ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

หลังจากได้รับทราบทฤษฎีระบบในการประมวลพลังในครั้งนี้แล้ว ระบบให้ทำการประมวลพลัง ณ ลานปฏิบัติธรรมหน้าองค์พระประธาน เพราะลานต่างดาว มีคุณ apichan กำลังประมวลพลังอยู่ยังไม่หมดเวลา

ดังนั้น ในเวลาประมาณ 18.00 นาฬิกา อาจารย์ sapa และคุณกมลรัตน์ ได้ขึ้นไปเตรียมพร้อมเพื่อประมวลพลังในเวลา 18.11 นาฬิกา









บันทึกภาพในเวลา 18.05 นาฬิกา ก่อนการประมวลพลังเล็กน้อย

หลังจากนั้นผู้อาวุโสก็ลงไปรอด้านล่างที่ลานดูดาว เพื่อให้ทั้งสองท่านประมวลพลังรับคลื่นในเวลา 18.11 นาฬิกา

 

ที่ลานดูดาว ผู้อาวุโสก็ทานอาหาร ของว่าง ผลไม้ ที่พี่สุดใจนำขึ้นมา ในระหว่างรอคุณ apichan ที่จะเสร็จสิ้นการประมวลพลังในเวลา 19.11 นาฬิกา

 

ในเวลา 19.11 นาฬิกา พี่สุดใจ และคุณวาสนา ได้เดินทางขึ้นไปแจ้งแก่คุณ apichan ว่า ขณะนี้หมดเวลาประมวลพลังแล้ว

คุณ apichan จึงค่อย ๆ ออกจากสมาธิ และได้บันทึกภาพร่วมกันหลังจากเสร็จสิ้นการประมวลพลังแล้ว













ได้มีการสอบถาม สนทนาถึงสิ่งที่เข้ามากระทบในชั่วโมงประมวลพลัง ได้รับทราบว่า มีความสงบอย่างมาก เข้าสมาธิได้เร็ว และในขณะประมวลพลัง มีคลื่นเพิ่มเวทนาเข้ามา มีความปวดเกิดขึ้นมาก ก็เลยนั่งพิจารณาขันธ์ห้า พิจารณาเวทนาในขณะนั้น ว่ามิใช่ตัวเรา ของเรา

หลังจากนั้น ก็เดินลงมาทานอาหารด้านล่าง ณ ลานดูดาว ซึ่งระบบได้เตรียมอาหารกล่องคือข้าวผัดกระเพราปลาหมึก ผลไม้ และขนมอื่น ๆ ไว้ให้ทาน

 

ถ่ายภาพกับผู้อาวุโส ก่อนเดินทางลงจากเขากะลา เพื่อกลับเข้ากรุงเทพฯ







หลังจากนั้น ผู้อาวุโส 2 ท่าน คือคุณวาสนา คุณสมจิตร ได้เดินทางลงจากเขาพร้อมกับคุณ apichan และยังคงต้องลุยผ่านทางที่มีน้ำขังอยู่ดังเดิม

 

เวลา 20.11 นาฬิกา พี่สุดใจขึ้นไปแจ้งแก่อาจารย์ sapa และภรรยาว่า หมดเวลาประมวลพลังแล้ว

หลังจากนั้นได้นั่งสนทนากับอาจารย์ sapa ซึ่งท่านมีประสบการณ์ในช่วงการประมวลพลังหลายอย่าง

อย่างแรก รู้สึกว่ามีการแบ่งส่วนในการรับรู้ทางหูเป็น 2 ลักษณะ คือได้ยินแต่ละข้างไม่เหมือนกัน ในขณะเดียวกัน

คือหูด้านหนึ่งได้ยินเสียงในปัจจุบัน คือขณะนั่งสมาธิ ขณะพี่สุดใจพูด ขณะลมพัดบนลานพระ

หูอีกด้านหนึ่งได้ยินคนกลุ่มหนึ่งมาพูดอยู่ใกล้ ๆ แต่ฟังจับใจความไม่ได้ และข้างเดียวกันนี้ ได้ยินเสียงคลื่นจากทะเลซัดสาดเข้ามา และได้ยินเสียงอีกหลายอย่างที่ไม่ได้เกิดในปัจจุบัน คือแบ่งเป็นสองฝั่งคนละครึ่งจากกลางหน้าผากเป็นต้นไป ท่านก็นั่งพิจารณาว่าไม่ใช่ตัวท่าน ไม่ใช่ขันธ์ห้าของท่าน แต่เป็นอุปกรณ์เท่านั้น

และมีการมองเห็นภายในเมืองลับแล เห็นเป็นบ้านเรือนเป็นจำนวนมาก ที่ได้มีการสร้างเพิ่มมากมาย เนื่องจากเมื่อหลายปีก่อน ท่านเคยมาที่เขากะลาแห่งนี้กับอาจารย์กัญจีรา แต่ว่าในตอนนั้น ท่านบอกว่าเห็นเมืองลับแลเหมือนกัน แต่ไม่ชัดเจนเท่าครั้งนี้ และไม่มีการก่อสร้างมากขนาดนี้ แต่ในครั้งนี้มีการเข้าไปดูในเมืองลับแลได้เร็วมาก ชัดเจนมาก ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ไปนั่งที่ปากทางเข้าเมืองลับแลเลย และพบว่ามีทั้งสิ่งก่อสร้าง บ้านเรือนสร้างเพิ่มเติมมากมาย และมีทั้งอาหารจำนวนมากที่เตรียมไว้ภายใน แต่แปลกที่ไม่เห็นคนเลยสักคน

และยังได้มีการเปิดมิติให้เห็นกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว ที่ทับซ้อนอยู่บริเวณนี้ เห็นยานอวกาศมากมายจอดอยู่ รวมทั้งยานลำใหญ่ ที่บันทุกยานลำเล็กจำนวนมากเตรียมพร้อม และเห็นร่างมนุษย์ต่างดาวมากมายปะปนอยู่บนบริเวณนี้ เพราะเขาเปิดให้เห็นอย่างชัดเจน

ส่วนคุณ กมลรัตน์ ท่านกล่าวว่า นั่งสงบดีมาก แต่เห็นแสงสว่างมากในขณะหลับตา พอลืมตารอบตัวกลับมืดเพราะนั่งสมาธิกลางความมืด พอหลับตาก็สว่างอีก สว่างมากกว่าตอนลืมตา และเห็นแสงสว่างตลอดเวลาที่นั่งสมาธิ 2 ชั่วโมงเลย แต่ก็ได้พิจารณาว่าสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่ให้เห็นไม่ใช่ตัวเรา ของเรา เป็นอุปกรณ์เรืองแสงที่ส่องกลับเข้าไปภายในร่างกายเท่านั้น เอาไว้ใช้งานในยามวิกฤติข้างหน้า

ยังมีอีกหลายเรื่อง ที่อาจารย์ sapa ได้เล่าให้ฟัง แต่ท่านก็ไม่ได้ไปยึดในสิ่งที่เข้ามา เพราะรู้ว่า เป็นอุปกรณ์หลากหลายชนิด ที่เอามาติดตั้งไว้เพื่อทำงานเท่านั้น ไม่ได้มีตัวเรา ของเราผู้มีความพิเศษใด ๆ






อาจารย์ sapa คงจะมาเสริม เพิ่มเติมข้อมูลเหล่านี้ ในบางส่วนที่พี่สุดใจเล่าได้ไม่ครบ คงรอท่านมาเล่าให้ฟังเองดีกว่า จะได้รายละเอียดมากกว่านี้ค่ะ

หลังจากนั้น ก็ได้ร่วมกันสวดมนต์แปลหน้าพระประธาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติธรรม ในการประมวลพลังในครั้งนี้











หลังจากสวดมนต์แปลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้บันทึกภาพรวมกันหน้าพระพุทธรูปปางนาคปรก และที่ลานดูดาว ก่อนเดินทางกลับ

 

การเดินทางกลับ ต้องใช้เวลาค่อนข้างมากเช่นกัน เพราะทางเดินลำบาก และบางช่วงต้องลงลุยไปในโคลนเลยทีเดียว














เดินทางออกมาถึงรถตู้ที่จอดอยู่ในหมู่บ้าน ก็เป็นเวลาเกือบ 22.00 นาฬิกา

 

ได้นำบรรยากาศของการประมวลพลังในรุ่นที่ 1 เพิ่มเติมให้ชมไปแล้วทั้ง 3 ท่าน ซึ่งต้องขออนุโมทนากับทั้ง 3 ท่านเป็นอย่างยิ่งที่ได้มุ่งมั่น เดินทางมาประมวลพลังที่เขากะลาในครั้งนี้ และ wave จะส่งไปยังสัมผัสกับแต่ละท่านในเวลาที่ท่านกลับไปแล้วหลังจากนี้ และแต่ละ wave จะส่งเป็นการเฉพาะตัว เฉพาะงาน เพื่อฝึกแยกขันธ์ห้า รองรับการติดตั้งอุปกรณ์ต่อไป

ดังเช่นอาจารย์ sapa เมื่อวานฝึกแยกขันธ์ห้าในการประมวลพลังไปแล้ว ในวันนี้ ช่วงบ่าย เวลา 13.31 นาฬิกา ท่านได้โทรมาหาพี่สุดใจ และบอกว่า

อุปกรณ์เมื่อวานที่ติดตั้งตอนประมวลพลัง ตอนนี้เริ่มชัดเจนมากขึ้น อย่างวันนี้ตอนสาย หูผมก็ยังได้ยินแยกกันคนละข้างอย่างเมื่อวาน ข้างหนึ่งได้ยินเสียงแฟนพูด เสียงรถ เสียงรอบ ๆ ตัวตามปกติ แต่อีกข้างหนึ่งได้ยินเสียงจากที่อื่น เสียงคนพูดว่า บ้านที่ไปติดตั้ง(หรือซ่อม) UBC อยู่หลังไหน เป็นเสียงผู้ชายพูด และเสียงคุยกันเรื่องบ้านที่กำลังหาอยู่ อีกสักพักหนึ่งแฟนขึ้นมาตาม บอกว่าช่าง UBC เขามาแล้ว และพอออกมาหา เสียงของช่างคนนั้น ก็คือเสียงที่ได้ยินมาก่อนเมื่อเกือบ 10 นาทีที่ผ่านมา ตั้งแต่เขายังหาบ้านไม่เจอนั่นเอง

และวันนี้อีกเหมือนกัน รถเสีย จึงให้รถลากไปส่งซ่อม และคุณ pyramid ได้มารับไปที่ชลบุรี กลับมาถึงบ้าน ขณะอยู่ในบ้านก็ได้ยินเสียงช่างซ่อมรถกำลังคุยกัน เสียงช่างซ่อมรถที่คุ้นเคยพูดว่า ให้เอารถมาเช็ค มาซ่อมตั้งนานแล้ว แต่ไม่เอามาเลยเสียต้องไปลากรถมา .. แต่ว่า ... เสียงที่ได้ยินจากอู่ที่ซ่อมรถ กับบ้านห่างกันเป็น 10 กิโลเลย แต่กลับได้ยินเสียงนั้น

มีอีกหลายเรื่อง น่าสนใจทั้งสิ้น แต่อาจารย์ sapa ท่านไม่ค่อยมาพิมพ์เพื่อเล่าให้ฟัง แต่จริง ๆ ท่านคุยเก่งมาก และมีเรื่องที่น่าสนใจหลายเรื่องทีเดียวที่น้อยคนนักจะทราบ อย่างเรื่องการพบเจอ UFO ด้วยตนเอง

คือท่านเล่าว่า ท่านเดินทางไปต่างจังหวัด ผ่านจึงหวัดนครสวรรค์ มียาน UFO ลอยลำอยู่ และส่องแสงสีส้มสว่างจ้ามาคลุมร่างของท่าน ที่อำเภอโกรกพระ และอำเภอชุมแสง นครสวรรค์ และได้พบยาน UFO ที่ส่องแสงมาคลุมร่างกายท่านถึง 2 ครั้งทีเดียว

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 20 ปีมาแล้ว

หลังจากนั้น ท่านก็จะมีเซ้นท์ มีการเห็น มีการรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า แต่มาช่วงหลังจากไปเขากะลาเมื่อหลายปีก่อนกับอาจารย์กันจีรา ท่านรู้สึกว่าจะได้รับการติดตั้งอุปกรณ์มาตั้งแต่ตอนนั้น จะมีอะไรแปลก ๆ เข้ามาเยอะมาก รู้ เห็น และสัมผัสสิ่งอื่น ๆ ได้ไวกว่าแต่ก่อน และค่อนข้างชัดเจนขึ้น

จนได้ทราบเรื่องราวของเขากะลาในเวปไซด์พลังจิต ท่านจึงได้สนใจ และได้ติดตามเรื่อยมา จนมีหมายเลข และได้เดินทางมาเยือนเขากะลาอีกครั้ง ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา

ขออนุโมทนากับคุณ apichan อาจารย์ sapa และคุณกมลรัตน์ด้วยเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เดินทางฝ่าอุปสรรคนานาชนิด จนได้เข้ารับการประมวลพลังในครั้งนี้

อนุโมทนาค่ะ

 

เสาร์ก่อน เจ็บเข่า ถ้าต้องเดินขึ้นเหมือนอ. sapa และคุรอภิชาญคงแย่ อนุโมทนาบุญทั้งสามท่านและผู้อาวุโสค่ะ
เสาร์นี้ภูมิแพ้ น้ำมูกไหล คอแห้ง เดี๋ยวหนาวเดี่ยวร้อนเหมือนมีไข้
ก็ขันธ์ห้ามันไม่ใช่ของเรา แต่ตอนนี้อาการมันไม่น่ารักแฮะ
สงสารแต่ลูกชายคนเล็ก ขันธ์เขาโดนภูมิแพ้เล่นงานหนัก
จะไปเชียงรายวันนี้ ฝากระบบดูน้องกบให้ด้วยสอง-สามวัน
เสาร์หน้าค่อยเจอกันนะคะ

 

การประมวลพลังในรุ่นที่ 2/2551

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2551​

ยังมีการเปิดรับผู้ที่จะมาประมวลพลังใน รุ่นที่ 2/2551 นี้ ซึ่งหลายท่านที่พลาดจากการมาประมวลพลังร่วมกับกลุ่มในรุ่นที่ 1/2551

มีบางท่านโทรมาสอบถามการเดินทาง บางท่านโทรมาแจ้งความประสงค์จะเดินทางมาประมวลพลังที่เขากะลาในช่วงนี้ ทางผู้อาวุโสยินดีต้อนรับค่ะ

ท่านจะมาในวันใดก็ได้ ตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้ ยกเว้นวันลอยกระทงที่ระบบหยุด 1 วัน

.... แม้มีท่านเพียงคนเดียว.... ผู้อาวุโสทุกท่านก็ยินดีต้อนรับ และจะพาท่านขึ้นไปประมวลพลังบนเขากะลา

หากท่านไม่มีรถยนต์ที่จะโดยสารมาร่วมกับท่านอื่น ๆ และท่านตั้งใจจะมา ท่านสามารถเดินทางมาโดยรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ - นครสวรรค์ ได้ แล้วเราจะไปรับท่านที่ท่าจอดรถประจำทาง หรือ ท่าจอดรถตู้ ขอให้ท่านแจ้งมา

การเดินทางโดยรถโดยสาร

1. ขึ้นรถทัวร์จากหมอชิตกรุงเทพฯ มีรถทัวร์ทันจิต หรือถาวรฟาร์ม มาลงที่ บ.ข.ส. นครสวรรค์ได้โดยตรง รถใช้เวลาวิ่งประมาณ 3 ชั่วโมง ให้โทรหาพี่สุดใจเพื่อนัดหมายเที่ยวรถทัวร์ที่จะขึ้นมาจากกรุงเทพฯ พี่สุดใจและผู้อาวุโส จะขับรถยนต์ไปรับที่ท่าจอดรถ และพาท่านขึ้นไปบนเขากะลา

2. ขึ้นรถตู้จากอนุสาวรีย์ รถตู้จากกรุงเทพฯ - สะพานดำ-นครสวรรค์ รถจอดแถวหน้าภัตตาคารพงษ์หลี แต่เลยไปด้านใน คือมุมเดียวกับด้าน center-one รถจะออกจากท่าอนุสาวรีย์ชัย ชั่วโมงละ 1 คัน รถยนต์วิ่ง 3 ชั่วโมงเช่นกัน มาลงที่ท่ารถสะพานดำเลย จะไปรอรับที่ท่ารถ

ต้องมารถเที่ยว 12.00 หรือไม่เกิน 13.00 นาฬิกา เพราะจะถึงประมาณ 3 - 4 โมงเย็น หากเที่ยวช้ากว่านั้น จะมืดและเดินขึ้นเขาไม่สะดวกค่ะ

ผู้ที่ผ่านการประมวลพลังแล้ว ได้มีการพบเห็น ได้มีการสัมผัส ได้มีการทำความรู้จักกับ wave ในการแยกขันธ์ห้าแล้ว ท่านจะได้ทั้งประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านไปพร้อม ๆ กัน

และสิ่งเหล่านี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งในอนาคต

หากท่านประสงค์จะพักบนเขากะลา เพื่อชมบรรยากาศและสนทนาธรรมกับผู้อาวุโสในคืนนั้น ก็ยินดีค่ะ จะได้เตรียมนำเต็นท์ เสื่อ อาหารการกิน ขึ้นไปด้วย หลังจากประมวลพลังเสร็จแล้ว ก็จะสนทนา รับประทานอาหาร เป็นการปิคนิคบนเขากะลาไปในตัว

ท่านใดประสงค์จะเดินทางมา หรือท่านที่เคยมาแล้ว จะมาประมวลพลังอีกในครั้งต่อ ๆ ไปอีก ก็แจ้งมาได้นะคะ ยินดีต้อนรับค่ะ

แจ้งผ่านกระทู้นี้ หรือ pm มาบอกพี่สุดใจก็ได้ค่ะ

 

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2551​

มีผู้แจ้งความประสงค์จะเดินทางมาที่เขากะลาจำนวน 4 ท่าน​

เพื่อปรับหมายเลข จำนวน 2 ท่าน คือ​

คุณณัฐนันท์ กระจ่าง mooing2546
<O</Oจากศรีสะเกษ​

คุณสุนิตา อัตชู (คุณจูน)
จากกรุงเทพฯ
(หากมีใครจะเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ในวันนั้น จะขอร่วมเดินทางมาด้วย
หากไม่มี จะขึ้นรถโดยสารมาเองค่ะ)​

ผู้ที่ได้รับการเชื่อมระบบแล้วที่บุรีรัมย์ 1 ท่าน
จากศรีสะเกษ​

และคุณธนทรงพรบัญฑร
จากศรีสะเกษ​

หากท่านใดจะมาปรับหมายเลข และประมวลพลัง
ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2551
ในเวลา 17.00 นาฬิกา​

กรุณาโทรแจ้งพี่สุดใจล่วงหน้าด้วยนะคะ เพราะในวันนั้นผู้อาวุโส
จะต้องเดินทางขึ้นไปให้การรับรองในการปรับหมายเลขด้วย
จะได้ทราบจำนวนผู้ที่จะมาปรับหมายเลขค่ะ​

และคุณ ukrin ผู้ประมวลพลังไปแล้วในรุ่นที่ 1
จะมาร่วมประมวลพลังด้วยในวันนี้​

ยินดีต้อนรับทุกท่านค่ะ ​

 

ประมวลพลังแบบกลุ่ม​

ประมวลพลังแบบคู่​

​

ประมวลพลังแบบเดี่ยว​

​

คุณ apichan มาแบบ one man show เลยนะคะ มาเดี่ยวด้วยความตั้งใจ โดยรถยนต์ส่วนตัว มาที่เขากะลาโดยตรง
และผู้อาวุโสไปรอรับตั้งแต่ลงจากรถเลยทีเดียว​

​

​

​

วันนี้เราอาจจะมี ซุปเปอร์เลดี้ อีกคนก็เป็นได้

ผู้อาวุโสก็จะไปรับถึงรถเช่นเดียวกันค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นที่รถทัวร์ หรือที่รถตู้โดยสารก็ตาม

แต่ไม่ต่างกันตรงที่ มีความมุ่งมั่นในการเดินทางมาในครั้งนี้
อนุโมทนาด้วยอย่างยิ่ง

แล้วพบกันค่ะ น้อง Pasika​

 

เมื่อวานนี้คุณpyramid โทรมาฟ้องว่าอาจารย์sapa เหาะไปเขากะลาจากกรุงเทพฯ ด้วยความเร็ว 170 กม./ชม.แน่ะ ขากลับกรุงเทพฯ รถพังเลย นี่ขนาดรถตู้นะครับ ถ้ารถที่อาจารย์sapa ขับไปเป็นรถเก๋ง สงสัยต้องใช้คำว่าหายตัวไปเขากะลาแน่ๆ เลย

ขออนุโมทนาในความมุ่งมั่นที่จะเดินทางไปรับประโยชน์ตน ของอาจารย์sapa คุณกมลรัตน์ และคุณapichan เป็นอย่างสูงนะครับ ตัวผมเองเคยได้ยินมาบ่อยครั้งว่าคนเราก็ต้องทำมาหากิน ดังนั้นในหลายๆ กิจกรรมของการต้องไปรับประโยชน์ตนหรือการทำประโยชน์ท่าน ก็จะไม่ใช่ทุกคน และไม่ได้ทุกครั้ง ส่วนท่านที่มีความมุ่งมั่นแบบทั้งสามท่านนี้ ผู้รู้ท่านก็ต้องอนุโมทนาด้วยอย่างแน่นอนครับ และต้องขออนุโมทนากับคุณPasika ล่วงหน้าอีกท่านนึงด้วยนะครับ

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2551 จะเป็นรถไฟขบวนสุดท้าย หรือป่าวน้อ..สำหรับการปรับหมายเลข จะมีหมายเลขหรือไม่มีหมายเลขถ้าเป็นคนระบบแล้วยังไงก็คงต้องร่วมกันทำงานเมื่อเวลามาถึงนะครับ แต่ผู้ที่มีหมายเลขจะได้รับทั้งประโยชน์ตน และมีศักยภาพในการทำประโยชน์ท่านอย่างต่อเนื่องและต่างกันมาก ดังนั้นผมจึงแอบกระซิบไว้ตรงนี้เล็กน้อยนะครับ เผื่อมีใครทิ้งโอกาสอีกเดี๋ยวจะหาว่าหล่อไม่เตือน จริงมั๊ยครับคุณO.A.T

 

<TABLE class=tborder id=post1637192 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">05-11-2008, 04:33 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#4936 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Astro Neemo<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1637192", true); </SCRIPT>

ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค​

​

วันที่สมัคร: Sep 2007​

ข้อความ: 674

ได้ให้อนุโมทนา: 1,767
ได้รับอนุโมทนา 12,288 ครั้ง ใน 582 โพส
<IF condition="1"><!--############### AWCoding Back-End created by Adam Ellis ########################################### Version 3.0.4 ##############################--> <!--####################### Awards Postbit Template ########################################## Copyright 2008 all rights reserved ##################-->
</IF>พลังการให้คะแนน: 333 ​

</TD><TD class=alt1 id=td_post_1637192 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->วันเสาร์นี้ ทางรายการทีวีจากช่อง3จะมาสัมภาณ์และนำเรื่องราวของ มนุษย์ต่างดาว โดยทำเป็นซีรีย์ ฉายต่อเนื่องทางช่อง3 และทางรายการอยากจะมาพูดคุยกับพวกเราทุกๆคน เกี่ยวกับเรื่องการสัมผัสกับระบบ </B>

โดยหากเพื่อนๆท่านใดเป็นคนในระบบ ช่วยมาเป็นพระเอก นางเอกในรายการหน่อยนะครับ ที่ฝักข้าวโพด วันเสาร์นี้ บ่ายๆนะครับ

<!-- / message --><!-- sig -->​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></B>​

ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์นีโม่
และทีมงานเขากะลา 2 ทุกท่านค่ะ​

วันนี้ เขากะลา 2 ก็จะมีการให้สัมภาษณ์
เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว และเรื่องของระบบ
ให้กับรายการทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3​

อาจารย์นีโม่ และเพื่อน ๆ สมาชิก ก็คงต้องร่วมกันให้ข้อมูล และนำประสบการณ์ที่ได้พบเจอมาถ่ายทอดให้บุคคลทั่วไปได้รับทราบผ่านทางรายการนี้​

เป็นการเผยแพร่ข้อมูลในอีกรูปแบบหนึ่งของระบบ​

ขออนุโมทนากับทีมงานเขากะลา 2
ที่ต้องเริ่มการแสดงออกสู่สาธารณะแล้ว จากนี้ไป​

นำทฤษฎีระบบ และการประมวลพลังมาใช้นะคะ แยกขันธ์ห้าให้เห็นว่า....มันกำลังแสดงบทบาทเป็น ... ผู้ถูกสัมภาษณ์เพื่อออกรายการทีวีอยู่ ... ไม่เกี่ยวกับเราเลย ​

ดูขันธ์ห้าแสดงไป อย่าไปยุ่งกับมัน เพราะมีให้เลือกแค่ 2 ทาง​

คือทุกข์มาก กับทุกข์น้อย ​

หากเราอาย เราก็จะทุกข์มาก​

หากเราเห็นขันธ์ห้ามันกำลังอาย ... แล้วดูมันทำ
ก็จะ...ทุกข์น้อย​

เรามีสิทธิ์เลือกที่จะอยู่ในมัน หรือจะออกมาดูมัน เรามีสิทธิ์เลือก
เพื่อที่จะให้มันทุกข์น้อยนั่นเอง​

ผู้อาวุโส no.9 คงเดินทางไปร่วมด้วยที่อาคารฝักข้าวโพดในวันนี้​

สำหรับพี่สุดใจ และผู้อาวุโสยังต้องปฏิบัติภารกิจอยู่ที่เขากะลา 1 ​

เพราะยังมีการประมวลพลังอย่างต่อเนื่องตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้​

ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์นีโม่ และผู้ที่ไปร่วมออกรายการทุกท่านค่ะ​

 

หลังคุณแตงโม ยังมีอีก 1 ท่านนะครับ นึกว่าตัวเองเล็กๆมั้ง
ถ้าขยับมาทางซ้ายสักนิด คุณ ณ ถูกบังมิดแหงๆ

 

พี่แตงโมบังหนุ่มรูปหล่อซะมิดเลย..555...

 

อาจารย์ sapa ขับรถเร็วจริงๆ เห็นว่าออกจากบ้าน 2.30pm แต่มาถึงเขากะลาราวๆสี่โมงเย็น ผมว่าผมเองก็ขับรถเร็ว (ประมาณ 140-160) แล้วมาเจออาจารย์ขับเร็วกว่านี่ชิดซ้ายไปเลย นี่ขนาดรถตู้นะเนี่ย

ลืมเล่าไปนิด ขาไปเขากะลา นึกอยากแวะเข้าวัดอัมพวันของหลวงพ่อจรัญ ก็เลยลองแวะดู เผื่อฟลุ๊กเจอหลวงพ่อลงรับญาติโยม ทั้งๆที่ก็จำไม่ได้หรอกว่าปกติหลวงพ่อท่านลงกี่โมง แต่พอเข้าไปในวัดก็เจอหลวงพ่อท่านกำลังรับญาติโยมจริงๆ ก็เลยได้กราบท่านอย่างสมใจเพราะเคารพศรัทธาท่านมานานแล้ว สงสัยระบบจัดให้จริงๆเพราะเวลาปกติที่ท่านลงเห็นเขียนว่าบ่าย 2 แต่วันนั้นผมแวะเข้าไปประมาณบ่าย 1.45 นั่งดูท่านด้วยความปลาบปลื้มสักครู่ ท่านก็กลับเข้าห้องไปราวๆบ่าย 2

 

อาจารย์นีโม่ครับ ประคำนี่ต้องร้อยเองหรือเปล่า ของผมยังไม่ได้เลย

 

เป็นการช่วยๆกันร้อยน่ะครับ ใครว่างก็ไปช่วยร้อยประคำที่ฝักข้าวโพดแต่ส่วนใหญ่ก็จานโม่น่ะแหละที่ร้อย ถ้ายังไม่ได้ ก็ไปรับที่ฝักข้าวโพดได้เลยครับ หรือบอกที่อยู่มาเด่วผมส่งให้ทางพัสดุครับ

 

บรรยากาศยามเช้าที่เขากะลา1 เมื่อวันที่ 2/11/51

 

กองทัพ เดินด้วยท้อง เช้ามารีบหามีอะไรเหลือๆไหม กาแฟมี น้ำล่ะ อ๋อในโอ่งมี เทวดาท่านส่งมาให้ ใสสะอาด