เสียงธรรม ทางสายเอก / หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช

ในห้อง 'ธรรมเทศนาทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 4 กรกฎาคม 2017.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    กายมีแต่ทุกข์ จิตมีแต่ภาระ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 26 มิ.ย. 2565

    Dhamma.com
    189,987 views Streamed live on Jun 25, 2022
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    18/07/2021 การดูจิตดูใจ (To See the mind)

    Dhamma.com
    203,007 views Jul 18, 2021
    การดูจิตดูใจ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 18 ก.ค. 2564

    การภาวนาเราตัดตรงเข้ามาเรียนรู้ที่จิต เป็นหนทางปฏิบัติที่ลัดสั้น แต่บางคนไม่มีกำลังที่จะตัดตรงเข้ามาเรียนจิต ก็เรียนทางกายไปก่อน หัดรู้กายไปก่อน รู้กายถูกต้อง ชำนิชำนาญต่อไปจิตก็มีกำลังขึ้นมา ตั้งมั่นขึ้นมา มันก็จะค่อยมาดูจิตได้ทีหลัง ฉะนั้นดูกายต่อไปก็เห็นจิต แต่ถ้าดูจิตได้ก็ดูไปเลย มิฉะนั้นเสียเวลา อันนี้ไม่ใช่หลวงพ่อคิดเอาเอง เป็นคำสอนที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนมา หลวงปู่มั่นบอกว่า “ดูจิตได้ให้ดูจิต ดูจิตไม่ได้ให้ดูกาย ถ้าดูจิตไม่ได้ ดูกายไม่ได้ทำสมถะ” ท่านสอนอย่างนี้ หลวงปู่ดูลย์ท่านก็บอกว่า การดูจิตเป็นการปฏิบัติที่ลัดสั้นที่สุด คือตัดตรงเข้ามาที่นี่เลย คนเราจะดี จะชั่ว จะสุข จะทุกข์ก็เพราะจิต จะเกิดในภพภูมิอะไรก็เพราะจิต ฉะนั้นตัดตรงเข้ามาที่จิต ตรงนี้ก็เร็ว ไปได้เร็ว
    -- หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 18 กรกฎาคม 2564
    ไฟล์ 640718 ซีดีแผ่นที่ 90
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    วิธีการฝึกสติ เพื่อเจริญปัญญา โดย หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช

    รวมเสียงธรรม
    219,657 views Feb 11, 2017
     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    การฝึกซ้อมในรูปแบบสำคัญมาก :: หลวงพ่อปราโมทย์ ๑๒ ส.ค. ๒๕๖๑ (610812A ซีดี ๗๗)

    Dhamma.com
    Sep 20, 2018
    (๑) เวลาเราทำในรูปแบบ เราลดช่องที่จะกระทบลง มันจะปฏิบัติง่าย เราคอยรู้ทันใจของเราไป ยุงมากระทบกายเรา มาเจาะ เจ็บ เกิดเจ็บทางกาย ใจโกรธ รู้ว่าใจโกรธ มันเหลือช่องทางที่กระทบน้อยลง เราก็จะสังเกตใจเราง่ายขึ้น ออกมาอยู่ในชีวิตจริง กระทบ ๖ ช่องเลย ผลัดกันทั้ง ๖ ช่องทาง เดี๋ยวตาก็เห็น เดี๋ยวหูก็ได้ยิน เดี๋ยวจมูกได้กลิ่น เดี๋ยวลิ้นกระทบรส เดี๋ยวกายกระทบสัมผัส เดี๋ยวใจกระทบความคิด นึก ปรุงแต่ง กระทบตลอดเวลา ตรงนั้นตรงนี้ ผลัดไปเรื่อยๆ มันดูยาก มันเยอะ เพราะอย่างนั้น ก่อนที่เราจะมาดูในชีวิตธรรมดาได้ ซ้อมอยู่ในการปฏิบัติในรูปแบบ อะไรเคลื่อนไหวในกาย หรืออะไรกระทบทางกายขึ้นมา รู้สึก อะไรกระทบทางใจ รู้สึก แล้วเห็นใจมันเปลี่ยนแปลง พอเราชำนาญในการเห็นใจที่เปลี่ยนแปลงแล้ว พอเรามาอยู่ในชีวิตจริง กระทบ ๖ ช่องทางก็จริง แต่สิ่งที่เราดู คือ ความเปลี่ยนแปลงของใจ เรายังดูอันเดียวนั้นเอง ไม่ได้ดูทีเดียว ๖ ช่องนั้นหรอก

    (๒) เราจะรู้ได้ดี โดยที่ไม่หลงไปทางตา หู จมูก ลิ้น กาย เมื่อเราได้ฝึกซ้อมมาดีแล้ว เพราะฉะนั้น การทำในรูปแบบสำคัญ ไม่อย่างนั้นเวลามาปฏิบัติในชีวิตจริง ใจจะวิ่งพล่านไปทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ วิ่งพล่านไปตลอดเวลา ดูไม่รู้เรื่องหรอก

    -- พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา วันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๑
    ไฟล์ 610812A ซีดีแผ่นที่ ๗๗
    ติดตามข่าวสาร อ่านพระธรรมคำสอน และดาวน์โหลดไฟล์เสียง เว็บไซต์ทางการ: www.dhamma.com
    Facebook Page: fb.com/dhammateachings Instagram: instagram.com/dhammadotcom Line : @dhammadotcom
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    หลวงพ่อปราโมทย์ แสดงธรรม ณ ศาลากาญจนาภิเษก 15 ม.ค. 2555

    Dhamma.com
    Aug 5, 2022
     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    วัดใจตัวเอง 13/8/65 หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช

    สติธรรม
    10,358 views Aug 14, 2022
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    อยากได้ความสุขหรืออยากพ้นทุกข์ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 13 ส.ค. 2565

    กรรมวาที กิริยวาที วิริยวาที :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 20 ส.ค. 2565

    Dhamma.com
    Aug 20, 2022
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2022
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช "31กรกฏาคม2565"

    สติธรรม
    Aug 5, 2022
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    รู้ทันสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความคิด 21 ส.ค 2565หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช

    สติธรรม
    4,996 views Aug 25, 2022
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    รู้โลกแจ่มแจ้งจิตก็วางโลก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช

    สติธรรม
    Jul 11, 2022
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    ใจที่อยากพ้นโลกจะมีความพากเพียร :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 14 ส.ค. 2565

    Dhamma.com
    Aug 13, 2022
    ใจที่อยากพ้นโลกจะมีความพากเพียร :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 14 ส.ค. 2565
    พระมหากัสสปะท่านเคยตั้งข้อสังเกต ท่านพูดกับพระพุทธเจ้า ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมสมัยต้นพุทธกาลที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ใหม่ๆ สอนธรรมะ พระอรหันต์มีมาก พระวินัยมีน้อย มาช่วงหลังๆ พระวินัยมีมากขึ้นๆ พระอรหันต์มีน้อยลงๆ ฉะนั้นความเป็นโลกของวัดต่างๆ มีมาตั้งแต่พุทธกาลแล้ว พวกอินทรีย์แก่กล้ามาพบพระพุทธเจ้า ฟังธรรม แล้วก็พวกนี้แสวงหาความพ้นทุกข์อยู่แล้ว อย่างพวกปัญจวัคคีย์ เขาอุตส่าห์บำเพ็ญตบะ บำเพ็ญโน้นบำเพ็ญนี้ เป็นนักบวชอยู่แล้ว อยากพ้นทุกข์ แต่ไม่รู้ทาง พอพระพุทธเจ้าชี้ทางให้ แต่ละองค์ก็ไปลิ่วเลย เพราะท่านเหล่านี้ท่านอยากพ้นทุกข์อยู่แล้ว พวกชฎิล 1 พันรูป มีหัวหน้าชื่ออุรุเวลกัสสปะ นทีกัสสปะ คยากัสสปะ พันองค์ ท่านก็เป็นนักบวช ท่านอยากพ้นทุกข์อยู่แล้วแต่ไม่รู้วิธีพ้นทุกข์ ใช้วิธีบูชาไฟเอา นั่งดูไฟไป ศาสนา Zoroastrian มีมานานแล้ว ก่อนพระพุทธเจ้าอีก บูชาไฟ คนเหล่านี้อยากพ้นทุกข์ พวกพระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ 250 องค์ ท่านเป็นนักบวชชนิดปริพาชก พวกนี้ก็แสวงหาความพ้นทุกข์ ฉะนั้นในยุคต้นพุทธกาล คนที่แสวงหาความพ้นทุกข์เยอะ พระพุทธเจ้าท่านมุ่งเข้ามาที่คนกลุ่มนี้ก่อน ฉะนั้นบรรลุพระอรหันต์กันในเวลาอันรวดเร็ว ปรารถนาความพ้นทุกข์อยู่แล้วล่ะ พอรู้วิธีที่จะพ้นทุกข์คือทางสายกลาง ท่านก็ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม 14 สิงหาคม 2565

     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    รู้จักคำว่าหยุดเสียบ้าง :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 28 ส.ค. 2565

    Dhamma.com
    51,453 views Aug 29, 2022
     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    06/02/2022 วางขันธ์ 5 เป็นลำดับไป (Let Go of the Five Aggregates Step by Step)

    Dhamma.com
    วางขันธ์ 5 เป็นลำดับไป :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 6 ก.พ. 2565

    ถ้าเราภาวนาเป็นเราจะรู้ การเรียงลำดับของพระพุทธเจ้านี้มีขั้นมีตอน เรียงขันธ์ ของที่หยาบที่สุดคือรูป แล้วก็ถึงนามธรรม นามธรรมก็มีส่วนที่หยาบ ส่วนที่ละเอียด เวทนาหยาบที่สุดเลย ดูง่าย ในนามธรรมทั้งหลาย เราค่อยๆ เรียนจากของหยาบที่สุดคือรูป มาเวทนา สัญญา สังขาร เราก็ค่อยแยกๆๆๆ ไปจนถึงตัวจิต เห็นรูปเห็นนามเป็นไตรลักษณ์นั่นล่ะ แล้วก็วางเป็นลำดับๆ ไป มันวางรูปได้ก่อน ตรงที่เห็นรูปไม่ใช่เรายังเป็นปุถุชนอยู่ ตรงที่เห็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณไม่ใช่เรา นั่นล่ะเป็นพระโสดาบัน ตรงที่เห็นความจริงว่ารูปไม่ควรยึดถือ เพราะมันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา นั้นล่ะได้พระอนาคามี ตรงที่วางจิตได้ หมดความยึดถือจิต มันก็เห็นจิตเองก็ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ตรงนั้นล่ะเป็นพระอรหันต์ วางขันธ์ได้สิ้นเชิง
    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม
    6 กุมภาพันธ์ 2565
     
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    “นิวรณ์ 5” หรือตัวป่วนทั้ง 5 ขึ้นมาเหล่าใหม่ให้เข้าใจง่ายขึ้นดังนี้
    (1) ความอยาก (กามฉันทะ) หมายถึง ความอยากได้ของที่ปรารถนา พึงพอใจในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสที่ชอบ อยู่นิ่งกับอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งไม่ได้ ไม่พอใจกับสิ่งที่มีอยู่เรื่อยไป
    (2) ความโกรธ (พยาบาท) หมายถึง ความกลัดกลุ้ม ความไม่พอใจ เกลียดชัง หงุดหงิด เห็นอะไรก็ขัดใจไปหมด ใจเย็นได้ยาก
    (3) ความเหงา เซ็งหรือซึม (ถีนมิทธะ) หมายถึง อาการเซ็งๆ ซึมๆ แยกเป็นทางกายกับใจ อาการทางกาย คืออาการเซื่องซึม ง่วง อืดอาด มึนๆ อาการทางใจ คือความหดหู่ ห่อเหี่ยว ท้อแท้ เหงาและหงอย อาการทั้ง 2 อย่างทำให้ขาดความเพียรพยายาม

    (4) ความฟุ้งซ่าน วุ่นวายใจ (อุทธัจจกุกกุจจะ) หมายถึง ความฟุ้งซ่าน รำคาญ กระสับกระส่าย ใจมันวิ่งพล่าน ไม่หยุดนิ่ง คิดเห็นอะไรจึงไม่ชัดเจน ขณะที่ความวุ่นวายใจ คือการรู้สึกว่ามีอะไรทำให้ใจมันรำคาญ ระแวง กลุ้มกังวล ทั้ง 2 อย่างทำให้ “จิต” หมุนไปมาไม่รู้จักหยุด
    (5) ความลังเลสงสัย (วิจิกิจฉา) หมายถึง ความสงสัยไม่แน่ใจกับเรื่องต่างๆ ที่เขาว่าดีมีคุณค่า (ให้คุณค่ากับเรื่องดีๆ ไม่ได้) ไม่รู้จะเชื่อตามดีหรือไม่ ไม่รู้จะปฏิบัติตามดีหรือเปล่า ต้องตกอยู่บนทางแยกอยู่ตลอดเวลา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2023
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    ดับทุกข์ที่ตัวเหตุ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 4 กันยายน 2565

    Dhamma.com
    Sep 3, 2022
    ดับทุกข์ที่ตัวเหตุ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 4 กันยายน 2565


    ชาวพุทธเราเอาชนะความอยากด้วยปัญญา พระพุทธเจ้าท่านมองลงไปต่อ ว่าความอยากมันมาจากอะไร หลักของเราชาวพุทธ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น จะมองไปว่า ต้นตอ ต้นเหตุของปัญหาคืออะไร แล้วเราก็ไปแก้ที่ต้นเหตุ นี่เป็นวิธีการของชาวพุทธ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏขึ้นมาเป็นผล มันก็ต้องมีเหตุ ชาวพุทธเราเวลามีปัญหา เราจะมองไปที่ต้นเหตุของปัญหา อะไรเป็นเหตุ แล้วไปแก้ที่เหตุ สิ่งทั้งหลายเกิดจากเหตุ ถ้าเหตุดับ สิ่งนั้นก็ดับ นี่เป็นธรรมะสำคัญ พื้นฐานเลยของเราชาวพุทธ การที่จะดับผล เราดับที่ตัวผลไม่ได้ พระพุทธเจ้าก็สอนอะไรเป็นเหตุของมัน แล้วก็สอนความดับ คือดับเหตุของมันนั่นล่ะ ถ้าเราดับเหตุของทุกข์ได้ ความทุกข์มันก็ดับ ฉะนั้นเราต้องดับที่ตัวเหตุ นี่คำสอนของพระพุทธเจ้า

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม
    4 กันยายน 2565
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    อุบายของครูบาอาจารย์ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 17 กันยายน 2565

    Dhamma.com
    Sep 16, 2022

    อุบายของครูบาอาจารย์ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 17 กันยายน 2565
    บางคนภาวนาแล้วก็เห็นโลกพระนิพพาน อันนั้นเป็นนิมิต บางท่านท่านเข้าใจความจริง อย่างบางองค์ท่านภาวนาดี แต่ท่านชอบพูดถึงโลกนิพพาน อันนั้นเป็นอุบายให้เราอยากได้นิพพานไปก่อน แล้วพอเราเจริญสติปัฏฐานมากๆ เราไม่ยึดรูป ไม่ยึดนาม ก็รู้จักนิพพานตัวจริงได้ เป็นอุบายของท่านบางองค์ พระพุทธเจ้าท่านบอกตรงไปตรงมาที่สุดเลย แล้วพวกเรารับไม่ค่อยได้ ท่านบอก “นิพพานไม่มีดิน น้ำ ไฟ ลม ไม่มีอากาศ ไม่มีช่องว่าง ไม่มีวิญญาณ ไม่มีความไม่มีอะไรเลย ไม่มีพระอาทิตย์ ไม่มีพระจันทร์ ไม่มีกลางวัน ไม่มีกลางคืน” ฟังแล้วไม่น่าอยู่เลย กลางวันก็ไม่มี กลางคืนก็ไม่มี มันอยู่ใน Twilight Zone หรืออย่างไร มันคิดแต่จะอยู่ มันไม่เคยรู้จักสิ่งซึ่งเหนือรูปธรรมนามธรรมขึ้นไป พอฟังแล้วมันรับไม่ได้ ครูบาอาจารย์รุ่นหลังๆ ก็เลยหลอกๆ เอา สร้างอะไรที่ปลุกเร้าให้ก้าวไปข้างหน้า อย่างทำวัตถุมงคลมาเพื่อให้เรารักษาศีล เพื่อให้เรานั่งสมาธิ แล้วก็สอนโน่นสอนนี่ เห็นนรก เห็นสวรรค์ เพื่อเราจะได้ไม่ได้ทำผิดศีล เป็นอุบายมากมาย ถ้าเรามัวแต่ติดอุบาย เราก็ไปไหนไม่ได้หรอก แหวกอุบายไม่ออก ถ้าแหวกออกก็จะเข้าใจร้อง โอ๊ย สติปัญญาครูบาอาจารย์ไม่ธรรมดา สอนคนโง่ๆ อย่างเราให้ก้าวหน้าขึ้นมาได้ ด้วยอุบายวิธีของท่านมากมาย แต่พอเราเข้าใจแล้ว มันมีวิธีที่ลัดสั้นที่สุดเลย ไม่เห็นจะต้องอ้อมค้อมมาไกลแสนไกล ลัดสั้นเลยก็คือเรียนรู้เข้ามาที่จิตเลย กุศลเกิดที่จิต อกุศลเกิดที่จิต มรรคผลเกิดที่จิต ไม่ได้เกิดที่อื่นหรอก มรรคผลไม่ได้เกิดที่ดิน น้ำ ไฟ ลม กุศลไม่ได้เกิดที่ดิน น้ำ ไฟ ลม อกุศลก็ไม่ได้เกิดที่ดิน น้ำ ไฟ ลม มันเกิดที่จิตนี้ล่ะ ฉะนั้นถ้าเราภาวนา สุดท้ายมันจะตัดตรงเข้ามาที่จิต
    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม

    17 กันยายน 2565
     
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    หลวงพ่อปราโมทย์ แสดงธรรม ณ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช 20 มี.ค. 2559

    Dhamma.com
    Mar 30, 2016
     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    ความอยากเป็นเจ้านายตัวร้ายกาจ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 11 กันยายน 2565

    Dhamma.com
    Sep 10, 2022
    ความอยากเป็นเจ้านายตัวร้ายกาจ ::

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 11 กันยายน 2565
    ความอยากมันเป็นเจ้านายที่มองไม่เห็นตัว มันบงการให้จิตใจของเราวิ่งพล่านๆ ไปตลอดเวลา เป็นตัวร้ายกาจมาก จิตใจของเรานั้นตกเป็นทาสของตัณหามาแต่ไหนแต่ไร คือตกเป็นทาสความอยาก แต่เราไม่เคยรู้ไม่เคยเห็น บางคนถึงขนาดอหังการ บอกว่าฉันนี่ไม่มีใครมาสั่งฉันได้เลย ฉันเป็นอิสระอย่างแท้จริง มีอำนาจในตัวเอง มีเงิน มีทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีใครมีอำนาจเหนือฉันได้หรอก ในมุมมองของนักปฏิบัติ สิ่งที่มีอำนาจเหนือจิตใจของคนทั้งหลายคือตัวตัณหา มันสั่งเราตลอดเวลา เราสังเกตตัวเองเรียนรู้ตัวเองเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ความอยากเกิดขึ้น ความทุกข์จะเกิดขึ้นเสมอ ตัณหาเป็นผู้สร้างภพ ภพไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ทุกข์ทั้งสิ้น ฉะนั้นสิ่งที่ตัณหามันสร้างขึ้นมาคือทุกข์นั่นเอง ความอยาก ไม่ว่าเล็กน้อยแค่ไหนเกิดขึ้น ความทุกข์เกิดขึ้นทุกที ยิ่งความอยากรุนแรง โอกาสที่ความทุกข์จะรุนแรงก็มาก ความอยากรุนแรงก็ดิ้นๆๆ อย่างแรง ถ้าความอยากเบาบาง โอกาสที่จะเกิดความทุกข์ มันก็เบาบางลง ไม่มีความอยาก ก็ไม่มีโอกาสที่จะเกิดความทุกข์ทางจิตใจ ตัณหาทำให้เราเกิดความทุกข์ทางใจ แต่ทางร่างกายมันเกิดมาแล้ว มันเป็นวิบาก แก้ไม่ได้แล้ว มันมีร่างกายอยู่ ร่างกายนี้ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย อันนี้แก้ไม่ได้ อย่างไรก็ต้องแก่ อย่างไรก็ต้องเจ็บ อย่างไรก็ต้องตาย การที่เราเจริญวิปัสสนากรรมฐาน คอยมาดูกายมาดูใจบ่อยๆ เพื่อให้จิตมันยอมรับความจริงของกายของใจได้ ถ้าจิตมันยอมรับความจริงได้ ว่ามันไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์ มันเป็นอนัตตา อะไรเกิดขึ้นกับกาย อะไรเกิดขึ้นกับใจ มันจะไม่ทุกข์หรอก เพราะตัณหามันไม่เกิด
    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม
    11 กันยายน 2565
     
  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    รู้ตัวทั่วพร้อม :: หลวงพ่อปราโมทย์ วันที่ ๗ เม.ย. ๒๕๖๑ (610407A ซีดี ๗๕)

    Dhamma.com
    May 11, 2018
    ขณะนี้ร่างกายเราหายใจอยู่ รู้สึกไหม รู้สึกมันทั้งตัว เห็นตัวนี้กำลังหายใจอยู่ ดูสบายๆ ตัวนี้หายใจออกก็รู้ ตัวนี้หายใจเข้าก็รู้ ดูไปสบายๆ รู้มันทั้งตัว รู้ตัวทั่วพร้อม ไม่ใช่รู้แต่ลม หรือจะดูอิริยาบถ ๔ ยืน เดิน นั่ง นอน ก็เห็นทั้งตัว ยืน เดิน นั่ง นอน อย่างขณะนี้ ทั้งตัวเรานั่งอยู่ รู้สึกไหม ขณะนี้นั่งอยู่ รู้สึกไหม รู้สึกยากไหมว่านั่ง ไม่เห็นจะยากอะไรเลย นั่งอยู่ก็รู้ว่านั่งอยู่ พระพุทธเจ้าสอนง่ายๆ "ภิกษุทั้งหลาย เมื่อนั่งอยู่ ให้รู้ชัดว่านั่งอยู่" รู้ชัดๆ รู้สบายๆ รู้อย่างถูกต้อง ว่าตัวที่นั่งอยู่มันเป็นรูป มันนั่ง ใจเราเป็นคนดู มันจะมีใจที่เป็นคนดูขึ้นมา เราจะฝึกจนได้ใจที่เป็นคนดู คือใจที่เป็นพุทโธ ผู้รู้นั่นเอง ผู้รู้ รู้อะไร รู้รูป รู้นาม

    -- พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม
    วันที่ ๗ เมษายน ๒๕๖๑
    ไฟล์ 610407A ซีดีแผ่นที่ ๗๕
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    50,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,063
    22/08/2020 ธรรมะของพระพุทธเจ้าชัดเจนแจ่มแจ้ง (The Buddha’s Dhamma is clear and lucid)

    Dhamma.com
    Aug 21, 2020
    ธรรมะของพระพุทธเจ้าชัดเจนแจ่มแจ้ง :: หลวงพ่อปราโมทย์ 22 ส.ค. 2563 (ไฟล์ 630822 ซีดี 87)

    พระพุทธเจ้ามีสัพพัญญุตญาณ มีญาณทัศนะครอบคลุมหมดแล้ว สิ่งที่ท่านเลือกมาสอนเรา ไม่ใช่ธรรมะทั้งหมดที่ท่านรู้ แต่ท่านเลือกมาสอนเราเท่าที่จำเป็น ที่มีประโยชน์ ที่เราทำได้ ฉะนั้นสิ่งที่ท่านเลือกมาให้แล้วนั้น เราก็เรียนตามพวกนี้ ง่ายดี ถ้าอาจารย์รุ่นหลังเลือกมาให้เรา มันจะสับสนวุ่นวาย อย่างบางอาจารย์เขาบอกให้เราไปขอขมา แก้กรรมโน้นแก้กรรมนี้ แล้วจะภาวนาดี แค่เชื่อว่าคนนั้นเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรา ก็ต้องฟังคนอื่นแล้ว ฟังคนอื่นเขาบอก คนนี้ล่ะเจ้ากรรมนายเวรของเรา ชาวพุทธเราไม่มีอย่างนั้น ธรรมะของพระพุทธเจ้าชัดเจนแจ่มแจ้ง ไม่มีความกำกวม ถ้ายังมีกำกวม ใช่เหรอๆ ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้าแล้ว ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่มีความกำกวม ยกตัวอย่าง ถ้าเรามีอบายมุข กินเหล้า กินยาเสพติด เที่ยวเตร่เฮฮาปาร์ตี้ทุกคืน เพลิดเพลินดู เดี๋ยวนี้ดูซีรีส์ ดูทีไรก็ดูโต้รุ่งเลย อย่างนี้มันเจริญได้ไหม ในทางธรรมไม่มีทางเจริญหรอก มันเป็นทางเสื่อม มันเจริญไม่ได้ มันเป็นอบายมุข ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน ดูการละเล่น เล่นการพนัน คบคนชั่วเป็นมิตร เกียจคร้านในการงาน นี่คือพระพุทธเจ้าบอกว่าเป็นทางเสื่อม ลองไปทำแล้วให้เจริญดู มันทำได้ไหม มันทำไม่ได้ สิ่งที่ท่านสอนมันตรงไปตรงมาที่สุดเลย (2) ธรรมะของพระพุทธเจ้านี่ชัดเจน เช่น ถ้าเรามีตัณหา เราจะต้องทุกข์ทางใจ ถ้ามีตัณหาเมื่อไร ใจต้องทุกข์ทันทีเลย อันนี้ไม่มีใครเถียงได้ ถ้าเรามีศีล สมาธิ ปัญญา ถึงจุดหนึ่งโลกุตตรธรรมก็ปรากฏขึ้น เกิดมรรคเกิดผลขึ้นมา… เราดูให้ดีเถอะ ทุกครั้งที่มีความอยาก ใจจะมีความทุกข์ จริงหรือไม่จริง ไปพิสูจน์ด้วยตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่ ก็แสดงว่าพระพุทธเจ้าไม่ใช่สัพพัญญูแล้ว พระพุทธเจ้าสอนผิดแน่นอนแล้ว แต่เรากล้าท้า ไปทำให้ถูกเถอะ แล้วอย่างไรเถียงพระพุทธเจ้าไม่ออกหรอก ศิโรราบกับพระพุทธเจ้าเลย
    -- หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม
    22 สิงหาคม 2563

    ไฟล์ 630822 ซีดีแผ่นที่ 87
     

แชร์หน้านี้

Loading...