ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

hello...

 

ยินดีด้วยครับ

 

เครื่องคอมฯ ที่นครสวรรค์ ต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่ได้ พี่สุดใจเลยไม่ได้เข้ามาสนทนาด้วยหลายวัน

วันนี้โทรตามช่างมาซ่อมแล้ว คาดว่าช่างจะมาในช่วงบ่าย ซึ่งขณะนี้สัญญาณก็ยังติด ๆ ดับ ๆ อยู่

ตอนนี้พอเข้าได้ เลยแวะมาทักทายส่งข่าวคราวกันก่อน หากสัญญาณปกติดีแล้วจะเข้ามาสนทนาด้วยนะคะ

อนุโมทนากับทุกท่านค่ะ

 

ช่วงนี้กระทู้เขากะลาดูเงียบเหงานะครับ ขันธ์ 5 มันรู้สึกแบบนี้

 

หลักธรรม ๔ ประการ อันเป็นที่รักของเทวดา และมนุษย์ <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
• เมตตา บุคคลผู้มีเมตตาเป็นพื้นฐาน จิตย่อมมีความอ่อนนุ่ม เพราะเมตตาเป็นเครื่องยังให้โลกอยู่อย่างสงบสุข เมตตานั้นหมายถึง การให้อภัยร่วมด้วย เมตตาและให้อภัย มีประโยชน์ยังจิตใจให้สะอาด ใครมีเมตตาย่อมปราศจากโทสะ โลภะ โมหะ หรือมีโทสะ โลภะ โมหะอย่างน้อย เมื่อบุคคลมีเมตตาย่อมให้อภัยผู้อื่นเสมอ ใครทำผิดต่อตนย่อมให้อภัยเป็นที่ตั้ง มากน้อยตามกำลังแห่งเมตตาของตน ไม่ยกตนข่มท่าน บุคคลผู้รู้จักฟังย่อมเกิดปัญญา เมื่อมีเมตตาเป็นพื้นฐานก็จะไม่เอารัดเอาเปรียบ รู้จักแบ่งปัน เมตตาจึงเป็นธรรมอันประเสริฐ ยังโลกให้อยู่ได้ เป็นที่รักของเทวดา <o></o>
• กตัญญู เป็นหลักในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ให้เรารู้จักอ่อนน้อม มีสัมมาคารวะ ตอบแทนผู้มีพระคุณ เป็นผลในการสร้างบารมี มีผลด้านภาวะจิตใจระหว่างบุคคลต่อบุคคล บุคคลต่อเทวดา บุคคลต่อสิ่งไร้รูป ผู้มีกตัญญูเป็นที่ตั้งย่อมหมายถึง ความเจริญ กตัญญูเป็นธรรมะอันประเสริฐ <o></o>
• สัจจะ หมายถึงความซื่อสัตย์ร่วมด้วย รักษาวาจา มีความซื่อสัตย์เป็นที่ตั้ง ย่อมเป็นที่รักของเทวดา มีคุณค่าสมเป็นมนุษย์ เป็นผู้ให้เกียรติต่อตนเอง ผู้ใดปราศจากความซื่อสัตย์ ปราศจากสัจจะ มนุษย์ผู้นั้นเป็นผู้ทำลายเกียรติแห่งตน ไม่เป็นที่รักของเทวดา ความซื่อสัตย์และสัจจะมีความสำคัญอย่างนี้ <o></o>
• ความเพียร รวมถึงความอดทนร่วมด้วย บุคคลผู้มีความเพียรอันประเสริฐ ย่อมสำเร็จผลดังที่ตั้งเอาไว้ ชนะใจเทวดาและตนเอง ความเพียรมีความประเสริฐอย่างนี้

มนุษย์ผู้ใดยึดมั่น คุณธรรม ๔ ประการ นี้
มนุษย์ผู้นั้นย่อมเป็นที่รักของเทวดา มนุษย์ และเหล่าอสูรกายทั้งหลายดังกล่าว<o></o>

ได้มาจึงส่งต่อ

 

เบาๆ ขำขำ คั่นบรรยากาศ กันหน่อยครับ
(ขอwave ขำขำ ไม่เอา wave หัวเราะ นะครับ)

คุณยาย ขายหัวเราะ

ยาย : ว่างไหมเนี่ยหลานเอ้ย ?
หลาน : ว่างคับ
ยาย : คุยด้วยคนนะหลานเอ้ย
หลาน : เอาสิคับยาย..นั่งก่อนคับ
ยาย : งั้นเอ็งก็ลุกขึ้นสิ
หลาน : ทำไมผมต้องลุกขึ้นด้วยล่ะ
ยาย : ยายจะได้นั่งก่อน
หลาน : ...............
หลาน : ยาย ปีนี้ดูแก่มากเลยนะยาย..อายุเท่าไหร่แล้วล่ะ.. ?
ยาย : เมื่อ 20 ปีที่แล้วยายอายุ 50 ไม่รู้ว่าตอนนี้มันยังจะ 50 อยู่! หรือป่าว ไม่ได้นับมานานแล้ว
หลาน : โห...ยาย ป่านนี้มันไม่เหลือ 9 ขวบแล้วเหรอ..แล้วลูกเต้าไม่มีหรอยายถึงมานั่งคนเดียวเนี่ย
ยาย : มี..
หลาน : อ้าว..แล้วทำไมเค้าไม่มาด้วยอ่ะ
ยาย : มีลูกชายสองคน คนหนึ่งอยู่ระยอง คนหนึ่งอยู่เชียงใหม่โน่น คนหนึ่งมันจะให้ยาย ไปอยู่เชียงใหม่...อีกคนหนึ่งจะให้ยายไปอยู่ระยอง..ตัดสินใจไม่ ถูก ไม่รู้จะไปอยู่กะใครเนี่ย ?
หลาน : โอ้โฮ..ยายนี่โชคดีจังเลยแย่งกันเลี้ยง
ยาย :โชคดีกะผีอะไรล่ะ...ก็ ** คนที่อยู่ระยอง..มันจะให้ไปอยู่เชียงใหม่ ** คนที่อยู่เชียงใหม่..มันจะให้ไปอยู่ระยอง
หลาน : เอ่อ..ยาย..อย่าไปคิดมากเลยอายุปูนนี้ร่างกายยังแข็งแรงอยู่ก็ถือว่าโชคดีแล้ว
ยาย : โอ้ย..แข็งแรงที่ไหนกัน ตอนนี้กำลังแย่เลย **
หลาน : แย่ที่ไหนยาย..ก็เห็นแข็งแรงดี
ยาย : เดี๋ยวนี้ยายมีอาการแปลกๆ เช่น นั่งๆอยู่เนี่ย..ถ้าลุกขึ้นปุ๊บ..มันจะยืนทุกทีเลยเป็นอะไรไม่รู้
หลาน : ..............................ลุกแล้วยืนน่ะมันธรรมดานะยาย..ยายเคยเห็นคนล้มทั้งยืนมั้ยยาย.. ?
ยาย : ไม่เคย **
หลาน : อยากเห็นมั้ย.. ?
ยาย : อย่าเลย..ยายแก่แล้ว เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยอยากรู้อยากเห็นอะไร
หลาน : อ้าว..เป็นอะไรไปเหรอยาย.. ?
ยาย : สงสัยจะแก่ตัวมาก นั่งนานๆแล้วมันจะมีปัญหา.
หลาน : มันเป็นยังงัยหรอยาย.. ?
ยาย : อีขาซ้ายนี่มัน...ชา
หลาน : แล้วขาขวาล่ะยาย ..?
ยาย : กาแฟ **..
หลาน : ผมว่ายายต้องรีบไปหาหมอแล้วล่ะ..
ยาย : ทำไมล่ะ.. ?
หลาน : ถ้าปล่อยไว้นานๆมันจะเป็นโอวัลตินนะยาย
ยาย : อืม..แล้วพอยืนนานๆนะ..ขาซ้ายมันจะปวด
หลาน : โอ้ย..เป็นเรื่องธรรมดายายอายุมากแล้วนี่ มันก็ปวดสิ
ยาย : ไม่จริงหรอก..ขาข้างขวานี่ก็อายุเท่ากันไม่เห็นมันปวดเลย
หลาน: ผมไปและคับยาย <!--MsgFile=0-->

<CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top bgColor=#000000 rowSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#204080 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=left bgColor=#000000 colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#204080 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
<!-- / message --><!-- sig -->

 

ตลกจังปล่อยเสียหลายก๊าก
คุณเม้าหามาให้คลายอารมณ์

 

เอามาฝากให้อ่านกันค่ะ

 

โอ้โฮ..ผมก็หลายก๊ากเหมือนกันครับ
นี่สงสัยจะไม่ใช่แค่ wave ขำๆซะหละม้างงพี่เม้าท์

นี่มัน wave หัวเราะก๊ากกกๆๆ ชัดๆเลยนะเนี่ย

 

เรื่อง ขำ ขำ ของพี่เม้าท์ ขำจริงๆ

 

ทำจิตให้บริสุทธิ์ คือ หัวใจของพระพุทธศาสนา

จาก คู่มือมนุษย์ ของ ท่านพุทธทาส

 

เดือนแห่งการประมวลพลัง

เนื่องจากมีเพื่อนๆ ที่ได้ไปประมวลพลัง ที่เขากะลา จังหวัดนครสวรรค์ มาแล้ว ได้คุยกันและดำริว่าจะไปประมวลพลังอีกครั้ง ประมาณวันที่ 29-30 พฤศจิกายนนี้ เพื่อเป็นการส่งท้ายเดือนแห่งการประมวลพลัง

ดังนั้นจึงขอสอบถามมายังเพื่อนที่เคยไปมาแล้ว หรือ ที่ยังไม่เคยไป ที่สนใจจะไปประมวลพลังในวันดังกล่าว ได้มาลงฃื่อไว้ ถ้ามีจะนวนมาก อาจจะมีการเช่ารถตู้เพื่อเดินทาง ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้นก็ขอดูจำนวนรายชื่อที่แจ้งเข้ามาก่อน ครับ

 

ขอบทสวดขอขมากรรมด้วยนะค่ะคือข้าพเจ้าต้องการนำมาสวดขอขมากรรมค่ะ ขอบคุณทุกท่านค่ะ

 

กลับมาสนทนากันได้อีกครั้ง หลังจากอินเตอร์เน็ตเพิ่งใช้ได้เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา

ก่อนอื่น ต้องขออนุโมทนากับอาจารย์นีโม่ และเพื่อน ๆ สมาชิกทุกท่าน ที่ได้ไปร่วมสวดมนต์ ร่วมทำสมาธิ...ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ที่เขากะลา 2 อาคารฝักข้าวโพด เมื่อคืนวันที่ 15 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา

พร้อมกับฉากเขากะลา 2 ได้ปิดลงอย่างสมบูรณ์แล้ว เมื่อคืนวันที่ 15 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา

ซึ่งเป็นไปตามกฏของธรรมชาติ คือต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วเป็นธรรมดา คือเมื่อมีการจัดขึ้น ดำเนินอยู่ แล้วก็ต้องเลิกลากันไป ฉากใหม่ก็ถูกจัดขึ้น ดำเนินอยู่ แล้วก็เลิกลากันไป ฉากใหม่ก็จัดขึ้นอีก ดำเนินต่อไปอีก แล้วก็จบลงไปอีก เพื่อรอฉากใหม่จะผ่านเข้ามา เพื่อที่จะดำเนินต่อไป แล้วก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไป อย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุด

สังสารวัฏอันยาวนาน หาที่เริ่มต้นและหาที่สิ้นสุดมิได้นั้น ก็เป็นเพราะอวิชชา หรือความไม่รู้ เป็นตัวหลอกล่อให้เราเข้าไปยึดมั่นถือมั่น ในอุปทานขันธ์ห้า หลอกเราว่า นี่เป็นตัวเรา นี่เป็นของเรา คอยย้ำ คอยเตือน คอยเสนอสนองให้มีความเข้าใจที่ไขว้เขวว่ามีตัวตน มีของ ๆ ตนอยู่ตลอด

จนหลงไปว่า มีตัวเราจริง ๆ มีของของเราจริง ๆ จึงมีแต่ความชุลมุนวุ่นวาย อยู่ในวังวนของคำว่าตัวเรา ของเราอยู่ตลอดเวลา

จนกลายเป็นว่า มีตัวเราจริง ๆ มีของเราจริง ๆ

ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดเพี้ยนไปจากกลไกของธรรมชาติโดยสิ้นเชิง

หากไม่มีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตรัสรู้ในกฏของธรรมชาติ หากไม่มีการนำพระธรรม หรือกฏแห่งกรรม หรือกฏของธรรมชาติมาบอก มาสอน ให้มีความเข้าใจที่ถูกตรง เพื่อให้จางคลายจากการยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้าแล้ว

ก็ไม่รู้ว่า....จะยังวนเวียนอยู่ในวัฏฏสงสารกันอีกนานแค่ไหนหนอ?

 

คงต้องไปเหมือนกัน ส้มตำ ไก่ย่าง วิเชียรบุรีไม่รู้ว่าจะอร่อยเหมือนเดิมหรือเปล่า ช่วยยกมือด้วย

 

ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ

บ้านที่กล่าวถึงนี้ มิได้หมายความถึงสถานที่ มิได้หมายความถึงเขากะลาแห่งนี้

เพราะสถานที่แห่งนี้ ก็เป็นเพียงฉาก ๆ หนึ่ง ที่สร้างขึ้นเพื่อรวบรวมนักแสดง รวบรวมทีมงานในโครงการช่วยเหลือภัยพิบัติในครั้งนี้

จึงมิได้มีการแยกเขากะลาออกเป็นส่วน ๆ ดังที่อาจารย์นีโม่ ได้กล่าวมานั้น ถูกต้องแล้ว

มีเขากะลาแห่งเดียว และทุกท่านก็คือทีมงานเดียวกัน อยู่ในโครงการเดียวกัน โดยไม่มีการแบ่งแยกแต่อย่างใด

เขากะลาแห่งนี้ อาจเป็นเสมือนโรงถ่ายละคร ที่ต้องใช้ฉากที่เขากะลามากหน่อย บ่อยหน่อย เพื่อให้เรื่องดำเนินต่อไปได้

แต่ที่ยินดีด้วยจริง ๆ ก็คือ

ยินดีกับ .... ผู้ที่จะกลับสู่บ้านแห่งธรรมชาติ กลับคืนสู่ความเป็นธรรมชาติ กลับคืนสู่ความว่างจากการยึดมั่นถือมั่น ว่างจากอัตตาตัวตน ว่างจากความเป็นตัวเราของเรา นั่นต่างหากที่น่ายินดีด้วย

เพราะมีการขันอาสากันลงมาตั้งแต่ก่อนเกิด เพื่อมาทำงานช่วยเหลือโลกในยามที่เกิดภัยพิบัติในครั้งนี้

และมีการรับทราบ "ประโยชน์ตน"... ที่จะได้รับจากการทำงานนี้กันมาก่อนล่วงหน้าแล้ว ตามที่ได้ขันอาสากันลงมา

การมาพบเจอ การมารู้จักกัน การมาเพื่อทำงานร่วมกัน เพื่อให้งานของระบบดำเนินไปได้ดังแผนงานที่วางไว้นั้น จึงมิใช่เรื่องใหม่ใด ๆ สำหรับผู้ที่ระบบได้วางไว้แล้ว

ดังนั้น อยู่ที่ว่าใครเล่นบทไหน แล้วจะได้ประโยชน์ตนเท่าไร?

และ ใครบ้างจะได้กลับบ้านในชาตินี้

เพราะแต่ละบท ได้รับประโยชน์ตนไม่เท่ากัน 30 % 50% 70% 90 % หรือ 100 % ก็มี

แล้ว....ใครบ้างที่จะได้กลับบ้าน

บ้านที่จากมานานแสนนาน

บ้านของธรรมชาติ

บ้านของจักรวาล

บ้านแห่งความว่าง ว่างจากอุปทานการยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า ว่างจากอัตตาตัวตนของตน

เพื่อจบบทละคร....เพียงชาตินี้

.... กลับบ้านกันเถอะ ....

 

มีการย้ำการปิดเขากะลา 2 หลาย ๆ post ของหลาย ๆ คน รู้สึก"ใจหาย" ไป ด้วย ทั้ง ๆ ที่ จะแทบไม่เคยไปเจอใคร เพราะ เวลาไป ไม่เหมือนชาวบ้าน มักไปกลางวัน ของวันทำงาน แต่คอยอ่าน และติดตามดูกิจกรรมเสมอ แล้วเกิดอะไรไม่รู้ หลังจากไปจับ หมายเลข (คนสุดท้าย ของ รอบ 2 พอเย็น ระบบ ก็สั่งปิดการจับหมายเลข) Post ไม่ค่อยได้ อ่านได้อย่างเดียว พอมีข่าวการแจ้ง "ปิดเขากะลา 2" ช่องหน้าต่างข้อความก็กลับมา เลย Post ได้ใหม่
วันนี้จะเล่าให้ฟังว่า ....เมื่อคราว วันที่ไปจับหมายเลข ตอนค่ำ เห็นเครื่องบินแปลก ๆ อย่างเคย มาจากทางดอนเมือง (ในขณะที่ดวงอื่น ๆ จอดอยู่กันเต็มท้องฟ้า มากกว่าทุกวัน) ที่น่าตื่นเต้นคือ พอเข้ามาใกล้สายตา ทันทีที่เห็น .....เขาเปิดไฟส่องขึ้นบนท้องฟ้าเป็นแนวตั้ง และลำแสงส่องขึ้นเป็นทรงกระบอก หลาย ๆ กระบอกสีเหลืองสดสบายตา จนลูกสาวคนโต ที่มองอยู่ด้วยกัน อุทานว่า "สีเหลืองแบบนี้ ดูอบอุ่นใจจังเลย" คล้ายดอกทิวลิป หลาย ๆ ดอก และมี ไฟเป็นวงกลม ที่อยู่ข้างหน้าเปิดสว่าง เหมือนวงกลมของ ชิงช้าสวรรค์ ทั้งไฟขาวไฟแดงสวยงามมาก โดยเฉพาะความสวยงามของสีเหลืองที่เห็น ปิติมาก ให้ความรู้สึก ถึงความเมตตาและอบอุ่นจริง ๆ (...อยากบอกว่าสีเหลืองที่เห็นมาก่อนในชีวิต ไม่มีเหลืองใด ที่จะให้ความรู้สึกดี และสวยงามเท่านี้เลย ยังกะไม่ใช่สีเหลืองที่มีในเมืองมนุษย์ รู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ) พอเลยบ้านเราเขาก็ดับไฟทั้งหมด เปิดไฟเล็กน้อยเหมือนเครื่องบินปกติ ที่ไม่มีอะไรผิดสังเกต เลยถามลูกสาวว่า เขาเปิดให้เราดูใช่ไม๊ ลูกตอบว่า ก็ต้องเราน่ะซิ คุณแม่ ไม่งั้นเขาจะปิดทำไมพอผ่านบ้านเราแล้ว

สำหรับวันนี้สิ่งที่พบเห็นมาหลายอย่าง ก็ไม่ถือว่าผิดปกติอะไร เพราะในโลกนี้ จริง ๆ แล้วมีอีกหลาย ที่พบแล้วอาจจะต้องอุทาน ว่าเป็นไปได้เหรอ/.
ตอนนี้อยากบอกว่า "ขอให้ดูแลตัวเอง โดยรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ใครตั้งใจรับศีลอะไรก็รักษาศีลนั้นให้สะอาด เพราะความสะอาดจะเกิดที่ใจ และรู้ได้ด้วยใจของเราเอง มิใช่ใจของผู้อื่น" หากศีลสะอาด จนเป็นสัจจะของตนอย่างแท้จริงแล้ว อย่างอื่นจะตามมาอีกมากมาย เป็นกำลังใจไม่ให้ท้อถอย ในแนวทางที่ตั้งใจเดิน (ที่กล่าวนี้ เพื่อคอยกำกับตนเองนะเนี่ย ...กลัวแพ้มารในใจตัวเอง เลยต้องสั่งสอนตนเองบ่อย ๆ)

 

ขอยกมือเป็นคนแรกเลยครับ...พี่วิจิตร
แล้วพบกันครับพร้อมกับเพื่อนๆ

 

ยกสองมือเลยคับ(||)

 

รายชื่อผู้ที่จะไปประมวลพลัง 29-30/11/5ใ...ช่วยๆ กันลงชื่อนะครับ
1 คุณเทพบุตรชาวดิน
2 คุณทานะบารมี
3 คุณอาจารย์ จุก
4 ปิรามิด
5 คุณศศะ
6 ผู้อาวุโส No.9