WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

น้ำคลองบางแก้วทะลักวัดท่าตำหนักผู้อพยพ-พระเดือดร้อน

วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2011 เวลา 08:52 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ
User Rating: / 0

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมที่ท่วม บริเวณวัดท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม  ซึ่งทางการจัดเป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา  น้ำจากคลองบางแก้วได้เอ่อล้นเข้าท่วมบริเวณวัดและบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ริมฝั่งคลองทั้ง 2 ด้านสูงกว่า 50 ซม.  แม้ว่าทหารจะนำกระสอบทรายมากั้นแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถที่จะกั้นน้ำที่เพิ่มปริมาณสูงขึ้นได้ จนทะลักเข้าท่วมบริเวณวัดท่าตำหนัก ก่อนที่จะเข้าท่วมกุฏิของพระวินัยสังวร เจ้าอาวาสวัดท่าตำหนัก จนไม่สามารถที่จะจำวัดได้ ก่อนจะช่วยกันขนย้ายสิ่งของออกมา  ส่วนชาวบ้านที่อพยพมาอยู่ที่ศูนย์ ก็ได้รับความเดือดร้อนตามไปด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของอาหาร

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ผู้บริหารนิคมฯ บางปะอินเผยน้ำท่วมพื้นที่ 100% แล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>16 ตุลาคม 2554 09:39 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT><IFRAME style="WIDTH: 110px; HEIGHT: 20px" class="twitter-share-button twitter-count-horizontal" title="Twitter For Websites: Tweet Button" src="http://platform.twitter.com/widgets/tweet_button.html#_=1318737052229&count=horizontal&id=twitter_tweet_button_0&lang=en&original_referer=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FHome%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9540000131747&text=%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%AF%20%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%20100%25%20%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7&url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FHome%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9540000131747&via=ASTVManager" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>

Share14
<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT><IFRAME style="POSITION: static; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; WIDTH: 90px; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 20px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=I1_1318737052760 title=+1 tabIndex=-1 marginHeight=0 src="https://plusone.google.com/u/0/_/+1/fastbutton?url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FHome%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9540000131747&size=medium&count=true&annotation=&hl=th&jsh=r%3Bgc%2F24479126-6666cb8c#id=I1_1318737052760&parent=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th&rpctoken=700298103&_methods=onPlusOne%2C_ready%2C_close%2C_open%2C_resizeMe" frameBorder=0 width="100%" allowTransparency name=I1_1318737052760 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME>

<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> นายสมหวัง ถุงสุวรรณ ประธานชมรมผู้บริหารงานนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ ว่า ขณะนี้ระดับน้ำในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอินมีความสูงประมาณ 1.80 เมตร เสมอกับระดับน้ำด้านหน้าถนน ซึ่งระดับน้ำในนิคมอุตสาหกรรมขณะนี้ท่วมครบทั้งพื้นที่เต็ม 100% แล้ว และคงจะไม่สามารถทำอะไรได้ ต้องปล่อยให้น้ำแห้งไปเอง
ส่วนอุปกรณ์เครื่องจักรสำคัญของโรงงานต่างๆ ขนออกได้เพียงบางส่วนเท่านั้น และบางส่วนใช้วิธีการยกขึ้นที่สูง และห่อหุ้มด้วยพลาสติก ส่วนคนงานของบริษัทต่างๆ คาดว่าขณะนี้ยังมีเหลืออยู่ 7-8 บริษัท ที่ยังคงตรวจตราเฝ้าอยู่ด้านใน โดยได้มีการตัดกระแสไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอินแล้ว

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

กนอ.เร่งกู้นิคมฯไฮเทค ก่อนหาทางป้องกันสารเคมีรั่วไหล

วันที่ 16/10/2554 10:39 (ผ่านมา 2 นาที)



วันที่16ต.ค. นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ที่นิคมนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ขณะนี้ น้ำได้ทะลักเข้าไปภายในนิคมด้านหน้า ผ่านแนวคันดินที่พังทลายลงกว้างกว่า 40 เมตร ทางทิศใต้อีก 80เมตร ทำให้มีน้ำท่วมขังกว่า 4 เมตรแล้ว ส่วนน้ำบริเวณนอกนิคมฯ สูงเกือบ 9 เมตร ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้นำดินและหินเข้ามาอุดรอยรั่ว และเร่งซ่อมแซมรอยรั่วตามแนวเขื่อนกั้นน้ำด้านหลังนิคมฯ ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมนิคมฯ บ้านหว้า (ไฮเทค) น้ำได้เข้าท่วม 5 เมตร โดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กำลังเร่งกู้และได้สั่งให้ทุกนิคมฯที่ถูกน้ำท่วม นำสารเคมีที่เป็นอันตรายไปเก็บไว้นอกนิคมฯ มีเพียงบางส่วนที่ยังอยู่ในโรงงาน ก่อนจะผนึกไว้อย่างแน่นหนาแล้วนำไปเก็บบนจุดที่สูงที่สุด โดยมั่นใจในความปลอดภัยอย่างเต็มที่

ส่วนนิคมฯที่น่าเป็นห่วงขณะนี้คือเขตประกอบการอุตสาหกรรมนวนครและบางกะดี เนื่องจากนวนครอยู่ไม่ห่างจากนิคมฯ บางปะอิน และอยู่ในแนวน้ำไหลผ่าน หรือห่างจากแม่น้ำเพียง 7 กม. ซึ่งน้ำภายนอกนิคมฯ มีความสูงต่ำกว่าแนวสันเขื่อนเพียง 50 เซนติเมตร โดยทำการเร่งเสริมแนวคันดินเพิ่มอีก 50 เซนติเมตร ทำให้แนวคันดินกั้นน้ำมีความสูง 5 เมตร


ต้นฉบับ:



ที่มา: มติชนออนไลน์

 

คาดซ่อมประตูน้ำบ้านพร้าวเสร็จวันนี้

วันที่ 16/10/2554 10:00 (ผ่านมา 15 นาที)





ชาวออฟโรดนำรถบิ๊กฟุต เข้าช่วยเสริมกำลัง ขนคนรับถุงยังชีพที่ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี พร้อมเร่งซ่อมแซมประตูระบายน้ำบ้านพร้าวเต็มที่ เหลืออีกไม่ถึง 10 เมตร คาดเสร็จภายในวันนี้ ...

จ.ปทุมธานี วันที่ 16 ต.ค. 54 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดปทุมธานี พบว่าระดับน้ำที่ไหลเอ่อมาจาก อ.สามโคก และ เขต อ.เมืองปทุมธานี ได้มาบรรจบรวมตัวกันในเขต อ.เมือง และได้ขยายครอบคลุมพื้นที่เขตเทศบาลเมืองปทุมธานี และลุกลามไปยัง ต.บ้านฉาง ข้ามถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว ออกด้านหลังสนามกอล์ฟชวนชื่น และหมู่บ้านชวนชื่น ถ.ปทุม - นนทบุรี ต.บางคูวัด อ.เมือง รวมกับมวลน้ำจากถนน 345 ที่ได้ท่วมหมู่บ้านปาริชาต จนน้ำสูงท่วมทั้งหมู่บ้าน วัดระดับน้ำกว่า 60 ซม. และน้ำกำลังจะลามเข้าเขตพื้นที่ติดต่อ จ.นนทบุรี ส่งผลให้ประชาชนได้นำรถยนต์ออกมาจอดซ้อนคันตลอดแนวถนน ปทุม-นนทบุรี ทั้งขาเข้า และขาออก ยาวกว่า 4 กม. รวมทั้งตามสะพานข้ามคลองต่างๆ และสะพานปทุมธานี(1) สะพานปทุมธานี(2) ก็มีประชาชนนำรถยนต์จำนวนหลายร้อยคันมาจอดทิ้งไว้เต็มทุกสะพาน ซึ่งระดับน้ำริมถนนปทุม-นนทบุรี ช่วงเช้ายังต่ำกว่าผิวการจราจร กว่า 1 เมตร แต่พอช่วงเย็นระดับน้ำได้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 50 ซม.

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ประสานชมรมออฟโรด ในจังหวัดปทุมธานี นำโดยนายณัฐนันท์ จันทร รอง ปธ.สมาพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทย พร้อมนำทีมงานพร้อมรถออฟโรดอีกกว่า 20 คัน มาเสริมกำลังรถยนต์ ยีเอ็มซี ของเจ้าหน้าที่ทหารบก และจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ช่วยบรรทุกขนผู้โดยสารเดินทางเข้าและออกมารับถุงยังชีพ ที่ศาลากลางจังหวัด ซึ่งถุงยังชีพได้หมดก่อน และไม่พอแจกจ่าย จึงมีประชาชนจำนวนมากต้องเดินข้ามฟากฝั่งถนน เพื่อหาซื้อสิ่งของใช้จำเป็นที่ห้างสรรพสินค้า ขณะที่ พล.ต.ต คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (รรท.ผบช.ภ.1)ได้นำแผ่นโฟมขนาดใหญ่จำนวน กว่า 30 แผ่น มามอบให้แก่ชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อน ชุมชนละ 1-2 แผ่น เพื่อใช้สัญจร และเป็นของส่วนรวมของแต่ละชุมชน

ด้านประตูระบายน้ำคลองบ้านพร้าว ทีมงานชุดปฏิบัติการกู้คลองบ้านพร้าว ต.บ้านปทุม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี นำโดยนายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และกำลังคนกว่า 100 คน เร่งดำเนินการกู้คันกั้นน้ำ คลองบ้านพร้าว โดยดำเนินงานตามวิธีการวางแผนเดิม แต่ในเช้าวันนี้ มีทีมงานจากเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ร่วมดำเนินงานปฏิบัติการกู้ด้วย โดยได้นำเรือโป๊ะบรรทุกแท่งเหล็กชิพพลาย ล่องเข้ามาจากทางแม่น้ำเจ้าพระยา จากนั้นใช้โป๊ะช่วยชะลอความแรงของน้ำที่เชี่ยวกราก เพราะช่องทางน้ำถูกบีบให้แคบเหลือเพียง 10 เมตร จากนั้นใช้ยกแท่งเหล็กชิพพลายตอกลงพื้นดินตามวิธีการเดิม ส่วนรถแบ็กโฮจะต้องใช้แท่นปูนเสริมรองรถแบ็กโฮให้สูง เนื่องจากบริเวณช่องทางน้ำที่เหลือมีความลึกและแรง ประกอบกับแท่งเหล็กชิพพลายที่ใช้ในวันนี้ ต้องใช้ที่มีความยาวถึง 12 เมตร จึงทำให้คอตักแบ็กโฮกดตอกแท่งเหล็กชิพพลายได้ไม่สะดวก การนำรถแบ็กโฮขึ้นแท่นปูนจึงสามารถดำเนินการตอกแท่งเหล็กได้ ล่าสุดเหลือช่องทางน้ำอีกไม่ถึง 10 เมตรแล้ว ทางด้านทีมงานที่ช่วยกันดำเนินงาน ยืนยันจะดำเนินงานภารกิจนี้ให้เสร็จสิ้นในวันนี้แน่นอน.



ไทยรัฐออนไลน์

 

รพ.มหาราชโคราชส่งทีมแพทย์ตั้ง รพ.สนาม

วันที่ 16/10/2554 09:25 (ผ่านมา 1 ชั่วโมง 29 นาที)





รพ.มหาราชโคราชส่งทีมแพทย์ พยาบาล เภสัชฯ และพนักงานกู้ชีพสองชุด ตั้งโรงพยาบาลสนามช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคกลาง ด้านน้ำใจ มทส. ร่วมแรงสร้าง เรือน้ำใจปีบทอง 50 ลำ ช่วย ...

วันที่ 16 ตุลาคม ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา นายแพทย์ธีรพล โตพันธานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า รพ.มหาราชฯ ได้จัดทีมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล เภสัชกร พนักงานกู้ชีพ และทีมสนับสนุน ซึ่งเป็นทีมปฏิบัติงานชุดที่ 1 และ 2 ไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดอยุธยา โดยได้ไปตั้งโรงพยาบาลสนามที่ทุ่งนเรศวร และยังส่งทีมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล เภสัชกร พนักงานกู้ชีพ และทีมสนับสนุน ไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัด ลพบุรี พร้อมกันนี้ได้นำชุดถุงยังชีพไปมอบให้แก่ประชาชนด้วย

ด้านมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี(มทส.) ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีฯ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงในหลายจังหวัด ซึ่งหลายพื้นที่เรือที่จะเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยไม่เพียงพอ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกันมาก กลุ่มนักศึกษาสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ประกอบด้วยนายวัฒนา เพชรนอก นายเดชอนันต์ กลั่นอักโขนายสราวุธ ไปแดน นายอำคา จินาวงศ์ และนายธนวัฒน์ จันทร์น้ำใส โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร.ทวิช จิตรสมบูรณ์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา จึงได้คิดทำเรือน้ำใจปีบทอง เป็นเรือต้นแบบให้ชุมชนที่สนใจ นำไปสร้างเองได้ ใช้วัสดุหาง่าย ราคาไม่แพง และใช้งานได้ทันทียามฉุกเฉิน

นายวัฒนา เพชรนอก หนึ่งในทีมคิดสร้างเรือช่วยน้ำท่วม กล่าวว่า พวกเราเห็นว่าในพื้นที่น้ำท่วม เรือมีความจำเป็นมาก ไม่เพียงพอ หากจะซื้อก็ราคาแพง จึงคิดสร้างเรือผ้าใบที่สามารถทำขึ้นเองได้ เพื่อช่วยเหลือคนที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัย ใช้วัสดุอุปกรณ์ที่หาได้ง่าย มีเพียงเหล็กเส้น ผ้าใบรถบรรทุก หรือจะใช้ป้ายโฆษณาไวนิลที่มีอยู่ทั่วไปก็ได้ โดยเหล็กที่ใช้มี 3 ชนิด คือ เหล็ก 2 หุน 3 หุน และ 4 หุน ทำเป็นโครงเรือ ใช้ลวดมัดจุดเชื่อมต่อแล้วพันด้วยยางให้ยึดแน่น จากนั้นใช้ผ้าใบขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 3 เมตร เจาะตาไก่ร้อยเชือกผูกกับโครงเรือ ระยะเวลาในการทำก็ไม่นาน ถ้ามีความชำนาญในการเชื่อมเหล็ก เพียง 2 ชั่วโมง ก็จะได้เรือไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ขนย้ายผู้ป่วยหรือคนชรา บรรทุกสิ่งของหนีน้ำ ขนอาหาร/น้ำดื่มเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่น้ำท่วม ซึ่งเรือสามารถรับน้ำหนักได้ประมาณ 400 กิโลกรัม จะใช้ไม้พายช่วยพาย หรือถ้าระดับน้ำไม่ลึกมากก็ลากจูงได้ เรือลำนี้เป็นต้นแบบที่สร้างขึ้นมา ต้นทุนประมาณ 2,000 บาท เป็นค่าเหล็กเส้น 500 บาท กับค่าผ้าใบอย่างดีทนทานต่อการฉีกขาด 1,500 บาท ซึ่งชุมชนหรือผู้ที่สนใจสามารถนำแบบ “เรือน้ำใจปีบทอง” ไปสร้างไว้ใช้งานเองได้ เนื่องจากวิธีการไม่ยุ่งยาก เรือมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา คล่องตัว เน้นการใช้งานง่าย และใช้งานได้ทันที

รศ.ดร.ทวิช จิตรสมบูรณ์ อาจารย์สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล กล่าวว่า ขณะนี้นักศึกษาและบุคลากรร่วมแรงร่วมใจช่วยกันประกอบเรือช่วยน้ำท่วม เรือน้ำใจปีบทอง จากแนวคิดและการออกแบบ ซึ่งเราได้สร้างในเบื้องต้นจำนวน 50 ลำ ด้วยเงินสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีและเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา รวมทั้งภาคธุรกิจเอกชนที่ร่วมสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ อาทิ เหล็กเส้น ให้ความอนุเคราะห์รถเทรลเลอร์สำหรับขนส่งเรือเพื่อส่งไปช่วยบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ต่างๆ แล้ว โดยมีนักศึกษาสาขาวิศวกรรมเครื่องกลและสาขาวิชาต่างๆ นักศึกษาบัณฑิตศึกษา คณาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัยกว่า 300 คน รวมตัวกันช่วยสร้างเรือ จนกระทั่งแล้วเสร็จ และได้จัดส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย



ไทยรัฐออนไลน์

 

กทม.เสริมกระสอบทรายคันกั้นบางโพสูง 2.80 เมตร

วันที่ 16/10/2554 09:53 (ผ่านมา 20 นาที)



ภายหลังการตรวจแนวคันกั้นน้ำ ที่ท่าน้ำบางโพ เขตบางซื่อ ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กทม.ได้ทำกระสอบทรายมาเสริมเพิ่มเติมจากความสูงเดิมเป็น 2.80 เมตร พร้อมกับนำแบริเออร์คอนกรีต จำนวน 100 ชิ้น เข้าวางเสริมที่ฐานและตักดินมาอัดทำเป็นคันดิน เพื่อให้เกิดความแข็งแรง ในการป้องกันกระแสน้ำทะลักเข้ามายังพื้นที่ ทั้งนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ระบุว่า เป็นห่วงพื้นที่ฝั่งตะวันตก ซึ่งจะต้องคอยสังเกตุกระแสน้ำที่จะไหลเข้าสู่พื้นที่ด้านใน ก่อนจะทำคันกั้นตามจุดต่างๆ เนื่องจากไม่สามารถทำคันกั้นได้ตลอดแนวพุทธมณฑลสาย 4 เนื่องจากเป็นถนนสายยาว


ต้นฉบับ:



ที่มา: มติชนออนไลน์

 

'นครสวรรค์' เมื่อ 'สวรรค์' จมน้ำ!!!

วันที่ 16/10/2554 10:00 (ผ่านมา 17 นาที)





ภาพเล่าเรื่องอาทิตย์นี้ เป็นอีกหนึ่งสีสันใหม่ๆ

โดยพิธีกรสาวสวยที่ควบตำแหน่ง แฟชั่นนิสต้าตัวจริงเสียงจริงแล้ว เธอยังเป็นนักถ่ายภาพตัวยง และสะสมกล้องถ่ายรูป จากนี้เธอจะมาแจมคอลัมน์นี้เดือนละ 2 ครั้ง ประเดิมภาพเล่าเรื่องครั้งแรก มายด์บอกว่าเกิดขึ้นจากการก่อตั้งกลุ่ม “LOVE heals Charity” ขึ้นใน Facebook เพื่อเป็นศูนย์กลางรับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน จ.นครสวรรค์ ที่ทั้งจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัย ใช้เวลาเพียง 1 อาทิตย์ กลุ่มเพื่อนจากโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย กลุ่ม YEP รุ่น 11 ผู้สนับสนุนใจบุญไม่ออกนาม และพี่ป้าน้าอา ต่างสมทบทุนซื้อของมาช่วยกันเต็มที่ เรียกได้ว่า ในขณะที่พี่น้องคนไทย 2 ล้านคนกำลังลำบาก เพื่อนร่วมชาติที่เหลือต่างก็ช่วยกันคนละไม้คนละมือ

นี่แหละน้ำใจคนไทย ที่ไม่เคยทอดทิ้งกัน!!



เรื่อง/ภาพ: มายด์ กุณฑีรา ปัจฉิมสวัสดิ์

ชมภาพเพิ่มเติมได้ที่ Khunteera Pachimsawat | Facebook
T: @MindPachimsawat
Instragram: Khunteera

 

สสว.เปิดสายด่วน 1301 ช่วย SME หลังได้รับผลกระทบน้ำท่วม

วันที่ 16/10/2554 10:10 (ผ่านมา 15 นาที)



สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดศูนย์ประสานความช่วยเหลือ SMEs ที่ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้คำปรึกษาเบื้องต้นแก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่ประสบภัยน้ำท่วมและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสำรวจความเสียหายและรวบรวมความต้องการขอรับความช่วยเหลือของผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศ โดยติดต่อได้ที่ สสว. Call Center 1301 วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


ต้นฉบับ:



ที่มา: มติชนออนไลน์

 

ไข่ไก่จ่อขยับราคา หลังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

วันที่ 16/10/2554 09:39 (ผ่านมา 51 นาที)



วันที่16ต.ค. จากผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่นั้น นายณรงค์ เจียมใจบรรจง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้า และผู้ส่งออกไข่ไก่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลผลิตเสียหายค่อนข้างมาก ทำให้ปริมาณไข่ไก่ที่จะออกสู่ตลาดมีจำนวนน้อยลง จึงคาดว่า อาจจะต้องมีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ ผลผลิตไก่เนื้อยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่เลี้ยงในที่ดอน


ต้นฉบับ:



ที่มา: มติชนออนไลน์

 

น้ำคลองบางแก้วทะลักท่วมนครชัยศรี จ.นครปฐม สูงกว่า50ซม.

วันที่ 16/10/2554 08:29 (ผ่านมา 2 ชั่วโมง 30 นาที)



วันที่16ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วม ที่บริเวณวัดท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม หลังถูกใช้เป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย น้ำจากคลองบางแก้วได้เอ่อล้นเข้าท่วมบริเวณวัดและบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ริมฝั่งคลองทั้ง 2 ด้านสูงกว่า 50 ซม. แม้จะนำกระสอบทรายมากั้นแล้วก็ตาม แต่ไม่สามารถกั้นน้ำที่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ที่กุฏิพระวินัยสังวร เจ้าอาวาสวัดท่าตำหนัก น้ำได้เอ่อท่วมจนไม่สามารถจำวัดได้ ก่อนจะช่วยกันขนย้ายสิ่งของออกมา เช่นเดียวกับชาวบ้านที่อพยพมาอยู่ที่ศูนย์ ก็ได้รับความเดือดร้อนตามไปด้วย


ต้นฉบับ:



ที่มา: มติชนออนไลน์

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เลยเปิดศูนย์รับบริจาคช่วยน้ำท่วม หน้าปั๊ม ปตท.กลางเมือง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>16 ตุลาคม 2554 00:09 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT><IFRAME style="WIDTH: 110px; HEIGHT: 20px" class="twitter-share-button twitter-count-horizontal" title="Twitter For Websites: Tweet Button" src="http://platform.twitter.com/widgets/tweet_button.html#_=1318737770545&count=horizontal&id=twitter_tweet_button_0&lang=en&original_referer=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FLocal%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9540000131625&text=%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A8%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%20%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B9%8A%E0%B8%A1%20%E0%B8%9B%E0%B8%95%E0%B8%97.%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87&url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FLocal%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9540000131625&via=ASTVManager" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>

Share
<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT><IFRAME style="POSITION: static; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; WIDTH: 90px; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 20px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=I1_1318737772508 title=+1 tabIndex=-1 marginHeight=0 src="https://plusone.google.com/u/0/_/+1/fastbutton?url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FLocal%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9540000131625&size=medium&count=true&annotation=&hl=th&jsh=r%3Bgc%2F24479126-6666cb8c#id=I1_1318737772508&parent=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th&rpctoken=270193638&_methods=onPlusOne%2C_ready%2C_close%2C_open%2C_resizeMe" frameBorder=0 width="100%" allowTransparency name=I1_1318737772508 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME>

<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9540000131625&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เลย-จังหวัดเลยตั้งศูนย์รับบริจาคสิ่งของเงินทองช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม หลายรายนำรถยนต์ออกวิ่งรับบริจาคตามหมู่บ้านรวมกัน แล้วนำมาบริจาคที่ศูนย์รับบริจาค

นายธงชัย ลืออดุลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วย นายสุเทพ มณีโชติ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเลย เปิดศูนย์รับบริจาคสิ่งของเงินทองเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วม ที่หน้าปั้มน้ำมัน ปตท.ในเทศบาลเมืองเลย โดยมีประชาชนชาวจังหวัดเลยให้ความสนใจ นำข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม เงินสด มาร่วมบริจาคกันอย่างคึกคัก บางรายนำรถยนต์ออกวิ่งรับบริจาคตามหมู่บ้านรวมกันแล้ว นำมาบริจาคที่ศูนย์รับบริจาค

นายธงชัย กล่าวว่า ขณะนี้เป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่าพี่น้องประชาชนในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง กำลังประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่งในด้านที่อยู่อาศัย อาหารและน้ำดื่ม เนื่องจากน้ำท่วมมาเป็นแรมเดือนแล้วและไม่มีท่าทีว่าจะลดลง จึงร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเลย ตั้งศูนย์รับบริจาคดังกล่าว

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชาวเมืองน้ำดำระดมเงิน 1.8 ล้านพร้อมสิ่งของช่วยน้ำท่วมภาคกลาง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>16 ตุลาคม 2554 00:06 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT><IFRAME style="WIDTH: 110px; HEIGHT: 20px" class="twitter-share-button twitter-count-horizontal" title="Twitter For Websites: Tweet Button" src="http://platform.twitter.com/widgets/tweet_button.html#_=1318737822226&count=horizontal&id=twitter_tweet_button_0&lang=en&original_referer=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FLocal%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9540000131554&text=%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%94%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%201.8%20%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87&url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FLocal%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9540000131554&via=ASTVManager" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>

Share
<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT><IFRAME style="POSITION: static; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; WIDTH: 90px; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 20px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=I1_1318737822943 title=+1 tabIndex=-1 marginHeight=0 src="https://plusone.google.com/u/0/_/+1/fastbutton?url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FLocal%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9540000131554&size=medium&count=true&annotation=&hl=th&jsh=r%3Bgc%2F24479126-6666cb8c#id=I1_1318737822943&parent=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th&rpctoken=888913738&_methods=onPlusOne%2C_ready%2C_close%2C_open%2C_resizeMe" frameBorder=0 width="100%" allowTransparency name=I1_1318737822943 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME>

<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9540000131554&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>กาฬสินธุ์-จังหวัดกาฬสินธุ์เตรียมส่งมอบของบริจาคทั้งที่เป็นสิ่งของอาหารสดอาหารแห้งและเงินสดมูลค่ากว่า 1.8 ล้านบาทช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคกลางผ่าน ศปภ.ดอนเมือง ด้านชาว “ภูไท”บริจาคข้าวสารเหนียว 2 ตัน นำไปขายสมทบทุนช่วยผู้ประสบภัย

วันที่ 15 ต.ค.ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดกาฬสินธุ์ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานปิดศูนย์รับบริจาคข้าวของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นและข้าวสารอาหารแห้งจะบรรทุกไปในรถ 3 คันที่จะนำส่งไปยังผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.ลพบุรี จ.อยุธยา จ.นครสวรรค์

นอกจากนี้ยังจะนำเช็คเงินสดที่ได้รับบริจาคตลอด 5 วันจากชาวกาฬสินธุ์ทั้ง 18 อำเภอมูลค่ากว่า 1,813,999 บาท โดยจะนำไปมอบให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผ่านไปยังนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้ากองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัย นอกจากนี้ได้แบ่งเงินส่วนหนึ่งจำนวน 50,000 บาท จัดเลี้ยงอาหารให้กับชาวบ้านที่ช่วยกันเสริมพนังกั้นลำน้ำชีด้วย

นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นกล่าวว่า เงินบริจาคและข้าวของทั้งหมดรับรองว่าจะถูกจัดส่งไปถึงมือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อย่างแน่นอน ซึ่งน้ำใจของชาวกาฬสินธุ์ถึงจะไม่มายมหาศาลแต่เป็นกำลังใจส่วนหนึ่งที่ส่งไปยังผู้ประสบภัย ทั้งนี้ประชาชนที่ต้องการจะบริจาคเพิ่มเติมสามารถติดต่อมายังศาลากลางจังหวัดได้ในช่วงนี้ซึ่งทางจังหวัดก็จะรวบรวมส่งต่อไปให้ผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามชาวบ้านในอำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ภูไท ได้ร่วมบริจาคข้าวสาร ซึ่งเป็นข้าวเหนียวเขาวงอย่างดีจำนวนกว่า 2 ตันมามอบให้กับทางจังหวัดโดยบรรจุมาในถุงพลาสติกของคนทั้งอำเภอ ซึ่งได้สร้างความตื้นตันใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่รับบริจาคเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ข้าวเหนียวซึ่งไม่ค่อยสะดวกในการประกอบอาหาร ทางจังหวัดจึงมีมติให้เปิดขายในราคากิโลกรัมละ 25 บาท ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเงินทั้งหมดจะเข้าสมทบเป็นรายได้ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเช่นกัน

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อบจ.หนองคายส่งกล้วย 8 ตันช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>16 ตุลาคม 2554 00:02 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT><IFRAME style="WIDTH: 110px; HEIGHT: 20px" class="twitter-share-button twitter-count-horizontal" title="Twitter For Websites: Tweet Button" src="http://platform.twitter.com/widgets/tweet_button.html#_=1318737863291&count=horizontal&id=twitter_tweet_button_0&lang=en&original_referer=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FLocal%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9540000131549&text=%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%88.%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%208%20%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%20&url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FLocal%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9540000131549&via=ASTVManager" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>

Share
<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT><IFRAME style="POSITION: static; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; WIDTH: 90px; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 20px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=I1_1318737864159 title=+1 tabIndex=-1 marginHeight=0 src="https://plusone.google.com/u/0/_/+1/fastbutton?url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FLocal%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9540000131549&size=medium&count=true&annotation=&hl=th&jsh=r%3Bgc%2F24479126-6666cb8c#id=I1_1318737864159&parent=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th&rpctoken=177022403&_methods=onPlusOne%2C_ready%2C_close%2C_open%2C_resizeMe" frameBorder=0 width="100%" allowTransparency name=I1_1318737864159 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME>

<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9540000131549&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>หนองคาย-อบจ.หนองคายซื้อกล้วยหอมไข่จากชาวสวนในอำเภอสังคม 8,000 กิโลกรัม นำขึ้นรถบรรทุกจากหนองคายไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคกลาง ให้ผู้ไม่มีอุปกรณ์หุงหาอาหารมีของที่กินได้ทันที

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 ต.ค. ที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย นายยุทธนา ศรีตะบุตร นายก อบจ.หนองคาย, นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ รองนายก อบจ. พร้อมคณะ ได้ตรวจความเรียบร้อยพร้อมปล่อยขบวนรถบรรทุก นำกล้วยหอมไข่ จำนวน 8,000 กิโลกรัม เดินทางจากจังหวัดหนองคายมุ่งหน้าสู่จังหวัดภาคกลางที่ประสบภัยน้ำท่วม

นายยุทธนา กล่าวว่า ตนได้รับการติดต่อจากผู้มีจิตศรัทธาในจังหวัดหนองคายมอบเงินจัดสรรช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดต่าง ๆ จึงเห็นว่าอาหารเป็นสิ่งจำเป็น หากให้ข้าวสารไปแต่ประชาชนที่เดือดร้อนไม่มีไฟฟ้า หรือไม่มีแก๊สหุงหาอาหาร ก็เปล่าประโยชน์ ประกอบกับจังหวัดหนองคาย โดยเฉพาะที่อำเภอสังคม เป็นแหล่งปลูกกล้วยขึ้นชื่อของจังหวัดส่งขายตามตลาดใหญ่ ๆ ทั่วประเทศ จึงขอซื้อกล้วยจากชาวสวน ใส่ถุงพลาสติกพร้อมบรรจุเข่ง โดยกล้วยจะสุกภายใน 2 วัน ผู้ประสบภัยน้ำท่วมสามารถเก็บไว้รับประทานในครอบครัวได้ หากการจัดส่งกล้วยไปช่วยเหลือในครั้งนี้ไม่มีปัญหาอุปสรรค อบจ.หนองคาย ก็พร้อมจะจัดส่งไปช่วยเหลืออีกในครั้งต่อไป

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แคนนอนยันไม่ย้ายฐานผลิตแม้โรงงานเจอน้ำท่วมหนัก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>15 ตุลาคม 2554 23:52 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT><IFRAME style="WIDTH: 110px; HEIGHT: 20px" class="twitter-share-button twitter-count-horizontal" title="Twitter For Websites: Tweet Button" src="http://platform.twitter.com/widgets/tweet_button.html#_=1318737902903&count=horizontal&id=twitter_tweet_button_0&lang=en&original_referer=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FLocal%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9540000131548&text=%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81&url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FLocal%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9540000131548&via=ASTVManager" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>

Share
<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9540000131548&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=bottom width=1 align=right></TD><TD height=1 vAlign=bottom background=/images/linedot_hori.gif align=middle></TD><TD height=1 vAlign=bottom width=1 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=middle></TD><TD><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=middle></TD></TR><TR><TD height=1 vAlign=top width=1 align=right></TD><TD height=1 vAlign=top background=/images/linedot_hori.gif align=middle></TD><TD height=1 vAlign=top width=1 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>กิจกรรม Canon Photo Marathon Thailand 2011 แข่งขันถ่ายภาพแบบมาราธอน ที่ห้างเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายวรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานคอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ศูนย์ข่าวขอนแก่น-แคนนอนโอ่กระแสตอบรับแข่งขันถ่ายภาพมาราธอนสูงขึ้น รุกจัดกิจกรรม Canon Photo Marathon ออกสู่ต่างจังหวัด ประเดิมกิจกรรมปี 2011 ที่ จ.ขอนแก่นเป็นแรก ยันเป็นผู้นำตลาดกล้อง DSLR ต่อเนื่อง ย้ำไม่ย้ายฐานผลิตแม้โรงงานผลิตในไทยประสบปัญหาน้ำท่วมหนัก

วันนี้ (15ต.ค.54) ที่ลานข้าวเหนียว ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล จังหวัดขอนแก่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด จัดกิจกรรม Canon Photo Marathon Thailand 2011 แข่งขันถ่ายภาพแบบมาราธอน ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีช่างภาพ และผู้สนใจในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง เข้าร่วมแข่งขันจำนวนมาก

นายวรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานคอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า การจัดแข่งขันถ่าย Canon Photo Marathon Thailand ได้รับการตอบรับสูง มีร่วมแข่งขันเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุก โดยปี 2007 มีผู้ร่วมแข่งขันกว่า 300 คน ปี 2008 เพิ่มเป็น 500 คน ล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมแข่งขันมากถึง 2,000 คนในกรุงเทพฯ และอีก 700 คนในต่างจังหวัด

แคนนอนได้ขยายกิจกรรมไปยังพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ และขอนแก่น ซึ่งการจัดกิจกรรม Canon Photo Marathon Thailand 2011 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 โดยเพิ่มโควตาผู้เข้าร่วมแข่งขันรวมเป็น 4,900 คน ใน 4 จังหวัด เริ่มต้นที่จังหวัดขอนแก่น 5 พ.ย.ที่เซ็นทรัลแอร์พอร์ตพลาซ่า เชียงใหม่ 12 พ.ย.ที่เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต เวทีสุดท้าย 19 พ.ย.ที่มอเตอร์สปอร์ต แลนด์ (แดนเนรมิต) กรุงเทพฯ

สำหรับกิจกรรม Canon Photo Marathon Thailand เป็นหนึ่งในโครงการแข่งขัน Canon Photo Marathon ASIA ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในกลุ่มประเทศเอเชีย ประกอบด้วย ไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินเดีย เวียดนาม โดยรับสมัครเฉพาะลูกค้าชาวไทยที่ใช้กล้องดิจิตอลแคนนอนเท่านั้น ไม่จำกัดรุ่นกล้อง เพศ วัย และประสบการณ์

แคนนอน ยังเป็นผู้นำกล้องดิจิตอลแบบดีเอสแอลอาร์มาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กล้องดิจิตอลแบบคอมแพค แคนนอนแชร์ตลาดอยู่ที่อันดับ 2 ทั้งนี้ผลกระทบจากน้ำท่วมโรงงานผลิตที่ประเทศไทย ยังไม่สามารถมูลค่าสรุปความเสียหายได้ชัดเจน แคนนอนไม่มีแผนย้ายฐานผลิตไปยังประเทศ ประเทศไทยยังคงเป็นฐานผลิตหลักในภูมิภาคนี้ ซึ่งแคนนอนได้ร่วมกับห้างเซ็นทรัล ขอนแก่น จัดพื้นที่รับบริจาคเงินและสิ่งของ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศด้วย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

"น้ำท่วม" ทำคนไทยส่วนใหญ่เครียด!! ต้องหยุดติดตามข่าว คุยระบายคนใกล้ชิด อยู่คนเดียว

วันที่ 16/10/2554 10:00 (ผ่านมา 1 ชั่วโมง 5 นาที)



จากวิกฤติน้ำท่วมร้ายแรงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยขณะนี้ สร้างความสูญเสียให้กับประชาชนในหลายพื้นที่ของประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ความรุนแรงของเหตุการณ์น้ำท่วมที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้นั้น โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครที่อาจมีแนวโน้มจะประสบกับปัญหาน้ำท่วมหนักระดับความรุนแรงเทียบเท่ากับ "น้ำท่วม ปี 2538"
"สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นจากผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งโดยตรงและโดยอ้อม จากเหตุการณ์น้ำท่วมโดยใช้การโทรศัพท์สัมภาษณ์และลงพื้นที่ในบางส่วนจากตัวแทน 15 จังหวัด ทั่วประเทศ

จำนวน 1,634 คน ระหว่างวันที่ 10-15 ตุลาคม 2554 สรุปผลได้ดังนี้
1 . ความรู้สึกของประชาชน ต่อ การรับรู้ รับฟังข้อมูลข่าวสารน้ำท่วมเป็นอย่างไร?
อันดับ 1ค่อนข้างเครียด44.36% เพราะ กลัวบ้านตัวเองจะถูกน้ำท่วมและเห็นใจผู้ที่ถูกน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ เป็นเหตุการณ์น้ำท่วมที่รุนแรงของประเทศไทย ฯลฯ
อันดับ 2เครียดมาก29.37% เพราะ มีการนำเสนอข่าวน้ำท่วมอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานานนับเดือน ทำให้เกิดการวิตกกังวลไปต่างๆ นานา ฯลฯ
อันดับ 3ไม่ค่อยเครียด16.69% เพราะ มีการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมไว้แล้ว มั่นใจว่าที่บ้านไม่ท่วม ส่วนราชการมีการป้องกันอย่างเต็มที่ ฯลฯ
อันดับ 4ไม่เครียด 9.58% เพราะ คิดว่าเป็นภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ควรรับฟังอย่างมีสติและเตรียมรับมือหรือป้องกันจะดีกว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ฯลฯ
2. “วิธีคลายเครียดและวิตกกังวล” ของ ประชาชน กรณีน้ำท่วม



อันดับ 1หยุดติดตามข่าวสารน้ำท่วมสักพัก หากิจกรรมอย่างอื่นมาทำแทน /พูดคุยกับเพื่อน หรือคนในครอบครัวเพื่อจะได้ระบายความวิตกกังวลออกมา /ไม่คิดวิตกกังวลอยู่คนเดียว49.85%

อันดับ 2ต้องทำใจ ยอมรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น / ให้กำลังใจตัวเอง มองโลกในแง่ดี และควรหาทางป้องกันหรือมีการเตรียมพร้อมรับมือกับน้ำท่วม41.31%
อันดับ 3ควรมองคนที่ลำบากหรือแย่กว่าเราเพื่อจะได้มีกำลังใจที่จะฝ่าฟันอุปสรรคครั้งนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ 8.84%


3. “วิธีป้องกัน” กรณี ที่มีโจรขโมยฉวยโอกาสช่วงน้ำท่วมในการลักขโมยทรัพย์สินตามบ้านเรือน
อันดับ 1เพิ่มสายตรวจหรือกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตระเวน ตรวจตราพื้นที่ต่างๆให้มากขึ้น /มีบทลงโทษที่รุนแรง63.42%
อันดับ 2เก็บรวบรวมทรัพย์สินที่มีค่าไว้ในที่ปลอดภัย ปิดประตูหน้าต่างให้แน่นหนา21.98%
อันดับ 3คนในชุมชนหรือเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันควรช่วยกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแล 14.60%

4. “วิธีป้องกัน” กรณี ที่มีการขายสินค้าอุปโภค บริโภคเกินราคาในช่วงน้ำท่วม
อันดับ 1กระทรวงพาณิชย์จะต้องมีการตรวจสอบราคาสินค้าอย่างเข้มงวด/เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดูแลความเรียบร้อย47.72%
อันดับ 2มีการประกาศเตือนพ่อค้า แม่ค้า/พร้อมแจ้งมาตรการ บทลงโทษที่รุนแรงกับผู้ที่ฉวยโอกาสขายสินค้าเกินราคา45.44%
อันดับ 3ประชาชนเองไม่ควรซื้อสินค้ากับร้านที่ขายเกินราคา หากพบเจอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ของรัฐทันที 6.84%
5. ความคิดเห็นต่อการช่วยเหลือของ “ประชาชน” กับ “ประชาชนที่ถูกน้ำท่วม” เป็นอย่างไร?
อันดับ 1คนไทยต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่ /การบริจาคเงิน สิ่งของ เครื่องใช้ และแรงกายแรงใจ57.94%
อันดับ 2รู้สึกซาบซึ้งถึงน้ำใจของคนไทยด้วยกัน คนไทยไม่ทอดทิ้งกัน เป็นการแสดงออกซึ่งความรัก สามัคคี33.67%
อันดับ 3ยังมีคนบางกลุ่มที่ฉวยโอกาสจากเรื่องน้ำท่วมมาแอบอ้างเพื่อหาผลประโยชน์ให้ตนเอง 8.39%


6. สิ่งไหน/เรื่องใด? ควรทำเป็นอย่างแรกหลังน้ำท่วม
อันดับ 1ซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้าง อาคาร บ้านเรือนและระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่ได้รับความเสียหายให้เข้าสู่สภาพปกติ54.50%
อันดับ 2สำรวจความเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมให้การช่วยเหลือและดูแลผู้ประสบภัยจนกว่าจะช่วยเหลือตัวเองได้23.67%
อันดับ 3การเยียวยา ฟื้นฟูทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ประสบภัย เพื่อให้มีกำลังใจที่จะต่อสู้ต่อไป21.83%


7. การแก้ปัญหาระยะยาวเกี่ยวกับน้ำท่วมควรทำอย่างไร?
อันดับ 1การศึกษา วางแผนระบบการระบายน้ำ เส้นทางน้ำต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ /การเตรียมการป้องกัน น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นในครั้งต่อไป53.65%
อันดับ 2ระดมความคิดเห็นทั้งผู้เชี่ยวชาญในไทยและจากต่างประเทศมาประชุมหารือเพื่อหาแนวทางป้องกัน และแก้ไขปัญหาในระยะยาว ทั้งนี้รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญและสนับสนุนอย่างเต็มที่โดยเฉพาะ เรื่องงบ

ประมาณ23.65%
อันดับ 3การสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนเรื่องน้ำท่วมในการรับมือและป้องกันเมื่อจะต้องเผชิญปัญหาน้ำท่วม /นำเรื่องน้ำท่วมขึ้นมาเป็นวาระเร่งด่วนหรือเป็นวาระแห่งชาติ22.70%
8 . จากสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นหรือจุดเปลี่ยนของการสร้างความปรองดอง การร่วมมือกันระหว่าง “รัฐบาล” กับ “ฝ่ายค้าน” ได้หรือไม่?

อันดับ 1ไม่แน่ใจ42.33%เพราะ การช่วยเหลือเรื่องน้ำท่วมกับเรื่องการเมืองเป็นคนละเรื่องกัน ,ยังไม่เห็นทั้ง 2 ฝ่ายมีการร่วมมือกันอย่างจริงจัง ฯลฯ
อันดับ 2ได้29.55% เพราะ ความสามัคคี ปรองดองเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ให้ผ่านพ้นไปได้ การร่วมแรงร่วมใจเป็นสิ่งสำคัญ ฯลฯ
อันดับ 3ไม่ได้28.12% เพราะ ต่างฝ่ายต่างมีวิธีการหรือมีแนวคิดที่แตกต่างกัน ,เป็นธรรมชาติของการเมืองไทยที่จะต้องมีการแบ่งขั้วทางการเมือง ฯลฯ
9. “บทเรียน” ที่คนไทยได้รับจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้
อันดับ 1น้ำท่วมครั้งนี้สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของประเทศ และก่อให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างประเมินค่ามิได้33.98%
อันดับ 2ภาครัฐจะต้องมีการดำเนินการป้องกัน แก้ไขเรื่องน้ำท่วมในระยะยาวอย่างจริงจังและจะต้องทำทันที 30.83%
อันดับ 3วิกฤตการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการทำลายป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ /ขาดการสำรวจความพร้อมของการรองรับน้ำจากแหล่งต่างๆ ได้แก่ เขื่อน แม่น้ำ คูคลอง และทะเลอย่างมีประสิทธิภาพ18.77%
อันดับ 4การเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับน้ำท่วมที่อาจจะมีขึ้นอีกในครั้งต่อไป /ประชาชนจะต้องศึกษา รู้จักดูแลตนเองในการเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับน้ำท่วม16.42%


ต้นฉบับ:



ที่มา: มติชนออนไลน์

 

เรียนรู้จากปัญหา

วันที่ 16/10/2554 09:27 (ผ่านมา 1 ชั่วโมง 40 นาที)



เหตุอุทกภัยที่มีพื้นที่เสียหายหนักหน่วงในรอบหลายปี ในขณะนี้เชื่อว่า กระทบต่ออัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ไปแล้ว มากกว่า 0.6-0.9% เป็นมูลค่าราว 7 หมื่นล้านบาท และความที่น้ำยังไม่ลด ตัวเลขความเสียหายจึงไม่นิ่ง แต่ที่น่าเป็นห่วงไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ก็คือการไม่สามารถหยุดความรุนแรง หรือลดความเดือดร้อนลงได้ ทั้งยังมีความผิดพลาดจากการสื่อสารเตือนภัย ทำให้เกิดความสับสน โกลาหล เป็นต้นตอของการกระพือข่าวร้ายที่คลาดเคลื่อนให้แพร่หลาย กลายเป็นภัยซ้ำเติมเข้าไปอีก

สิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้น คือการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการที่ผิดความเป็นจริง โดยคณะบุคคลที่ประกอบด้วยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ที่มีหน้าที่โดยตรงของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมร่วมอยู่ด้วย ซึ่งแม้จะแก้ข่าวได้ภายในเวลาอันสั้น แต่ความสับสน หวาดกลัว ในช่วงเวลานั้น ก็ก่อความเสียหายที่ไม่อาจประเมินได้ และอีกไม่นานหลังจากนั้น ก็มีข่าวประชาสัมพันธ์ การประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ก็คลาดเคลื่อนซ้ำ เพราะไปดึงข่าวจากเว็บไซต์อื่น เพื่อเสนอข่าวสารให้รวดเร็ว กรณีต่าง ๆเหล่านี้แสดงถึงการขาดความแม่นยำในการตรวจสอบข้อมูลก่อนเผยแพร่ทั้ง ๆ ที่เป็นหน่วยงานสำคัญที่เป็นองค์กรหลักเพื่อการอ้างอิง

ภาวะน้ำท่วมหลายจังหวัด ส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณประเทศไทยตอนบน เริ่มคลี่คลาย ไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่มปริมาณ แต่ข่าวล่าสุดของกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า ความกดอากาศสูงจะแผ่ลงมา ทำให้ร่องความกดอากาศต่ำ ตัวการก่อฝน เลื่อนลงไปภาคใต้ อาจเกิดฝนตกหนักบางพื้นที่ มีความเสี่ยงน้ำท่วมขึ้นได้ จึงควรรีบพิจารณาศึกษาหาทางแก้ไขจุดอ่อน ความบกพร่อง เพื่อไม่ให้มีความผิดพลาด คลาดเคลื่อนอย่างเป็นทางการขึ้นได้อีก เพราะถึงอย่างไรในครั้งนี้ รัฐบาลยังได้รับความเห็นใจกับการรับมือภัยที่มาอย่างรุนแรงหนักหน่วงโดยไม่ทันตั้งตัว แต่หากผิดพลาดซ้ำในเรื่องที่ไม่น่าเกิด คงไม่มีใครให้อภัยบ่อยนัก

น้ำท่วมครั้งนี้ ถึงจะรุนแรงและขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนยากจะแก้ไข แต่ก็มีจุดเด่นที่มีอาสาสมัครภาคเอกชน ที่มีประสบการณ์เข้าช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยได้ดีกว่าหน่วยงานรัฐในบางจุด ซึ่งน่าจะทำให้ภาครัฐจัดการกับการระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ แต่กลับทำได้ไม่ดีพอ ทั้งยังทำให้ประชาชนสับสนในข้อมูลมาตลอด โดยเฉพาะข้อกังวลว่ากรุงเทพฯจะรอดพ้นภัยน้ำท่วมหรือไม่ พื้นที่ชานเมืองจะต้องอยู่กับความเสี่ยงอีกนานขนาดไหน ก็ไม่สามารถบอกได้ เหล่านี้เป็นประเด็นที่ควรรีบแก้ไขให้ได้โดยไม่ชักช้า.


ต้นฉบับ: Daily News Online > หน้าการเมือง > บทนำ > เรียนรู้จากปัญหา



ที่มา: เดลินิวส์

 

<object width="640" height="360"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/GtgIVFKGoNo&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/GtgIVFKGoNo&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="360"></embed></object>

<object width="640" height="360"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/LA_v9le0rDQ&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/LA_v9le0rDQ&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="360"></embed></object>

 

ข่าวก็คือข่าว

 

จะได้ดูเหมือนว่าเขามีส่วมร่วมในการช่วยน่ะถ้ามันสำเร็จ นี้เป็นอีก1บทบาทของผู้คนจะได้จดจำไปเถียงกันต่อในวาระต่อไปสำหรับประเทศที่มีแต่แบ่งฝ่ายจนขาดจากกันไปเสียแล้ว ทำอะไรก็รีบทำเถอะรอช้าไม่ได้อีกแล้วสำหรับภัยน้ำในครั้งนี้ช่วยๆกันครับสีอะไรก็ช่วยกันเลยไม่ต้องคิดแล้วจ้าบรรพบุรุตของเราทั้งนั้นเชื้อสายเหล่ากอเดียวกันหมด สำหรับที่ผมอ้างอิงกระผมก็เคยคิดเช่นนั้นแต่ตอนนี้ใครอยากทำอะไรที่เป็นการช่วยได้ไม่มากก็น้อย หรือช้า เร็วไม่สนแล้วครับขอให้มีส่วมร่วมพอ กรรมจัดสรรค์ตามวาระแก่คนที่กระทำในกรรมดี หรือ ไม่ดีตามกำลังของแต่ละคนครับ ถือว่าก็ยังดีครับ ปล.ใครทำอะไรได้จงรีบทำครับวาระสำคัญกำลังจะมาถึงในไม่ช้าไม่เร็วนี้ครับ