เสียงธรรม ทางสายเอก / หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช

ในห้อง 'ธรรมเทศนาทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 4 กรกฎาคม 2017.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    นิโรธ 5 :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 3 เม.ย. 2565

    Dhamma.com
    50,379 views Streamed live on Apr 2, 2022

    นิโรธ 5 :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 3 เม.ย. 2565

    ความดับทุกข์เขาเรียกตัวนิโรธ มี 5 ระดับ เป็นความดับด้วยสมถกรรมฐาน ดับด้วยวิปัสสนากรรมฐาน ดับด้วยอริยมรรค ดับด้วยอริยผล แล้วก็นิพพาน สมถกรรมฐานดับตัวนิวรณ์ นิวรณ์เป็นตัวกั้นความเจริญทางจิตใจของเรา จิตมันทรงสมาธิขึ้นมา ก็ข่มนิวรณ์ไว้ชั่วคราว วิปัสสนาต้องเห็นไตรลักษณ์ เราเห็นไตรลักษณ์ของรูปของนามไปอย่างนี้ มันก็จะดับความเห็นผิด วิปัสสนามันสร้างให้เกิดตัวปัญญา พอเราเจริญวิปัสสนามากๆ ในที่สุดจิตมีกำลังขึ้นมา เกิดอริยมรรคขึ้นมา มันเกิดเองเมื่อศีล สมาธิ ปัญญาของเราสมบูรณ์ อริยมรรคมันขึ้นมาเพื่อดับกิเลส ถ้าล้างด้วยอริยมรรคจะล้างเด็ดขาด ไม่กลับมาอีกแล้วกิเลสตัวนั้น ละสังโยชน์ 3 ตัว สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส ตัวที่สี่คืออริยผล อริยผลไม่มีการดับอะไรแล้ว มันดับที่ตัวมรรค อันนี้ตรงที่ดับคือการไม่เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่ามันมีขึ้นมาแล้วไปดับมัน มันไม่มีงานอะไรต้องทำ แล้วนิโรธตัวที่ห้าจริงๆ คือนิพพาน จิตที่เราเข้าไปสัมผัส เข้าไปทรงพระนิพพาน มันดับ มันดับความไม่รู้ ความไม่เข้าใจอริยสัจ คือดับอวิชชา ดับตัณหา ดับอุปาทาน ดับภพ ดับชาติ ดับทุกข์ไป สิ่งเหล่านี้เดี๋ยวพวกเราก็เจอ ตอนนี้เรียน 2 ตัวแรกให้แตกฉาน
    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 3 เมษายน 2565
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แสดงธรรม ณ วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ ... 30 มิ.ย. 2557

    Dhamma.com
    54,227 views Jul 24, 2014
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    ภาวนาตั้งแต่ตื่นจนหลับ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 15 ม.ค. 2565

    Dhamma.com
    96,869 views Streamed live on Jan 14, 2022
    ภาวนาตั้งแต่ตื่นจนหลับ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 15 ม.ค. 2565

    - ถ้าเราแทรกการปฏิบัติเข้าไปในการดำรงชีวิตได้ การภาวนาของเราเยอะแยะเลยวันๆ หนึ่ง คำว่าไม่มีเวลาภาวนาจะไม่มีหรอก หลวงปู่ดูลย์ท่านเคยบอก “ถ้ามีเวลาหายใจ ก็มีเวลาปฏิบัติ” ถ้าไม่ได้หายใจแล้ว ตายไปแล้วก็ไม่ได้ปฏิบัติ ที่บอกว่าไม่มีเวลาปฏิบัตินั่นมันข้ออ้าง ถ้าเรารวมการปฏิบัติเข้ากับการใช้ชีวิตจริงได้ เรามีเวลาตลอดเลย ตั้งแต่ตื่นนอนภาวนาไปเรื่อย จนกลับมาบ้าน นั่งสมาธิ เดินจงกรม อย่าเอาแต่หลงโลก ถึงเวลานอนก็นอนอยู่ในสมาธิ หายใจเข้าพุธ หายใจออกโธอะไรก็ได้ ดูร่างกายมันนอน ดูร่างกายมันหายใจ ใจเราเป็นคนดูสบายๆ ไปเรื่อยๆ ฝึกตัวเองทุกวันๆ จนมันชำนิชำนาญ สติเมื่อชำนาญอัตโนมัติ สมาธิก็ชำนาญ จะใช้สมาธิเพื่อกิจการอะไรก็ใช้ได้ รู้สึกอย่างนี้เรื่อยๆ เราจะไม่บ่นหรอกว่าเราไม่มีเวลาภาวนา พวกที่บ่นว่าไม่มีเวลาภาวนาคือพวกไม่ภาวนา
    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 15 มกราคม 2565
     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    ศีล สมาธิ ปัญญาอัตโนมัติ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 27 มี.ค. 2565

    Dhamma.com
    47,547 views Streamed live on Mar 26, 2022
    ศีล สมาธิ ปัญญาอัตโนมัติ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 27 มี.ค. 2565

    การที่เรามีสติแล้วรู้ แล้วรู้สภาวะไปเรื่อยๆ สติก็จะแหลมคมขึ้น สมาธิที่ถูกต้องก็จะดีขึ้น ปัญญาก็จะเกิดขึ้น สุดท้ายศีล สมาธิ ปัญญา จะประชุมลงในขณะจิตเดียวกัน มันรวมลงในที่เดียวกันได้ ในขณะเดียวกันได้ ด้วยวิธีที่หลวงพ่อบอกนั่นล่ะ รู้สภาวะ การที่เรารู้สภาวะ ศีลมันเกิดอัตโนมัติแล้ว ความตั้งมั่นเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติแล้ว ทำซ้ำๆ ต่อไปปัญญาอัตโนมัติมันก็เกิด จะเห็นทุกสิ่งที่เกิดดับทั้งสิ้น สิ่งทั้งหลายเกิดจากเหตุ ถ้าเหตุดับ สิ่งนั้นก็ดับ อันนี้เห็นอนัตตา เห็นอนิจจัง ตรงนี้เราได้เดินปัญญาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการที่เรามีสติ ภาวนาไปเรื่อยๆ ศีล สมาธิ ปัญญา มันจะสมบูรณ์ในขณะเดียวกันๆ พร้อมๆ กัน ตรงที่ศีล สมาธิ ปัญญาอัตโนมัติเกิดขึ้นในขณะเดียวกัน ถ้าบุญบารมีมากพอ สะสมมามากพอ อริยมรรคจะเกิดขึ้น เพราะในอริยมรรคมีศีลอัตโนมัติ สมาธิอัตโนมัติ ปัญญาอัตโนมัติอยู่ มันเกิดพร้อมกันในขณะจิตเดียวกัน เพราะฉะนั้นฝึกทุกวันๆ ต้องทำให้ต่อเนื่อง จิตจะได้ทรงสมาธิที่ดีขึ้นมา สามารถเดินปัญญาได้ สุดท้ายศีล สมาธิ ปัญญาก็ประชุมลงที่จิตดวงเดียว ในขณะจิตเดียว มันคือขณะแห่งอริยมรรค
    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 27 มีนาคม 2565
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    [รีรัน] 15 พ.ค. 2565 ไลฟ์สดหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช

    Dhamma.com
    38,770 views Streamed live on May 14, 2022
     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    "ภพก็คือความดิ้นรนปรุงแต่งของจิต พอจิตมันดิ้นรนปรุงแต่ง จิตก็จะหยิบฉวยตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจขึ้นมา ก็เกิดชาติ เกิดทุกข์ขึ้นมา ท่านเริ่มดู สาวไปเรื่อย ๆ ทำไมมีทุกข์ มีทุกข์เพราะมันเกิดขึ้นมา ทำไมมันเกิดขึ้นมา เพราะว่ามันมีภพ ภพคือที่เกิดของจิต ก็คือความดิ้นรน ความปรุงแต่งของจิตนั่นล่ะ ที่จริงภพมี 2 อัน มีอุปัตติภพกับกรรมภพ อุปัตติภพ ก็คือภพใหญ่ ๆ เรียกว่าภพใหญ่ อย่างพวกเรานี้มีอุปัตติภพ ภพโดยการเกิดเป็นมนุษย์ แต่กรรมภพของเราเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวใจของเราก็เป็นมนุษย์ มีศีลมีธรรม เดี๋ยวใจของเราก็เป็นเทวดา มีคุณงามความดี เดี๋ยวใจเราสงบมากก็เป็นพรหม เดี๋ยวใจเราก็โลภมาก เราก็เป็นเปรต เราเวียนว่ายตายเกิดในภพสั้น ๆ โบราณเรียกว่าภพน้อย มีภพน้อยภพใหญ่ ภพใหญ่ก็คือภพที่อาศัยการเกิดจริง ๆ อุปัตติภพ ภพย่อย ๆ คือภพน้อย วันหนึ่งมีตั้งไม่รู้กี่ร้อยกี่พันภพหมุนอยู่ในใจเรา เดี๋ยวก็สุข เดี๋ยวก็ทุกข์ ตอนที่ทุกข์ จมอยู่ในความทุกข์ เราก็ตกเป็นสัตว์นรกอยู่ บางทีก็เป็นเปรต เป็นอสุรกาย บางทีก็เผลอ ๆ เพลิน ๆ เราก็ไปเป็นเดรัจฉาน กายเราเป็นมนุษย์แต่ใจเราเป็นเดรัจฉาน ภพมันมี 2 อัน"
    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม
    15 พฤษภาคม 2565
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    กฎของการดูจิต 3 ข้อ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 24 เม.ย. 2565

    Dhamma.com
    37,728 views Streamed live on Apr 23, 2022
    กฎของการดูจิต 3 ข้อ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 24 เม.ย. 2565


    ข้อที่หนึ่ง อย่าอยากรู้แล้วเที่ยวแสวงหาว่าตอนนี้จิตเป็นอย่างไร ให้ความรู้สึกเกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยรู้ว่ามันรู้สึกอะไร
    ข้อที่สอง ระหว่างรู้ อย่าถลำลงไปรู้ จิตต้องเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน จิตผู้รู้ก็ต้องอาศัยการฝึกอย่างที่ว่า ทำกรรมฐานสักอย่างหนึ่ง แล้วรู้ทันจิตที่มันหลงไปไหลไป กฎข้อที่สามของการดูจิตก็คือ อย่าเข้าไปแทรกแซงสภาวะ ความสุขเกิด ไม่ต้องไปหลงยินดีมัน ถ้าหลงยินดีให้รู้ทัน ความทุกข์เกิด ไม่ต้องไปยินร้าย ถ้ายินร้ายเกิด ให้รู้ทัน จิตมันจะเป็นกลาง ตั้งมั่น มันมาในขั้นที่สอง ต้องตั้งมั่นแล้ว
    ขั้นที่สาม รู้ซื่อๆ คือขั้นของความเป็นกลาง เพราะฉะนั้นเวลาสภาวะใดๆ เกิดขึ้น แล้วจิตยินดีให้รู้ทัน จิตยินร้ายให้รู้ทัน จิตก็จะเป็นกลางต่อสภาวะทั้งหลายทั้งปวง เพราะฉะนั้นหลวงพ่อถึงสรุปการปฏิบัติเอาไว้ในประโยคสั้นๆ “ให้เรามีสติรู้กายรู้ใจตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง”

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม
    24 เมษายน 2565
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช • บ้านจิตสบาย 621103

    บ้านจิตสบาย
    Dec 24, 2019
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    บวชใจให้ได้ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 8 พ.ค. 2565

    Dhamma.com
    55,437 views Streamed live on May 7, 2022

    บวชใจให้ได้ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 8 พ.ค. 2565
    ถ้าเราไม่มีโอกาสจะบวช อาจจะเพราะว่าไม่พร้อมที่จะบวช มีภารกิจทางโลก ยังบวชไม่ได้ หรือไม่มีภารกิจ แต่ยังหาที่บวชด้วยความเต็มใจไม่ได้ ไม่สบายใจที่จะบวช หาไม่ได้ทำอย่างไร อย่างผู้หญิงจะไปบวชภิกษุณี มันก็ไม่มีจริง ไปบวชชีแต่ละวัด เขาก็ขยาด หาที่อยู่ยาก มันมีเงื่อนไขที่เราบวชไม่ได้ เราฝึกตัวเอง บวชใจเราให้ได้ ตั้งใจรักษาศีล ศีล 5 ศีล 8 ถือเข้าไปเถอะ เท่าที่ทำได้ ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น อย่างบางคนสุขภาพไม่อำนวย ถือศีลอดข้าวเย็น แล้วทำงานหนักทั้งวันเลย ตกเย็นไม่กินข้าวอีก ไม่นานโรคกระเพาะก็ถามหา ฉะนั้นดูสภาพเราที่ทำได้จริงๆ ทำแล้วไม่เข้าข่ายอัตกิลมถาลิกานุโยค ทรมานตัวเอง แต่ไม่ใช่ปรนเปรอตัวเองตามใจชอบ มีวินัยในตัวเอง อยู่บ้านก็ภาวนาของเราไป ฆราวาสก็ทำมรรคผลได้
    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม 8 พฤษภาคม 2565
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    วิธีประเมินคุณภาพของจิต :: หลวงพ่อปราโมทย์ 16 มี.ค. 2557

    Dhamma.com
    41,922 views Mar 19, 2014
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    สติปัฏฐาน 4 :: หลวงพ่อปราโมทย์ 3 ก.ย. 2560

    Dhamma.com
    Sep 30, 2017
     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    หลวงพ่อปราโมทย์ แสดงธรรม ณ วัดสวนดอก จ.เชียงใหม่ 31 ม.ค. 2559

    Dhamma.com
    Feb 9, 2016
     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    หลวงพ่อปราโมทย์ วัดสวนสันติธรรม แสดงธรรม ณ กลุ่มนำทอง ในบริษัท aia

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แสดงธรรม ณ กลุ่มนำทอง ในบริษัทเอไอเอ ถนนสาทรเหนือ วันที่ 14 สิงหาคม 2556

    รู้สึกตัวได้แล้ว ดูไตรลักษณ์ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ๕ พ.ค. ๒๕๖๑ (ไฟล์ 610505B ซีดี ๗๖)

    Dhamma.com
    "เวลารู้สึกกาย รู้สึกใจ อย่ารู้สึกซื้อบื้ออยู่เฉยๆ รู้จักมองไตรลักษณ์บ้าง ถ้าจิตมองเองเป็น ไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว จิตจะทำเอง แต่ถ้าจิตไม่คุ้นเคยกับการดูไตรลักษณ์ ต้องช่วยมัน ช่วยคิดพิจารณา ว่าร่างกายนี้ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา จิตใจนี้ จะจิตสุข จิตทุกข์ จิตดี จิตชั่ว ก็ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ค่อยๆ สอนมันไป แล้วต่อไปมันจะเห็นเอง โดยไม่ต้องคิด ไม่ต้องคิดนำ ตรงที่มันเห็นเอง เห็นไตรลักษณ์เอง โดยไม่ต้องคิดนำนั้น ตรงนั้นเรียกว่าวิปัสสนากรรมฐาน ถ้ายังต้องคิดนำ โน้มนำให้เห็นอยู่ ยังไม่ขึ้นวิปัสสนา แต่รู้สึกตัวอยู่เฉยๆ ใช้ไม่ได้ แค่ดีกว่าคนไม่รู้สึกตัวเท่านั้น แต่ไม่บรรลุมรรคผลหรอก"
    -- หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ไฟล์ 610505B ซีดีแผ่นที่ ๗๖

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2022
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    พระอรหันต์ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ๑๗ ธ.ค. ๒๕๖๐ (601217B ซีดี ๗๔)

    Dhamma.com
    Jan 12, 2018
    "นิพพานมีลักษณะอย่างไร นิพพานมีลักษณะสันติ สันติ คือ สงบ สงบ จากกิเลส มันไม่มีตะกอนเหลือแล้ว สงบ จากความปรุงแต่ง จิตที่เข้าถึงพระนิพพานแล้ว เป็นพระอรหันต์แล้ว ไม่มีอะไรปรุงแต่งได้แล้ว เอาของสกปรกมาสาดใส่ ก็ไม่เป็นไร เอาของหอมมาสาดใส่ ก็เฉยๆ มันเสมอกันหมด แล้วนิพพาน สงบจากกิเลส สงบจากความปรุงแต่ง สงบจากทุกข์ ไม่มีทุกข์อีกแล้ว"

    -- พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม วันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๐
    ไฟล์ 601217B ซีดีแผ่นที่ ๗๔
     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    ความแน่นอน คือความไม่แน่นอน โดย หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช

    รวมเสียงธรรม
    Feb 11, 2017
     
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    ความสุขในโลกเป็นน้ำตาลเคลือบยาพิษ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 10 ก.ค. 2565

    Dhamma.com
    ความสุขในโลกเป็นน้ำตาลเคลือบยาพิษ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 10 ก.ค. 2565
    ความสุขในโลกเป็นน้ำตาลที่เคลือบยาพิษเอาไว้ แล้วยาพิษร้ายแรง คือทำให้เราต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย ไม่รอด น้ำตาลหวานๆ คืออะไร คือกามคุณอารมณ์ทั้งหลาย รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสอะไรที่น่าเพลิดเพลินทั้งหลาย ความสุขจอมปลอมทั้งหลายเอาไว้หลอกคนโง่ให้หลงอยู่ แต่ผู้รู้ไม่ติดข้อง สิ่งเหล่านั้นเป็นเครื่องมือของมาร เป็นอาวุธของมารในการที่จะจับพวกเราเอาไว้ในอำนาจ คือกามนี่ล่ะ เครื่องมือของมาร จะจับเราเอาไว้ แล้วสัตว์โลกก็ถูกมารนี้ล่ะจับเอาไว้ ดิ้นรนแสวงหาความสุขทางรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสทั้งหลาย ดิ้นแสวงหากันไป สุดท้ายทุกอย่างก็ว่างเปล่า มีเงิน สุดท้ายเงินก็เป็นของคนอื่น มีบ้านสุดท้ายบ้านก็เป็นของคนอื่น มีลูกมีเมีย สุดท้ายก็เป็นของคนอื่น ไม่ใช่ของเราอยู่ดี กระทั่งร่างกายนี้ ของเราๆ สุดท้ายก็ต้องถูกคนเอาไปเผาทิ้ง มันว่างเปล่าไปหมด เรื่องของโลกหาสาระไม่ได้ เมื่อเรามีโอกาสได้ยินได้ฟังธรรมะของพระพุทธเจ้าแล้ว ลงมือแสวงหาความสุขที่ยิ่งใหญ่ขึ้นไปเป็นลำดับๆ ไป ความสุขจากการฝึกจิตให้สงบอยู่ในอารมณ์อันเดียว ความสุขของสมาธิ ความสุขจากการที่จิตมันเกิดความรู้ถูกเข้าใจถูกอะไรพวกนี้ มีความสุขผุดขึ้นมา เป็นความสุขจากการเจริญปัญญา ถ้าความสุขจากการสัมผัสพระนิพพาน อันนั้นเป็นบรมสุข เป็นความสุขที่ไม่มีเครื่องเสียดแทง


    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม
    10 กรกฎาคม 2565
     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    โยนิโสมนสิการสำคัญมาก :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 13 ก.ค. 2565

    Dhamma.com
    Jul 15, 2022
    โยนิโสมนสิการสำคัญมาก :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 13 ก.ค. 2565 สำคัญที่สุดมีโยนิโสมนสิการ สังเกตตัวเอง ที่ทำอยู่ตรงนี้หลงอยู่หรือว่าปฏิบัติอยู่ ขั้นหยาบๆ เลย แล้วที่ปฏิบัติอยู่สมถะหรือวิปัสสนา สังเกตไป ตอนทำสมถะอยู่อันนี้นิมิตเกิดขึ้น เรายินดีในนิมิต หรือเราวางนิมิตย้อนเข้ามารู้ทันจิตตนเองได้ ถ้ายินดีในนิมิต นิมิตจริง นิมิตปลอมก็โง่เหมือนกัน หลงออกไปแล้ว ลืมจิตใจตัวเอง สังเกตตัวเองไปเรื่อยๆ หลวงพ่อสู้มาทุกวันนี้ ตั้งแต่เป็นโยม ใช้ความสังเกต ใช้โยนิโสมนสิการมาก ในชีวิตหลวงพ่อเรียนกับครูบาอาจารย์ หลวงพ่อเคยถามกรรมฐานจากครูบาอาจารย์ทั้งหมด 7 ครั้ง จากครูบาอาจารย์ 6 องค์ ที่ถามมีแค่นั้นเองนอกนั้นสังเกตเอา อย่างภาวนาไปช่วงนี้ เกิดสภาวะอย่างนี้มันใช่มันไม่ใช่ หลวงพ่อสังเกตไปเรื่อย ไม่ยินดี ไม่ยินร้ายกับมัน ค่อยรู้ค่อยดูไป เกิดความเข้าใจขึ้นมาแล้ว มีโอกาสเจอครูบาอาจารย์ ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนั้น จะเข้าใจก่อนที่จะเจอครูบาอาจารย์ แล้วก็ไปเล่าให้ท่านฟัง บอก “ผมดูแล้วมันเป็นอย่างนี้ๆ มันคืออย่างนี้” ท่านบอก “ใช่แล้ว ถูกแล้ว” ท่านจะชมว่าฉลาด ฉลาด ช่วยตัวเองมาได้ ถ้าเอะอะวิ่งถามครูบาอาจารย์ตลอด ไม่ฉลาดหรอก


    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 13 กรกฎาคม 2565
     
  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    เราไม่วุ่นวายไปกับโลก :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 11 มิ.ย. 2565

    Dhamma.com
    305,910 views Streamed live on Jun 10, 2022
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    โลกเหมือนงูพิษ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 24 ก.ค. 2565

    Dhamma.com
    60,159 views Streamed live on Jul 23, 2022
    โลกเหมือนงูพิษ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 24 ก.ค. 2565 พอเราภาวนาเราจะเห็นโลกนี้น่าเบื่อ โลกนี้น่ารังเกียจ โลกนี้สกปรก ใจมันคลายออกจากโลก มันจะยิ่งมีความเด็ดเดี่ยว มีความมุ่งมั่นในการภาวนามากขึ้น แล้วเวลาเราต้องสัมผัสกับโลก สติ สมาธิ มันจะทำงานจี๋ขึ้นมาเลย เพราะมันเหมือนเราเดินเข้าไปในฝูงงูพิษ ถ้าเราภาวนาถึงจุดหนึ่งเราจะรู้ โลกนี้เหมือนงูพิษจริงๆ รูปก็เป็นงูพิษ เสียงก็เป็นงูพิษ มันทำให้จิตเราเสียหายได้ทั้งหมด พอเราภาวนา พอจะอยู่กับโลก เหมือนอยู่ในหมู่งูพิษล้อมตัวเราไว้ทั้งหมดเลย มันจะโดนฉกกัดเมื่อไรก็ได้ จิตมันจะ Alert มีสติ มีสมาธิ คอยระมัดระวังอยู่ อินทรียสังวรเกิดขึ้น ศีลอัตโนมัติของเราเกิดขึ้น จิตเราก็ตั้งมั่นอัตโนมัติขึ้นมา มันจะสำรวม มันจะระวัง พอฝึกมันจะเห็นผล อยู่กับโลกไม่ได้ โลกร้อนเป็นฟืนเป็นไฟเลย มันไร้สาระหาแก่นสารอะไรไม่ได้ จำเป็นต้องอยู่กับมันก็อยู่กับมัน แต่อยู่กับมันเหมือนอยู่ท่ามกลางฝูงงู โลกนี้มีแต่ทุกข์ โลกนี้ไม่มีอะไรหรอก เผลอไปยึดไปถือเข้านิดเดียวก็ทุกข์แล้ว นี่ใจก็จะยิ่งน้อมๆๆ มาหาการปฏิบัติมากขึ้นๆ ช่วงแรกๆ ต้องฝืนใจ ต้องน้อมใจ ต้องชักชวนให้จิตใจปฏิบัติ แต่เมื่อเราปฏิบัติไปถึงช่วงหนึ่ง ไม่ต้องชักชวนแล้ว จิตใจมันเอือมระอาต่อโลกข้างนอก มันอยากปฏิบัติของมันเอง ตรงนี้อัตราเร่งของความก้าวหน้าในการปฏิบัติมันก็จะมากขึ้นๆ ยิ่งภาวนายิ่งไปเร็วขึ้นเรื่อยๆ อันนี้ไม่ว่าพระหรือโยมก็ทำได้ ขอให้ตั้งใจเถอะ

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 24 กรกฎาคม 2565

     
  21. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    หลวงพ่อปราโมทย์ แสดงธรรม ณ วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ 21 ก.ค. 2558

    ความเหมือนในความต่าง :: หลวงพ่อปราโมทย์ วันที่ ๗ เม.ย. ๒๕๖๑ (ไฟล์ 610407B ซีดี ๗๕)

    Dhamma.com
    37,870 views Aug 5, 2015
     

แชร์หน้านี้

Loading...