ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

:boo: นับเลข 8 ได้ 14 (1111) ตัว = 112 = 12 (11) :boo:


ส่วนเลข 13 ก็คือ 111 ในระบบรหัสนี้มีหลายความหมาย นั่นก็คือ
1 ยกกำลัง 3 หรือ 1x1x1 =1 ในระบบเลขฐาน 10
ส่วนเลข 11 คือ 1 ยกกำลัง 2 หรือ 1x1 =1

กระทู้ # 1682 = 17 = 8 , เวลา 12:00 = 11

 

(deejai) วันก่อนไปที่ร้านขายสังฆภัณฑ์เจอพระพุทธรูปองค์หนึ่ง เป็นพระพุทธรูปปางนาคปรก รู้สึกถูกชะตามากๆ ราคาบูชา 1390 บาท (1+3+9+0) = 13 จากราคาปกติ 1690 บาท (1+6+9+0) = 16 = 7 ตอนนั้นมีความคิดว่า เป็นพระพุทธรูปประจำวันเสาร์ (7) น่ะค่ะ ก็เลยยังไม่ได้บูชาค่ะ ..

วันนี้คิดว่าต้องไปบูชาพระพุทธรูป องค์นั้นแน่ ๆ โดยที่ยังไม่ทันคิดว่า วันนี้ เป็นวันเสาร์ ที่ 7 ด้วยค่ะ ออกจากบ้าน เวลา 09:13 น. ไปส่งคุณแม่ไปทำธุระที่ตลาด และ เลยไปร้านสังฆภัณฑ์ร้านเดิม หลังจากได้พูดคุยกับเจ้าของร้านแล้ว เจ้าของร้านจำได้ว่าเคยมาดูพระ ครั้งที่แล้ว จึงให้บูชาในราคาพิเศษ เช่้าพระพุทธรูปในราคา 1200 บาท เลยซื้อธูปหอม อีก 1 กำ ราคา บาท 100 บาท รวมเป็นเงิน 1300 บาท จริงๆ แล้ว นำเงินติดตัวไป 1390 บาท เหลือติดตัวกลับบ้าน 90 บาท..ไม่ได้เอากระเป๋าตังค์ไปด้วย น่ะค่ะ หลังจากทำธุะเสร็จเรียบร้อย พาคุณแม่ไปส่งที่บ้าน จากนั้น เดินทางมาทำงานตามปกติ รับบัตรจอดรถหมายเลข 130 นำรถเข้าที่จอดรถเวลา 11:00 น. พอดี.. ^-^ สาธุ สาธุ

 

วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพ นะคะ
อากาศเปลี่ยนแปลง ..น้ำมันก็แพงด้วย ค่ะ


* สายลม 96 *

พบกันใหม่ นะคะ ..

 

<TABLE class=tborder id=post1263019 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 12:20 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#9 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>avatar_boy<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1263019", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 01:21 PM
วันที่สมัคร: Feb 2008
ข้อความ: 4
Groans: 0
Groaned at 2 Times in 2 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 17
ได้รับอนุโมทนา 57 ครั้ง ใน 25 โพส
พลังการให้คะแนน: 0


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1263019 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->2012 and beyond>>> This sharing, I cannot guaranteed about what really happen as I cant predict or see the future by myself yet! I dont want to cause any panic to others so please use your own judgement. I do believe some Thai has heard about this news.

• As a student, we have been warned about what is going to happen 20 years ago. Where the master said we need to learn to practice our mind so that we can cope with Earth Change in the year 2000 and beyond. At that time most student didnt really believe or worry or concern much about it, because most student was still in beginning level. What most student care is to learn the techniques and then solve his/her own dilemma problem in life.
• Then in 1989, the spiritual master kept talking about Earth Change once again. If the student cannot master and manipulate time, space or manifest any object out of thin air, so the student must learn how to prepare to survive the future Earth Change!
• Then in 2006, the master kept urging all of his student to be really prepared as from 2005 till to 2012, something would be happened such as natural disaster, financial crisis and food and water lack supplied.
• I dont know much what would happen in Asia but in America and Europe and Australia, the advice is to live higher ground and away from water, beach and lake. And to buy a land and living out of big city and grow their own food and vegetable. In the future the economic crisis might collaspe and the earth change rapidly so oils and money would be valueless. The most important thing is basic need such as FOOD and WATER are the most highest valued.
• So most student has been preapared for this event in the past 20 years. Most student could not live within society anyway so they live far away in mountain or remote area with nature and far away from BIG CITY. So most of them prepare dried food and store water to survive for at least 2 years during whatever crisis might happen. And also prepare the electricity as it might have no power because of Earth Changing. There would be no electricity supply for 12 days and night. Some even go further to create a BUNK underground to safe themselves in case of earthquake or worldwide problem.
• What we have been warned is...as the approach year 2012, the intensity of changing is very strong and if we as human being cannot control the force of nature then we need to prepare to protect ourselves. The force of nature is more powerful than human being unless we learn to become one with the nature.
• If we cant see the future or have any psychic yet then we have tolearn to observe ANIMAL such as ant and dog and fish and butterfly whether is there any STRANGE behavior of their life?? If So, it is a sign of something unusual might happen!
• Most student doesnt want to die in this lifetime as they know, if they leave this plant earth, they will forget all knowledge that they have been learning in this lifetime and they must reborn once again and re-learning. Some studnet doesnt care less as They learn to live in present moment and they prepare to die in each second. So even among student, there are many opinion and many debate among this topic. The best way is to follow your own intuition and take responsibility of your own life.
• What is the cause of Earth Change? There are many answer and I dodnt know exactly for sure which one but I can share some here. It is because the UNIVERSE itself is changing or EVOLVING! and planet Earth is the most slowest evolve in this solar system! So every time, the universe is changing, it effects every galaxy, dimension, star, solar system and planet.
• There are rumors said as from year 2012 and beyond, the vibration and energy of planest Earth is increasing to LOVE FREQUENCY. And the one who can survive is the one who choose love energy instead of fear energy. Do I really know excatly? Not so sure as I learn to live in present moment and if death come along then so be it and if not then its ok too. So the best advice is to learn to live in present moment without regret of the past or worry and concern about future and prepare yourself as best as you can.
• And most of all is your mind is to find peace from your own beliefe or religion by doing meditation and prayer or chanting or whatever method to hold your mind in peace and calm so that you can cope with any problem or uncertainty that might happen in future.
• I hope this information is helping to answer your curious question. Thanks!

<!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>

.................................................................................................
จากกระทู้ ชื่อ The Secrete of Ancient School : English Version
http://palungjit.org/showthread.php?p=1262747

น่าสนใจมากๆเลยทีเดียว อย่าลืมเข้าไปอ่านกันหละครับ<!-- / message --><!-- sig -->

 

พอดีเพิ่งนึกอะไรเกี่ยวกับตัวเลขขึ้นมาได้ เลยรีบมาโพสต์ไว้ก่อน
และอยากจะขอให้ผู้ที่มีความแม่นเกี่ยวกับพุทธประวัติช่วยเติมข้อมูลให้หน่อยนะครับ

เกี่ยวกับพระบรมศาสดาของเราหนะครับ

- ประสูตร ตรัสรู้ ปรินิพพาน 15 ค่ำ เดือน 6 = 15+6 / 15+6 / 15+6 = 21 / 21 / 21 = 3 / 3 / 3
- ตอนประสูตร เดินได้ 7 ก้าว
- พระราชบิดาทรงให้พราหม์ทั้ง 8 มาพยากรณ์ดวงชะตาพระโอรส?
- พราหมณ์โกณทัญญะเป็นคนที่ 8 ที่พยากรณ์ได้ถูกต้อง?
- พระพุทธมารดาสิ้นพระชนม์หลังประสูตร 7 วัน
- ออกบวชอายุเท่าไหร่นะ 29 พรรษา? => 2+9 = 11
- ใช้เวลากี่ปีนะ ถึงตรัสรู้ 6 ปี? และอายุตอนตรัสรู้คือ 35 พรรษา? => 3+5 = 8
- ตรัสรู้บนบัลลังหญ้าคา 8 กำ ?
- ตรัสรู้แล้วใช้เวลาทบทวนอยู่ 7 ปี 7 เดือน 7 วัน ก่อนจะมีปฐมเทศนาใช่หรือเปล่านะ
- ปฐมเทศนา 15 ค่ำเดือน 8 แก่ปัญจวัคคีทั้ง 5 ที่ป่าอิสิปตนมฤคธายวัน ?
- วันมาฆบูชา มีพระอรหันต์มาชุมนุมกันกี่รูปนะ 1250 รูป ? => 1+2+5+0 = 8
- ประกาศพระธรรม 84000 พระธรรมขันธ์? => 8+4 = 12 =11
- ทรงบัญญัติพระธรรมวินัยไว้ 227 ข้อ => 2+2+7 = 11
- ประดิษฐานพระศาสนาไว้ในกี่แคว้นนะ? 7 แคว้น ?
- ทรงมีอสีติมหาสาวกกี่รูปนะ 80? = 8
- ปรินิพพานตอนอายุ 80 พระชันษา? => 8+0 = 8
- หลังปรินิพพาน แคว้นต่างๆต้องตั้งพระสรีรอพระมหากัสปะเดินทางมาถึงกี่วันนะ 7 วัน?
- และพระบรมสารีริกธาตุ ถูกแบ่งออกเป็น 8 ทะนาน ?
- ศาสนาพุทธ ฟรั่งเรียกว่า Buddhism = 2+21+4+4+8+9+19+13 = 80 = 8

ยังมีเลขอะไรที่เกี่ยวข้องอีกหรือเปล่าเนี่ย? ช่วยคิดหน่อยนะครับ

 

ใช่ ๆ จ๊ะหลาน แต่นั่นนานมาแล้ว
แต่ล่าสุดปู่ได้เห็นมาอีกตามภาพถ่ายด้านล่างนี้

 

เหมือนดูภาพยนตร์เรื่อง Number 23
พระเอกจะเห็นอะไรเป็นเลข 23 ไปหมด มันจะค่อยๆเข้ามาในชีวิตเขามากขึ้นๆจนแทบจะเป็นบ้า ..หนังก็สนุกดีครับ เพื่อนๆลองไปหามาดูได้ แสดงโดย จิม แคร์รี่ (ที่แสดง the mast หน้ากากเทวดา นั่นแหละครับ)

มีแฟนๆหนังเรื่องนี้ลองเขียนดูว่ามีอะไรในโลกที่เกี่ยวกับ เลข 23 บ้าง ก็ออกมาดังนี้ครับ

1. พ่อและแม่ถ่ายทอดโครโมโซมคนละ 23 เส้นสู่ DNA ของลูก
2. ระยะเวลาที่เลือดไหลเวียนทั่วร่างกายเท่ากับ 23 วินาที
3. ในมนุษย์ โครโมโซมตัวที่ 23 เป็นตัวบ่งชี้เพศ
4. มีตัวอักษรทั้งหมด 23 ตัวในภาษาละติน
5. จูเลียส ซีซาร์ ถูกแทง 23 ครั้งจนเสียชีวิต
6. โลกหมุนรอบตัวเองใช้เวลา 23.56 ชั่วโมง ไม่ครบ 24 ชั่วโมงพอดี
7. กลุ่มอัศวินเทมเพลอร์ (อัศวินผู้พิทักษ์ศาสนาคริสต์) มีผู้นำทั้งหมด 23 คน
8. วิลเลี่ยม เช็คสเปียร์ เกิดเมื่อวันที่ 23 เมษายน 1564
9. วิลเลี่ยม เช็คสเปียร์ ตายวันที่ 23 เมษายน 1616
10. ปฏิทินอียิปต์และสุเมเรียนเริ่มต้นที่วันที่ 23 กรกฎาคม
11. เรือไททานิคจมลงสู้ก้นมหาสมุทรในเช้าวันที่ 15 เมษายน 1912 (4+1+5+1+9+1+2=23)
12. ชาวมายันเชื่อว่าโลกจะถึงกาลอวสานวันที่ 23 ธันวาคม 2012 (20+1+2=23)
13. ชื่อบริษัทภาพยนตร์ของ จิม แครี่ คือ JC23
14. จอห์น ดิลลิงเกอร์ ปล้นธนาคารทั้งหมด 26 แห่ง แต่ปล้นเอาเงินแค่ 23 แห่ง
15. ระยะทางจากใจกลางดาวอังคารถึงดวงจันทร์บรวารที่ใกล้ที่สุดเท่ากับ 23,500 กิโลเมตร
16. เหตุเครื่องบินระเบิดในเที่ยวบิน TWA 800 มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 230 คน
17. เคิร์ท โคเบน เกิดเมื่อปี 1967: 1+9+6+7=23
18. เคิร์ท โคเบน เสียชีวิตในปี 1994: 1+9+9+4=23
19. ภาพยนตร์เรื่อง The Number 23 เปิดกล้องเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2006
20. ตัวอักษรในชื่อของ โจเอล ชูมาคเกอร์ (Joel Schumacher) และ จิม แครี่ (Jim Carrey) บวกกันเท่ากับ 23
21. ตัวอักษรในชื่อของ เวอร์จิเนีย แมดเซ่น (Virginia Madsen) และ จิม แครี่ (Jim Carrey) บวกกันเท่ากับ 23
22. ชาร์ลส์ แมนสัน (อาชญากร, นักดนตรี) เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน (11+12=23)
23. ภาพยนตร์เรื่อง The Number 23 เข้าฉายในอเมริกาวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2007

ที่มา Official web site www.number23movie.com

 

8 = 8
06:11 = 0+6+1+1 = 8
188 = 1+8+8 = 17 = 1+7 = 8
818 = 8+1+8 = 17 = 1+7 = 8
8 = 8
888 = 24 = 2+4 = 6
8 = 8
08:18 = 0+8+1+8 = 17=1+7= 8
71 = 7+1 = 8
1376 = 1+3+6+7 = 17 = 1+7 = 8
8 = 8

ผลรวม เท่ากับ 8 จำนวน 10 ครั้ง = 80
ผลรวม เท่ากัย 6 จำนวน 1 ครั้ง = 6
80+6 = 86 = 8+6 = 14 (1111) :boo:

 

ขอเตือน ตัวเลข เห็นก็คือเห็น เห็นแล้วปล่อยวาง อย่าไปยึดติด อย่าไปยุ่งกับมัน เมื่อถึงเวลาทุกคนจะรู้เอง ไปจดจ่อกับมันมาก อาจมีโทษ

 

ช่าย...ตั้งแต่พี่สุดใจหยุดไป
พากันติดเลข งอมแงมเลย
ไม่รู้ใครเป็นตัวนำ เนอะ :d

 

ตอนนี้เห็นแต่เลข 24 ทั่วไปหมด (tm-love) บทเรียนที่ 24 ของใครเอ่ย
......

 

อิอิ เป็นเอามากเลยนิปู่

 

ได้ให้น้องสาวที่เมืองไทยโอนเงินให้คุณสุดใจ ๒๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการทำงานในการประสานงานเรื่องภัยพิบัติ ขอเชิญโมทนาโดยทั่วกันค่ะ

คุณสุดใจจะไม่รับเงินจากคนนอกระบบ จะรับเฉพาะคนในระบบเท่านั้น เพราะทางระบบบอกมาค่ะ (คุณสุดใจบอกอย่างตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม)

หมายเหตุ คุณสุดใจไม่มีการเรี่ยไรใดๆ ทั้งสิ้น ดิฉันเห็นว่าการทำงานตรงนี้ก็ต้องมีค่าใช้จ่าย จึงมีความตั้งใจที่จะช่วยตรงนี้ตามกำลังฐานะของดิฉันเป็นคราวๆ ไปค่ะ

 

ไฟไหม้คอนโดหรู 26 ชั้นหนีตายอลหม่านสังเวย 3 ศพ ! <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td bgcolor="#cccccc" height="1"></td></tr></tbody></table>
โดยผู้จัดการออนไลน์ 10 มิถุนายน 2551 8:10 น.

เกิดเหตุเพลิงไหม้คอนโดมีเนียมหรู สี่พระยารีเวอร์วิว ย่านถนนเจริญกรุง

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 31 ชั้น ปลูกติดกัน 2 อาคาร โดยที่เกิดเหตุมี 26 ชั้น สำหรับห้องต้นเพลิงคือห้องเลขที่ 2614 ชั้น 26

ลองสังเกตุดู นะึคะ เลข 8 , 11

เกิดเหตุ คอนโดสูง 26 ชั้น = 2+8 = 8 , ตาย 3 ศพ = 8+3= 11
ห้องเลขที่ 2614 = 2+6+1+4 = 13 (111)
ที่พักอาศัยสูง 31 ชั้น = 111
วันที่ 10 มิถุนายน 2551 = 10+6+2+5+5+1 = 29 = 2+9 11


http://palungjit.org/showthread.php?t=3906&page=442

​

 

เห็นไม่มีใครเข้าไปอ่านเลย ก็เลยแปลมาตื๊อให้อ่านซะเลย..แหะ แหะ
ผมว่ากระทู้เขาออกจะดีนะ..เป็นอีกแหล่งข่าวหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติ
จากแหล่งที่ไกลโพ้น และลึกลับ แต่มีข้อมูลตรงกันอย่างน่าประหลาด
แถมเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับความจริงของโลกและจักรวาล ก็ตรงกันทีเดียว
กับศาสตร์ที่พวกเรารู้จักกันดีอยู่แล้ว เช่น
- พุทธศาสนา
- Nova analai
- ศาสตร์แห่งพลังจักรวาลและพลังยูเรอัส
- ศาสตร์จากจิตจักรวาลของอาจารย์ปริญญา
- ศาสตร์แห่งพลังจิตใต้สำนึก
- ศาสตร์ของโยคีทั้งหลาย
ฯลฯ
อยากให้เข้าไปอ่านครับ เดี๋ยวใครไม่สันทัดภาษาอังกฤษผมจะทะยอยแปลออกมาให้อ่านเรื่อยๆครับ

http://palungjit.org/showthread.php?t=133683

ด้วยความรักและปราถนาดีจริงๆ ดอกเด้อ!!
...............................................................................................

2012 and beyond
ปี ค.ศ.2012 เป็นต้นไป

This sharing, I cannot guarantee about what really happen as I can’t predict or see the future by myself yet! I don’t want to cause any panic to others so please use your own judgment. I do believe some Thai has heard about this news.

ข้อมูลนี้ผมไม่สามารถรับรองได้ว่ามันจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เพราะผมยังไม่สามารถพยากรณ์หรือมองเห็นอนาคตได้ด้วยตัวเอง ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดความตื่นตระหนกแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณของท่านเอง ผมเชื่อว่าคนไทยบางคนอาจจะเคยได้ทราบข่าวนี้มาบ้างแล้ว

As a student, we have been warned about what is going to happen 20 years ago. Where the master said we need to learn to practice our mind so that we can cope with Earth Change in the year 2000 and beyond. At that time most students didn’t really believe or worry or concern much about it, because most students were still in beginning level. What most student care is to learn the techniques and then solve his/her own dilemma problem in life.

สมัยตอนยังเป็นนักเรียนอยู่ พวกเราเคยถูกเตือนว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ตอนที่ท่านอาจารย์ได้บอกพวกเราว่าพวกเราจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะฝึกจิตเพื่อให้สามารถรับมือกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ในปี 2000 และปีต่อๆไป ตอนนั้นพวกเราก็ยังไม่เชื่อหรือกังวลหรือใส่ใจกันจริงหรอก เพราะว่านักเรียนส่วนใหญ่ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น สิ่งที่นักเรียนส่วนใหญ่ห่วงมากที่สุดก็คือการเรียนรู้เทคนิคและวิธีการต่างๆเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาชีวิตที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของตัวเองให้ได้เท่านั้น

Then in 1989, the spiritual master kept talking about Earth Change once again. If the student cannot master and manipulate time, space or manifest any object out of thin air, so the student must learn how to prepare to survive the future Earth Change!

ต่อมาในปี ค.ศ.1989 ท่านอาจารย์ก็ได้บอกพวกเราเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของโลกอีกครั้ง ถ้านักเรียนยังไม่สามารถบงการและจัดการกับกาลเวลาและอวกาศ หรือเสกอะไรออกมาจากอากาศได้ ดังนั้นนักเรียนก็ต้องเรียนรู้ที่จะเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลก

Then in 2006, the master kept urging all of his student to be really prepared as from 2005 till to 2012, something would be happened such as natural disaster, financial crisis and food and water lack supplied.

ต่อมาในปี ค.ศ.2006 ท่านอาจารย์ก็ได้เร่งรัดนักเรียนทุกคนให้เตรียมตัวกันอย่างจริงๆจังๆ เพราะว่าตั้งแต่ปี 2005 จนถึงปี 2012 อาจจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นได้ เช่น ภัยธรรมชาติรุนแรง วิกฤติการด้านการเงิน อาหาร น้ำ และเครื่องอุปโภค-บริโภค

I don’t know much what would happen in Asia but in America and Europe and Australia, the advice is to live higher ground and away from water, beach and lake. And to buy a land and living out of big city and grow their own food and vegetable. In the future the economic crisis might collapse and the earth change rapidly so oils and money would be valueless. The most important thing is basic need such as FOOD and WATER are the most highest valued.

ผมไม่ค่อยรู้มากนักว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในแถบเอเชีย แต่ที่อเมริกา ยุโรปและออสเตรเลีย มีคำแนะนำว่าให้อยู่ในพื้นที่สูงๆ และอยู่ห่างๆน้ำ ชายหาด และทะเลสาบไว้ และให้ซื้อที่ดินที่จะอาศัยห่างๆเมืองใหญ่ๆไว้ และให้ปลูกพืชผักไว้กินเอง ในอนาคตภาวะเศรษฐกิจโลกอาจจะล่มสลาย และการเปลี่ยนแปลงของโลกอาจจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นน้ำมันและเงินทองก็จะไร้ค่า สิ่งที่สำคัญมากที่สุดและมีค่ามากที่สุดก็จะเป็นอาหารและน้ำเพื่อการดำรงชีวิต

So most student has been prepared for this event in the past 20 years. Most students could not live within society anyway so they live far away in mountain or remote area with nature and far away from BIG CITY. So most of them prepare dried food and store water to survive for at least 2 years during whatever crisis might happen. And also prepare the electricity as it might have no power because of Earth Changing. There would be no electricity supply for 12 days and night. Some even go further to create a BUNK underground to safe themselves in case of earthquake or worldwide problem.

ดังนั้นนักเรียนส่วนใหญ่จึงได้เตรียมการเพื่อการณ์นี้มาร่วม 20 ปีแล้ว นักเรียนส่วนใหญ่ที่ไม่สามารถอาศัยอยู่กับสังคมได้ ก็จะอาศัยอยู่ในที่ห่างออกไป เช่นบนภูเขา หรือในที่ไกลโพ้นอยู่กับธรรมชาติ และห่างจากเมืองใหญ่ ดังนั้นพวกเขาส่วนใหญ่ก็จะมีการเตรียมอาหารแห้งและเก็บน้ำดื่มเพื่อสำรองไว้ให้อยู่ได้อย่างน้อย 2 ปีระหว่างเหตุการณ์วิกฤติอะไรก็ตามแต่ที่อาจจะเกิดขึ้น บางคนก็ทำไปมากกว่านั้นคือสร้างที่หลบภัยใต้ดิน เพื่อความปลอดภัยหากเกิดแผ่นดินไหว หรือเกิดปัญหาในระดับโลกขึ้น

What we have been warned is...as the approach year 2012, the intensity of changing is very strong and if we as human being cannot control the force of nature then we need to prepare to protect ourselves. The force of nature is more powerful than human being unless we learn to become one with the nature.

สิ่งที่พวกเราถูกเตือนมาคือ..เมื่อใกล้ปี ค.ศ.2012 ความเข้มข้นของการเปลี่ยนแปลงจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และหากมนุษย์ไม่สามารถควบคุมพลังของธรรมชาติได้ ดังนั้นพวกเราก็ต้องเตรียมพร้อมที่จะปกป้องตัวเอง เพราะพลังของธรรมชาติมีมากกว่าพลังของมนุษย์ หากเราไม่รู้จักที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ

If we can’t see the future or have any psychic yet then we have to learn to observe ANIMAL such as ant and dog and fish and butterfly whether is there any STRANGE behavior of their life?? If So, it is a sign of something unusual might happen!

ถ้าพวกเรายังไม่สารมารถรู้อนาคตได้ หรือยังไม่มีพลังจิต ดังนั้นเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะสังเกตพฤติกรรมของสัตว์ต่างๆ เช่น มด สุนัข ปลา และผีเสื้อเอาไว้ ว่าพวกมันมีพฤติกรรมที่แปลกไปหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็แสดงว่าอาจจะมีสิ่งที่ไม่ปกติกำลังจะเกิดขึ้น

Most student doesn’t want to die in this lifetime as they know, if they leave this plant earth, they will forget all knowledge that they have been learning in this lifetime and they must reborn once again and re-learning. Some student doesn’t care less as they learn to live in present moment and they prepare to die in each second. So even among student, there are many opinions and many debates among this topic. The best way is to follow your own intuition and take responsibility of your own life.

นักเรียนส่วนใหญ่ยังไม่อยากตายในชาตินี้ เพราะพวกเขารู้ว่าถ้าตายไปตอนนี้สิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ไปทั้งหมดบนโลกใบนี้ พวกเขาก็จะลืมมันไปจนหมดสิ้น และพวกเขาต้องเกิดใหม่แล้วเริ่มต้นเรียนรู้ใหม่อีกครั้ง นักเรียนบางคนก็ไม่ประมาทในความตาย เพราะพวกเขาได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับ”ปัจจุบัน”แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงเตรียมพร้อมที่จะตายอยู่ทุกๆวินาที ดังนั้นแม้แต่ในบรรดานักเรียนด้วยกันเองยังมีความแตกต่างในความคิดเห็นและมีการถกเถียงกันเกี่ยวกับประเด็นนี้อย่างมากมาย ทางที่ดีที่สุดคือทำตามสัญชาตญาณของตัวเองและดูแลรับผิดชอบชีวิตของตัวเองเอาเอง

What is the cause of Earth Change? There are many answers and I don’t know exactly for sure which one but I can share some here. It is because the UNIVERSE itself is changing or EVOLVING! and planet Earth is the most slowest evolve in this solar system! So every time, the universe is changing, it effects every galaxy, dimension, star, solar system and planet.

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้โลกเปลี่ยน มันมีหลายคำตอบ ผมก็ไม่รู้จริงๆว่ามันคืออะไร แต่พอจะบอกได้บ้างบางสาเหตุว่า เพราะว่าเอกภพเองก็มีการเปลี่ยนแปลง และโลกซึ่งเป็นดวงดาวที่มีวิวัฒนาการต่ำที่สุดในระบบสุริยจักรวาลนี้ ก็ต้องได้รับผลกระทบไปด้วยเป็นธรรมดา เพราะผลกระทบมันเกิดขึ้นอย่างทั่วถึงกันหมดทั้งต่อทุกๆกาแล็กซี่ ทุกๆมิติ ทุกๆดวงดาว ทุกๆระบบสุริยจักรวาล และทุกๆดาวเคราะห์ด้วย

There are rumors said as from year 2012 and beyond, the vibration and energy of planets Earth is increasing to LOVE FREQUENCY. And the one who can survive is the one who choose love energy instead of fear energy. Do I really know exactly? Not so sure as I learn to live in present moment and if death come along then so be it and if not then its ok too. So the best advice is to learn to live in present moment without regret of the past or worry and concern about future and prepare yourself as best as you can.

มีคำกล่าวเล่นๆอยู่ว่า “ตั้งแต่ปี ค.ศ.2012 เป็นต้นไป คลื่นความถี่ของการสั่นสะเทือนและพลังงานของดาวเคราะห์โลกจะเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ”คลื่นความถี่แห่งความรัก”ดังนั้นผู้ที่จะรอดชีวิตอยู่ได้คือผู้ที่เลือกเอาพลังงานความรัก แทนพลังงานแห่งความกลัว ถ้าถามว่าผมรู้จริงหรือเปล่า ก็คงตอบว่าไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่เพราะผมได้เรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่อย่างมีสติอยู่กับปัจจุบันขณะมาแล้ว ถ้าความตายมันจะมาถึง ก็คงต้องให้มันเป็นไป ไม่เป็นไร แต่ถ้ามันไม่ตาย ก็ OK เช่นกัน

ดังนั้น คำแนะนำที่ดีที่สุดคือการมีชีวิตอยู่อย่างมีสติอยู่กับปัจจุบันขณะ โดยปราศจากการหวลนึกเสียใจกับอดีตที่ผ่านไปแล้ว หรือกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง และเตรียมตัวเองให้พร้อมที่สุดเท่าที่จะทำได้

And most of all is your mind is to find peace from your own believe or religion by doing meditation and prayer or chanting or whatever method to hold your mind in peace and calm so that you can cope with any problem or uncertainty that might happen in future.

ทั้งหมดทั้งสิ้น มันอยู่ที่ใจของคุณเอง ที่จะค้นหาความสงบสุขจากความเชื่อและศาสนาของคุณ ด้วยการทำสมาธิ สวดอ้อนวอน หรือสวดมนต์ หรือวิธีการใดก็ตามแต่ที่จะทำให้ใจคุณสงบเยือกเย็นได้ แล้วคุณจะสามารถรับมือกับทุกๆปัญหาหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

I hope this information is helping to answer your curious question. Thanks!

ผมหวังว่าข้อมูลนี้ คงจะช่วยไขข้อข้องใจของคุณได้บ้าง....ขอบคุณครับ

 

ตกลงงวดนี้ออกเลขอะไรครับ?

 

พอดีวันนี้(10 มิ.ย. 51)ผมมีโอกาสได้โทรคุยกับพี่สุดใจ และได้เล่าให้พี่สุดใจฟังว่าคุณDigital ลงมาโพสต์ว่าได้โอนเงินให้พี่สุดใจเพื่อร่วมช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายในการทำงานเพื่อประสานงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติ พี่สุดใจจึงลองไปเช็คยอดในบัญชีดู ปรากฏว่าเงินเข้ามาบัญชีมาแล้วจริงๆ พี่สุดใจจึงฝากให้ผมช่วยมาโพสต์เพื่อเป็นการอนุโมทนาบุญกับคุณDigital นะครับ และตัวผมเองก็ขออนุโมทนากับคุณDigital ด้วยครับ

<O</Oไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ผมจึงขอเล่าให้ฟังเรื่องการดำรงชีวิตของคนในกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ให้ฟังสักเล็กน้อยนะครับ เพราะหลายท่านก็คงจะสงสัยว่าเห็นพูดคุยกันแต่เรื่องฝึก เรื่องประสานงาน แล้วเอาเงินทองที่ไหนกินที่ไหนใช้ หรือว่าร่ำรวยมีสมบัติจากเจ้าคุณปู่กันหรืออย่างไรถึงได้ไม่เดือดร้อน และคำถามนี้ก็มีเพื่อนๆ สมาชิกเคยโพสต์มาถามผมไปแล้วตั้งแต่ตอนที่ผมเล่าเรื่องการฝึกให้ฟังใหม่ๆ

<O</Oก็ตรงไปตรงมาครับไม่อ้อมค้อม คือช่วง 10 ปีที่แล้วตอนที่ผมรู้จักเขากะลาใหม่ๆ ค่าใช้จ่ายในการต้อนรับแขกผู้ที่ไปเยี่ยมเยียนบนเขากะลา ซึ่งส่วนใหญ่หลายท่านก็จะพักค้างแรมกันที่บนเขาในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ค่าน้ำชากาแฟ มาม่าอาหาร ส่วนใหญ่ครอบครัวของพี่สุดใจเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย เพราะว่าตอนนั้นครอบครัวของพี่สุดใจทุกคนยังทำงานกันหมด รวมถึงค่าไฟฟ้าบนเขากะลาซึ่งสมัยนั้นอย่างน้อยที่เห็นๆ ก็สปอร์ตไลท์ระดับพันวัตต์ดวงนึงละครับ แต่ผู้ที่ไปบนเขาแบบขาประจำก็จะมีร่วมออกค่าใช้จ่ายบ้าง

<O</Oพอมาช่วงที่ต้องออกจากงานเพื่อรับการฝึกตามรายละเอียดที่ผมเคยเล่าให้ฟังแล้วนั้น (เริ่มเล่าตั้งแต่โพสต์ที่ #318 อยู่ท้ายๆ ของหน้าที่ 16 ในกระทู้นี้) ช่วงนี้ก็กินบุญเก่ากันครับ คือใครมีเงินเก็บไว้เท่าไรก็มารวบรวมเป็นกองกลางไว้เป็นค่าอาหารและค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งจะว่ากันจริงๆ แล้ว ไม่พอหรอกครับ ช่วงปลายๆ ของการฝึกหลายคนบัตรเครดิตที่มีติดตัวไปก็เต็มวงเงินหมด

<O</Oส่วนในช่วงหลังมาจนถึงปัจจุบัน คนในกลุ่มที่เหลืออยู่ไม่กี่คน คนที่มีงานทำอยู่ก็จะแบ่งสรรเงินมาช่วยเหลือเป็นกองกลางตามสมควร เพื่อเป็นค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงค่าเดินทางสำหรับผู้ที่ยังต้องฝึกอยู่อย่างต่อเนื่องไปด้วย ทำงานประสานงานและเผยแพร่ข้อมูลกับกลุ่มต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติไปด้วย และตามที่คุณDigital กล่าวว่า “คุณสุดใจจะไม่รับเงินจากคนนอกระบบ จะรับเฉพาะคนในระบบเท่านั้น” ตรงนี้ผมต้องขออนุญาตขยายความเพื่อทำความเข้าใจนะครับว่า ใช่ว่าจะบอกว่าใครเป็นคนระบบด้วยกันก็จะมาร่วมอนุเคราะห์ได้ หรือพี่สุดใจจะสามารถรับไว้ได้แม้จะใช้คำว่า “กองกลาง” ก็ตาม ทั้งนี้เพราะมีเหตุผลสำคัญชนิดคอขาดบาดตายก็คือไม่ให้เห็นว่า กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ทำงานเพื่อหวังผลประโยชน์หรือลาภสักการะในขณะที่รูปธรรมยังไม่ปรากฏ ซึ่งจะเสี่ยงต่อการถูกมองว่าเป็นกลุ่มที่เหลวไหล ขาดความน่าเชื่อถือ แล้วเมื่อถึงเวลาที่จะต้องประสานงาน(กับมนุษย์ต่างดาว)เพื่อการเตือนภัยจริงๆ แล้ว ใครจะเชื่อ และอีกประการหนึ่งคือคนระบบผู้ที่มีความประสงค์จะอนุเคราะห์นั้น หากยังมีความลังเลสงสัยเคลือบแคลงในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ที่พี่สุดใจได้โพสต์ไว้ทั้งหมดในกระทู้นี้แล้ว ระบบก็จะแจ้งกับพี่สุดใจให้ปฏิเสธทันทีที่คนระบบท่านนั้นๆ พูดคำว่าจะขอบริจาคจบลง

<O</Oส่วนกรณีของคุณDigitalนั้น ในส่วนตัวผมเห็นว่าคงมีความมุ่งมั่นในการให้ความสนใจ ซึ่งในช่วงแรกที่คุณDigital รู้จักกับกลุ่มฯ และได้กรุณาโทรศัพท์มาจากอเมริกาเพื่อพูดคุยกับพี่สุดใจ และผมแล้ว คุณDigital ได้อ่านข้อมูลที่พี่สุดใจโพสต์ไว้ในกระทู้นี้ตั้งแต่ต้นจนจบถึงปัจจุบันด้วยความตั้งใจและเข้าใจ และยังได้พบเห็นสิ่งต่างๆ ที่มาปรากฏให้เห็นด้วยตาของตนเองเป็นเครื่องยืนยันอีกด้วย ระบบจึงอนุญาตให้พี่สุดใจรับการอนุเคราะห์จากคุณDigital ในครั้งนี้ได้ ผมก็ขออนุโมทนาบุญด้วยอีกครั้งนะครับ<O</O

 

[FONT=&quot]นับแต่วันที่ซื้อโทรศัพท์ รุ่น N95 [FONT=&quot]เป็นครั้งแรกที่ เริ่มมีการถ่ายรูปสถานที่ต่างๆ เก็บไว้ในเครื่อง[/FONT][FONT=&quot]ซึ่งแต่เดิมนั้น ไม่ค่อยชอบเก็บภาพ นอกจากจะถ่ายจากกล้อง[/FONT][FONT=&quot]ดิจิตอลไปเลยค่ะ..[/FONT][FONT=&quot]มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนนับครั้งไม่ถ้วนซึ่งเกิดจากการถ่้ายภาพที่เก็บไว้ในเครื่อง[/FONT][FONT=&quot]ถ้าหากจะเล่าย้อนหลัง ก็คงต้องลำดับเรื่องราวเยอะมากๆ ค่ะ[/FONT][FONT=&quot]จึงขอเล่าเริ่มต้น[/FONT][FONT=&quot]ตั้งแต่วันที่ [/FONT]6 [FONT=&quot]มิถุนายน [/FONT]2551[FONT=&quot]กำลังจะเดินทางไปทำงาน หลังจากขึ้นรถเตรียมตัวถอยรถออกจากบ้าน นึกได้ว่า[/FONT][FONT=&quot]ลืมโทรศัพท์ไว้ที่หัวเตียง เลยต้องจอดรถ และ ขึ้นไปนำโทรศัพท์ลงมา[/FONT][FONT=&quot]กำลังขึ้นรถก็หันไปเจอน้ำตกที่มีรูปปั้น พระแม่ธรณี[/FONT][FONT=&quot]เลยนึกอยากถ่้ายรูปเก็บไว้.. ซึ่งน้ำตกที่มีพระแม่ธรณี นั้น[/FONT][FONT=&quot]ตั้งอยู่ที่บ้านนานแล้ว และไม่เคยถ่ายรูปเก็บไว้เลย ค่ะ แต่วันนั้น[/FONT][FONT=&quot]ยังไงไม่ทราบ ทำให้ต้องถ่ายภาพ นั้น ไปหลายหลายภาพ แต่ภาพสุดท้ายนั้น[/FONT][FONT=&quot]จะถ่ายใกล้มาก ๆๆ ค่ะ เรียกว่า ชัดที่สุด .[/FONT][FONT=&quot]หลังจากนั้นเดินทางไปทำงานตามปกติ..[/FONT]
[FONT=&quot]เช้่าวันที่ [/FONT]7 [FONT=&quot]มิถุนายน[/FONT][FONT=&quot]เสียงนาฬิกาจากโทรศัพท์มือถือปลุกให้ตื่น เวลา [/FONT]05:42 [FONT=&quot]ทั้งๆ ที่ เวลาปกติที่ตั้งไว้คือ[/FONT]05:30
[FONT=&quot]พอเสียงปลุกดังขึ้น[/FONT][FONT=&quot]ลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์เพื่อที่จะกดยกเลิกการปลุก[/FONT][FONT=&quot]แต่สิ่งที่เห็นหน้าจอโทรศัพท์ ณ เวลานั้น คือ ภาพถ่ายของพระแม่ธรณี[/FONT][FONT=&quot]ภาพล่าสด ที่ได้มีการถ่ายไปเมื่อวานนี้ ท่านที่เคยใช้โทรศัพท์มือถือ[/FONT][FONT=&quot]ถ่ายภาพ คงจะทราบใช่มั้ย ภาพที่ถ่ายไปแล้ว จะถูกเก็บในคลังภาพของโทรศัพท์[/FONT][FONT=&quot]ถ้าต้องการจะเรียกดู ก็ต้องมีการเปิดไฟล์คลังภาพ หรือ ต้องเรียกดู[/FONT][FONT=&quot]นั้นต้องทำตามขั้นตอนของระบบโทรศัพท์ เสียก่อน จึงจะดูภาพที่ต้องการดูได้ แต่ภาพ เกิดขึ้นเอง นะคะ โดยที่ยังไมได้เข้าไปเปิดดูเลยค่ะ [/FONT][FONT=&quot]ภาพที่ปรากฎนั้น[/FONT][FONT=&quot]เป็นภาพพระแม่ธรณี[/FONT][FONT=&quot]ที่เถ่ายภาพไปแล้ว[/FONT][FONT=&quot]เป็นภาพที่ [/FONT]72/72 [FONT=&quot]ขนาดของภาพ [/FONT]1149KB 09:58:16 [FONT=&quot]ซึ่้งเป็นวันเดียวกับที่ [/FONT]Little Duck [FONT=&quot]ไปเช่าพระพุทธรูป[/FONT][FONT=&quot]ตามที่ได้บอกไปแล้วในกระทู้[/FONT] # 1683
[FONT=&quot]เช้่่าวันที่ [/FONT]8 [FONT=&quot]มิถุนายน[/FONT][FONT=&quot]เป็นวันหยุด พักผ่อน ตามปกติ..วันนั้น ไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ[/FONT]
[FONT=&quot]เช้าวันที่ [/FONT]9 [FONT=&quot]มิถุนายน[/FONT][FONT=&quot]เสียงปลุกจากโทรศัพท์มืิอถือ[/FONT][FONT=&quot]เช่นเคย ปกติจะตั้งปลุกเวลา [/FONT]05:30 [FONT=&quot]เพื่อที่จะตื่นมาทำกิจวัตรประจำวัน[/FONT][FONT=&quot]แต่ช่วงที่ได้ยินเสียงปลุกนั้นเป็นเวลา ตามที่เห็นคือเวลา [/FONT]05:36 [FONT=&quot]พอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ภาพของพระแม่ธรณี รูปเดิม มาปลุกค่่ะ[/FONT]
[FONT=&quot]พร้อมทั้งโชว์ภาพที่ปรากฎนั้น เป็นภาพที่ [/FONT]72/72 [FONT=&quot]ขนาดของภาพ [/FONT]1149KB 09:58:16 [FONT=&quot]ซึ่งไม่น่าจะเป็นภาพค้างได้ค่ะ เพราะว่า[/FONT][FONT=&quot]ตลอดวัันอาทิตย์ที่[/FONT] 8 [FONT=&quot]ยังมีการใช้โทรศัพท์ ตามปกติ ซึ่งไม่น่าที่จะเป็นเหตุ ให้โทรศัพท์ ค้่าง[/FONT][FONT=&quot]หรือ รูปภาพค้างอยู่ ..[/FONT][FONT=&quot]หลังจากที่ปฏิบัติภารกิจประจำวันในช่วงเช้า[/FONT][FONT=&quot]เรียบร้อยแล้ว[/FONT][FONT=&quot]เดินทางมาทำงานปกติค่ะ[/FONT][FONT=&quot]พอถึงที่ทำงานรับบัตร จอดรถหมายเลข [/FONT]199 [FONT=&quot]พอเข้า สนง[/FONT][FONT=&quot]เห็นป้ายประกาศติดไว้ว่า เพลิงไหม้แจ้ง [/FONT]199 [FONT=&quot]ทำท่าจะหลุดออกจากบอร์ดที่ติด[/FONT][FONT=&quot]ก็เลยต้องนำป้ายนั้น ไปติดใหม่ค่ะ .. สักพัก[/FONT][FONT=&quot]มีลูกค้าคนหนึ่งที่อยู่ต่างประเทศ มาทักทาย ลูกค้าคนนี้ พักอยู่ห้องเลขที่[/FONT] A91 [FONT=&quot]ปกติ ลูกค้าคนนี้่ จะมาเมื่องไทย ปีละครั้ง ลูกค้่าบอกว่า "[/FONT][FONT=&quot]ผมมีของฝากจากสวีเดนมาให้ พร้อมทั้งโชว์เสื้อกีฬา สีน้ำเงิน[/FONT][FONT=&quot]ลักษณะเหมือนเสื้อนักฟุตบอล ยี่ห้อ [/FONT]UMBRO [FONT=&quot]พร้อม โลโก้ พิมพ์ติดที่หน้าอก[/FONT][FONT=&quot]ด้านขวา อักษร และสัญลักษณืของทีมฟุตบอล พิมติดที่หน้าอกด้านซ้ายมือ[/FONT][FONT=&quot]อักษรย่อว่า [/FONT]SVFF [FONT=&quot]ล้อมด้วยโลโก้ ค่ะ พิมพ์หมา่ยเลข [/FONT]10 [FONT=&quot]ด้านหลัง พร้อมทั้ง[/FONT][FONT=&quot]พิมพ์ชื่อจริงของ [/FONT]Little Duck [FONT=&quot]อยู่ด้านหลังเสื้อ มาด้วย ค่ะ[/FONT][FONT=&quot]ตัวอักษีเป็นสีเหลืองบริเวณรอบคอ และ แขน แถบสีเหลืองค่ะ.. ลูกค้าบอกว่า[/FONT] "[FONT=&quot]เสื้อตัวนี้ เป็นเสื้อจริง นะ ไม่ใช่เสื้อปลอม" และยังย้ำด้วยว่า[/FONT][FONT=&quot]เป็นเสื้อจริง อย่าเอาไปทิ้งนะ ถ้าไม่ใส่ให้เก็บไว้ ห้ามทิ้งนะ..[/FONT]
[FONT=&quot]ปกติลูกค้าคนนี้ ไม่ได้คุ้นเึคยกัน ซักเท่าไหร่ แต่ก็ ขอบคุณเค้า น่ะค่ะ..[/FONT][/FONT] <!--[if gte vml 1]><v:shapetype id="_x0000_t75" coordsize="21600,21600" o:spt="75" oreferrelative="t" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" filled="f" stroked="f"> <v:stroke joinstyle="miter"/> <v:formulas> <v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"/> <v:f eqn="sum @0 1 0"/> <v:f eqn="sum 0 0 @1"/> <v:f eqn="prod @2 1 2"/> <v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"/> <v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"/> <v:f eqn="sum @0 0 1"/> <v:f eqn="prod @6 1 2"/> <v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"/> <v:f eqn="sum @8 21600 0"/> <v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"/> <v:f eqn="sum @10 21600 0"/> </v:formulas> <vath o:extrusionok="f" gradientshapeok="t" o:connecttype="rect"/> <o:lock v:ext="edit" aspectratio="t"/> </v:shapetype><v:shape id="pi_31" o:spid="_x0000_i1025" type="#_x0000_t75" alt="Icon 06" style='width:16.5pt;height:15.75pt'> <v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\KHUNRO~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif" o:href="http://palungjit.org/images/icons/icon_06.gif"/> </v:shape><![endif]--><!--[if !vml]--><!--[endif]-->