเพิ่มเติมจากครูบาอาจารย์ทั่วประเทศ ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี เป็นต้น ทั้งหมดถูกนำมาผสมรวมกันเพื่อสถาปนาขึ้นเป็นวัตถุมงคลในชุดพระแก้วสารพัดนึก เนื้อนวโลหะพิเศษ โดยได้รับการอธิฐานจิตจากพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณทั่วประเทศ ทั้งยังได้เข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกในพระอุโบสถวัดพระแก้วซึ่งเป็นพิธีใหญ่หลายครั้ง สร้างน้อยเพียง 504องค์เท่านั้นครับ

    [​IMG][​IMG]


    ให้บูชา 5,500บ.ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pk1.jpg
      pk1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.5 KB
      เปิดดู:
      3,393
    • pk2.jpg
      pk2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71 KB
      เปิดดู:
      3,299
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2015
  3. APIRAT

    APIRAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2006
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +3,220
    จองบูชาหลวงพ่อกวยครับ

    จองบูชาหลวงพ่อกวยครับ
     
  4. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,079
    ค่าพลัง:
    +22,267
    ก่อน 3 โมงเช้าวันนี้ โอนเงินแล้วครับ ยอด 710 บาท

    ที่อยู่
    นายอาณัติ ศรีเธาว์ รพ.สต.ทุ่งมน ต.ทุ่งมน อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร 35110
     
  5. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,090
    ค่าพลัง:
    +5,460

    รับทราบครับท่านพรุ่งนี้ส่งให้ครับ
     
  6. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,090
    ค่าพลัง:
    +5,460
    [​IMG]

    เหรียญที่ระลึก 123ปี พระอาจารย์ปาน ปาลธฺมโม วัดดอนศาลา พัทลุง เนื้อมหาชนวนผิวเงิน หมายเลข213 สวยและขลังมากครับ

    เหรียญที่ระลึก 123ปี พระอาจารย์ปาน เพื่อสมทุบทุนบูรณะเสนาสนะวัดดอนศาลา พัทลุง ย้อนตำนาน เหรียญขลังเมืองลุง พ่อท่านปาน วัดเขาอ้อ รุ่นแรก ปี2519 ที่เป็นที่ต้องการของผู้ศรัทธา ซึ่งสร้างและปลุกเสก ที่วัดดอนศาลา

    ในปี2558 พ่อท่านปาน จะมีอายุ 123ปีชาตกาล พ่อท่านพระมหาอุทัย วิมโล เจ้าอาวาส วัดดอนศาลา ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของพ่อท่านปานด้วย จึงได้อนุญาตให้จัดสร้างเหรียญ พ่อท่านปาน ขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึก 123ปี และที่ระลึกแก่ผู้ร่วมบุญ บูรณะเสนาสนะวัดดอนศาลา พิธีพุทธาภิเษก โดยพระเกจิอาจารย์ สายเขาอ้อ ลูกศิษย์ พ่อท่านปาน อาทิ พ่อท่านพระมหาอุทัย วิมโล วัดดอนศาลา พ่อท่านห้อง ธมฺมวโร วัดเขาอ้อ พ่อท่านขาว วัดพรุพ้อ พ่อท่านผ่อง วัดแจ้ง พ่อท่านเอียด วัดโคกแย้ม พ่อท่านเอื้อม สำนักสงฆ์สวนป่าตลิ่งชัน พ่อท่านตุด ที่พักสงฆ์หารคอกช้าง พ่อท่านสงวน สำนักสงฆ์ลานเสือ พ่อท่านแผ้ว สำนักสงฆ์ใสหลวง พ่อท่านพรหม วัดบ้านสวน #อ.เปลี่ยน หัทยานนท์ เจ้าพิธีฝ่ายฆราวาส. เป็นพระใหม่พิธีดีที่น่าบูชาครับ

    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]


    ให้บูชา 650บ.ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2015
  7. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,090
    ค่าพลัง:
    +5,460
    ปิดรายการนี้ให้พี่นอกเว็ปครับ

     
  8. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,090
    ค่าพลัง:
    +5,460
    ปิดรายการนี้ให้พี่นอกเว็ปครับ


     
  9. wee99

    wee99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    653
    ค่าพลัง:
    +1,897
    รายการที่172.มีดครูเทพศาสตราวุธ อ.ชุม ไชยคีรี ปี 2519 ยังมีอยู่มั๊ยครับ
     
  10. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,090
    ค่าพลัง:
    +5,460
    ยังมีอยู่ครับ

     
  11. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,090
    ค่าพลัง:
    +5,460
    พระชัยวัฒน์ เนื้อดินครึ่งซีก เจ้าคุณศรี(สนธิ์) วัดสุทัศน์

    เป็นพระเนื้อดินเผา กดพิมพ์จากพิมพ์ของพระชัยวัฒน์ ในช่วงปี 249.. กว่าๆ สร้างและปลุกเศก โดยเจ้าคุณศรี(สนธิ์) แห่งวัดสุทัศน์ครับ ตามโบราณเชื่อว่า พระชัยวัฒน์ มีอานุภาพมากมายหลายประการกับผู้ที่บูชาพกพาอาราธนาติดตัว ชนะทุกอย่าง ความยากจน โรคภัยไข้เจ็บ ชนะหมู่มารที่คิดไม่ดี คิดร้าย วัตถุมงคลจะมีพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ เทวานุภาพ ขจัดปัดเป่าเสนียดจัญไร ป้องกันภูตผีปีศาจ แคล้วคลาดปลอดภัย จากภัยพิบัติใดๆทั้งปวง เพิ่มพูนในเรื่องของเสน่ห์ เมตตามหานิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรือง กับผู้ที่บูชาพกพามีความศรัทธา เลื่อมใส ยึดมั่น ถือมั่น ในพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    [​IMG]
    [​IMG]


    ให้บูชา 1,250บ.ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ol16.jpg
      ol16.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33 KB
      เปิดดู:
      2,662
    • ol17.jpg
      ol17.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23.6 KB
      เปิดดู:
      2,506
  12. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,090
    ค่าพลัง:
    +5,460
    [​IMG]

    ท่านพระครูประศาสน์สิกขกิจ อินทโชติ (พริ้ง) อดีตท่านเจ้าอาวาสวัดบางปะกอก ตำบลบางปะกอก อำเภอราษฎร์บูรณะ จังหวัดนครหลวงกรุงเทพธนบุรี (ธนบุรีเดิม)
    ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ. 2413 ตรงกับสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นชาวคลองสาน ฝั่งธนบุรี หรือ จังหวัดธนบุรี ในสมัยนั้น เป็นบุตรของนายเวียน และนางสุ่น เอี่ยมทศ

    ได้อุปสมบทเป็นสามเณรตั้งแต่ยังเล็กที่วัดพลับ ธนบุรี เมื่ออายุครบจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดทองนพคุณ ธนบุรี โดยมิได้อยู่ในเพศฆราวาสเลย ต่อมาจึงได้ถูกนิมนต์มาประจำพรรษาอยู่ที่วัดบางปะกอกนี้ สองสามปีต่อมาจึงได้เป็นพระอธิการเจ้าอาวาส มีพระภิกษุประจำพรรษาอยู่เพียง ๒ -๓ องค์เท่านั้น เนื่องจากวัดบางปะกอกนี้เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแต่ในสมัยใดไม่ปรากฏแน่ชัด กุฏิ โบสถ์และเสนาสนะอื่น ๆ ชำรุดทรุดโทรมมาก สันนิษฐานจากการปฏิสังขรณ์พระอุโบสถมาครั้งหนึ่ง

    เมื่อพุทธศักราช ๒๔๖๐ และจากการสอบถามท่านผู้มีอายุหลายต่อหลายท่านซึ่งอายุใกล้ร้อยปี และท่านเหล่านั้นบางท่านก็ได้ถึงแก่กรรมไปหมดแล้ว ถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็ร้อยกว่าปี ท่านบอกว่าท่านเกิดมาเป็นเด็ก ๆ ก็เห็นวัดบางปะกอกนี้อยู่แล้ว ท่านเคยถามบิดามารดาก็บอกอย่างนี้เช่นเดียวกัน ผิดแต่ว่า กุฏิ โบสถ์ ชำรุดทรุดโทรมมากไม่เหมือนเดี๋ยวนี้ โบสถ์โบกปูนปิดทึกแบบมหาอุตเหมือนวัดเก่า ๆ ในต่างจังหวัด ซึ่งก็คงมีมาแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นหรืออาจก่อนกรุงศรีอยุธยาก็ได้ อายุไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ ปีขึ้นไป
    เดิมทีเดียวบางปะกอกนี้มีชื่อว่าบางคี่ และในสมัยก่อนที่หลวงพ่อพริ้งจะมาเป็นเจ้าอาวาสนั้นมีนักเลงอยู่มาก แม้ในเวลาที่มีการทำบุญตักบาตรในวัด จะต้องมีการตีกันอยู่เป็นประจำ ทำให้ชาวบ้านที่จะมาทำบุญก็ต้องพกมีดไม้มาด้วย นับแต่ท่านได้มาประจำพรรษาเป็นพระอธิการเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดนี้ นักเลงเหล่านั้นก็เกรงกลัว ต่างมอบตัวเป็นศิษย์ของท่านหรือไม่ก็หายหน้าหายตาไปหมด ต่อมาท่านก็ได้ร่วมกับชาวบ้านบูรณะปฏิสังขรณ์ กุฏิ โบสถ์ วิหาร และเสนาสนะอื่น ๆ ที่ชำรุดทรุดโทรมจนเรียบร้อยสวยงามมาจนถึงบัดนี้เป็นเวลา ๖๐ ปีเศษ

    หลวงพ่อพริ้งซึ่งชาวบางประกอบและชาวตำบลใกล้เคียงเรียกท่านว่า "หลวงปู่" ได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาคาถาอาคมจนแก่กล้ามาตั้งแต่เป็นสามเณรอยู่ที่วัดพลับ แต่ท่านจะศึกษาเล่าเรียนมาจากพระอาจารย์องค์ใดนั้นไม่ปรากฏแน่ชัด มีท่านผู้มีอายุหลายท่านเล่าว่าท่านชอบธุดงค์จาริกในป่าต่าง ๆ หลายครั้งหลายหน แต่ก็มีบางท่านเล่าให้ฟังว่าท่านเคยเรียนร่วมอาจารย์เดียวกับหลวงพ่อศุข วัดมะขามเฒ่า เลยไม่ได้ความแน่ชัดว่าท่านศึกษามาจากสำนักใด พระอาจารย์องค์ใด เข้าใจว่าท่านคงจะศึกษาเล่าเรียนชั้นแรกกับพระอาจารย์ที่วัดพลับตอนที่ท่านอุปสมบทเป็นสามเณรนั่นเอง ท่านผู้ใหญ่หลายท่านซึ่งเคยอุปสมบทและเคยใกล้ชิดกับหลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า ท่านได้สนใจศึกษาเล่าเรียนวิชาล่องหนหายตัวและคงกระพันชาตรีตั้งแต่เป็นสามเณร และสามารถทำได้โดยไม่ยาก

    ต่อมาท่านได้รับแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็น พระครูประศาสน์สิกขกิจ เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๗๙ มีประชาชนเคารพนับถือทั่วไป ตลอดจนบรรดาเจ้านายเชื้อพระวงศ์ที่อยู่ในรั้วในวังต่างก็รู้จักท่านดี ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะข้าราชการทหารเรือในสมัยนั้น ทุกวันเสาร์อาทิตย์ทหารเรือทั้งนายพลจะพากันมาขอของดี ลงกระหม่อมกันแน่นกุฏิ บรรดาท่านผู้มีชื่อเสียงที่ไปมาหาสู่ท่านอย่างใกล้ชิดสนิทสนม เท่าที่พอจะรวบรวมได้ก็มี พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งกองทัพเรือ ตลอดจนพระโอรส พระธิดาของท่าน เสด็จกรมหลวงชุมพรฯ มีความเลื่อมใสศรัทธาต่อหลวงพ่อมาก ถึงกับนำพระโอรสมาอุปสมบทเป็นสามเณรอยู่ที่วัดนี้ถึง ๓ องค์ด้วยกันคือ พลเรือเอก หม่อมเจ้าครรชิดพลอาภากร (ท่านน่วม) อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ หม่อมเจ้าสมรบรรเทิง (ท่านขรัว) และหม่อมเจ้าดำแคงฤทธิ์ (ท่านบ๊วย) โดยที่เสด็จในกรมฯ และหม่อมเจ้าหญิงเริงจิตแจรง พระธิดา ตลอดจนข้าราชบริพารได้มาถือศีลประจำอยู่ที่วัดนี้จนพระโอรสครบกำหนดลาสิกขา และอดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งในอดีตก็เคยเป็นศิษย์ของท่าน พระชายาของกรมหลวงลพบุรีราเมศร์และพระโอรสก็เคยไปมาหาสู่ท่านเป็นประจำ โดยเฉพาะเสด็จกรมหลวงชุมพระเขตรอุดมศักดิ์ นั้นเคารพนับถือเป็นพระอาจารย์องค์หนึ่งเท่าเทียมหลวงพ่อศุข วัดมะขามเฒ่า และเข้าใจว่าคงจะได้ของดีจากหลวงพ่อไปมิใช่น้อย

    หลวงพ่อพริ้งเป็นอาจารย์สักและหมอยา มีเครื่องรางของขลังที่มีชื่อเสียงมากทางคงกะพันและเมตตามหานิยมในสมัยนั้น หากใครไม่รู้จักหลวงพ่อพริ้งก็อาจจะเรียกได้ว่ายังไม่ได้เป็นนักเลงพระอย่างแท้จริง ประชาชนทั่ว ๆ ไป ให้ความเคารพเลื่อมใสกันอย่างมาก นอกจากนั้นท่านยังดูฤกษ์ยามทายโชคชะตาได้แม่นยำ ท่านได้สร้างเครื่องรางของขลังขึ้นครั้งแรก เท่าที่ทราบกันดีคือ ลูกอมดำ ซึ่งมีชื่อเสียงในทางคงกระพันเมตตามหานิยมและอาราธนาทำน้ำมนต์ให้คนป่วยรับประทานเป็นที่รู้จักกันทั่ว ๆ ไปอย่างกว้างขวาง และสร้างลูกอมสีขาวปนเทา พระสมเด็จผงใบลานสีเทา สีปูน แหวนปลอกมีดขึ้นอีกซึ่งก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน และในโอกาสต่อมาท่านก็ได้สร้างเหรียญรูปท่านขึ้นอีกใน พ.ศ. ๒๔๘๓ โดยคุณหลวงพัสดุฯ เป็นผู้จัดทำถวายให้หลวงพ่อปลุกเสก

    ลูกอมดำซึ่งเป็นเครื่องรางชนิดแรกที่ท่านสร้างขึ้น มีอภินิหารทางคงกะพันมาก ซึ่งมีผู้ประสบเหตุมาแล้วจำนวนมากบอกกับผู้เขียนว่าจะให้ราคากี่พัน กี่หมื่นก็ให้ไม่ได้ เพราะถ้าไม่ได้ลูกอมดำของท่านแล้ว คงไม่มีโอกาสให้สัมภาษณ์แก่คุณในขณะนี้แน่ ลูกอมดำนี้มีชื่อเสียงโด่งดังเลื่องลือไปไกล เหตุที่มีผู้นำติดตัวไปแล้วประสบภัยต่าง ๆ หลายต่อหลายสิบรายแต่ก็รอดชีวิตมาได้ เป็นเหตุให้มีผู้ต้องการมาก หาเช่าได้ยากจึงมีผู้รู้จักลูกอมดำมากกว่าเครื่องรางชนิดอื่น ๆ ที่หลวงพ่อสร้าง

    ในตอนต้นสงครามอินโดจีน ท่านก็ได้สร้างเสื้อยันต์ผ้ายันต์และปลุกเสกเครื่องรางชนิดอื่น ๆ อีกหลายอย่างเพื่อมอบให้กับทหารที่ไปราชการสงครามและลูกศิษย์ในครั้งกระนั้น และในโอกาสที่ทางราชการทำพิธีจัดส่งทหารไปราชการสงคราม ท่านก็ได้รับนิมนต์จากทางราชการให้ไปประพรมน้ำพระพุทธมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลเป็นที่เลื่องลือในครั้งกระนั้น

    ในอดีตหลวงพ่อพริ้งท่านได้เข้าร่วมพิธีนั่งปรกปลุกเสกตามวัดใหญ่ ๆ หลายครั้ง เช่น วัดราชบพิธ และวัดสุทัศน์เทพวราราม โดยเฉพาะที่วัดสุทัศน์ ฯ นี้ท่านได้เข้าพิธีทุกครั้งที่สมเด็จพระสังฆราชแพ จัดทำในครั้งหลัง ๆ ก็เช่นกัน ท่านเป็นพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากในสมัยนั้น บรรดาพระชั้นผู้ใหญ่ที่ประจำพรรษาอยู่ที่วัดสุทัศน์ ฯ รู้จักหลวงพ่อดีแทบทุกองค์ ผู้เขียนได้ไปขอสัมภาษณ์จากท่านเจ้าคุณหลายองค์ที่วัดสุทัศน์ ต่างก็เล่าเป็นเสียงเดียวกันว่าหลวงพ่อพริ้งขณะนั้นโด่งดังมากกว่าพระอาจารย์ อื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นจริง ๆ รูปร่างลักษณะของท่านเป็นคนที่ท่วงทีสง่างามสมกับเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ที่มีคนเคารพนับถือ นี่เป็นคำกล่าวของท่านเจ้าคุณพระญาณโพธิ กับท่านเจ้าคุณพระศรีสัจจญาณมุนี และท่านเจ้าคุณพระวิบูลย์ธรรมาภรณ์

    พระอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่เคยมาศึกษากับหลวงพ่ออีกก็คือ "หลวงพ่อปาน ผู้มีชื่อเสียงแห่งวัดบางนมโค จังหวัดอยุธยา"

    พระภิกษุเชื้อ วิสุทธสีโล วัดบางปะกอก ได้เล่าให้ฟังว่าเมื่อตอนเป็นเด็กอายุ ๑๒-๑๓ ปี ได้ติดตามพระจำรัส ประสารเกตุ พี่ชายของนายแจ่ม ประสารเกตุ (คนเก่าแก่ตำบลบางปะกอก) ไปหาหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคเพื่อขอของดีของท่านซึ่งกำลังเริ่มจะมีชื่อเสียง เมื่อเข้าไปถึงวัดก็เข้าไปกราบมนัสการท่าน
    หลวงพ่อปาน จึงได้ถามว่ามาทำไม พระจำรัส ฯ จึงตอบว่ามาขอของดีจากหลวงพ่อท่านจึงได้ถามว่าอยู่กันที่ไหนล่ะ พระจำรัสฯ จึงตอบว่าอยู่วัดบางปะกอก ธนบุรี หลวงพ่อปาน จึงบอกว่าไม่มีหรอกของดีที่นี่น่ะ พระภิกษุเชื้อฯ ตอนนั้นยังเป็นเด็กอยู่และยังไม่ได้บวชเรียน จึงพูดว่าที่หน้าหลวงพ่อมีตั้ง ๕ บาตรแน่ะ
    ท่านจึงหัวเราะและกล่าวว่าอยู่วัดบางปะกอกก็มีของอาจารย์ฉันอยู่แล้วนี่นา จะมาเอาของฉันทำไมอีก "หลวงพ่อพริ้งไงล่ะ" และท่านก็ได้มอบให้มาคนละ ๕ องค์ พร้อมกับฝากมาให้หลวงพ่อพริ้งอีกจำนวนหนึ่ง

    เมื่อกลับมาถึงวัดก็มีมีความสงสัย เพราะหลวงพ่อปานท่านบอกว่าเคยเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อพริ้ง แต่ทำไมเราไม่เคยเห็นหน้าสักที เราก็อยู่เป็นเด็กวัดมานาน จึงได้ถามหลวงพ่อพริ้งว่า "หลวงลุง หลวงพ่อปานเขาบอกว่าเคยเป็นลูกศิษย์ของหลวงลุง ผมไม่เคยเห็นหน้าสักที"
    หลวงพ่อจึงกล่าวว่า เขาไม่ได้เป็นลูกศิษย์แบบเองนี่ เขามาเรียนกับข้าเพียงคืนเดียว เท่านั้น สอบถามต่อจึงได้ความว่าหลวงพ่อปานขณะนั้นมีอายุมากกว่าหลวงพ่อ ได้มาขอเรียนวิปัสสนาธุระ โดยบอกว่าทราบว่าอาจารย์สำเร็จวิปัสสนา ผมขอสมัครตัวเป็นศิษย์เพื่อเรียนด้วย เพราะเรียนมาหมดธูปเป็นกระบุงๆ แล้วไม่สำเร็จสักที หลวงพ่อจึงดำเนินการสอนให้ ซึ่งหลวงพ่อปานศึกษาเพียงคืนเดียวเท่านั้นก็สำเร็จ โดยบอกกับหลวงพ่อปานว่า "เอาละท่านเรียนสำเร็จแล้ว"

    อภินิหารความศักดิ์สิทธิ์เครื่องรางของขลังของหลวงพ่อ
    จากคำบอกเล่าของนายแป้นฯ ในสมัยที่ยังทำเรือประมงอยู่เล่าว่า ในขณะที่อยู่ในทะเล มีลูกเรือถูกงูเห่าทะเลกัดอาการเพียบเต็มที่ ยาก็ไม่มีรักษา นายแป้นฯ นึกถึงลูกอมของท่านที่นำติดตัวไปขึ้นมาได้ จึงอาราธนาระลึกถึงท่านหย่อนลงไปในขันน้ำปรากฏว่าแตกออกเป็น ๓ เสี่ยง และได้เอาน้ำในขันนั้นให้ลูกเรือรับประทาน ปรากฏว่าในไม่ช้าก็หาย สำหรับเรื่องลูกอมแตกนั้น ผู้เขียนฟังคำบอกเล่าในขั้นแรกยังสงสัยไม่ค่อยเชื่อนัก แต่เมื่อได้นำออกมาให้ดูปรากฏว่าแตกเป็น ๓ เสี่ยงจริง ๆ นับเป็นสิ่งอัศจรรย์มาก
    ในช่วงสงครามอินโดจีน มีท่านผู้หนึ่งจะต้องไปสงคราม อยากได้เครื่องรางของท่าน แต่ไม่กล้ามาขอเพราะท่านเป็นคนดุพอสมควรแก่เหตุและผล เลยจ้างให้ศิษย์วัดขโมยมาให้ ศิษย์วัดผู้นั้นก็นำก้อนกรวดเล็ก ๆ ที่ท่านใส่ไว้ในกระถางน้ำมนต์บนหอสวดมนต์ไปให้ จึงได้นำติดตัวไป ในขณะที่อยู่ในแนวหน้ากับเพื่อน ๆ อีกกลุ่มหนึ่ง ปรากฏว่ากระสุนปืนใหญ่จากฝ่ายข้าศึกตกลงมาใกล้ ๆ พอดี เพื่อน ๆ ตายไปหลายคนที่ไม่ตายก็แทบไม่รอด แต่เจ้าตัวกลับไม่เป็นอะไรเลย เพียงแต่แรงของกระสุนปืนใหญ่นัดนั้นบีบหมวกเหล็กแบนติดกับศีรษะเอาไม่ออกต้องส่งตัวมาตัดในกรุงเทพฯ

    สงครามมหาเอเชียบูรพา วัดบางปะกอกได้เป็นที่พักหนีภัยอันตรายของประชาชนมาอยู่เป็นร้อย ๆ ซึ่ง หลวงพ่อก็ได้ให้ความร่มเย็นโดยทั่วกัน โดยเฉพาะเจ้าจอมต่าง ๆ ที่อยู่ในรั้วในวังก็พากันมาพึ่งบารมีของท่านหลายต่อหลายคนภัยอันตรายต่าง ๆ ไม่เคยแผ้วพาลแม้แต่น้อย ทั้ง ๆ ที่วัดอยู่ห่างอู่ต่อเรือของญี่ปุ่นไม่ถึงกิโลเมตร มองเห็นลูกระเบิดหย่อนลงมาทำลายนับสิบ ๆ ลูก แต่ด้วยบุญบารมีของท่านท่านได้ปัดเป่าภัยอันตรายต่าง ๆ ที่จะมีแก่ชาวบางปะกอกจนปลอดภัยต่อเหตุการณ์ในครั้งกระนั้น ยากที่ชาวบางปะกอกและผู้ที่มาพึ่งบุญของท่านจะลืมได้

    อีกรายหนึ่งท่านผู้นั้นเล่าว่าในตอนหนุ่ม ๆ ชอบไปเที่ยวตามงานวัดย่านใกล้นั้น วันหนึ่งก่อนออกจากบ้านรู้สึกตัวว่ามีอะไรแปลก ๆ กว่าทุกครั้งที่เคยไปเที่ยวมา เหมือนมีอะไรดลจิตใจ จึงกลับไปหยิบผ้ายันต์และลูกอมดำของท่านอาราธนาบอกกล่าวขอความคุ้มครองจากท่านแล้ว ก็นำติดตัวไปขณะที่ยืนดูลิเกอยู่ในลานวัดนั้น มีนักเลงในเขตย่านนั้นซึ่งไม่ถูกกันมาก่อนลอบตีที่ศีรษะเต็มเหนี่ยวขณะที่ยืนดูอยู่กับเพื่อน ๆ ท่านผู้นี้เล่าว่าขณะถูกตีด้วยไม้คมแฝกรู้สึกชานิด ๆ ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้ง ๆ ที่เพื่อน ๆ และคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ได้ยินเสียงโพล๊ะดังสนั่น ขนาดที่ลิเกกำลังแสดงหยุดชะงักการเล่นทันที ผู้คนแตกฮือไปคนละทิศละทาง ผู้ถูกตีเองกลับไม่รู้สึกอะไรนับเป็นอีกรายหนึ่งที่ผู้เขียนสัมภาษณ์กับผู้ประสบมาด้วยตนเอง และท่านผู้เล่าก็ยังมีชีวิตอยู่ในขณะนี้


    หลวงพ่อพริ้ง ท่านเป็นอีกหนึ่งคณาจารย์ยุคเก่าที่มีลูกศิษย์ทุกระดับชนชั้นมากมายรวมทั้ง “พระบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักด์” ก็ได้เสด็จไปฝากตัวเป็นศิษย์ของท่าน หลวงพ่อพริ้ง เป็นผู้มอบกระดูกหน้าผากนางนากให้เสด็จในกรมฯ ซึ่งมีความเฮี้ยนมากจนเป็นที่กล่าวถึงของพระโอรสและธิดา ซึ่งเสด็จเตี่ยบอกว่า ไม่ต้องกลัว และความเฮี้ยนของนางนากก็ปรากฏถึง ๒ ครั้ง
ในตำหนักนางเลิ้ง

    ในเรื่องกระดูกหน้าผากของนางนากนี้ได้ปรากฏในงานเขียน ประวัติของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) รวบรวมโดย ม.ล.พระมหาสว่าง เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา พ.ศ.2473 บรรยาย ไว้ว่าหลังจากที่นางนาคออกอาละวาดหนัก สมเด็จพระพุฒาจารย์ท่านรู้เรื่องจึงลงไปค้างที่วัดมหาบุศย์และเรียกนางนาค ขึ้นมาคุยกัน ผลสุดท้ายท่านเจาะเอากระดูกหน้าผากของนางมาลงยันต์และทำเป็นปั้นเหน่งคาดเอว ผีนางนาคก็ไม่ออกมาอาละวาดอีกเลย และในเรื่องนี้ สมบัติ พลายน้อย ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่ค้นคว้าและเขียนเรื่องของแม่นาคสรุปเอาไว้ว่า กระดูกหน้าผากแม่นาคนั้น สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ได้ประทานให้กับ สมเด็จหม่อมเจ้าสมเด็จพระพุฒาจารย์ (ทัต) และประทานให้ หลวงพ่อพริ้ง (พระครูวิสุทธิ์ศีลาจารย์) อีกต่อ จนมาถึงกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ไม่นานนักแม่นาคก็มากราบลา จากนั้นก็ไม่มีใครพบกระดูกหน้าผากของแม่นาคอีก จึงนับได้ว่าในยุคนั้นท่านมีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้คณาจารย์ใด ๆ ในยุคเดียวกันเลย เนื่องจากหากหน่วยงานราชการในยุคนั้นมีพิธีพุทธาภิเษกที่สำคัญ ๆ แล้ว “หลวงพ่อพริ้ง” ก็จะต้องเป็นคณาจารย์อีกรูปหนึ่งที่ได้รับการนิมนต์ให้ไปร่วมพิธีทุกครั้ง ชื่อเสียงของท่านจึงขจรระบือไกล

    หรือในสมัยที่ก่อเกิด “สงครามอินโดจีนและสงครามโลกครั้งที่ 2” (ระหว่าง พ.ศ. 2480–85) วัดบางปะกอกก็เป็นอีกวัดหนึ่งที่ประชาชนทั่วไปได้มาขอพึ่งพาเป็นที่หลบภัย ทั้ง ๆ ที่วัดอยู่ไม่ไกลจากอู่ต่อเรือของทหารญี่ปุ่นที่เข้ามาสร้างฐานทัพในประเทศ ไทยเท่าใดนัก โดยช่วงนั้นฝ่ายพันธมิตรได้นำเครื่องบินทิ้งระเบิดเพื่อทำลายฐานที่มั่นของ ทหารญี่ปุ่นมากมายหลายสิบลูก แต่ไม่มีระเบิดแม้แต่ลูกเดียวที่จะหลงหลุดลอยมาถึงวัดบางปะกอกได้เลย ทั้งนี้เป็นเพราะ “หลวงพ่อพริ้ง” ได้ทำพิธีขจัดปัดเป่าจึงทำให้บริเวณวัดบางปะกอกและใกล้เคียงรอดพ้นจากลูกหลง โดยสิ้นเชิง ทำให้ประชาชนชาวบางปะกอกสมัยนั้นต่างไม่มีใครลืมเหตุการณ์ในยุคนั้นได้เลย

    ด้วยเหตุนี้ชื่อเสียงท่านจึงโด่งดังมากเป็นผลให้ประชาชนทั่วสารทิศทั้ง ใกล้ ไกล ต่างมุ่งไปขอวัตถุมงคลจากท่านรวมทั้งไปให้ท่านช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งท่านก็ไม่เคยปฏิเสธผู้ใดไม่ว่าจะเป็นเจ้าใหญ่นายโตหรือประชาชนธรรมดา สามัญ หากไปขอให้ท่านช่วยสงเคราะห์แล้วเป็นได้รับเมตตาช่วยเหลือเสมอเหมือนกันหมด หลวงพ่อพริ้ง ทำการ สร้าง “วัตถุมงคล” ขึ้นมากมายหลายชนิดแจกจ่ายกันไปตามแต่ผู้มาขอต้องการ ส่วนที่มีชื่อเสียงเป็นที่นิยมเสาะหาก็มีทั้ง “ลูกอมเนื้อผง, ตะกรุด, ผ้ายันต์, เสื้อยันต์, พระพิมพ์ต่างๆ

    หลวงพ่อพริ้ง ท่านมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. 2490 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 8 รวมสิริอายุได้ 83 ปี นับพรรษาที่บวชได้ 63 พรรษา


    พระปิดตา หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก พิเศษมีจาร

    เนื้อผงขาว(เนื้อเดียวกับลูกอม) สภาพสวยมาก ผิวเดิม ดูง่าย แท้ตาเปล่า สร้างโดย หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก สร้างเมื่อประมาณ พศ.๒๔๘๐ อานิสงค์ เด่นทาง เมตตา, คงกระพัน, แคล้วคลาด จากภยันอันตรายทั้งปวง


    [​IMG][​IMG]



    ให้บูชา 1,750บ.ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 6349815391621200001.jpg
      6349815391621200001.jpg
      ขนาดไฟล์:
      132.3 KB
      เปิดดู:
      4,430
    • ol18.jpg
      ol18.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.5 KB
      เปิดดู:
      5,713
    • ol19.jpg
      ol19.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29 KB
      เปิดดู:
      3,674
  13. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,090
    ค่าพลัง:
    +5,460
    พระนาคปรกใบมะขาม สมเด็จพุฒาจารย์นวม วัดอนงค์ ปีพ.ศ.2495 พระยุคเก่าพุทธคุณสูงครับ

    พระปรกใบมะขาม วัดอนงคาราม สมเด็จพระพุฒาจารย์นวม ปีพศ.2495 ด้านหน้าเป็นรูปพระหน้าปรก ด้านหลังเป็นพระปางปฐมเทศนา สภาพสวย เลี่ยมพร้อมใช้ เหรียญเก่าพศ.ลึก พุทธคุณเยี่ยม น่าบูชามากครับ

    ประวัติ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม พุทธสโร) อดีตเจ้าอาวาสลำดับที่ 6 แห่งวัดอนงคาราม กรุงเทพฯ เป็นพระสงฆ์ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปหนึ่ง มีจริยาวัตรงดงาม วาจาไพเราะ ท่านจะพูด "ดีจ้ะ" หรือ "จ้ะ" ลงท้ายแทบทุกคำ มีวิชาหุงน้ำมันมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง "เหรียญรุ่นแรก" เป็นที่เล่นหากันในวงการ แต่มีจำนวนน้อยมาก แทบจะไม่พบเห็นเลย ท่านเป็นยอดพระเกจิอาจารย์เมืองกรุง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก จะเห็นได้ว่าท่านมีความสนิทสนมกับสมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศนเป็นอย่างมาก รวมทั้ง "หลวงปู่ศุข"วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท จากหลักฐานสำคัญหลายๆครั้ง จะเห็นได้ว่าเวลาสมเด็จพระสังฆราช(แพ) จะสร้างพระกริ่งและชัยวัฒน์ มักจะนิมนต์ "สมเด็จนวม" มาร่วมนั่งปลุกเสกประจำทิศเสมอๆ ส่วนความสัมพันธ์กับหลวงปู่ศุขนั้นลึกซึ้งยิ่ง เพราะท่านทั้งสองเป็นชาวชัยนาทด้วยกัน เวลาหลวงปู่ศุขมากรุงเทพมหานคร มักจะมาพำนักกับสมเด็จนวมเสมอๆ และร่วมปลุกเสกพระเครื่องกันเสมอ ดังจะเห็นได้จากรูปถ่ายการปลุกเสกร่วมของพระเกจิอาจารย์สองท่านนี้หลายๆครั้ง


    [​IMG][​IMG]



    ให้บูชา 1,200บ.ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ol7.jpg
      ol7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.7 KB
      เปิดดู:
      2,638
    • ol8.jpg
      ol8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33 KB
      เปิดดู:
      2,459
  14. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,090
    ค่าพลัง:
    +5,460
    หลวงพ่อทุ่งคาเนื้อว่าน ปี05 วัดบูรพาราม จ.ปัตตานี พระยุคเก่าพุทธคุณสูงครับ

    หลวงพ่อทุ่งคาเนื้อว่าน ปี05 วัดบูรพาราม จ.ปัตตานี ประวัติหลวงพ่อทุ่งคา วัดบูรพาราม จ.ปัตตานี "หลวงพ่อทุ่งคา" วัดบูรพาราม อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เป็นพระพุทธรูปโบราณปางมารวิชัย เป็นศิลปะสมัยเชียงแสนผสมอู่ทอง พุทธศตวรรษที่ 17 วัสดุหล่อด้วยทองสำริดขนาดหน้าตัก กว้าง 55 เซนติเมตร สูง 71 เซนติเมตร สมเด็จ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ให้ความเห็นว่า เป็นศิลปะอินเดียผสมเชียงแสน ด้วยพระเกตุมาลาเป็นต่อม พระกรรณยาว ขมวดพระเกศาเล็กละเอียด มีอุณาโลมเชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองยะหริ่งมาร่วม 180 ปีเศษ หลวงพ่อทุ่งคา วัดบูรพาราม มีอภินิหารเป็นที่ประจักษ์ล่วงมาแล้วถึง 3 ช่วงอายุคน ในทางพุทธคุณเมตตามหานิยมคุ้มครองป้องกันภยันตรายทั้งปวงได้ แคล้วคลาดจากเหตุร้ายต่างๆ เป็นที่เคารพสักการะนับถือบูชา เป็นพระประจำบ้าน ก็จะเป็นเกราะคุ้มครองป้องกันให้ปราศจากภัยพิบัติต่างๆ อันเกิดจากโรคภัยไข้เจ็บ อัคคีภัย วาตภัย ให้ความร่มเย็นเป็นสุขเสริมความเป็นสิริมงคล จำเริญพูนผลด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ แก่ทุกๆ คน กล่าว กันว่า วัดบูรพาราม เป็นแหล่งที่ผู้คนมาพึ่งพิงหลวงพ่อทุ่งคา ทั้งชาวจีนอพยพมาจากแผ่นดินใหญ่ ก่อนจะตั้งตัวได้ ชาวบ้านที่เป็นพุทธศาสนิกชน และชาวมุสลิมมักจะระลึกถึงหลวงพ่อทุ่งคาเมื่อมีความเดือดร้อนเสมอ วัดบูรพารามจึงเป็นศูนย์รวมที่หล่อหลอมให้เกิดวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันได้ อย่างกลมกลืน หลวงพ่อทุ่งคา วัดบูรพารามมี ประวัติกล่าวเป็นตำนานว่า พุทธศักราช 2302 หลวงพ่อทุ่งคาไหลมาตามกระแสน้ำที่ฝั่งแม่น้ำยามูตอนบน ในหมู่บ้านชาวมุสลิม ชาวมุสลิมพยายามลากขึ้นทุกวิถีทางก็ไม่อาจจะนำขึ้นมาจากน้ำได้ จึงได้บอกให้ชาวพุทธมานำขึ้น ชาวพุทธได้จุดธูปเทียนอธิษ ฐาน อัญเชิญขอด้วยความเคารพ ดึงขึ้นอย่างง่ายดาย เป็นที่อัศจรรย์ใจของชาวมุสลิม จึงได้พากันนับถือเลื่อมใสในความศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงพ่อทุ่งคา ต่อ มาสร้างวัดถวายชื่อว่า วัดบูรพาราม หลวงพ่อทุ่งคาประดิษฐานอยู่ได้ 60 ปี พุทธศักราช 2306 อัญเชิญไปสู่วัดในเมืองยะหริ่งเก่า พุทธศักราช 2411 อัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดบูรพาราม เมืองยะหริ่งใหม่ อภินิหาร เกี่ยวกับหลวงพ่อทุ่งคามักจะแสดงให้ปรากฏอยู่เสมอๆ พุทธศักราช 2412 ทางราชการประสงค์จะอัญเชิญเข้ามาในกรุงเทพมหานคร ระหว่างอยู่ในเรือเดินทางจากปัตตานีมายังเมืองสงขลา ปรากฏว่าเกิดลมพายุรุนแรงเป็นที่น่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง ผู้คนในเรือต่างวิงวอนมิให้เกิดอันตราย ลมจึงสงบ เมื่อเรือแล่นมาถึงเมืองสงขลา สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ จึงให้อัญเชิญกลับวัดบูรพารามเช่นเดิม กล่าวว่า เกิดอภินิหารด้วยเพราะเหตุที่หลวงพ่อวัดทุ่งคาไม่ประสงค์จะย้ายถิ่น

    คาถาอาราธนาบูชาปลุกเสกหลวงพ่อทุ่งคา
    ว่า นะโม ๓ ครั้ง แล้วว่าคาถาปลุกเสก ๓ คาบ ดังนี้ ..อิติปิโสภคะวา โพธิยะมะหัง สัจจะธัมมัง พุทธโวอิติ อิติปิโสภคะวา.

    สำหรับพระทุ่งคา เนื้อว่าน ปี2505 นี้ เป็นพระที่ มีพิธีกรรมยิ่งใหญ่ ได้หลวงปู่ทิม วัดช้างไห้ และ ได้มวลสารศักดิ์สิทธิ์ หลายแห่ง เช่น ว่านหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน ปี2497 รุ่นแรก และมีพระเกจิที่เก่งมากหลายๆท่านมาร่วมปลุกเสกเช่น หลวงพ่อดำ วัดตุยง ครับ ประสบการณ์เรื่องแคล้วคราด เรื่องความเจริญรุ่งเรือง คุ้มครอง เป็นต้นครับ จัดได้ว่าเป็นพระที่ดี และ น่าใช้ที่สุดอีกองค์หนึ่ง ที่สำคัญราคายังไม่แพงมากนัก


    [​IMG][​IMG]



    ให้บูชา 1,200บ.ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • kh1.jpg
      kh1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.3 KB
      เปิดดู:
      2,520
    • kh2.jpg
      kh2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.4 KB
      เปิดดู:
      2,439
  15. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,090
    ค่าพลัง:
    +5,460
    เหรียญจอบ รุ่น2 พระธรรมโฆษิต(คง โกกนุตตโต) เนื้อทองแดงรมดำ

    เหรียญจอบ รุ่น2 พระธรรมโฆษิต(คง โกกนุตตโต) เนื้อทองแดงรมดำ ออก วัดชลเฉลิมเขต จ.นราธิวาส ปี02 เหรียญพิมพ์นี้ได้ถูกสร้างขึ้นโดยท่านพระครูประสิทธ์สาธุคุณ (แสง ติกขญาโณ) ท่านเป็นชาว อ.สิงหนคร โดยกำเนิดและศิษย์เอกของพ่อท่านคงครับ เหรียญรุ่นนี้นับว่าหายาก ไม่ค่อยพบมุนเวียนในตลาดเลยหลายท่านเริ่มเก็บสะสมนับว่าเป็นอีกเหรียญที่น่าจับตามองมาก เหรียญหลวงพ่อคง วัดธรรมโฆษณ์จะเป็นเหรียญที่มีประสพการณ์ดีทุกรุ่น นับว่าเป็นเกจิอาจารย์ที่เป็นที่เคารพของชาวสงขลา


    [​IMG]
    [​IMG][​IMG]



    ให้บูชา 3,500บ.ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,090
    ค่าพลัง:
    +5,460
    รูปหล่อหลวงพ่อปลั่ง พรมโชโต (เจ้าคุณวิเชียรโมลี ศรีวชิรบราการ) วัดพระบรมธาตุ เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร จัดสร้างปี2484

    ท่านเป็นพระเถระผู้ทรงวิทยาคุณทางพุทธศาสตร์และไสยศาสตร์ที่ได้รับอาราธนาเข้าร่วมในพิธีปลุกเสกพระกริ่งชนะสงคราม ที่รัฐบาลในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นมิ่งขวัญกำลังใจแก่ทหารหาญ นับว่าเป็นเถระผู้ทรงวิทยาคุณที่มีชื่อเสียงมากรูปหนึ่งในสมัยนั้น สมัยสงครามอินโดจีน ท่านยังได้ทำเสื้อยันต์แดง แจกทหารผู้ไปราชการสงคราม ทำให้มีผู้เลื่อมใสในตัวท่านเป็นอันมาก เนื่องจากประจักษ์ในวิทยาคม จนได้รับอาราธนาให้นั่งเครื่องบินเพื่อหว่านทรายเสกให้ประชาชนและทหารรอดพ้นจากอันตรายจากภัยสงคราม มีประชาชนเคารพนับถือท่านมากมายได้รับอัญเชิญให้เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกครั้งสำคัญหลายครั้ง เช่น วัดราชบพิธ ปี 81 และ วัดสุทัศน์ ปี 85 เป็นต้น และท่านเป็นอาจารย์ถ่ายผู้ทอดวิทยาคมให้แก่ พระครูวิบูลย์วชิรธรรม (สว่าง)วัดท่าพุดทรา เจ้าของเหรียญปลอดภัยที่เลื่องลือ สำหรับวัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงของท่านได้แก่ หนังหน้าผากเสือลงยันต์หมึกคราม นอกจากนี้ ท่านยังได้สร้างวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง เป็นที่ปรารถนาของประชาชนอีกมากมาย อาทิ หนังหน้าเสือลงยันต์ นางกวัก ผ้ายันต์นกคุ่ม รูปหล่อลอยองค์ขนาดเล็กหน้าตัก 1 นิ้ว เหรียญรูปท่านรุ่นต่างๆ แหวนและพระกริ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมมากในสมัยนั้น และในปัจจุบันนี้ ก็ยังเสาะแสวงหาครอบครองกันอยู่ แต่มีน้อยนักที่จะได้ไว้ในครอบครอง

    ท่านเจ้าคุณวิเชียรโมลีฯ เน้นหลักคุณธรรม คือ ความเมตตา และความเสียสละ ละความโลภในลาภสักการะได้สิ้นเชิง ท่านเดินทางไปที่แห่งใด ไม่เคยต้องพกเงินติดตัวไปเลย ด้วยมีแต่ผู้คนเอามาถวายท่าน แต่ท่านก็ไม่เคยเก็บสะสมเงินทองที่ได้มานั้นไปใช้เป็นการส่วนตัว มีแต่นำไปพัฒนาบูรณะวัดให้สวยงามเป็นที่น่าศรัทธาเลื่อมใสของผู้มาทำบุญที่วัด นับว่าเป็นพระแท้ที่น่ายกย่องสรรเสริญกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจอีกรูปหนึ่ง

    ท่านเจ้าคุณวิเชียรโมลีฯ มรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2488 สิริอายุ 71 ปี ในวันที่ท่านมรณภาพนั้นมีเหตุการณ์ประหลาด คือ ฝูงนกยูงที่ท่านเลี้ยงไว้ด้วยความเมตตาในวัดพระบรมธาตุ ได้ส่งเสียงร้องอยู่ตลอดเวลา เสมือนกับอาลัยอาวรณ์หลวงพ่อผู้ซึ่งเปี่ยมด้วยเมตตา ยังความเศร้าสลดใจแก่ผู้พบเห็นในครานั้นเป็นยิ่งนักตลอดชีวิต พระวิเชียรโมลี ได้ประกอบคุณงามความดีที่ท่านสั่งสมไว้ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ให้พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนได้จดจำอย่างมิลืมเลือน


    [​IMG][​IMG]
    [​IMG]



    รายการนี้สนใจpmครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • tr1.jpg
      tr1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.9 KB
      เปิดดู:
      2,490
    • tr2.jpg
      tr2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.6 KB
      เปิดดู:
      2,135
    • tr3.jpg
      tr3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.5 KB
      เปิดดู:
      2,240
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2015
  17. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,090
    ค่าพลัง:
    +5,460
  18. ชิต332

    ชิต332 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2016
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +1
    แหวนมงคลมหานิยม มหาเสน่ห์ รุ่นเงียบเสียง อาจารย์ชุม ไชยคีรี
    ยังมีไหมคับ
     
  19. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,090
    ค่าพลัง:
    +5,460
    มีครับ
     
  20. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,090
    ค่าพลัง:
    +5,460
    สรุปรายการเด็ดๆ ที่มีอยู่นะครับ

    รายการที่1.>>> เหรียญยกฐานะ เนื้อเงิน หลวงปู่ปัญญา 5 แผ่นดิน >>> ราคาพิเศษโทรถาม / หน้า1.
    [​IMG] [​IMG]

    รายการที่2.>>> รูปเหมือนปั๊มรุ่นแรก หลวงปู่ปัญญา ปญฺญธโร วัดหนองผักหนาม ปี๒๕๕๓ "เนื้อตะกั่วลองพิมพ์ กรรมการ" หมายเลข ๗[FONT=&quot]๒[/FONT][FONT=&quot] >>> 2,750บ. / หน้า2.
    [/FONT][​IMG] [​IMG]

    รายการที่3.>>>ชูชกสมปรารถนารุ่น "สร้างโบสถ์" หนังกลองโบราณ หลวงปู่แดง ดวงเศรษฐี
    >>> ให้บูชาองค์ละ 950 บ. / หน้า3.

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot]รายการที่4.>>> [/FONT][/FONT][/FONT][FONT=&quot]ล็อคเก็ตหลวงพ่อหยอด[/FONT][FONT=&quot]วัดแก้วเจริญ[/FONT][FONT=&quot] พร้อมด้วยสมเด็จปรกโพธิ์คะแนน[/FONT][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot] >>> 999บ. / หน้า4.[/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]
    [​IMG]

    [FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot]รายการที่5.>>> [/FONT][/FONT][/FONT][FONT=&quot]สมเด็จบึงพระยาสุเรนทร์[/FONT]พิมพ์เล็บมือ(ซุ้มกอ)องค์ที่1 [FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot]>>> 1,050บ. / หน้า4.[/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]
    [​IMG] [​IMG]

    [FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot]รายการที่6.>>> [/FONT][/FONT][/FONT]พระกริ่งอุ้มบาตร "มุนีภิรมย์" หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดไทรน้อย จ.นนทบุรี เนื้อนวะโลหะ พิมพ์ใหญ่[FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot] >>> [/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][FONT=&quot]ให้บูชาองค์ละ 950 บ.[/FONT][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot] / หน้า8.[/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot]รายการที่7.>>>[/FONT][/FONT][/FONT]เหรียญกลม หลวงพ่อโบ้ย รุ่นแรก และรุ่นสุดท้าย ปี๒๕๐๘ วัดมะนาว จ.สุพรรณฯ [FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot]>>> [/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][FONT=&quot]ให้บูชา[/FONT][FONT=&quot]องค์[/FONT][FONT=&quot]ละ 2,450 บ.[/FONT][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot] / หน้า9.[/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]
    [​IMG] [​IMG]

    [FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot]รายการที่8.>>>[/FONT][/FONT][/FONT]พระกริ่งศุภมงคลและ เหรียญนั่งพานรุ่นแรก หลวงปู่หุน วัดบางผึ้ง จ.ฉะเชิงเทรา ชุดกรรมการหมายเลข ๗๘ ได้รับแปดรายการ [FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot]>>> [/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][FONT=&quot]ให้บูชา[/FONT][FONT=&quot]ชุด[/FONT][FONT=&quot]ละ 7,450 บ.[/FONT][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot] / หน้า10.[/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]
    [​IMG]

    [FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot]รายการที่9.>>>[/FONT][/FONT][/FONT]พระกริ่งรุ่นแรก (พระกริ่งปัญญะทโร) หลวงปู่ปัญญา ปัญญะทโร จัดสร้าง ๒พิมพ์พิมพ์ละ ๑๐๘องค์ พิมพ์ที่๑ หมายเลข๙๒ [FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot]>>> [/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][FONT=&quot]ให้บูชา[/FONT][FONT=&quot]องค์[/FONT][FONT=&quot]ละ 2,850 บ.[/FONT][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot] / หน้า10.[/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot]รายการที่10.>>>[/FONT][/FONT][/FONT]พระกริ่งรุ่นแรก (พระกริ่งปัญญะทโร) หลวงปู่ปัญญา ปัญญะทโร จัดสร้าง ๒พิมพ์พิมพ์ละ ๑๐๘องค์ พิมพ์ที่๒ หมายเลข๙๔ [FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot]>>> [/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][FONT=&quot]ให้บูชา[/FONT][FONT=&quot]องค์[/FONT][FONT=&quot]ละ 2,850 บ.[/FONT][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot] / หน้า10.[/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot]รายการที่11.>>>[/FONT][/FONT][/FONT]เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อหล่ำ วัดสามัคคีธรรม เนื้อทองแดงรมดำ เหรียญสุดยอดประสบการณ์แห่งความเมตตา [FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot]>>> [/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][FONT=&quot]ให้บูชา[/FONT][FONT=&quot]องค์[/FONT][FONT=&quot]ละ 1,250 บ.[/FONT][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot] / หน้า10.[/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]
    [​IMG] [​IMG]

    รายการที่12.>>>เหรียญหลวงพ่อนารถ วัดศรีโลหะ ที่ระลึกฉลองสมณศักดิ์ ปี 2522 เนื้อทองแดงรมดำ จ.กาญจนบุรี>>> [FONT=&quot]ให้บูชา[/FONT][FONT=&quot]องค์[/FONT][FONT=&quot]ละ 750 บ.[/FONT][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot] / หน้า13.[/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]
    [​IMG][​IMG]

    รายการที่13.>>>เหรียญพระครูญาณวุฒิกร (สวน) รุ่นแรก กะไหล่เงิน กรรมการ สภาพผิวหิ้ง สวยไม่ได้ใช้ สร้างในคราวที่ระลึกฉลองสมณศักดิ์ ปี2506 วัดบางกระดาน อ.แหลมงอบ จ.ตราด>>> ให้บูชาองค์ละ 1,550 บ. / หน้า15.
    [​IMG] [​IMG]

    รายการที่14.>>>เหรียญท่านเจ้าคุณพระสิงหบุราจารย์(หลวงพ่อลบ ฐิตาโภ) อดีตเจ้าอาวาส วัดโบสถ์ จังหวัดสิงห์บุรี รุ่นแรก ปี๒๔๘๗ เนื้อทองแดง สภาพสวยมาก เป็นเหรียญเก่าที่หาได้ยากแล้วนะครับ>>> ให้บูชาองค์ละ 3,250 บ. / หน้า15.
    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กุมภาพันธ์ 2016

แชร์หน้านี้

Loading...