WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

อุบลฯ เร่งวางกระสอบทรายกันน้ำมูล-น้ำชีไหลท่วมเมือง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 ตุลาคม 2554 14:58 น.
นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการ จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า จ.อุบลราชธานี เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำแม่น้ำมูลและแม่น้ำชี อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีรายงานว่า น้ำมูลหลายพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา และบุรีรัมย์ น้ำชีที่ จ.ร้อยเอ็ด ระดับสูงขึ้น คาดว่ามวลน้ำจำนวนมากจะเข้าสู่ จ.อุบลราชธานี ในสัปดาห์หน้า จ.อุบลราชธานี เตรียมการป้องกันไม่ให้น้ำท่วมเทศบาลอุบลราชธานี และเทศบาลเมืองวารินชำราบ ขยายเป็นวงกว้าง รวมทั้งพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น อ.พิบูลย์มังสาหาร ดอนมดแดง สว่างวีรวงศ์ ตาลสุม ศรีเมืองใหม่ เดชอุดม นาเดีย และอ.เขื่องใน โดยจเร่งวางกระสอบทรายทำคันกั้นน้ำไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมเพิ่มเติม และชะลอน้ำที่จะไหลสู่เขตชุมชนในตัวเมืองอุบลราชธานี
Manager Online -

 

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ หนุมาน ผู้นำสาร
*** หยุด...ไป หยุด....ไป หยุด...ไป ****

คนอื่นยังไม่รู้ตัว
พระมหาชนก รู้เหตุการณ์เรือจะล่ม
กินเต็มท้อง น้ำมันทาตัว พร้อมเผชิญสถานการณ์
เมื่อพร้อม ก็สู้ด้วยตนเอง พึ่งตนเอง ว่ายน้ำไปด้วยกำลังตนเอง
ไม่เคยหวังพึ่งกัปตัน ...

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ราชบุรี เพรชบุรี กาญจนบุรี ชลบุรี ฯลฯ ยังอุดสมบูรณ์ รองรับคนได้อีกเยอะ ลองพิจารณาดูครับ
ถึงก่อนมีสิทธิ์ก่อน ถ้าช้าบ้านเช่าห้องเช่า อาจเต็ม!!<!-- google_ad_section_end -->

 

วิเคราะห์สถานการณ์น้ำท่วมกทมและรอบนอก 19 ต.ค

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=1gmzeltpo-Y&feature=uploademail]สถานการณ์น้ำท่วมกทมและรอบนอก 19 ต.ค. - YouTube[/ame]​

 

ผู้ว่าฯ กทม.เตือนชุมชนริมคลองหกวาอพยพ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 ตุลาคม 2554 15:09 น
ผู้ว่าฯ กทม.แจ้งชาวชุมชนริมคลองหกวาอพยพ หลังมีกว่า 200 ครัวเรือนอยู่นอกคันกั้นน้ำ ระบุ ให้ไป ร.ร.สายไหม-ร.ร.ฤทธิยะวรรณาลัย 2 ยันรับได้กว่า 2 พัน ก่อน ก่อนทวีตแจ้งเร่งประชุมผู้บริหารรับมือ

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.แถลงเตือนครั้งที่ 2 แนะให้ประชาชนกว่า 200 ครัวเรือน ที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ ริมคลองหกวา อพยพไปที่ ร.ร.สายไหม และ ร.ร.ฤทธิยะวรรณาลัย 2 รับได้พันคน

นอกจากนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้ทวิตเตอร์ @ bangkokgovernor Sukhumbhand P.ระบุว่า “ผู้ว่าฯ และผู้บริหาร กทม.กำลังประชุมเพื่อแก้ไขสถานการณ์น้ำ ณ โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย”

 

กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี
ระวังเขี่อนศรีนครินทร์ ให้ดีนะครับ
ศึกษาเส้นทางน้ำไหลไว้บ้าง
สมมุติว่าหากเขื่อนแตกขึ้นมา

 

ผมกลัวเรื่องโพลงใต้ดิน ใต้กรุงเทพ ทำให้ กทม.ทรุดตัว และยอมรับชะตากรรม...

ปริมาณน้ำขณะนี้ถ้าไม่รีบผันออกตามธรรมชาติที่ควรจะเป็น จงอย่ากั้นขวางทางน้ำกันต่อไป มันจะเกินเยียวยา ยิ่งต้าน ยิ่งแรง ยิ่งพัง ....

 

เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในสวนอุตสาหกรรมบางกะดี

 

น้ำท่วมท่าพระจันทร์-ท่าพระอาทิตย์

19 ตุลาคม 2554 เวลา 15:10 น.
น้ำท่วมท่าพระจันทร์-ท่าพระอาทิตย์ เหตุเครื่องสูบน้ำเสีย เจ้าหน้าที่ กทม. เร่งซ่อม ขณะที่ คันกั้นน้ำจรัญฯ 74/1พัง !!น้ำทะลักเข้าถนน
เจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้เครื่องสูบน้ำที่ตั้งอยู่บริเวณถนนอู่ทองเสีย และมีน้ำทะลักมาจากแนวคันกั้น้ำที่ท่าพระอาทิตย์ ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้ตามปกติ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังระดับความสูงประมาณ 10 เซนติเมตรที่บริเวณสนามหลวง ท่าพระอาทิตย์ ท่าพระจันทร์ และหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำดังกล่าวแล้ว และจะเร่งระบายน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 ชม.ก็จะเป็นปกติ และมั่นใจว่าจะไม่กระทบถึงวัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวังอย่างแน่นอน
"ตอนนี้กำลังเร่งซ่อมเครื่องสูบน้ำที่เสีย เดี๋ยวก็เสร็จ เสร็จแล้วก็จะรีบระบายน้ำออก ไม่เกิน 2 ชั่วโมงก็แห้ง ไม่กระทบพระบรมมหาราชวังแน่นอน"เจ้าหน้าที่กล่าว
คันกั้นน้ำจรัญฯ 74/1พัง !!น้ำทะลักเข้าถนน
นางสาวสุรีย์ วัชนะประพันธ์ ผู้อำนวยการเขตบางพลัด เปิดเผยว่า ได้เกิดกำแพงบ้านของประชาชนที่อยู่ในแนวคันกั้นน้ำของ กทม. ภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 74/1 ได้พังลง ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมซอยดังกล่าว และไหลเข้าพื้นที่จราจรของถนนจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งทางเขตได้ส่งเจ้าหน้าที่เร่งซ่อมกำแพงดังกล่าว และล่าสุดได้ซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว สำหรับจุดดังกล่าวนั้น ถือว่าเป็นจุดฟันหลอของแนวคันกั้นน้ำ กทม.ที่เหลืออยู่ เนื่องจากเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ไม่ยอมให้ กทม.เข้าไปทำคันกั้นน้ำ จึงเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น
น้ำท่วมท่าพระจันทร์-ท่าพระอาทิตย์ - โพสต์ทูเดย์ ข่าวกทม.-ภูมิภาค

 

​

ขอขอบคุณ ไทยพีบีเอสขณะที่ปัจจัยของปริมาณน้ำฝน ก็เป็นสิ่งที่ทางสำนักงานเขตเป็นห่วง เพราะหากฝนตกหนักก็จะทำให้น้ำท่วมขังได้ แต่ น.ส.พรรณทิพา งามญาณ ผู้อำนวยการเขตสาทร ได้ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่รวมถึงเตรียมแผนในการอพยพไว้แล้วโดยฝั่งพระนครคาดว่าจะมีน้ำท่วม 6 แห่ง ได้แก่ ดอนเมือง หลักสี่ สายไหม บางคอแหลม ยานนาวา ยานนาวา และสาธร เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำ น้ำท่วมขังได้ สูงประมาณ 1-2 เมตร ส่วนใหญ่ต่ำกว่า 1 เมตร

​

​

​

​

​

​

​

​

ส่วนฝั่งธนบุรี คาดว่าจะมีน้ำท่วม 17 แห่ง ได้แก่ ตลิ่งชัน อรุณอัมรินทร์ บางพลัด บางขุนนนท์ บางขุนศรี จอมทอง บางปะกอกในเขตราษฎร์บูรณะ บางขุนเทียน บางกอกใหญ่ บางกอกน้อย ธนบุรี บางแวกในเขตภาษีเจริญ หลักสอง บางแคและบางแคเหนือ และบางบอน เนื่องจากน้ำจากจังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี อาจจะไหลบ่าล้นคันกั้นน้ำลงมาและไหลเข้าท่วมพื้นที่ได้

​

​

ขณะที่เขตสาทรเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ถูกคาดการณ์ว่าจะ เกิดน้ำท่วม เนื่องจากมีพื้นที่ที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทาง 945 เมตร ซึ่งมีบางพื้นที่ไม่มีแนวคันกั้นน้ำ จึงเป็นจุดเสี่ยงน้ำท่วม ซึ่งกระสอบทรายที่วางเป็นคันกั้นน้ำชั่วคราวซึ่งระดับเดียวกันกับคันกั้นน้ำ ถาวรของ กทม. เป็นแนวทางที่สำนักงานเขตสาทร มั่นใจว่าจะป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ได้​

​

​

​

ม.รังสิต แสดงแบบจำลองคณิตศาสตร์ ชี้พื้นที่ กทม.23 แห่ง จ่อน้ำท่วมทะลัก

วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 15:39:32 น
ศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ระบุว่าจะมีน้ำท่วมเพิ่มใน 23 แห่งของกทม.ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า คันกั้นน้ำแตก พร้อมให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วม กทม.จนถึงปลายเดือนนี้

แบบจำลองสถานการณ์น้ำท่วมของศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต แสดงให้เห็นว่า มวลน้ำขนาดใหญ่ที่กำลังไหลอยู่ทางตอนเหนือของ กทม. ที่อาจจะเข้าท่วมพื้นที่กทม.เพิ่มขึ้นอีก 23 แห่ง ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าคันกั้นน้ำหรือพนังกันน้ำไม่สามารถกั้นน้ำ หรือคันกันน้ำแตก แต่เครื่องสูบน้ำทุกแห่ง ต้องทำงานได้จริง
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1319012456&grpid=03&catid=&subcatid=

 

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ รายงานสถานการณ์น้ำวันที่ 19 ต.ค.2554 (15.00 น.)


ศูนย์เตือนภัยฯ สรุปรายงานสถานการณ์ประจำวัน
วันที่ 19 ตุลาคม 2554 เวลา 15.00 น.

ภาคเหนือ


ใน คืนวันที่ 17 ตุลาคม จนถึง เช้าวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา ในพื้นที่เหนือเขื่อนมีฝนตกปานกลางถึงหนัก เป็นผลให้มีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลเข้าเขื่อนแม่งัดสมบรูณ์ชล (2,309,668 ลบ.ม./วัน) แต่การระบายน้ำนั้นยังคงปกติอยู่ ทำให้แม่น้ำสายต่างๆที่อยู่ท้ายเขื่อนยังคงมีสถานการณ์น้ำปกติ

แนวโน้มสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา


ปริมาณ น้ำที่จังหวัดนครสวรรค์ลดลงอย่างต่อเนื่องช้าๆ เป็นผลให้ปริมาณน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างทรงตัว และเริ่มลดลงบางพื้นที่ แต่ยังคงมีปริมาณน้ำในทุ่งต่างๆ ที่จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในพื้นที่ตอนล่างบริเวณจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา อยู่ในระดับทรงตัวไปอีกสักระยะหนึ่ง หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่มเติมการระบายน้ำออกสู่ทะเลจะเริ่มคลี่คลายไปในทิศ ทางที่ดีขึ้นต่อไป


ภาคใต้


มี กลุ่มเมฆฝนปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ ซึ่งทำให้ฝนตกในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออกและภาคใต้ตอนล่าง แต่ไม่มีผลกระทบต่อระดับน้ำในลุ่มน้ำสาขาต่างๆ


สถานการณ์โดยทั่วไป


ถนนบริเวณเซียร์รังสิต ทางคู่ขนานรถสามารถผ่านได้ช่องทางขวาสุดช่องทางเดียว


ถนน ราชพฤกษ์ ต.คลองข่อย มุ่งหน้าถนนสาย 345 บางบัวทอง ถูกน้ำจากจังหวัดปทุมธานีเข้าท่วมบนพื้นผิวการจราจรเกือบตลอดเส้นทาง สูงกว่า 60 เซนติเมตรและยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะนี้น้ำเริ่มเอ่อไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนตามหมู่บ้าน
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ รายงานสถานการณ์น้ำวันที่ 19 ต.ค.2554 (15.00 น.) : มติชนออนไลน์

 

ระดับน้ำสูงขึ้นเพราะ มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ(ความหนาวเย็น)ร่วมด้วย บวกกับ ระดับน้ำประจำวันที่สูงอยูเเล้ว ทำให้ช่วงนี้น้ำทะเลดูสูงผิดปกติ

 

​

จี้นายกฯปูเปลี่ยนแผนระบายน้ำ

วันพุธ ที่ 19 ตุลาคม 2554 เวลา 14:41 น
“เจ๊หน่อย”จี้ นายกฯปู เปลี่ยนแผนระบายน้ำด่วน หากช้าน้ำทะลักกรุงถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ ด้าน ทักษิณ ผิดหวัง การทำงานรัฐบาล

วันนี้ ( 19 ต.ค.) ที่ศปภ. ดอนเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผอ.ศปภ. พร้อมด้วยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ในฐานะที่ปรึกษาผอ.ศปภ. ได้มีการประชุมด่วนภายหลังจากที่ พล.ต.อ.ประชา และคณะ กลับจากการบินสำรวจสถานการณ์น้ำบริเวณคลองรพีพัฒน์ คลอง 1-12 คลองรังสิตประยูรศักดิ์ และคลองหกวาสายล่าง โดยจากการบินสำรวจพบว่าสภาพน้ำแต่ละคลองมีน้ำเกือบล้นคันคลอง โดยมีแนวคันคลองเหลืออยู่ประมาณ 1 ฟุต และคันคลองรพีพัฒน์มีรอยรั่วแตกเป็นระยะๆ จุดละ 30-70 เมตร ซึ่งได้มีหน่วยทหารเข้าไปซ่อมแซม แต่ก็มีชาวบ้านที่อยู่ริมคลองดังกล่าวมาขัดขวาง เพราะต้องการให้ระบายน้ำออกจากพื้นที่ของตัวเองที่สูงเกือบ 4 เมตร บ้านบางหลังถูกน้ำท่วมจมมิดถึงหลังคา

ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่คลอง 1-12 รังสิตใต้ ได้ออกมาปักหลักรวมกลุ่มต่อต้านการเปิดประตูระบายน้ำของกรมชลประทาน ซึ่งกรมชลประทานสามารถทำได้เพียงเปิดประตูระบายน้ำคลอง 3, 4 และ 8 เท่านั้น ส่งผลให้ปริมาณน้ำยิ่งเอ่อสูงมากขึ้น ทำให้จุดที่คลอง 6 มีน้ำสูงเลยคันคลองรพีพัฒน์ไปแล้ว น้ำจึงไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่รังสิต-องครักษ์ ทำให้น้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์อยู่ในขั้นวิกฤต จนน้ำเอ่อล้นเข้าไปท่วมโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย 2 ที่เป็นจุดที่อันตรายที่สุด เพราะเป็นจุดที่น้ำจะไหลเข้าสู่คลองหกวาสายล่าง ซึ่งทางกทม.ได้ระดมเจ้าหน้าที่จำนวนหลายคนและเชิญชวนประชาชนให้มาร่วมทำ กระสอบทรายเสริมคันกั้นน้ำ เนื่องจากเป็นปราการด่านสุดท้ายที่จะป้องกันน้ำเข้าสู่พื้นที่กทม. แต่ถ้ารักษาจุดนี้ไว้ไม่ได้ จะทำให้น้ำเข้าสู่พื้นที่กทม.ชั้นในทันที เช่น เขตดอนเมือง สายไหม บางเขน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า การเรียกประชุมด่วนดังกล่าวนั้นเป็นเพราะสถานการณ์น้ำเข้าขั้นวิกฤตแล้วที่ จะต้องให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจปรับเปลี่ยนมาตรการระบายน้ำอย่างทันที เพราะถ้าไม่ทำในวันนี้(19 ต.ค.) ก็จะป้องกันกทม.ชั้นในไว้ไม่ได้ เนื่องจากปริมาณน้ำที่ค้างอยู่ในทุ่งรังสิต ทุ่งบางปะอิน พื้นที่รอยต่ออยุธยา-ปทุมธานี-กรุงเทพฯ มีมากกว่า 8,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งแนวคันกั้นน้ำตามคลองต่างๆก็ไม่สามารถรับแรงน้ำจำนวนมหาศาลขนาดนี้ และคันกั้นน้ำจะพังลงเกือบทุกจุด เพราะการระบายน้ำเป็นไปได้ช้า เนื่องจากแม่น้ำเจ้าพระยาสามารถระบายได้เพียงไม่ถึง 200 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ฝั่งตะวันออกที่รัฐบาลพยายามให้ผันน้ำลงไปนั้นและได้ขุดลอกคูคลองอีก 6-7 คลอง ก็สามารถระบายได้แค่ 26 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนการระบายไปฝั่งตะวันตกทำได้ 60 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวก่อนการประชุมว่า เท่าที่ดูสถานการณ์น้ำแล้ว เห็นว่าการระบายน้ำทำได้ยากลำบาก และเห็นว่าอาจจะให้ผลักดันออกทะเลตามแนวทางเดิม ซึ่งจะทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ใจกลาง กทม.ก่อน เพราะการทำคันกั้นน้ำไว้เป็นบล็อกๆนั้นจะยิ่งเพิ่มแรงดันน้ำมากขึ้น ส่งผลให้น้ำทะลุตรงกลาง อาจท่วมเข้าถึงบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้ในเวลาไม่นาน ตนจึงเห็นว่าเป็นสถานการณ์วิกฤตที่จะต้องเข้ามาช่วย ซึ่งตนได้เสนอให้ผันน้ำออกไปทางพื้นที่ จ.นครนายก และฉะเชิงเทรา รวมถึงกรุงเทพฯต้องรับน้ำบางส่วน เพื่อแบ่งเบาภาระและเฉลี่ยปริมาณน้ำ ทำให้พื้นที่ที่มีน้ำท่วม จะมีน้ำท่วมไม่สูงถึง 3-4 เมตร ซึ่งพล.ต.อ.ประชา เห็นด้วยกับแนวทางของตน และจะนำไปหารือกับนายกรัฐมนตรีอีกครั้งว่าจะตัดสินใจอย่างไร

“ดิฉันมาวันนี้ ก็มาช่วย ไม่ได้รับคำสั่งจากใครมา แต่ก็ยอมรับว่ามีคำแนะนำมาจากหลายที่ ซึ่งต้องนำดำเนินการช่วยกันระดมสมองให้ระบายน้ำออกไปให้เพราะน้ำจำนวนเป็น หมื่นกว่าล้านลูกบาศ์กเมตรจะต้องหาทางระบายออกทะเลให้เร็วที่สุดจะให้มากอง ไว้พร้อมจะโจมตีเข้ากรุงเทพฯได้อย่างไร”คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เริ่มไม่พอใจการทำงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ไม่สามารถบริหารจัดการปัญหาอุทกภัยได้และไม่มีความชัดเจนในการทำงานของ รัฐมนตรีแต่กระทรวง โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้กล่าวกับคนใกล้ชิดอีกว่าในการบริหารงานแก้ไขปัญหาน้ำครั้งนี้ให้ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทย์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม เป็นนายกฯคนที่ 2 และ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม และผอ.ศูนย์ ศปภ.เป็นนายกฯคนที่ 3 และยังกล่าวอีกว่าค่อนข้างผิดหวังกับการทำงานของรัฐบาลน้องสาวซึ่งไม่เหมือน กับการทำงานของรัฐมนตรีชุด บ้านเลขที่ 111 จึงได้สั่งให้สมาชิกบ้าน 111 เข้ามาร่วมกันไขปัญหาครั้งนี้ด่วน

พล.ร.อเกาะหลัก เจริญรุกข์ รองประธานคณะกรรมการระบบเตือนภัยแห่งชาติ กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลต้องตัดสินใจว่าจะระบายน้ำจำนวนมหาศาลที่กองอยู่เหนือกรุงเทพฯ ต้องระบายลงทะเลทันทีเพราะธรรมชาติของน้ำต้องไหลลงทะเล จะเห็นว่าที่กั้นมาพังทุกจุดไม่กั้นอย่างไรน้ำก็โจมตีได้หมดเพราะนโยบาย รัฐบาลไปเพิ่มแรงน้ำให้อาละวาดได้มากขึ้น และยิ่งเมื่อกั้นมากๆจะกลายเป็นสินามิ ที่พุ่งเข้าโจมตีกรุงเทพฯ ขณะนี้นายกรัฐมนตรี ต้องตัดสินได้เลยว่าให้ปล่อยน้ำระบานผ่านกรุงเทพฯออกไปลงทะเลเพราะความจริง แล้วกรุงเทพฯคือทางผ่านน้ำเหนือที่จะต้องไหลลงทะเลทุกปี
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=8&contentID=170779

 

ชี้มีเวลาแค่ 3วันป้องกันกรุงเทพฯ

วันพุธ ที่ 19 ตุลาคม 2554 เวลา 15:59 น
ปลอดประสพ เผยมีเวลา 3 วันรับมือน้ำเข้า กทม. ระบุใช้ทุ่งรังสิตทั้งหมดเป็นแก้มลิงรับน้ำ ส่วน ศูนย์อพยพแจ้งวัฒนะฯ ประชาชนทยอยเข้าพักเพิ่ม

วันนี้ ( 19 ต.ค.) นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้สัมภาษณ์ว่า ตนจะลงพื้นที่เพื่อไปประเมินว่าคันกั้นน้ำคลองระพีพัฒน์ตามจุดต่าง ๆ ที่พังนั้นน้ำเข้ามาเยอะหรือไม่ และจะท่วมทุ่งรังสิตจนเต็มพื้นที่เมื่อไหร่ คาดว่าทุ่งรังสิตที่มีขนาดประมาณ 3 แสนไร่น่าจะใช้เวลา 2-3 วันถึงจะเต็ม ดังนั้นการจะปกป้องกรุงเทพฯไม่ให้ถูกน้ำท่วมแสดงว่าเรามีวิธีอยู่ 3 วัน เมื่อคิดแล้วต้องทำให้สำเร็จภายใน 3 วันนี้ ตอนนี้กรุงเทพฯยังไม่อันตรายเพราะมีทุ่งรังสิตรับน้ำอยู่ โดยคาดว่าพื้นที่ 3 แสนไร่จะเก็บน้ำได้ประมาณ 500-600 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อถามว่าแสดงว่าช่วงตั้งแต่คลอง 1-6 น้ำจะท่วมทั้งหมด นายปลอดประสพ กล่าวว่า แน่นอน ตอนนี้ทุ่งรังสิตทั้งหมดจะทำหน้าที่คล้าย ๆกับแก้มลิงชั่วคราว ซึ่งเขาก็เป็นแก้มลิงโดยธรรมชาติมาโดยตลอด

เมื่อถามว่า ขณะนี้สามารถระบายน้ำออกสู่ทะเลได้วันละเท่าไหร่ นายปลอดประสพ กล่าวว่า ประมาณ 350-500 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน อย่างไรก็ตามสำหรับจุดอันตรายที่ควรมีคน ทหาร เครื่องจักร ไปอยู่ มี 2 จุด คือ ตรงบริเวณ ต.บ้านใหม่ และจุดที่ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์

ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ แจ้งวัฒนะ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัยเริ่มมีประชาชนทยอยเข้า พักพิงเพิ่มขึ้น โดยมีผู้ลงทะเบียนพักพิงแล้ว 428 คน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ได้เปลี่ยนบัตรประจำตัวแบบคล้องคอผู้พักพิง โดยได้เพิ่มรูปถ่ายและใส่ซองพลาสติกเพื่อความคงทนมากขึ้น ซึ่งรูปถ่ายจะแยกตามลักษณะการเข้าพักว่าเป็นครอบครัวหรือคนเพียงคนเดียว สำหรับการบริจาคสิ่งของพบว่าที่ศูนย์พักพิงฯต้องการชุดชั้นในสตรี โดยเฉพาะชุดชั้นในไซค์ใหญ่สำหรับผู้สูงอายุ รองเท้าแตะ เสื้อยืด กางเกงขาสั้น เสื้อกันหนาวที่ต้องการใส่ในช่วงกลางคืนเพราะอากาศเริ่มเย็น และกรงสัตว์เลี้ยง

ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ ในศูนย์พบว่ามีอาสาสมัครที่มีจิตอาสาหมุนเวียนกันเข้ามาสร้างกิจกรรมกลุ่ม เช่น การถักเชือก ร้อยลูกปัด การตัดผมฟรี และการนำผู้เชี่ยวชาญด้านจิตบำบัด ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม มาบรรยายวิธีการผ่อนคลายความเครียดให้กับเจ้าหน้าที่และผู้พักพิง รวมถึงฝึกสอนให้ผู้พักพิงที่เข้ามาเป็นกลุ่มแรกฝึกเป็นอาสาสมัครเพื่อช่วย เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยนายอเนก (สงวนนามสกุล) ผู้พักพิงที่มาจากย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี กล่าวว่า ตนเพิ่งเข้ามาพักพิงที่ศูนย์ฯ และตั้งใจจะเป็นอาสาสมัครเพื่อช่วยงานในศูนย์ด้วย เพราะเชื่อว่าการเป็นอาสาสมัครซึ่งเป็นผู้ให้จะทำให้จิตใจเข้มแข็งมากกว่า การเป็นผู้รับเพียงอย่างเดียวอาจทำให้จิตใจอ่อนแอ เกิดความเครียดได้ นอกจากนี้ ฝากให้ภาครัฐช่วยประชาสัมพันธ์จุดอพยพให้มากขึ้น พร้อมขอให้ศูนย์อพยพติดป้ายบอกทางให้ชัดเจน เพราะประชาชนมากไม่รู้ว่าศูนย์อพยพในศูนย์ราชการอยู่ตรงจุดใด
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=354&contentID=170792

 

ฝนที่ไปแล้ว ยังกลับมาเลยครับ กรมอุตุ งงเป็นไก่ตาแตก ว่ามาได้ไง

 

ตอนนี้ต้องเปลี่ยนแผนมาหาทางระบายน้ำให้เร็วที่สุด แต่บางพื้นที่ในกทม.แค่ฝนตกหนักน้ำก็ท่วมขังซะแล้ว แล้วน้ำมาเยอะๆ อย่างนี้จะระบายทันเหรอเนี่ย

 

คอสะพานวัดสังลานขาด!! ปชช.กว่า 300 ครัวเรือนเร่งอพยพ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 ตุลาคม 2554 16:41 น.
ชาวบ้านต่างออกมามุงดูคอสะพานวัดสังลาน หมู่ที่ 3 ต.บางกะดี ที่ขาด เพราะถูกกระแสน้ำกัดเซาะเป็นช่องกว้าง 3-5 เมตร ทำให้ปริมาณน้ำไหลเข้าท่วมชุมชนวัดสังลาน ชุมชนซอยอำภา ชุมชนสามแยกบางกุฏีทอง และชุมชนศรีชัยทอง มีการอพยพประชาชนประมาณ 300 หลังคาเรือน และกังวลว่าน้ำจะไหลเข้าท่วมถนนติวานนท์ เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งหากไหลข้ามถนนติวานนท์จะเป็นจุดเสี่ยงที่น้ำจะไหลเข้าพื้นที่นิคม อุตสาหกรรมบางกระดีได้
ขณะที่เทศบาล ต.บางกะดี ได้จัดศูนย์พักพิงเตรียมไว้ที่ศูนย์การเรียนรู้ หมู่ 1 ต.ศาลาแดง ศาลาการเปรียญวัดบางกุฏีทอง โรงเรียนวัดบางกุฏีทองโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลบางกะดี และศาลาการเปรียญวัดบางกุฏีทองไว้รองรับ
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9540000133460

 

เขื่อนภูมิพลอั้นไม่ไหวระบายน้ำเพิ่มอีก

ข่าวภูมิภาค วันพุธที่ 19 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 10:05 น.




เขื่อนภูมิพลอั้นไม่ไหว ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำปิงเพิ่มอีก 10 ล้านลูกบาศก์เมตร


นายบุญอินทร์ ชื่นชวลิต ผู้อำนวยการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทสไทย เขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก เปิดเผยว่า วานนี้ มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลมากขึ้น เนื่องจากทางภาคเหนือตอนบนฝนตก และมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลเกือบ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเขื่อนขณะนี้ มีพื้นที่กักเก็บลดลงอย่างต่อเนื่อง จนใกล้เต็มจึงต้องขอระบายน้ำลงสู่แม่น้ำปิงเพิ่มจากปกติอีกวันละ 10 ลูกบาศก์เมตร แต่จะไม่กระทบกับน้ำในแม่น้ำปิง

ผู้อำนวยการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เขื่อนภูมิพล กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเขื่อนภูมิพล มีระดับน้ำอยู่ที่ 259.91 เมตร ระดับกักเก็บสูงสุด 260 เมตร มีน้ำกักเก็บทั้งสิ้น 13,434 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลืออีก 28 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 0.21 เปอร์เซ็นต์ น้ำจะเต็มอ่าง วานนี้มีน้ำไหลเข้า 90 ล้านลูกบาศก์เมตร วันนี้เขื่อนภูมิพลระบายน้ำ 694 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือวันละประมาณ 60 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มจากเดิม 10 ล้านลูกบาศก์เมตร แม่น้ำวังไหลลงมาสมทบอีก 290 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือวันละประมาณ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมแล้วมีน้ำลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 85 ล้านลูกบาศก์เมตร

Link : เขื่อนภูมิพลอั้นไม่ไหวระบายน้ำเพิ่มอีก



ผวา"เขื่อนพิมาย"ทรุด

ที่จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ ต้องระดมเจ้าหน้าที่กว่า 20 คน นำหินคลุก ปูน เร่งอุดดินที่ทรุดตัวบริเวณปีกซ้ายของตัวเขื่อนระบายน้ำพิมายที่เกิดจากการรับปริมาณน้ำมากมากว่า 1 เดือน ทำให้น้ำซึมตามรอยเขื่อน จนดินอุ้มน้ำทรุดเป็นโพรงกว้างกว่า 8 เมตร ลึก 4 เมตร ในขณะที่เขื่อนต้องระบายน้ำเต็มพิกัดที่ 199.23 ลบ.ม.ต่อวินาที เนื่องจากน้ำในแม่น้ำมูลสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงจึงอุดสำเร็จ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเร่งกำจัดวัชพืชที่ขวางทางน้ำไหลเพื่อให้ระบายได้ดีขึ้น

สำหรับสถานการณ์น้ำที่เขื่อนลำตะคองมีปริมาณน้ำ 338.36 ล้านลบ.ม. หรือ 108 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณน้ำที่มากที่สุดในรอบ 45 ปี ตั้งแต่สร้างเขื่อนในปี 2512 จนทำให้ประชาชนหวาดผวาว่าจะปล่อยน้ำมาท่วมเมืองนครราชสีมา อย่างไรก็ตาม ม.ล.อนุมาศ ทองแถม ผอ.สำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เผยว่า เขื่อนยังแข็งแรงและรับน้ำได้อีก 15 ล้านลบ.ม. ส่วนเขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำ 118 ล้านลบ.เมตร หรือ 107 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง รวมทั้งเขื่อนลำมูลบน และเขื่อนลำแชะที่เต็มความจุอ่างแล้ว แต่จะบริหารจัดการน้ำไม่ให้กระทบกับประชาชนมากที่สุดและจะแจ้งเตือนทุกครั้ง


เขื่อนสิริกิติ์ลดการระบายน้ำออก

ข่าวภูมิภาค วันพุธที่ 19 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 12:06




เขื่อนสิริกิติ์ ลดการปล่อยน้ำออก ล่าสุดเพียง 10 ล้าน ลบ.ม. ร่วมกับเขื่อนภูมิพล ปล่อยน้ำไม่เกิน 70 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน


นายธนรัชต์ ภูมิมะกสิกร ผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า หลังสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดที่อยู่ท้ายเขื่อนสิริกิติ์ยังคงขยายวงกว้าง ล่าสุด น้ำได้ทะลักเข้าท่วมที่ จ.ปทุมธานี และจะเข้าท่วมบางส่วนของกรุงเทพฯ และนิคมอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ ทางเขื่อนสิริกิติ์ได้มีการปรับลดการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนสิริกิติ์ เป็นครั้งที่ 6 แล้วในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา จากปล่อยน้ำวันละ 65 ล้านลูกบาศก์เมตร และวันละ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร ล่าสุดได้ปล่อยน้ำเหลือเพียงวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะคงการปล่อยน้ำออกในระดับดังกล่าว เพราะได้รับการประสานจากกรมชลประทานให้ปล่อยลดลงเพื่อช่วยเหลือในภาคกลางสำหรับการลดการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนสิริกิติ์ ยังพิจารณาจากปริมาณน้ำที่ไหลเข้าขณะนี้เริ่มลดลงเหลือวันละ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นปริมาณที่น้อยไม่แตกต่างจากช่วงฤดูแล้งของทุกปีที่ผ่านมา เพราะเหนือเขื่อนไม่มีฝนตกและอากาศกลับหนาวเย็นเข้ามาแทนที่ ประกอบกับมีการพิจารณาแบบองค์รวมร่วมกับเขื่อนภูมิพล โดยทั้ง 2 เขื่อนหลักต้องปล่อยน้ำออกรวมแล้วไม่เกิน 70 ล้าน ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งในขณะนี้ได้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนภูมิพล ยังคงมีปริมาณสูงคือ วันละ 100 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เมื่อเทียบกับเขื่อนสิริกิติ์แล้ว เพียงวันละ 25 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น

Link : เขื่อนสิริกิติ์ลดการระบายน้ำออก


เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ลดการปล่อยน้ำ

ข่าวภูมิภาค วันพุธที่ 19 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 14:24 น.




ผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา เผย เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ลดการปล่อยน้ำ ประชาชนยังต้องทนทุกข์ต่อ หลังส้วมขาดแคลนหนัก

นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่าขณะนี้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จะเริ่มลดปริมาณการปล่อยน้ำลง จะส่งผลให้ปริมาณน้ำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เริ่มลดลง โดยหลังจากวันที่ 23 ตุลาคม 2554 หากมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นก็จะเพิ่มขึ้นไม่เกิน 5 เซนติเมตร ขณะเดียวกัน พื้นที่ส่วนใหญ่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รถเล็กยังไม่สามารถใช้เดินทางได้ ขณะที่ปัจจุบัน ยังคงประสบปัญหาเรื่องส้วมในหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีหมู่บ้านกว่า 1,000 หมู่บ้าน มีส้วมสาธารณะรวมทั้งจังหวัด เพียงประมาณ 100 ชุดเท่านั้น
Link : เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ลดการปล่อยน้ำ

 

บางบัวทองวิกฤตหนัก ปิดรพ.ชลลดาแล้ว


19 ตค. 2554 15:18 น.

จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในเขตอำเภอบางบัวทอง จ.นนทบุรี พบว่าระดับน้ำในวันนี้เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากพนังกั้นน้ำน้ำที่บริเวณวัดละหารแตก และยังมีมวลน้ำจากจังหวัดปทุมธานีไหลมาสมทบจนทำให้น้ำทะลักแนวคันกั้นน้ำชุมชนริมคลองบางบัวทองและประตูระบายน้ำคลองพระยาบรรลือเข้ามาสมทบอีก จึงทำให้ระดับน้ำที่ท่วมอยู่แล้วในวันนี้ มีปริมาณสูงขึ้นไปอีกกว่า 1.50 เมตรแล้ว
ในเขตชุมชนบางบัวทองในวันนี้ ทำให้โรงพยาบาลชลลดา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนและตั้งอยู่ในตัวชุมชนเทศบาลเมืองบางบัวทอง ขนาด 30 เตียง ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยที่มานอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลประมาณ 10 คน ออกจากโรงพยาบาลทั้งหมดอย่างเร่งด่วน โดยต้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ทหาร นำรถจีเอ็มซีมาลำเลียงผู้ป่วยออกไป เนื่องจากระดับน้ำที่ท่วมสูงได้ไหลทะลักเข้าไปในโรงพยาบาลสูงกว่า 30 เซนติเมตรแล้ว ทางโรงพยาบาลจึงต้องทำการปิดระบบไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ทั้งหมดเพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้น จึงไม่สามารถเปิดให้บริการรักษาผู้ป่วยได้แล้ว และเตรียมปิดโรงพยาบาลลงในวันนี้อย่างไม่มีกำหนดจนกว่าสถานการณ์น้ำจะคลี่คลาย

 

ศปภ.แจ้งเฝ้าระวังน้ำหลากภาคใต้ 19-21 ต.ค.


19 ตค. 2554 15:53 น.

ที่ศปภ.-ดอนเมือง วันนี้ (19 ต.ค.) ศปภ.แจ้งว่ากรมทางหลวงแนะประชาชนสอบถามเส้นทางก่อนเดินทาง 1 ชม. โดยนายวันชัย ภาคลักษณ์ อธิบดีกรมทางหลวง ได้รับรายงานจากสำนักบำรุงทาง ว่า วันนี้มีสภาวะน้ำท่วม 23 จังหวัด 115 สายทาง รวม 130 แห่ง โดยเส้นทางผ่านได้ 55 แห่ง ผ่านไม่ได้ 75 แห่งจากเส้นทาง 68 สายทาง จึงขอให้ผู้ใช้ระมัดระวังในการขับขี่และขอให้สอบถามเส้นทางก่อนเดินทางอย่างน้อย 1 ชม. ขณะที่ประชาชนสามารถสอบถามเส้นทางจราจรได้จากกรมทางหลวง หมายเลข 1586 และตำรวจทางหลวง 1139 ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะเดียวกัน ศปภ.แจ้งว่าศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เตือนให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก วันที่ 19-21 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะมีฝนตกหนาแน่น โดยเฉพาะจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา โดยขอให้ ติดตามข้อมูลจากศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ
ส่วนสถานการณ์น้ำในภาคใต้ โดยทั่วไปยังคงปกติแต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยภาคใต้ฝั่งตะวันออกในระยะนี้ จะมีฝนตกเพิ่มขึ้น ส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่ามีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง และมีแนวโน้มที่ฝนจะตกเป็นเวลานาน ซึ่งอาจจะมีผลทำให้น้ำหลากและเอ่อล้นในลำห้วย ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันตกสถานการณ์และปริมาณน้ำฝนยังปกติ
วันเดียวกันนี้ ศปภ.แจ้งว่า นายสุรชัย อจลบุญ ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 ตุลาคม ภาคเอกชนจะนำเรือ 2 ลำความยาว 15 เมตร กว้าง 4 เมตร สูงกว่า 4 เมตร ซึ่งมีกำลังเดินเรือ ความเร็ว 3-6 น็อต เพื่อช่วยเหลือกำจัดวัชพืชและขยะในช่วงน้ำท่วม