WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ถ้าแผ่นดินไหวในขณะที่น้ำเต็มเขื่อน ทุกเขื่อน ?

 

B1

ถนนเชื่อมรังสิต-ปทุมธานี-ติวานนท์จมน้ำ บ้าน-ร้านค้าริมคลองอ่วม


จำนวนคนอ่านล่าสุด 1115 คน
วันที่ 01 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 21:05 น.  ข่าวสดออนไลน์


ถนนเชื่อมรังสิต-ปทุมธานี-ติวานนท์จมน้ำ บ้าน-ร้านค้าริมคลองอ่วม

 เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณถนนสายซ่อมสร้าง ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นเส้นทางลัดเชื่อมต่อระหว่างถนนรังสิต-ปทุมธานี และถนนติวานนท์ ที่สามารถเดินทางไปทางปาดเกร็ด จ.นนทบุรี สภาพของถนนซ่อมสร้างในเวลานี้ถูกน้ำจากคลองรังสิตประยูรศักดิ์เข้าท่วมขังจนเสียทางทางจราจรฝั่งทางด้านขาออกจากรังสิตไปทั้งหมดเป็นระยาวทางยาวกว่า 2 กิโมเมตร จากทั้งหมดประมาณ 5 กิโลเมตร
 
 โดยบ้านเรือนประชาชนและบริษัทห้างร้านต่างๆที่อยู่ริมถนนและติดกับคลองรังสิต ถูกน้ำเข้าท่วมขังสูงประมาณ 70-80 เซนติเมตร ทำให้ร้านค้าส่วนใหญ่ซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถหลายสิบอู่ ต้องหยุดดำเนินกิจการ แต่ก็มีบางรายที่ยังรับซ่อมรถให้ลูกค้าโดยใช้พื้นที่บนถนนซ่อมสร้าง ที่อยู่หน้าร้าน เป็นสถานที่ดำเนินกิจการแทน
 
 ส่วนที่ถนนเลียบคลองรังสิต ม.3 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ได้มีกลุ่มชาวบ้านจำนวนกว่า 100 คนได้ร่วมแรงร่วมใจกันออกมาช่วยเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ ในการกรอกกระสอบทรายเสริมคันกั้นน้ำจากคลองรังสิต ที่กำลังเอ่อล้นจนเกือบเข้าท่วมพื้นถนน ที่มีระยะทางยาวประมาณ 2 กิโลเมตร และมีผู้ต้องขังจากเรือนจำปทุมธานีจำนวน 30 คน ได้เข้ามาช่วยนำกระสอบทรายกั้นเสริมแนวคันกันน้ำเดิมบริเวณถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขต ม.4 ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี และที่บริเวณเขื่อนกั้นน้ำริมเจ้าพระยา ซึ่งระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ความต่างห่างจากแนวคันปูนอยู่ที่ประมาณ 50 เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเสริมเสาเข็มและกระสอบทรายหลังคันปูนซึ่งเป็นแผนรองรับน้ำชั้นสอง เพื่อรองรับน้ำหากปริมาณน้ำล้นคันปูน

 

B1

สภาพอากาศวันนี้

หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชัน “เนสาด” (NESAT)

บริเวณประเทศเวียดนามตอนบนได้สลายตัวแล้ว

แต่ยังคงทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา แพร่ ตาก เลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม

ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในระยะนี้

ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง

ทำให้คลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็ก ควรงดออกจากฝั่งระยะนี้ไว้ด้วย

 

แผ่นดินไหวเป็นสิ่งมนุษย์ไม่สามารถคาดการณ์หรือเตรียมตัวได้ทันเมื่อมันเกิด

ก็คงมีสิ่งเดียว คือเตรียมใจให้พร้อม และเตรียมสิ่งจำเป็นเผื่อๆ ไว้ใช้ในยามขับขัน

ภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง หวังว่าคงไม่มีเหตุร้ายแรงกว่านี้ในเมืองไทย

 

ผมตกข่าวอะไรไปหรือเปล่า อะไรจะรุนแรงก่อนธันวาคม 2011
ผมอยู่ทางเหนือนะ

 

แผนที่อากาศล่าสุด

 

B1

2เขื่อนใหญ่ยันยังไหวหากพายุนาลแกไม่ซ้ำ

ข่าวสังคม วันอาทิตย์ที่ 2 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 09:39 น.


ผอ.เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี เผย ระดับน้ำในเขื่อนอยู่ที่ร้อยละ 87 ไม่น่าห่วง ด้านเขื่อนภูมิพลใกล้เต็มความจุ ผู้อำนวยการยืนยันไม่มีปัญหาเคยรับ 100 % มาแล้ว 4 ครั้ง



นายบุญอินทร์ ชื่นชวลิต ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงระดับน้ำที่เขื่อนรับอยู่ขณะนี้ โดยยืนยันว่า อยู่ที่ร้อยละ 93 ซึ่งยังสามารถรองรับน้ำได้อีก เพราะปัจจุบันมีการผันน้ำเข้า-ออก ตามอัตราส่วน
ที่ยังไม่น่าเป็นห่วง โดยหากว่าพายุ "นาลแก" ที่เพิ่งจะพัดผ่านประเทศฟิลิปปินส์มา ไม่พัดเข้าประเทศไทยตรงๆ ก็คาดว่าอีก 2 วัน การผันน้ำจากเขื่อนน่าจะมีปริมาณน้ำไหลออกมากว่าเข้า แต่หากว่าพายุลูกดังกล่าวเข้ามาตรงๆ ก็คงต้องพิจารณาการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนตามปริมณน้ำที่ไหลเข้าอีกครั้งหนึ่ง โดยยืนยันว่า เขื่อนยังมีความแข็งแรง และเคยผ่านสถานการณ์รับน้ำเต็มความจุ 100 % มาแล้วถึง 4 ครั้ง จึงไม่น่าเป็นปัญหาอะไร


ด้าน นายกิตติ ตันเจริญ ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ เปิดเผยเช่นกันว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นห่างจาก อ.ทองผาภูมิ ไปในเขตประเทศพม่า เมื่อคืนที่ผ่นมานั้น แม้จะมีขนาดความแรงประมาณ 4.7 ริกเตอร์ แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ต่อความแข็งแรงของตัวเขื่อน เนื่องจากที่ผ่านมา เคยผ่านสถานการณ์ แผ่นดินไหวที่มีขนาดความแรงเกินกว่า 5 ริกเตอร์ มาแล้ว โดยที่โครงสร้างของเขื่อนไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

Link : 2เขื่อนใหญ่ยันยังไหวหากพายุนาลแกไม่ซ้ำ




เขื่อนศรีนครินทร์ (เขื่อนที่มีความจุมากที่สุดในประเทศไทย)

ชื่อ : เขื่อนศรีนครินทร์
ที่ตั้ง : แม่น้ำแควใหญ่ ต.บ้านเจ้าเณร อ. ศรีสวัสดิ์ จ. กาญจนบุรี
ประเภทเขื่อน : เขื่อนหินทิ้งแบบมีแกนดินเหนี่ยว (Rockfill Dam with Impervious Core)
ขนาด : สูง 140 เมตร ยาว 610 เมตร
(ปีที่สร้างเสร็จ) : 2523
ขนาดความจุอ่าง : 17,745 ล้านลูกบาศก์เมตร
กำลังการผลิตกระแสไฟฟ้า : 720 ล้านวัตต์
ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ปีละ : 1,140 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง

http://hilight.kapook.com/img_cms2/news_4/307031[0].jpg


เขื่อนภูมิพล เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกในประเทศไทย ลักษณะเป็นเขื่อนคอนกรีตรูปโค้ง เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2496 แล้วเสร็จทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2507 เขื่อนนี้เดิมชื่อ เขื่อนยันฮี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระปรมาภิไธยให้เป็นชื่อเขื่อนว่า เขื่อนภูมิพล เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2500[1]
เขื่อนภูมิพลสร้างปิดกั้นลำน้ำปิง ที่บริเวณเขาแก้ว อำเภอสามเงา จังหวัดตาก มีรัศมีความโค้ง 250 เมตร สูง 154 เมตร ยาว 486 เมตร ความกว้างของสันเขื่อน 6 เมตร อ่างเก็บน้ำสามารถรองรับน้ำได้สูงสุด 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนภูมิพลเป็นเขื่อนโค้งที่ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลก[1]
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนิน ทรงวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2504 การก่อสร้างในระยะแรกประกอบด้วย งานก่อสร้างตัวเขื่อน ระบบส่งไฟฟ้า และอาคารโรงไฟฟ้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดเขื่อน เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2507
หน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นมาควบคุมการก่อสร้าง บำรุงรักษาและบริหารงานเขื่อนภูมิพล เมื่อ พ.ศ. 2500 เป็นรัฐวิสาหกิจมีชื่อว่า "การไฟฟ้ายันฮี" ซึ่งต่อมาได้ควบรวมกับรัฐวิสาหกิจ "การลิกไนต์" และ "การไฟฟ้าตะวันออกเฉียงเหนือ" เป็น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เมื่อ พ.ศ. 2511 มีผู้ว่าการคนแรกคือนายเกษม จาติกวณิช

 

B1

 กรมชลฯแจงระดับน้ำเจ้าพระยาจะไม่สูงกว่ายอดเจดีย์ปากเกร็ด

2 ตค. 2554 09:56 น.

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน ชี้แจงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนหลายแขนงว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์ มีโอกาสที่จะสูงขึ้นถึง 5,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และอาจจะส่งผลให้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนนทบุรีสูงขึ้นจนถึงยอดเจดีย์ที่เกาะเกร็ดนั้น
นายวีระ วงศ์แสงนาค ที่ปรึกษาอธิบดีกรมชลประทาน(อดีตรองอธิบดีกรมชลประทาน) ขอเรียนชี้แจงว่า การให้ข้อมูลสถานการณ์น้ำเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 54 ที่ผ่านมา นั้น เป็นการให้ข้อมูลปริมาณน้ำที่ท่วมขังอยู่ในทุ่งทางตอนบนในเขตจังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ และทุ่งราบภาคกลาง ประกอบด้วยพื้นที่ในเขตจังหวัดอุทัยธานี ทุ่งบางบาล ทุ่งผักไห่ ทุ่งเชียงราก และทุ่งอื่นๆรวมกัน ที่ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะมีปริมาณน้ำที่ท่วมขังมากถึง 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ผู้สื่อข่าวเข้าใจความหมายไม่ถูกต้อง คิดว่าเป็นปริมาณน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ ในอัตรา 5,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงที่ได้มีการชี้แจงเกี่ยวกับปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ จะอยู่ในเกณฑ์สูงสุดประมาณ 4,350 - 4,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม ปริมาณน้ำจะทรงตัวอยู่ในปริมาณนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ และจะเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องโดยลำดับต่อไป
ขอทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องปริมาณน้ำ หากเป็นปริมาณน้ำที่ท่วมขังในทุ่ง จะคิดเป็นปริมาตรน้ำ มีหน่วยความจุเป็น “ล้านลูกบาศก์เมตร” ส่วนปริมาณน้ำที่ไหลในลำน้ำ จะคิดเป็นอัตราการไหล มีหน่วยเป็น “ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที”
สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน(1 ต.ค. 54) ที่จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านในเกณฑ์ 4,344 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 3,616 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในเกณฑ์ 3,212 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แนวโน้มปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาลดต่ำลงอย่างช้าๆ ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านเข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร มีปริมาณน้ำไม่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านจังหวัดนนทบุรี จะไม่เพิ่มสูงขึ้น และจะสูงไม่ถึงยอดเจดีย์เกาะเกร็ดอย่างแน่นอน


  

 

B1

ชัยนาทเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลดความเดือดร้อน ปชช.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 ตุลาคม 2554 09:32 น.

       นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยใน จ.ชัยนาท ที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนเองลงพื้นที่ดูแลว่า จ.ชัยนาทเป็นพื้นที่ซึ่งรับน้ำมาจาก จ.นครสวรรค์และอุทัยธานี โดยขณะนี้ทางจังหวัดมีการเร่งกระจายน้ำออกไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ส่วนความเสียหายของพื้นที่การเกษตรนั้นอยู่ที่ประมาณ 120,000 ไร่ ในพื้นที่ อ.มโนรมย์ วัดสิงห์ อ.เมือง และสรรพยา
        นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางคมนาคมเสียหาย คือช่วงถนนเอเชียที่แยกเข้าสู่ตัวเมือง และถนนพหลโยธิน สายเดิมช่วงกิโลเมตรที่ 290 ขณะที่คันกั้นน้ำมีความเสียหายในพื้นที่ อ.เมืองประมาณ 70-80 เมตร ทำให้มีน้ำไหลผ่าน โดยปริมาณน้ำดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งที่ไหลไปยังประตูระบายน้ำบางโฉมศรี โดยขณะนี้กรมชลประทานได้ทำทางใหม่เพื่อเข้าไปยังพื้นที่ ซึ่งมีความยากลำบากเพื่อเข้าไปซ่อมแซม โดยคาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 10 วันจะแล้วเสร็จ หรือใช้ลักษณะซ่อมแซมคล้ายกับที่บริเวณบางโฉมศรี ส่วนบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาที่ได้รับความเสียหายได้มีการเข้าไปตรวจสอบแล้ววานนี้ ซึ่งเมื่อน้ำลดก็จะมีการดูแล เช่น การเสริมกระสอบทราย เพื่อลดปริมาณน้ำที่ไหลผ่าน
        อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดว่า การซ่อมแซมประตูระบายน้ำบางโฉมศรีที่นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมในวันนี้ เมื่อแล้วเสร็จจะสามารถลดปริมาณน้ำไหลผ่านได้ประมาณร้อยละ 70-80
        ทั้งนี้ ในการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบนั้น นอกจากจะมีมาตรการเดิมแล้ว หลังจากนี้รัฐบาลจะมีการพิจารณามาตรการอื่นๆ ที่เหมาะสมเพิ่มเติม

 

B1

เอแบคโพลล์ สำรวจพบปชช.ใน 8จว.ที่น้ำท่วม กว่าร้อยละ 30 ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง เสียงสะท้อนจากคนที่เป็นทุกข์เหยื่อภัยพิบัติน้ำท่วมต่อรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ สำรวจจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 8 จังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ อุตรดิตถ์ ชัยนาท ลพบุรี สุพรรณบุรี และปทุมธานี จำนวน 1,083 คน ระหว่างวันที่ 25 กันยายน - 1 ตุลาคม 2554 พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 51.1 ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลหรือองค์กรต่างๆ แล้ว แต่คาดว่าจะไม่เพียงพอกว่าน้ำจะลด ขณะเดียวกัน ยังมีผู้ประสบภัยอีกร้อยละ 32.3 ที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ ผลสำรวจยังพบว่า ประชาชนในพื้นที่ภัยพิบัติโดยภาพรวมมีความทุกข์ระดับมากถึงเกือบมากที่สุดคืออยู่ที่ 7.99 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยคนที่อยู่ติดถนนหลักมีระดับความทุกข์ 7.04 คะแนน แต่คนที่อยู่ห่างไกลถนนหลักมีความทุกข์สูงถึง 8.59 คะแนน ส่วนการประเมินความพอใจต่อการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล ประชาชนให้คะแนนเพียง4.67 คะแนน ลดลงจากการประเมินเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนที่ได้ 5.80 คะแนน

 

จ๊าคคคคค อันดามัน นั่งมองอยู่นะเนี่ย คลื่นระลอกขาวมาเมื่อไหร่ละตัวใครตัวมัน.

 

B1

ฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลประมาณน้ำอ่างเก็บน้ำชลบุรีมีมาก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 ตุลาคม 2554 09:59 น.


       นายกมล ศักดิ์ประสิทธิ์ เกษตรและสหกรณ์ จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ระยะนี้ จ.ชลบุรี ได้มีฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่สำคัญของ จ.ชลบุรีมีน้ำมาก โดยเฉพาะ ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำบางพระ อำเภอศรีราชา มีปริมาณน้ำ 96.783 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 82.72 % ของความจุอ่าง ส่วนปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำหนองค้อ 22.200 ล้านล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 103.74 % ของความจุอ่าง ได้ระบายน้ำลงสู่อ่างเก็บน้ำบางพระ โดยไม่มีการระบายน้ำออกสู่พื้นที่ภายนอกอ่างแต่อย่างใด
        ส่วนอ่างเก็บน้ำบ้านบึง มีปริมาณน้ำในอ่าง 11.225 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 102.24 % ของความจุอ่าง น้ำที่เกินความจุได้ผันน้ำล้นลงคลองน้ำเขียว คลองลำพาง และคลองสรวง อ.บ้านบึง สำหรับอ่างเก็บน้ำอื่นๆ มีประมาณ 30-75 % ของความจุอ่าง ยังสามารถรับน้ำได้ ส่วนปัญหาน้ำท่วมในเขต อ.พนัสนิคม ขณะนี้ปริมาณน้ำลดลงกลับสู่สภาวะปกติแล้ว

 

B1

สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำจังหวัดชลบุรี ยังพอรับปริมาณน้ำ

นายกมล ศักดิ์ประสิทธิ์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดชลบุมีฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่สำคัญมีน้ำมาก โดยเฉพาะปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำบางพระ อำเภอศรีราชา มีปริมาณน้ำ 96.783 ล้านลบ.ม. หรือ 82.72 % ของความจุอ่าง ส่วนปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำหนองค้อ 22.200 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 103.74 % ของความจุอ่าง ได้ระบายน้ำลงสู่อ่างเก็บน้ำบางพระ โดยไม่มีการระบายน้ำออกสู่พื้นที่ภายนอกอ่างแต่อย่างใด ส่วนอ่างเก็บน้ำบ้านบึง มีปริมาณน้ำในอ่าง 11.225 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 102.24 % ของความจุอ่าง น้ำที่เกินความจุได้ผันน้ำล้นลงคลองน้ำเขียว คลองลำพาง และคลองสรวง อำเภอบ้านบึง สำหรับอ่างเก็บน้ำอื่นๆ มีประมาณ 30-75 % ของความจุอ่าง ยังสามารถรับน้ำได้ ส่วนปัญหาน้ำท่วมในเขตอำเภอพนัสนิคม ขณะนี้ปริมาณน้ำลดลงกลับสู่สภาวะปกติแล้ว

http://farm6.static.flickr.com/5102/5690141287_7108bd5cd9.jpg


อ่างเก็บน้ำบางพระ




อ่างเก็บน้ำหนองค้อ ชลบุรี-ศรีราชา

 

B1

น้ำป่าทะลักท่วมลำปาง 200 ครัวเรือนเดือดร้อน



น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ไหลทะลักท่วมหมู่บ้านกลางดึก ชาวบ้านผวาตื่น ขนของหนีน้ำกันวุ่น จนท.หลายฝ่ายระดมช่วยเร่งด่วนแล้ว...
 


เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่  2 ต.ค. เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักจนถึงเวลา 04.00 น. ทำให้น้ำป่าจากหลายลำห้วยในอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ ต.เวียงตาน อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง จากนั้นน้ำป่าไหลทะลักลงน้ำแม่ยาว ก่อนเข้าท่วมที่บ้านใน อ.เกาะคา โดยเฉพาะที่ ต.ลำปางหลวง และต.ไหล่หิน ส่งผลให้ระดับน้ำในน้ำแม่ยาวล้นตลิ่ง ไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านในพื้นที่ 2 ตำบล ระดับน้ำมีความสูงถึง 1 เมตร ทรัพย์สินได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงจำพวกไก่ สุนัข และสุกร ถูกน้ำป่าพัดพาไป




ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหตุน้ำป่าทะลักท่วมครั้งนี้ กินพื้นที่ 2 อำเภอ สืบเนื่องมาจากฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงหัวค่ำของวันที่ 1 ต.ค. จนถึง 04.00 น. ของวันที่ 2 ต.ค ทำให้น้ำป่าจากดอยขุนตาล เขต ต.เวียงตาน อ.ห้างฉัตร ไหลเข้าท่วมหมู่บ้าน กินพื้นที่ อ.ห้างฉัตร และอ.เกาะคา ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ตลอดจนทหารจากค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง กว่า 100 นาย นำเรือท้องแบนเข้าไปในพื้นที่ 2 อำเภอนี้ เพื่อช่วยชาวบ้านขนย้ายสิ่งของ ซึ่งอาจจะมีฝนตกลงมาเพิ่มเติมอีก



ต่อมา อบต.เวียงตาน อบต.ไหล่หิน และอบต.ลำปางหลวง นำข้าวกล่องออกไปให้ชาวบ้าน ซึ่งประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากฤทธิ์น้ำป่ามากกว่า 200 หลังคาเรือน



ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวภูมิภาค
2 ตุลาคม 2554, 10:00 น.

 

B1



เตือนเหนือ-อีสานระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าหลากช่วงนี้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 ตุลาคม 2554 10:17 น.


       กรมอุตุนิยมวิทยาตอนบน แจ้งเตือนประชาชนในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย จ.แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา แพร่ ตราด เลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ให้ระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ในระยะนี้
        ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ขณะที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 60 ของพื้นที่

 

B1

เขื่อนภูมิพลเร่งระบายน้ำเพิ่ม ชาวกำแพงเพชรอ่วม



ผอ.เขื่อนภูมิพล ระบุ น้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จำเป็นต้องระบายน้ำออก ปริมาณน้ำไหลเข้าแม่น้ำปิงลงสู่ลุ่มเจ้าพระยา เตือนชาวบ้านริมฝั่งน้ำรับสถานการณ์น้ำท่วม โดยเฉพาะชาวกำแพงเพชร...
 

วันที่ 2 ต.ค. นายบุญอินทร์ ชื่นชวลิต ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก ว่า ปัจจุบันมีน้ำกักเก็บทั้งสิ้น 12,580 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 93.89 เปอร์เซ็นต์ ของความจุอ่าง เหลืออีก 6.11 เปอร์เซ็นต์ หรืออีก 822 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำจะล้นอ่าง ในขณะที่เมื่อวานนี้ มีน้ำไหลเข้า 110 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนภูมิพลต้องระบายน้ำออกวันละ 45 ล้านลูกบาศก์เมตร เพราะน้ำไหลเข้า ยังมีระดับที่สูง ในขณะที่น้ำจากแม่น้ำวัง ที่ไหลมาสมทบใต้เขื่อนในลำน้ำปิง อ.บ้านตาก อีกวันละ 39 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมกันวันละ 84 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำปิง และพื้นที่การเกษตร อ.เมือง และอ.วังเจ้า จ.ตาก ที่น้ำไหลผ่าน ได้รับความเดือดร้อน เพราะน้ำท่วมเสียหายเป็นรอบที่ 3



นอกจากนี้ น้ำที่ไหลจากแม่น้ำปิงลงสู่ลุ่มเจ้าพระยา ผ่าน จ.กำแพงเพชร ซึ่งจะทำให้ อ.เมือง โกสัมพีนคร คลองขลุง ขาณุวรลักษบุรี และเทศบาลเมืองกำแพงเพชร โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ อาจจะถูกน้ำท่วมในช่วงนี้เป็นต้นไป จึงขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว เตรียมการป้องกันขนย้ายสิ่งของไปในที่ปลอดภัยรวมทั้งสัตว์เลี้ยงด้วย





ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวภูมิภาค
2 ตุลาคม 2554, 09:30 น.

 

B1

 "ปภ."จ.เชียงใหม่สั่งเตรียมอพยพปชช.ในพื้นที่เสี่ยงที่ฝนตกหนัก
  

2 ตค. 2554 10:36 น.

นายคมสัน สุวรรณอัมพา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากข้อมูลศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ มีประกาศให้เฝ้าระวังฝนตกหนัก ดินถล่ม และน้ำล้นตลิ่ง ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในระยะนี้ นั้น ว่า ทางจังหวัดได้ให้มิสเตอร์เตือนภัยในแต่ละท้องที่ ทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มริมน้ำ เชิงเขา และพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะ อ.สันกำแพง และ อ.สันป่าตอง ให้เตรียมความพร้อมในการอพยพหนีภัย หากกรณีเกิดเหตุการณ์วิกฤต หรืออาจจะเป็นอันตรายจากภัยพิบัติดังกล่าว โดยให้ย้ายไปอาศัยตามวัด ,โรงเรียน และในพื้นที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยดินโคลนถล่ม จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม ในหลายๆ พื้นที่ของเชียงใหม่ ตลอดทั้งวันมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดินชุ่มน้ำ ซึ่งอาจจะเกิดความเสี่ยงทำให้ดินโคลนถล่มได้

 

Daily News Online > ข่าวหน้า 1 > ลุ้นพายุ3ลูกซ้อนถล่มหนักท่วมไทยทุบสถิติ

วันอาทิตย์ ที่ 02 ตุลาคม 2554 เวลา 9:20 น

ข่าวหน้า 1


พายุ“นาลแก”จ่อถล่มซ้ำ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวด้วยว่าในฐานะ จ.เชียงใหม่ เป็นบ้านเกิดของตน จึงอยากฝากที่ประชุมแจ้งความห่วงใยของตนถึงประชาชนในพื้นที่ด้วย เนื่องจากติดภารกิจที่กรุงเทพฯ และขอให้ทุกฝ่ายเร่งแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะหลังจากที่น้ำลดแล้ว รวมทั้งหากเกิดเหตุการณ์พายุเข้าอีกจะรับมืออย่างไร โดยเฉพาะพายุ “นาลแก” พายุลูกใหม่ที่กำลังจะเข้ามาและจะส่งผลกระทบในประเทศไทย

น้ำท่วมจ่อทุบสถิติของไทย

ด้าน นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยในปีนี้เชื่อว่าจะรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของไทย เพราะจากภาพถ่ายดาวเทียมจะเกิดพายุอีก 3 ลูก ภายในเดือนต.ค.นี้ แม้ว่าประเทศไทยจะไม่ได้รับพายุเข้าโดยตรง แต่ที่ผ่านมาร่องความกดอากาศต่ำทำให้ฝนตกเกือบทุกพื้นที่และจากนั้น 3 ชม. น้ำจะท่วมอย่างหนัก โดยเฉพาะเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกที่ทุ่งรังสิตและชานเมืองน้ำสูงเท่ากับปี 2553 แล้ว ส่วนทุ่งเจ้าพระยาตะวันออกเช่นเดียวกัน มีเพียงลำน้ำเจ้าพระยาแห่งเดียวที่ใช้ผลักดันน้ำออกสู่ทะเลได้เท่านั้น และหากในสัปดาห์หน้ามีน้ำเหนือลงมาเพิ่มจะทำให้พื้นที่ประสบอุทกภัยหนักขึ้น จึงเป็นเรื่องที่ประชาชนต้องเตรียมตัวให้ทันต่อสถานการณ์น้ำที่จะรุนแรงทุบสถิติของทุกปี

“นาลแก”ถล่มปินส์ดับ 1 ศพ

ด้าน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองปูลิลัน ประเทศฟิลิปปินส์ ว่า สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์แจ้งว่า พายุไต้ฝุ่น “นาลแก” พัดขึ้นฝั่งเกาะลูซอนเกาะใหญ่ของฟิลิปปินส์ เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ความเร็วลมจุดศูนย์กลาง 160 กม.ต่อชั่วโมง และอาจแรงถึง 190 กม.ต่อชั่วโมง และเคลื่อนตัวไปในทิศตะวันตกเฉียงใต้ แนวเดียวกับพายุไต้ฝุ่น “เนสาด” ที่เคยพัดถล่มเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิต 50 ศพ และสูญหายอีก 31 คน

ขณะที่เจ้าหน้าที่ป้องภัยฝ่ายพลเรือนเปิดเผยว่า มีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ศพและบาดเจ็บอีก 1 คน หลังเกิดดินถล่มทับรถแวน 1 คัน บนทางหลวงเชิงเขาใกล้กับเมืองท่าตากอากาศบาเกียว และที่ตัวเมืองบาเกียวเอง มีประชากรอาศัยอยู่ 360,000 คน แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แม้จะมีฝนตกหนัก ทำให้น้ำท่วมและต้นไม้หักโค่น.

​

:z16 [A3-1]

 

B1

รบกวนคุณ falkman ขอแผนที่ จุด จ.ไหน ที่น้ำขึ้น จ.ไหน น้ำลด ด้วยค่าา

 

B1

กรมชลประทานรายงานปริมาตรน้ำในเขื่อน 26 แห่งทั่วประเทศ

พบ 11 เขื่อนขนาดใหญ่น้ำทะลักเกิน 100% ของความจุแล้ว


มีรายงานจากกรมชลประทาน ณ วันที่ 1 ต.ค.2554 ถึงปริมาตรน้ำในเขื่อน 26 แห่งทั่วประเทศ ปรากฏว่าเขื่อนขนาดใหญ่ที่ปริมาตรน้ำเกินกว่า 100% ของความจุอ่าง มีถึง 11 เขื่อน ได้แก่

เขื่อนแม่งัด สมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่

เขื่อนแม่กวงอุดมธารา จ.เชียงใหม่

เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร

เขื่อนน้ำพุง จ.สกลนคร

เขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ

เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น

เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

เขื่อนคลองสียัด จ.ฉะเชิงเทรา

เขื่อนหนองปลาไหล จ.ระยอง

เขื่อนประแสร์ จ.ระยอง

นอกจากนั้น กรมชลประทานยังรายงานปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านจุดสำคัญๆ ณ วันที่ 1 ต.ค.2554 ว่า

น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านจุดวัดที่ จ.นครสวรรค์ 4,344 ลูกบาศก์เมตร/วินาที

ผ่านเขื่อนเจ้าพระยา (จ.ชัยนาท) 3,616 ลูกบาศก์เมตร/วินาที

น้ำป่าสักไหลผ่านเขื่อนพระรามหก (จ.พระนครศรีอยุธยา) 1,229 ลูกบาศก์เมตร/วินาที

น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านจุดวัดที่ อ.บางไทร (จ.พระนครศรีอยุธยา) 3,255 ลูกบาศก์เมตร/วินาที

qsquqsquqsquqsquqsquqsquqsquqsquqsquqsquqsquqsquqsquqsquqsquqsquqsqu

4 เขื่อนวิกฤตน้ำล้นสั่งอพยพคนด่วน

2-10-54

ฝนตกหนักต่อเนื่องจากฤทธิ์พายุเนสาด ส่งผลทำให้เขื่อนภูมิพล จ.ตาก เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร และเขื่อนอุบล รัตน์ จ.อุบลราชธานี วิกฤตรับน้ำเกินความจุ ทำให้ต้องเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อน ส่งผลให้หลายจังหวัดซึ่งอยู่ใต้เขื่อนจมน้ำต้องอพยพชาวบ้านหลายหมื่นคนไปอยู่ที่สูงอย่างเร่งด่วน



ทั้งนี้ เช่นเดียวกับ จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักหนุนสูงต่อเนื่องท่วมทุกอำเภอจนจมบาดาล บ้านเรือนถูกน้ำท่วมมิดหลังคา ทำให้นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ต้องสั่งอพยพชาวบ้านนับหมื่นคนไปอยู่ที่ปลอดภัย
ขณะที่นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผวจ.ลพบุรี ได้สั่งอพยพชาวบ้านใน อ.เมือง อ.ท่าวุ้ง และ อ.บ้านหมี่ จำนวน 4-5 หมื่นคน ไปอยู่ที่ค่ายทหาร เพราะน้ำเอ่อท่วมบ้านเรือนสูงต่อเนื่อง หลังจากประตูระบายน้ำบางโฉมศรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี แตกเมื่อวันที่ 13 ก.ย. แต่ยังซ่อมไม่ได้



ด้านนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวประเมินความเสียหายของเมืองเชียงใหม่หลังน้ำลดว่า มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 7,000-8,000 ล้านบาท มากกว่าน้ำท่วมใหญ่ปี 2548 ที่มีมูลค่าความเสียหายร่วม 5,000 ล้านบาท เนื่องจากน้ำท่วมแต่ละครั้งจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวของเชียงใหม่ด้วย