หลวงพ่อสำเร็จศักดิสิทธิ์ /รวมเรื่องหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ในห้อง 'ประวัติและนิทานธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 12 สิงหาคม 2017.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    บันทึกธุดงค์ หลวงพ่อสมชาย

    หลวงตา
    Apr 23, 2023

    บันทึกธุดงค์ หลวงพ่อสมชาย พระวิสุทธิญาณเถร (สมชาย ฐิตวิริโย) วัดเขาสุกิม จังหวัดจันทบุรี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2023
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    lpsomchythitaviriyo.jpg
    ประวัติ : พระวิสุทธิญาณเถร ( หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ) - วัดเขาสุกิม อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
    นามเดิม : สมชาย มติยาภักดิ์

    กำเนิด : เกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2468

    บิดา : ชื่อ บุญ มติยาภักดิ์ โยมมารดาของท่านเป็นบุตรีของ คุณหลวงเสนา ผู้นำศาสนาพราหมณ์ในท้องถิ่นนั้น

    สถานที่เกิด : ณ หมู่บ้านเหล่างิ้ว ตำบลจังหาร อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด

    บรรพชา : เป็นสามเณรเมื่อวันที่ มิถุนายน พ.ศ.2487 ณ อุโบสถวัดเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีท่านเจ้าคุณพระโพธิญาณมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์

    อุปสมบท : 23 มิถุนายน 2489 อายุครบ 21 ปี ทำการญัตติจตุตถกรรมเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ มีเมตตาให้ ท่านเจ้าคุณ พระธรรมเจดีย์ ( จูม พันธุโล ) เป็นพระอุปัชฌาย์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่บุญมา จิรปุญโญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า "ฐิตวิริโย"

    มรณภาพ : มรณภาพ 18 มิถุนายน 2548 สิริอายุ 80 ปี 72 วัน พรรษา 60
    พระกรรมฐาน สายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ พระบุพาจารย์ใหญ่ ฝ่ายวิปัสสนา แต่ละท่าน ได้ดำเนินเจริญธรรมสัมมาปฏิบัติ รักษาขัอวัตรปฏิปทา เผยแผ่ศาสนาธรรม อย่างเอาการเอางาน สร้างคุณูปการ แก่พระพุทธศาสนา ชุมชนอย่างต่อเนื่อง เป็นที่เคารพศรัทธา ของพุทธศาสนิกชนทั่วไป

    ในบรรดาพระคณาจารย์กรรมฐาน ท่านต่าง ๆ นี้ ได้มีพระเถราจารย์ศิษย์ สายท่าน พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ อีกรูปหนึ่ง ที่มีปฏิปทาบารมีธรรมไพศาล จรรโลงศาสนธรรม ศาสนบุคล ศาสนสถาน อภิบาลศีลธรรมคุณความดี ปรากฏเด่นเป็นเอกแห่งภาคตะวันออกของไทยคือ

    พระเดชพระคุณ พระวิสุทธิญาณเถระ ( พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย ) ประธานสงฆ์วัดเขาสุกิม ตำบลเขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี

    พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย เกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2468 ณ หมู่บ้านเหล่างิ้ว ตำบลจังหาร อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ดโยมบิดาชื่อ บุญ มติยาภักดิ์ โยมมารดาของท่านเป็นบุตรีของ คุณหลวงเสนา ผู้นำศาสนาพราหมณ์ในท้องถิ่นนั้น

    ชิวิตปฐมวัย:
    ท่านต้องกำพร้าแม่ แต่วัยเยาว์ และมาเสียคุณตาผู้เป็นหลักในกาลต่อมาอีก ท่านจึงต้องไปอาศัย อยู่กับญาติ ที่มีศักดิ์เป็นพี่ชาย แต่ต่อมาพี่สะใภ้ก็ถึงแก่กรรม ท่านก็ต้องรับภาระ เลี้ยงหลาน 4-5 คนตั้งแต่ท่านเองอายุได้เพียง 14 ปีเศษ แต่ด้วยความขยัน อดทนเป็นเลิศ คุณความดี และบุญบารมี ที่สั่งสมมา แต่ปางก่อน ทำให้ท่านผ่านวิกฤติ แห่งชีวิตมาได้ และด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ในบวรพระพุทธศาสนา ที่บังเกิดในดวงจิตดวงใจ ท่านอย่างล้นพ้น เมื่อท่านอายุได้ 19 ปี ได้เข้ามอบกาย ถวายตัว เป็นนาค กับท่านพระอาจารย์เพ็ง พุทธธัมโม วัดป่าศรีไพรวัลย์ เมืองร้อยเอ็ด และต่อมาได้บรรพชา เป็นสามเณรเมื่อวันที่ มิถุนายน พ.ศ.2487 ณ อุโบสถวัดเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีท่านเจ้าคุณพระโพธิญาณมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์

    ในระหว่างที่เป็นสามเณร ที่วัดศรีไพรวัลย์ ท่านได้ทราบกิตติศัพท์ว่า ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ เป็นพระอรหันต์ ผู้หมดจดจากกิเลส จึงทำให้สามเณรสมชาย ในครั้งนั้น มีความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ใคร่ที่จะได้เห็นได้กราบไหว้ ได้ศึกษาธรรมจากพระอรหันต์ ในสมัยปัจจุบัน

    เมื่อออกพรรษาแล้ว ท่านได้กราบลาพระอาจารย์เพ็ง พุทธธัมโม เจ้าอาวาส ออกมุ่งหน้า สู่สำนักหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ

    ตามปกติผู้ที่จะเข้าไปสู่สำนักของหลวงปู่มั่น จะต้องผ่านการฝึกฝนอบรมจิตใจ และฝึกวินัย ข้อวัตรให้ชัดเจน เสียก่อน โดยจะมีสำนักศิษย์ของท่านเป็นหน้าด่าน ก่อนจะผ่านเข้าไป ซึ่งสามเณรสมชาย ในครั้งนั้น ก็ได้รับเมตตาอบรม จากครูอาจารย์กรรมฐาน อาทิ ท่านพระอาจารย์กู่ ธัมมทินโน วัดป่าบ้านโคกมะนาว เป็นต้น

    เมื่อได้รับการฝึกปฏิบัติ จนได้ที่แล้ว สามเณรสมชาย และคณะได้เดินทางไปยัง สำนักป่า บ้านหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร สถานพำนักของท่าน พระบุรพาจารย์ใหญ่ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ

    สัมผัสแรก เมื่อเข้าไปถึง สำนักป่า บ้านหนองผืนนาใน คือความสงบเย็น แห่งสัปปายะ สถานอันร่มรื่น แช่มชื่น ด้วยธรรมชาติ โน้มจิตใจ ให้สงบเป็นสมาธิ ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และที่ประทับ ในดวงใจ ไม่มีวันลืมคือ ได้รับเมตตาจากพระเดชพระคุณ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ให้การปฏิสันถาร ต้อนรับ ยังความปลาบปลื้ม ปิติอันถือเป็นปฐมฤกษ์ แห่งอุดมมงคล ในชีวิตสมณะ และได้กราบมอบกาย ถวายชีวิต เป็นลูกศิษย์ด้วยเศียรเกล้า

    ในระหว่างที่ท่านพำนัก ที่สำนักป่า บ้านหนองผือนาใน เพื่อศึกษาธรรมปฏิบัติ อยู่กับหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ นั้น ท่านได้ใช้ความเพียรพยายาม เป็นอย่างยิ่ง ต่อการปฏิบัติสมาธิจิต รักษาข้อวัตร โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก อุปัฏฐากครูอาจารย์ด้วยดี

    เมื่อสามเณรสมชาย ในครั้งนั้น มีอายุครบ 21 ปีสมควรที่จะ ทำการญัตติจตุตถกรรม เป็นพระภิกษุ ในบวรพุทธศาสนา ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ มีเมตตาให้ ท่านเจ้าคุณ พระธรรมเจดีย์ ( จูม พันธุโล ) เป็นพระอุปัชฌาย์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่บุญมา จิรปุญโญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า "ฐิตวิริโย"

    เมื่ออุปสมบทแล้ว พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย ได้พำนักจำพรรษา ที่วัดป่าภูธรพิทักษ์ สกลนคร ซึ่งมีท่านพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร เป็นเจ้าอาวาสในสมัยนั้น

    เมื่อออกพรรษา ได้ธุดงคจาริก ไปที่ภูวัว จังหวัดหนองคาย สถานบำเพ็ญ ที่ช่วยหล่อหลอม คุณธรรม และกำลังใจแก่ท่าน เป็นอันมาก

    ถึงฤดูกาลพรรษา ปี 2492 ท่านมาพำนักที่วัดอรัญญวาสี อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นสถานที่ พ่อแม่ครูอาจารย์ สร้างไว้ และเคยมาพำนัก

    พอออกพรรษา ก็รีบไปไปกราบนมัสการ หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ และอยู่ฟังธรรมะ จากท่าน เป็นเวลาพอสมควรแล้ว ท่านก็ได้กราบลา ออกหาสถานที่บำเพ็ญภาวนาต่อไป ท่านจะปฏิบัติเช่นนี้ เสมอมา แต่การไปภาวนาตามสถานที่ต่าง ๆ ก็ไปตามคำแนะนำของครูอาจารย์ เมื่อครบกำหนดแล้ว ก็กลับมาหาครูอาจารย์ ผู้ปฏิบัติท่านถือกันมาก เรื่องเคารพครูอาจารย์

    ด้วยความเป็นอนิจจังแห่งสังขารา เมื่อพระเดชพระคุณท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ มรณภาพเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2492 ซึ่งขณะนั้นพระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย อายุพรรษาได้ 4 พรรษา ก็มีความเศร้าโศกเสียใจเช่นเดียวกับศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย ที่ต้องสูญเสียร่มโพธิ์ร่มธรรม

    หลังจากถวายเพลิงสรีระพระอาจารย์ใหญ่แล้ว พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย ได้ไปพำนักศึกษาธรรม ปฏิบัติตามสำนักคร ูอาจารย์ต่าง ๆ ที่เป็นศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ อาทิ หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ ตลอดจนสำนักครูอาจารย์ที่สำคัญอีกหลายสำนัก ท่านเป็นผู้มีความเพียร ในการเจริญธุดงคกรรมฐาน และเอาการเอางาน เป็นธุระให้ครูอาจารย์ ในงานที่ท่านใช้ ด้วยใจเอิบอิ่ม ยามครูอาจารย์ป่วยไข้ ท่านก็รับใช้อุปัฏฐาก เป็นผู้เด็ดเดี่ยว วีรอาจหาญ ในธรรมและความถูกต้อง ด้วยศีลด้วยธรรม แต่มีความสงบนุ่มนวล ในปฏิปทา กริยาน่าเลื่อมใส ท่านจึงเป็นที่รัก เมตตาของครูอาจารย์ เป็นที่เคารพ ศรัทธา ของศิษย์ เพิ่มพูนไพศาล ตลอดมา

    นอกจากออกจาริกธุดงค์ ในแดนดิน ถิ่นอีสานแล้ว ท่านยังข้ามโขง ไปเจริญกรรมฐาน ที่ฝั่งประเทศลาว และเมื่อปี 2499 ได้จำพรรษาที่วัดจอมไตร นครเวียงจันทร์ ท่านได้ปลูกศรัทธา สร้างศาสนประโยชน์ไว้ เป็นจนที่เลื่อมใส ของชาวลาว เมื่อออกพรรษา ก็ธุดงคไป ตามป่าเขา แม้กระทั่งภูเขาควาย ที่สูงสุดในประเทศลาว และกลับมาจำพรรษา ที่วัดจอมไตร และเดินทางกลับประเทศไทย ครั้งสมัยฉลอง 25 พุทธศตวรรษ ปี 2500 พอดี

    ในช่วงนั้น ท่านได้จาริก เพื่อบำเพ็ญ ความเพียร และศึกษาธรรม กับครูอาจารย์ต่าง ๆ ตามกาลโอกาส อาทิปี 2501 ได้จำพรรษกับหลวงปู่ โง่น โสรโย ที่เขาไทรสายัญห์ อำเภอปากช่อง โคราช และได้จาริก ไปทางภาคตะวันตก แถบปรานบุรี จนถึงเมืองมะทวาย ประเทศพม่า บำเพ็ญธรรม ในแดนกระเหรี่ยง นำพระไตรสรณคม ไปสู่จิตใจชาวป่า ชาวเขา ได้ผลพอสมควร

    ปี พ.ศ.2504 พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย พร้อมด้วยพระภิกษุสามเณรจำนวน 10 รูป ได้จาริก มายังจังหวัดจันทบุรี มุ่งมาที่วัดเขาน้อยสามผาน อำเภอท่าใหม่ ด้วยทราบว่า เป็นสำนักปฏิบัติ ที่มีชื่อเสียง แต่เนื่องจากสถานที่ มีจำกัดและหมู่คณะ ที่ติดตามมากไม่อยากแยกกัน แต่ด้วยธรรมะ จัดสรรค์และบุญบันดาล ให้สาธุชน มานิมนต์ท่าน และคณะ ไปจำพรรษาที่วัดเนินดินแดง

    ท่านได้จำพรรษาที่วัดเนินดินแดง และนำศรัทธาพัฒนาวัดนี้เป็นแห่งแรกในจันทบุรี

    ลุ ปี พ.ศ.2507 พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย รับอาราธนานิมนต์ ไปเจริญพระพุทธมนต์ ที่ตำบลเขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ชาวบ้านได้กราบนมัสการ ท่านและคณะพระภิกษุสามเณร ให้ขึ้นมาพัก บำเพ็ญที่เขาสุกิม เพราะเห็นว่าเป็นสถานที่ เหมาะแก่การบำเพ็ญ สมณธรรม เมื่อท่านพิจารณาแล้ว เห็นสมควร จึงมาพำนักแสวงธรรม ณ เขาสุกิม โดยเริ่มแรก ก็ใช้วิธีปักกรดอยู่ ตามโคนไม้ เมื่อใกล้เข้าพรรษาสร้างกุฏิชั่วคราวแลเสนาสนะที่จำเป็น
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    (cont.)
    ด้วยปฏิปทาและบารมีธรรม ของพระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย หรือที่เรียกนิยมกันว่า หลวงพ่อสมชาย ท่านพ่อสมชาย ก็สุดแล้วแต่ ได้มีสาธุชนเลื่อมใสศรัทธา เข้ามาปฏิบัติธรรม บำเพ็ญบุญ ในพระศาสนา เพิ่มมากขึ้น ทุกคนปรารถนา ที่จะให้มีการสร้างวัด อย่างถาวร ให้มีความเจริญรุ่งเรืองสืบไป

    ปี พ.ศ.2509 เป็นปฐมกาละ แห่งการสร้างวัดเขาสุกิม โดยมีพระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย ประธานสงฆ์เป็นผู้นำศรัทธา

    ในช่วงระยะเวลา ตั้งแต่พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย ได้ขึ้นมาพำนักบนเขาสุกิมแห่งนี้ ท่านเป็นผู้บุกเบิก เป็นผู้ริเริ่ม เป็นผู้สร้างสรรค์ สัปปายะสถานแห่งนี้ ให้เป็นวัด ที่สง่างาม ในพระพุทธศาสนา เป็นสถานปฏิบัติ ของผู้สนใจ ใฝ่ธรรมเจริญกรรมฐาน เป็นทัศนสถาน สำหรับประชาชนทั่วไป ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ เป็นศรีสง่า แห่งจังหวัดจันทบุรี ดินแดนที่งดงามงาม ด้วยทิวทัศน์ น้ำตกพริ้ว ธรรมชาติวิไลตา แหลมสิงห์ ทะเลไทย แห่งภาคตะวันออก สวนผลไม้ นานาพันธุ์ ชั้นเลิศ ของถิ่นไทย และอัญมณีเอก แห่งสยาม ที่ส่องประกายไปทั่วสากล และเมื่อกล่าวถึงจันทบุรี ครั้งคราใด ก็ต้องรำลึกนึกถึง วัดในพระพุทธศาสนา นามว่า วัดเขาสุกิม และบารมีธรรม อันอุดม ของพระเดชพระคุณ พระวิสุทธิญาณเถร พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย หรือ หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย สมณะผู้องอาจสง่างามด้วยธรรมรังสี

    วัดเขาสุกิม สำเร็จด้วยบารมีธรรมของหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ด้วยพลังศรัทธา ของบรรดาสานุศิษย์ บนเนื้อที่ 3,280 ไร่ มีสิ่งก่อสร้าง เป็นถาวรวัตถุ 100 กว่าหลัง อาทิ อุโบสถจตุมุข 2 ชั้น ขนาดกว้าง 42 เมตร ยาว 42 เมตร

    ตึกธรรมวิจัย โดยในชั้นที่ 3 จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม แสดงโบราณวัตถุ พระพุทธปฏิมา และวัตถุอันเป็นมงคล หลายยุคหลายสมัยที่มีผู้ศรัทธา นำมาถวายไว้ในพระพุทธศาสนา ตึก 60ปี เฉลิมพระเกียรติ ชั้นที่ 4 ได้จัดสร้างเป็นอาคารทรงไทย 5 หลังแต่ละหลังจัดแสดงสาระสำคัญดังเช่น

    พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งพระเถราจารย์สายกรรมฐาน ที่จัดสร้างอย่างประณีตเพื่อสาธุชนได้กราบไหว้บูชา ทัศนธรรม ศึกษาคุณความดี ของพระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    นอกจากนี้ยังจัดแสดงเครื่องลายครามของเมืองจีน เครื่องหยก เครื่องมุก สิ่งเหล่านี้ ได้มีผู้มีจิตศรัทธา ผู้เลื่อมใส ในบารมีธรรม ของหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ได้นำมาถวายไว้ เป็นสมบัติ ในพระพุทธศาสนา เป็นสมบัติของชาติไทยสืบไป โครงการที่หลวงพ่อสมชาย ฐิตวิริโย กำลังดำเนินอยู่ ขณะนี้คือ การก่อสร้าง เจดีย์บูรพา ฐิตวิริยาประชาสามัคคี อันจักเป็นมหาเจดีย์เอก แห่งหนึ่งของโลก ที่มีความสง่างาม รังสรรค์ อย่างวิจิตร ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ ที่อัญเชิญมา จากประเทศศรีลังกา อย่างเป็นทางการ และเป็นมหาบุญกุศล แห่งการสืบสานจรรโลงอย่างยิ่ง

    การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากศรีลังกาครั้งนี้ ทางศรีลังกา ได้อัญเชิญมาทางเครื่องบิน และอัญเชิญ ไปยังวัดเขาสุกิม ตำบลเขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี และมีพิธีสมโภช พระบรมสารีริกธาตุในมงคลวโรกาสนี้

    เจดีย์บูรพาฐิตวิริยาประชาสามัคคี จักสำเร็จในไม่ช้านี้ ด้วยบุญบารมี ของหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย และความสามัคคีร่วมใจ ของชาวไทย ผู้เทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

    พระเดชพระคุณพระวิสุทธิญาณเถร หรือหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย เป็นพระสุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นเนื้อนาบุญ ของพระพุทธศาสนา เป็นปูชนียาจารย์ ผู้เสียสละ เพื่อประโยชน์สุข ส่วนรวม เป็นสมณะ ผู้มุ่งสู่มรรคผลนิพพาน อุดมด้วยธรรมทานอย่างสิ้นสงสัย
    :-->http://www.dhammathai.org/monk/sangha39.php
     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    (cont.)
    lpsomchythitaviriyo.jpg
    ครั้งหนึ่งเมื่อปี พ.ศ.2501 หลวงปู่สมชายได้อยู่จำพรรษาปฏิบัติธรรมที่วัดเขาสายัณห์ โดยท่านไม่ได้ฉันภัตตาหาร 15 วันติดต่อกัน และถือเนสัชชิกังคะ คือยืน นั่ง เดิน โดยไม่เอนกายลงนอนทั้งคืน บางครั้งเป็นเดือน

    ช่วงกลางวันยังสามารถช่วยงานทางวัดได้ สามารถแบกปูนครั้งละ 2 ลูกขึ้นไปบนเขาเพื่อสร้างโบสถ์วิหาร

    จนกลายเป็นเรื่องน่าประหลาดว่าเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ถ้ามิใช่ผลแห่งสมาธิจิต



    นอกจากจะเป็นศิษย์รับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่มั่นแล้ว ท่านยังฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงปู่สีลา อิสฺสโร และพระวิปัสสนาจารย์ชื่อดังอีกหลายรูป ด้วยความเป็นพระสงฆ์นักปฏิบัติ ออกธุดงค์ตามป่าเขาลำเนาไพรไปทั่วทุกหนแห่ง

    กล่าวสำหรับวัดเขาสุกิมนั้น หลวงปู่สมชายบุกเบิกพัฒนา สร้างสรรค์วัดเขาสุกิม ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ บนเนื้อที่กว่า 3,280 ไร่ ให้เป็นศาสนสถานอันร่มรื่น สวยงาม เป็นศรีแก่จังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่ พ.ศ.2507

    แต่เดิมพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นป่ารกทึบ เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายและไข้ป่า ปัจจุบันสถานที่ดังกล่าวได้แปรสภาพถูกจัดระเบียบกลายเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งภาคตะวันออก จนกลายเป็นที่กล่าวขานว่าใครไปเยือนเมืองจันท์ ถ้าไม่ได้ไปนมัสการวัดเขาสุกิมถือว่ายังไปไม่ถึงเมืองจันท์

    ในปี พ.ศ.2542 หลวงปู่สมชายเริ่มมีอาการอาพาธด้วยโรคหัวใจ และต้องเข้ารับการรักษาอาการที่โรงพยาบาลศิริราช โดยคณะแพทย์ตรวจพบว่าหลวงปู่มีอาการหลอดเลือดหัวใจตีบ และทำการรักษาอาการอาพาธจนดีขึ้น

    ต่อมาสุขภาพทรุดหนักลงเป็นระยะต้องเข้าโรงพยาบาลวิชัยยุทธเป็นประจำ ในปี พ.ศ.2545 มีอาการอาพาธหนักจนคณะแพทย์ต้องผ่าตัดบายพาสหัวใจ และล้างไตมาตลอด

    กระทั่งปลายปี พ.ศ.2547 อาการอาพาธด้วยโรคหัวใจมีอาการทรุดหนักลง เหนื่อยหอบ และต้องล้างไตถี่ขึ้น

    ท้ายที่สุด เวลา 10.40 น. วันที่ 18 มิถุนายน 2548 จึงมรณภาพลงอย่างสงบ ที่ห้องไอซียู ชั้น 7 โรงพยาบาลวิชัยยุทธ

    ด้วยวัย 80 ปี พรรษา 60

    :-->https://www.matichonweekly.com/column/article_474789
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    หลวงพ่อเล่าเรื่องผี : ผีแขก

    หลวงตา
    Apr 28, 2023

    หลวงพ่อเล่าเรื่องผี ตอน ผีแขก หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    ๘.ลึกลับที่เขาภูลม ธุดงค์ป่ากับหลวงปู่

    thamnu onprasert
    Apr 29, 2023
    คณะธุดงค์จากสำนักสงฆ์บุคำ เดินหลงป่าและได้ไปพบกับสิ่งลึกลับบนเขาภูลม
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    ตอนเดียวจบ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม

    Yang song channel วันนี้มีเรื่องมาเล่า
    Dec 25, 2022
    ก่อนที่หลวงปู่ตื้อจะบวช ได้มีนิมิตมาบอกท่านมากมาย เช่น ในคืนก่อนที่ท่านจะบวช ท่านได้ฝันถึงชีปะขาว มาถึง 2 คน และท่านฝันอีกว่า ท่านได้เห็นพระภิกษุที่น่าเลื่อมใสอีก 2 รูป ท่านคิดว่าเป็นผู้วิเศษ จึงได้เข้าไปกราบนมัสการ และนิมิตครั้งสุดท้าย มีพระภิกษุท่านได้เข้ามาพูดกับท่านว่า หนูน้อย เจ้ามีกำลังแข็งแรงมาก เท่านั้น พระท่านก็หายไป ท่านก็มีความมั่นใจ เพราะท่านเชื่อว่า วันนี้จะมีเรื่องดี ที่ท่านจะได้บวชตามใจปรารถนา จะได้มีการประพฤติธรรมอย่างจริงจัง และปู่ของท่านก็อยากให้ท่านบวชเป็นพระภิกษุมานานแล้ว ท่านจึงตอบรับคำปู่ทันที และได้เข้ารับพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อปี พ.ศ. 2452 บวชได้ 19 พรรษา ก็ญัตติใหม่ในธรรมยุติกนิกายเมื่อปี พ.ศ. 2471 หลังจากบวชได้ 7 วัน หลวงปู่สิม ก็เข้ามาถามท่านว่า จะสึกไหม ท่านก็บอกว่า รอออกพรรษาก่อน พอถึงช่วงออกพรรษา หลวงปู่สิม ก็ถามอีกว่า จะสึกไหม ท่านก็คิดในใจว่า บวชเพียง 1 พรรษา นั้นยังเรียนพระธรรมไม่ค่อยเพียงพอ ท่านก็บอกว่า ท่านจะบวชไปเรื่อย ๆ ก่อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤษภาคม 2023
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    บุญขายผมเป็นค่าภัตตาหาร ได้เป็นพระราชินี

    thamnu onprasert
    May 1, 2023

    หญิงสาวผู้งดงามผมยาวสลวย แต่ยากจน ได้ยอมขายผมของตนเพื่อนำเงินมาเป็นค่าภัตตาหารแด่พระมหากัจจายนะและหมู่สงฆ์ ด้วยอานิสงส์แห่งบุญอันเลิศนั้น ส่งผลให้เธอได้เป็นพระราชินีแห่งกรุงอุชเชนี
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    ผีที่โรงพยาบาล : หลวงพ่อเล่าเรื่องผี

    หลวงตา
    May 1, 2023
    หลวงพ่อเล่าเรื่องผี ตอน ผีที่โรงพยาบาล

    หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี
     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    เล่าเรื่องลี้ลับ กับ หนุ่ม คงกระพัน | ตำนานกำเนิดหลวงปู่ทวดกับเศรษฐีจอมโลภ

    หนุ่มคงกระพัน official
    Apr 8, 2023

    ตำนานกำเนิดหลวงปู่ทวดกับเศรษฐีจอมโลภ
    เล่าเรื่องลี้ลับกับหนุ่มคงกระพัน เรื่องราวตำนานการถือกำเนิดของหลวงปู่ทวด พระอริยสงฆ์แห่งสยามประเทศ ผู้ที่ประกอบคุณงามความดี ให้กับบ้านเมือง… และตามตำนานเล่าว่าเป็นพระอริยสงฆ์ที่มีสติปัญญาเฉียบแหลม ท่านเกิดในช่วงปลายกรุงศรีอยุธยาในรัชสมัยของสมเด็จพระมหาธรรมราชา พระนเรศวร สมเด็จพระเอกาทศรสในช่วงเวลานั้น ตำนานการเกิดของท่านมีเรื่องราวเกี่ยวกับลูกแก้ววิเศษและเศรษฐีจอมโลภ…
    เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามคลิปนี้ครับ กำเนิดหลวงปู่ทวด
    ช่องทางการติดต่อสื่อสาร ดูข้อมูลช่องเราเพิ่มเติม
    Facebook ☛ https://www.facebook.com/KongkapanFC
    Twitter ☛ https://twitter.com/Officia57113394
    Tiktok ☛ https://www.tiktok.com/@kongkapanoffi...
    Line Official ☛ https://line.me/R/ti/p/@bangaor
    KongkapanStore ☛ https://www.kongkapan.com/
     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    EP9 ตอนพระชราลึกลับมาใส่บาตร I หลวงพ่อมหาวิจุล ปิยภาณี

    EP10 ตอนปรากฏกายทิพย์ภิกษุโบราณ I หลวงพ่อมหาวิจุล ปิยภาณี

    Yang song channel วันนี้มีเรื่องมาเล่า
    May 3, 2023
    e4fPKvzrYAr3B_p0mx5bGaggfqqN3m9byFIWXYAWPZ_iQNaRq8hIme_cv-63x7nv1FMajA=s48-c-k-c0x00ffffff-no-rj.jpg
    ID On Earth

    1 day ago
    พระคาถาโสฬสมงคล วัดสะพานสูง ตั้งนะโม 3 จบ

    "โสฬะสะมังคะลัญเจวะ นะวะโลกุตตะระธัมมะตา จัตตาโรจะมหาทีปาปัญจะพุทธามหามุนี ตรีปิฏะกะธัมมักขันธา ฉะกามาวะจะราตะถาปัญจะทัสสะกะเวสัจจัง ทะสะมังสีละเมวะจะ เตรัสสะธุตังคาจะปาฎิหารัญจะทะวาทัสสะ เอกะเมรุจะ สุราอัฎฐะ ทะเวจันทังสุริยังสัคคาสัตตะโพชฌังคาเจวะ จุททัสสะจักกะวัตติจะ เอกาทะสะวิสะณุราชา สัพเพเทวา สะมาคะตา มังรักขันตุ ปะลายังตุ เตสัพพะทา เอเตนะ มังคะละเตเชนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ เม ฯ"
    :--> http://www.watphraprangsida.com/about_temple/current_abbot/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2023
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    ๒๗๒.ลึกลับดอยเมืองสาด ธุดงค์ป่ารัฐฉาน

    thamnu onprasert
    May 4, 2023

    พระภิกษุหนุ่มจากเมืองไทยเดินธุดงค์ไปนมัสการพระพุทธบาทบนดอยนกฮุ้ง เขตเมืองสาด รัฐฉานใต้ ระหว่างการเดินทางได้พบสิ่งลึกลับบนดอยสูง
     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    หลวงปู่โส พระป่าแห่งเมืองขอนแก่น

    หลวงตา
    Apr 29, 2023
    ประวัติหลวงปู่พระมหาโส กัสสโป วัดคำแคนเหนือ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    หลวงปู่พระมหาโส-กัสสโป-วัดป่าคำแคนเหนือ-อ.-มัญจาคีรี.-จ-ขอนแก่น.jpg
    ประวัติและปฏิปทา
    หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป

    วัดคำแคนเหนือ
    อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น

    หลวงปู่มหาโส ถือกำเนิดเมื่อวันจันทร์ที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๕๘ (เวลาตีสอง) ณ บ้านก่อ ต.หนองไข่นก อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี (บ้านเดียวกับพระอาจารย์บุญ ปัญญาวุโธ, พระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโม, และ หลวงปู่พระมหาสีทน กาญจโน) นามสกุลเดิมของท่านคือ ดีเลิศ

    โยมบิดาชื่อ เคน โยมมารดาชื่อ ค้ำ มีอาชีพทำนา ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๙ คน คือ
    ๑. นางพิมพา
    ๒. นางทุมมา
    ๓. นางสีทา
    ๔. นางสีดา
    ๕. นางทองสา
    ๖. หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป
    ๗. นายพรหมมา อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านก่อ
    ๘. นางวรรณา
    ๙. นายสง่า ดีเลิส อดีตสหกรณ์อำเภอม่วงสามสิบ
    บรรพชา
    ในปี พ.ศ.๒๔๗๗ หลวงปู่มหาโส เมื่อมีอายุ ๑๙ ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรกับหลวงปู่อุปัฌชาย์อ่อน ที่วัดบ้านก่อ (บ้านเกิดท่าน) เป็นการบวชหน้าไฟให้โยมมารดาซึ่งถึงแก่กรรมลง ตั้งใจจะบวชเพียง ๓ พรรษา แต่เมื่อได้ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ครบกำหนดแล้ว ก็ธรรมทำความรู้ในพระธรรมวินัยด้านปริยัติแตกฉาก จนสอบได้ นักธรรมตรี นักธรรมโท และนักธรรมเอก ติดต่อกันมาทุกปี จนทำให้มีศรัทธาบวชต่อ

    ลุถึงปี พ.ศ.๒๔๗๘ อายุครบ ๒๐ ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา โดยมีพระอุปัชฌาย์อ่อน เป็นพระอุปัฌชาย์ที่วัดบ้านเกิดนั่นเอง และได้จำพรรษาอยู่ที่นั่น

    [​IMG]
    หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป วัดป่าคำแคนเหนือ อ. มัญจาคีรี. จ ขอนแก่น
    หลวงปู่มหาโส กัสสโป ท่านไม่เคยพบกับหลวงปู่มั่นโดยตรง แต่ก็มีท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูมพันธุโล) วัดป่าโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี เป็นพระอาจารย์สอนกรรมฐาน และเป็นพระอุปัฌชาย์ผู้ญัตติเป็นธรรมยุติให้หลวงปู่ด้วย และท่านก็ยังมีท่านพระอาจารย์มหาสีทน กาญจโน พระวิปัสสนากรรมฐานผู้เป็นเสาหลักใหญ่ของจังหวัดขอนแก่นในขณะนั้น คอยสอนกรรมฐานให้หลวงปู่มหาโส เมื่อครั้งพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม พาหมู่คณะพระกรรมฐานมาจำพรรษาเพื่อเผยแผ่ธรรมะในจังหวัดขอนแก่น ระยะประมาณ พ.ศ.๒๔๗๒ – ๒๔๗๕ พระอาจารย์มหาสีทน ก็ได้ฝากหลวงปู่มหาโส และ หลวงปู่สิงห์ สุขปัญโญ (พระวิจิตรธรรมภาณี) อดีตเจ้าคณะ จ.อุบลราชธานี เป็นศิษย์พระอาจารย์สิงห์ด้วย

    ล่วงเข้าปี พ.ศ.๒๔๘๐ ท่านได้กราบลาพระอุปัฌชาย์อ่อน ออกเดินทางติดตามพระอาจารย์มหาสีทน กาญจโน (ซึ่งเป็นญาติกันด้วย) โดยมีจุดหมายปลายทางที่ จ.อุดรธานี เมื่อเดินทางถึง จ.อุดรธานี

    หลวงปู่พระมหาสีทน ได้นำท่านไปเปลี่ยนยัตติเป็นพระธรรมยุต ในวันที่ ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๘๐ ณ วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมี ท่านเจ้าคุณพระเทพกวี (จูม พันฺธุโล) ต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระธรรมเจดีย์ เป็นพระอุปัฌชาย์ มีพระครูสาสนูปกรณ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูประสาทคณานุกิจ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อญัตติแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดโพธิสมภรณ์

    หลวงปู่พระมหาโส เป็นพระผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัยปฏิบัติตามคำสอนขององค์ศาสดามาโดยตลอด ท่านแสวงธรรมทั้งในด้าน ปฏิยัติ (แสวงหาความรู้) ปฏิบัติ (แสวงธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า) ปฏิเวธ (แสวงหาธรรมด้วยปัญญาของตนเองเพื่อแสวงหาวิโมกติสุข)
    ถึงเวลาต่อมาในพรรษาที่ ๑๒ ท่านก็ได้แตกฉากบาลี จนสอบเปรียญธรรมสนามหลวงเป็น “พระมหา” ได้สำเร็จ และในปีเดียวกันก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสที่วัดศรีหมากหญ้า อ.เมือง จ.อุดรธานี ด้วย แต่เป็นเจ้าอาวาสอยู่ได้เพียง ๔ ปี หลวงปู่มหาโส ก็สละตำแหน่งเจ้าอาวาส และออกธุดงค์ต่อเพื่อแสวงหาสิ่งที่เรียกว่า “พ้นจากวัฏสงสาร” อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนาต่อไป

    [​IMG]
    หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป วัดคำแคนเหนือ มรณภาพ
    [​IMG]
    หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป วัดคำแคนเหนือ มรณภาพ
    [​IMG]
    อัฐิธาตุ หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป วัดป่าคำแคนเหนือ อ. มัญจาคีรี. จ ขอนแก่น
    หลวงปู่มหาโส กัสสโป แห่งวัดป่าคำแคนเหนือ ตำบลคำแคน อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น ท่านละสังขารลงเมื่อวันอังคารที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๙ เมื่อเวลา ๑๒.๒๐ น.

    สิริอายุ ๑๐๐ ปี ๓ เดือน ๘ วัน พรรษา ๗๙ (นับจากญัตติธรรมยุต)
    :-->https://www.108prageji.com/หลวงปู่พระมหาโส-กัสสโป/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    บันทึกธุดงค์ หลวงพ่อเปลี่ยน ตอนที่ 4

    หลวงตา
    Apr 16, 2023
     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    lpseksankitisaro.jpg
    ดวงธรรม วิชามหัศจรรย์ผู้เฒ่านิรนาม

    สารคดี วัฒนธรรมประเพณีและความเชื่อ
    Apr 11, 2023

    เรื่องเล่าพระ ว่าด้วยเรื่องของ ดวงธรรม วิชามหัศจรรย์ผู้เฒ่านิรนาม หลวงพ่อเสกสรรค์ กิตติสาโร
    วิชาดวงธรรมบรรลุ
    จากคำแนะของครูบาอาจารย์ว่า "วิชาดวงธรรมนี้ เป็นวิชาอัศจรรย์ สามารถฝึกฝนเล่าเรียน แล้วนำมาช่วยเหลือสงเคราะห์ญาติโยมในเรื่องต่างๆ ได้"

    พระอาจารย์เสกสรรค์ กิตฺติสาโร ในสมัยที่ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุครั้งแรก ณ วัดศรีบุญเรือง ฝ่ายมหานิกาย อำเภอเมือง จังหวัดเลย ท่านบวชเป็นพระภิกษุได้ ๗ วัน ท่านได้รับคำแนะนำจากครูบาอาจารย์ ว่า "วิชาดวงธรรมนี้ เป็นวิชาอัศจรรย์ สามารถฝึกฝนเล่าเรียน แล้วนำมาช่วยเหลือสงเคราะห์ญาติโยมในเรื่องต่างๆ ได้"

    ธรรมที่พระอาจารย์เสกสรรค์ ได้นำมาสงเคราะห์แก่คนทั่วไป ตามแนวทางที่ท่านได้ฝึกอบรมปฏิบัติมา โดยมีพื้นฐานมาจากกรรมฐาน คือ หลักของการกระทำ รวมถึงวิปัสสนาเพื่อให้เกิดปัญญา มีสมาธิ มีจิตเป็นสติ ย่อมเกิดธรรมทั้งด้านอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ สิ่งที่เหนือมนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่จะสามารถรู้ได้ กระทำได้ในสภาวะของความเป็นทิพย์

    วิชาดวงธรรมที่พระอาจารย์เสกสรรค์ ได้รับถ่ายทอดมานั้น ขั้นแรกต้องมีการบูชาครู บูชาดวงธรรม ด้วยดอกไม้สีขาวธูปเทียน แต่งขันธ์ ๕ พร้อมผ้าขาว ๑ ผืน และเงินบูชา ๑ บาท เพื่อเป็นการเคารพคารวะบูชาครู

    ในการรับฝึกประจุวิชาดวงธรรม ขั้นแรกของการฝึกฝนวิชาดวงธรรมนั้น ต้องดำรงสติให้มั่น สำรวมใจ สำรวมกาย ดำรงกายให้ตรงคงมั่น เพราะหัวใจของการฝึกวิชาดวงธรรมนี้ ต้องใช้การฝึกสมาธิเพื่อมีสติ รู้ตัวอยู่ตลอดเวลามิให้เผลอ พร้อมกำหนดระลึกบริกรรม บทภาวนาพุทโธ ให้เร็วๆ ด้วยการออกเสียงดังๆ ยิ่งดี เป็นการประคองใจอยู่เสมอ โดยปฏิบัติดังนี้
    ๑. กราบบูชาพระรัตนตรัย และตั้งใจดำรงรักษาไว้ซึ่งวินัย ศีล
    ๒. นั่งในท่าขัดสมาธิ เท้าขวาทับเท้าซ้าย มือขวาทับมือซ้าย หลับตาพอสนิท
    ๓. บริกรรมบทภาวนาว่า "พุทโธ" ให้เสียงดังชัดเจน และสับ "พุทโธ" ให้แตกละเอียด ภาวนาไปเรื่อยๆ

    หลังจากนั้น อาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาดวงธรรม จะใช้ธูปหรือมือ ชี้ลงไปตามจุดต่างๆ ของร่างกาย พร้อมทั้งบริกรรมคาถาลงไปด้วย หลังจากได้รับการประจุดวงธรรมไปแล้ว ผู้ที่ได้รับการประจุพลัง วิชาดวงธรรม จะต้องหมั่นฝึกฝนด้วยตนเองอีกให้ได้ผลยิ่งๆ ขึ้นไป รวมทั้งฝึกวิปัสสนาเพิ่มเติม จึงจะเห็นผลของวิชาดวงธรรม จึงจะสามารถนำไปสงเคราะห์กับผู้ที่มาขอความช่วยเหลือในด้านต่างๆ

    วิชาดวงธรรมนี้จะมีถึง ๕ ห้อง หรือ ๕ ขั้น คุณประโยชน์ของห้องธรรมแต่ละขั้น มีความแตกต่างกันไป โดยสิ่งนี้จะเกิดขึ้นเอง เมื่อได้เรียนผ่านขั้นห้องดวงธรรมต่างๆ การพิจารณาธรรมต่างๆ โดยการถามดวงธรรมที่อยู่ในกายของตนที่ได้รับการประจุมา รวมถึงการฝึกวิปัสสนา จะได้รับคำตอบที่เกิดขึ้นเอง ในสมาธิในธรรมที่เกิดขึ้น คล้ายๆ กับมีสิ่งใดมาบอกให้เราหยั่งรู้สมาธิจิตนั้น

    พระอาจารย์เสกสรรค์ ท่านจะทำการถ่ายทอดให้กับศิษย์ที่จะฝึกวิชาดวงธรรมในวันอังคาร เพราะถือว่าเป็นวันแข็ง ในการฝึกรับประจุดวงธรรม มีกฎข้อห้ามต้องประพฤติปฏิบัติหลายๆ อย่าง พระอาจารย์จึงไม่ถ่ายทอดให้กับผู้ใดผู้หนึ่งง่ายๆ จนกว่าจะมั่นใจว่า ศิษย์ผู้นั้นจะสามารถปฏิบัติตามข้อห้ามอย่างเคร่งครัด เพราะหากผิดกฎข้อห้ามของครูบาอาจารย์ที่บอกไว้แล้ว ย่อมไม่เกิดผลดีต่อผู้ปฏิบัติผิดแน่ ซ้ำยังเป็นผลร้ายกับผู้นั้นด้วย ทำให้ชีวิตประสบกับปัญหาต่างๆ ซึ่งอาจเห็นผลในชาตินี้

    ข้อปฏิบัติและข้อห้าม สำหรับผู้เรียนวิชาดวงธรรม
    ๑. ต้องรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์
    ๒. ห้ามทานเนื้อมังสัง ทั้ง ๑๐ อย่าง อันได้แก่ เนื้อมนุษย์, เนื้อช้าง, เนื้อม้า, เนื้อสุนัขบ้าน, เนื้องู, เนื้อราชสีห์ (สิงโต), เนื้อเสือโคร่ง, เนื้อเสือดาว, เนื้อหมี และเนื้อสุนัขป่า
    ๓. ห้ามทานเนื้อดิบๆ
    ๔. ห้ามผิดลูกผิดภรรยาผู้อื่น

    บุคคลที่สามารถปฏิบัติได้เร็วหรือช้าของวิชาดวงธรรม ย่อมขึ้นอยู่กับความเอาใจใส่ ขยันหมั่นเพียรในการฝึก จะทำให้ดวงธรรมเข้มแข็งขึ้น สามารถนำออกมาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้อย่างดี และต้องอยู่ในกฎระเบียบที่เคร่งครัดทั้งการปฏิบัติและการอบรม ทั้งพระและฆราวาส เพราะต้องระมัดระวังตนเองอย่างยิ่ง ที่จะไม่ผิดกฎข้อห้ามของการฝึกดวงธรรม

    อีกสิ่งหนึ่งคือ บุคคลทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ มีบุญกรรมและวาสนาบารมีที่แตกต่างกัน การเรียนวิชาเริ่มต้นที่จุดเดียวกัน เวลาและสถานที่เดียวกัน แต่ผลออกมาต่างกัน บางคนไปโลดสอบผ่านฉลุย บางคนต้องรอเวลาอีกระยะหนึ่ง บางคนกรรมยังหนักอยู่ต้องขับกรรมก่อน ฉะนั้น ผลที่ได้รับจึงเปรียบเหมือนคนเดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง ณ สถานที่เดียวกัน บางคนไปโดยเครื่องบิน บางคนขับรถยนต์ บางคนไปทางรถไฟ บางคนขับมอเตอร์ไซค์ บางคนปั่นจักรยาน และบางคนเดินไป

    หากปรารถนาในการฝึกหรือได้มาซึ่งวิชาใด ควรถามตนเองให้ถ่องแท้ ว่าปรารถนาในวิชานั้นด้วยจิตอันตั้งมั่นในธรรมหรือไม่ ด้วยทุกสิ่งในโลกธรรมนี้มีคุณฉันใด โทษย่อมมีฉันนั้นเป็นธรรมดา ทำดีหรือทำชั่วก็ต้องยอมรับผลนั้นดุจเดียวกัน
    :-->https://www.baanmaha.com/community/showthread.php?23686-วิชาดวงธรรมบรรลุ


     
  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    อุทิศบุญช่วยให้โยมแม่ พ้นจากนรกมืด

    thamnu onprasert
    May 10, 2023

    หญิงที่น่าสงสารคนหนึ่งตายไปแล้ว ต้องไปตกนรกมืดอยู่นานถึง๔๓ ปี แต่รอดพ้นมาได้ ด้วยแรงบุญอุทิศของพระลูกชายผู้เป็นพระสุปฏิปันโน
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049

แชร์หน้านี้

Loading...