WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

น้ำท่วมทำท่องเที่ยวกาญจน์เข้าขั้นวิกฤต

17 ตค. 2554 06:53 น.

นายอิสสระพงษ์ แทนสิริ ผอ.ททท.สนง.กาญจนบุรี กล่าวว่า จากการเกิดเหตุน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ตัวเลขการท่องเที่ยวลดน้อยลงไป เนื่องจากนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไม่สะดวก อีกส่วนหนึ่งต้องเผชิญกับเหตุน้ำท่วม ทั้งที่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆของจังหวัดกาญจนบุรี ไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด ยังสามารถเดินทางเข้าท่องเที่ยวได้ตามปกติ ผู้ปกครองหรือนักเรียนที่อยู่ในช่วงปิดภาคเรียน ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ก็สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้

ด้าน นายทรงวุฒิ ศีลแดนจันทร์ นายกสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ในเรื่องผลกระทบที่ได้รับจากเหตุน้ำท่วมของจังหวัดกาญจนบุรี นั้นช่วงนี้ยอมรับว่าได้รับผลกระทบกระเทือนกว่าร้อยละ 90 ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แพพัก โรงแรม รีสอร์ตได้รับผลกระทบอย่างถ้วนหน้า ซึ่งจากการประชุมสมาชิกในสมาคมส่งเสริมท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี ที่ผ่านมาล่าสุดคาดการกันว่าตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา จนถึง ณ ปัจจุบันนี้ความเสียหายสถานประกอบการห้องพักซึ่งไม่รวมแพพัก ร้านอาหาร ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งหากรวมเบ็ดเสร็จไม่น่าจะต่ำกว่า 70 ล้านบาท เพราะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่หายไปเป็นกลุ่มที่เข้ามาประชุมสัมมนา และกลุ่มที่เป็นนักท่องเที่ยวแบบครอบครัว ซึ่งขณะนี้ได้ขอยกเลิกการจองเข้ามาเกือบทั้งหมด ซึ่งจะกระทบไปถึงเดือนพฤศจิกายน ด้วย ซึ่งถ้ารวมตัวเลขที่ได้รับผลกระทบทั้ง 2 เดือนแล้วคาดว่าจะเสียหายไม่ต่ำกว่า 200 ล้าน ตัวเลขนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะกระทบไปถึงเดือนธันวาคมหรือไม่

นายกสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวถึงการแก้วิกฤติตรงนี้ว่า ได้แจ้งสมาชิกของสมาคมฯ ไปว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นไม่มีใครคาดการณ์มาก่อน แต่ก็ต้องใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส โดยให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามแหล่งต่างๆ นั้น ช่วยกันทำปัดกวาดทำความสะอาดสถานที่ ทั้งสถานประกอบการ หรือแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ให้ดีขึ้น รวมถึงให้เจ้าหน้าที่ใช้วันหยุดที่เหลืออยู่ไปพักผ่อน ซึ่งพนักงานที่ถูกจ้างงานนั้นพยายามให้นายจ้างดูแลให้มากที่สุด ไม่อยากจะให้ไปตัดทอนเรื่องค่าจ้าง หรือถึงขั้นให้ออก อย่าไปเอาเปรียบพนักงาน ซึ่งปัญหาที่เกิดไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง อย่าไปแตะต้องเรื่องรายรับของเขา เพราะทุกวันนี้รายรับก็มีไม่ได้มากนัก ควรหาจุดอื่นมาแก้ไขและพร้อมรับในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ควรจะให้ขวัญกำลังใจแก่เขาทุกคน เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นคงจะไม่นานเกินแก้ ขอให้สถานประกอบการต่างๆ ใช้ความอดทนสักระยะ อีกไม่นานสถานการณ์ก็คงดีขึ้น


<< back next >>

 

น้ำมูลเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว

17 ตค. 2554 06:23 น.

ระดับน้ำมูลได้เพิ่มระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นผลมาจากปริมาณน้ำที่ปล่อยมาจากเขื่อนสิรินธรและเขื่อนลำปาว และปริมาณน้ำจากจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งคาดว่าจะมีระดับน้ำสูงสุดในอีกช่วง 3 วันจากนี้ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดฯได้ประกาศเตือนให้ประชาชนเก็บขนย้ายสิ่งของไว้ที่สูง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดอุบลราชธานี ว่า ระดับน้ำมูลวัดที่ใต้สะพานเสรีประชาธิปไตย อำเภอเมืองอุบลราชธานี มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น จำนวน 9-10 เซนติเมตร ซึ่งนับเป็นระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ปริมาณน้ำได้บ่าท่วมพื้นที่เป็นวงกว้างและกระแสน้ำไหลเชี่ยวแรงมาก

มีรายงานว่า กระแสน้ำที่ไหลหลากในขณะนี้ เป็นผลมาจากปริมาณน้ำที่ปล่อยจากเขื่อนอุบลรัตน์ และเขื่อนลำปาว น้ำชี ได้ไหลผ่านมาถึงในพื้นที่ รวมทั้งมวลน้ำมูลจากจังหวัดศรีสะเกษ และคาดว่าอีกประมาณ 3 วัน มวลน้ำสุดท้าย แม่น้ำมูลที่อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ จะไหลผ่านบริเวณสถานีสะพานเสรีประชาธิปไตย ซึ่งทางจังหวัดฯได้แจ้งเตือนให้ประชาชนได้ขนย้ายสิ่งของไว้ที่สูง และขณะนี้ ยังมีประชาชนที่อาศัยในจุดรองรับการอพยพชั่วคราวในพื้นที่ 3 อำเภอ ร่วม 4,880 ครัวเรือน

อย่างไรก็ตามจากปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี โดยเฉพาะถนนชยางกูร และถนนกันทรลักษ์ เส้นทางในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ ที่น้ำท่วมขังสูง เป็นอุปสรรคในการเดินทางสัญจรในบริเวณดังกล่าว

 

ระดับน้ำชุมชนประตูน้ำพระอินทร์ราชาเพิ่มสูงขึ้น

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 ตุลาคม 2554 09:48 น

สถานการณ์น้ำท่วมบริเวณชุมชนประตูน้ำพระอินทร์ราชา ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ล่าสุด ระดับน้ำบริเวณดังกล่าวมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานที่ผ่านมาพอสมควร
ด้าน จ.ส.อ.ชูวิทย์ เผื่อกระโทก เจ้าหน้าที่จากศูนย์ทหารม้า ค่ายอดิศร จ.สระบุรี ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดช่วยเหลือประชาชน เปิดเผยว่า ได้นำกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชน บริเวณชุมชนประตูน้ำพระอินทร์ราชา เป็นวันที่ 2 แล้ว ซึ่งระดับน้ำในวันนี้ได้เพิ่มขึ้นจากเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ประมาณ 30 เซนติเมตร โดยเจ้าหน้าที่ชุดนี้จะทำหน้าที่ในการอพยพประชาชน และช่วยขนย้ายสิ่งของ รวมไปถึงช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าออกชุมชนตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม จ.ส.อ.ชูวิทย์ เผยว่า ความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชน ก็ยังเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับจุดที่น้ำล้นออกจากคลอง กระแสน้ำเชี่ยว เจ้าหน้าที่จึงต้องนำเชือกมาขึง เพื่อให้ประชาชนได้เกาะเดินเข้าออกชุมชนด้วย

 

พิษน้ำท่วม! สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ฯ แจ้งปิดยาวถึง1พ.ย. หยุดผลิต-เลื่อนส่งมอบสินค้า

วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 09:24:09 น.
Share
7
17ตุลาคม 2554 บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือSMT แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ตามที่บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย)ฯ ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2554ว่าขอปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมในบริเวณโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมบางปะอินและจะเปิดทำการปกติในวันที่ 17 ตุลาคม 2554 แล้วนั้น

เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมได้รุนแรงเกินกว่าที่จะสามารถควบคุมได้ ซึ่งน้ำได้ทะลักเข้าท่วมในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และได้เข้าท่วมในโรงงานของบริษัทฯส่งผลให้สายการผลิตในบริเวณชั้นที่ 1 ถูกน้ำท่วม บริษัทฯจึงมีความจำเป็นต้องหยุดการดำเนินงานและในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเปิดทำการปกติได้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2554

สำหรับคำสั่งซื้อของลูกค้านั้น บริษัทฯได้ติดต่อกับลูกค้าเพื่อแจ้งถึงสถานการณ์ของบริษัทฯและขอเลื่อนการส่งมอบสินค้าออกไปซึ่งได้รับความร่วมมือด้วยดี ในส่วนของตัวอาคาร โรงงาน เครื่องจักรและสินค้าคงคลังนั้นทางบริษัทฯได้ทำประกันภัยครอบคลุมทุกความเสี่ยงเป็นมูลค่ารวม 3,854 ล้านบาทซึ่งรวมถึงอุทกภัยและการหยุดชะงักทางธุรกิจด้วย

 

ภาคเหนือ เริ่มหนาวแล้ว!!



วานนี้(16 ตุลาคม) นายวรพจน์ คุณาวิวัฒนางกูร นักอุตุนิยมวิทยา ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า อุณหภูมิภาคเหนือตอนบนเริ่มลดลง 1-2 องศา โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยที่ 22-24 องศา ยอดดอยอินทนนท์ วัดได้ 12 องศาเซลเซียส ยอดดอยอ่างขาง วัดได้ 18 องศาเซลเซียส

ส่วนในวันนี้ อากาศโดยรวมของภาคเหนือตอนบน จะลดลงอีกไม่ต่ำกว่า 1-3 องศาเซลเซียส เนื่องจากความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจากจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมทั้งภาคอีสานและภาคเหนือด้านตะวันออกของประเทศไทย

Mthai News

 

ร้อยเอ็ด-บ้านโนนเชียงบังอ่วมหนักในรอบ 30 ปี

วันอาทิตย์ ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554​

น้ำชีที่ไหลผ่านพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องก่อนล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วมบ้านโนนเชียงบัง หมู่ 4 ตำบลผักแว่น อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด หนักสุดในรอบ 30 ปี

วันนี้(16 ต.ค.) สภาพของบ้านโนเชียงบัง หมู่ 4 เป็นเกาะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เนื่องจากถนนเข้า-ออกหมู่บ้านน้ำท่วมสูง ต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว
นายสิงห์ พรมเลิศ ผู้ใหญ่บ้านโนนเชียงบัง หมู่ 4 เปิดเผยว่า น้ำท่วมบ้านโนนเชียงบังปีนี้หนักที่สุดในรอบ 30 ปี มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมแล้ว 75 หลังคาเรือน นาข้าว 1,600 ไร่กำลังตั้งท้องเน่าเปือยทั้งหมด นอกจากนี้น้ำยังท่วมวัดโนนสวาทโนนเชียงบัง สูง 2 เมตร พระต้องพายเรืออกบิณฑบาตร โรงเรียนโนนเชียงบังหาดหนองแค น้ำท่วมสูง 2 เมตรเช่นกัน ต้องสั่งปิดเรียนไม่มีกำหนด ส่วนระดับน้ำตามถนนในหมู่บ้านสูง 80-120 ซ.ม. ต้องใช้พายเรือพายมาตามถนนในหมู่บ้าน หนักสุด คือ ถนนเข้าหมู่บ้านท้ายบ้าน-หัวบ้าน สายโนนเชียงบัง-บ้านหาด ถูกน้ำท่วมสูง 1-1.50 เมตร ระยะทาง 500 เมตร ถนนสายโนนเชียงบัง-บ้านดอนสวรรค์ น้ำท่วมสูง 1-1.50 เมตร ระยะทาง 3 กิโลเมตร ถูกปิดตายมีสภาพเป็นเกาะรถทุกชนิดผ่านไม่ได้ การเข้า-ออกหมู่บ้านและติดต่อโลกภายนอกต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว เดือดร้อนหนัก ชาวบ้านอยากได้พันธุ์ข้าวปลูกนาปรังหลังน้ำลด ยารักษาโรค ถุงยังชีพ รองเท้าบู๊ท และของใช้ในครัวเรือนเนื่องจากน้ำท่วมเสียหายหมดแล้ว

 

น้ำล้อมกรุง

 

เขื่อนลำปาว กาฬสินธุ์ น้ำล้นหลังฝนตกต่อเนื่อง

17 ตค. 2554 11:53 น.

เมื่อวันที่ 17 ต.ค.54 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงานว่า จากรายงานของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวถึงปริมาณน้ำขณะนี้เขื่อนลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์เริ่มมีปริมาณน้ำเกินระดับเก็บกักโดยปัจจุบันมีปริมาณน้ำที่ 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเต็มพิกัดความจุ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม ซึ่งระหว่างวันมีน้ำไหลหลากเข้าอ่างมากถึง 30 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และมีการระบายน้ำที่ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่คาดว่าทางเขื่อนอาจจะต้องเร่งระบายน้ำเพื่อพร่องน้ำออกจากตัวอ่างเก็บน้ำเนื่องจากยังมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ทั้ง 18 อำเภอของจังหวัด

ขณะที่นางบุญรื่น ศรีธเรศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้นำถุงยังชีพของกระทรวงศึกษาธิการจำนวน 500 ชุดไปมอบให้กับชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยใน บ้านดอนสนวน บ้านโคกกลาง ต.หลุบ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ที่ชาวบ้านกำลังได้รับความเดือดร้อนน้ำเริ่มท่วมขังนาข้าวถูกน้ำท่วมเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในการช่วยเหลือขณะนี้ได้ระดมเจ้าหน้าที่เสริมกำลังป้องกันพนังในส่วนของจุดวิกฤตพื้นที่ติดลำน้ำชีในอ.ฆ้องชัยและอ.กมลาไสย ซึ่งเป็นการป้องกันทั้งนาข้าวและบ้านเรือนราษฎร ในส่วนของพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจะเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้เข้าเยียวยาจิตใจของผู้ประสบภัยทุกคน นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ผู้อำนวยการ สพม. และสพป. ทุกแห่งเริ่มสำรวจความเสียหายจากอุทกภัยตามสถานศึกษาต่าง ๆ ด้วย

 

สมุทรปราการ-ผู้ว่าฯยันพอรับมือน้ำไหว

วันอาทิตย์ ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554​

ผู้ว่าฯสมุทรปราการ ล่องเรือตรวจดูสภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งน้ำทะเลหนุนสูงสุดวันนี้ ระบุยังพอรับมือสถานการณ์น้ำไหว ชาวบ้านยังไม่ได้รับผลกระทบ

นายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้ลงเรือตรวจดูสภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากในวันนี้( 16 ต.ค.) จะมีระน้ำทะเลหนุนสูงสุดประมาณ 3 เมตรเศษ ในช่วงเช้า

จากการตรวจสอบสภาพสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่ายังสามารถรับปริมาณน้ำได้ ชาวบ้านยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าวันนี้จะมีระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดสมุทรปราการ มีการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำทะเลหนุน ในขณะนี้ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำทะเลหนุนสูง ได้อีกประมาณ 1 เมตร

ส่วนโครงการอาสาผลักดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาออกสู่ทะเล นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า เรือประมงที่อาสามาช่วยผลักดันน้ำลงทะเลได้ยุติลงแล้ววันนี้ เพราะในช่วงก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการไปแล้ว คงไว้เพียงเรือทักจำนวน 3 ลำ เท่านั้น ที่ยังคงผลักดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลงสู่ทะเล ซึ่ เรือทักทั้ง 3 ลำ มีประสิทธิภาพในการผลักดันน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลได้มากกว่าวันละ 6 ล้านลูกบาตรเมตรต่อวัน นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเรือ และ เรือรบของกองบังคับการตำรวจน้ำ ที่ได้จัดส่งเรือจำนวน 11 ลำ ออกมาร่วมผลักดันน้ำลงสู่ทะเล โดยเฉพาะจุดแรก คือ คลองลัดโพธิ์ จุดที่สอง ที่องค์การสะพานปลา ส่วนจุดที่สาม ซึ่งเป็นจุดที่เรือทักทั้ง 3 ลำที่ทำการผลักดันน้ำอยู่ที่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ที่บริเวณใกล้สะพานภูมิพล 1 และภูมิพล 2 ซึ่งเชื่อว่าการผลักดันน้ำลงสู่ทะเลของจังหวัดสมุทรปราการ มีประสิทธิภาพเพียงพอ น่าจะรองรับปริมาณน้ำได้ หากฝนไม่ตก หรือ น้ำทะเลไม่หนุนสูงไปมากกว่านี้

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวอีกว่า หลังจากเมื่อคืนวานนี้ มีพายุฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทำให้หลายพื้นที่มีน้ำท่วมขังสูงถึง 80 เซนติเมตร สาเหตุเนื่องมาจากท่อระบายน้ำระบายไม่ทัน ประกอบกับบ้านเรือนประชาชนบางพื้นที่ลุ่มต่ำกว่าระดับน้ำในคลองระบายน้ำชลประทาน จึงทำให้ไม่สามารถระบายน้ำออกได้ จำเป็นต้องใช้เครื่องสูบน้ำออก ขณะเดียวกันได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเมื่อคืน หลังจากที่มีฝนตกลงมาทำให้มีน้ำท่วมขังวัดไตรสามัคคี ตำบลเทพารักษ์ และบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงหลายจุด ซึ่งหลังจากที่เดินทางไปตรวจสอบ พบว่าพื้นที่วัดดังกล่าวเป็นพื้นที่ต่ำกว่าถนน จึงทำให้ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาไหลเข้าไปขังอยู่ในพื้นที่ของวัด จนมีระดับสูงประมาณ 80 เซนติเมตร ชาวบ้านต้องพากันเดินลุยน้ำเข้าไปทำบุญทอดกฐิน โดยนำรถมาจอดบนถนนด้านหน้าวัดซึ่งมีปริมาณน้ำท่วมน้อยกว่า ซึ่งเรื่องนี้ได้สั่งการให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปแก้ไขโดยด่วน โดยให้หาทางติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบายออกทางคลองสำโรงโดยเร็ว เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัด ยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการระบายน้ำที่ประตูระบายน้ำคลองวัดบางนางเกรง หลังจากได้รับแจ้งว่าเครื่องสูบน้ำที่มีอยู่จำนวน 4 เครื่อง สามารถใช้การได้เพียงเครื่องเดียว ส่วนอีก 3 เครื่องชำรุด ทำให้การระบายน้ำในลำคลองออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นไปอย่างล่าช้า หลังจากที่ได้ตรวจสอบจึงได้ประสานไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ให้จัดสรรงบประมาณลงมาซ่อมแซม เครื่องสูบน้ำทั้ง 3 เครื่อง ให้สามารถใช้การได้ตามปกติโดยเร็ว

หลังจากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมที่ประตูระบายน้ำคลองสำโรง ซึ่งเป็นสถานีสูบน้ำหัวใจหลักของคลองสำโรง ได้พบว่าที่ประตูระบายน้ำแห่งนี้ อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลสำโรงเหนือ ซึ่งมีเครื่องสูบน้ำอยู่ทั้งหมด 25 เครื่อง แต่ใช้งานได้เพียง 18 เครื่อง ต้องสลับกันปิดเปิด ส่วนอีก 7 เครื่องชำรุดใช้การไม่ได้ จึงได้สั่งการให้ทางเทศบาลตำบลสำโรงเหนือ เร่งดำเนินการซ่อมแซมให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน ซึ่งในการเร่งระบายน้ำของสถานีระบายน้ำแห่งนี้ ทำให้เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ระดับน้ำในคลองสำโรงลดต่ำกว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ถึง 2 เมตรเศษ เชื่อว่าน่าจะรองรับปริมาณน้ำที่จะถูกปล่อยลงมาได้อย่างแน่นอน

 

สมบัติบุรี

<object width="640" height="360"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/-GV1nZfFcRg&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/-GV1nZfFcRg&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="360"></embed></object>
ถ.ลาดหลุมแก้วฝั่งเหนือ
<object width="640" height="360"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/nkA7FeZzfak&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/nkA7FeZzfak&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="360"></embed></object>

<object width="640" height="360"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/ib_fsxdmV18&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/ib_fsxdmV18&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="360"></embed></object>


ขอบคุณเจ้าของคลิบ

 

ลพบุรี-บินสำรวจหาสาเหตุน้ำท่วมเมืองลพบุรีไม่ลด

วันจันทร์ ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554​

ผู้ว่าฯลพบุรี พร้อมด้วย ผบ.นศส.ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจพื้นที่น้ำท่วม พบจุดแตกของคันดินกว่า 3 จุดใกล้ประตูน้ำบางโฉมศรี ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าเมืองลพบุรีไม่หยุด วอนชาวบ้านในอำเภอบ้านหมี่ออกมาอยู่จุดอพยพ เพราะขณะนี้ทหารถอนรถออกจากพื้นที่แล้ว เนื่องจากน้ำท่วมสูงรถวิ่งไม่ได้

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย พล.ท.ศุภรัตน์ พฒนาพิสุทธ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จังหวัดลพบุรี ขึ้นบินสำรวจสภาพน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอบ้านหมี่ อำเภอท่าวุ้ง และอำเภอเมืองลพบุรี เรื่อยไปจนถึงเขื่อนเจ้าพระยา และประตูระบายน้ำมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท

จากการบินสำรวจพบว่าในพื้นที่ของ 3 อำเภอจังหวัดลพบุรี ยังมีน้ำท่วมสูง และหลายตำบลที่ถูกน้ำท่วมไม่มีพื้นดินให้ชาวบ้านอยู่แล้ว เนื่องจากถูกน้ำท่วมทั้งหมด

นอกจากนี้จากการบินสำรวจยังพบว่า ตั้งแต่เขื่อนเจ้าพระยาลงมาถึงจังหวัดลพบุรี หลังจากปิดประตูบางโฉมศรีที่แตกได้แล้วเหตุใดน้ำในพื้นที่จังหวัดลพบุรีจึงยังไม่ยอมทรงตัว และยิ่งมีน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอีก เมื่อบินขึ้นดูทางอากาศจึงพบว่ามีรอยแตกของคันดินเพิ่มอีก 3 จุด คือ คันดินคันคนน และเขากระดี่ ในจังหวัดชัยนาท และ คันดินท่างาม ในอำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งเป็นรอยแตกใหม่ของคันดินซึ่งจุดนี้อยู่ห่างจากประตูน้ำบางโฉมศรีไม่มากนัก มีความยาวประมาณ 100 เมตร ทำให้ปริมาณน้ำยังคงไหลทะลักเข้ามาในพื้นที่ของจังหวัดลพบุรีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องปรับแผนใหม่ เพื่อดูแลชาวบ้านในจังหวัดลพบุรี เพราะเมื่อพบรอยแตกใหม่ก็จะทำให้น้ำยังคงขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง และน้ำยังไม่ลดลงง่ายๆอย่างแน่นอน

ทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่าขณะนี้น้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในฝั่งตะวันตก ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจากประตูน้ำบางโฉมศรีที่แตก ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้น้ำก็ยังเพิ่มสูงขึ้น เฉลี่ยวันละ 2-5 เซ็นติเมตร ทำให้ทหารที่นำรถวิ่งรับ-ส่ง ชาวบ้าน ในอำเภอบ้านหมี่ บนถนนสายท่าโขลง-บ้านหมี่ จำเป็นต้องถอนกำลังออกมาเป็นทีมสุดท้ายแล้ว หลังบนถนนมีน้ำท่วมสูงจนรถไม่สามารถวิ่งได้แล้ว ต้องใช้เรือวิ่งเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยทั้งรถและประชาชน

ส่วนถนนอีกสายก็ คือ สายลพบุรี-สิงห์บุรี ที่ขณะนี้ห้ามรถเล็กทุกชนิดวิ่งแล้ว ยกเว้นรถ 6 ล้อเท่านั้น เนื่องจากเมื่อวานมีลมแรง ทำให้พัดรถกระบะตกลอยไปกับน้ำจำนวนหลายคัน จึงปิดการใช้ถนนของรถเล็กแล้ว

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ยังได้ขอร้องชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมสูงในอำเภอบ้านหมี่ทั้งในตำบลบางพึ่ง และตำบลมหาสอน ขอให้อพยพออกมาอยู่ที่ศูนย์อพยพ ไม่ต้องห่วงทรัพย์สิน ในขณะนี้ขอให้เอาชีวิตรอดก่อน เนื่องจากปริมาณน้ำยังคงเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง โดยขอให้แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ซึ่งจะนำเรือเข้าไปช่วยอพยพออกมา ขณะนี้ได้จัดพื้นที่ไว้ที่โรงพยาบาลบ้านหมี่ ที่ว่าการอำเภอบ้านหมี่ และสนามกีฬาอำเภอบ้านหมี่ไว้รองรับ ซึ่งปลอดภัยกว่าอยู่ที่บ้านอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ทางจังหวัดกำลังประสานงานกับทางทหารให้จัดทำแพลอยน้ำให้กับหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมสูงจนไม่มีพื้นดินอยู่เพื่อใช้เป็นจุดศูนย์กลางเวลาเข้าไปเยี่ยมชาวบ้าน และใช้เก็บสิ่งของที่หนีน้ำท่วม ซึ่งในอีก1-2 วันนี้ แพคงจะเรียบร้อย และนำไปส่งในพื้นที่ให้ชาวบ้านได้ใช้กรณีชาวบ้านไม่ยอมอพยพออกมาอยู่ที่ศูนย์อพยพ

 

พยายามหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำบริเวณกองขยะ แหล่งที่เป็นบริเวณที่มีการก่อสร้าง ให้รักษาเท้าของท่านให้ดียิ่งกว่าสิ่งใดเพราะถ้าเท้าเจ็บการที่จะไปรักษาและหายนั้นจะเป็นเรื่องที่ยากมากเพราะว่าจะจะต้องชื้นแฉะไม่รู้อีกนานแค่ไหน และการที่จะเอาตัวรอดการไปรับการช่วยเหลือต่างๆจะเป็นไปได้โดยยาก จะเกิดการอักเสบได้ง่ายมากและจะเป็นไข้ ให้ระวังเศษแก้วกระเบื้องแตก ตะปู ของมีคมทุกชนิด อย่าห่วงรองเท้าว่าจะพังใส่ลุยไปเลยรักษาไว้คือเท้าเราครับ ผมเป็นห่วงทุกคนเหลือเกิน

 

พิจิตร-น้ำท่วมนานส่งผลกับโบราณสถาน

วันจันทร์ ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554​

น้ำท่วมขังจังหวัดพิจิตร ส่งผลให้โบราณสถานในพื้นที่เสียหายจำนวน 141 แห่ง สำนักงานพระพุทธศาสนาเตรียมซ่อมแซมเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ และรักษาศิลปะซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน

พิจิตร เป็นอีกจังหวัดที่ถูกน้ำท่วมนานกว่า 2 เดือน ส่งผลกระทบกับโบราณสถานในพื้นที่ถูกน้ำท่วมจำนวน 141 แห่ง น้ำที่ท่วมนาน ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าโบราณสถานทั้งพระอุโบสถ เจดีย์ ที่หลายแห่งมีอายุมากกว่า 100 ปี อาจจะเสียหาย หรือพังทลายลง ซึ่งขณะนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร เตรียมแผนฟื้นฟูหลังน้ำลดเพื่อรักษาโบราณสถานให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ และศึกษาถึงศิลปะ วัฒนธรรมของช่างพื้นบ้านที่ถ่ายทอดผ่านสิ่งก่อสร้าง เช่น พระอุโบสถ เจดีย์

สำหรับโบราณสถานของจังหวัดพิจิตร ส่วนใหญ่เป็นการก่อสร้างขึ้นจากความร่วมมือร่วมใจของประชาชนในชุมชน ช่างที่ก่อสร้างจะเป็นช่างพื้นบ้าน งบประมาณมาจากการร่วมกันของประชาชน จึงนับได้ว่าเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความสามัคคี ความศรัทธา ภูมิปัญญา และศิลปะของคนในชุมชน จึงนับได้ว่าโบราณสถานเป็นสิ่งที่มีคุณค่ากับชุมชนในการศึกษา เรียนรู้ของชุมชน ในแต่ละยุคได้เป็นอย่างดี

 

คันดินแตก8เมตรน้ำทะลักนวนคร!


17 ตุลาคม 2554 เวลา 11:44 น.
<!-- end facebook-share -->
<!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->คันกั้นน้ำด้านทิศเหนือนิคมฯนวนครแตกยาว 8 เมตร น้ำทะลักเข้าท่วมโซนบ่อบำบัดน้ำเสีย ทหารระดมกำลังอุดรอยรั่วกู้สถานการณ์



นายนิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นวนคร กล่าวว่า ขณะนี้น้ำได้รั่วจากคันกั้นน้ำทางทิศเหนือที่พังเสียหายเป็นทางยาวราว 8-10 เมตร เข้ามาภายในบริเวณพื้นที่นิคมนวนครแล้ว แต่น้ำยังไหลเข้ามาอยู่ภายในบ่อพักน้ำ และบ่อบำบัดน้ำเสีย ยังไม่ได้เข้าไปภายในบริเวณที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้ระดมกำลังเข้าอุดรอยรั่วดังกล่าวแล้ว รวมทั้งจะมีการใช้เฮลิคอปเตอร์บินหย่อนตู้คอนเทนเนอร์ประมาณ 3-4 ตู้ ลงในพื้นที่เพื่ออุดรอยรั่ว

ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ประกาศอพยพคนงานในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างเร่งด่วนแล้ว อย่างไรก็ตามเนื่องจากบ่อบำบัดน้ำเสียมีกำแพงล้อมรอบสูง 2-3 เมตร จึงคาดว่าจะช่วยชะลอความเร็วน้ำลงได้

สำหรับคันดินในจุดอื่นๆก็ยังอยู่ในสภาพไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ทำให้คันดินอ่อนตัวลง เจ้าหน้าที่ต้องใช้ตู้คอนเทนเนอร์บรรจุทรายไปวางเสริมความแข็งแรง รวมทั้งใช้ แท่งเหล็กชิบพายปักเป็นแนวเพื่อป้องกันแนวคันดินพัง

ด้าน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้รับรายงานว่า น้ำเริ่มรั่วเข้าในพื้นที่ นิคมฯนวนครแล้ว ตอนนี้ต้องเอาใจช่วยเพราะหากน้ำเริ่มเจาะเข้าไปได้โอกาสที่จะป้องกันก็น้อยลงทุกที

เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!

 

กทม.ยังไม่ปลอดภัยห่วงสายไหม-ดอนเมือง


17 ตุลาคม 2554 เวลา 10:51 น. <!-- end facebook-share -->
<!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ระบุกทม.ยังไม่ปลอดภัยวิกฤตน้ำท่วมต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง ห่วงสายไหม-ดอนเมือง ชาวรังสิตจับตาระดับน้ำประตูจุฬาลงกรณ์ใกล้ชิด

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า สถานการณ์เฝ้าระวังน้ำท่วมในพื้นที่ กรุงเทพฯ ขณะนี้ยังถือว่าไม่ปลอดภัยโดยเฉพาะพื้นที่ด้านเหนือของกทม. ในเขตสายไหมและดอนเมือง ยังถือน่าห่วงมากที่สุด เนื่องจากในพื้นที่ติดกันที่ข้ามคลองรังสิตไปยังมีสถานการณ์น้ำเหนือไหลบ่าลงมา ประกอบกับมีข่าวว่า คันกันน้ำหลายแห่งแตก ซึ่งหากเป็นจริงอาจส่งผลกระทบไปถึงเขตคลองสามวาด้วย

ส่วนแนวคันกั้นน้ำริมคลองหกวาได้เสริมกระสอบทรายระยะทาง 6 กม.เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่เพื่อความไม่ประมาทได้สั่งการให้เพิ่มความสูงเป็น 50ซม.เป็นระยะทางอีก 1กม.

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้สำนักการโยธา ยกระดับถนนเลียบคลอง 2 สูงขึ้นอีก 30 ซม. ระยะทาง 1.25 กิโลเมตร เพื่อเป็นแนวคันกั้นน้ำ รวมถึงยกระดับพื้นซอยสายไหม 85 เพิ่มอีก 30ซม.ระยะทาง 1 กิโลเมตร ส่วนพื้นที่ฝั่งตะวันออก ได้เพิ่มกระสอบทรายอีก 6 แสนใบ

ทั้งนี้ ประชาชนที่ต้องการจะบริจาคทรายสามารถบริจาคได้ที่ศูนย์รับบริจาค กทม.หรือที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต

ส่วนสถานการณ์น้ำล่าสุดปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระราม 6 มีความเร็วการไหลอยู่ที่ 4,238 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากเมื่อวานนี้(16ต.ค.) 36 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ขณะที่ น้ำทะเลหนุนสูงเมื่อเวลา 09.59 น. อยู่ที่ระดับ 1.08 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาวัดได้ที่ปากคลองตลาดเมื่อเวลา 07.00 น. อยู่ที่ 1.56 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 1.24 เมตร และขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากกรุงเทพมหานครอย่างใกล้ชิดและอย่าตื่นตระหนก
<INS></INS>
<INS>เฝ้าระวังระดับน้ำประตูจุฬาลงกรณ์รังสิตใกล้ชิด</INS>

เจ้าหน้าที่และประชาชนในย่านชุมชนรังสิต ตลาดรังสิต และห้างฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ยังคงเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยระดับน้ำด้านหลังประตูน้ำจุฬาลงกรณ์อยู่ที่ 2.80 เมตร ขึ้นจากวานนี้ 10 ซม. ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงต้องอพยพออกมาเพื่อความปลอดภัย ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปีมีบางซอยน้ำท่วมแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำออกตลอดเวลา รวมถึงจุดกลับรถใต้สะพานคลอง 1 คลอง 2 ที่มีการนำกระสอบทรายเข้าไปเสริม ด้านประตูน้ำเชียงรากน้อย ด้านหลังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตได้เสริมคันกั้นอีก 50 ซม.เพื่อป้องกันน้ำ




เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!

 

สำหรับคนที่ต้องลุยน้ำบ่อยๆก่อนเข้าบ้านในพื้นที่แห้ง ให้ล้างท้าวแล้วนำเท้าแช่ในน้ำเกลือประมาณ 1 - 2 นาทีแล้วล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง เท่านี้ก็จะช่วยให้ไม่เป็นโรคเชื้อราน้ำกัดเท้าแล้วครับ เตรียมเกลือแกงไว้ละลายน้ำสักถังเพื่อเอาไว้แช้เท้ากันโรคน้ำกัดเท้าได้ น้ำเกลือต้องเข้มข้น(เกลือละลายไม่หมด)และใชแช่เท้าได้สองร้อยครั้งแล้วค่อยเปลี่ยนน้ำเกลือ

 

สำหรับคนที่ต้องลุยน้ำบ่อยๆก่อนเข้าบ้านในพื้นที่แห้ง ให้ล้างเท้าแล้วนำเท้าแช่ในน้ำเกลือประมาณ 1 - 2 นาทีแล้วล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง เท่านี้ก็จะช่วยให้ไม่เป็นโรคเชื้อราน้ำกัดเท้าแล้วครับ เตรียมเกลือแกงไว้ละลายน้ำสักถังเพื่อเอาไว้แช้เท้ากันโรคน้ำกัดเท้าได้ น้ำเกลือต้องเข้มข้น(เกลือละลายไม่หมด)และใชแช่เท้าได้สองร้อยครั้งแล้วค่อยเปลี่ยนน้ำเกลือ

 

น้ำเหนือลด!วันนี้ชาวกทม.ชั้นใน'อุ่นใจได้'

17 ต.ค. 2554




(กทม.อัพเดท)รมว.เกษตรระบุ เขื่อนใหญ่ปล่อยน้ำน้อยลงแสดงว่าน้ำเหนือลดและปริมาณสูงสุดไหลผ่าน กทม.แล้ว แต่ห่วงฝั่งตะวันออกระบายได้ช้า

ระดับน้ำจากภาคเหนือลดลง
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตั้งแต่เดือน มิ.ย.เป็นต้นมาปริมาณน้ำค่อนข้างมหาศาล เขื่อนทางเหนือ คือ ภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยบำรุงแดน และป่าสักชลสิทธิ์ เก็บน้ำได้ 90% แต่ตอนนี้สถานการณ์ดีขึ้นเขื่อนภูมิพลปล่อยน้ำวันละ 50 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) สิริกิติ์ปล่อยน้ำวันละ 20 ล้าน ลบ.ม. ป่าสักชลสิทธิ์ปล่อยน้ำวันละ 30 ล้าน ลบ.ม. เมื่อเขื่อนเหล่านี้ปล่อยน้ำน้อยลงแสดงว่าน้ำทางเหนือไม่มีแล้ว

จุดสังเกตและเฝ้าระวังสองจุด คือ อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ปริมาณแม่น้ำปิงลดลง และ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ แม่น้ำน่านรวมกับแม่น้ำยมปริมาณน้ำลดลง เมื่อแม่น้ำทั้งหมดรวมกันที่แม่น้ำเจ้าพระยาที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำอยู่ที่ 4,630 ลบ.ม.ต่อวินาที ปริมาณน้ำลดลง และทรงตัวหลายวันแล้ว

ชี้ปริมาณสูงสุดไหนผ่าน กทม.แล้ว
มวลน้ำสูงสุดจาก จ.นครสวรรค์ ที่ไหลลงมานั้นได้ผ่านไปแล้วตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้น การบริหารจัดการมวลน้ำที่ผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 3,600 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งจะทรงตัวลักษณะนี้ต่อไป ขณะนี้ กำลังผลักดันน้ำออกไปทางตะวันออก แต่ค่อนข้างมีปัญหา เพราะรับน้ำได้เพียง 87 ลบ.ม.ต่อวินาที สูบน้ำออกไปได้วันละ 30 ล้าน ลบ.ม.ต่อวินาที

ส่วนทางตะวันตก คือ แม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำน้อย สามารถระบาน้ำได้ 710 ลบ.ม.ต่อวินาที โดยสูบน้ำออกไปได้วันละ 15 ล้าน ลบ.ม. และรวมกับคลองลัดโพธิ์ที่ระบายน้ำลงทะเลได้อีกวันละ 40-50 ล้าน ลบ.ม.รวมปริมาณน้ำที่ระบายลงสู่ทะเลได้วันละ 400-500 ล้าน ลบ.ม.

"กรมชลประทานประมาณการน้ำจากทุกแหล่งที่จะไหลเข้า กทม.ในปริมาณสูงสุดระหว่างวันที่ 15-16 ต.ค.ย้ำว่ามวลน้ำปริมาณใหญ่ที่สุดได้ผ่าน กทม.ออกทะเลไปแล้ว ประชาชนจึงสบายใจได้ ระดับน้ำสูงสุดที่สะพานพุทธยอดฟ้า เมื่อเช้าวันที่ 15 ต.ค. อยู่ที่ 2.29 เมตร ต่ำกว่าที่กรมชลฯ คาดการณ์ไว้ส่วนปริมาณน้ำในจังหวัดต่างๆ จะทรงตัว และค่อยๆ ลดลง ยืนยันได้ว่าปริมาณน้ำสูงสุดในรอบนี้ผ่านไปแล้ว น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาจะไม่ท่วมคันกั้นน้ำของ กทม.แน่นอน"

นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า แม้ปริมาณน้ำมวลใหญ่จะไหลลงทะเลไปแล้ว แต่พื้นที่ที่ต้องคอยเฝ้าระวัง คือ นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) และนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.อยุธยา ที่จะข้ามถนนมิตรภาพ อ.บางปะอิน ซึ่งได้เปิดคลองแปดถึงคลองสิบ ระบายน้ำและควบคุมทิศทางน้ำไปสู่ทางตะวันออกได้

ที่มา: www.bangkokbiznews.com

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>คันดินกั้นน้ำ"นวนคร"พัง น้ำทะลักเข้าแล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD height=40><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>17 ตุลาคม 2554 10:57 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT src="http://platform.twitter.com/widgets.js" type=text/javascript></SCRIPT>


<SCRIPT src="https://apis.google.com/js/plusone.js" type=text/javascript> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; OVERFLOW: hidden; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; BORDER-BOTTOM: medium none; HEIGHT: 35px" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9540000132121&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>“ประชา” เตรียมลงพื้นที่นิคมฯ นวนคร ตรวจระดับน้ำ เชื่อน้ำไม่ท่วมแน่นอน เผยน้ำท่วมตลาดไท เหตุน้ำทะเลหนุนสูงในรอบปี ชี้หากพ้นภาวะนี้ไปได้ สถานการณ์จะดีขึ้น แต่ล่าสุด คันดินกั้นน้ำด้านทิศเหนือของนิคมนวนคร พังลงมาแล้ว ต้องรีบอุดเป็นการด่วน

วันนี้ (17 ต.ค.) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กล่าวว่า กรณีที่มีน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ จ.ปทุมธานี ต่อเนื่องไปจนถึง จ.นครปฐมนั้น มีสาเหตุจากน้ำทะเลหนุนสูงสุดในรอบปี ซึ่งเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา เกิดน้ำทะเลหนุนสูงถึง 2.20 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง และในวันนี้ (17 ต.ค.) จะเป็นอีก 1 วัน ที่น้ำทะเลจะหนุนสูง และหากพ้นภาวะน้ำทะเลหนุนสูงนี้ไปได้ เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้น และยังมั่นใจว่าน้ำจะไม่ท่วมพื้นที่นวนครอย่างแน่นอน โดยในเวลาประมาณ 10.00 น.วันนี้ ตนจะลงพื้นที่สำรวจระดับน้ำบริเวณพื้นที่นวนครต่อไป

ส่วนสาเหตุที่น้ำเอ่อท่วมด้านหลังตลาดไทนั้น เพราะน้ำจาก อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ผ่านมาที่ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จึงไม่สามารถกั้นน้ำไว้ได้ 100% เพราะหากกั้นไว้ ก็จะส่งผลให้เขื่อนหรือประตูระบายน้ำพัง ซึ่งจะส่งผลกระทบเสียหายในวงกว้างได้

ปภ.สรุป 27 จังหวัด ประสบภัยน้ำท่วม

ด้าน นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการรองรับเหตุฉุกเฉิน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย สรุปสถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 27 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี ร้อยเอ็ด กำแพงเพชร ตาก มหาสารคาม และจังหวัดสมุทรสาคร 186 อำเภอ 1,463 ตำบล 10,999 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 779,522 ครัวเรือน 2,320,169 คน และมีผู้เสียชีวิต 307 ราย สูญหาย 3 คน (จ.แม่ฮ่องสอน 1 ราย จ.อุตรดิตถ์ 1 ราย จ.ขอนแก่น 1 ราย)

ด้านการรถไฟแห่งประเทศไทย เส้นทางสายเหนือการรถไฟฯ ยังคงประกาศงดการเดินรถ 18 ขบวนต่อไปอีก ส่วนขบวนรถสายตะวันออก เฉียงเหนือ 12 ขบวน ที่มีต้นทางที่สถานีกรุงเทพ ยังคงใช้เส้นทางกรุงเทพ-มักกะสัน-ฉะเชิงเทรา เพื่อไปยังชุมทางแก่งคอย และเดินรถต่อไปยังปลายทางอุบลราชธานีและหนองคาย ทั้งนี้ ขบวนรถไฟสายอีสาน จะไม่ผ่านสถานีสามเสน, บางซื่อ หรือดอนเมือง ผู้โดยสารจึงต้องเดินทางเข้ามาที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เท่านั้น ส่วนการเดินรถในวันนี้ ขบวนรถชานเมืองบริการเชิงสังคม กรุงเทพ-อยุธยา-กรุงเทพ สามารถเดินขบวนรถได้จากกรุงเทพ-บางปะอิน-กรุงเทพ เท่านั้น

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 11.25 น.ที่ผ่านมา แนวเขื่อนดินด้านทิศเหนือบริเวณโรงบำบัดน้ำเสียของนิคมนวนครได้พังลงมาแล้ว ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าไปภายในนิคมฯ ถึงพนังกั้นน้ำชั้นที่ 2 เจ้าหน้าที่และประชาชนต้องเร่งช่วยกันนำกระสอบทรายเข้าไปอุดเป็นการด่วน พร้อมกันนี้ได้สั่งประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอพยพแล้ว

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

(์ำNew) 17 ตค.2554 เวลา 12.46น. ระดับน้ำนิคมนวนครสูงต่อเนื่อง ปชช.ในพื้นที่โดยรอบ อพยพ...ด่วน