WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

น้ำท่วมพม่าหนัก ไทยส่งสินค้าไม่ได้ สูญวันละ100ล้าน



เกิดน้ำท่วมหนักในพม่าหลายจังหวัด ส่งผลเกิดดินสไลด์ปิดทับถนนเส้นทางเป็นอัมพาต ด้าน ปธ.หอการค้าจังหวัดตากเผย สูญเสียรายได้วันละ 100 ล้าน...

เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมแม่สอดว่า สถานการณ์ในภาพรวมดีขึ้นแล้ว น้ำในแม่น้ำเมย น้ำลดลงหมด เข้าสู่ภาวะปกติ คงทิ้งไว้แต่ความเสียหายที่ยังหลงเหลืออยู่ ส่วนท่าเรือต่างๆ เริ่มเปิดให้บริการแล้วแต่บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงาเพราะทางด้านจังหวัดเมียวดี จังหวัดมะละแหม่ง จังหวัดจ่องโต และกรุกกริก เส้นทางเพื่อไปยังเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า ได้ประสบอุทกภัยอย่างหนัก ดินภูเขาสไลด์ปิดถนนทุกสายที่จะเข้ามาทางด้านชายแดนไทยหมด รถวิ่งรับส่งสินค้าและประชาชนไม่ได้ ส่งผลให้ทั้งสะพานมิตรภาพไทย-พม่า บ้านริมเมย เงียบเหงา ไม่มีรถรับส่งสินค้าวิ่งข้ามเพราะทางพม่าสั่งระงับนำสินค้าทั้งหมด เพราะหวั่นจะเจอน้ำท่วมรอบสอง ขณะที่ท่าเรือชายแดนไทยกว่า 20 ท่า เงียบเหงา เพราะไม่มีสินค้าส่งออก เรือยนต์จอดเรียงรายริมแม่น้ำเมยจำนวนมาก คงเหลือแต่บรรดาแรงงานชาวพม่าที่โดยสารเรือเพื่อเข้ามาทำงานโรงงานฝั่งไทยเท่านั้น


ด้าน นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในฝั่งพม่า ที่จังหวัดเมียวดี ตรงข้ามบ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด ว่า ได้ส่งผลกระทบการขนส่งสินค้าระหว่างฝั่งไทยกับฝั่งพม่า เพราะพื้นที่รองรับสินค้าถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตตัวเมือง รวมทั้งพื้นที่ชั้นในเจออุทกภัยดินถล่มปิดถนนทุกสายจนเป็นอัมพาตทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถส่งสินค้าได้ รถบรรทุกสินค้าต้องจอดรอตามชายแดนจำนวนมาก เหตุการณ์ส่งผลให้ไทยเสียหายเพราะส่งสินค้าไม่ได้วันละนับ 100 ล้านบาท คาดว่านับสิบวันกว่าเหตุการณ์จะคลี่คลาย.

 

14.44 น. ศูนย์อุตุนิยมวิทยาทะเล วิเคราะห์ลักษณะอากาศจากภาพถ่ายดาวเทียม วันนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. คาดพรุ่งนี้เช้า กทม. ฝนตกหนัก

Ow.ly - image uploaded by @Rawangpai

@Ninenrv Songkhla

 

ฟ้าผ่ารันเวย์สนามบินไต้หวัน-ปิดซ่อม 2 ช.ม.

13 ส.ค. 55 08.57 น.



สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานว่า เกิดเหตุฟ้าผ่ารันเวย์ทางวิ่งขึ้นลงเครื่องบิน ของสนามบินซงซาน กรุงไทเป เป็นหลุมลึกเมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ เจ้าหน้าที่ต้องปิดสนามบินซ่อมเกือบ 2 ชั่วโมง โดยเจ้าหน้าที่องค์การบินพลเรือนไต้หวัน เผยว่า ฟ้าผ่าทำให้หลุมลึกประมาณ 70 ซ.ม. กว้าง 50 ซ.ม. บนพื้นผิวรันเวย์สนามบินซงซาน ซึ่งมีแค่รันเวย์เดียว การปิดสนามบินเพื่อซ่อมนานเกือบ 2 ชั่วโมง ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินโดยสารขึ้นลง 25 เที่ยว รวมผู้โดยสารประมาณ 3,500 คน โดย 20 เที่ยว ในจำนวนดังกล่าว เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ การซ่อมแซมเสร็จสิ้นและเครื่องบินสามารถบินขึ้นลงได้ตามปกติ เมื่อเวลา 20.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 19.10 น. ตามเวลาในประเทศไทย

 

น้ำท่วมปินส์ยังวิกฤติกว่า2ล.คนยังอ่วมหนัก

13 ส.ค. 55 08.32 น.



สื่อดังของสหรัฐ รายงาน เหตุอุทกภัย ในประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากที่โดน พายุซาโอลา ถล่มอย่างหนัก เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้เกิดฝนตกอย่างหนัก และดินถล่ม ทั่วกรุงมะนิลา รวมทั้งพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง โดยล่าสุด ประชาชนกว่า 2 ล้านคน ได้รับผลกระทบ ไร้ที่อยู่อาศัย ต้องอพยพมาอยู่กันตามศูนย์อพยพ ที่ทางราชการจัดไว้ให้ ขณะเดียวกัน ทางการได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติในหลายพื้นที่ขณะที่ยอดของผู้เสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่เผยว่า เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 85 รายแล้ว สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากจมน้ำเสียชีวิต และโดนไฟฟ้าแรงสูงดูดทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนว่า ภายในสัปดาห์นี้ จะยังมีฝนตกอีกอย่างต่อเนื่อง

 

ยอดดับดินไหวอิหร่านพุ่งกว่า 300 เจ็บ 2,500

13 ส.ค. 55 09.20 น.




ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง 2 ครั้งซ้อน ในจังหวัดอีสต์ อาเซอร์ไบจาน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิหร่าน ขนาด 6.4 และ 6.3 ริกเตอร์ เมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย เพิ่มเป็นมากกว่า 300 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 2,500 คน โดยความรุนแรงของแผ่นดินไหว ทำให้หมู่บ้านอย่างน้อย 6 แห่ง พังราบเป็นหน้ากลอง และอีก 60 หมู่บ้าน เสียหายหนัก เจ้าหน้าที่ขอร้องประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัย ซึ่งเป็นเขตภูเขา ให้ออกมาอยู่ข้างนอกหรือในที่โล่ง เพราะคาดว่าจะมีอาฟเตอร์ช็อคตามมาอีก ทำให้ประชาชนนับหมื่นคนต้องค้างคืนอยู่นอกบ้านโดย รัฐมนตรีมหาดไทยอิหร่าน ให้สัมภาษณ์ว่า จากนี้ เจ้าหน้าที่จะทุ่มเทความพยายามไปที่การจัดหาความช่วยเหลือด้านอาหารและที่อยู่ให้ผู้ประสบภัย เหตุแผ่นดินไหวความรุนแรง 6.4 และ 6.3 ริกเตอร์ ในจังหวัดอีสต์ อาเซอร์ไบจาน เมื่อวันเสาร์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 227 คน บาดเจ็บ 1,380 คน แม้เมืองทาบริซ ซึ่งเป็นเมืองเอกในพื้นที่และเมืองใกล้เคียงอื่นๆ จะแทบไม่ได้รับความเสียหายใดๆ โดย ประธานาธิบดีมาห์มูด อาห์มาดิเนจาด ผู้นำของอิหร่าน สั่งการให้เร่งสร้างบ้านพักชั่วคราวให้ผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาวรุนแรงที่กำลังจะมาถึง

 

สหรัฐฯ เตือน! ทั่วโลกระวังกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ กำลังวางแผนก่อการร้าย



สหรัฐฯ เตือน! ทั่วโลก ระวังกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ กำลังวางแผนก่อการร้าย
Mthainews: ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวต่างประเทศเปิดเผยว่า นายแดเนียล เบนจามิน ผู้ประสานงานด้านการต่อต้านการก่อการร้าย กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า กลุ่มฮิซบุลลอฮ์ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาจกำลังวางแผนก่อการร้ายในยุโรปและทั่วโลกในเร็วๆ นี้
โดยกลุ่มฮิซบุลลอฮ์และอิหร่านยังคงมีความเคลื่อนไหวก่อการร้ายในระดับสูง สามารถก่อการร้ายในยุโรปและที่อื่นๆ เวลาใดก็ได้ โดยไม่ส่งสัญญาณเตือนหรือส่งสัญญาณเพียงเล็กน้อย เพื่อแก้แค้นอิสราเอล และตอบโต้ชาติตะวันตกที่กำลังกดดันซีเรียและอิหร่านอย่างหนัก กลุ่มดังกล่าวจึงยังเป็นภัยคุกคามร้ายแรงในอนาคต
แต่จนถึงขณะนี้สหรัฐฯ ยังไม่พบความเคลื่อนไหวด้านการปฏิบัติการของกลุ่มดังกล่าวในสหรัฐฯ และไม่มีข้อมูลว่ามีเป้าหมายด้านการปฏิบัติการของกลุ่มในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ กลุ่มฮิซบุลลอฮ์ถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุระเบิดโจมตีเป้าหมายอิสราเอลในยุโรปและเอเชียเมื่อเร็วๆ นี้ และยังสนับสนุนการปราบปรามกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสสาด

 

ปริมาณน้ำในอ่าง จ.ตราดเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่จ.พิษณุโลก โบราณสถานถูกน้ำท่วมขัง

นายสมคิด สัมมา หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำ สำนักงานโครงการชลประทาน จ.ตราด เปิดเผยว่า ระยะนี้มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ทางชลประทานจึงพร่องน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำสำคัญ 3 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองโสน อ่างเก็บน้ำห้วยแร้ง และอ่างเก็บน้ำเขาระกำ ให้เหลือเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่อาจตกลงมาใหม่ในห้วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ทั้งนี้ อ่างเก็บน้ำทั้งหมด 6 แห่ง ใน จ.ตราด มีปริมาณการกักเก็บน้ำอยู่ที่ประมาณ 58.469 ล้านลูกบาศก์เมตร




พิจิตรน้ำเอ่อท่วมพื้นที่ ต.รังนก ปชช.สัญจรโดยเรือ

ที่ จ.พิจิตร หลังจากฝนตกต่อเนื่องยังคงมีน้ำป่า หรือน้ำทุ่ง ไลหมาจาก อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร เข้ามาตามลำคลองทองแดง และคลองวังบัว อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร เอ่อเข้าท่วมพื้นที่หมู่ 7 และหมู่ 11 ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร จนบางจุดไม่สามารถระบายน้ำได้ทันเนื่องจากเป็นที่ราบต่ำ ประกอบกับชลประทานจังหวัดยังปิดประตูน้ำที่บ้านปากคลอง ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำยม ที่มีระดับสูงเช่นกัน ขณะนี้ชาวบ้านจึงต้องใช้เรือในการสัญจรไปมา




น้ำป่าทะลักท่วม อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน พื้นที่การเกษตรเสียหาย

พ.อ.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 17 ส่งกำลังทหารลงพื้นที่อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อสำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่บ้านแม่นะ ต.แม่นาเติง อ.ปาย พบพื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 50 ไร่ นอกจากนั้น เหมืองฝายได้รับความเสียหาย 6 แห่ง รวมทั้งแหล่งอนุรักษ์พันธุ์ปลาประจำหมู่บ้าน ซึ่งนายประพันธ์ ชนะพงษ์โชติ ผู้ใหญ่บ้านแม่นะ หมู่ที่ 8 ร้องขอรับการสนับสนุนรถแบ็กโฮ เพื่อนำมาตักก้อนหินที่ไหลมากับกระแสน้ำ ออกจากพื้นที่ทางการเกษตร เพื่อจะได้เพาะปลูกพืชอื่นต่อไป ในส่วนพื้นที่บ้านใหม่ ต.แม่ฮี้ สะพานไม้ข้ามลำน้ำปาย ซึ่งชาวบ้านสร้างขึ้นมาเพื่อข้ามไปยังพื้นที่ทางการเกษตร กระแสน้ำป่าพัดสะพานพัง ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถเดินข้ามไปยังพื้นที่การเกษตรได้ ทั้งนี้ ในวันที่ 13 สิงหาคม นางนฤมล ปาลวัฒน์ ผู้ว่าราชการ จ.แม่ฮ่องสอนจะลงพื้นที่ อ.ปาย เพื่อให้ความช่วยเหลือราษฎรผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากในครั้งนี้

 

13:00 พายุดีเปรสชัน TD14W ได้ชื่อเป็นทางการแล้วว่า ไคตั๊ก ทิศทางจะผ่านฟิลิปปินส์เข้าหาฮ่องกง

@http://paipibat.com/






ฟิลิปปินส์เตือนพายุเข้า-ฝนตกหนัก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 สิงหาคม 2555 15:08 น.


ทางการฟิลิปปินส์ประกาศเตือนว่า จะมีพายุเข้าและจะทำให้ฝนตกหนักลงมาอีกในกรุงมะนิลา และพื้นที่โดยรอบซึ่งยังคงประสบอุทกภัย ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 92 คนแล้ว ส่วนใหญ่เป็นเพราะจมน้ำ
สำนักงานบริหารและบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติ รายงานว่า ประชาชนเกือบ 5 แสนคน แออัดกันอยู่ในศูนย์อพยพ โดยมีรายงานผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมกว่า 3.4 ล้านคน
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในกรุงมะนิลาส่วนใหญ่ลดลงแล้ว แม้ยังมีอีกหลายแสนคนที่ยังเดินทางไม่ได้เนื่องจากระดับน้ำสูงเท่าคอใน บริเวณพื้นที่ต่ำของกรุงมะนิลา
ศูนย์พยากรณ์อากาศรายงานว่า พายุหมุนเขตร้อนกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาห่างไปราว 600 กิโลเมตรจากทางชายฝั่งตะวันออกของฟิลิปปินส์ในมหาสมุทรแปซิฟิก

 

พระรามเก้า ฝนตกหนัก ลมแรงมาก

 

[ 13 ส.ค. 2555 : 15.25 น.

ฝนอ่อนถึงปานกลางปกคลุมพื้นที่ฝั่งธนบุรีทั้งหมด ต่อเนื่องพื้นที่ริมแม่น้ำ พื้นที่ชั้นใน

เขตดอนเมือง หลักสี่ สายไหม บางเขน วังทองหลาง บางกะปิ สะพานสูง

เคลื่อนไปเขตคันนายาว คลองสามวา มีนบุรี แนวโน้มคงที่ ] ...




13 ส.ค. 2555 : 15.35 น.

 

เรือน้ำมันระเบิดกลางดึกที่ระยอง ไออาร์พีซีส่งเรือช่วยรอดชีวิต3สูญหาย1



เมื่อ 13 ส.ค. ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ร.ต.ท.อภิวัฒน์ อภิวุฒิชัยกิตติ์ ได้รับแจ้งเหตุเรือบรรทุกน้ำมันระเบิดกลางทะเล บริเวณปากน้ำแหลมเจริญ จังหวัดระยอง ห่างจากฝั่งประมาณ 3 ไมล์ทะเล จึงประสานไปยังตำรวจน้ำเข้าทำการตรวจสอบ พร้อมด้วยเรือศูนย์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) เข้าช่วยเหลือแล้ว โดยใช้เวลาการค้นหาถึงช่วงเช้าจึงสามารถนำตัวผู้รอดชีวิตเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย

ทางด้าน นายประกิต ปฐวีศรีสุภา สมาชิกสภาเทศบาลนครระยอง ที่เดินทางมาสังเกตการณ์บริเวณชายฝั่งชุมชนปากน้ำ ได้กล่าวว่าได้รับแจ้งจากชาวบ้านชุมชนปากน้ำ-แหลมเจริญ หลังจากได้ยินเสียงระเบิดดังมาก 3 ครั้ง จึงมาตรวจสอบพบว่าเป็นเรือบรรทุกน้ำมัน ซึ่งอยู่กลางทะเล ที่ลุกไหม้ไฟลุกโชติช่วง แต่อยู่กลางทะเลและมืดมากจึงแจ้งหน่วยงานพร้อมเรือกู้ภัยทางน้ำของบริษัทไออาร์พีซี มีเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือทั้งคืน ต่อมาในช่วงเช้ามืดวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้รอดชีวิต มี3 รายขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัยมีนายวิริยะ มีพันธ์ อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 29 หมู่ 17 ต.พรหมเทพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เป็นไต๋เรือ ให้การว่าได้นำเรือประมง ดัดแปลงบรรทุกน้ำมันดีเซลจำนวน 500 ลิตร รวม 5 ถังๆละ 100 ลิตร ออกจากฝั่งบ้านเพ เพื่อไปส่งน้ำมันที่ช่องแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมีลูกเรืออีก3 มี คือนายคำเคน ศรีงาม อายุ 38 ปี นายสมบัติ ศรีเมฆ อายุ 36 ปี และนายวรวุฒิ สวัสดี อายุ 29 ปี แต่ระหว่างที่เล่นเรือมาตามปกติ และเกิดเหตุไฟลุกไหม้มาจากห้องเครื่อง และลุกลามจนเกิดระเบิดรุนแรงและมีเสียงระเบิดดังทุกคนจึงกระโดดลงทะเล ลอยคอมองเห็นไฟที่ไหม้โหมกระหน่ำ จนเรือจมลงอย่างรวดเร็วไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่พากันเอาชีวิตรอด รอเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยก็พบว่า ลูกเรือหายไป1 คน คือ นายวรวุฒิ ที่สูญหายไปกลางทะเล

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยทางน้ำ และตำรวจน้ำ รวมค้นหาผู้สูญหาย แต่ก็ยังไม่พบแต่อย่างใด ซึ่งเกิดเหตุในช่วงกลางดึกทำให้การค้นหาเป็นไปได้ยาก และจะได้เรียกสอบปากคำลูกเรือที่รอดชีวิตเพื่อตรวจสอบสาเหตุของการเกิดไฟไหม้และประเมินมูลค่าความเสียหาย ให้ละเอียดอีกครั้ง

 

ภาพแผนที่แสดงเส้นทางเดินของพายุบริเวณ North West ล่าสุด

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ฟิลิปปินส์เตือน ปชช.รับมือพายุลูกใหม่จ่อเข้ากรุงมะนิลา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 สิงหาคม 2555 19:47 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สำนักงานบริหารและบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์ รายงานสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ ว่า มีผู้เสียชีวิตไปทั้งสิ้น 92 คน จากเหตุน้ำท่วม และอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นไห่คุ้ย ซึ่งมีผู้เดือดร้อนกว่า 3.4 ล้านคน รวมถึงมีประชาชนเกือบ 5 แสนคน ต้องอพยพจากบ้านเรือน
แม้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด ในบางพื้นที่ของกรุงมะนิลา จะคลี่คลายแล้ว แต่ยังมีบางพื้นที่ยังมีน้ำท่วมขังสูงในระดับคอ ทำให้ประชาชนบางส่วนต้องอยู่ในศูนย์อพยพต่อไป
อย่างไรก็ตาม ศูนย์พยากรณ์อากาศ รายงานว่า พายุหมุนเขตร้อนกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอีกระลอก ห่างไปราว 600 กิโลเมตร จากชายฝั่งตะวันออก ซึ่งจะทำให้ฝนกตกหนักอีกครั้ง

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เกิดแผ่นดินไหว 6.2 ริกเตอร์ในซินเจียง อาฟเตอร์ช็อคอีก 90 ครั้ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 สิงหาคม 2555 13:30 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>จากภาพ เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.2 ริกเตอร์ วานนี้ (12 ส.ค.) ในมณฑลซินเกียง และอาฟเตอร์ช็อคตามมาอีกกว่า 90 ครั้ง ระดับที่สุดสุดถึง 5.3 ริกเตอร์ (ภาพเอเยนซี)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเยนซี--เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.2 ริกเตอร์ วานนี้ (12 ส.ค.) ในมณฑลซินเจียง และอาฟเตอร์ช็อคตามมาอีกกว่า 90 ครั้ง โดยระดับที่แรงสุดถึง 5.3 ริกเตอร์ ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

กรมธรณีพิบัติแห่งชาติจีน รายงาน วานนี้ ( 12 ส.ค. ) เวลา 18.47 น. ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุแผ่นดินไหว ระดับ 6.2 ริกเตอร์ ในตำบลอี๋ว์เถียน พื้นที่เหอเถียน เขตปกครองตนเองอุยกูร์ มณฑลซินเจียง มีรัศมีความรุนแรง 100 กิโลเมตร

จากนั้นเกิดเหตุอาฟเตอร์ช็อค (Aftershock) อีกถึง 90 ครั้ง ในบริเวณตำบลอี๋วเถียน และตำบลไก่เจ๋อในมณฑลซีจ้าง เป็นต้น แบ่งเป็น 4.8 ริกเตอร์ 3 ริกเตอร์ (เกิด 2 ครั้ง) 3.1 ริกเตอร์ 3.8 ริกเตอร์ และมีระดับความแรงสูงสุดถึง 5.3 ริกเตอร์ ยังเกิดเหตุแผ่นดินไหวในเมืองอาถูเสิน (อาฟาชิ Afashi) ในมณฑลซินเกียง ระดับ 5.2 ริกเตอร์อีกด้วย

นางหวัง ฉยง ผู้อำนวยการศูนย์วัดธรณีพิบัติแห่งมณฑลซินเจียง เผยว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งนี้ อยู่ในพื้นที่เขาคุนหลุนซึ่งมีระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 5,000 เมตรขึ้นไป จุดกำเนิดแรงสั่นสะเทือนลึกลงไป 30 กิโลเมตร พื้นที่บริเวณนี้ หรือในบริเวณ 50 กิโลเมตรล้วนปกคลุมไปด้วยธารน้ำแข็ง เป็นพื้นที่ว่างเปล่า ไม่มีผู้คนอยู่อาศัย

นอกจากนี้ ศูนย์กลางฯ ห่างจากตำบลอี๋ว์เถียน 130 กิโลเมตร ห่างจากตำบลหมินเฟิง 131 กิโลเมตร ขณะเกิดแผ่นดินไหว มีแรงสั่นสะเทือนไปถึงสองตำบลดังกล่าวนี้ด้วย

ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวนี้ แต่มีบ้านเรือนบางแห่งเสียหายเล็กน้อย

หลังเกิดเหตุฯ หน่วยตำรวจกู้ภัย เขตเหอเถียน ดำเนินการประสานกับหน่วยงานต่างๆ และสอบถามสถานการณ์แผ่นดินไหวล่าสุด และได้จัดเตรียมกำลังพล 10 รถยนต์ 2 คัน และสุนัขกู้ภัย เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ หากมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต จะรีบเข้าปฏิบัติการช่วยชีวิตทันที

ตามสถิติ ตำบลอี๋ว์เถียนที่อยู่ใกล้กับเขาคุนหลุน ในมณฑลซินเจียงนั้น เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง ใน 100 ปีมานี้ เคยเกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับ 5 ริกเตอร์ขึ้นไปถึง 7 ครั้ง และเมื่อวันที่ 21 มี.ค. พ.ศ. 2551 เกิดแผ่นดินไหวระดับ 7.3 ริกเตอร์ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พบสารเคมีในข้าวโพดคั่วรสเนย อาจเป็นสาเหตุก่อโรคอัลไซเมอร์</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 สิงหาคม 2555 18:36 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=244><TBODY><TR><TD vAlign=top width=244 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> ซีบีเอสนิวส์ - ส่วนผสมบางอย่างในเนยเทียม ที่ใช้ปรุงแต่งรสและกลิ่นให้กับข้าวโพดคั่ว อาจส่งผลเสียทำให้โปรตีนในสมองผิดปกติ ซึ่งนั่นอาจโยงไปถึงการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้

การศึกษาชิ้นใหม่ในงานวิจัยทางเคมีด้านพิษวิทยาตรวจพบสารไดอะซิทิล เป็นส่วนประกอบที่ใช้ในการผลิตสารปรุงแต่งกลิ่นและรสเนยในไมโครเวฟป็อปคอร์น มาร์การีน ลูกกวาด ขนมอบ หรือแม้แต่อาหารสัตว์เลี้ยง ตลอดจนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในเครื่องดื่มหมักอย่างเบียร์ หรือไวน์ชาดอเน

นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยมินนิโซตา ในเมืองมินนิอาโพลิส ทำการวิเคราะห์สารไดอะซิทิล สารเคมีที่ก่อนหน้านี้เชื่อมโยงกับปัญหาระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเกิดกับลูกจ้างในโรงงานผลิตไมโครเวฟป๊อบคอร์น และสารปรุงแต่งกลิ่นและรส

พวกเขาพบว่า สารไดอะซิทิลนี้มีโครงสร้างเช่นเกียวกับสสารที่ผลิตโปรตีนบีตา-แอมีลอยด์ ซึ่งหากแอมีลอยด์จับตัวกันมากเกินไปจนเป็นคราบสะสมก็จะก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ในสมองต่อมา โดยเหล่านักวิจัยต้องการพิสูจน์ว่าไดอะซิทิลจะสามารถจับตัวกับโปรตีนเป็นคราบเช่นเดียวกันได้หรือไม่

ทั้งนี้ นักวิจัยพบว่า สารไดอะซิทิลนั้นนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของระดับการจับตัวของบีตา-แอมีลอยด์ ที่ก่อพิษในเซลล์ประสาท ที่พวกเขาเลี้ยงไว้ในห้องทดลอง และสามารถแทรกซึมผ่านชั้นเซลล์ผนังกั้นสมองได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษานี้ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ในเชิงสาเหตุและผลกระทบระหว่างสารเคมีดังกล่าวกับโรคอัลไซเมอร์ และผลการวิจัยดังกล่าวก็ยังไม่ได้ทำการทดลองกับมนุษย์ แต่เป็นเพียงแค่ในหลอดทดลองเท่านั้น
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ไทยยังคงมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายและมีฝนตกหนักบางแห่ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>14 สิงหาคม 2555 06:07 น.</TD></TR></TBODY></TABLE> กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันอังคารที่ 14 สิงหาคม 2555 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายและมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน

อนึ่ง พายุโซนร้อน “ไคตั้ก” ทางตะวันออกของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ มีทิศทางการเคลื่อนตัวไปทางเกาะไต้หวัน และด้านตะวันออกของประเทศจีนในช่วงวันที่ 16-17 สิงหาคมนี้ ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเกาะฮ่องกง ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร และนครพนม อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี และกาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ปลาลึกลับแม่น้ำโขง ไล่งับจู๋เด็กเวียดนามหวิดขาด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>14 สิงหาคม 2555 02:22 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=735><TBODY><TR><TD vAlign=top width=735 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
เจ้าหน้าที่ศูนย์ประมงน้ำจืดไปยังที่เกิดเหตุและพยายามเก็บข้อมูล ตลอดจนตรวจดูสภาพแวดล้อมในแหล่งที่เกิดเหตุ เพื่อหาปลาลึกลับที่ทำร้ายเด็กๆ อันเป็นเรื่องที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในเขตที่ราบปากแม่น้ำที่มีระบบนิเวศแสนสลับซับซ้อน. -- ภาพ: Tuoi Tre Online. </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> .

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ทางการจังหวัดโด่งท้าป (Dong Thap) ในเขตที่ราบภาคใต้เวียดนามกำลังสำรวจตรวจตรา เพื่อหาปลาลึกลับฝูงหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุทำให้เด็กๆ 3 คนที่ลงเล่นน้ำได้รับบาดเจ็บที่อวัยวะเพศ ในนั้น 2 คนอาการสาหัสถึงกับห้อยต่องแต่งหวิดขาด และประกาศให้ผู้คนทั่วไประมัดระวังเมื่อลงอาบน้ำในแม่น้ำโขงย่านที่เกิดเหตุ

เหตุเกิดในวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะเด็กๆ 3 คนเล่นน้ำ ก็รู้สึกว่ามีฝูงปลากรูเข้ามาทำร้าย จึงร้องขอความช่วยเหลือ ผู้ใหญ่ไปรีบไปนำขึ้นจากน้ำ และเห็นได้รับบาดเจ็บจึงนำส่งโรงพยาบาลท้าปเหมื่อยของจังหวัดนี้ หนึ่งคนได้รับอนุญาตให้กลับบ้านแล้ว

อีก 2 คนที่เหลืออายุ 7 ปีกับ 4 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส หมอต้องผ่าตัด ก่อนจะเย็บต่ออวัยวะเพศที่ถูกปลาลึกลับกัดให้ติดกันโดยใช้หนังชิ้นหนึ่งหุ้มให้ใหม่ หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานในเว็บไซต์ภาษาเวียดนาม

เด็กทั้งสามคนอาศัยอยู่ในคอมมูนเติ่นเกี่ยว (Tan Kieu) อ.ท้าปเหมื่อย พากันลงเล่นน้ำในลำน้ำแก็งเกื๋อ (Kenh Giua) ซึ่งเป็นหนึ่งในลำน้ำที่แยกจากแม่น้ำโขงเป็นหลายสาย ก่อให้เกิดระบบนิเวศปากแม่น้ำอันสลับซับซ้อน

ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ประมงน้ำจืดกล่าวว่า รู้สึกแปลกใจที่ได้ยินเรื่องเช่นนี้ เนื่องจากปลาที่อาศัยในลำน้ำโขงในภาคใต้เวียดนาม ส่วนใหญ่มีนิสัยที่อ่อนโยน ไม่เคยทำร้ายคนมาก่อน

"เราจะประกาศให้ทางการท้องถิ่นต่างๆ เตือนประชาชนทั่วไปให้ระวังและมีมาตรการป้องกัน และช่วยกันค้นหาปลาดุร้ายที่ว่านี้ด้วย" เตื่อยแจ๋อ้างคำพูดของผู้เชี่ยวชาญที่ศูนย์ประมงน้ำจืดในนครเกิ่นเทอ (Can Tho).
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

วันอังคารที่ 14 สิงหาคม 2555 เวลา 08:07 น.<!--วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2554 เวลา 14:02 น.--> <!-- end div id time -->

• เหนือ-อีสานตอนบนมีฝนตกหนัก

• 
  <!---->
  
  <SCRIPT language=javascript> //startVaja("getVaja.php","?id=645404"); </SCRIPT>กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันอังคารที่ 14 สิงหาคม 2555 ว่าหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายและมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน อนึ่ง พายุโซนร้อนไคตั้ก ทางตะวันออกของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ มีทิศทางการเคลื่อนตัวไปทางเกาะไต้หวัน และด้านตะวันออกของประเทศจีนในช่วงวันที่ 16-17 สิงหาคมนี้ ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเกาะฮ่องกง ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง
  
  ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา และตาก ขณะที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร และนครพนม
  
  ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี และกาญจนบุรี ด้าน ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วน ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร และ ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และสตูล ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ขณะที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
  

 

วันอังคารที่ 14 สิงหาคม 2555 เวลา 08:08 น.

พายุกระหน่ำพัดเสาไฟฟ้าหัก-ทับรถ

• <!--
  <iframe width=300 height=50 src="getVaja.php?id=645401" marginwidth="0" marginheight="0" vspace="0" hspace="0" frameborder="0" align="middle" scrolling="no"></iframe>-->
  
  <!---->
  
  <SCRIPT language=javascript> //startVaja("getVaja.php","?id=645401"); </SCRIPT>เมื่อเวลา 17.30 น.ร.ต.อ.ธนา วิเศษชัย ร้อยเวร สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเสาไฟล้มจำนวน 11 ต้น และได้ล้มทับรถได้รับความเสียหายจำนวน 3 คันและป้ายของ อบต.เทพารักษ์ ตกลงมาได้รับความเสียหายเสาไฟฟ้าล้มลงมาขวางถนนรถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ภายในซอยมังกรนาคดี หน้าหมู่บ้านเฟื้องฟ้า 9 หมู่ 1 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ ทำให้ไฟภาในหมู่บ้านเฟื้องฟ้า 9 หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อบต.แพรกษาใหม่ และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงสมุทรปราการ เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
  บริเวณที่เกิดเหตุเป็นลานกว้างที่มีการจัดตลาดนัดเปิดท้ายขายของ ได้พบเสาไฟฟ้าที่มีความสูงประมาณ 30 เมตร ล้มลงมาฟาดอยู่กลางถนนจำนวน 11 ต้น และเสาไฟฟ้ายังได้ล้มลงมาทับรถยนต์ได้รับความเสียหายจำนวน 3 คัน คันแรกรถยนต์เก๋งยี่ห้อ นิสัน มาร์ค สีเขียว ทะเบียน ญฒ-9408 กทม เสาไฟฟ้าล้มลงมาทับที่บริเวณฝากระโปรงด้านหน้าจนยุบ ส่วนคันที่สอง รถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นไมล์ตี่เอ็กซ์ สีขาว ทะเบียน 9 พ-3541 กทม.เสาไฟฟ้าล้มทับที่บริเวณหัวเก๋งจนหลังคายุบ คันที่สามรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นอัลตีส สีดำ ทะเบียน ศจ-3126 กทม. ถูกเสาไฟฟ้าล้มฟาดเข้าที่บริเวณกระจกข้างขวาและข้างรถได้รับความเสียหาย และยังได้พบเต้นขนาดใหญ่จำนวน 4 หลังติดคาอยู่ที่สายไฟ กระแสไฟฟ้าได้ช็อทลงพื้น เจ้าหน้าที่ได้กันคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกห่างจากที่เกิดเหตุ ก่อนที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจะเข้าทำการตัดกระแสไฟและทำการเก็บกู้เสาไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาให้การตั้งเสาและพาดสายไฟฟ้าใหม่จนถึงเช้าของวันพรุ่งนี้ถึงจะแล้วเสร็จ
  จากการสอบถามนายสมศักดิ์ อ้นนารี อายุ 40 ปี ซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ได้เล่าว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาได้มีฝนตกลงมาอย่างหนักและมีกระแสลมกรรโชคอย่างรุนแรง โดยที่ลานดินด้านล่างซึ่งเป็นที่จัดตรลาดนัดมีพ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากมาขายของโดยได้กางเต็นท์กันฝนขนาดใหญ่หลายหลัง โดยใช้เชือกยึดเอาไว้กับหลักหมุด ที่ตอกกับพื้นดิน ในขณะที่ฝนตกลงมาอย่างหนักและมีลมกรรโชคแรงได้หอบเอาเต็นท์ขนาดใหญ่ที่กางอยู่ในตลาดนัดจำนวน 4 หลังลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนที่จะปลิวเข้าไปฟาดกับสายไฟฟ้า ทำให้ไฟฟ้าเกิดการช็อทและดึงสายไฟฟ้าต้านลมจนทำให้เสาไฟฟ้าล้มลงมาขวางถนนก่อนที่ต้นอื่น ๆ จะล้มตามรวมทั้งหมด 11 ต้น และเสาไฟฟ้าที่ล้มลงมาได้ล้มลงมาทับรถยนต์ที่วิ่งสัญจรไปมาได้รับความเสียหายจำนวน 3 คัน โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
  เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์ทั้งสามคันที่ถูกเสาไฟฟ้าล้มทับได้รับความเสียหายมาสอบปากคำและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป