ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

อาจารย์นีโมครับ
ทำไมหลักทศพิธราชธรรมของอาจารย์ จึงเน้นข้อ 2 ศีล ครับ

 

เมื่อวานนี้ 9 กันยายน 2551 พี่สุดใจไปทำภารกิจที่นครสวรรค์พร้อมกับคุณ no.9 และคุณโยษิตา และพบกับผู้รับผิดชอบแผนกอีก 3 ท่าน ที่จังหวัดนครสวรรค์
<O</O
<O</O

หลังจากนั้น ทางคณะฯได้เดินทางไปที่บึงบอระเพ็ด ก่อนเดินทางกลับในช่วงเย็นวันเดียวกัน

 

บึงบอระเพ็ด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดนครสวรรค์ มีบ้านพัก หาดทรายเทียม และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งในนครสวรรค์

ทานอาหารร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

 

สวัสดีครับพี่สุดใจ
ขอแก้ไขชื่อหน่อยนะครับ
คณิน หงษ์ดุสิต ครับ
ชื่อเล่น ใหญ่ครับ


ขอบพระคุณครับพี่สุดใจ

 

พระราชหัตถเลขาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีไปถึง<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ <o></o>
<o> </o>
....ลูกพ่อ<o></o>
ในพื้นแผ่นดินนี้ทุกสิ่งเป็นของคู่กันมาโดยตลอด มีความมืดและความสว่าง ความดีและความชั่วถ้าให้เลือกในสิ่งที่ตนชอบแล้วทุกคนปรารถนาความสว่างปรารถนาความดีด้วยกันทุกคน
แต่ความปรารถนานั้นจักสำเร็จลงได้ จักต้องมีวิธีที่จักดำเนินให้ไปถึงความสว่าง หรือ ความดีนั้น ทางที่จักต้องไปให้ถึงความดี ก็คือ รักผู้อื่น เพราะความรักผู้อื่น สามารถแก้ ปัญหาได้ทุกปัญหา ถ้าให้โลกมีแต่ความสุขและเกิดสันติภาพ ความรักผู้อื่นจักเกิดขึ้นได้ พ่อขอบอกลูก ดังนี้...

<o></o>
1. ขอให้ลูกมองผู้อื่นว่า เป็นเพื่อนเกิด เพื่อนแก่ เพื่อนเจ็บ เพื่อนตายด้วยกัน ทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่ว่าอดีต...ปัจจุบัน...อนาคต

<o></o>
2. มองโลกในแง่ดี และจะให้ดียิ่งขึ้น ควรมองโลกจากความเป็นจริง อันจักเป็นทางแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง และเหมาะสม

3. มีความสันโดษ คือ
-มีความพอใจเป็นพื้นฐานของจิตใจ พอใจตามมีตามได้ คือได้อย่างไร ก็เอาอย่างนั้น
-ไม่ยึดติด ขอให้คิดว่า มีก็ดี ไม่มีก็ได้ พอใจตามกำลัง คือ มีน้อยก็พอใจตามที่ได้น้อย
-ไม่เป็นอึ่งอ่างพองลมจะเกิดความเดือดร้อนในภายหลัง
-พอใจตามสมควร คือทำงานให้มีความพอใจเหมาะสมแก่งาน
-ให้ดำรงชีพให้เหมาะสมแก่ฐานะของตน

4. มีความมั่นคงแห่งจิต
คือ ให้มองเห็นโทษของความเกียจคร้าน และมองเห็นคุณประโยชน์ของความเพียร และเมื่อเกิดสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา ให้ภาวนาว่า...มีลาภ มียศ สุขทุกข์ปรากฏ สรรเสริญนินทา เสื่อมลาภ เสื่อมยศ เป็นกฎธรรมดา อย่ามัวโศกา นึกว่า 'ชั่งมัน'

พ่อ 6/10/2547


<o></o> สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงมีพระราชปรารถ ทิ้งท้าย....<o></o>
“...ฉันหวังว่า คำสอนพ่อที่ฉันได้ประมวลมานี้ จะเกิดประโยชน์แก่ท่านผู้อ่าน ที่ได้พบเห็น และลูกอันเป็นที่รักของพ่อทุกคน ”

ฉันรัก พ่อ ฉันจัง สิรินธร
ข้อมูลจาก http://www.legendfirst.com/index.php?mo=5&qid=158284

 

เรื่องของ การเมือง และ ศาสนา เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก จนคนชอบพูดกันว่า ถ้ารักกันอย่านำมาคุยกัน จะเกลียดกันง่ายมาก เพราะทะเลาะกัน แต่..ถ้าจะบอกว่า ยิ่งรักกันหวังดีต่อกัน ยิ่งต้องคุยกัน เพื่อพัฒนาสติปัญญาของกันและกัน โดยคุยกันแบบผู้มีสติ คือ ตามรู้ ตามดู ตามฟัง ไม่ต้องตัดสิน เพราะ ถูกต้องทุก ๆ ความคิด ถูกต้องไปตามสภาวะ ของข้อมูลที่แต่ละคนมี ถูกต้องตามสติปํญญาที่เกิดขึ้นตามสภาวจิตของแต่ละบุคคล สิ่งที่ควร ปล่อยวาง คือ การตัดสินว่า ถูก หรือไม่ถูก ดีหรือไม่ดี ใช่หรือไม่ใช่ เพราะ การสรุป หรือตัดสิน ไม่นำมาซึ่งประโยชน์ใด ๆ สู้ ปล่อยให้จิต ตามรู้ ตามดู ต่อไปดีกว่า ไม่สูญเสียพลังไปกับอารมณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้น พลังของกายเนื้อ และกายใน คือ สิ่งที่มีคุณค่ามาก สำหรับการเกิดมาเป็นมนุษย์ เอ๊ะ /. พูดไปได้ไงเนี่ย....อ่านแล้ว ตามรู้ ตามดูนะ อย่าเพิ่งเชื่อ จิตพุทธะ อยู่ที่แต่ละบุคคล มิใช่ที่ผู้อื่น ปลุกเขาให้ตื่น เท่านั้นเอง.

 

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2551 เกิดปรากฏการณ์ พายุงวงช้างขึ้นในบึงบอระเพ็ด

ในวันที่ 9 กันยายน 2551 ได้เดินทางไปที่บึงบอระเพ็ด ทั้งหมด 6 ท่าน

จะเห็นได้ว่า สภาวะโลกร้อน สภาวะการณ์ของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในขณะนี้ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นให้เห็น สิ่งที่ไม่เคยเกิด ก็เกิด สิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ก็เริ่มมีให้เห็นมากขึ้นในปัจจุบันนี้

แผ่นดินไหวรายวัน
กลับหิมะตกในเขตร้อน
เมืองหนาว กลับเจอคลื่นความร้อน หิมะละลายอย่างรวดเร็ว
พายุ เริ่มก่อตัวได้เองทุกที่ ทั้งบนบก และในน้ำ และเริ่มรุนแรงมากขึ้นทุกที

จนตีกรอบ...ให้เป็นเหมือนสิ่งที่เคยคิดแบบเดิม...ไม่ได้แล้ว

(รายการทีวีทางช่อง 9 ได้นำภาพพายุงวงช้างที่เกิดขึ้นในบึงบอระเพ็ด มาให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ถึงสถานการณ์อากาศที่เปลี่ยนแปลงจนเกิดพายุขึ้นได้)

 

เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย

อะไรก็เกิดขึ้นได้

อย่าตีกรอบ


สิ่งที่มนุษย์ต่างดาวได้เคยกล่าวไว้เมื่อหลายปีก่อนนั้น จะเริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้น

ทั้งความรุนแรงจากธรรมชาติ ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ
และการเตรียมการเพื่อช่วยเหลือมนุษย์โลก ....ด้วยเทคโนโลยีจากต่างดาว

 

ยินดีต้อนรับค่ะ ..... คุณ Mckaforce

ดีใจมาก ที่ได้มีโอกาสสนทนากับคนนครสวรรค์

เพราะเรื่องของกลุ่มเขากะลาเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมานั้น คนที่เดินทางมาเขากะลา แทบจะทุกเสาร์-อาทิตย์ จะเป็นคนกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่น ๆ เป็นส่วนใหญ่

สำหรับคนที่อยู่ในจังหวัดนครสวรรค์เอง จะทราบเรื่องมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลาน้อยมาก

จึงรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง ที่มีคนนครสวรรค์อีกคนหนึ่ง มาร่วมเล่าประสบการณ์ที่พบเจอให้เพื่อน ๆ สมาชิกในกระทู้นี้ได้รับฟังกัน

ยินดีต้อนรับค่ะ

 

ยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสสนทนาโดยตรงกับคุณ peterandpen ซึ่งอยู่ไกลถึงประเทศเยอรมัน

การที่ได้สนทนาในวันนั้น ถ้าสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ ซึ่งรับทราบแล้วสามารถทำให้เกิดความเข้าใจ ทำให้เกิดการปล่อยวาง ทำให้เกิดมุมมองที่กว้างไกลในระดับจักรวาล จนทำให้มีความเข้าใจ จนไม่เกิดการแบ่งแยก เรา เขา คน หรือสัตว์นั้น

เมื่อมีความเข้าใจความเป็นอย่างนั้นเองของธรรมชาติ ก็จะสามารถยกระดับจิตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยรู้เท่าทันความทุกข์ สิ่งที่ทำให้เกิดความทุกข์ในปัจจุบัน และมีการเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนมุมมองใหม่ให้มองเห็นความเป็นเช่นนั้นเองของธรรมชาติมากขึ้น

เห็นความเป็นเช่นนั้นเองของทุกสรรพสิ่ง ที่ต้องเกิดมาตามกรรม วิบากกรรมของเขาเอง และมีความเข้าใจที่ถูกตรง จึงดับความทุกข์ที่เคยเกิดขึ้นเพราะสิ่งนี้มานานได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง

พี่สุดใจ ขออนุโมทนาอย่างยิ่ง กับความเข้าใจในทฤษฎีของระบบ และปฏิบัติในทันที จึงเห็นผลได้ทันทีในปัจจุบัน คือก้าวข้ามความทุกข์ที่ติดค้างมานานนั่นเอง

 

สวัสดีครับพี่สุดใจ
ขอแก้ไขชื่อหน่อยนะครับ
คณิน หงษ์ดุสิต ครับ
ชื่อเล่น ใหญ่ครับ


ขอบพระคุณครับพี่สุดใจ


ขอบคุณเช่นกันค่ะ ที่กรุณาแจ้งข้อมูลเพิ่มเติม

ได้เคยสนทนากันหลายครั้ง แต่จำชื่อไม่ได้ ต้องขอโทษด้วยค่ะ <!-- / message --><!-- sig -->

 

ขอบคุณครับผมน้าสุดใจ
ถ้าคำบอกเล่าที่แม่ผมเจอเมื่อสามสิบกว่าปีก่อนเป็นเรื่องจริง
นั่นก็แสดงว่า ณ.บริเวณนี้ คงไม่ใช่เพิ่งมีการพบเห็นมาแค่สิบกว่าปี
แต่มีมานานมาก
ที่ผมทราบเรื่องเขากะลาก็ทราบจากเจ้ามิ้งนี่หละครับ
แต่ไม่คิดว่ามีเป็นกลุ่มศึกษาอย่างจริงจัง
เพราะส่วนมากคนทุกวันนี้จะไหลไปตามกระแส และยึดในตนเองกันหมด
พอเจอเรื่องอื่นที่เป็นเรื่องของตัวเอง ก็จะทิ้งความสนใจที่เคยมีไป
แล้วนานเข้า ๆ ก็จะลืมเลือน....


ปล. เสียดายไม่ได้ดูเรื่องพายุงวงช้างในบึงบอระเพ็ด
ไม่คิดเลยว่าสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปทำให้เกิดได้
เพราะเท่าที่ทราบมาประเทศไทยเหตุการณ์แบบนี้เกิดน้อยมาก

 

ขอบคุณค่ะ ที่สนใจข้อความจากกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) และกรุณาแนะนำการปฏิบัติให้กับทางกลุ่มฯ

ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

 

เมื่อคืนผมฝัน
เห็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ภูเขาที่ไหนสักแห่ง ป่า และมีลําธารไหลผ่าน
เห็นพระและก็คุณสมจิตรด้วย

 

พรุ่งนี้ 11-9-2008 วันเชื่อมระบบ ครั้งสุดท้าย

เริ่ม เวลา 20.00 น.
-สวดมนต์ทำวัตรเย็น อาจารย์ปู่นำสวด
-สวดขอขมากรรม แบบทิเบต โดยอาจารย์นีโม
-เชื่อมระบบ แล้ว ขยายระบบ โดยพี่สุดใจและอาจารย์นีโม

ท่านใด เชื่อมระบบแล้ว มารับการขยายระบบได้ในวันและเวลาดังกล่าว

 

กลุ่มเขากะลาเมื่อสิบปีที่ผ่านมานั้น ได้มีการปฏิบัติธรรมในหลายรูปแบบ ทั้งฟังธรรม ปฏิบัติสมาธิ เจริญสติภาวนา วิปัสนากรรมฐาน และยังมีการประมวลพลังเพื่อรับคลื่นสื่อสารจากมนุษย์ต่างดาวควบคู่กันไปอีกด้วย

ดังนั้น ทุกอย่าง ทุกรูปแบบ ได้มีการสอน มีการให้ปฏิบัติอย่างเข้มข้นทุกรูปแบบ เพื่อให้ผู้ฝึกนำมาใช้ นำมาเปรียบเทียบ และนำมาพิจารณาไตร่ตรองในเหตุ และผล ของการปฏิบัติแต่ละวิธี

ผู้ฝึกปฏิบัติส่วนใหญ่ จะมีการปฏิบัติสมาธิในขั้นลึกกันมาอยู่แล้วบางส่วน ปฏิบัติในระดับปานกลางมาแล้วในบางส่วน และไม่เคยปฏิบัติสมาธิเลยก็มีอีกส่วนหนึ่ง

ดังนั้น เมื่อทุกคนที่มีความแตกต่างในพื้นฐานการปฏิบัติ วิธีการสอน จึงเน้นไปในทางการ ให้ใช้ปัญญาพิจารณาเป็นหลัก เน้นการฝีกสติเป็นหลัก เน้นการวิปัสนาเป็นหลัก

ดังนั้น ผู้ที่ฝึกที่เขากะลา จึงไม่ค่อยมีการเน้นสมาธิมากนัก แต่เน้นการพิจารณาไตร่ตรองในธรรมของพระพุทธองค์เป็นหลัก เน้นการวิปัสสนา เห็นการเกิดดับในขันธ์ห้าเป็นหลัก เน้นการปล่อยวางอัตตาตัวตนเป็นหลัก

ผู้ฝึกทุกคนจึงเท่าเทียมกันโดยปัญญา โดยการพิจารณาไตร่ตรอง

บางคนมีสมาธิมาก ก็นั่งสมาธิพร้อมกับพิจารณาธรรมไปด้วย บางคนนั่งสมาธิไม่ค่อยได้ ก็ใช้การวิปัสสนาขันธ์ห้าเป็นหลัก เห็นการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ตลอดเวลา บางคนนั่งสมาธิไม่ได้เลยเพราะมีความฟุ้งซ่านเข้ามารบกวน ก็ต้องฝึกออกจากขันธ์ห้า ออกมามองดูความคิด ที่กำลังฟุ้งซ่าน เห็นความกังวลที่กำลังเกิดขึ้น โดยรู้ว่าเป็นกลไกของขันธ์ห้าที่กำลังทำงานของมันเองเท่านั้น

ดังนั้น กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) จึงมีบุคคลหลายรูปแบบ มีการปฏิบัติตามจริตของแต่ละบุคคล ไม่เหมือนกัน

เมื่อมีความแตกต่างอย่างมากในกลุ่มเดียวกัน จึงต้องมีการสอนธรรมะ มีการสอนให้เข้าใจในกลไกของกฏธรรมชาติเป็นหลัก และแต่ละคนต้องนำไปพิจารณาไตร่ตรองเอาเอง ว่าตนเองจะใช้การปฏิบัติเพื่อการปล่อยวางในวิธีใด

พี่สุดใจ ก็ขอนำข้อความส่วนหนึ่ง ที่ผู้เดินทางไปเขากะลา ที่มีหลากหลายการปฏิบัติ ได้เรียนถามผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต ให้ท่านแนะนำวิธีการปฏิบัติ

เนื่องจากท่านทำสมาธิมานาน เพราะท่านอายุยืนหลายหมื่นปี เรียกว่าเชี่ยวชาญเรื่องสมาธิมากที่สุดในดวงดาวของท่าน แต่สิ่งที่ท่านแนะนำให้มนุษย์โลกปฏิบัติในตอนนี้ กลับเป็นเรื่องที่ตรงกันข้าม แบบคาดไม่ถึงทีเดียว

น่าจะเป็นแนวทางปฏิบัติให้บางท่าน ที่พยายามฝึกสมาธิเท่าใด ก็ไม่ค่อยก้าวหน้า ไม่อาจเข้าถึงสมาธิในระดับลึก หรือจิตนิ่งได้ ลองมาฟังวิธีของท่านดู อาจเปิดมุมมองในเรื่องของสมาธิ ให้มีความเข้าใจได้มากขึ้น

ลองไปฟังการให้โอวาทในเรื่องเกี่ยวกับ แก่นแท้ของสมาธิ

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2541 ที่เขากะลา จังหวัดนครสวรรค์

 

หมู่นี้โดนเลข 11 หลอนจริงๆ
2 วันก่อน กะว่าจะนอนแต่หัวค่ำ
หลังจากที่นอนเกือบเช้ามาหลายวัน
แต่ก็ดันมาตื่นเอาเกือบตีหนึ่ง
ฝันว่าอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าก่อนตื่น
เห็นเลข 1 เต็มหน้าเลย พอตื่นมา
ก็หลับไม่ลงอีกเลย กว่าจะหลับ ก็เกือบเช้า(เหมือนเดิม)

ว่าจะไม่คิดมากแล้วนะคะ แต่ว่า...
2-3 วันมานี่ ... ปกติ รถ ทะเบียน
1x11, x111, 111x, x11x, xx11
มันมีเยอะมั้ย คือดิฉันว่ามันก็ไม่น่าแปลก
แต่ทำไมมันเยอะจังนะ ดิฉันเห็นมันรายล้อม
อยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ทีละคันสองคัน
แต่มันเยอะไปหมด ทั้งบนถนน หรือที่จอดรถ
บางทีก็จอดเรียงกัน 3 คันเลย

ทะบียน 1111 นี่มันมีเยอะมั้ย
ทำไมเห็นบ่อยจัง ไม่ใช่คันเดิม
เดี๋ยวก็เก๋ง เดี๋ยวก็กะบะ มอเตอร์ไซด์ยังมีเลย

ดิฉันไม่เข้าใจความหมายเลย
แต่เห็นมันถี่ เหมือนสัญญาณ SOS ยังงัยชอบกล
หรือมีอะไรที่จะต้องเตรียมเป็นพิเศษรึปล่าวคะ

 

(คุณอภิชาติ) ท่านครับ ท่านจะกรุณาสอนวิธีนั่งสมาธิที่ถูกต้องได้ไหมครับ ?
<O</O
(ผู้สูงสุดฯ) เอาอีกแล้ว ไอ้พวกศาสตร์นี้นะ ข้าพเจ้าจะบอกนะ ข้าพเจ้ามาโลกมนุษย์ของเจ้าก็ได้สอดส่อง เพราะข้าพเจ้าก็เป็นผู้หนึ่งที่ปฏิบัติสมาธิ จะเรียกว่าพอสมควรก็ไม่ได้นะ เพราะข้าพเจ้าทำมานาน เพราะอายุมันนาน

<O</O
เพราะฉะนั้น วิชาสมาธิที่พวกเจ้าได้ร่ำเรียนกันมา ได้มีแนวคิดในการปฏิบัติสมาธิกันมานั้น วิชานั้น ที่พระพุทธองค์ได้ทรงสอนมี 40 วิธีนั้น นั่นก็เป็นหนึ่งในการฝึกปฏิบัติสมาธิ ตามจริตของดวงจิตของพวกเจ้ากัน


แต่ในค่านิยมของสมาธิ เรียกว่า ค่านิยมการฝึกปฏิบัติสมาธิ ค่านิยมของผู้ปฏิบัติธรรมแล้วสมาธิดี จะต้องถอดญาณ หรือจะต้องมองเห็นในสิ่งที่ตามธรรมดามองไม่เห็น ก็มัวไปเพ่ง ไปฝึกตามค่านิยมกันไป ประโยชน์มันมี แต่มันมีน้อย และพวกเจ้าลองคิดดูว่า เขาฝึกสมาธิกันมา 10 ปี 20 ปี ยังถอดญาณกันไม่ได้เลย แล้วเวลาที่เหลือนิดเดียว ถ้าเจ้าไปฝึกสมาธิในวิธีอย่างนั้นมันจะได้ผลไหม ? ต้องคิดดู

<O</O
ข้าพเจ้าจะบอกเคล็ดลับของการฝึกสมาธิ ซึ่งเป็นจุดที่เป็นแก่น จุดแก่นละนะ....

<O</O
ข้าพเจ้าจะบอกนะ เจ้าเห็นไหม? ไอ้ที่กลม ๆ เจ้าเห็นไหม? ที่เวลาพวกเจ้ายิงธนู หรือปาลูกดอก เรียกว่า