หลวงพ่อสำเร็จศักดิสิทธิ์ /รวมเรื่องหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ในห้อง 'ประวัติและนิทานธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 12 สิงหาคม 2017.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    หลวงพ่อสุทัศน์-โกสโล.jpg
    ประวัติและปฏิปทา
    หลวงพ่อสุทัศน์ โกสโล

    วัดกระโจมทอง
    ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

    ◎ ถือกำเนิด
    หลวงพ่อสุทัศน์ โกสโล ถือกำเนิดเมื่อวันจันทร์ที่ ๖ มกราคม พ.ศ.๒๔๗๘ ปีกุน ในตระกูลชาวนา เป็นบุตรของ นายพรหม และ นางพันธ์ ตามภานนท์ ซึ่งเป็นนามสกุลที่ได้รับพระราชทานเมื่อสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ในจำนวนพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๗ คน ท่านเป็นคนที่ ๖ ณ ต.ท่าพญา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ด้วยบิดาของท่านเป็นพระภิกษุถึง ๒๐ พรรษา เป็นพระนักเทศน์ที่ได้รับความเคารพนับถือจากภิกษุอื่น นอกจากนั้นยังเป็นสมภารปกครองหลายวัด ถึงแม้ว่าโยมบิดาจะสึกมามีครอบครัวแล้วก็ตาม พระภิกษุอื่นก็ยังเคารพโยมบิดาในฐานะของอาจารย์เสมอมา โยมบิดาท่านปฏิบัติตัวอยู่ในศีลในธรรมเสมอๆ ประกอบทั้งได้อบรมลูกๆ ให้มีความเคารพต่อพระบรมศาสดา สอนให้ละการเบียดเบียนบุคคลอื่นด้วยกาย วาจา และใจ และชี้แนะแนวทางในการช่วยเหลือมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยากด้วยพรหมวิหาร ๔


    ◎ ในช่วงสงครามโลก
    ในราวปีพุทธศักราช ๒๔๘๘ ขณะที่ท่านอยู่ระหว่างการศึกษาเล่าเรียนนั้นได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ขึ้น หลังจากสงครามสงบลงใหม่ๆ ภายในหมู่บ้านได้เกิดอาการไข้แพร่เชื้อติดต่อกัน ในจำนวนผู้เป็นไข้นั้นมีตัวท่านเอง น้องชายของท่าน เพื่อนเล่นของท่านและเด็กคนอื่นๆ แต่ก็ไม่มียามารักษา เพราะว่าหลังสงครามขณะนั้นยาหายากมาก อาการไข้ของน้องชายและเพื่อนของท่านทวีขึ้นอย่างรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ และถึงแก่ความตายในที่สุด ความตายนี้มาพรากน้องชายและเพื่อนของท่าน ทำให้ท่านเสียใจอย่างสุดซึ้ง ได้บังเกิดเป็นสิ่งมหัศจรรย์สิ่งหนึ่งเข้ามาในจิตใจของท่าน
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    (ต่อ)
    ◎ สิ่งอัศจรรย์เกิด
    ในขณะที่ใคร่ครวญพิจารณาศพเพื่อนและน้องชายด้วยใจจดใจจ่อ ได้บังเกิดเป็นฝ้าขาวบางแผ่กระจายไปทั่วบริเวณและได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อนเดินผ่านหน้าท่านไปอย่างช้าๆ ทำให้ท่านหวนคิดไปว่า ผู้หญิงคนนั้นเขามีสิ่งใด เขาจึงเดินได้ เคลื่อนไหวได้ แล้วเพื่อนของเราขาดสิ่งใด จึงเคลื่อนไหวไม่ได้ ในขณะที่คิดพิจารณาอยู่กับการตายของน้องและเพื่อนนั้น จิตเริ่มค่อยๆ ลงสู่ความสงบพร้อมกับฝ้าขาวค่อยๆ หนาขึ้น หนาขึ้น จนกระทั่งเห็นสีขาวเต็มไปหมด นานเท่าไรไม่ทราบได้ จิตจึงเริ่มถอนออกมา รับรู้สภาพภายนอก ทบทวนย้อนหลังกลับไปถึงสาเหตุของสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับความคิดที่พิจารณาถึงความตาย หลังจากนั้นเป็นต้นมาในดวงใจของท่านเหมือนมีสิ่งมาดลใจไปให้ท่านอยากบวชเสมอมา

    กุศลดลใจ สิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจอีกสิ่งคือ เสียงเด็กร้องไห้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ถ้าท่านได้ยินเมื่อไร จะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดเหมือนถูกกรีดด้วยมีดคม ต้องหลีกให้ไกลเท่าที่จะไกลได้ จนไม่ได้ยินเสียง มูลเหตุนี้ทำให้ท่านคิดว่า สมมติว่าเราแต่งงานมีลูก ถ้าลูกร้องแล้วเราเจ็บปวดอย่างนี้ เราจะเข้าไปหาลูก หรือเราจะหนีลูก ได้รับคำตอบมาทันทีว่า เราต้องหนี และถ้าเราหนีขณะที่ลูกร้องจะตาย ใคร ๆ เขาจะว่าเราบ้า เพราะมันไม่ใช่พ่อคนแล้ว พ่อสัตว์แน่ๆ

    ◎ เข้าพิธีอุปสมบท
    เมื่อท่านพิจารณาเช่นนั้น ท่านจึงตั้งปณิธานไว้ว่าจะไม่ขอแต่งงานเด็ดขาด ยิ่งเป็นการสนับสนุนความคิดเดิมที่จะบวชให้ทวียิ่งขึ้นไปอีก หลังจากนั้นมา ท่านก็ขอฝากตัวเป็นศิษย์ของพระครูประภาส ภูมิสถิต วัดคงคาสวัสดิ์ ที่ท่านเล่าเรียนหนังสืออยู่ ได้ติดสอยห้อยตามพระครูไปในสถานที่ต่างๆ ในกรณีที่ท่านมีกิจนิมนต์เทศน์ และปรนนิบัติท่านพระครูด้วยดี ในยามว่างจากการปรนนิบัติแล้ว ท่านพระครูมักจะไล่ให้ท่านลงไปพิจารณากรรมฐาน โดยให้พิจารณา ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ทุกๆ คืน นอกจากนี้ ท่านยังได้ศึกษาด้านปริยัติและได้นำบทเรียนที่เกี่ยวกับการทำกสิณมาปฏิบัติจนกระทั่งท่านมีความชำนาญในฝ่ายสมถะมากพอสมควร

    ในปีพุทธศักราช ๒๕๐๒ ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดคงคาสวัสดิ์ ต.คงคาสวัสดิ์ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช โดยมี ท่านพระครูประภาส ภูมิสถิต เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์เจิม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระปลัดเกตุ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้อยู่ศึกษาด้านพระปริยัติธรรม ๑ ปี แล้วย้ายไปอยู่วัดวิชิตสังฆาราม ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อศึกษาทางด้านภาษาบาลี แต่เรียนไม่จบ เนื่องจากท่านเป็นเนื้องอกในจมูก จึงได้กลับมาศึกษานักธรรมเอกที่วัดคงคาสวัสดิ์ดังเดิม และออกธุดงค์ในเวลาต่อมา

    ◎ วาตภัย ที่แหลมตะลุมพุก
    ราวปีพุทธศักราช ๒๕๐๕ หลังจากที่ท่านและสหายได้เดินทางกลับจากธุดงค์ เพื่อจะสอบนักธรรมและสอบได้ในคราวนั้นแล้ว ปีนั้นได้เกิดวาตภัยครั้งใหญ่ที่แหลมตะลุมพุก ที่ อ.ปากพนัง เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตคนสัตว์อย่างมากมาย มีการทยอยนำศพมาตั้งไว้ที่วัดคงคาสวัสดิ์นั้นมากมายเต็มศาลา ทำให้ท่านรำพึงว่า..
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    (ต่อ)
    “มนุษย์เราไม่ว่าจะมีตำแหน่งใหญ่โต ร่ำรวยมหาศาล สวยหรืองาม ทุกข์ยากลำเข็ญเพียงใด ก็หนีความตายไม่พ้น เมื่อตายแล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้ เกิดตายเช่นนี้ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันชาติ ศีล สมาธิ และปัญญาเป็นทางไปแห่งความไม่ตายที่นิจนิรันดร์”

    เสียงหนึ่งผุดกังวานขึ้นในใจ เป็นเหตุให้ท่านเบื่อหน่ายต่อความเกิด มุ่งที่จะปฏิบัติอย่างเต็มกำลัง

    เมื่อดำริเช่นนั้นแล้วจึงได้จัดเตรียมบริขาร และชักชวนพระสหายออกเดินธุดงค์แถบป่าเขา จ.นครศรีธรรมราช อีกครั้ง ท่านได้ไปลาโยมพ่อ โยมพ่อแสดงความห่วงใยและแนะนำให้ไปนมัสการพระบรมธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนออกเดินทาง ท่านก็ได้รับปาก จังหวะเดียวกันนั้นท่านได้รับนิมนต์ให้ไปฉันที่วัดทับโคก และได้พบกับท่านพระอาจารย์อุดม สมถกิจ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดนั้น ท่านได้บอกความตั้งใจที่จะธุดงค์ พระอาจารย์อุดมก็เห็นดีด้วย เพราะคำนึงถึงผลที่จะได้รับจากการธุดงค์ พร้อมกันนั้นพระอาจารย์อุดมได้แนะนำให้ท่านเดินทางไปกราบนมัสการพระอาจารย์ใหญ่ ธัมมธโร ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่วัดชายนา หาแนวทางในการปฏิบัติไว้เป็นพื้นฐานเสียก่อนจะไปธุดงค์ พระอาจารย์สุทัศน์ก็เห็นด้วยกับคำแนะนำนั้น ได้เป็นศิษย์รุ่นแรกของพระคุณอาจารย์ใหญ่ ธัมมธโร พระครูภาวนานุศาสก์

    ◎ ให้สัจจะ ปฏิบัติสู่ความรู้แจ้งในขันธ์ ๕
    ในวันมาฆบูชานั่นเอง เป็นวันที่หลวงพ่อสุทัศน์ และพระอาจารย์บัญญัติ ได้เดินทางไปทำการนมัสการพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ด้วยการเวียนเทียนและเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางอีกที่หนึ่งคือวัดชายนา ครั้งแรกที่ท่านพบพระคุณอาจารย์ใหญ่ ธัมมธโร ขณะนั้นท่านกำลังทำการสอบอารมณ์แม่ชีอยู่และได้มีการการไต่ถามข้อที่กล่าวด้วยมรรคมีองค์ ๘ โดยพระอาจารย์ใหญ่เป็นผู้ถามและแม่ชีน้อยเป็นผู้ตอบ
     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    (ต่อ)
    หลวงพ่อสุทัศน์ ท่านยืนฟังและพิจารณาตามจนจิตเกิดความสงบนึกนิยมชมชอบในตัวพระคุณอาจารย์ใหญ่และคำตอบของแม่ชีน้อยที่โต้ตอบไป พลางรำพึงในใจว่า เราเรียนนักธรรมมายังตอบไม่ได้ลึกซึ้งอย่างนี้เลย เมื่อได้โอกาสแล้ว พระอาจารย์สุทัศน์จึงเข้ากราบเรียนจุดประสงค์ในการเดินทางมาครั้งนี้ ซึ่งพระคุณอาจารย์ใหญ่ก็รับด้วยความยินดี พร้อมกับแจงการปฏิบัติของท่านว่า

    “การปฏิบัติให้จับอิริยาบถทั้ง ๔ คนเรามี การยืน การเดิน การนั่ง การนอน ทุกคน แต่ไม่มีใครเลยที่ตามจับความรู้สึกในอิริยาบถทั้ง ๔ ให้ใช้ความเพียรพยายามในการติดตาม อย่าย่อท้อ”

    อุบายการสอนของพระคุณอาจารย์ใหญ่สอนเพียงสั้นๆ แต่กินใจของหลวงพ่อสุทัศน์อย่างลึกซึ้ง เหมือนหนึ่งส่องไฟที่มีดให้สว่าง หงายของคว่ำให้แจ้ง บังเกิดศรัทธาอย่างแรงกล้า ได้ให้สัจจะต่อหน้าพระคุณอาจารย์ใหญ่ว่า

    “ตราบใดที่ผมได้ปฏิบัติอยู่ในสำนักนี้ ถ้าไม่แจ้งในขันธ์ ๕ นี้จะไม่ขอพูดกับใคร”

    ท่านได้ตั้งใจปฎิบัติโดยมีพระคุณอาจารย์ใหญ่คอยเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด จนท่านพิจารณาเห็นว่าท่านพอจะมีสติและปัญญาเป็นเครื่องคุ้มครองตัวได้ พร้อมกับมีศรัทธาเชื่อมั่นในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างสูงยิ่ง ท่านจึงปรารถนาที่จะไปนมัสการพระเจดีย์ชเวดากองที่ประเทศพม่า ที่เชื่อว่ามีพระเกศาของพระพุทธองค์ประดิษฐานอยู่ จึงได้ออกธุดงค์พร้อมพระสหายในปีพุทธศักราช ๒๕๐๖ นั่นเอง

    ◎ รับหน้าที่ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกระโจมทอง
    ปีพุทธศักราช ๒๕๐๘ ท่านกลับจากธุดงค์ในประเทศพม่า โดยได้ไปกราบนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ณ. พระเจดีย์ชเวดากองแล้ว ท่านก็ได้เข้ากราบนมัสการพระครูประภาส ภูมิสถิต และเดินทางเข้ากราบพระคุณอาจารย์ใหญ่ ธัมมธโร แล้วได้รับมอบหมายจากท่านพระอาจารย์ใหญ่ ธัมมธโร ให้ช่วยอบรมพระภิกษุและฆราวาสที่วัดอัมพวัน เขตดุสิต กรุงเทพฯ
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    (ต่อ)
    ปีพุทธศักราช ๒๕๑๒ ท่านอาจารย์สุทัศน์เป็นกำลังสำคัญร่วมกับพระคุณอาจารย์ใหญ่ ธัมมธโร จัดประชุมสัมมนาพระวิปัสสนาจารย์ทั่วประเทศครั้งที่ ๑ โดยสมเด็จพระสังฆราชปุน ปุณณสิริ ขณะดำรงตำแหน่งเป็น พระวันรัตน์ประธานเมตตาเปิดการประชุมครั้งนี้ เป็นไปเพื่อการเผยแพร่และยืนยันการเจริญวิปัสสนากรรมฐานในแนวสติปัฏฐาน ๔ ถือเป็นจุดเริ่มที่น่าภูมิใจ

    ะโจมทอง-ต.วัดชลอ-อ.บางกรวย-จ.นนทบุรี.jpg
    หลวงพ่อสุทัศน์ โกสโล วัดกระโจมทอง ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
    ปีพุทธศักราช ๒๕๑๒ สมเด็จพระสังฆราชปุน ปุณณสิริ ขณะดำรงตำแหน่งเป็นสมเด็จพระวันรัตน์ได้ประทานพื้นที่รกร้าง มีโบราณสถานเป็นลักษณะโบสถ์ มีพระพุทธรูป ๓ องค์ สันนิษฐานว่าเป็นโบราณสถานสมัยอู่ทองยุคต้น ให้แก่พระคุณอาจารย์ใหญ่ ธัมมธโร เพื่อพิจารณาพัฒนาให้เป็นสถานที่เพื่อการเผยแพร่การปฏิบัติธรรมและให้เป็นที่พึ่งพิงแก่ชาวบ้าน พระคุณอาจารย์ใหญ่ ธัมมธโร จึงมอบหมายให้พระอาจารย์สุทัศน์ โกสโล ศิษย์คนสำคัญเป็นเจ้าอาวาสวัดนั้น ซึ่งก็คือ วัดกระโจมทอง ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี จนถึงปัจจุบัน
    ขอบพระคุณที่มา :-->https://www.108prageji.com/หลวงพ่อสุทัศน์-โกสโล/
     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    หลวงปู่ซามา ออกธุดงค์

    หลวงตา
    Dec 11, 2022
    หลวงปู่ซามา ออกธุดงค์

    ประวัติและปฏิปทาหลวงปู่ซามา อจุตโต วัดป่าอัมพวัน ต.น้ำหมาน อ.เมือง จ.เลย
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    ๒๗๘.ลึกลับดอยเมืองพง ธุดงค์ป่ารัฐฉาน

    thamnu onprasert
    Jul 15, 2023
    พระภิกษุหนุ่มจากเมืองไทย พบสิ่งลึกลับผีเฝ้าสมบัติบนดอยสูงเขตเมืองพง

     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    ๑๔๕.อาถรรพ์คำสาปผี วัดอุโมงค์ ผจญภัยบนดอยสูง

    thamnu onprasert
    Jul 2, 2023

    กลุ่มคนไปขุดสมบัติใต้ฐานพระเจดีย์วัดอุโมงค์ ถูกผีสาปแช่งล้มตาย ส่างอุ่นเปิงได้ช่วยเหลือนำพาสมบัติไปคืนยังวัดดังเดิม
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    "เทพบุตรดวงจันทร์ "ผลบุญแห่งการถวายผงจันทร์แดง

    thamnu onprasert
    Jul 17, 2023

    ชายชาวป่าคนหนึ่ง ได้ถวายผงจันทร์แดงอันมีกลิ่นหอมกรุ่นบูชาพระบรมธาตุเจดีย์ อานิสงส์แห่งการบูชานั้น ทำให้เขาไปเกิดในสวรรค์นานตลอดพุทธันดรและเมื่อมาเกิดมาเป็นมนุษย์ก็ได้มีแสงรัศมีวงพระจันทร์ปรากฏที่กลางกายเป็นที่น่าอัศจรรย์!
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    แปลกแต่จริง! แม่กระรอกมาร้องขอความช่วยเหลือจากหลวงปู่ชอบ

    ปู่ดอน station
    Jul 19, 2023

    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม พระอริยสงฆ์ผู้ทรงฤทธิ์ ท่านได้ยินเสียงแม่กระรอกร้องขอความช่วยเหลือจากภัยอันตรายที่เกิดจากงูเขียวมาคุกคาม ท่านจึงได้บอกพระเณรให้รีบไปช่วยเหลือแม่กระรอกทันทีเ้วยความเมตตา..
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    ผีห้วยกร้อ : หลวงพ่อเล่าเรื่องผี

    หลวงตา
    May 6, 2023
    หลวงพ่อเล่าเรื่องผี ตอน ผีห้วยกร้อ
    หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี

     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    lpkasemkhemako.gif
    ประวัติ : หลวงพ่อเกษม เขมโก - สำนักสุสานไตรลักษณ์ ลำปาง

    นามเดิม : เกษม ณ ลำปาง

    กำเนิด : วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2455 ตรงกับวันพุทธ เดือนยี่ (เหนือ) ปีชวด ร.ศ.131 ค.ศ.1912

    สถานที่เกิด : บ้านท่าเก๊าม่วง ริมแม่น้ำวัง อ.เมือง จ.ลำปาง

    บิดา : เจ้าหนูน้อย ณ ลำปาง ภายหลังเปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น มณีอรุณ มารดาชื่อเจ้าแม่บัวจ้อน ณ ลำปาง

    อุปสมบท : อุปสมบทเป็นพระภิกษุในปี พ.ศ.2475 ณ พัทธสีมา วัดบุญยืน

    มรณภาพ : วันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2539
    ครูบาเจ้าเกษม เขมโก
    สำนักสุสานไตรลักษณ์ ลำปาง
    โดย ดาวลำปาง


    ณ ดินแดนถิ่นล้านนา ทางภาคเหนือของประเทศไทย พระอริยะสงฆ์ที่พวกเราทุกคนรู้จักชื่อเสียงคุณงามความดีของท่าน ก็คือ ครูบาศรีวิชัย อริยะสงฆ์องค์แรกของภาคเหนือท่านเปรียบเสมือนประทีปดวงใหญ่ที่ส่องประกายธรรมไปทั่วทุกสารทิศ ขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้ประกอบคุณงามความดีไว้กับแผ่นดินนี้มากมาย ท่านจึงถูกจัดให้เป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาวเหนือ

    ประวัติและเรื่องราวต่าง ๆ ของท่าน จึงถูกบันทึกเพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้รับรู้ถึงในยุคปัจจุบัน ประวัติบางตอน ของครูบาศรีวิชัยตอนหนึ่ง กล่าวว่าท่านครูบาศรีวิชัยได้พยากรณ์ไว้ว่าจะมีตนบุญมาเกิดที่ลำปาง ครั้นต่อมาครูบาศรีวิชัยได้มรณภาพไปโดยทิ้งคำพยากรณ์นี้ไว้ให้ชาวลำปางได้เฝ้ารอคอยการมาจุติของตนบุญ ที่ครูบาศรีวิชัยได้พยากรณ์ไว้ จนเวลาล่วงเลยไปหลายสิบปี ก็ยังไม่ปรากฏ แต่ชาวลำปางก็ยังเชื่อในคำพยากรณ์ของครูบาศรีวิชัย

    เมื่อปี พ.ศ.2455 ได้มีครอบครัวเชื้อเจ้าผู้ครองนครลำปางหรือเขลางค์นครในอดีตหัวหน้าครอบครัวคือ เจ้าหนูน้อย ณ ลำปาง ภายหลังเปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น มณีอรุณ รับราชการเป็นปลัดอำเภอภรรยาชื่อเจ้าแม่บัวจ้อน ณ ลำปาง ทั้งสอง เป็นหลานเจ้าของพ่อบุญวาทย์ วงศ์มานิตย์ เจ้าผู้ครองนครลำปางองค์สุดท้าย

    ครอบครัวนี้ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านท่าเก๊าม่วง ริมแม่น้ำวัง อ.เมือง จ.ลำปาง อยู่กินกันมาอย่างมีความสุข ในที่สุด เจ้าแม่บัวจ้อนได้ตั้งครรภ์ และพอถึงกำหนดคลอดตรงกับวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2455 ตรงกับวันพุทธ เดือนยี่ (เหนือ) ปีชวด ร.ศ.131 ค.ศ.1912 เจ้าแม่บัวจ้อน ให้กำเนิดทารกเพศชาย เป็นลูกคนแรกของครอบครัว

    ขณะนั้นไม่มีใครทราบกันเลย ตนบุญ ที่ครูบาศรีวิชัยได้พยากรณ์ไว้นั้นได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว บิดามารดาก็ได้ตั้งชื่อทารกนั้น เกษม ณ ลำปาง เพราะเด็กชายเกษม ณ ลำปาง ได้เกิดมาในเชื้อสายของเจ้าทางเหนือ จึงได้รับการยกย่องของคนทั่วไป ทุกคนต่างเรียกกันว่า เจ้าเกษม ณ ลำปาง หลังจากที่ได้คลอดบุตรมาได้ไม่กี่ปี เจ้าแม่บัวจ้อนได้ให้กำเนิดทารกอีกคน แต่เป็นเพศหญิง ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องของ เจ้าเกษม สืบสายเลือด แต่ทว่าเจ้าแม่น้อยคนนี้วาสนาน้อย ได้เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก จึงไม่มีโอกาสได้รู้ว่าพี่ชายของเธอคือ ตนบุญ ที่ชาวลำปางรอคอยเป็นสิบ ๆ ปี

    เมื่อวัยเด็ก เจ้าเกษม ณ ลำปาง เป็นคนมีลักษณะค่อนข้างเล็กบอบบาง ผิวขาวแต่ดูเข้มแข็ง คล่องแคล่ว และมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด เป็นเด็กที่ชอบซน คืออยากรู้อยากเห็น เมื่อถึงวัยเรียน เจ้าเกษม ณ ลำปาง ได้รับการศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนบุญทวงศ์อนุกูล ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ อ.เมือง จ.ลำปาง สมัยนั้นเปิดเรียนชั้นสูงสุดแค่ชั้นประถมปีที่ 5 เท่านั้น เจ้าเกษม ณ ลำปาง ได้ศึกษาจนจบชั้นสูงของโรงเรียน คือชั้นประถมปีที่ 5 ใน พ.ศ.2466 ขณะนั้นอายุ 11 ปี

    เมื่อออกจากโรงเรียนก็ไม่ได้เรียน อยู่บ้าน 2 ปี ใน พ.ศ.2468 อายุขณะนั้นได้ 13 ปี เจ้าเกษม ณ ลำปาง ก็ได้มีโอกาสเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ โดยบรรพชาเป็นสามเณร เนื่องในโอกาสบรรพชาหน้าศพ (บวชหน้าไฟ) ของเจ้าอาวาสวัดป่าดั๊ว ครั้นบวชได้เพียง 7 วันก็ลาสิกขาออกไป ต่อมาอีก 2 ปี ราว พ.ศ.2470 ขณะนั้นมีอายุ 15 ปี เจ้าเกษม ณ ลำปาง ก็ได้มีโอกาสเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้งหนึ่ง โดยบรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดบุญยืน จ.ลำปาง เมื่อบรรพชาแล้วสามเณรเจ้าเกษม ณ ลำปาง ก็ได้จำพรรษาศึกษาพระธรรมวินัยที่วัดบุญยืนนั่นเอง สามเณรเจ้าเกษม ณ ลำปาง เป็นคนที่ทำอะไรจริงจัง เรียนทางด้านปริยัติศึกษาธรรมะจนถึง ปี พ.ศ.2474 สามเณรเจ้าเกษม ก็สามารถสอบนักธรรมชั้นโทได้ ครั้นมีอายุได้ 21 ปี อายุครบที่จะอุปสมบทเป็นพระภิกษุได้แล้ว จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุในปี พ.ศ.2475 ณ พัทธสีมา วัดบุญยืน โดยมีพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระธรรมจินดานายก (ฝ่าย) เจ้าอากาสวัดบุญวาทย์วิหาร ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอในขณะนั้นเป็นพระอุปัชฌาย์ พระคุณเจ้าท่านพระครูอุตตร วงศ์ธาดา หรือที่ชาวบ้านเหนือรู้จักกันในนาม ครูบาปัญญาลิ้นทอง เจ้าอาวาสวัดหมื่นเทศ และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเมือง จังหวัดลำปางในขณะนั้น เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และยังพระเดชพระคุณท่านพระธรรมจินดานายก(อุ่นเรือน) เจ้าอาวาสวัดป่าดั๊วเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า เขมโก แปลว่า ผู้มีธรรมอันเกษม

    หลังจากได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว พระภิกษุเกษม เขมโกก็ได้ศึกษาทางด้านภาษาบาลี ซึ่งเป็นการศึกษาปริยัติอีกแขนงหนึ่ง ที่สำนักวัดศรีล้อม สมัยนั้นก็มีอาจารย์หลายรูป เช่น มหาตาคำ พระมหามงคลเป็นครูผู้สอน และยังได้ไปศึกษาที่สำนักวัดบุญวาทย์วิหาร ซึ่งมีพระมหามั่ว พรหมวงศ์ และพระมหาโกวิทย์ โกวิทญาโน เป็นครูสอน

    ในเวลาเดียวกันนั้น พระภิกษุเจ้าเกษม เขมโก ก็ได้ไปศึกษาทางด้านปริยัติในแผนกนักธรรมต่อที่สำนักวัดเชียงราย ครูผู้สอนคือ พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระเทพวิสุทธิโสภณ เจ้าคณะจังหวัดลำปางสมัยนั้น ปรากฎว่าพระภิกษุเจ้เกษม เขมโก ก็สามารถสอบนักธรรมชั้นเอกได้ในปี พ.ศ.2479 ส่วนทางด้านการศึกษาบาลีนั้น ท่านเรียนรู้จนสามารถเขียนและแปลได้เป็น (มคธ) เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ยอมสอบเอาวุฒิ จนครูบาอาจารย์ทุกองค์ต่างเข้าใจว่า พระภิกษุเกษม เขมโก ไม่ต้องการมีสมณศักดิ์สูง ๆ เรียนเพื่อจะนำเอาวิชาความรู้มาใช้ในการศึกษาค้นคว้าพระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดาเท่านั้น

    เมื่อสำเร็จทางด้านปริยัติพอควรแล้ว สามารถนำไปปฏิบัติได้โดยไม่หลงทาง ท่านจึงหันมาปฏิบัติต่อไปจนแตกฉาน แค่นั้นยังไม่พอ พระภิกษุเกษม เขมโก ได้เสาะแสวงหาครูบาอาจารย์ที่มีความรู้และมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ จนกระทั่งได้ทราบข่าวภิกษุรูปหนึ่งมีชื่อเสียงในด้านวิปัสสนา ภิกษุรูปนี้ คือครูบาแก่น สุมโน อดีตเจ้าอาวาสวัดประตูป่อง

    ครูบาแก่น สุมโน เป็นพระภิกษุสายวิปัสสนา ถือธุดงค์เป็นวัตร หรือที่เรียกกันว่า พระป่า หรือภาษาทางการเรียกว่า พระภิกษุฝ่ายอรัญญวาสี ตอนนั้นครูบาแก่นท่านได้ธุดงค์แสวงหาความวิเวกทั่วไป ยึดถือป่าเป็นที่บำเพ็ญเพียร นอกจากมีชื่อเสียงในด้านวิปัสสนาแล้ว ท่านยังเก่งรอบรู้ในด้านพระธรรมวินัยอย่างแตกฉานอีกด้วย

    พระภิกษุเกษม เขมโก จึงเดินทางไปขอฝากตัวเป็นศิษย์และได้อธิบายความต้องการที่จะศึกษาในด้านวิปัสสนาให้ครูบาแก่นฟัง ครูบาแก่น สุมโน เห็นความตั้งใจจริงของภิกษุเกษม เขมโก ท่านจึงรับไว้เป็นศิษย์ และได้นำภิกษุเกษม เขมโก ออกท่องธุดงค์ไปแสวงหาความวิเวกและบำเพ็ญเพียรตามป่าลึกตามที่ภิกษุเกษม เขมโก ต้องการ จึงถือได้ว่า ครูบาแก่น สุมโน รูปนี้เป็นอาจารย์ทางวิปัสสนากรรมฐานรูปแรกของ พระภิกษุเจ้าเกษม เขมโก

    ดั้งนั้น พระภิกษุเกษม เขมโก จึงได้เริ่มก้าวไปสัมผัสชีวิตของภิกษุฝ่ายอรัญญวาสี ประกอบกับจิตของท่าน โน้มเอียงมาทางสายนี้อยู่แล้ว จึงไม่ใช่เป็นเรื่องลำบากสำหรับในการไปธุดงค์ กลับเป็นการได้พบความสงบสุขโดยแท้จริง กับความเงียบสงบซ้ำยังได้ดื่มด่ำกับรสพระธรรมอันบังเกิดท่ามกลางความวิเวก พระภิกษุเกษม เขมโก จึงมุ่งมั่นปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง โดยมีครูบาแก่นแนะอุบายธรรมอย่างใกล้ชิด ระหว่างท่องธุดงค์แสวงหาความวิเวกในที่สงัดตามป่าเขาและป่าช้าต่าง ๆ การฉันอาหารในบาตร คือ อาหารหวานคาวรวมกัน เรียกว่า ฉันเอกา ไม่รวมอาสนะกับสงฆ์อื่น ฉันมื้อเดียว ช่วงบ่ายก็จะเดินจงกรม เพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ พร้อมกำหนดจิตจนกระทั่งถึงเย็น เมื่อเสร็จจากการเดินจงกรม ก็กลับมานั่งบำเพ็ญภาวนาต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงประมาณ 5 ทุ่ม เสร็จจากการบำเพ็ญภาวนาก็สวดมนต์ทำวัตรเย็น ในตอนดึกก่อนจำวัดท่านก็ไม่นอนเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ท่านจะหมอบเท่านั้น และท่านจะทำเป็นกิจวัตร คือการกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลแผ่เมตตาไปให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลาย
     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    (cont.)
    จนกระทั่งถึงช่วงเข้าพรรษาที่พระภิกษุจำเป็นต้องยุติการท่องธุดงค์ชั่วคราว ต้องอยู่กับที่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง จะเป็นวัดอาราม หรือถือเอาป่าช้าเป็นวัด โดยกำหนดเขตเอาตามพุทธบัญญัติ ดังนั้นภิกษุเจ้าเกษม เขมโก จึงต้องแยกทางกับอาจารย์คือครูบาแก่น ตั้งแต่นั้นมาภิกษุเจ้าเกษม เขมโก กลับมาจำพรรษาที่วัดบุญยืนตามเดิม พอครบกำหนดออกพรรษาภิกษุเกษม เขมโก ก็ติดตามอาจารย์ของท่าน คือครูบาแก่นออกธุดงค์บำเพ็ญภาวนา ท่านถือปฏิบัติเช่นนี้เรื่อยมา

    ต่อมาเจ้าอธิการคำเหมย เจ้าอาวาสวัดบุญยืนถึงแก่มรณภาพลง ทำให้ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบุญยืนว่าง ทางคณะสงฆ์จึงต้องเลือกภิกษุที่มีคุณสมบัติมาปกครองดูแลวัด เพื่อเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อไป คณะสงฆ์จึงได้ประชุมกัน และต่างลงความเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะเป็นภิกษุเกษม เขมโก เพราะเป็นพระที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งเจ้าอาวาสองค์ เมื่อท่านได้รับเลือกเป็นเจ้าอาวาสวัดบุญยืน ท่าก็ไม่ยินดียินร้ายแต่ท่านก็ห่วงทางวัด เพราะท่านเคยจำวัดนี้ ท่านก็เห็นว่า บัดนี้ทางวัดบุญยืนมีภารกิจต้องดูแล ก็ถือว่าเป็นภารกิจทางศาสนาเพราะท่านเองต้องการให้พระศาสนานี้ดำรงอยู่ จึงไม่อาจจะดูดายภารกิจนี้ได้ จึงยอมรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบุญยืน

    ครูบาเจ้าเกษม เขมโก อยู่ในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบุญยืนเรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ.2492 ท่านก็ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส ทำหนังสือลาออกกับพระเดชพระคุณท่านเจ้าพระอินทรวิชาจารย์ (ท่านเจ้าคุณอิน อดีตเจ้าคณะจังหวัดลำปาง) แต่ก็ถูกท่านเจ้าคุณยับยั้งไว้ ครูบาเจ้าเกษม เขมโก จึงจำใจกลับไปเป็นเจ้าอาวาสวัดบุญยืนอีกระยะหนึ่งนานถึง 6 ปี ท่านคิดว่าควรจะหาภิกษุที่มีคุณสมบัติมาแทนท่าน เพราะท่านอยากจะออกธุดงค์ ดังนั้นท่านจึงตัดสินใจสละตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบุญยืน โดยยื่นใบลากับคณะสงฆ์ในเขตปกครอง ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ จึงเดินทางไปลาออกกับเจ้าคณะจังหวัด ซึ่งอยู่ที่วัดเชียงราย แต่ท่านเจ้าคณะจังหวัดก็ไม่อนุญาต

    เรื่องการลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาสของครูบาเจ้าเกษม เขมโก นี้ดูค่อนข้างจะเป็นเรื่องแปลกพิศดาร แม้แต่การสละตำแหน่งลาภยศท่านยังต้องประสบกับอุปสรรคต่าง ๆ นานา ไม่เหมือนกับพระองค์อื่น ๆ ที่ฟันฝ่าเพื่อแสวงหาลาภยศ เมื่อท่านลาออกไม่สำเร็จประมาณปี พ.ศ.2492 ก่อนเข้าพรรษาในปีนั้น หลวงพ่อก็หนีออกจากวัดบุญยืนก่อนเข้าพรรษา เพียงวันเดียวโดยไม่มีใครรู้ พอเช้าวันรุ่งขึ้นเข้าพรรษา หมู่ศรัทธาก็นำอาหารมาเตรียมถวายในวิหาร ทุกคนรอแล้วรอเล่าก็ไม่เห็นหลวงพ่อเกษม จึงเกิดความวุ่นวายเที่ยวตามหาตามกุฏิก็ไม่พบหลวงพ่อเกษม พอมาที่ศาลาทุกคนเห็นกระดาษวางบนธรรมาสน์เป็นข้อความที่หลวงพ่อเกษมเขียน ลาศรัทธาชาวบ้านยาวถึง 2 หน้ากระดาษ

    ข้อความบางตอนที่จำได้มีอยู่ว่า ทุกอย่างเราสอนดีแล้ว อย่าได้คิดไปตามเรา เพราะเราสละแล้วการเป็นเจ้าอาวาส เปรียบเหมือนหัวหน้าครอบครัว ต้องรับผิดชอบภาระหลายอย่าง ไม่เหมาะสมกับเรา เราต้องการความวิเวกจะไม่ขอกลับมาอีก แต่พวกชาวบ้านก็ไม่ละความพยายาม เพราะชาวบ้านเหล่านี้ศรัทธาในตัวหลวงพ่อพอ รู้ว่าหลวงพ่ออยู่ที่ไหนเมื่อรวมกันได้ 40-50 คน ก็ออกเดินทางไปตามหาหลวงพ่อเกษม และไปพบหลวงพ่อที่ศาลาวังทาน หลวงพ่อเกษมได้ปฏิบัติธรรมที่นั่น พวกชาวบ้านได้อ้อนวอนหลวงพ่อ ขอให้กลับวัด บางคนร้องไห้เพราะศรัทธาในตัวหลวงพ่อมาก แต่หลวงพ่อเกษมท่านก็นิ่งไม่พูดไม่ตอบ จนพวกชาวบ้านต้องยอมแพ้ ตลอดพรรษาปี 2492 หลวงพ่อเกษมท่านก็อยู่ที่ศาลาวังทานโดยไม่ยอมกลับวัดบุญยืน

    พวกชาวบ้านจึงพากันเข้าไปพบโยมแม่ของหลวงพ่อโยมแม่รักหลวงพ่อเกษมมาก เพราะท่านมีลูกชายคนเดียว จึงให้คนพาไปหาหลวงพ่อที่ศาลาวังทาน โดยมี (เจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง) ตอนนั้นยังบวชเป็นสามเณรอยู่ โยมแม่ได้ขอร้องให้หลวงพ่อเกษมกลับวัด แต่หลวงพ่อกลับบอกโยมแม่ว่า

    แม่เฮาบ่เอาแล้วเฮาบ่เหมาะสมกับวัด เฮาชอบความวิเวก เฮาขออยู่อย่างวิเวกต่อไป เฮาจะไปอยู่ที่ป่าเหี้ยว แม่อาง จนทำให้โยมแม่หมดปัญญา ไม่รู้จะขอร้องยังไง ผลที่สุดก็ต้องตามใจหลวงพ่อ วันรุ่งขึ้น หลวงพ่อเกษมก็ออกจากศาลาวังทาน เดินทางไปบ้านแม่อางด้วยเท้าเปล่า เช้ามืดไปถึงป่าเหี้ยวแม่อางก็ค่ำพอดี ฝ่ายโยมมารดาพอกลับมาบ้านก็เกิดคิดถึงพระลูกชาย เพราะเกรงว่าพระลูกชายจะลำบาก จึงออกจากบ้านไปตามหาพระลูกชาย โดยมีคนติดตามไปด้วยชื่อ โกเกตุ โยมแม่สั่งให้โกเกตุ ขนของสัมภาระเพื่อจะไปอยู่บนดอย ของที่เหลือในร้านเพชรพลอยแจกให้ชาวบ้านจนหมดเกลี้ยง ไม่เอาอะไรเลย นอกจากของใช้ที่จำเป็นบางอย่างเท่านั้น

    เกตุ พงษ์พันธุ์ ซึ่งเป็นญาติใกล้ชิดก็พาโยมแม่ไปส่งที่แม่อาง และพวกชาวบ้านเห็นโยมแม่ของหลวงพ่อมา ก็สร้างตูบกระท่อมอยู่ข้างวัดแม่อาง ส่วนหลวงพ่อเข้าบำเพ็ญภาวนาในป่าช้าบนดอยแม่อาง บำเพ็ญภาวนาบารมีวิปัสสนาปฏิบัติธรรมได้หนึ่งพรรษา ทิ้งให้โยมแม่ซึ่งอยู่กระท่อมตีนดอยก็คิดถึงพระลูกชาย โดยแม่ก็ตามไปหาที่ป่าช้าข้างเนินดอย ก็มีชาวบ้านแถวนั้นอาสาสร้างตูบกระท่อมให้โยมแม่พักใกล้ ๆ ที่หลวงพ่อปฏิบัติธรรม โดยโยมแม่บัวจ้อนได้พำนักที่ข้างเนินดอยได้พักหนึ่งก็ล้มป่วยลงด้วยโรคไข้ป่า ชาวบ้านก็ไปตามหมอทหารมาฉีดยารักษาให้ แต่โยมแม่ท่านมีสติที่เข้มแข็ง และยังได้สั่งเสียเณรเวทย์ว่ามีเงินซาวเอ็ดบาท ให้เก็บไว้ถ้าโยมแม่ตายให้เณรไปบอกลุงมา เมื่อสั่งเสร็จโยมแม่ก็หลับตา เณรเวทย์ก็ไปบอกหลวงพ่อเกษม หลวงพ่อก็มา ท่านได้นั่งดูอาการของโยมแม่ท่านนั่งสวดมนต์ เป็นที่น่าแปลกใจขณะที่หลวงพ่อสวดมนต์ มีผึ้งบินมาวนเวียนตอมไปตอมมาสักครู่ใหญ่ ๆ โยมแม่ก็ถอดจิตอย่างสงบ นัยน์ตาหลวงพ่อเกษมมีน้ำตาค่อย ๆ ไหลขณะที่ท่านแผ่บุญกุศลให้กับโยมแม่ ท่านยังเอ่ยว่า “แหม เฮาว่า เฮาจะบ่ไห้(ร้องไห้) แล้วนา…”

    ศพของโยมแม่บัวจ้อน มีเณรเวทย์และชาวบ้านได้มาช่วยจัดการจนเสร็จพิธี ชาวบ้านช่วยเป็นเงินในสมัยนั้นได้ 700 บาท ถือว่ามาก ศพของโยมแม่บัวจ้อนเผาที่ป่าช้าแม่อาง หลังจากที่เสร็จพิธีงานศพโยมแม่จ้อนแล้ว หลวงพ่อก็สั่งเณรเวทย์ ให้กลับไปเรียนธรรมที่วัดบุญยืน

    อยู่มาไม่นาน หลวงพ่อก็จากป่าช้าแม่อาง กลับมาบำเพ็ญภาวนาที่ป่าช้าศาลาวังทานอีกเพียงหนึ่งพรรษา ท่านก็เดินทางไปอยู่ที่ป่าช้านาป้อ และกลับมาอยู่ประตูม้า ซึ่งก็คือสุสานไตรลักษณ์ในปัจจุบัน

    หลวงพ่อเกษม เขมโก ท่านได้ปฏิบัติธรรมจนเป็นพระที่ขาวสะอาด และเป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วประเทศ ศีลบริสุทธิ์ตามพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเป็นพระไม่ติดยึดใคร ต้องการอะไร ขออะไร ไม่เคยปฏิเสธ จนสังขารของท่านดูแล้วไม่แข็งแรง แต่จิตของหลวงพ่อแข็งแรง และท้ายที่สุดหลวงพ่อเกษม เขมโก ได้ละสังขาร ณ ห้องไอซียูโรงพยาบาลศูนย์ภาคเหนือ จังหวัดลำปาง เมื่อเวลา 19.40 น. ของวันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2539 ซึ่งตรงกับวันแรม 11 ค่ำ เดือน 2 ยังความอาลัยเศร้าโศกเสียใจมายังหมู่ศานุศิษย์ทั่วประเทศ
    :- http://www.dhammathai.org/monk/sangha44.php
     
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    ๑๔๗.อาถรรพ์พุทธรูปหิน ผจญภัยบนดอยสูง

    thamnu onprasert
    Jul 20, 2023

    ในถ้ำบนดอยหลังหมู่บ้านหมอกจำแป่เมืองแม่ฮ่องสอน มีพระพุทธรูปหินอาถรรพ์ที่ผีหวงแหน!
     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    บุญพระกรรมฐาน "ลึกลับวิญญาณหลอน"

    thamnu onprasert
    Jul 24, 2023
    วิญญาณหลอนในห้องอาถรรพ์ รอดพ้นจากความทุกข์ได้ เพราะบุญพระกรรมฐานที่คนอุทิศให้.
     
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    ๑๒. ลึกลับดงผีปู่ตา ธุดงค์ป่ากับหลวงปู่

    thamnu onprasert
    Jul 27, 2023

    เรื่องราวลึกลับของภุมมเทวดาในดงผีปู่ตา ที่มีความเป็นอยู่คล้ายคลึงกับมนุษย์ซึ่งคณะธุดงค์จากสำนักสงฆ์บุคำได้ไปพบเห็น
     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    หลวงปู่เปลี่ยน ส่งกระแสจิตตรวจดูชีวิตโลกหลังความตายของคนที่ทำบุญ

    ปู่ดอน station
    Jul 13, 2023

    หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป พระอริยสงฆ์แห่งวัดป่าอรัญญวิเวก ท่านได้ส่งกระแสจิตไปเที่ยวชมดินแดนสวรรค์ ทำให้ท่านได้รู้ถึงเรื่องการทำบุญที่ให้ผลต่างกันของเทพบุตรและเทพธิดาต่างๆ ท่านจึงเมตตานำมาเล่าบอกต่อ..
     
  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    ๑๒๔.บ้านผีสิง ลี้ลับป่าสาละวิน

    thamnu onprasert
    Jul 29, 2023

    เรื่องราวลึกลับบ้านเรือนไม้สักหลังใหญ่ของนายฮ้อยส่างอุ่นเปิง ณ เมืองแม่สะเรียง ที่ผู้คนเล่าลือกันว่า เป็นบ้านผีสิง!
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    สามเณร ออกธุดงค์

    หลวงตา
    Jul 30, 2023
    สามเณร ออกธุดงค์
    อัตโนประวัติของ หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู

     

แชร์หน้านี้

Loading...