WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ไม่ล้มเหลวหรอกมดมีเดีย คนที่ได้ชมก็ต้องตระหนักดีว่ามันจะต้องเจอกับตัวเอง หรือญาติของตัวเองสักวัน เช่นวันนี้ก็เจอกันแบบเต็มๆแล้วขอบคุณและอนุโมทนา ในการแจ้งเตือน

 

<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/IaaKng6qCqA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ลองดูญี่ปุ่นเขาทำข่าวมาให้ คนญี่ปุ่นทั้งประเทศ ให้รู้ว่า บ้านเรากำลังอยู่ในสถานการณ์วิก<wbr>­ฤตน้ำท่วม

 

แผนรองรับฉุกเฉินกรณีกรุงเทพน้ำท่วม

 

กรมชลฯ ระบุเผยสถานการณ์นิคมฯ นวนครน่าห่วง
<table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">18 ตุลาคม 2554 12:12 น.</td> </tr></tbody></table> กรมชลประทานรายงานสถานการณ์น้ำประจำวันนี้ ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา และพระราม 6 รวม 4,186 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากเมื่อวาน 52 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนปริมาณน้ำผ่าน อ.บางไทร 3,777 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 2 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ส่วนจุดที่น่าห่วงยังคงต้องจับตานิคมอุตสาหกรรมนวนคร โดยล่าสุดโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือรายงานว่า ขณะนี้นิคมอุตสาหกรรมนวนครกำลังรับน้ำที่ไหลบ่ามา 2 ทางด้านเหนือรับจากนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ลอดผ่านถนนกาญจนาภิเษกเข้าประตูระบายน้ำพระอินทร์ราชาต่อไปที่คลองเชียงราก น้อยแล้วเข้านวนคร ส่วนอีกด้านหนึ่งคือน้ำที่ไหลบ่ามาจากทิศตะวันตก เนื่องจากน้ำในคลองเปรมประชากร ซึ่งรับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงล้นเข้าสู่พื้นที่นวนคร
ขณะที่กรุงเทพมหานครเตรียมการป้องกันอย่างเต็มที่ โดยศูนย์ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานครระบุว่า เมื่อน้ำเข้าสู่คลองรังสิตกรุงเทพมหานครได้เตรียมตั้งรับที่ประตูระบายน้ำ หลัก 6 อย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้าพื้นที่ตอนเหนือของดอนเมือง และหากน้ำผ่านคันกั้นนี้มาแล้ว กรุงเทพมหานครยังมีถนนเป็นแนวกั้นอีกชั้นที่ถนนแจ้งวัฒนะ
ขณะที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานคร หากน้ำทะลักเข้ามาพื้นที่คลอง 1-10 น้ำจะลงมาที่คลองรังสิตเช่นกัน หากคลองรังสิตไม่สามารถรับน้ำไว้ได้ น้ำจะทะลักเข้ามาที่คลองหกวา ซึ่งทางกรุงเทพมหานครได้เร่งเสริมคันกระสอบทรายเพิ่มขึ้นอย่างเร่งด่วน ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับแจ้งจาก ศปภ.ว่า จะมีน้ำปริมาณมากเข้ามาทางคลอง 8 และคลอง 9 โดยมีเวลาทำคันกั้น 48 ชั่วโมงให้สูงขึ้นอีก 50 เซนติเมตร เป็น 2.5 เมตร โดยจะสามารถป้องกันพื้นที่ได้
Manager Online -

 

"ปลอดปะสพ" ไม่ฟังธงน้ำเข้ากทม.หรือไม่ ปัดข่าวลือจ่ายเงินเรือดันน้ำ

วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 12:27:14 น.
วันที่18ต.ค. ที่อาคารโดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานดอนเมือง ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายปลอดประสพ สุรัวสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า จากที่มีกระแสข่าวลือที่มีเรือมาร่วมดันน้ำไมกี่ลำ ที่เหลือมีการมารับเงินและกลับนั้น ต้องบอกว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่โกหก ไม่เป็นความจริง ซึ่งไม่รู้ว่าคนที่ปล่อยข่าวนั้นต้องการอะไร หรือมีจุดประสงค์อันใด เพราะรัฐบาลแค่สนับสนุนน้ำมันให้ ไม่ได้มีการจ่ายเงินแต่อย่างใด โดยปตท.ให้การสนับสนุนมาอีกทีหนึ่ง ส่วนการระบายน้ำในพื้นที่กทม.นั้น ยอมรับว่าได้รับคำแนะนำจากรัฐบาลจริง เพื่อแบ่งน้ำที่ท่วมขังออกเป็นโซนเล็กๆ ก่อนสูบน้ำออกไป


ย่างไร ก็ตาม ส่วนน้ำจะเข้าท่วมกรุงเทพมหานครหรือไม่นั้น ตนไม่สามารถตอบได้ แต่โดยทั่วไปพื้นที่โดยรอบก็อาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็พยายามรักษาพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ คาดว่าชาวบ้านจะต้องอยู่กับน้ำท่วมอีกเป็นเวลานับเดือน ก่อนจะระบายออกไปได้หมด พร้อมยอมรับว่าน้ำยังคงท่วมสูงและควรเปิดประตูระบายน้ำทางด้านทางทิศตะวัน ออก เพื่อต้องการระบายน้ำออกไป เนื่องจากมีพื้นที่ทางด้านเศรษฐกิจน้อยกว่า โดยในวันนี้จะแจกแพไม้ไผ่ขนาดกว้าง 1 วา ยาว 2 วา ให้กับชาวบ้าน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เนื่องจาก ขณะนี้ไม่มีเรือขาย โดยคาดว่าจะแจกได้เป็นจำนวนมาก

"ปลอดปะสพ" ไม่ฟังธงน้ำเข้ากทม.หรือไม่ ปัดข่าวลือจ่ายเงินเรือดันน้ำ : มติชนออนไลน์

 

"ประชา" อ้างนวนครยังปลดภัย เร่งทำความเข้าใจปชช.ก่อนเปิดประตูระบายน้ำ ยันไม่ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 12:37:14 น
วันที่18ต.ค. ที่อาคารโดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานดอนเมือง ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี วานนี้ว่า จากการสำรวจพื้นที่นิคมฯนวนคร พบว่ามีน้ำเข้าท่วมพื้นที่ 30-40% และยังเหลือพื้นที่ปลอดภัยอีก 50-60% ขณธที่ ทางนิคมฯขอให้เปิดประตูระบายน้ำทั้ง 5 บาน ซึ่งจะดำเนินการให้ในวันนี้ แต่จะต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้านบริเวณนั้น ว่าถ้าไม่ทำตามแผนจะเกิดผลเสียหายต่อส่วนรวมอย่างไร เพราะเมื่อเปิดประตูระบายน้ำแล้ว ก็จะมีชาวบ้านเข้ามาปิด


อย่าง ไรก็ตาม จะเร่งกทม.ให้ทำแนวกั้นน้ำเสริมให้เสร็จเพราะต้องการป้องกันกทม.ไว้ให้ได้ แต่ต้องหารือกับกทม.ว่ามีความพร้อมแค่ไหน โดยในบ่ายวันนี้ ตนจะเรียกกรมชลประทานและกทม.มาหารือให้ได้ข้อยุติว่าจะทำอย่างไร เพราะเท่าที่สำรวจ พบว่าใต้คลองระพีพัฒน์ที่เป็นทางน้ำผ่านไปยังฝั่งตะวันออก มีชาวบ้านกำลังทำนาปลูกข้าว และกำลังขึ้นยอดอ่อนแล้ว อีกทั้งมีสวนส้มและพืชไร่จำนวนมาก ถ้าเราสูบน้ำลงคลองระพีพัฒน์ให้เพื่อแยกไป จ.ปราจีนบุรี ลงแม่น้ำบางปะกง ก็ทำได้น้อยและช้ามาก ซึ่งจะต้องมีการเปิดประตูระบายน้ำ ทั้งนี้ เราต้องเอาภาพรวมไว้ ก่อน ภาพรองลงมาก็ต้องยอมกันบ้าง ต้องมีการพูดคุย โดยจะพยายามให้กระทบน้อยที่สุด ซึ่งการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
"ประชา" อ้างนวนครยังปลดภัย เร่งทำความเข้าใจปชช.ก่อนเปิดประตูระบายน้ำ ยันไม่ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉ

 

เปิด!สูตรป้องกันกทม.ฝั่งตะวันออกฉบับ'สุรยุทธ์ จุลานนท์'

วันที่ 18 ตุลาคม 2554 08:12 โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์'สุรยุทธ์ จุลานนท์'เป็นปธ.การประชุมวางแผนรับมือน้ำท่วมฝั่งตะวันออก ระบุ 5 ปัจจัยทำให้การระบายน้ำสุดอืด อาจจะส่งผลให้ต้องน้ำท่วมขังถึงพ.ย.

สถานการณ์อุทกภัยในหลายจังหวัดภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งอยู่ในขั้นวิกฤติ และเริ่มส่งผลต่อพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ฝั่งตะวันออก คือ เขตมีนบุรี เขตคลองสามวา เขตหนองจอก และเขตลาดกระบังแล้ว โดยตัวเลขล่าสุดมีประชาชนเดือดร้อนกว่า 10,000 ครัวเรือนนั้น ปัญหาที่หลายฝ่ายกำลังตั้งคำถามและวิพากษ์วิจารณ์กันมากขึ้นเรื่อยๆ ก็คือ เหตุใดการระบายน้ำลงทะเลจึงมีปัญหาล่าช้า ไม่ทันกับมวลน้ำมหาศาลที่ทะลักเข้ามา

และดูเหมือนศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ยังไม่เคยให้คำตอบชัดๆ เลยแม้แต่ครั้งเดียว
ล่าสุด เมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม กทม.ฝั่งตะวันออก โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นประธาน ปรากฏว่าข้อมูลจากการศึกษาวิจัยของสถาบันฯ สามารถตอบคำถามที่เป็นปัญหาคาใจของหลายฝ่ายได้ระดับหนึ่ง

ดร.คมสัน มาลีสี รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ อธิบายว่า น้ำเหนือที่ตรงเข้าสู่ฝั่งตะวันออกของ กทม. จะผ่านมาทางคลองสิบสาม ระดับน้ำล่าสุดอยู่ที่ 2.40 เมตร ส่วนคลองอื่นๆ ในพื้นที่ เช่น คลองลำปะทิว ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นตลอด ไม่ลดลงเลย ขณะนี้คลองสิบสามล้นแล้ว คลองหกวาทั้ง 3 สายดันน้ำไปทางแม่น้ำบางปะกงก็ไม่ได้ เพราะน้ำเต็มหมด เช่นเดียวกับคลองประเวศบุรีรมย์ แต่น้ำยังขึ้นสูงทุกวัน วันละ 2-3 เซนติเมตร คาดว่าอีก 1 สัปดาห์น้ำจะเพิ่มสูงอีกประมาณ 30 เซนติเมตร และถนนทุกสายในย่านนี้จะเต็มไปด้วยน้ำ

"สรุปก็คือน้ำจะไม่ทะลักท่วมแบบกะทันหันเหมือนที่เราเห็นที่พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และ นครสวรรค์ เพราะน้ำที่ท่วมจะเป็นลักษณะน้ำเอ่อ แต่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ลดลง" ดร.คมสัน กล่าว

รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ระบุอีกว่า หากมีฝนตกลงมาเพิ่ม ซึ่งแนวโน้มก็จะมีฝนตกเกือบทุกวัน ถนนสายหลักหลายสายในพื้นที่อาจใช้การไม่ได้ เช่น ถนนร่มเกล้า ถนนฉลองกรุง ถ้าคิดจะดันน้ำเข้าไปทางคลองพระโขนง ก็จะทำให้แถวๆ อ่อนนุช พระโขนงน้ำท่วม แม้จะไม่รุนแรงมากก็ตาม ส่วนสถานการณ์ของนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง เลวร้ายที่สุดน้ำจะท่วมสูงไม่เกิน 1.30 เมตร แต่ทางนิคมฯ ได้ทำคันกั้นน้ำเอาไว้ค่อนข้างสูงและแข็งแรงพอสมควร จึงมั่นใจว่าป้องกันได้

สำหรับขีดความสามารถในการสูบน้ำฝั่งตะวันออก จากการลงพื้นที่สำรวจสถานีสูบน้ำจริงแต่ละแห่ง โดยแบ่งเป็น 2 ด้าน คือ ด้าน จ.สมุทรปราการ กับด้าน จ.ฉะเชิงเทรา พบว่า

- ด้าน จ.สมุทรปราการ มีสถานีสูบน้ำที่สำคัญ คือ สถานีสูบน้ำตำหรุ บางปลาร้า บางปลา สุวรรณภูมิ เจริญราษฎร์ คลองด่าน และ ชลหารวิจิตร สามารถระบายน้ำได้เต็มศักยภาพ 31.69 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
- ด้าน จ.ฉะเชิงเทรา ผ่านโครงการพระองค์ไชยานุชิตลงแม่น้ำบางปะกง มีสถานีสูบน้ำที่สำคัญ คือ สถานีสูบน้ำบางขนาก ท่าไข่ ท่าถั่ว ปากตะคอง เทพรังสรรค์ และพระยาวิสูตร สามารถระบายน้ำได้เต็มศักยภาพ 6.7 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน

รวมการระบายน้ำทั้ง 2 ด้าน หากสูบได้เต็มศักยภาพ 38.39 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน แต่สภาพความเป็นจริงระบายได้เพียง 50% หรือ 19.20 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เท่านั้น โดยปัญหาที่พบ คือ
1. มีขยะทั้งขยะจม ขยะลอย และผักตบชวาอุดตันที่หน้าสถานีสูบน้ำจำนวนมาก
2. เครื่องสูบน้ำไม่สามารถสูบน้ำได้ 100% เพราะระดับเครื่องที่ตั้งสูงเกินกว่าระดับน้ำด้านหน้าสถานี อันสืบเนื่องจากปัญหาดินทรุดและสร้างมานาน
3. การดึงน้ำจากบริเวณที่น้ำท่วมขังไปถึงเครื่องสูบน้ำไม่สัมพันธ์กันหรือน้ำขาดช่วง เช่น มีถนนกั้นทางน้ำอยู่
4. เครื่องสูบน้ำทำงานหนัก ต้องพักหรือชำรุด
5. สถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิไม่มีเครื่องสำรองกรณีต้องพักหรือเสียหาย

ทั้งหมดนี้เมื่อผนวกกับสภาพพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มแอ่งกระทะ ทำให้ทุกฝ่ายคาดการณ์ตรงกันว่า 4 เขตฝั่งตะวันออกของ กทม. มีโอกาสน้ำท่วมขังยาวถึงสิ้นเดือนพ.ย.

 

ระดับน้ำคลอง 4 เริ่มวิกฤต จ่อล้นคันดินสูง2เมตรแล้ว

วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 13:18:42 น.


นายผล ดำธรรม นายอำเภอคลองหลวง กล่าวเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ว่า ขณะนี้ระดับน้ำในคลอง 4 เริ่มวิกฤต ใกล้จะล้นคันดินที่ทำไว้สูง 2 เมตรแล้ว ซึ่งได้ประสานขอกำลังจากทหารมาช่วยเสริมแนวกระสอบทรายให้สูงขึ้นอีก ไม่เช่นนั้นน้ำจะท่วมเข้าคลองรังสิตได้

ระดับน้ำคลอง 4 เริ่มวิกฤต จ่อล้นคันดินสูง2เมตรแล้ว : มติชนออนไลน์

 

เตือนกิ่งแก้ว-ร่มเกล้าเก็บของขึ้นที่สูง

18 ตุลาคม 2554 เวลา 12:54 น.
กรมชลฯเตือนพื้นที่นอกคันกั้นกิ่งแก้ว-ร่มเกล้าเก็บของขึ้นที่ สูง1ม.คาดน้ำท่วมสูง80ซม. ขณะที่ระดับน้ำคลอง4รังสิตใกล้ล้นคันดินระดมเสริมกระสอบทรายเพิ่ม
กรมชลประทานได้แจ้งเตือนให้ราษฎรในเขต​พื้นที่ด้านนอกคันกั้นน้ำพระราชดำ ​ริตามแนวถนนกิ่งแก้ว ถนนร่มเกล้า ให้เก็บของขึ้นที่สูงและหรื​อทำแนวป้องกันไม่น้อยกว่า 1.00 ม.- 1.50 ม. เนื่องจากคาดว่าจะได้รับผลกระทบน้ำท่วมที่ระดับความสูงประมาณ 50-80 ซม.
นอกจากนี้ยังเตือนพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้​าพระยา บริเวณอ.บางบัวทอง บางใหญ่ และบางกรวย จ.นนทบุรี ว่าเป็นพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ​จากน้ำท่วมเช่นกัน โดยให้ประชาชนบริเวณดังกล่าว เตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงประมาณ 1.50 - 2.00 ม.และติดตามการแจ้งเตือนจากส่วนราชการอย่างใกล้ชิด
ด้าน เขตทวีวัฒนา แจ้งว่าระดับน้ำคลองมหาสวัสดิ์ เขตวัฒนาสูง 1.9 เมตร ต่ำกว่าคันกั้นที่ความสูง 2.5 เมตร โดยยังเชื่อว่าสามารถรับมือได้ ส่วนที่น่าจะกังวลคือฝั่งนนทบุรี และฝั่งนครปฐมจุดศาลายา ซึ่งที่นนทบุรี หากจำนวนน้ำมีปริมาณมากกว่า 2.5 เมตร ก็จะล้นคันกั้น
ขณะที่ระดับน้ำในคลอง 4 รังสิต เริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤตใกล้จะล้นคันดินที่ทำไว้สูง 2 เมตรแล้ว ซึ่งทางอำเภอคลองหลวงได้ประสานขอกำลังจากทหารมาช่วยเสริมแนวกระสอบทรายให้ สูงขึ้นอีก ไม่เช่นนั้นน้ำจะท่วมเข้าคลองรังสิตได้

เตือนกิ่งแก้ว-ร่มเกล้าเก็บของขึ้นที่สูง - โพสต์ทูเดย์ ข่าวกทม.-ภูมิภาค

 

เกาะติด48ชม.อันตราย

18 ตุลาคม 2554 เวลา 12:14 น.
เกาะติด 48 ชั่วโมง กทม.ระดมทุกวิถีทางป้องกันน้ำจากรังสิตถล่มเมือง

วันที่ 17 ต.ค.
เวลา 21.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.แถลงว่า กทม.จะใช้กระสอบทราย 1.2 ล้านกระสอบเสริมคันกั้นน้ำคลองหกวาให้สูง3เมตรเพื่อป้องกันน้ำโดยมีเวลา เหลืออยู่แค่ 48 ชม.
เวลา 22.00 น. ทีมงานผู้ว่าฯกทม.โพสต์ขอ้ความแจ้งประชาชนผ่านเฟซบุ๊กว่า น้ำคลอง 8-9 จะสูงถึง 3.5เมตร ต้องทำคันกั้นสูงอีก 50 ซม. ขอแรงคน กทม.ไปร่วมบรรจุทรายที่โ รงเรียนฤทธิวรรณาลัย 2 ซอย43 เขตสายไหม
วันที่18 ต.ค.
เวลา 07.00 น. ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ตรวจคันกั้นน้ำบริเวณทางกลับรถใต้สะพานข้ามคลองรังสิต ถ.พหลโยธิน ระดับน้ำอยู่ห่างจากความสูงคันกั้นน้ำประมาณ 50 ซม. เจ้าหน้าที่นำรถสูบน้ำมาเตรียมพร้อมแก้ไขสถานการณ์หากน้ำเอ่อท่วม
เวลา 08.28 น. ช่อง 3 รายงานว่า ถนนเชียงรากด้านหลังมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต น้ำได้ทะลักเข้าเข้าถนน ทำให้รถสัญจรไปมาไม่ได้ และน้ำได้ไหลเข้าคลองเปรมประชากรแล้ว
เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่กทม.และประชาชนจำนวนมากเดินทางมาร่วมบรรจุกระสอบทรายที่ โ รงเรียนฤทธิวรรณาลัย 2 เพื่อนำไปเสริมคันกั้นน้ำคลองหกวา
เวลา 11.45 น. เจ้าหน้าที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพิ่มอีก 9 เครื่อง เพื่อสูบน้ำจากคลองรังสิตลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี
เวลา 12.00 น. ระดับน้ำในคลองรังสิตเหนือประตูระบายน้ำฝั่งเจ้าพระยาเพิ่มเป็นร 3.73 เมตร จาก 3.58 เมตร เมื่อช่วงเช้าอยู่ต่ำกว่าแนวคันกั้นน้ำประมาณ 40 ซ.ม.
เวลา 12.15 น. ระดับน้ำคลองมหาสวัสดิ์ เขตวัฒนาสูง 1.9 เมตร ต่ำกว่าคันกั้นที่ความสูง 2.5 เมตร ผช่วยผอ.เขตเชื่อยังรับมือได้
เวลา 12.30 น. ระดับน้ำคลอง4เพิ่มสูงใกล้ล้นคันกินกั้นสูง 2 เมตร ทหารระดมกกำลังเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันน้ำล้นเข้าคลองรังสิต
เวลา 12.35น. กรมชลประทานเตือนพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้​าพระยา บริเวณอ.บางบัวทอง บางใหญ่ และบางกรวย จ.นนทบุรี ให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง 1.50 - 2.00 ม.
เวลา 12.45 น. กรมชลประทานเตือนให้ราษฎรในเขต​พื้นที่ด้านนอกคันกั้นน้ำพระราชดำ​ริตามแนว ถนนกิ่งแก้ว ถนนร่มเกล้า ให้เก็บของขึ้นที่สูงและหรื​อทำแนวป้องกันไม่น้อยกว่า 1.00 ม.- 1.50 ม. เนื่องจากคาดว่าจะได้รับผลกระทบน้ำท่วมที่ระดับความสูงประมาณ 50-80 ซม.
***โพสต์ทูเดย์จะอัพเดทความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง***
เกาะติด48ชม.อันตราย - โพสต์ทูเดย์ ข่าวกทม.-ภูมิภาค

 

น้ำท่วมหลายชุมชนใต้สะพานซังฮี้


หลายชุมชนริมเจ้าพระยาที่ไม่มีคันกั้นน้ำ ย่านสะพานซังฮี้ ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำเจ้าพระยาที่ไหลเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนสูงกว่า 1 เมตรแล้ว และขยายวงกว้างจนถึงหน้าโรงเรียนราชผาติการาม เขตดุสิต ผอ.โรงเรียน ต้องสั่งเสริมกระสอบทราย 4 ชั้น ป้องกันน้ำทะลักเข้าโรงเรียน

หลายชุมชนใต้สะพานซังฮี้ โดยเฉพาะชุมชนราชผาทับทิมร่วมใจ เขตดุสิต ซึ่งมีชาวบ้านอาศัยอยู่กว่า 145 ครัวเรือน เป็นชุมชนริมเจ้าพระยาที่ไม่มีคันกั้นน้ำและได้รับผลกระทบจากการถูกน้ำท่วมแล้ว หลังระดับน้ำจากเจ้าพระยาได้ไหลเอ่อเข้าสู่บ้านเรือนประชาชนและขยายวงกว้างไปถึงหน้าโรงเรียนวัดราชผาติการาม
ล่าสุด นางกัลยานี นาคงาม ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดราชผาติการาม ต้องเร่งสั่งเสริมคันกั้นน้ำโดยนำกระสอบทรายมากั้นถึง 4 ชั้น เพื่อสกัดการทะลักเข้าสู่ตัวโรงเรียน โดยหวังว่าจะสามารถรับมือกับน้ำท่วมครั้งนี้ได้ และจะเปิดเรียนได้ตามปกติตามที่กำหนดคือ 1 พฤศจิกายนนี้ หากไม่มีสถานการณ์ที่วิกฤตจากน้ำท่วมเกิดขึ้น

นางกัลยานี เปิดเผยด้วยว่า โรงเรียนแห่งนี้ได้เปิดเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวให้ชาวบ้านที่ประสบปัญหาน้ำท่วมเข้ามาอาศัยอยู่ ล่าสุดมีถึง 50 คน ที่ลงทะเบียนและขอพักอาศัยที่นี้ เพื่อความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เพียงพอต่อการรองรับจำนวนชาวบ้านที่ประสบปัญหาน้ำท่วมริมเจ้าพระยา ก็ได้รับแจ้งจากสำนักงานเขตดุสิตว่าจะเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวเพิ่มอีก 3 แห่ง คือ 1.โรงเรียนเทวราชกุญชร 2.โรงเรียนวัดจันทร์สโมสร 3.โรงเรียนทีปังกรรัศมีโชติ หรือ โรงเรียนวัดโบถส์ ซึ่งประชาชนที่มาพักพิงจะได้รับการดูแลอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหารการกินและการหลับนอนที่จัดเตรียมไว้อย่างเต็มที่

 

แจ้งปิดถนนทางหลวงนนทบุรี3เส้น


18 ตุลาคม 2554 เวลา 12:31 น.<!-- end facebook-share -->
<!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->
ปิดเส้นทางการจราจรทางหลวงนนทบุรี 3 เส้นทาง ไปสุพรรณบุรี-นครปฐม ให้ใช้เส้นทาง ลาดปลาดุก-ไทรน้อย แทน

นายชนินทร ชูขวัญ ผู้อำนวยการสำนักงานบำรุงทางนนทบุรี เปิดเผย การปิดเส้นทางการจราจรทางหลวง ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ดังนี้

1. ทางหลวงหมายเลข 9 ถนนกาญจนาภิเษก ตอนบางบัวทอง ก.ม.58-869 ต่อเขตแขวปทุมธานี ระหว่าง ก.ม.45-213 - ก.ม.45-842 หน้าหมู่บ้านสมบัติบุรี มีปริมาณน้ำท่วมสูง 50-100 เซนติเมตร

2. ทางหลวงหมายเลข 340 ตอนบางบัวทอง - ลาดบัวหลวง ต่อเขตแขวงกาญจนบุรี - สุพรรณบุรี ที่ 2 ระหว่าง ก.ม.26+000 - ก.ม.33+000 มีปริมาณน้ำท่วมสูง 40-80 เซนติเมตร

3. ทางหลวงหมายเลข 344 ตอนสะพานนนทบุรี-ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ระหว่าง ก.ม.4+400+ก.ม.10+547 บิรเวณคลองพระอุดม มีปริมาณน้ำท่วมสูง 60-120 เซนติเมตร

อย่างไรก็ตาม สำหรับรถที่จะเดินทางไปจังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดนครปฐม ให้ใช้เส้นทาง ลาดปลาดุก-ไทรน้อย แทน

เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!

 

ปิดจราจรราชพฤกษ์-นครอินทร์


18 ตุลาคม 2554 เวลา 13:40 น.<!-- end facebook-share -->
<!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->
ทางหลวงชนบทแจ้งราชพฤกษ์-นครอินทร์ ปริมาณน้ำสูงขึ้นต้องปิดการจราจร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในวันที่ 18ต.ค.54 กรมทางหลวงชนบทแจ้งให้ทราบว่า ถนนราชพฤกษ์ ตัดกับถนน 345 ของกรมทางหลวง กม.30+700 ด้านขวา บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานข้ามคลองบางกอกน้อยและบริเวณจุดกลับรถใต้สะพานข้ามคลองบางบัวทอง ช่วงที่มีปริมาณน้ำขึ้นจะต้อง ปิดการจราจร

ส่วนถนนนครอินทร์ บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานคลองบางกอกน้อย และบริเวณจุดกลับรถใต้สะพานคลองบางราวนก ช่วงปริมาณน้ำขึ้นปิดการจราจรเช่นกัน ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางโปรดระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน ผู้ใช้เส้นทางสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนทางหลวงชนบท โทร.1146 ตลอด 24 ชั่วโมง

เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!
<IFRAME height=69 src="http://widgets.fbshare.me/files/fbshare.php?size=large&url=http://goo.gl/fhMPh&title=" frameBorder=0 width=53 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>

 

น้ำเริ่มทะลักเข้ารังสิต


18 ตุลาคม 2554 เวลา 14:11 น.<!-- end facebook-share -->
<!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->
น้ำเริ่มทะลักเข้ารังสิตแล้ว ตลาดรังสิตท่วมสูง 30-50 ซม. ทหารเร่งเพิ่มแนวกระสอบทรายชั้นที่ 3

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณตลาดรังสิต (ตลาดนอก) ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้มีน้ำเอ่อมาจากท่อระบายน้ำเข้าท่วมถนนสายรังสิต-ปทุมธานี แล้ว จากนั้นได้ไหลเข้าท่วมภายในตลาดรังสิต จนระดับน้ำสูงประมาณ 30-50 ซม. ชาวบ้านต้องเร่งช่วยกันกั้นกระสอบทราย ก่อนนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออกอย่างเร่งด่วน โดยตลอดเส้นทางสายรังสิต-ปทุมธานี (ขาเข้าปทุมธานี) ตั้งแต่ตลาดรังสิตไปจนถึงสะพานข้ามทางรถไฟ และทิศทางกลับกัน น้ำได้เอ่อล้นออกมาจากท่อระบายน้ำเข้าท่วมบริเวณด้านหน้าหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ยาวไปจนถึงทางโค้งท่ารถต่างจังหวัดติดถนนพหลโยธิน

ส่วนทางด้านถนนรังสิต-นครนายก ฝั่งเลียบคลอง เจ้าหน้าที่ทหารยังคงเพิ่มแนวคันกั้นน้ำกระสอบทรายเป็นชั้นที่ 3 หลังจากทางด้านคลองระพีพัฒน์ได้เปิดประตูระบายน้ำตั้งแต่คลอง 1 ไปจนถึงคลอง 7 เพื่อระบายน้ำที่รับมาจาก อ.วังน้อย ให้ผ่านมายังรังสิต จนเป็นเหตุให้กำลังเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนที่อยู่ตลอดแนวคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ต้องเร่งเสริมกระสอบทรายให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน


เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!
<IFRAME height=69 src="http://widgets.fbshare.me/files/fbshare.php?size=large&url=http://goo.gl/jRTyt&title=" frameBorder=0 width=53 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>

 

กทม.เตรียมเปิดประตูชั้นในระบายน้ำเหนือ


18 ตุลาคม 2554 เวลา 14:21 น. <!-- end facebook-share -->
<!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->
ผู้ว่าฯกทม.เผยเตรียมเปิดประตูชั้นในระบายน้ำเหนือออกทะเลหลังปริมาณฝนลด เตือนประชาชนเฝ้าระวังคันกั้นน้ำทุกจุดใกล้ชิด


แผนที่แสดงแนวกั้นกระสอบทรายบริเวณคลองหกวาสายล่าง ที่ป้องกันน้ำท่วมเขตสายไหม

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ภาพรวมสถานการณ์น้ำในวันที่ 18 ต.ค.ยังคงปกติ โดยคาดว่าปริมาณฝนจะลดลง กทม.จึงเตรียมเปิดประตูระบายน้ำในเขตพื้นที่ชั้นใน เพื่อเร่งระบายน้ำจากด้านเหนือลงสู่ด้านใต้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในย่านปริมณฑล โดยระดมกำลังทุกภาคส่วนป้องกันเขตสายไหม เสริมกระสอบทรายสูงอีก 50 ซม.

ทั้งนี้ การเสริมแนวคันกั้นน้ำบริเวณคลองหกวาสายล่าง (ถนนเลียบคลองสอง) เขตสายไหม โดยต้องใช้กระสอบทรายถึง 2 ล้านใบ โดย กทม.ได้รับการประสานจากรัฐบาลว่าจะมอบกระสอบทรายจำนวน 1 ล้านใบ และภายในวันนี้รัฐบาลจะจัดส่งถุงใส่ทรายจำนวน 8 แสนใบ รถบรรทุกทราย 25 คัน รวม 1 หมื่นคิว และยังมีรถบรรทุกทรายของ กทม.ที่จะทยอยส่งมายังสถานที่บรรจุทรายอีก 50 คัน

"ขณะนี้ความเสี่ยงของ กทม.อยู่ที่แนวคันกั้นน้ำชั่วคราวทุกแห่ง เช่น ที่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ เขตเทศบาลตำบลหลักหก คลองหกวาสายล่าง เขตสายไหม เพราะหากแนวคันกั้นน้ำพังจะทำให้น้ำทะลักเข้ามาได้ กทม.ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยดูแลด้วย" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
<INS></INS>
<INS>ยกระดับถ.เลียบคลองสองแล้วเสร็จวันนี้</INS>

ในส่วนของความคืบหน้าการยกระดับถนนเลียบคลองสอง ให้สูงขึ้นอีก 30 ซม. นั้นคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันนี้ และจะเคลื่อนย้ายกำลังเจ้าหน้าที่ไปทำถนนยกระดับเพื่อเป็นแนวคันกั้นน้ำในบริเวณซอยสายไหม 85 ให้สูงขึ้นอีก 30 ซม. โดยคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 1 วันครึ่ง
<INS></INS>
<INS>วอนประชาชนเฝ้าระวังแนวคันกั้นน้ำอย่างใกล้ชิด</INS>

สำหรับแนวคันกั้นน้ำทั้งหมดมีความเสี่ยงในการถูกทำลาย ขอความร่วมมือให้ประชาชนร่วมเฝ้าระวังแนวคันกั้นน้ำ ซึ่งกรุงเทพมหานครเองก็ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทำความเข้าใจแก่ประชาชนในพื้นที่ด้วย

ขณะที่ศูนย์ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานครระบุว่า เมื่อน้ำเข้าสู่คลองรังสิตกรุงเทพมหานครได้เตรียมตั้งรับที่ประตูระบายน้ำหลัก 6 อย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้าพื้นที่ตอนเหนือของดอนเมือง และหากน้ำผ่านคันกั้นนี้มาแล้ว กรุงเทพมหานครยังมีถนนเป็นแนวกั้นอีกชั้นที่ถนนแจ้งวัฒนะ

ส่วนด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานคร หากน้ำทะลักเข้ามาพื้นที่คลอง 1-10 น้ำจะลงมาที่คลองรังสิตเช่นกัน หากคลองรังสิตไม่สามารถรับน้ำไว้ได้ น้ำจะทะลักเข้ามาที่คลองหกวา ซึ่งทางกรุงเทพมหานครได้เร่งเสริมคันกระสอบทรายเพิ่มขึ้นอย่างเร่งด่วนแล้ว


เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อพยพคน “นวนคร” วันที่ 2 ทหารเร่งอุดรอยรั่วพนังกั้นน้ำทิศเหนือ-ตะวันออก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>18 ตุลาคม 2554 13:22 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>


<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9540000132731&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เร่งอพยพชาวนิคมฯ นวนครต่อเนื่องเป็นวันที่สอง มทภ.1 เผยท่วมพื้นที่นิคมฯแล้ว 90% บางจุดท่วมสูงกว่า 2 เมตร ทำให้โรงงานเสียหายร้อยละ 10 พร้อมสั่งทหารเข้าอุดรอยรั่วพนังกั้นน้ำที่พังทลายด้านทิศเหนือและตะวันออก


<CENTER></CENTER>

วันนี้ (18 ต.ค.) สถานการณ์น้ำท่วมในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี ยังคงวิกฤต มีประชาชนอีกเป็นจำนวนมากติดอยู่ภายใน และไม่สามารถออกมาได้ ขณะที่ระดับน้ำนั้นเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากนิคมอุตสาหกรรมนวนครกำลังรับน้ำที่ไหลบ่ามา 2 ทาง คือ ด้านเหนือรับน้ำจากนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ลอดผ่านถนนกาญจนาภิเษกเข้าประตูระบายน้ำพระอินทร์ราชาต่อไปที่คลองเชียงรากน้อยแล้วเข้านวนคร ส่วนอีกด้านหนึ่งคือน้ำที่ไหลบ่ามาจากทิศตะวันตก เนื่องจากน้ำในคลองเปรมประชากร ซึ่งรับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงล้นเข้าสู่พื้นที่นวนคร


<CENTER></CENTER>

สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปนั้น ชาวนิคมอุตสาหกรรมนวนครได้ทยอยอพยพออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ท่ามกลางเศษขยะ และสิ่งของที่ลอยเกลื่อนเต็มพื้นน้ำ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารอำนวยความสะดวกและคอยให้ความช่วยเหลือ ซึ่งต้องใช้เรือในการอพยพประชาชน และรถบรรทุกขนาดใหญ่ของกองทัพยังเข้าได้เพียงบางพื้นที่เท่านั้น


<CENTER></CENTER>

ด้าน พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์น้ำท่วมในเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี น้ำท่วมแล้วร้อยละ 90 ของพื้นที่ มีเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ที่น้ำยังเข้าไม่ถึง ขณะที่ความเสียหายโรงงานร้อยละ 10 มีความเสียหายอย่างหนัก น้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร และอีกร้อยละ 80 ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ ทั้งนี้ บริษัทอุตสาหกรรมได้มีการเตรียมการสร้างกำแพงป้องกันน้ำท่วมโรงงาน จากประสบการณ์ที่นิคมฯ อื่นๆ ถูกน้ำท่วมมาก่อนหน้านี้

<CENTER></CENTER>

พล.ท.อุดมเดชกล่าวอีกว่า จากการบินสำรวจพื้นที่ พบว่ามีพื้นที่ 4 จุด ทางด้านทิศเหนือ และทิศตะวันตก ที่พนังกั้นน้ำพังทลาย ซึ่งทหารช่างได้ลงสำรวจทางภาคพื้นดินแล้ว โดยแนวทางการซ่อมแซม คือ การจะใช้โป๊ะบรรทุกรถแบ็กโฮเข้าซ่อม อุดรอยรั่ว ทั้งนี้ ได้มีการแบ่งทหารออกมาส่วนหนึ่งเพื่ออพยพประชาชนที่ยังติดอยู่ในหมู่บ้านและในพื้นที่นิคมฯ

อย่างไรก็ตาม พล.ท.อุดมเดชยืนยันว่า ทหารทั้ง 600 นายจะยังคงทำงานอย่างหนัก เพื่อปกป้องให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

กรรมของคนกรุงเก่า! ผู้ว่าฯเตือนเตรียมรับมือน้ำเหนืออีกระลอก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 ตุลาคม 2554 14:34 น.
พระนครศรีอยุธยยา - ผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา เตือนชาวบ้านกรุงเก่า เตรียมพร้อมรับมือน้ำเหนือไหลทะลักซ้ำเติมอีกระลอกภายใน 2-3 วันนี้ ด้าน ผบก.อยุธยา สั่งกำชับตำรวจตรวจเข้ม หลังมีขโมยขึ้นบ้านผู้ประสบภัย โวยแบงก์ซ้ำเติมประชาชน เบิกหรือโอนเงินต่างธนาคารต่างสาขาต้องเสียค่าบริการครั้งละ 50 บาท ด้านกองทัพเรือจัดแพพักอาศัย 20 แพ ช่วยผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ในเขตอุตสาหกรรมนิคมโรจนะ

วันนี้ (18 ต.ค.54) สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำยังทรงตัว น้ำที่ท่วมขังเป็นเวลานานเริ่มส่งกลิ่นเหม็นแล้ว จากการที่ชาวบ้านนำขยะทิ้งในน้ำและถ่ายสิ่งปฏิกูลลงในน้ำ ปัญหาชาวบ้านยังคงเป็นปัญหาเดิมๆ คือ การต้องรอรถและเรือรับส่งเป็นเวลานาน เพราะรถและเรือบริการจากทหารและภาครัฐมีไม่เพียงพอกับชาวบ้านที่จะเข้าออก เพื่อไปซื้อของกินของใช้และรับถุงยังชีพ

สำหรับสินค้าในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ก็ไม่มีของขาย ตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารต่าง ๆ ก็ใช้งานไม่ได้ และหากเบิกหรือโอนเงินต่างธนาคารต่างสาขาต้องเสียค่าบริการครั้งละ 50 บาท ซึ่งชาวบ้านบ่นว่า เป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนเข้าไปอีก

นอกจากนี้ ยังมีคนร้ายเข้าไปขโมยของภายในบ้านที่ถูกน้ำท่วม และขณะที่บางครั้งคนร้ายหากเข้าพบเห็นผู้หญิงอยู่บ้านเพียงลำพังก็จะเข้าไป ทำร้ายข่มขืนทำอนาจารด้วย ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกตรวจตราอย่างเข้มงวด โดย พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่น้ำท่วมให้ใช้เรือออกตรวจตราเพิ่มขึ้น เป็นเท่าตัว แต่เนื่องจากอุปกรณ์ที่จะใช้ในการทำงาน เช่น เรือก็มีไม่เพียงพอ จึงไม่สามารถจะดูแลชาวบ้านได้อย่างทั่วถึง

ด้านนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำล่าสุดว่า ขณะนี้น้ำได้ท่วมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนครบหมดทุกอำเภอแล้ว ทางจังหวัดจึงจำเป็นต้องให้ชาวบ้านอพยพย้ายออกมาอยู่ข้างนอก เพื่อความสะดวกในการช่วยเหลือ หากชาวบ้านยังอยู่ภายในบ้านเกรงว่า จะช่วยเหลือลำบากไม่ทั่วถึง

"สำหรับน้ำตอนนี้ยังคงทรงตัวอยู่ แต่ได้แจ้งเตือนชาวบ้านแล้วว่า จะมีมวลน้ำที่แตกมาจากมโนรมณ์ จังหวัดชัยนาท ที่จะมาถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกภายใน 2-3 วันนี้ ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก 3-5 ซม. จึงอยากให้ชาวบ้านหาวิธีป้องกันและยกข้าวของขึ้นให้พ้นระดับน้ำที่จะมา อีกระลอกหนึ่ง" ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าว และว่า

สำหรับเรือที่ยังไม่เพียงพอเพราะหาซื้อยากเนื่องจากของไม่มีขายนั้น ตอนนี้ได้ให้วิทยาลัยอาชีวะ วิทยาลัยเทคนิคต่างๆ จัดสร้างอุปกรณ์เรือ สิ่งทดแทนและเรือเพิ่มแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการและความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำ ท่วมทั้ง 16 อำเภอ

กองทัพเรือมอบแพพักอาศัย 20 แพ
ช่วยผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในเขตอุตฯโรจนะ

ด้านพลเรือโท ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ รองเสนาธิการทหารเรือ เดินทางเป็นผู้แทนส่งมอบแพพักอาศัย (pontoon) จำนวน 20 แพ ให้กับ พลโท สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รองเสนาธิการทหารบก เพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยชั่วคราว พร้อมเป็นทางเดินเข้าออกชั่วคราวให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ภายในพื้นที่เขต อุตสาหกรรมนิคมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

โดยแพพักอาศัย(pontoon) ทางกองทัพเรือได้สร้างขึ้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบกับ ปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมครั้งนี้อย่างรุนแรงและลำบากทั้งการเดินทางเข้าออกและ ที่อยู่อาศัย จึงได้จัดทำแพดังกล่าว ซึ่งทางกรมอู่ทหารเรือ รับหน้าที่การสร้าง โดยนำถังน้ำมัน 200 ลิตร โครงเหล็กมีความกว้าง 3 เมตร ยาว 6 เมตร สูง 80 เซนติเมตร มีหลังคาผ้าใบ สามารถรับน้ำหนักได้ 1,500 กิโลกรัม หรือรับคนได้ 15 คน ซึ่งตอนนี้แพทั้งหมดได้ทำการติดตั้งและพร้อมให้ประชาชนในเขตอุตสาหกรรมนิคม โรจนะ ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งนี้ได้ใช้แล้ว โดยหวังว่าจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนและเกิด ประโยชน์สูงสุดต่อไป
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000132785 Local - Manager Online -

กรุงเทพเหนื่อยแน่

 

ลพบุรี-พิจิตรยังวิกฤต!! น้ำท่วมสูงต่อเนื่อง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 ตุลาคม 2554 13:40 น.



สถานการณ์ใน ต.บางลี่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ขณะนี้ระดับน้ำที่ท่วมขังเพิ่มสูงอีก 50 เซนติเมตร ทำให้บางจุดท่วมสูงแล้ว 7 เมตร นอกจากนี้ น้ำยังไหลหลากข้ามถนนสายลพบุรี-สิงห์บุรี ไปยัง ต.โพตลาดแก้ว และด้วยกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ยังทำให้ที่พักชั่วคราวของชาวบ้านที่อพยพมาอยู่บนถนนหลายแห่ง เริ่มพังเสียหาย
ส่วนที่ จ.พิจิตร สถานการณ์น้ำท่วมกลับมาวิกฤตอีกครั้ง เนื่องจากน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ได้ไหลหลากลงแม่น้ำน่านอีกระลอก และเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 6 หมู่บ้านใน ต.ไผ่หลวง อ.ตะพานหิน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ บ้านเรือนกว่า 700 หลังถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร