ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สุดใจเขากะลา, 9 สิงหาคม 2007.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    เรื่องการสลายมวลสารจากที่หนึ่ง ไปอีกที่หนึ่ง มีการทำตัวอย่างให้เห็น หลายครั้ง หลายหน และแต่ละเหตุการณ์ ก็มีพยานบุคคลรับทราบ ซึ่งจะขอนำบางเหตุการณ์มาเล่าให้ฟัง
    <O:p</O:p
    เหตุการณ์หนึ่งที่น่าสนใจ เพราะมีผู้อยู่ในเหตุการณ์สามท่าน และมีบุคคลจำนวนหนึ่งได้เคยเห็น เคยสัมผัสกับวัตถุชิ้นนี้มาแล้ว <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    - ในช่วงการเตรียมงานนิทรรศการมนุษย์ต่างดาวที่นครสวรรค์ ในวันที่ 29 มกราคม 2541 ในวันนั้น ได้มีผู้ที่เคยไปดูจานบินที่สิงห์บุรี หลายท่านได้เดินทางมาร่วมจัดงานในครั้งนี้ด้วย และหนึ่งในนั้น คือคุณบัญชา จากการบินไทย<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    - คุณบัญชา ได้เดินทางโดยรถไฟ มาจากดอนเมือง และจะมาลงที่สถานีรถไฟนครสวรรค์ ซึ่งในวันนั้น คุณวาสนา และคุณนารินเพื่อนที่เป็นพยาบาลอีกท่านหนึ่ง ก็จะขับรถไปรับคุณบัญชาที่สถานีรถไฟ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    - ทั้งสองท่าน ก็ออกจากบ้าน และนั่งรถเก๋งของคุณนาริน ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ระหว่างทาง ได้นำใบปลิวการจัดนิทรรศการมนุษย์ต่างดาวแวะลงแจกยังสถานที่ต่าง ๆ หลายแห่ง และเมื่อใกล้เวลารถไฟจะมาถึง ก็ขึ้นรถ และขับไปยังสถานีรถไฟ และจอดรอเพราะรถไฟยังไม่มาถึง
    <O:p</O:p
    - จนรถไฟเข้าจอดที่สถานี คุณวาสนา และเพื่อน ก็ลงจากรถ และล็อคประตูรถด้วยรีโมท พากันเดินขึ้นไปบนชานชาลาสถานีรถไฟ และพบคุณบัญชาที่นั่น หลังจากนั้นก็พากันเดินมาที่รถ ใช้เวลาไม่น่าเกิน 10 นาที
    <O:p</O:p
    - พอเปิดประตูรถ ทุกคนเตรียมขึ้นนั่งบนรถ คุณนาริน นั่งที่คนขับ คุณวาสนานั่งเบาะด้านหน้าคู่กับคนขับ และคุณบัญชา นั่งด้านหลัง ขณะที่คุณวาสนาจะเข้าไปนั่งที่ก็เห็นลูกกลมสีเขียว 3 ลูก วางอยู่บนเบาะด้านหน้า ที่นั่งของตนเองที่นั่งตอนเดินทางมา ก็พูดว่า อะไรน่ะ..<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    - คุณนารินก็ก้มมามอง คุณบัญชาก็ชะโงกมามอง เพราะเพิ่งเปิดกุญแจรถ ยังไม่ได้มีใครเข้าไปนั่ง คุณวาสนากำลังจะก้าวขึ้นนั่ง ก็มองเห็นลูกกลม 3 ลูก วางอยู่บนเบาะที่นั่งตอนเดินทางมา มีลักษณะกลมสีเขียวอ่อน และมีลายเส้นสีขาวปะปนอยู่ด้านใน คล้ายลายหินอ่อน ลูกไม่ใหญ่มากนัก ใหญ่กว่าลูกแก้วที่เด็กเล่นเล็กน้อย
    <O:p</O:p
    - ก็แปลกใจกัน เพราะตอนขามา ก็นั่งเก้าอี้ตัวนี้มาตลอด และไม่มีลูกแก้วดังกล่าวในรถคันนี้ ตอนที่จะลงไปรับคุณบัญชา ก็ยังไม่เห็น ไม่รู้สึกว่านั่งทับอะไร เพราะทั้งสามลูกก็ไม่เล็กมาก ถ้านั่งทับต้องรู้สึกแน่นอน
    <O:p</O:p
    ก็เลยคุยกันว่า สงสัยมนุษย์ต่างดาวเขาคงให้เป็นที่ระลึก เพราะเราสามคน มี 3 ลูกพอดี ถ้างั้นแบ่งกันไปคนละลูกก็แล้วกัน หลังจากนั้น หยิบกันไปคนละลูก และต่างคนก็เก็บไว้เป็นของตัวเอง
    <O:p</O:p
    เมื่อกลับมาถึงงานจัดนิทรรศการมนุษย์ต่างดาว ก็นำลูกแก้วนี้มาให้ผู้ร่วมจัดงานได้ดู และลองจับกันหลายคน ซึ่งพี่สุดใจก็ได้จับดูด้วย ก็ไม่เห็นมีอะไร รู้สึกเฉย ๆ ก็ส่งคืนคุณวาสนาไป
    <O:p</O:p
    - แต่ในวันที่ 31 มกราคม 2541 หลังจากได้จัดงานนิทรรศการมนุษย์ต่างดาวผ่านไปแล้ว และคลื่นจากมนุษย์ต่างดาว ได้ลงมาสัมผัสกับร่างอาจารย์ท่านหนึ่งในคืนวันนั้น ก็ได้มีการนัดหมายพบกันอีกครั้งในวันที่ 31 มกราคม 2541 เพื่อขอทราบข้อมูลเรื่องการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวเพิ่มเติม
    <O:p</O:p
    ซึ่งในวันนั้น จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน จึงได้นำคณะฯ ผู้ร่วมจัดงาน เดินทางไปพบกับอาจารย์ท่านนั้น ซึ่งนัดหมายกันที่ เทศบาลนครนครสวรรค์ และได้มีการสนทนากัน
    <O:p</O:p
    ซึ่งท่านได้เล่าว่า ขณะทำสมาธิอยู่กลางงานนั้น ได้สัมผัสคลื่นที่ผ่านลงมา จะร้อนที่ฝ่ามือทั้งสองก่อน และร้อนที่ศรีษะ หลังจากนั้นก็คล้ายถูกพลังงานบางอย่างครอบอยู่ และทำท่าทางอย่างที่เคยกล่าวไปแล้วในกระทู้ที่ผ่านมา
    <O:p</O:p
    ซึ่งในวันนี้ คุณวาสนาได้นำลูกแก้วปริศนา ที่ได้มาที่สถานีรถไฟ ไปลองให้ท่านสัมผัสดู ซึ่งอาจารย์ท่านนี้ มีสมาธิสูงมาก และท่านก็ยังเป็นครูสอนสมาธิด้วย
    <O:p</O:p
    ท่านสัมผัสแล้วบอกว่า ในลูกแก้วนี้มีความร้อนแฝงอยู่ เหมือนมีพลังงานบางอย่างอยู่ด้านใน ซึ่งท่านก็ส่งให้ ดร.ถาวร ได้ทดลองสัมผัสดู ซึ่งท่านก็ปฏิบัติสมาธิ และสามารถสัมผัสได้เหมือนกัน ท่านก็กล่าวว่า มีพลังงานบางอย่างอยู่ในนี้อย่างที่อาจารย์ท่านนั้นกล่าว<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    - และก็มีอีกสิ่งหนึ่ง ที่พอยืนยันได้ว่า สิ่งนี้มีพลังงานบางอย่างอยู่
    <O:p</O:p
    หลังจากนั้น กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ได้เดินทางไปร่วมกับกลุ่มเพชรบูรณ์ ซึ่งทำเรื่องเกี่ยวกับการช่วยเหลือมนุษย์ในเวลาที่เกิดภัยพิบัติเช่นกัน ในการทำบุญ และจัดนั่งสมาธิ ที่หล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
    <O:p</O:p
    ซึ่งในวันนั้น ได้มีคนเดินทางไปกันเป็นจำนวนมาก และคณะของคุณ mead ก็เดินทางไปเช่นกัน จึงได้ไปพบกันในงานนั้น

    ในช่วงหลังเสร็จพิธีสวดมนต์ และนั่งสมาธิเสร็จแล้ว บางท่านก็แยกย้ายกันไปสนทนากับบุคคลอื่น ๆ และทางพี่สุดใจ และกลุ่มฯ ก็ได้นั่งสนทนากับท่านเจ้าของมูลนิธิฯ นั้น และมีหลายคนร่วมนั่งรับฟังอยู่ด้วย
    <O:p</O:p
    หลังจากสนทนากันไปสักพัก พี่สุดใจก็เล่าถึงเรื่องที่มีลูกแก้วปริศนา 3 ลูก ไปปรากฏในรถให้ท่านฯผู้นี้ฟัง พร้อมทั้งนำลูกแก้วนั้น มาให้ท่านดู ท่านก็สัมผัสแล้วบอกว่า รู้สึกว่ามีความร้อนอยู่ข้างในนะ แล้วท่านก็กำลูกแก้วไว้ในมือ แล้วก็สนทนาเรื่องอื่น ๆ กันต่อไป
    <O:p</O:p
    สักครู่ท่านบอกว่า ทำไมร้อนจัง ท่านจึงแบมือออก ปรากฏว่า กลางมือของท่าน มีรอยไหม้เป็นวงกลมเท่าลูกแก้วปรากฏอยู่ ทุกคนที่นั่งอยู่ในขณะนั้นก็มองเห็น และท่านจึงวางลูกแก้วนี้ลงบนพานข้างหน้าพระ และบอกให้เด็กไปเด็ด ต้นว่านหางจระเข้มา ท่านได้นำมาทาตรงบริเวณรอยไหม้นั้น
    <O:p</O:p
    -ในตอนนั้น คนที่อยู่ในกลุ่มที่ร่วมสนทนาด้วย ก็มีเพื่อนคุณ mead ชื่อคุณณัฐ จากจังหวัดสิงห์บุรี ที่เดินทางไปกับคณะของคุณ mead นั่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ซึ่งคุณณัฐ ท่านฝึกสมาธิ แบบมโนมยิทธิ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ่จึงสามารถเห็น และสัมผัสถึงพลังงานต่าง ๆ ได้ ก็สนใจอยากลองจับดูบ้าง

    จึงได้หยิบลูกแก้วนั้นจากพานหน้าพระ และเข้ามานั่งร่วมวงสนทนาอย่างเดิม<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เมื่อสัมผัสลูกแก้วนั้น ก็รู้สึกได้ถึงพลังงานความร้อนที่อยู่ข้างใน จึงไม่จับแบบกำไว้ในมืออย่างท่านแรก แต่จีบนิ้วทั้งห้าขึ้นมา แล้วเอาลูกแก้วไว้บนปลายนิ้วทั้งห้าชูไว้ และก็นั่งสนทนากันต่อในเรื่องอื่น ๆ
    <O:p</O:p
    สักพัก คุณณัฐบอกว่า เอะทำไมร้อนจัง ก็ใช้อีกมือหนึ่งหยิบลูกแก้วบนปลายนิ้วออก ปรากฏรอยไหม้อยู่บนปลายนิ้วทั้งห้าอย่างชัดเจน และทุกคนก็เข้ามามองอย่างแปลกใจในสิ่งที่เห็น คุณณัฐจึงได้เดินเอาลูกแก้วไปไว้ในพานนั้นเช่นเดิม<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เป็นเหตุการณ์ที่เราได้เห็น ได้สัมผัส และได้รับทราบพร้อมกับบุคคลอื่น ถึงลูกแก้วปริศนา ที่เราได้รับมาในวันนั้น และก่อนเราเดินทางกลับจากเพชรบูรณ์ ก็ได้มอบให้กับคณะฯ ของมูลนิธิไว้ ซึ่งขณะนี้ ก็คงอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์นั่นเอง
    <O:p</O:p
    <O:p</O:pซึ่งคณะฯ ของคุณ mead ที่เดินทางไปเพชรบูรณ์บ่อย ๆ ก็จะถ่ายภาพวัตถุบินได้ที่เพชรบูรณ์หลายครั้ง
    <O:p</O:p
    นี่คือตัวอย่างของการสลายมวลสาร จากลูกแก้วที่เป็นวัตถุ ให้กลายเป็นรูปแบบพลังงานก่อน จึงผ่านทะลุรถเข้าไปด้านใน โดยไม่ได้เปิดรถ และเมื่อผ่านรถเข้าไปแล้ว ก็เปลี่ยนเป็นมวลสารอีกครั้งหนึ่ง จึงกลับมาเป็นลูกแก้วอย่างเดิม
    <O:p</O:p
    และลูกแก้วนี้ เราไม่อาจรู้เลยว่า มาจากไหนกันแน่ จากโลกอื่น หรืออาจเป็นของบนโลกเราเอง แต่มีการบรรจุพลังงานเข้าไว้ในนั้นก็อาจเป็นได้ เพราะแต่ละคนจับแล้วไม่เหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่เป็นวัตถุชิ้นเดียวกัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ดังนั้น ที่เราเคยอ่านหนังสือที่กล่าวว่า ยูริ กิลเลอร์ นักพลังจิตก้องโลก สามารถย้ายเครื่องมือออกจากลังเครื่องมือที่ใส่กุญแจไว้อย่างแน่นหนาและเอาไปซ่อนเอาไว้ แต่ยูริ กิลเลอร์ สามารถเอาเครื่องมือในกล่อง ออกมาอยู่นอกกล่องได้ โดยไม่ต้องไขกุญแจ ก็อาจใช้การสลายมวลสาร ให้เป็นพลังงานก่อน เมื่อออกมาแล้ว ค่อยมารวมเป็นมวลสารเป็นรูปเดิมอีกครั้ง ก็เป็นได้ เพราะยูริ กิลเลอร์ ก็ได้รับพลังจิตมาจากมนุษย์ต่างดาวเช่นกัน
    <O:p</O:p</O:p
    เป็นหนึ่ง ในหลาย ๆ เหตุการณ์ ที่นำมาเล่าให้ฟัง ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ ที่เข้มข้นกว่านี้อีกมาก ซึ่งแต่ละเหตุการณ์ก็มีพยานรู้เห็นจำนวนมากทั้งนั้น และเมื่อพบเจอบ่อยครั้งเข้า กลุ่มฯผู้ฝึก ก็จะเริ่มมองเห็นความเป็นธรรมดา ของเทคโนโลยีจากมนุษย์ต่างดาว ที่สามารถทำได้หลายอย่าง รวมถึงการพยายามอธิบายแบบง่าย ๆ ให้มนุษย์โลกพอเข้าใจ ว่ามันไม่ใช่อะไรที่เหนือธรรมชาติ มันก็คือธรรมชาติอย่างหนึ่ง เพียงแต่เทคโนโลยีของโลกเรายังไปไม่ถึงเท่านั้นเอง<O:p</O:p


    ภาพที่ 1 - 3 จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน พาคณะฯ เข้าพบ ดร.ถาวร และอาจารย์สอนสมาธิ และท่านได้สัมผัสกับลูกแก้วปริศนานั้น

    ภาพที่ 4 เดินทางไปประสานงานกับกลุ่มเพชรบูรณ์
    ภาพที่ 5 กลุ่มเพชรบูรณ์ได้เดินทางมาเขากะลา และได้สัมผัสกับลูกแก้วปริศนานั้น
    (คนที่ 4 จากซ้าย) หัวหน้า,มูลนิธิฯกลุ่มเพชรบูรณ์
    (คนซ้ายสุด) คุณณัฐ จากสิงห์บุรี
    ภาพที่ 6 กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)เดินทางไปร่วมในงานพิธีฯ ที่มูลนิธิได้จัดขึ้น ที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์


    สามท่านที่ได้ลูกแก้วปริศนาบนรถยนต์ไปคนละ 1 ลูก

    (ซ้ายในวงกลม) คุณวาสนา
    (ขวาในวงกลม) คุณนาริน
    (ล่างในวงกลม) คุณบัญชา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2007
  2. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041


    แหมพี่เร็วจัง! ขนาดเงียบๆไม่เล่าให้ฟังด้วยตัวเองยังเอามาเล่าต่อซะละเอียดเลย ผมเพิ่มเติมอีกนิดนึงคือคนขายยอมกดเครื่องให้ใหม่เป็นซื้อแค่ 1 ซองครับผม
    คำเตือน บุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพนะครับ
     
  3. appyLuny

    appyLuny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +206
    เราเคยโดนผีดำที่ห้องนอนเราอยุ่นะ แบบไม่ได้คิดเองเลยยย บางทีก็มาเป่าหัว มาอำจนเรารำคาญแต่ก็คงเป็นเจ้าที่เจ้าทางละ หรือไม่ก็อะไรสักอย่าง ตอนนี้เราย้ายห้องมานอนอีกที่นึง แล้วสวดมนต์ ทำจิตใจให้สะอาดและแผ่เมตตาบ่อยๆ ก็รู้สึกดีและปลอดโปล่งขึ้นค่ะ นอกจากจะทำให้จิตใจผ่องใส สบายใจแล้ว จิตใจเราก็จะไม่ไปยิดตึดกับอะไรที่น่ากลัวสำหรับเรา และไม่เปิดให้สิ่งนั้นเข้ามาในจิตใจเราเป็นดีที่สุดค่ะ (b-deejai)
     
  4. A+O

    A+O เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +120
    ผมแผ่เมตตาทุกคืนเลยครับ
    แผ่จนจะไม่เหลือบุญแย้ว
    (ล้อเล่น)
     
  5. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041


    [​IMG] ถูกต้องนะครับ... สวัสดีครับ ขอบคุณคุณO.A.T มากเลยครับที่จำผมได้ ผมอุตส่าห์ปลอมตัวเป็นลูกศิษย์อาจารย์แอ๊ดอยู่ตั้งนาน(ตามรูป) พี่สุดใจมาเผยไต๋ซะแล้ว คงมีโอกาสได้เจอกันนะครับเห็นเตรียมนัดกันขึ้นเขากะลาเร็วๆ นี้ ต้องรอพระพิรุณท่านลาพักร้อน ฝนหายตกซะหน่อยถึงพอจะเอารถเข้าได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 ธันวาคม 2007
  6. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451

    จริง ๆ แล้ว สถานที่บนเขากะลานั้น เคยเป็นสำนักสงฆ์อยู่ก่อน มีพระภิกษุจำพรรษาอยู่บนนั้นรูปหนึ่ง ดังนั้น ในช่วงนั้น ก็จะมีผู้เดินทางขึ้นลงเป็นประจำ เพราะหากไม่พบเรา ก็จะพบกับพระภิกษุที่ท่านอยู่ที่ศาลา ณ สำนักสงฆ์แห่งนั้น

    ท่านก็สามารถที่จะปฏิบัติจิต นั่งสมาธิ หรือจะนั่งสนทนากัน พร้อมกับดูสิ่งต่าง ๆ ที่มาปรากฏบริเวณนั้นได้ ถือเป็นการไปเพื่อพักผ่อน เพราะบรรยากาศเงียบดี เหมาะสำหรับนั่งสมาธิมาก ซึ่งตอนนั้น มีการเปิดให้คนทั่วไปสามารถเดินทางไปรับชมอย่างเป็นทางการ ตลอดระยะเวลา ปี ที่เปิดกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว จะมีการนัดหมายกันทุกวันเสาร์ เป็นที่ทราบกันดี

    ดังนั้น คนที่เคยมา ก็จะมาเกือบทุกเสาร์ และมาหลายครั้งหลายหน ถือเป็นการมาพักผ่อน และมาร่วมสนทนากันบนเขากะลาอย่างสนุกสนาน และดูสิ่งต่าง ๆ ที่มาปรากฏบริเวณนั้น ซึ่งกางเต๊นท์พักกันบนเขา จนเช้าวันอาทิตย์จึงเดินทางกลับกัน

    จากวันเปิดกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2541 จนถึง 7 กุมภาพันธ์ 2542 ซึ่งเป็นวันปิดกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว ที่เขากะลาอย่างเป็นทางการ แล้วนั้น ก็ไม่ได้มีการเดินทางมาเขากะลาของบุคคลทั่วไปทุกวันเสาร์เช่นเคย มีเพียงสมาชิกที่จะร่วมฝึกเท่านั้น ที่ยังคงเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง

    แต่ตอนนี้ พระภิกษุองค์นั้น ได้ลาสิขาบทไปแล้ว เนื่องจากท่านอายุมาก และไม่สามารถเดินขึ้น-ลงเขาเพื่อไปบิณฑบาตได้ และประกอบกับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ได้เดินทางไปฝึกนอกสถานที่ หลังจากกลับจากฝึกเข้มข้น 1 ปี จากหลายสถานที่แล้ว ก็ไม่ได้เดินทางขึ้นไปประจำอยู่บนเขาอีก นอกจากเดินทางไปบางครั้ง ในวาระสำคัญ ๆ หรือพาคณะฯ ถ่ายทำรายการทีวี หรือบุคคลต่าง ๆ ที่รวมกันเป็นกลุ่ม และประสงค์จะขึ้นไปพักบนสถานที่ดังกล่าวนั้น เราก็จะพาขึ้นไป

    หากคุณประสงค์จะเดินทางไป ขั้นแรก คุณควรจะเดินทางไปกับกลุ่ม หรือคณะฯ ที่เคยไปเขากะลามาแล้วสักครั้งหนึ่งก่อน เพราะทางไปเขาค่อนข้างซับซ้อน คุณจะได้รู้จักสถานที่ รู้บรรยากาศด้านบนว่าเป็นอย่างไร และรู้ว่าควรจะเตรียมอะไรไปบ้างในครั้งต่อไป เมื่อรู้จักแล้ว ครั้งต่อไป คุณจะเดินทางไปพักเป็นการส่วนตัวก็ได้

    เนื่องจากสถานที่นั้น เป็นป่า และค่อนข้างรกมาก เนื่องจากไม่มีใครขึ้นไปบูรณะเลยหลายปี การที่คุณจะขึ้นไปโดยไม่รู้จักสภาพของเขานั้นมาก่อน ก็จะทำให้คุณไม่อาจเดินดูทุกสถานที่ได้โดยรอบ ยกเว้นผู้ที่เคยไปแล้ว จะรู้ว่าจุดไหน มีอะไรสำคัญอยู่บ้าง ก็จะได้ดูให้ครบในครั้งเดียว

    หากต้องการไป ไม่แจ้งมาทางพี่สุดใจก็ได้ เพราะสถานที่นั้นเป็นสถานที่สาธารณะ สามารถขึ้นลงได้ หากคุณรู้จักใครที่เคยไปเขากะลามาบ้างแล้ว คุณก็ให้ผู้นั้นนำทางไปก็ได้ อย่างเช่นทีมของคุณคณานันท์ ที่ครั้งหนึ่ง ก็เคยเดินทางไปกันเอง 4 คน โดยไม่ได้บอกมาทางพี่สุดใจ ซึ่งก็ได้ไปเจออีกมิติหนึ่งที่สะอาดมาก เหมือนเพิ่งสร้างใหม่ ทั้งที่ความจริงหญ้ารกท่วมหัว ก็เลยรีบเดินทางลงมากัน เพราะคิดว่ามีคนอยู่บนนั้น

    ดังนั้น การจะเดินทางไปควรจะมีคนที่เคยไปแล้ว นำทางไปก็จะเป็นการดี หรืออาจจะไปกับคณะฯ ของคุณคณานันท์ที่จะจัดทริปไปเขากะลา สักครั้งหนึ่งก่อน เพราะไปกันเป็นกลุ่มหลายคน พอรู้จักสถานที่แล้ว คุณจะเดินทางไปเองในครั้งต่อมาก็ได้

    การเตรียมพร้อม ทั้งการเดินทางขึ้นเขา สภาพบนเขาปัจจุบันที่ค่อนข้างรกต้องลุยกันขึ้นไป

    คงต้องขอนำบรรยากาศที่กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ ที่คุณคณานันท์ และสมาชิกกลุ่ม 3 ท่าน ได้เดินทางไปเมื่อต้นปีนี้ มกราคม 2550 มาให้ชมกัน เพื่อเตรียมพร้อมอุปกรณ์ดังกล่าวที่จำเป็น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2007
  7. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ก็เดินลงจากเขากะลา มาที่หมู่บ้านพุตาฉิ่ง ซึ่งห่างประมาณ 1.5 กิโลเมตร ในหมู่บ้านนั้น มีก๋วยเตี๋ยวอร่อยอยู่ 1 ร้าน ซึ่งผู้ที่มาเขากะลา จะแวะทานกันประจำ จึงได้พากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติทานก๋วยเตี๋ยวที่ร้านดังกล่าวก่อนเดินทางกลับ

    และกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ ได้เดินทางมาแวะที่บ้านพักของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ซึ่งอยู่ในอำเภอเมือง จ.นครสวรรค์ ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ

    อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม ส่วนใหญ่ก็คงเป็นเต๊นท์ ถุงนอน หรือผ้าห่ม ไฟฉาย และควรใส่รองเท้าผ้าใบ เพราะทางขึ้นเขาเป็นดินปนหิน และควรนำยาทากันยุงไปด้วย เพราะหน้าฝนจะมียุง แต่หน้าหนาว หน้าร้อนจะไม่ค่อยมี

    มีเก้าอี้ผ้าใบอยู่บนเขาจำนวนมาก สามารถนั่งได้บนลานหน้าพระ หรือใครจะนั่สมาธิก็ได้ เพราะลานกว้างมาก

    หากใครสนใจก็ขอให้ติดต่อกับกลุ่มพลังจิตพิชิตภัพพิบัตินะคะ เพราะเห็นว่าจะจัดเดินทางไปที่เขากะลากัน ถ้าพร้อมเมื่อไร พี่สุดใจยินดีพาไปค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2007
  8. ยาล้างตา

    ยาล้างตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2007
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +3,539
    แล้วกรณีเกิดภัยพิบัติขึ้นมา ที่เขากะลาจะปลอดภัย ใช้เป็นที่หลบภัยได้หรือเปล่าครับ
     
  9. kingkaewmath

    kingkaewmath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +773
    สวัสดีค่ะคุณสุดใจ ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่อ่านเรื่องที่คุณโพสต์
    และค่อนข้างที่จะเชื่อ ดิฉันสนใจเรื่องมนุษย์ต่างดาวมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย
    ได้เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวที่แปลมาจากเมืองนอก แต่ของเขาจะเป็นในลักษณะมีพยานบุคคลและวัตถุ ซึ่งถูกปิดเป็นความลับไว้
    รู้สึกทึ่งที่ประเทศไทย ก็เป็นประเทศหนึ่งที่ถูกมนุษย์ต่างดาวเลือก และให้การช่วยเหลือ เหมือนเราล้ำหน้าต่างประเทศ ไปเกี่ยวกับความรู้เรื่องมนุษย์ต่างดาว ตอนนี้ดิฉันเองทำงานแล้ว มีอาชีพเป็นครูคณิตศาสตร์ โรงเรียนที่สอน
    ตั้งอยู่บนยอดดอย อ. สะเมิง จ.เชียงใหม่ ได้เล่าเรื่องมนุษย์ต่างดาวนี้ให้กับลูกศิษย์ บางส่วนฟัง พร้อมกับเปิดคริป วีดี โอ ประตูมิติเปิด ให้เห็นฐานทัพมนุษย์ต่างดาวให้นักเรียนบางส่วนดู นักเรียนหลายคนสนใจมาก แต่นักเรียนที่นี่ป็นชาวเขาและเป็นเด็กด้อยโอกาส รวมทั้งยากจน
    ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลทางอินเตอร์เนทได้
    ถ้าคุณมีอะไรที่ต้องการเผยแพร่กับเด็ก ๆ เผื่อจะเป็นประโยชน์ บ้าง ก็เชิญเลยนะคะ อาจจะโพสในกระทู้นี้ หรือส่งมาทาง อีเมล rungtiwa_kingkaew@hotmail.com ก็ได้นะคะ
    ที่โรงเรียนนี้มีนักเรียนไม่มากมีประมาณ 200 คนค่ะ
    เป็นโรงเรียนขยายโอกาสมี ถึงม.3

    ขอบคุณค่ะ
     
  10. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    คืนนั้น ก็มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นบนเขากะลา และมีภาพที่คุณ Falkman บันทึกไว้ได้ เป็นภาพแปลก ๆ มาให้ชมกัน <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สิ่งที่ถ่ายได้ในภาพ อาจไม่ใช่ของแปลกอะไร เหมือนกับการถ่ายภาพที่มีดวงปรากฏอยู่หลายครั้ง จากหลายสถานที่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติทั่วไป<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    แต่ที่ไม่ค่อยธรรมดา ก็คือ เบื้องหลัง ก่อนที่จะมาเป็นภาพเหล่านี้<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ในวันนั้น มีกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจำนวน 4 ท่าน

    คุณคณานันท์ หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ
    คุณ mead
    คุณ Falkman
    คุณ ปู่ อิอิ


    จำนวนนี้ มีกล้องดิจิตอลไป 3 กล้อง

    ซึ่งมีของคุณคณานันท์ ของคุณ Falkman และคุณปู่ อิอิ คุณคณานันท์ ก็ถ่ายได้ปกติ ส่วนของคุณ Falkman ก็ถ่ายแล้วมีภาพดวงกลมติดมาอยู่เสมอ แต่ส่วนของคุปู่ อิอิ ถ่ายไม่ติดภาพดวงเลยสักครั้งเดียว มีแต่ภาพปกติทั่วไป <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ทั้งสองท่านถ่ายภาพตั้งแต่ตอนเย็น ซึ่งคุณFalkman ก็ถ่ายได้แต่ภาพดวงกลมอยู่มากมาย ส่วนกล้องคุณปู่อิอิ ก็ถ่ายไม่ได้เลยสักภาพเดียว ซึ่งถ่ายจุดเดียวกัน พร้อมกันด้วย

    จนกระทั่ง ประมาณสองทุ่ม ก็เดินลงไปด้านล่างเพื่อไปเอาของที่รถที่จอดอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งมีพี่สุดใจ คุณณพงษ์ คุณFalk และคุณปู่ อิอิ เดินไปด้วยกัน 4 คน
    <O:p</O:p
    ในระหว่างเดินอยู่ด้านล่างนั้น ทั้งสองท่านก็ยังคงถ่ายภาพตามความมืดไปเรื่อย เผื่อพบอะไรผิดปกติ จนกระทั่ง ขาเดินกลับมา ถึงกลางทางไร่อ้อย คุณปู่ อิอิ ซึ่งถ่ายมาตลอดตั้งแต่เย็นก็ไม่เคยติดดวงเลยสักที

    เมื่อมาถึงกลางทางระหว่างเดินกลับเขากะลา บริเวณไร่อ้อย คุณปู่ อิอิ ก็บอกคุณ Falkman ว่า เราลองมาแลกกล้องกันถ่ายภาพไหม เผื่อกล้องเราจะติดภาพดวงบ้าง
    <O:p</O:p
    ในตอนนั้น พี่สุดใจก็อยู่ด้วย ก็เห็นทั้งสองท่านเปลี่ยนกล้องกันถ่ายภาพ เมื่อคุณ Falkman เอากล้องของคุณปู่ อิอิ ไปถ่ายภาพ ภาพแรกที่กดชัตเตอร์ ก็ปรากฏติดภาพดวงกลมมาในภาพนั้น ก็บอกว่า นี่ไง มีดวงเต็มเลย <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    คุณปู่ อิอิ ก็รีบเดินเข้ามาดูภาพถ่ายนั้น ก็เห็นมีดวงกลมเต็มไปหมด ก็บอกว่า ทำไมจึงมีดวงได้ ทั้ง ๆ ที่เราถ่ายภาพมาตั้งหลายสิบภาพ ไม่เคยมีดวงเลยสักภาพ พอคุณ Falkman จับกล้องเท่านั้นแหละ มีภาพดวงปรากฏขึ้นมาทันทีเลย ซึ่งเจ้าของกล้องเองก็ยังแปลกใจ
    <O:p</O:p
    ก็เลยเปลี่ยนกล้องกลับคืน และเมื่อคุณปู่ อิอิ ถ่ายภาพด้วยกล้องตนเองภาพแรก ก็ติดดวงมาในกล้องด้วย หลังจากนั้น ภาพดวงก็ปรากฏอยู่ในกล้องนั้นมาตลอด ซึ่งก็เป็นที่แปลกใจของคนที่อยู่ในเหตุการณ์ แม้เจ้าของกล้องเองก็ยังกระเซ้าว่า คุณ Falkman เอาภาพดวงมาแพร่เชื้อใส่กล้องเราแล้วนะนี่ ซึ่งจากนั้นมาก็ถ่ายภาพดวงต่าง ๆ ปะปนมาในภาพตลอด<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อย่างที่เคยบอกว่า ภาพดวงที่ถ่ายได้นั้น จะเป็นอะไรก็ตามแต่ จะเป็นฝุ่นละออง หรือจะเป็นอะไรก็ตามแล้วแต่จะคิด และไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะที่อื่นก็มีถ่ายติดได้เหมือนกัน แต่สิ่งที่ที่น่าสนใจคือ กล้องเดียวกันนี้ อีกคนถ่ายภาพไม่มีดวงปรากฏเลย แต่พอเปลี่ยนมือคนถ่าย สถานที่เดียวกัน ถ่ายมุมเดียวกัน แต่ภาพกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
    <O:p</O:p
    และภาพกลางลานหน้าพระองค์ใหญ่ ที่มีวงกลมล้อมรอบอยู่นั้น ตอนแรกก็คิดว่าเป็นพระจันทร์ทรงกลด ก็นอนดูกัน แต่สักพักใหญ่ ๆ เมฆสีขาวหนามากลอยมาเต็มไปหมด แต่แทนที่จะลอยบังดวงจันทร์ที่มีวงกว้างนั้น กลับเข้าไปภาพในวงกว้างไม่ได้ จึงอยู่แค่ขอบด้านนอกของวงกลมอย่างเห็นได้ชัด คือเมฆสีขาวที่หนามาก แต่เหมือนถูกอะไรบางอย่างกั้นเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถลอยเข้าไปในวงกลมนั้นได้ ซึ่งถ้าเป็นเมฆปกติ ก็จะลอยผ่านไปผ่านมา เหมือนเราเห็นตามธรรมชาติ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    และอีกสิ่งหนึ่งที่แปลกก็คือ พระจันทร์ ที่เห็นอยู่ภายในวงกลมนั้น อยู่ตั้งแต่ประมาณห้าทุ่ม - ตีสอง เป็นระยะเวลา 3 ชั่วโมง ที่คงสภาพอยู่ตรงนั้น โดยพระจันทร์ไม่ได้เคลื่อนที่ไปอย่างเช่นที่เคยเป็น คือเมื่อยิ่งเวลาผ่านไป พระจันทร์ก็ต้องเคลื่อนจากหน้าลานพระใหญ่ออกไปจนเลยหลังองต์พระทุกครั้ง แต่นี่อยู่ที่เดิมไม่เคลื่อนที่ไปเลย และเราทั้ง 7 คน ก็นั่งเก้าอี้ผ้าใบอยู่บนหน้าพระ นอนมองพระจันทร์ ซึ่งคนที่ทำสมาธิก็สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่เกิดขึ้นบริเวณภาพใต้วงกลมนี้ ซึ่งคุณคณานันท์เป็นผู้กล่าวว่า ที่จริงไม่ใช่ดวงจันทร์อย่างที่เราเห็นหรอก ดวงจันทร์ลอยเคลื่อนไปแล้ว แต่เป็นยานใหญ่เขามาลอยทับดวงจันทร์ไว้ จึงไม่เคลื่อนที่ และมีขอบกั้นจนเมฆก็ยังผ่านไม่ได้<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    และสุดท้าย ประมาณตีสอง คุณคณานันท์ ได้นั่งสมาธิ และถูกดึงขึ้นไปข้างบนยานใหญ่ลำนั้น และบอกว่า เป็นห้องโล่ง ๆ ข้างบนยานนั้น แต่เห็นได้นิดเดียวก็ถูกตัดไป พร้อม ๆ กับที่ทุกคนบนหน้าลานพระก็หลับไปในเวลาใกล้เคียงกันเกือบทุกท่าน และมาตื่นอีกครั้ง ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น

    อาจเป็นเรื่องธรรมดา สำหรับคนที่ฟังพี่สุดใจเล่า แต่คนที่อยู่ในเหตุการณ์คืนนั้น ก็จะมีความประทับใจในบรรยากาศ สิ่งที่พบเห็น และสิ่งที่ทับซ้อนมิติ แต่เป็นเรื่องที่ยากจะเล่าให้คนอื่นเข้าใจ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    แต่หลังจากได้ไปเยือนเขากะลามาแล้ว คุณ Falkman ก็จะมีประสบการณ์แปลก ๆ และเป็นผู้ถ่ายภาพจานบินได้ด้วยกล้องถ่ายรูปที่ประเทศมาเลเซีย และลงในหนังสือมาแล้ว ยังได้ข่าวว่า ถ่ายภาพจานบินได้อีกในช่วงต่อมา
    <O:p</O:p

    ก็เป็นเรื่องที่พี่สุดใจนำประสบการณ์ที่ได้ขึ้นไปกับกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติในคืนนั้นมาเล่าให้ฟัง พี่สุดใจเพิ่งเคยพบกับคุณ Falkman เป็นครั้งแรก ก็รู้สึกประทับใจในความเป็นกันเอง ความเป็นมิตร ความมีน้ำใจ และการเป็นผู้เสียสละเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น

    <O:p</O:p
    ส่วนอีก 3 ท่าน พี่สุดใจได้พบ และรู้จักมานานเกือบ 10 ปีแล้ว และเห็นถึงความจริงใจของทุกท่าน ในการที่จะอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ จนตั้งกลุ่ม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2007
  11. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    วันที่ 9 มีนาคม 2550 พี่สุดใจ ได้พาบรรณาธิการหนังสือ โหรามหาเวทย์ ซึ่งเขียนคอลั่มเกี่ยวกับ UFO ในหนังสือเล่มนี้ เข้าพบ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ที่บ้านพัก เพื่อสัมภาษณ์ท่านเกี่ยวกับเรื่อง UFO และมนุษย์ต่างดาว เพื่อลงหนังสือดังกล่าว

    และบรรณาธิการ ได้สัมภาษณ์พี่สุดใจ เพื่อนำเรื่องราวการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา เขียนลงในหนังสือเล่มนี้

    และยังขอนำภาพ ยานอวกาศที่คุณ Falkman บันทึกภาพได้ที่มาเลเซีย เขียนลงในหนังสือเล่มนี้ พี่สุดใจจึงได้ขอให้คุณ mead ช่วยประสานงานกับบรรณาธิการ ท่านนี้ ซึ่งคุณ mead ก็อำนวยความสะดวก โดยการส่งภาพให้กับบรรณาธิการท่านนั้น
    <!-- / message -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2007
  12. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    [​IMG]

    เพิ่งกลับมาจากเพชรบูรณ์ครับพี่สุดใจ ไปกับคุณอลงกรณ์ (ผู้ถ่ายภาพจานบินที่เพชรบูรณ์) พากันไปเตรียมงานออกแบบสร้างพระธาตุที่ อ.หล่มเก่า กันอยู่ครับ(งานเบิ้องบนอีกแล้วครับ+สายพระอินทร์)
    ส่วนงานมูลนิธิฯของพี่ท่านนี้ ก็กำลังเตรียมงานสร้าง Meditation Spa ทรงปิรามิดกันอยู่อยู่ที่เพชรบูรณ์เหมือนกัน (ที่เกี่ยวเนื่องกับภัยพิบัติ)
    ลูกศิษย์หลวงปู่เครา ที่ อ.ศรีเทพ ก็เตรียมพร้อมกันอยู่บนเขาเช่นกันครับ ที่นั่นหลายกลุ่มขยับตัวเตรียมพร้อมกันอยู่
    ทางตอนล่างยังมีกลุ่มคุณคณานันท์ (พลังจิตพิชิตภัย) ที่"ปรียานันท์ธรรมสถาน" แยกทางเข้าจ.อุทัย อีกกลุ่มนึงที่กำลังโตวันโตคืนครับ เขากะลาก็อยู่ใกล้นิดเดียว จากพยุหคีรีไปแค่ 30 กม. เลยไปอีก 70 กม.เข้าเพชรบูรณ์ ที่เป็นที่สร้างโครงการที่ว่านี้ครับ และเลยไปอีก 30 กม.ก็ยังใกล้กับ อ.ศรีเทพอีกครับ ดูต่อเนื่องกันอย่างไม่น่าเชื่อ เส้นทางของหลายกลุ่มเริ่มโยงเข้าหากันแล้วครับตอนนี้..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2007
  13. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    แหม..อยากไปเยี่ยมเขากะลาสักครั้งบ้างจังเลยครับ
    พักนี้ผมไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนกับกลุ่มฯเลย
    เพราะมีความไม่แน่นอนของหน้าที่การงานทางโลกอยู่
    เดี๋ยวย้ายไปโน่น เดี๋ยวย้ายมานี่อีกแล้วครับ

    คุณ mead คุณ Kananun
    ถ้าจะจัด trip เขากะลาอีกบอกกันบ้างนะครับ

    (b-deejai)
     
  14. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    [​IMG]


    (ซ้ายสุด) คุณณภัทร สมเย็น นักโหราศาสตร์ บรรณาธิการ และผู้เขียนเรื่อง UFO ในประเทศไทยในหนังสือโหรามหาเวทย์ฉบับที่ 2 และ 3
    ศ.ดร.นายแพทย์เทพนม เมืองแมน
    คุณสุดใจ ชื่นสำนวน กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)
    คุณโสภา วรรณอนันต์ กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

    เดินทางเข้าพบ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เพื่อสัมภาษณ์ท่านมาเขียนหนังสือเกี่ยวกับ การติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวในประเทศไทย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2007
  15. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    บางท่านอาจจะยังไม่เคยได้อ่านหนังสือเล่มนี้ พี่สุดใจ จึงขอนำข้อความที่บรรณาธิการท่านนี้เขียนลงในหนังสือโหรามหาเวทย์ ฉบับที่ 2 มาให้ท่านที่สนใจ ได้อ่านบทความนี้ด้วย

    และในบทความนี้ ได้นำภาพที่คุณ Falkman บันทึกได้ที่มาเลเซีย มาลงใว้ในฉบับนี้ ซึ่งทางบรรณาธิการ ได้ฝากขอบคุณมายังคุณ Falkman และ คุณ mead ด้วย ที่ให้ภาพดังกล่าวมาเผยแพร่ในหนังสือเล่มนี้....

    จากหนังสือ โหรามหาเวทย์ ฉบับที่ 2

    UFO กับมหันตภัยร้ายของโลก......
    <O:p</O:p

    ปี 2050 วิกฤตน้ำท่วมโลก ?

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อดีต รมต. กลาโหม แคนนาดา ออกมาเรียกร้องให้ทั่วโลกเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ UFO เพื่อกู้วิกฤตโลก
    เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว เอเอฟพี และหนังสือพิมพ์ทั่วโลกได้เสนอข่าวของ พอล เฮลไลยเออร์ (Paul Hellyer) อดีตรัฐมนตรีกลาโหมแคนาดา ซึ่งได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกเปิดเผยและนำเทคโนโลยีเอเลี่ยนที่ปิดบังกันไว้ออกมาใช้ โดยเชื่อว่ามีหลายเหตุการณ์ที่ยานบินของมนุษย์ต่างดาวตกลงบนพื้นโลก และประเทศต่างๆ เก็บข้อมูลไว้ โดยนายพอลเชื่อว่าเทคโนโยลี่ล้ำยุคของมนุษย์ต่างดาวเท่านั้นที่สามารถกู้วิกฤตโลกในครั้งนี้ได้ โดยกล่าวว่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2007
  16. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    หนังสือโหรามหาเวทย์ ฉบับที่ 3

    เปิดแฟ้มลับสุดยอด
    "ยูเอฟโอ" โผล่เมืองไทย
    ข้อมูลที่ปกปิดไว้กว่าครึ่งศตวรรษ

    ถึงแม้ว่าจะไม่มีการออกมายอมรับอย่างเป็นทางการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลไทยในเรื่อง การตรวจพบจานบินและมนุษย์ต่างดาว หรือที่เรียกกันว่า UFO ในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่หากใครติดตามชมรายการ เรื่องจริงผ่านจอ ซึ่งออกอากาศทางช่อง 7 เมื่อคืนวันพฤหัสบดี ที่ 5 เมษายน 2550 ที่ผ่านมา<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    คงยากที่จะปฏิเสธกับข้อมูลที่ปรากฏออกมาว่า มีคนสามารถถ่ายภาพวัตถุประหลาดบนท้องฟ้าเอาไว้ได้ในเช้าวันที่เกิดสุริยุปราคา ในเขตอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นภาพที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ต้องมองผ่านกล้อง และบุคคลดังกล่าวสามารถถ่ายภาพประหลาดเอาไว้ได้ ซึ่งทางทีมงานของรายการเรื่องจริงผ่านจอ ได้ทำการตรวจสอบภาพถ่ายดังกล่าวอย่างละเอียด พร้อมกับนำไปสอบถามกับผู้เชี่ยวชาญด้าน UFO ผลปรากฏว่าวัตถุประหลาดที่ปรากฏในภาพมันมีลักษณะเหมือนภาพถ่ายของยานยูเอฟโอ ที่เคยมีการบันทึกภาพเอาไว้ได้ในบริเวณอ่าวเม็กซิโก เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ภาพดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่ตอกย้ำความเชื่อเรื่อง มนุษย์ต่างดาว ในกลุ่มคนไทยมากยิ่งขึ้น ว่ามนุษย์ต่างดาวมีอยู่จริง และกำลังรอการพิสูจน์อย่างเป็นทางการ
    <O:p</O:p
    อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลด้านลับ พบว่าก่อนหน้านี้ในเมืองไทย เคยมีการค้นพบแล้วในปทุมธานี ซึ่งผมเองเคยสัมภาษณ์สุภาพสตรีท่านหนึ่ง ซึ่งเธอยืนยันว่าเป็นประสบการณ์จริง ที่เธอเคยพบภาพกลุ่มยานฯ UFO บินมาเป็นกลุ่มหลาย ๆ ลำ ในเวลากลางคืน ขณะที่เธอนั่งรถไปทำธุระกับสามีและลูก ๆ แล้วเห็น UFO อย่างชัดเจน ส่องแสงสีขาวสว่างจ้าออกมาจากยานฯ ประมาณ 5-6 ลำ ผมว่าตอนนี้คุณผู้อ่านก็เริ่มมีความรู้สึกเหมือนผม คือเห็นว่า เรื่องราว UFO มันจะเข้มข้นขึ้นทุก ๆ วัน ไม่ใช่เฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น แต่มันจะเกิดขึ้นทุกมุมโลก
    <O:p</O:p
    ความเข้มข้นหรือความถี่ ในการพบ UFO เห็นจะเริ่มมาจากการตระหนักถึงมหันตภัยร้ายแรงของมนุษยชาติ อันเนื่องมาจากสภาวะโลกร้อน หรือปรากฏการณ์เอลนินโญ่ ซึ่งมีผลกระทบต่อการไหลเวียนของกระแสน้ำอุ่น และกระแสน้ำเย็นของโลก และจุดวิกฤตอื่น ๆ ที่จะเกิดแก่โลกของเรา
    <O:p</O:p
    และหากใครติดตามข่าวที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ UFO จะพบว่า หลังจากกระแสการรณรงค์เรื่องภาวะโลกร้อนของ อัล กอร์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ ก็ตามติดด้วยข่าวว่า เมื่อเดือนที่แล้ว อดีตรัฐมนตรีของแคนาดา ก็ออกมาให้รัฐบาลทั่วโลกเปิดข้อมูลลับ ของ UFO ว่าจะช่วยกู้วิกฤตโลกมนุษย์ และล่าสุด องค์การอวกาศโลกของฝรั่งเศส ได้เปิดเผยแฟ้มลับ UFO ที่ปกปิดมานับครึ่งศตวรรษ ให้ทั่วโลกได้ทราบ ผ่านทางเวปไซด์ http://www.cnesgeipan.fr/ ถึงการพบ UFO หรือปรากฏการณ์ทางอากาศที่ไม่สามารถอธิบายได้ นับพันรายงาน หลักฐานแบ่งเป็นหลายระดับ ตั้งแต่พอจะเชื่อถือได้ ถึงหลักฐานที่ชัดเจนมากจนนักวิทยาศาสตร์ถึงกับอึ้ง ข้อมูลลับเฉพาะนี้ รับรองว่า จะทำให้คุณรู้แล้วต้องตะลึง !!!
    <O:p</O:p

    เมื่อมกราคม ที่ผ่านมา ผมได้สัมผัสกับกลุ่ม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2007
  17. สุดชล

    สุดชล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2005
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +47
    ยินดีต้อนรับครับคุณสุดใจ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่สนใจข่าวคราวของกลุ่มเขากะลา ดีใจที่คุณมานะครับ
     
  18. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451

    ขอขอบคุณ คุณ appyLuny นะคะ ที่สนใจและอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม

    จริง ๆ แล้ว ข้อมูลของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ได้มีการเก็บเป็นหลักฐานไว้เป็นจำนวนมากเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นด้าน บันทึกเสียงการสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว... ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ที่มนุษย์ต่างดาวที่สื่อสารลงมาวาดอธิบายไว้... ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย UFO ... ไม่ว่าจะเป็น VDO ที่บันทึกภาพ ยานอวกาศ จากบุคคลต่าง ๆ ที่บันทึกได้ที่เขากะลา และให้เราไว้เผยแพร่... และภาพกิจกรรมบนเขากะลา... เรื่องราวการพบเจอยานอวกาศ... พบเจอมนุษย์ต่างดาว... ของบุคคลต่าง ๆ ที่ได้เล่าให้เราบันทึกข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน... และยังจะเรื่องรูปแบบการฝึกฯกับมนุษย์ต่างดาว... เครื่องมือของมนุษย์ต่างดาว... และรวมถึงอุปกรณ์ที่เป็นเทคโนโลยี ของมนุษย์ต่างดาว... ทุกอย่างเป็นเรื่องน่าสนใจทั้งสิ้น และมีความสำคัญในทุก ๆ ขั้นตอน


    พี่สุดใจก็อยากจะเล่า อยากจะบอกทุกเรื่องราวให้กับท่านที่สนใจได้รับรู้ แต่ไม่รู้จะนำเรื่องใดมาเล่าก่อนดี เพราะถ้าเล่าเรื่องหนึ่ง ก็จะต้องใช้เวลาเล่าหลายโพสต์ กว่าจะพอเห็นโครงร่าง ก็จะพลาดที่จะฟังเรื่องอื่น ๆ ที่มีอีกหลายเรื่องไป


    ดังนั้น พี่สุดใจจึงจำเป็น ต้องเล่าจากคำถาม? บ้าง จากผู้ที่มีประสบการณ์พบเจอแล้วถามมาบ้าง และแทรกบางส่วนที่เกี่ยวเนื่องเข้าไปเพิ่มเติม ก็พอที่จะมองเห็นรูปแบบ และ จุดมุ่งหมายในการมาช่วยเหลือเรื่องภัยพิบัติ ตามโครงการของมนุษย์ต่างดาวในครั้งนี้


    แต่พี่สุดใจ ก็จะพยายาม นำเรื่องราวต่าง ๆ ค่อย ๆ มาถ่ายทอดให้ผู้สนใจได้รับทราบต่อไป โดยจะมีหลักฐานอ้างอิงทุกครั้ง เพราะหลักฐานต่าง ๆ ที่ได้เก็บรวบรวมไว้นั้น มีจำนวนมากเหลือเกิน


    ตู้เอกสาร..... เอกสารมีมาก จนต้องซื้อตู้เหล็กใส่ไว้ แยกเป็นตู้เอกสารเก็บภาพวาด ภาพถ่าย และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว ภาพกิจกรรมการเผยแพร่ข่าวสารต่าง ๆ และเรื่องราวทุกอย่างได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน ทั้งตู้เอกสารนี้มีแต่ข้อมูลการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว รูปแบบการฝึกฯ และการประสานงานกับบุคคลต่าง ๆ ทั้งสิ้น


    ตู้วีดีโอ และเทปเสียง .... เป็นที่เก็บม้วนวีดีโอภาพ และเทปบันทึกเสียง การสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว มีจำนวนมาก ทั้งที่เป็นเสียงมนุษย์ต่างดาวเลย หรือเป็นเสียงที่ผ่านอุปกรณ์สำหรับแปลภาษาแล้ว และม้วนวีดีโอจำนวนมากนั้น เป็นการเก็บภาพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณรอบเขากะลา ในเวลาที่มีวัตถุลึกลับเกิดขึ้น จะมีของหลายท่านที่ได้ให้สำเนาไว้ให้ เพื่อเผยแพร่

    จะมีทั้งของ คุณ mead คุณอลงกรณ์ มิสเตอร์จอห์น คุณอนุ-อนวัช และอีก หลายท่านที่ได้บันทึกได้ที่เขากะลา และให้ไว้ มีเป็นจำนวนมาก จึงต้องเก็บรวมกันไว้ในตู้เหล็ก ที่จังหวัดนครสวรรค์

    พี่สุดใจก็จะนำข้อมูลมาถ่ายทอดให้ผู้สนใจได้รับทราบในโอกาสต่อ ๆ ไป ...... ขอบคุณค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2007
  19. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    วันที่ 2 ธันวาคม 2540 มนุษย์ต่างดาวจากโลกุกะตาปากะดิกอง ติดต่อสื่อสารกับ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน เป็นครั้งแรก โดยใช้คลื่นจิตผ่านมาทางสมาธิ และ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน ได้รับทราบเพียงท่านเดียว

    วันที่ 3 ธันวาคม 2540 มนุษย์ต่างดาว ได้สื่อสารมาอีกครั้ง แต่คราวนี้อยู่พร้อมกันหลายคน จ.ส.อ.เชิด จึงได้ขอให้ผ่านมาที่คุณชูชาติ ชื่นสำนวน บุตรชาย ซึ่งหลังจากนั้นสักครู่ คุณชูชาติ ก็เริ่มหมุนตัวเองไปรอบ ๆ เร็วขึ้น และสักพักก็มีคลื่นจากดาวโลกุกะตาปากะดิกอง มาอยู่ในร่าง ท่าทาง การยืน ไม่เหมือนมนุษย์เรา และจะยกมือขึ้นเป็นรูปดอกบัวบาน อยู่ตลอด ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่รู้ความหมายเลย

    จ.ส.อ.เชิด และครอบครัว รวมทั้งพี่สุดใจก็อยู่ด้วย เราก็ถามหลายอย่าง แต่เขาพูดอีกภาษาที่เราไม่เข้าใจ ก็เลยหยิบกระดาษ กับปากกา ออกมาให้เขาเขียน ซึ่งเขาก็รับปากกาไป แต่การจับนั้นต้องใช้สองมือจับปากกา และดินสออยู่กลางมือ การวาด ก็วาดด้วยมือสองข้างดังลักษณะนี้ตลอดทุกครั้ง


    ซึ่งตอนนั้นเป็นการเร่งรีบ เราหากระดาษไม่ทัน ก็เลยเอากระดาษที่อีกด้านหนึ่งมีตัวหนังสือพิมพ์ไว้อยู่แล้วมาให้เขียน ก็เลยไม่ค่อยชัดเจน

    ภาพวาดชุดบน 4 ภาพ มนุษย์ต่างดาวครอบร่างคุณชูชาติ วาดภาพด้วยมือทั้งสองข้าง(ดังภาพด้านล่าง) เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2540 ที่สิงห์บุรี (มีเทปบันทึกเสียงมนุษย์ต่างดาวไว้ด้วย)

    ภาพการวาดโดยวิธีใช้มือประกบกัน และวาดภาพ
    - ภาพแรก ที่งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติครั้งที่ 2
    วันที่ 13 ธันวาคม 2540 มีคลื่นจากต่างดาวผ่านลงมาครอบร่างคุณชูชาติ และวาดภาพการนำยานมาปรากฏในวันนั้น
    ท่านที่นั่งหันหลังให้ คือ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ท่านก็ได้มาสอบถามข้อมูลจากมนุษย์ต่างดาว ด้วยตัวเอง ซึ่งมนุษย์ต่างดาวพูดกับ ดร.เทพนม เป็นคนละภาษา แต่ได้วาดภาพบอกถึงการจะนำยานอวกาศมาปรากฏตามนัดหมายในวันนั้น (จะนำภาพที่วาดในวันนั้นมานำเสนอในโอกาสหน้า)
    - ภาพการใช้สองมือเขียนภาพ จากดาวโลกุกะตาปากะดิกอง กับ พิธีกรรายการ "เวที..วาไรตี้" ช่อง 9 เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2541

    - ภาพวาดด้วยสองมือ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2541 ที่จังหวัดนครสวรรค์ ในขณะที่คลื่นจากดาวโลกุกะตาปากะดิกอง ครอบร่างคุณชูชาติ ในเวลาเดียวกัน คลื่นจากดาวพลูโต ก็ส่งคลื่นผ่านมายังร่างอาจารย์ท่านที่เคยสัมผัสคลื่นดาวพลูโตมาแล้วที่งานนิทรรศการมนุษย์ต่างดาว และทั้งสองดวงดาวก็ได้มีการส่งมอบงานกัน โดยดาวโลกุกะตาปากะดิกองที่ทำหน้าที่ติดต่อกับ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน มาตั้งแต่ครั้งแรกนั้น ได้ส่งมอบหน้าที่การติดต่อสื่อสาร และการฝึกกลุ่มบุคคลฯ ให้กับดาวพลูโต เป็นผู้รับหน้าที่นี้แทน

    ซึ่งดาวโลกุกะตาปากะดิกอง มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสูงมาก จึงไปทำภารกิจในด้านเกี่ยวกับอุปกรณ์เทคโนโลยี ที่จะนำมาใช้ในช่วงเกิดภัยพิบัติ และยังคงอยู่ ณ ฐานที่ตั้ง คือบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ และยังคงบินไป - มาที่เขากะลาแห่งนี้ จนถึงปัจจุบัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2007
  20. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    ภาพวาดจากมนุษย์ต่างดาว ภาพที่ 1

    [​IMG]

    - ภาพที่เขียนภาพแรก คือจักรวาลของดาวโลกุกะตาปากะดิกอง จักรวาลของเขาจะใหญ่กว่าจักรวาลของเราเกือบ 3 เท่าทีเดียว


    - จักรวาลของเขาก็มีดวงอาทิตย์ มีวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ มีดวงดาวต่าง ๆ เป็นบริวาณเหมือนกับจักรวาลของเรา แต่มีลักษณะใหญ่กว่า



    ภาพทุกภาพมีความหมาย เพราะใช้การวาดสื่อสารแทนคำพูด เป็นการบอกเล่าเรื่องราวดวงดาวของเขา ให้มนุษย์ได้รับทราบ บอกเรื่องการมายังโลกมนุษย์ ข้อมูลของยานอวกาศ บอกเรื่องรูปร่าง และอะไรอีกมากผ่านภาพวาดเหล่านี้

    (พี่สุดใจจะมาอธิบายภาพแต่ละภาพ ที่มนุษย์ต่างดาวสื่อสารบอกมา โดยมี จ.ส.อ.เชิด และครอบครัว รวมทั้งพี่สุดใจ ก็อยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2007
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...