WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 24 เมษายน 2011.

  1. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
  2. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    ฐานทัพใต้สมุทร สถานที่ลึกลับ ในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา


    [​IMG]

    คง จะทราบกันดีว่า พื้นที่ 51 (AREA 51) นั้นเป็นฐานทัพทหารของกองทัพสหรัฐฯที่สร้างขึ้นมาโดย CIA เพื่อทำการทดลองเครื่องบินจารกรรม (Stealth Plane) และยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นสถานที่ใช้ศึกษาและวิจัยยานอวกาศของมนุษย์ต่าง ดาว ถ้าพื้นที่ 51 เป็นพื้นที่ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด และลึกลับที่สุดบนพื้นโลกแล้วละก็ คงจะไม่ผิดนักถ้าพวกเราจะเรียกพื้นที่ใต้มหาสมุทรแอตแลนติก บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาว่า พื้นที่ 51 แห่งแคริบเบียน บ้างเช่นกัน

    The Atlantic Undersea Test and Evaluation Center ชื่อเล่นก็คือ AUTEC หรือ ออเทค มันถูกสร้างขึ้นบน เกาะแอนดรอส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะบาฮามาส์ ในทะเลแคริบเบียน เมื่อราว 30 ปีก่อน สิ่งที่ ออเทค ทดลองและพัฒนาก็คือ อาวุธสงคราม ที่ ออเทค มาตั้งฐานทัพที่นี่ก็เพราะว่าเกาะแอนดรอส อยู่ใกล้กับ "ลิ้นของมหาสมุทร"(The Tongue of the Ocean) หรือที่มีชื่อย่อว่า "โตโต" (TOTO)

    [​IMG]

    โตโต เป็นแอ่งน้ำที่มีความลึกมาก ที่แห่งนี้มีขนาดยาวประมาณ 110 ไมล์ทะเล (204 กิโลเมตร) กว้าง 20 ไมล์ทะเล (37 กิโลเมตร) และลึกราว 700-1,100 ฟาทัม (1,280-2,012 เมตร)

    จริงอยู่ที่ ออเทค เป็นศูนย์บัญชาการที่มีขนาดเพียงแค่ 1 ตารางไมล์เท่านั้นเองจากที่เราเห็นบนเกาะแอนดรอส แต่อย่าลืมว่ามันถูกล้อมรอบด้วย "ลิ้นของมหาสมุทร" ที่เรามองไม่เห็นซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมดถึง 1,670 ตารางไมล์ และมีข่าวลือกันอย่างหนาหูว่า ออเทค มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดไม่แพ้ "พื้นที่ 51" ตัวจริงที่อยู่ในรัฐเนวาดา นี่ขนาดตั้งอยู่กลางมหาสมุทร ยังมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด ในปี ค.ศ. 1997 มีพรานล่านกเป็ดน้ำหลงเข้าไปใน "เขตหวงห้าม" ระหว่างนั้นเองพวกเขาก็เจอกำแพงต้นไม้ที่หนาแน่นผิดปกติ ทันใดนั้นเองพวกเขาก็ถูก "อัด" ที่ท้องและถูกบังคับให้นอนราบลงกับพื้น

    เหล่านายพรานที่โชคร้าย รู้แทบในทันทีว่าเจ้ากำแพงต้นไม้ที่พวกเขาพบนั้นเป็น ต้นไม้ปลอมที่ใช้พรางค่ายทหาร ทหารอีกกลุ่มหนึ่ง "แหวก" กำแพงต้นไม้ออกมา "หิ้ว" พวกเขาเข้าไปในค่าย จากนั้นพวกเขาก็ถูกจับเข้ากรงขัง หลายชั่วโมงต่อมาก็มีทหารมาไขกุญแจห้องขังให้และบอกว่า พวกเขาเชื่อว่า พวกนายพรานไม่มีเจตนาที่จะบุกรุกเข้ามาในเขตหวงห้าม จึงปล่อยตัวพวกเขาไป

    มีหลายคนอ้างว่า ได้เห็นวัตถุบินลึกลับบินอยู่บริเวณเกาะแอนดรอสบ่อยครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งที่พบนั้น มันจะโชว์ลีลาการบินที่คุณจะไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน มันสามารถหักเลี้ยวเป็นมุมแคบแบบเฉียบพลัน ได้โดยทันทีทันใดดั่งใจนึก ครั้งหนึ่งขณะที่นักธุรกิจชาวเวียดนามคนหนึ่งกำลังแล่นเรือยอชท์อยู่บริเวณ ชายฝั่งของเกาะแอนดรอส เขาเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างซึ่งเขาคิดว่าเป็นปลาวาฬอยู่ห่างจากเขาไปราว 2 ไมล์
    แต่เมื่อเขาแล่นเรือเข้าไปใกล้ราวครึ่งไมล์ เขาก็พบว่ามันไม่ใช่ปลาวาฬ แต่กลับเป็น "สิ่งประดิษฐ์" บางอย่างที่มีรูปร่างลักษณะที่ล้ำสมัยมาก ทันใดนั้นเองมันก็ออกตัวไปด้วยความเร็วชนิดที่เรียกว่า "เร็วchipหาย" ไปบนผิวน้ำฝ่าคลื่นลูกใหญ่และหายวับไปต่อหน้าต่อตา

    The Tongue of the Ocean "โตโต"

    [​IMG]

    ดร. ไมเคิล ไพรซิงเกอร์ (Dr. Michael Preisinger) นักประวัติศาสตร์และนักประดาน้ำชาวเยอรมันได้ถูกบริษัทที่เขาทำงานอยู่ส่ง ตัวมาทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนการดำน้ำให้กับลูกค้าที่เมือง นาส์ซอ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของบาฮามาส์ ดร.ไมเคิล และครอบครัวได้เดินทางมาที่บาฮามาส์ในปี ค.ศ. 1995

    [​IMG]

    [​IMG]

    ลูกค้าของ ดร.ไมเคิล ก็คือ เหล่าบรรดาเจ้าหน้าที่ของสายการบินต่างๆ ของประเทศเยอรมัน พวกเขามาฝึกการดำน้ำแบบสกูบา (Scuba Diving) เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาโปรแกรมท่องเที่ยวของสายการบิน ระหว่างที่ ดร.ไมเคิล พาลูกค้าของเขานั่งเรือไปยังจุดที่จะทำการฝึกสอนลูกค้าหลายคนได้บอกว่า

    เข็มทิศของพวกเขามีปัญหา มันชี้มั่วไปหมดจนไม่รู้ว่าทิศไหนเป็นทิศไหน ด้วยความเป็นนักประวัติศาสตร์ ดร.ไมเคิล ก็ได้ทำการจดบันทึกตำแหน่งของเรือตอนที่เข็มทิศมีอาการผิดปกติ โดยหวังว่าวันหนึ่งเขาจะกลับมาหาข้อพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้

    [​IMG]

    ดร.ไม เคิล ก็กลับมาที่นั่นจริงๆ เขาพบว่าเข็มทิศของเขาชี้มั่วเหมือนกับที่ลูกค้าเขาบอก ดร.ไมเคิลไม่เข้าใจว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับเข็มทิศ และอะไรเป็นสาเหตุให้มันเป็นเช่นนั้น เขาได้แต่เก็บความสงสัยไว้ จนกระทั่งหลายเดือนต่อมาเขาได้นำปัญหานี้ไปปรึกษากับนักฟิสิกส์หลายคนทั่ว โลกและก็มีนักฟิสิกส์ท่านหนึ่งได้ให้ข้อสังเกตว่า สิ่งเดียวที่สามารถทำให้เข็มทิศผิดปกติได้คือ "รูหนอน" (Wormhole)
    "รูหนอน" นี้ก็เหมือนกับ "หลุมดำ" (Black hole) คือ มันเกิดขึ้นแล้วก็ดับสลายไป แล้วก็เกิดใหม่ แล้วก็ดับไป เวียนว่ายไปไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อนๆชาวหว้ากอก็คงจะทราบการทำงานของ "รูหนอน" ดีอยู่แล้ว ก็คือถ้านำกระดาษมาหนึ่งแผ่น ซึ่งสมมุติว่าเป็นพื้นโลก จากนั้นให้เพื่อนๆวาดจุดลงบนปลายกระดาษด้านบนหนึ่งจุด และด้านล่างหนึ่งจุด โดยให้ชื่อว่าจุด A และจุด B เสร็จแล้วให้งอกระดาษเป็นรูปตัวยู (U) ทีนี้สมมุติว่าเราจะเดินทางจากจุด A ไปยังจุด B เราก็ต้องเดินทางไปตามผิวโลก(แผ่นกระดาษ) แต่ถ้าหากระหว่างจุด A และจุด B เกิดปรากฏการณ์ "รูหนอน" เราก็สามารถที่จะเดินทางผ่าน "รูหนอน"จากจุด A มายังจุด B ได้โดยที่ใช้เวลาน้อยกว่ามาก

    [​IMG]

    ร็อบ พลาเมอร์ (Rob Palmer) นักประดาน้ำระดับโลกชาวอังกฤษ ผู้อำนวยการมูลนิธิหลุมฟ้า (The Blue Holes Foundation) ได้ศึกษาเรื่องถ้ำประหลาดที่เขาพบใต้มหาสมุทร ร็อบเชื่อว่าถ้ำประหลาดเหล่านั้นเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างมิติที่พวกมนุษย์ ต่างดาวใช้ในการเดินทาง ร็อบกล่าวว่า บริเวณหมู่เกาะบาฮามาส์ นี้เต็มไปด้วยหินปูนขนาดใหญ่ ซึ่งหินปูนนี้เองที่เป็นตัวการในการก่อกำเนิดถ้ำ และจากการที่ไม่มีแม่น้ำไหลผ่านบนเกาะจึงทำให้บรรดาหินปูนก่อตัวกันขึ้นเป็น ถ้ำที่มีขนาดใหญ่ และยาวขึ้นเรื่อยๆ จนบางครั้งมันกินเนื้อที่ลงไปในใต้น้ำเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร

    [​IMG]

    การ ขาดแคลนน้ำจืดบนหมู่เกาะบาฮามาส์ ทำให้ถ้ำเหล่านี้ก่อตัวมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนบางครั้งมันถึงกับพังครืนลงมาเพราะรากฐานของถ้ำไม่สามารถรับน้ำหนักของมัน ได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่น้ำในมหาสมุทรมีระดับต่ำมากเช่น ในช่วง ยุคน้ำแข็ง (Ice age) บางครั้งการถล่มของถ้ำได้เกิดต่อเนื่องขึ้นมาจนถึงตัวถ้ำที่อยู่บนพื้นเกาะ และในช่วงนี้เอง ที่ทางเข้าถ้ำใต้พิภพได้ก่อตัวขึ้น
    เมื่อน้ำในมหาสมุทรมีปริมาณมากขึ้น บรรดาถ้ำเหล่านี้ก็จมอยู่ใต้ท้องมหาสมุทร ปากถ้ำส่วนใหญ่จะจมอยู่ใต้ทะเลสาบบนเกาะหรือไม่ก็จมอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า แนวปะการังรอบๆ เกาะ (Barrier Reef) ปากทางเข้าถ้ำใต้พื้นน้ำนี่เองที่ร็อบเรียกมันว่า "หลุมฟ้า"

    [​IMG]

    "หลุมฟ้า" มีอยู่เป็นจำนวนมากรอบๆ หมู่เกาะบาฮามาส์ โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นลิ้นของมหาสมุทร

    "หลุมฟ้า" เหล่านี้ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกเมื่อราวปลายทศวรรษที่ 1950 โดย จอร์จ เบนจามิน (George Benjamin) นักประดาน้ำชาวแคนาดา ได้มาดำน้ำสำรวจถ้ำใต้น้ำเหล่านี้ รอบๆ เกาะแอนดรอส ซึ่งทำให้ผู้คนก็เริ่มรู้จักถ้ำประหลาดใต้น้ำ และเรียกมันว่า "หลุมฟ้าของเบนจามิน" (Benjamin's Blue Hole)

    ภายในถ้ำยังมีช่องเล็กช่องน้อยนำเข้าไปสู่ถ้ำอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่ในถ้ำใหญ่ จอร์จได้ดำน้ำสำรวจถ้ำใต้น้ำเหล่านี้ไปจนกระทั่งที่ระดับความลึก 300 ฟุต และจากภาพยนตร์ที่เขาได้บันทึกเอาไว้ ทำให้ผู้คนเริ่มรู้จักถ้ำใต้น้ำในบาฮามาส์ แต่การสำรวจของจอร์จได้สิ้นสุดลงในช่วงกลางทศวรรษที่ 1970 เนื่องจากเพื่อนที่ร่วมเดินทางสำรวจถ้ำคนหนึ่งเสียชีวิตภายในถ้ำใต้น้ำ บริเวณ "ลิ้นของมหาสมุทร"ที่พวกเขากำลังสำรวจอยู่นั่นเอง

    [​IMG]

    ใน ช่วงเวลาเดียวกันนี้เอง ก็มีนักประดาน้ำชาวอเมริกันชื่อ เช็ก เอ็กซ์เลย์ (Sheck Exley) ได้พบถ้ำใต้น้ำที่มีความยาวถึง 8 กิโลเมตร ซึ่งเป็นถ้ำใต้น้ำที่ยาวที่สุดในโลก และอีก 10 ปีต่อมา มันก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น "อุทยานแห่งชาติลูคายัน" (Lucayan National Park) ส่วน ร็อบ พลาเมอร์ ได้เริ่มมาสำรวจถ้ำใต้น้ำเมื่อปี ค.ศ. 1981 เขาได้พบถ้ำใต้น้ำอีกจำนวนมาก อีกทั้งเขายังพบสิ่งมีชีวิตหลายชนิดที่บรรดานักวิทยาศาสตร์คิดว่ามันสูญ พันธ์ไปแล้วเมื่อ 150 ล้านปีก่อน

    [​IMG]

    วันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 1997 ร็อบและเพื่อนร่วมทีมอีก 3 คน เดินทางไปสำรวจถ้ำใต้น้ำในทะเลแดงที่ประเทศ อียิปต์
    เมื่อเรือแล่นไปถึงจุดที่ร็อบจะดำสำรวจถ้ำใต้น้ำ เขาก็ทิ้งตัวลงจากเรือดำดิ่งไต่ความลึกลงตรงไปยังถ้ำใต้น้ำทันที เพื่อนร่วมทีมของเขาประหลาดใจที่ ร็อบ ทำเช่นนั้น เพราะโดยปรกติแล้ว นักประดาน้ำจะว่ายน้ำจากเรือไปยังตำแหน่งของถ้ำใต้น้ำเรียกว่า "กำแพง" แล้วจึงค่อยดำลงไป

    [​IMG]

    [​IMG]


    ทั้งๆ ที่ยังแปลกใจไม่หาย เพื่อนร่วมทีมทั้ง 3 คนก็รีบดำน้ำตาม ร็อบ ลงไป หนึ่งในนั้นตามไปถึงแค่เพียงระดับความลึก 64 เมตรก็กลับ ส่วนอีก 2 คนที่เหลือยังคงดำน้ำตาม ร็อบ ไปจนถึงที่ระดับความลึก 99 เมตรก็ยังไม่สามารถตามร็อบไปได้ทัน ทั้ง 2 คนจึงตัดสินใจกลับสู่ผิวน้ำ ส่วนร็อบก็ยังคงดำดิ่งลึกลงไปเรื่อยๆ
    เพื่อนๆ ได้รอคอยการกลับมาของ ร็อบ อยู่บนเรือเป็นเวลาหลายชั่วโมง แต่เขาก็ไม่ได้กลับขึ้นมาอีกเลย อะไรเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของ ร็อบ นั้นยังเป็นปริศนาอยู่จนถึงปัจจุบัน ไม่มีใครตอบได้ว่าทำไมร็อบจึงตัดสินใจดำน้ำดิ่งตรงจากเรือ แทนที่จะค่อยๆ ว่ายน้ำไปยังจุดที่ต้องการก่อน

    [​IMG]

    ดร.ไม เคิล เชื่อว่า ร็อบ พลาเมอร์ ถูก "สั่งเก็บ" โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐฯ เพราะว่าเขาเป็นอันตรายต่อความลับใต้ท้องมหาสมุทรในบาฮามาส์ ที่รัฐบาลพยายามปกปิด เขาอาจโดนสะกดจิตให้ทำในสิ่งที่ต้องคร่าชีวิตเขาเอง หรือไม่ก็มีการปรับแต่งอุปกรณ์ประดาน้ำของเขา เนื่องจาก ดร.ไมเคิล เชื่อว่า "หลุมฟ้า" ที่ ร็อบ ทำการสำรวจนั้นเป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากการเกิด-ดับของ "รูหนอน"

    [​IMG]

    มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะหาข้อมูลของ "ออเทค" หรือ "พื้นที่ 51 แห่งแคริบเบียน"เนื่องจากมันตั้งอยู่กลางมหาสมุทร แถมทั้งยังกินพื้นที่ลงไปใต้พื้นมหาสมุทรอีกด้วย แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่า ทำไมฐานทัพสหรัฐฯ จึงมักจะไปตั้งอยู่ในบริเวณที่ลับหูลับตาผู้คนและมักจะมีรายงานการพบเห็น วัตถุบินลึกลับในบริเวณฐานทัพเหล่านั้นเสมอ......

    ขอบคุณ:@cloud - เว็บ 2.0 แรกของไทย (อดีตคือ เว็บสีแดง)

    Cazadores de Ovnis - Area 51 Submarina - 5 de 5 - YouTube

    ฐานทัพใต้สมุทร สถานที่ลึกลับ ในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา - คลิปแมส
     
  3. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    หุบเขาที่อันตรายที่สุด Antelope Canyon

    [​IMG]

    Antelope Canyon (แอนทีโลพ แคนยอน) อีกหนึ่งความอัศจรรย์ที่ธรรมชาติบันดาลให้ปรากฏ หุบเขาพิศวง แห่งนี้ เกิดจากการพังทลายของชั้นหิน Navajo Sandstone ซึ่งถูกกัดเซาะอย่างฉับพลันจากกระแสน้ำที่ซัดผ่าน ผสานความแรงจากกระแสลม พายุฝน ผ่านฤดูกาลต่างๆ ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน Antelope Canyon จึงกลายเป็น หุบเขาที่อันตรายที่สุด เนื่องจากบริเวณนั้นอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ตลอดเวลา และระดับน้ำสามารถสูงถึง 10 เมตร

    [​IMG]

    Antelope Canyon หุบเขาที่อันตรายที่สุด อยู่แถบเมืองเพจ รัฐอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา การเข้าชมนั้นไม่สามารถเข้าไปได้ด้่วยตัวเอง ต้องติดต่อขออนุญาตจากอุทยาน Navajo โดยจะมีไกด์ชาว Navajo นำทางให้ ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับเวลาและจำนวนผู้เข้าชม

    [​IMG]



    หุบเขาที่อันตรายที่สุด แห่งนี้ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งดึงดูดใจช่างภาพทั่วโลก เพราะสีสันจากธรรมชาติซึ่งเกิดจากการตกกระทบของแสงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านช่องแคบ สะท้อนกับสีของชั้นหิน Navajo Sandstone เกิดเป็นความสวยงามสุดประทับใจแก่ทุกสายตา

    [​IMG]

    ด้วยความคดเคี้ยว ดุจเกลียวคลื่นเว้าแหว่งไปตามซอกหน้าผา สีสันที่เห็นใน Antelope Canyonจึงเปลี่ยนไปตามการหักเหของแสงในฤดูกาลต่างๆ เช่น ฤดูร้อน สีสันจะเป็นโทนสีแดง ส้ม และม่วง ฤดูใบไม้ร่วง จะเป็นโทนสีอ่อน สบายตา

    [​IMG]

    หุบเขาที่อันตรายที่สุด Antelope Canyon รัฐอริโซน่า

    [​IMG]

    [​IMG]

    Antelope Canyon หุบเขาที่อันตรายที่สุด

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    แม้ Antelope Canyon จะขึ้นชื่อว่าเป็น หุบเขาที่อันตรายที่สุด ขณะเดียวกันก็ถือว่าเป็น หุบเขาที่สวยที่สุด และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และได้รับความนิยมในการถ่ายรูปมากที่สุดแห่งหนึ่งในอเมริกา

    หุบเขาที่อันตรายที่สุด Antelope Canyon - คลิปแมส
     
  4. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ดูๆ แล้วลูกใหญ่จัง

    [​IMG]
     
  5. nattanan39

    nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,190
    ค่าพลัง:
    +2,935
    เฮอริเคน “แซนดี้” ถล่มแคริบเบียนคร่า 21 ศพ-จ่อพัดเข้าชายฝั่งตอ.สหรัฐฯ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td height="40"> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">26 ตุลาคม 2555 17:21 น.</td> <td align="left" valign="middle">



    </td><td>
    </td></tr> </tbody></table> </td> </tr> <tr> <td>
    </td> </tr> </tbody></table><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="690"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="690"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภาพถ่ายดาวเทียม NOAA/GOES เผยให้เห็นเฮอริเคนแซนดี้ซึ่งมีความรุนแรงระดับ 2 กำลังพัดเข้าสู่คิวบาเมื่อช่วงเช้าวานนี้(25) หลังจากที่ถล่มจาเมกาจนประชาชนจำนวนมากต้องอพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> เอเอฟพี - เฮอริเคน “แซนดี้” พัดถล่มบาฮามาสเมื่อช่วงเช้าของวันนี้(26) และกำลังมุ่งหน้าสู่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ หลังจากที่คร่าชีวิตผู้คนแถบแคริบเบียนไปถึง 21 ราย

    นักอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯลดระดับความรุนแรงของแซนดี้เป็นเฮอริเคนระดับ 1 เมื่อช่วงบ่ายวานนี้(25) หลังจากที่พัดถล่มจาเมกา, คิวบา, บาฮามาส และเฮติ จนเสาไฟฟ้าหักโค่นระนาว บ้านเรือนพังเสียหาย และทำลายพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้าง

    อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า เฮอริเคนลูกนี้อาจปะทะเข้ากับลมพายุที่พัดมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือตามฤดู กาล (nor'easter) จนเกิดเป็นพายุขนาดใหญ่ได้

    ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ (เอ็นเอชซี) แถลงวานนี้(25)ว่า การรวมตัวกันของกระแสลมทั้งสองจะส่งผลกระทบต่อชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯไปจน ถึงเทศกาลฮาโลวีน วันที่ 31 ตุลาคม “ซึ่งอาจทำให้มันได้ชื่อเล่นออกแนวผีๆว่า แฟรงเกนสตอร์ม (Frankenstorm) ก็เป็นได้”

    เมื่อเวลา 9.00 น. GMT (16.00 น. ตามเวลาในไทย) แซนดี้ ซึ่งจัดเป็นเฮอริเคนระดับ 1ด้วยความเร็วลมที่ศูนย์กลาง 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนไปทางทิศเหนือ และคาดว่าจะอ่อนกำลังลงใน 48 ชั่วโมงข้างหน้า แต่จะยังคงความรุนแรงอยู่ในขั้นเฮอริเคน

    เอ็นเอชซี พยากรณ์ว่า เฮอริเคนแซนดี้จะเคลื่อนตัวขนานไปกับชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ก่อนเปลี่ยนทิศไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเข้าถล่มตอนเหนือของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในช่วงเช้าวันอังคารหน้า(30)

    อิทธิพลของพายุลูกนี้ส่งผลให้โรงเรียน, สถานที่ราชการ, สนามบิน และสะพานต่างๆในบาฮามาสยังต้องปิดทำการในวันนี้(26) ส่วนที่คิวบาพบผู้เสียชีวิต 11 ราย รวมถึงคนที่เสียชีวิตในซากอาคารซึ่งถูกแรงพายุพัดจนถล่ม
     
  6. nattanan39

    nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,190
    ค่าพลัง:
    +2,935
    หลังคาซูเปอร์มาร์เก็ตถล่มในอาร์เจน ตายเจ็บหลายสิบชีวิต <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td height="40"> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">26 ตุลาคม 2555 22:03 น.</td> <td align="left" valign="middle">



    </td><td>
    </td></tr> </tbody></table> </td> </tr> <tr> <td>
    </td> </tr> </tbody></table><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="385"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="385"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> เอเอฟพี/ฟ็อกนิวส์ - เจ้าหน้าที่เผยวันศุกร์(26) มีผู้เสียชีวิตหลายรายและอีกนับสิบคนยังหาตัวไม่พบ จากเหตุหลังคาของซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งทางภาคใต้ของอาร์เจนตินาพังถล่มลง มา

    อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นไม่นานก่อนที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้จะ ปิดทำการในวันพฤหัสบดี(25) โดยมีสาเหตุจากอาคารติดกันที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง เกิดพังลงมา และก่อความเสียหายแก่โครงสร้างที่ค้ำยันหลังคาซูเปอร์มาร์เก็ต ทำให้หลังคาของซูเปอร์มาร์เก็ตพังถล่มตามๆกัน

    เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินเข้าเคลียร์ซากหักพังและค้นหาผู้รอดชีวิตใน เหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี(25) ตามเวลาท้องถิ่น และในวันศุกร์แหล่งข่าวใกล้ชิดกับสำนักงานนายกเทศมนตรีเมืองเนวเกน ห่างจากกรุงบัวโนสไอเรส ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 1,150 กิโลเมตร เผยว่า "เรายืนยันได้ว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นนักศึกษาชื่อ เฟรย์ดา ยาเนซ"

    อย่างไรก็ตามตัวเลขผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บยังคงสับสน เนื่องจากนายมาร์เซโล เบอร์มิวเดซ เจ้าหน้าที่อีกคนของเมือง บอกก่อนหน้านี้ว่ามีผู้เสียชีวิตมากถึง 5 คน "ตำรวจและหน่วยดับเพลิง ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิต 5 ราย หนึ่งในนั้นเป็นผู้เยาว์ด้วย"

    เบอร์มิวเดซ บอกด้วยว่ามีผู้สูญหายทั้งหมด 11 คนและอีก 18 คน ได้รับบาดเจ็บ โดยทั้งหมดถูกนำส่งตัวโรงพยาบาลต่างๆ และจนถึงตอนนี้มี 12 คนที่ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้

    เมืองเนวเกน มีประชากรราว 300,00 คน และเป็นเมืองหลวงของรัฐที่มีชื่อเดียวกัน โดยดินแดนแห่งนี้มีเกษตรกรรม การท่องเที่ยวและธุรกิจทางพลังงาน เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
     
  7. nattanan39

    nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,190
    ค่าพลัง:
    +2,935
    ชาวเน็ตฯ ส่งใจช่วย เด็กจีนหน้า"ชรา" หวังยิ่งโตยิ่งสาว แบบหนังเบนจามิน บัตตัน <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td height="40"> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">26 ตุลาคม 2555 16:58 น.</td> <td align="left" valign="middle">



    </td><td>
    </td></tr> </tbody></table> </td> </tr> <tr> <td>
    </td> </tr> </tbody></table><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="650"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="650"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">หนูน้อยซิ่นซิน วัย 1 ขวบ ที่ยังสดใสร่าเริงเหมือนเด็กทั่วไป แม้เกิดมาก็มีใบหน้าและผิวหนังเหี่ยวย่นเหมือนหญิงชราวัย 80 ปี (ภาพเอเยนซี)</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> เอเยนซี - ชาวเน็ตฯ อึ้ง ให้กำลังใจครอบครัว เด็กจีนหน้า"ชรา" หวังยิ่งโตยิ่งสาว แบบ "เบนจามิน บัตตัน" ตัวเอกในภาพยนตร์ฮอลลีวูด ที่นำแสดงโดยแบรด พิตต์

    สื่อออนไลน์จีนเผย (26 ต.ค.) ภาพเด็กทารกเพศหญิงวัย 1 ขวบ ที่เกิดมาก็มีใบหน้าและผิวหนังเหี่ยวย่นเหมือนหญิงชราวัย 80 ปี โดยระบุว่า เด็กทารกน้อยนี้ชื่อ ซิ่นซิ่น ป่วยด้วยโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่คล้ายๆ กลุ่มโรค “อีพิเดอร์โมไลซิส บูลโลซา” (epidermolysis bullosa ) หรือโรคดักแด้ ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมในโครโมโซมเพศ โอกาสพบเป็นได้ยาก และถ่ายทอดทางพันธุกรรม

    ชาวเน็ตฯ จีนที่ได้เห็นภาพเด็กน้อยผู้น่าสงสารได้ส่งต่อภาพนี้ พร้อมแสดงน้ำใจจะให้ความช่วยเหลือค่ารักษาและส่งกำลังใจไปยังบิดามารดาของ ทารกน้อย หลายความคิดเห็นยังได้เปรียบเหตุการณ์นี้คล้ายกับตัวเอกชายที่เกิดมามีรูป ร่างหน้าตาเหมือนผู้สูงอายุ แต่เมื่อเติบโตกลับดูหนุ่มขึ้นเรื่อยๆ ในภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง "เบนจามิน บัตตัน" (The Curious Case of Benjamin Button) ที่นำแสดงโดยแบรด พิตต์

    รายงานข่าวกล่าวว่า หนูน้อยซิ่นซิ่น ยังมีความร่าเริงแจ่มใสเหมือนเด็กทารกทั่วไป มีเพียงด้านร่างกายเท่านั้นที่เจ็บป่วยจากโรคประหลาดนี้

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="650"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="650"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="413"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="413"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <center><center>
    (ภาพยนตร์ตัวอย่าง "เบนจามิน บัตตัน อัศจรรย์ฅนโลกไม่เคยรู้" (The Curious Case of Benjamin Button) )
    </center></center></td></tr></tbody></table>
     
  8. nattanan39

    nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,190
    ค่าพลัง:
    +2,935
    ยิงถี่ ! เป๋ยโต่วดวงที่ 16 เข้าวงโคจรแล้ว คาดต้นปีหน้าเอเชียแปซิฟิกได้ใช้ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td height="40"> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">26 ตุลาคม 2555 15:02 น.</td> <td align="left" valign="middle">



    </td><td>
    </td></tr> </tbody></table> </td> </tr> <tr> <td>
    </td> </tr> </tbody></table><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="540"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="540"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">จรวดลำเลียงฉังเจิง 3 ซี (ลองมาร์ช 3ซี) ในฐานปล่อยจรวด เมืองซีชัง มณฑลซื่อชวน ในสภาวะเตรียมพร้อมลำเลียงดาวเทียมเป๋ยโต่วเข้าสู่วงโคจร ในคืนวันที่ 25 ต.ค. (ภาพ-เอเยนซี่)</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ไชน่าเดลี่--จีน ประสบความสำเร็จอีกครั้งในการปล่อยดาวเทียมเข้าสู่ห้วงอวกาศ โดยสามารถใช้งานกับระบบนำทางและการบอกพิกัดทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก

    เมื่อเวลา 23.33 น.ของวันที่ 25 ต.ค.ดาวเทียมดวงล่าสุดของจีนได้ถูกปล่อยออกจากจรวด ฉังเจิง 3 ซี (ลองมาร์ช 3ซี) ที่ฐานยิงจรวดในเมืองซีชัง มณฑลซื่อชวน(เสฉวน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

    นับเป็นดาวเทียมดวงที่ 16 จากโครงการดาวเทียมเป๋ยโต่ว หรือโครงการระบบเข็มทิศนำทาง

    โดยระบบเครือข่ายดาวเทียมเป๋ ยโต่วได้ถูกวางแผนเพื่อให้บริการอย่างเป็นทางการครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ใน ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในช่วงต้นปีพ.ศ.2556 และจะเริ่มให้บริการครอบคลุมพื้นที่ทั่วโลกได้ในปีพ.ศ.2563

    ทั้งนี้ระบบดาวเทียมเป๋ยโต่วได้เปิดทดลองให้บริการในขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.ปีพ.ศ.2554 และพบว่าการทำงานของระบบเป็นไปอย่างเสถียร โฆษกสำนักงานการจัดการระบบดาวเทียมนำทางกล่าว

    ระบบฯจะได้รับการขยายขอบเขต การใช้งานอย่างค่อยเป็นค่อยไปทั้งในด้านการขนส่ง การพยากรณ์อากาศ การประมงทางทะเล ป่าไม้ การสื่อสารโทรคมนาคม การทำแผนที่และการตรวจสอบทางอุทกวิทยา

    และดาวเทียมดวงใหม่ที่เพิ่งถูกปล่อยออกนี้จะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาปรับปรุงการให้บริการของระบบโดยรวม โฆษกฯเสริม

    ในปีพ.ศ.2543 จีนเริ่มสร้างระบบดาวเทียมนำทางของตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบจีพีเอส (Global Positioning System) ของสหรัฐฯ

    และระหว่างเดือนตุลาคม ปีพ.ศ.2543 ถึงเดือนพฤษภาคมปีพ.ศ.2546 จีนได้ก่อตั้งระบบดาวเทียมนำทางในภูมิภาคสำเร็จ หลังจากที่ได้ปล่อยดาวเทียมเป๋ยโต่วจำนวน 3 ดวงเข้าสู่วงโคจร

    ที่ผ่านมา เป๋ยโต่ว 1 ยังไม่สามารสนองตอบความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นได้มากเท่าที่ควร จีนจึงตัดสินใจพัฒนาระบบการใช้งานของเป๋ยโต่ว 2 ให้ครอบคลุมทั้งในภูมิภาคและทั่วโลก ซึ่งระบบเป๋ยโต่ว 2 ประกอบด้วยดาวเทียมทั้งหมด 35 ดวงด้วยกัน

    ดาวเทียมเป๋ยโต่วที่ถูกส่งขึ้นไปแล้วมีจำนวน 15 ดวง โดยเมื่อต้นปีพ.ศ.2555 ดาวเทียมเป๋ยโต่ว 5 ดวงถูกส่งเข้าวิถีโคจรในห้วงอวกาศเรียบร้อย ได้แก่ ดาวเทียมดวงที่ 11 ขนส่งโดยจรวดลองมาร์ช 3ซี ในวันที่ 25 ก.พ. ต่อมาดาวเทียมดวงที่ 12 และ 13 ขนส่งโดยจรวดลองมาร์ช 3บี ในวันที่ 30 เม.ย. ส่วนดาวเทียมดวงที่ 14 และ15 ถูกส่งขึ้นไปในวันที่ 19 ก.ย.

    ชมคลิปและภาพนิ่งของการปล่อย ฉังเจิง 3 ซี (ลองมาร์ช 3ซี) จรวดลำเลียงดาวเทียมเป๋ยโต่ว 16 จากฐานปล่อยจรวดในเมืองซีชัง มณฑลซื่อชวน เมื่อเวลา 23.33 น. ในวันที่ 25 ต.ค. (คลิป/ภาพ--เอเยนซี่)

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="553"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="553"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="558"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="558"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  9. nattanan39

    nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,190
    ค่าพลัง:
    +2,935
    เตรียมทดลองส่งเสียง “กรีดร้อง” จากอวกาศ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td height="40"> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">26 ตุลาคม 2555 18:31 น.</td> <td align="left" valign="middle">



    </td><td>
    </td></tr> </tbody></table> </td> </tr> <tr> <td>
    </td> </tr> </tbody></table><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="624"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="624"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">นักศึกษาเคมบริดจ์จะทดลองส่งเสียงกรีดร้องจากอวกาศ พิสูจน์ว่าเราจะไม่ได้ยินจริงหรือไม่ (ภาพประกอบทั้งหมดจากบีบีซีนิวส์)</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> นักศึกษาจากเคมบริดจ์ตั้งใจ พิสูจน์ให้เห็นว่าประโยค “ในอวกาศไม่มีใครได้ยินคุณกรีดร้อง” นั้นไม่เป็นความจริง โดยจะส่งดาวเทียมขนาดเล็กที่มีคุณสมบัติเป็นสมาร์ทโฟนและบันทึกเสียงกรีด ร้องไว้ แล้วส่งเสียงนั้นกลับลง

    สมาชิกของสมาคมการบินอวกาศ (Spaceflight Society) ของนักศึกษามหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (Cambridge University) อังกฤษ หรือ CUSF จะส่งเสียงกรีดร้องผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งติดอยู่บนดาวเทียมขนาดเล็ก กลับลงมาบนโลก ซึ่งเสียงที่ส่งลงมานั้นอาจจะมีเสียงกรีดร้องในสุญญากาศของอวกาศหรืออาจจะ ไม่มีก็ได้

    อ้างตามคำแถลงของโฆษก CUSF บีบีซีนิวส์ระบุว่า นักศึกษากลุ่มนี้ไม่ได้คาดหวังอะไรกับผลการทดลองมากนัก แต่หวังว่าการทดลองครั้งนี้จะทำให้คนหันมาสนใจศาสตร์ทางด้านอวกาศกันมากขึ้น โดย STRaND-1 ดาวเทียมขนาดเล็กที่ทำหน้าที่เป็นสมาร์ทโฟนได้ด้วยนั้นจะติดตั้งแอปพลิเค ชั่นทั้งหมด 4 แอปพลิเคชั่น

    สำหรับดาวเทียม STRaND-1 เป็นดาวเทียมที่พัฒนาขึ้นโดยทีมจากบริษัทเซอร์เรย์แซเทลไลต์เทคโนโลยี (Surrey Satellite Technology) และศูนย์อวกาศมหาวิทยาลัยเซอร์เรย์ (University of Surrey Space Centre) และเมื่อปีที่ผ่านมาทางทีม STRaND ได้จัดการแข่งขันเพื่อค้นหาแอปพลิเคชั่นที่จะส่งขึ้นไปในวงโคจรพร้อมกับดาว เทียม และ แอปพลิเคชั่น “สกรีมอินสเปซ” (scream in space) ของ CUSF ก็ได้รับคัดเลือก

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Right"> <tbody><tr> <td width="5">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="304"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="304"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">"เท็ดดี้เนาต์" ที่เคยขึ้นไปในอวกาศ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ทางทีม CUSF ได้ขอให้คนทั่วไปอัพโหลดเสียงกรีดร้องของตัวเองลงยูทูป (YouTube) และเสียงกรีดร้องที่ได้รับตชคัดเลือกก็จะถูกส่งขึ้นไปในอวกาศพร้อมกับดาว เทียมของทีม STRaND ในปีนี้ ซึ่งเป้าหมายของการส่งเสียงร้องจากอวกาศนี้ก็เพื่อทดสอบประโยค “ไม่มีใครได้ยินเสียงกรีดร้องในอวกาศ” ประโยคอันโด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง “เอเลียน” (1979) ที่ฉายเมื่อปี 1979 โดยการกำกับขอ ริดเลย์ สก็อตต์ (Ridley Scott)
    เอ็ดเวิร์ด คันนิงแฮม (Edward Cunningham) นักศึกษาในโครงการจากเคมบริดจ์กล่าวว่า พวกเขาไม่ได้ลุ้นกันใจหายใจคว่ำนัก แต่เชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เยาวชนหันมาสนใจเกี่ยวกับดาวเทียมและศาสตร์ ทางด้านเสียงมากขึ้น และบอกถึงแนวทางการทำวิจัยของพวกเขาว่า นิยมเลือกใช้อุปกรณ์ในเชิงพาณิชย์ราคาถูกเพื่อทำในสิ่งที่เป็นเทคโนดลยีก้าว หน้า ภายใต้งบประมาณอันจำกัด และมักเลือกใช้วัสดุที่พร้อมใช้งานได้ทันที

    ทีมสมาคมการบินอวกาศของเคมบริดจ์ตั้งขึ้นโดยนักศึกษาปริญญาตรีเมื่อ ปี 2006 และเมื่อปี 2008 ทีม CUSFได้ส่ง “เท็ดดี้-เนาต์” (teddy-nauts) ที่ติดตั้งกล้องขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศสตราโทนสเฟียร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเข้ามามีส่วนร่วมใน โครงการอวกาศและวิศวกรรม</td></tr></tbody></table>
     
  10. neoReloaded

    neoReloaded เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +675
    ไ่ม่ทราบว่ามีคนเอามาให้ชมกันหรือยัง พอดีไปอ่านกระทู้แล้วเจอคลิปรายการบอกเล่าเก้าสิบ เลยเข้าไปค้นข้อมูลเรื่องอุกาบาตอาจจะชนโลก 16 กุมภาพันธ์ปี 2556


    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=M8Ctj1R7ukU&feature=related]NASA Confirms Asteroid DA14 2012 Might IMPACT Earth Feb 16, 2013 - YouTube[/ame]
     
  11. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    แผนที่อากาศล่าสุด

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 ตุลาคม 2012
  12. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    วัตถุประหลาด ลอยเหนือท้องฟ้า สหรัฐ เชื่อเป็นยานของมนุษย์ต่างดาว

    [​IMG]

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้คนใน 3 มลรัฐของสหรัฐฯ ถึงกับงงกับวัตถุรูปทรงประหลาดที่บินอยู่เหนือท้องฟ้า ซึ่งหลายคนต่างก็สันนิษฐานว่า อาจจะเป็นยานของมนุษย์ต่างดาว หรือ ยานลึกลับ(UFO)สักอย่าง โดยปรากฎเป็นแสงจ้า เมื่อดูคลิป
    ของนายอัลเลน เอปลิง นักดาราศาสตร์สมัครเล่น ที่บันทึกภาพเอาไว้จากบ้านพักของเขาในมลรัฐเคนตักกี ก็เห็นชัดเจนว่า มันมีรูปร่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนไม่สามารถระบุเอกลักษณ์ได้

    [​IMG]


    อย่างไรก็ตาม ผู้คนทั้งใน มลรัฐ เคนทักกี เวอร์จิเนียและเทนเนสซี กล่าวว่า วัตถุที่บินเหนือท้องฟ้ามีรูปทรงกระบอกคล้ายซิการ์ บินอยู่ที่ความสูง 100,000 ฟุต หรือ 2 เท่าของระดับความสูงของเครื่องบินพาณิชย์ทั่วไป กระทั่งชาวบ้านในละแวกนั้นต้องโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
    แต่เมื่อตรวจสอบจากสนามบินท้องถิ่นในไพค์ เคาน์ตี เผยว่าในบันทึกการบิน ไม่พบว่ามีเครื่องบินลำใดบินอยู่เหนือน่านฟ้าของเมืองในช่วงเวลาดังกล่าวแต่อย่างใด ทิ้งเป็นปริศนาที่ยังไร้คำตอบ

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=gpo5LsICnEY]UFO Sighted over Virgie, KY 10/16/2012 - YouTube[/ame]
     
  13. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    วิวัฒนาการเดี๋ยวมันสุดยอดจริง มนุษย์สามารถผลิตวัสดุที่สามารถล่องหนได้


    กล้องหลังไม่จำเป็น!!! ท้ายรถมองทะลุได้

    [​IMG]

    ทุกวันนี้ถึงแม้รถยนต์ส่วนใหญ่จะมีจอที่แผงคอนโซลหน้าเพื่อเอาไว้ดูท้ายรถเวลาที่จำเป็นต้องถอยถัง แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะถอยไม่ให้ชนอะไรได้อยู่ดีเพราะบางครั้งกล้องและแสงสะท้อนก็หลอกตาเราได้

    ล่าสุดมีนักวิจัยชาวญี่ปุ่นจากมหาวิทยาลัยเคย์โอดำลังพัฒนาระบบที่ช่วยให้เบาะหลังสามารถล่องหนเพื่อมองทะลุไปยังท้ายรถได้ รถที่นำมาทดสอบนี้ก็คือรถยนต์ Prius จากค่ายโตโยต้า ซึ่งมีข้อด้อยก็คือท้ายรถค่อนข้างสูงทำให้มองไม่ถนัดและอาจเกิดจุดบอดทางสายตาได้ การทำให้เบาะหลังล่องหนจนมองทะลุได้จึงช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี และตอนนี้ก็กำลังจะถูกนำไปจัดแสดงที่งาน Digital Content Expo 2012 ที่กรุงโตเกียวภายในเดือนนี้

    ระบบนี้มีชื่อว่า “see-through Prius” พัฒนาขึ้นโดย Susumu Tachi,Masahiko Inami และเพื่อนร่วมงานซึ่งโปรเจคนี้เริ่มต้นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว แนวคิดของระบบนี้ก็คล้ายกับเสื้อคลุมล่องหนของนาย Tachi ที่เคยถ่ายคลิปไว้ตั้งแต่ปี 2006 โดยด้านหลังของเสื้อจะมีกล้องคอยจับภาพที่อยู่ด้านหลังของวัตถุนั้นๆ หลังจากนั้นก็จะส่งข้อมูลไปยังโปรเจคเตอร์อีกตัวให้ฉายภาพฉากด้านหลังลงไปยังเสื้อผ้า ทำให้เกิดภาพลวงตาว่าเสื้อตัวนี้สามารถมองทะลุได้จริงๆ เทคโนโลยีนี้จะใช้วัสดุแผ่นสะท้อน (retroreflective materials) คอยสะท้อนแสงกลับไปยังทิศทางที่มันมาโดยให้มีการกระจายของแสงน้อยที่สุด ซึ่งเสื้อคลุมล่องหนตัวนี้จะฝังลูกปัดเม็ดเล็กๆนับพันลูกเป็นตัวสะท้อนแสงกลับไปยังทิศทางที่ต้องการเพื่อสร้างภาพลวงตาว่ามันล่องหนเป็นบางส่วนได้

    [​IMG]

    Tachi แนะนำให้ใช้ความรู้นี้ไปพัฒนาเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับรถยนต์ โดยมี Inami เป็นคนแปลงจากแนวความคิดให้เป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานได้จริง อย่างเช่น นำ augmented reality มาใส่เพิ่มชั้นข้อมูลในสถานที่จริง ส่วนตอนนี้ข้อมูลของโปรเจคนี้เท่าที่มีออกมายังน้อยมาก ยังไม่รู้ว่าต้องติดอุปกรณ์อะไรเพิ่มที่ตัวรถอีกบ้าง เบาะหลังจะเปลี่ยนวัสดุหุ้มอะไร โปรเจคเตอร์ติดไว้ตรงไหนทำงานอย่างไร ทางผู้พัฒนาบอกแค่เพียงว่าหากทำได้สำเร็จ ผู้ขับระรู้สึกเหมือนกับขับรถกระจกอยู่เพียงแค่หันหลังก็มองทะลุไปถึงท้ายรถได้แล้ว นี่ถือเป็นอีกหนึ่งโปรเจคที่น่าสนใจจริงๆ

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=JKPVQal851U]Optical Camouflage (Invisible Cloak) - YouTube[/ame]
     
  14. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    "เฮอร์ริเคนแซนดี้"คาดก่อตัวเป็น"แฟรงเกนสตอร์ม" จ่อถล่มภาคตอ.สหรัฐ

    วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 11:15:50 น

    [​IMG]

    ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯกล่าวเตือนว่า พายุเฮอร์ริเคน"แซนดี้"อาจรวมตัวเข้ากับพายุฤดูหนาว และก่อตัวเป็นพายุขนาดใหญ่ที่เรียกว่า "แฟรงเกนสตอร์ม" (Frankenstorm) ขณะที่กำลังมุ่งหน้าใกล้ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ

    พายุเฮอร์ริเคนแซนดี้พัดออกจากบาฮามาสแล้ว และได้อ่อนกำลังเป็นพายุระดับ 1 และอาจจะขึ้นฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯในอีก 1-2 วัน หลังจากพัดถล่มหลายประเทศแถบทะเลแคริบเบียน จนมีผู้เสียชีวิต 28 คน

    ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐเผยว่าเมื่อเวลา 9.00 น.ที่ผ่านมาตามเวลาในไทยว่า เฮอริเคนแซนดี้อยู่ห่างเกาะเกรต อาบาโก ของหมู่เกาะบาฮามาสไปทางเหนือราว 145 กม. ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 120 กม./ชม. และเคลื่อนตัวไปทางเหนืออย่างช้าๆด้วยความเร็ว 11 กม./ชม.

    มีรายงานฝนตกหนักและลมกรรโชกแรงตามชายฝั่ง ทำให้ทางการบาฮามาสสั่งปิดโรงเรียน สถานที่ราชการ บริษัทห้างร้านต่างๆ รวมถึงสนามบิน ขณะที่ประชาชนเริ่มกักตุนสินค้าและเก็บตัวอยู่ในบ้าน คาดว่าหลังจากนี้ เฮอร์ริเคนแซนดี้ซึ่งอ่อนกำลังลงมาอยู่ในระดับ 1 จะขึ้นฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯในช่วงค่ำวันจันทร์หรือเช้าวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งของชายฝั่งตะวันออก หรือหนึ่งวันก่อนเทศกาลฮัลโลวีน และหนึ่งสัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

    เฮอร์ริเคนแซนดี้เพิ่งทำให้เกิดน้ำท่วม บ้านเรือนพังเสียหาย ต้นไม้ล้มระเนระนาดทางตะวันออกของคิวบา มีผู้เสียชีวิต 11 คน หลังจากก่อนหน้านั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนในจาเมกาและ16 คนในเฮติ

    ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติคาดว่า การปะทะกันของทั้งเฮอร์ริเดนแซนดี้และพายุฤดูหนาว จะก่อให้เกิดกระแสลมกรรโชกแรง ฝนตกหนักถึง 25 ซม. คลื่นสูง รวมถึงอาจมีหิมะตกหนักสูงถึง 60 ซม.ในบางพื้นที่ โดยพื้นที่ที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักประกอบด้วยรัฐเวอร์จิเนีย แมรีแลนด์ หรือเดลาแวร์ รวมถึงรัฐนิวยอร์ก หรือทางตอนใต้ของเขตนิวอิงแลนด์

    ด้านนายแอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก กล่าวว่า ทางการรัฐนิวยอร์กร่วมมือกับรัฐบาลกลางและรัฐอื่นๆ ติดตามความเคลื่อนไหวของเฮอร์ริเคนแซนดี้และเตรียมแผนรับมือแล้ว

    ทั้งนี้ คาดหมายว่าพายุลูกนี้จะพัดกระหน่ำนิวยอร์กโดยตรงในสัปดาห์หน้า หลังจากพัดกระหน่ำประเทศแถบทะเลแคริบเบียนและบาฮามาส คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อท่าอากาศยานเจเอฟเค ลากัวร์เดีย และนวร์ก ระบบขนส่งมวลชน และทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ราบลุ่มที่มีประชากรหนาแน่น เช่นเดียวกับครั้งที่เฮอร์ริเคนไอรีนพัดกระหน่ำเมื่อปีที่แล้ว

    ด้านนายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก กล่าวว่า อาจต้องมีการอพยพประชาชนบริเวณชายฝั่ง และระงับการบริการรถไฟชานเมือง นอกจากนี้ทั้งนายคัวโมและนายบลูมเบิร์กยังแนะให้ประชาชนเตรียมไฟฉาย อาหาร น้ำ และสิ่งของจำเป็น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการอพยพ

    Tropical Storm Sandy Radar<SCRIPT type=text/javascript> var pwidget_config = { copypaste: false }; </SCRIPT>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3><TBODY><TR></TR></TBODY></TABLE>[​IMG]


    Five Day Forecast Map<SCRIPT type=text/javascript> var pwidget_config = { copypaste: false }; </SCRIPT>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3><TBODY><TR></TR></TBODY></TABLE>[​IMG]


    B5 - War Room Falkman
     
  15. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    "ไต้ฝุ่นเซินตินห์"กระหน่ำฟิลิปปินส์ ยอดเสียชีวิตเพิ่มเป็น 24 คน

    วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 14:30:27 น

    "ไต้ฝุ่นเซินตินห์"กระหน่ำฟิลิปปินส์ ยอดเสียชีวิตเพิ่มเป็น 24 คน :

    [​IMG]

    เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์เผยวันนี้ว่ายอดผู้เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่นเซินตินห์พัดกระหน่ำตอนกลางของฟิลิปปินส์ ก่อนมุ่งหน้าต่อไปยังเวียดนาม เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 24 คน และสูญหาย 6 คน แล้ววันนี้ (27 ต.ค.)


    [​IMG]


    คณะกรรมการจัดการและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติของฟิลิปปินส์ระบุว่า สาเหตุของการเสียชีวิต 11 ราย เกิดจากการจมน้ำและแผ่นดินถล่มในเกาะเล็กๆทางตอนกลางของประเทศ ขณะที่ 13 ราย ถูกสายน้ำพัดพาไปขณะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ถูกฝังจากแผ่นดินถล่ม ต้นไม้ล้มทับ หนาวตาย และไฟช็อต

    ยอดดังกล่าวเพิ่มขึ้นจาก 6 รายจากการายงานอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ หลังจากไต้ฝุ่นเซินตินห์ ซึ่งถูกจัดอยู่ในพายุโซนร้อนขณะที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ พัดถล่มในพื้นที่ภาคกลางและตอนใต้ของประเทศ

    ขณะที่มีรายงานว่าชาวประมง 8 รายยังคงสูญหาย และยังคงมีการค้นหาชายที่เชื่อว่ายังรอดชีวิตจากเหตุดินถล่มที่เกาะมินดาเนา และพบผู้ที่สูญหายแล้ว 3 คน จากจำนวน 9 คน ซึ่งยังมีชีวิตอยู่

    รายงานระบุว่า ประชาชนกว่า 30,000 คนที่ติดค้างตามท่าเรือและท่าอากาศยานนับแต่ต้นสัปดาห์สามารถเดินทางต่อไปได้แล้ว หลังพายุเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์เมื่อคืนวันศุกร์ และกว่า 15,000 คนได้อพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย ทางการได้จัดส่งิหารและน้ำดื่มไปยังประชาชนที่เลือกที่จะอาศัยอยู่ที่บ้านหรืออาศัยตามบ้านญาติเกือบ 40,000 คน

    เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศกล่าวว่า พายุอาจพัดกระหน่ำชายฝั่งตอนเหนือของเวียดนามในวันอาทิตย์นี้ โดยได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นแล้ว และเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 650 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 16.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 110.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตก ค่อนไปทางเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 24 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งใกล้กรุงฮานอย ประเทศเวียดนามในวันพรุ่งนี้ (28 ต.ค.) จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศลาวตอนบนต่อไป

    B5 - War Room Falkman
     
  16. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    <TABLE style="FILTER: progid:DXImageTransform.Microsoft.Gradient(startColorStr=#C0FFFFCC, endColorStr=#10FFFFFF, gradientType=0)" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; BORDER-RIGHT: gray 1px solid" width="100%" colSpan=3 align=middle>ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
    "พายุ “เซินตินห์” (SON-TINH)"

    ฉบับที่ 5 (319/2555) ลงวันที่ 27 ตุลาคม 2555


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BORDER-RIGHT: gray 1px solid; PADDING-TOP: 10px" width="100%" colSpan=3 align=left>เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (27 ต.ค. 55) พายุโซนร้อน “เซินตินห์” (SON-TINH) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นแล้ว และเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (27 ต.ค. 55) มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 650 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 16.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 110.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตก ค่อนทางเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 24 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งใกล้กรุงฮานอย ประเทศเวียดนามในวันพรุ่งนี้ (28 ต.ค.55) จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศลาวตอนบนต่อไป

    ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยโดยเฉพาะทางด้านตะวันออกและตอนบนของภาคมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางเป็นแห่งๆถึงกระจาย กับมีลมแรงในช่วงวันที่ 28-29 ตุลาคม 2555

    สำหรับ ในช่วงวันที่ 30-31 ตุลาคม 2555 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และอากาศจะเย็นลง ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงนี้


    ประกาศ ณ วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 11.30 น.




    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    B5 - War Room Falkman
     
  17. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    ฮือฮา"เด็กชายหมาป่า"คัมแบ็กฮาโลวีนหลังหายตัว 30ปี

    วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2555 เวลา 11:20 น.

    [​IMG]
    <!-- /.images-list-items -->
    <!-- /.images-list-container -->
    <!-- /.images-list-wrapper -->

    <!-- /.featured-img -->สร้างความแตกตื่น "เด็กชายหมาป่า"จากเม็กซิโก กลับมาปรากฏตัวครั้งแรกในรอบ 30 ปี เข้าร่วมแสดงกับคณะละครสัตว์น่าขนหัวลุกสำหรับวันฮาโลวีนในอังกฤษ 2 วัน
    <!-- /.content -->
    <!-- /#featured-caption -->วันนี้ (27 ต.ค.) เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ "เดลี่เมลล์" ประเทศอังกฤษ รายงานข่าวการกลับมาปรากฏตัวครั้งแรกในรอบ 30 ปี ของเจ้าของฉายา "เด็กชายหมาป่า" ที่ใบหน้าของเขาปกคลุมด้วยเส้นผมและขนทั่วทั้งหน้า

    "เด็กชายหมาป่า" จากเม็กซิโก เข้าร่วมแสดงกับคณะละครสัตว์น่าขนหัวลุกสำหรับวันฮาโลวีนในอังกฤษ 2 วัน ซึ่งคณะละครสัตว์ดังกล่าว สามารถเข้ารอบชิงชนะเลิศการประกวดพรสวรรค์ในปีที่ผ่านมา และมีแผนที่จะแสดงทัวร์ยุโรปต่อไป

    ด้าน เด็กชายหมาป่า มีอาการของโรคมนุษย์หมาป่า หรือ (Hypertrichosis) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของขนตามร่างกายทำให้เกิดขน ขึ้นหนาแน่น และมีความยาวมากกว่าปกติ ในยุค 20 ที่ละครสัตว์กำลังเพื่องฟู ผู้ป่วยโรคมนุษย์หมาป่า จึงเป็นที่ต้องการของคณะละครสัตว์อย่างมาก จนถึงปัจจุบัน.

    B5 - War Room Falkman
     
  18. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    ภูเขาไฟ Alaid ที่หมู่เกาะคูริล เกิดปะทุขึ้นหลังจากสงบนิ่งมายาวนานกว่า 16 ปี

    Posted on October 26, 2012

    <!-- .entry-meta -->[​IMG]

    October 26, 2012KURIL ISLANDS -The Kuril Island volcano named Alaid, in Russia’s Far East has begun spewing ash with the giant ash cloud rising to an altitude of up to 700 meters.

    The Alaid Volcano is the tallest and northernmost volcano in the islands, with a crater which is approximately 1.5-km-wide. The first signs of activity were recorded on October 7th when thermal anomalies were observed a cloud of steam appeared. Volcanologists are issuing warnings regarding the likelihood of an eruption of ash emissions which may reach a height of 10-15 kilometers above sea level. The volcano last erupted in 1996.Voice of Russia

    B5 - War Room Falkman
     
  19. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    ฤดูใบไม้ร่วงกลับปกคลุมด้วยหิมะหลายพื้นที่ในแต่ละประเทศ อุตุฯชึ้ปีนี้หิมะตกเร็วกว่าปกติ 2 เดือนเทียบกับปีที่แล้ว

    UPDATED: 23:03 GMT, 26 October 2012


    Temperatures as cold as Moscow today as chill of winter hits the north-east

    Parts of Scotland could see up to 5cm of snow and north-east up to 2cm

    Sleet and hail showers to affect parts of Lincolnshire and East Anglia

    Forecasters said snow falling two months earlier than last year

    [​IMG]
    Autumn leaves are painted white by snow fall in a forest in Northumberland today


    [​IMG]
    [​IMG]
    As temperatures plummet towards freezing, the first snow fell in Northumberland today

    [​IMG]
    It's snowing! Walkers wrap up warm and enjoy the bitterly cold weather this morning

    [​IMG]
    Cattle huddle for warmth as heavy snow falls in the hills near Huntly in Aberdeenshire


    [​IMG]
    Picturesque: A rose covered in snow in Scotland as temperatures drop

    UK weather: First snow in England falls in Northumberland as temperatures dip to a very chilly -2C | Mail Online

    B5 - War Room Falkman
     
  20. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    Power Outage in Brazil

    Friday, 26 October, 2012 at 14:34 (02:34 PM) UTC

    เกิดกระแสไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่บราซิลช่วงสายวันพฤหัสถึงเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทบพลเมืองใน 12 รัฐ ราวกว่า 53ล้านคน

    A blackout left as many as 53 million Brazilians without power late Thursday and early Friday, the latest in a string of energy shortages that have raised questions about whether Brazil's infrastructure is keeping pace with economic growth.

    The power outage, which affected 12 Brazilian states in the northeast and center-west regions of the country, follows two other blackouts in as many months that affected millions of customers across the nation. Representatives from Brazil's National Electric System Operator said residences and businesses were without power for four hours, after which 70 percent of energy supply was restored.

    "We are taking all the corrective and preventative measures ... to minimize this type of occurrence, which is dramatic for all of us and principally for consumers," Hermes Chipp, head of Brazil's National Electric System Operator, told the Globo television network. Chipp added that the latest blackout was caused by an equipment fire.

    RSOE EDIS - Power Outage in Brazil on Friday, 26 October, 2012 at 14:34 (02:34 PM) UTC. EDIS CODE: PW-20121026-36965-BRA

    B5 - War Room Falkman
     

แชร์หน้านี้

Loading...